เมื่อแม่ของฉัน แต่งงานกับพ่อของซุปตาร์
เรื่องรักเล็ก ๆ ระหว่างพี่น้อง
Tags: ไดอารี่

ตอน: ไปเยี่ยมคุณเบฯ กับมนุษย์ต่างดาว

"กลับมาแล้วนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังคงรักกัน"



บทที่ ๔. "ไปเยี่ยมคุณเบฯ กับมนุษย์ต่างดาว"



"คุณลี" ฉันกระซิบกระซาบเหลียวซ้ายแลขวา

"ว่าไงครับ" คุณลีวางหนังสือที่กำลังอ่านอยู่

"พอจะมีเวลาว่างมั๊ยคะ" กระเถิบเข้ามาใกล้อีกหน่อยนึง

"ครับ มีอะไรครับคุณหนู candle"

"โห...คุณลี หนูบอกแล้วไงคะว่าอย่าเรียกคุณหนู" ฉันทำหน้ายู่

"แล้วให้ผมเรียกว่าไงล่ะครับ"

"ก็..." ฉันคิด

นั่นสิจะให้คุณลีเรียกยังไงดี แม่เรียกฉันว่า "ที่รัก" คุณคิมเรียกว่า "ลูกสาว" แล้วจะให้คุณลีเรียกยังไงล่ะทีนี้

"ว่าไงครับ ให้ผมเรียกว่าไง" คุณลีถามย้ำ คงเห็นว่าฉันคิดนานไปหน่อย (หัวฉันไม่ค่อยดีนะสิ เลยคิดช้า)

"ก็เรียกว่าหนู candle เฉย ๆ สิคะ ไม่ต้องมีคำว่าคุณ นะคะ ต่อไปคุณลีห้ามเรียกว่าคุณหนูอีก"

"ครับก็ได้" คุณลียิ้ม

ยิ้มทั้งหน้าเลยล่ะ (คนเกาหลีนนี่น้าาา เวลายิ้มทีมองไม่เห็นตาเลย จำได้ว่าเมื่อตอน rain มาเมืองไทยใหม่ ๆ ฉันว่าเขาดูตลกชะมัดเวลาถอดแว่นตาออก ตาเรียว ๆ ยาว ๆ ดูพิกล แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นหล่อขึ้นมาได้ไงก็ม่ายรุ แล้วฉันก็ดู "Full house" ซะหลายรอบเลย บอกแล้วบ้าซีรีย์)

"ว่าแต่เมื่อกี้มีอะไรเหรอครับ"

ใช่สิ เกือบลืมจุดประสงค์

"คือว่าช่วยเขียนคำว่า ห้ามรบกวน เป็นภาษาเกาหลีให้หน่อยสิคะ" ฉันยื่นกระดาษแข็งแผ่นหนึ่งพร้อมปากกาเมจิกให้คุณลี

"ห้ามรบกวน"

"ค่ะ" ฉันยืนยัน

"มีอะไรเหรอครับ"

คุณลีดูไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงอยากให้เขียนคำว่าห้ามรบกวน ฉันจึงต้องอธิบายเพิ่มเติม
"ก็ ng ชอบมาปลุกหนูตอนเช้า ๆ"

คุณลีหัวเราะ
"แล้วทำไมไม่ให้วูจินเขียนให้ล่ะครับ"

ฉันทำหน้าเหยเก
"เขาไม่น่าไว้ใจ"

คุณลียิ้ม รับกระดาษไปเขียนให้

"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มแฉ่ง (อยากหอมคุณลีซักฟอด)

คราวนี้คงไม่มีใครรบกวนเวลานอนของฉันอีกแล้ว ถ้าพูดกันตามมารยาจ

"ยอดาแซง"

ฉันรีบซ่อนกระดาษไว้ด้านหลังทันที พร้อม ๆ กับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ยิ้มใสซื่อ

"ซ่อนอะไรไว้"

ฉันส่ายหน้าดิก จนผมยาวที่มัดไว้สองข้างแกว่งไปมา
ng หัวเราะ

"เซล่ามูน เหมือนเซล่ามูน" ไม่พูดเปล่าเขาจับผมฉันยกขึ้นให้เหมือนในการ์ตูน

"ผมมีน้องสาวเป็นเซล่ามูน"

อะไรกันนี่ ด้วยวัยขนาดนี้รู้จักการ์ตูนญี่ปุ่นด้วยเหรอ แถมเป็นการ์ตูนผู้หญิงซะด้วย (น่าสงสัยเหมือนกันนะนี่)

"ปล่อยนะ" ฉันหงุดหงิดที่เขาเอาแต่หัวเราะ ตั้งแต่เกิดเรื่องขายหน้าในวันไปจ๊อกกิ้ง เขาก็ชอบแหย่ฉันอยู่เรื่อย

"ชิส์" ฉันเชิดหน้าใส่ ng กะว่าจะค่อย ๆ กระเถิบออกจากวงสนทนาไปทีละน้อย

"ป๊าบ..." นั่นไง ng ตีก้นฉันอีกแล้ว

"แม่มมมมมมมมมม" ฉันเรียกแม่ รีบวิ่งออกจากที่เกิดเหตุ


"ที่รักเป็นอะไรไป" แม่ถามเมื่อเห็นฉันนั่งหน้าตูมเป็นตูดไก่ (อี๋..แค่นึกภาพก็น่าเกลียดพิลึก)

"ก็เขา"

แม่มองหน้าฉันเลิกคิ้วทำนองว่าไม่เข้าใจว่าฉันพูดถึงใคร

"หนูหมายถึง ng ชอบแกล้งหนู"

"แกล้งยังไง"

"เรียกหนูว่าเซล่ามูน" แม่อมยิ้มหรือกลั้นหัวเราะก็ไม่รู้ (แม่เองก็ไม่น่าไว้วางใจเหมือนกันแหละ)

"แล้ว" แม่เลิกคิ้ว

"ชอบมากอด หอมแก้ม แล้วก็ตีก้นหนูด้วย" (อันหลังนี่สด ๆ ร้อน ๆ เลย ก้นฉันยังอุ่น ๆ อยู่เนี่ย)

แม่หัวเราะเลยคราวนี้

"เป็นอย่างนี้แหละ เขาไม่เคยมีน้อง หนูรู้มั๊ยเขาตื่นเต้นจะตายตอนที่หนูจะมาเกาหลี อาสาเป็นคนไปรับที่สนามบิน ทั้งที่วันนั้นเขามีนัดสัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่ง วูจินเลยต้องเป็นคนไปเครีย์ให้ แล้วก่อนหน้านี้ก็พยามหัดพูดภาษาไทยกับวูจิน ทั้งที่เวลาไม่ค่อยมี"

ฉันยังคงหน้าง้ำ (กลัวเสียเหลี่ยม ถ้ารีบใจอ่อน ทั้งที่กำลังปลื้มตัวเองอยู่ ไม่ยักรู้ว่าฉันมีแรงดึงดูดขนาดนี้ วู้...)

"แล้วแม่จะคุยกับเขาให้"

ฉันยิ้มพยักหน้าหงึกหงัก อันที่จริงก็ไม่ได้ซีเรียสหรอก เพียงแต่ว่าฉันเองเป็นลูกคนเดียวมาตลอด ไม่เคยมีพี่ชายที่คอยมากระเซ้าเย้าแหย่ มันก็เลยรู้สึกแปลก ๆ พิกล โดยเฉพาะพี่ชายที่เท่ห์ขนาดนี้ (ทำให้หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะน่ะสิ...เฮ้อ)



"เตรียมตัวแพ๊คกระเป๋า" แม่บอก

เอาอีกแล้วแม่ของฉัน แต่ว่า...

"แพ๊คกระเป๋า เราจะกลับบ้านเหรอคะ" ฉันตื่นเต้น

"บ้าน นี่ไงบ้าน"

"หนูหมายถึงเมืองไทย"

"โอ...ที่รัก เราจะไปเกาะเชจูกัน"

"เกาะเชจู"

"ฮื่อ...เกาะเชจู" แม่ย้ำ

"หนูว่าหนูขอบายดีกว่าค่ะ" ฉันปฎิเสธ ทั้งที่อยากไปใจแทบขาด

"ทำไมล่ะ ที่นั่นออกจะสวย หนูไม่อยากไปเหรอ"

"ไอ้อยากก็อยากอยู่หรอกค่ะ แต่หนูขอเวลาตั้งสติหน่อย เรื่องที่เกิดขึ้นมันเหมือนฝันหรือเรื่องโกหกยังไงก็ไม่รู้ มันกระทันหันเกิดขึ้นเร็วมากจนหนูสับสน"

"ตายจริง แม่ขอโทษนะที่รัก เพราะแม่อยากให้หนูเซอร์ไพรส์"

"ค่ะ" ฉันกรอกตา มองแม่แบบขวาง ๆ

"งั้นแม่จะบอกคุณคิมให้เลื่อนออกไปก่อนแล้วกัน"

"ทำอย่างนั้นได้ไงคะแม่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่ไปกับคุณคิมเถอะ ฮันนีมูนนะคะ หนูอยู่ได้สบายมาก"

"เอางั้นเหรอ"

"ค่ะ หนูอยากนอนสบาย ๆ สักหน่อย ng กับ วูจินก็ไปด้วยใช่มั๊ยคะ"

"เปล่า ไม่มีใครยอมไปด้วย"

"อ้าว..." ฉันคิดว่าสองหนุ่มนั่นจะไปด้วยซะอีก

"งั้นหนูก็ยิ่งไม่ควรไป แม่กับคุณคิมจะได้สวีทกันสะดวกหน่อย ไม่ต้องคอยเป็นห่วงหนู"

"ยอดาแซง แต่งตัวสวย ๆ ไปเที่ยว" ng นั่งลงข้าง ๆ ฉัน หันไปยิ้มกับแม่

แม่พูดอะไรกับ ng ไม่รู้แล้วก็ลุกไป อะไรกันคุณนายคิมไหนบอกว่าจะพูดกับ ng เรื่องนั้นไงเล่า (ฉันล่ะหน่ายแม่จริง ๆ ชักจะเอาใจออกห่าง)

ฉันมอง ng จะไว้ใจได้รึเปล่าเนี่ย

"จริงเหรอพี่วูจิน" ฉันขอคำยืนยันจากลีวูจิน

"จริงสิ อยากไปไหนล่ะ"

"ไม่รู้"

"นามิ ซอมคาโย" ng พูด

ฉันทำหน้าเหรอหรา ฟังที่ ng พูดไม่รู้เรื่อง (ถึงจะอยู่เกาหลีมาหลายวันก็เหอะ ฉันถือว่าตัวเองเป็นแขก เจ้าของบ้านนั่นแหละที่ต้องพูดภาษาไทยกับฉัน)

"ก็ดีนะ ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ ว่าไงล่ะ"
"อะไร ว่าไงล่ะ" ฉันย้อนถาม ก็ฉันยังไม่รู้เลยนี่ว่าสองคนจะพาฉันไปไหน
"เกาะนามิ"

เกาะนามิ เดี๋ยวนะ...เหมือนจะคุ้น ๆ อยู่ ฉันเคยเห็นในใบนำเที่ยวของบริษัททัวร์ที่แม่ทำงานอยู่

แต่เดี๋ยวก่อน...มันมีอะไรอีกน้า...ใช่แล้ว "Winter Love Song" ฉันเคยได้ยิน เรื่องนี้ดังมาก แต่ฉันขอบอกว่าไม่เคยดูหรอก (นางเอกไม่ตรงรสนิยม เลยไม่ยอมดู อคติส่วนตัวนิดหน่อย แต่พระเอกโอเคเลยฉันชอบที่เขาเล่น "จอมกษัตริย์เทพสวรรค์" ขอบอกว่าแม่คลั่งไคล้เขามาก)


********************


"ต้องแต่งตัวขนาดนี้เลยเหรอ" ฉันมอง ng ที่แต่งตัวซะมิดชิด ชนิดที่ว่าแทบจะมองไม่เห็นหน้าตากันเลย แบบเดียวกับตอนที่เขาไปรับฉันที่สนามบินเปี้ยบ

"ไม่ชอบวิ่งออกกำลังกายไม่ใช่เหรอ" ลีวูจินถาม

"เกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบ" ฉันยังไม่เก็ท

"ถ้าไม่อยากต้องวิ่งรอบเกาะ เขาก็ต้องแต่งแบบนี้แหละ"

ฉันยิ้ม แกล้งกระโดดโลดเต้นรอบ ๆ ตัว ng พลางร้องว่า

"ฉันไปเที่ยวกับมนุษย์ต่างดาว มนุษย์ต่างดาวพาฉันไปเที่ยว วู้ วู้ วู้"
ร้องเป็นเพลงซะเลย

ng ส่ายหน้าท่าทางเหนื่อยหน่าย คว้าข้อมือฉันฉุดออกไป รถจอดรออยู่แล้ว (อีกตามเคย) พลขับโค้งให้เราพร้อม ๆ กับเปิดประตูให้ ฉันเชิดหน้าขึ้นหน่อยนึง

ng เข้าไปก่อนฉุดฉันตามเข้าไป วูจินเอามือกดหัวฉันตามเข้ามา

ฉันยังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ไม่หยุด เมื่อถูกขนาบข้างด้วยหนุ่มหล่อสองคน แบบว่าเหมือน "เจ้าหญิงน้อย" ยังไงก็ไม่รู้ล่ะ

หนึ่งในสองหนุ่มเอามือมาขยี้ผมฉัน ฉันมองซ้ายมองขวาจับพิรุจ ng มองหน้าฉันประมาณว่ามีอะไรเหรอ ส่วนวูจินก็แค่เลิกคิ้วฉงนแบบว่าไม่รู้เรื่องด้วย

หนอย...ร่วมมือกันดีนักนะ ฝากไว้ก่อนเถอะ พวกองค์รักษ์ (ฮิ ฮิ ฉันเป็นเจ้าหญิง สถาปนาตัวเองเรียบร้อยเลย)

ขณะรอเรือข้ามฟากที่มีรูปร่างคล้าย ๆ หมวก ฉันได้ยินเสียงเจี้ยวจ้าวของบรรดาสาว ๆ ที่เข้าแถวกันอยู่ (พวกลูกทัวร์) ขณะเราเดินผ่านไป

"อุ๊ย...หล่ออ่ะ"

"อยากได้แบบนี้บ้างจัง"

"น่ารักอ่ะ"

น่าขายหน้าจริง ๆ เล้ย แม่สาว ๆ พวกนี้ ฉันล่ะเบื่อ เสียสถาบันหญิงไทยหมด แล้วนี่แห่กันมาเที่ยวเกาหลีมากขนาดนี้เลยเหรอ (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมัวทำอะไรอยู่)

"ฉันอยู่ที่ไหนนี่" ฉันเหลียวซ้ายแลขวา ทำไมถึงได้มีแต่ป้ายคำว่า "ยินดีต้อนรับ" มากขนาดนี้ล่ะ (แบบนี้แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจากเมืองไทยคงมากมายก่ายกองที่มาเกาะนามิ)

"เอ้ย..." ฉันตะลึงพรึงเพลิดกับเศษใบไม้ร่วงหล่น ที่บรรจงกวาดเป็นรูปหัวใจซ้อน ๆ กันไว้

อะไรจะขนาดน้าน...เชื่อเขาเลย แม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่เว้น ฉันจะบ้าตาย ไม่น่าแปลกหรอกที่เรียกนักท่องเที่ยวได้โขอยู่ อะไรนะที่การท่องเที่ยวเกาหลีเขาบอกว่า "ที่เกาหลีคุณคือดารา" แล้วก็ทำแอดการท่องเที่ยวเป็นซีรีส์ เขาช่างคิดได้ (มันเซ็งยังไงไม่รู้เวลาคิดถึงบ้านเมืองของเรา ช่างน่ากลุ้มใจ คุณว่ามั๊ย)

"ถ่ายรูป" ng ชวน พาฉันก้าวเขย่งไปตรงกลางรูปหัวใจ แล้วไอ้หัวใจที่อยู่ตรงกลางนั่นมันก็เล็กซะ จนฉันต้องยืนเขย่งเพราะกลัวว่าจะไปทำของเขาพัง

ng คว้าหมับเข้าที่เอวของฉัน แล้วบอกให้ฉันพูดว่า "กิมจิ" ส่งสัญญาณให้ลีวูจินกดชัตเตอร์

"กิมจิ" ฉันแกล้งพูดเสียงดัง ๆ เรียกความสนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งเกาหลี ไทย ญี่ปุ่น จีน พวกเด็กนักเรียนสาว ๆ ชาวเกาหลีเริ่มซุบซิบกันแล้วก็มองมาทาง ng

โถ่...เป็นซุปเปอร์สตาร์ก็ไม่ได้ดีไปเสียทั้งหมดหรอกนะ จะไปไหนเป็นการส่วนตัวแต่ละทีช่างยากเย็น โอปาของฉันช่างน่าเห็นใจ

เรารีบเดินออกจากบริเวณนั้น สองข้างทางมีรูปภาพขนาดใหญ่เป็นฤดูกาลต่าง ๆ วางโชว์ไว้ สวยไปคนละแบบ อีกอย่างหนึ่งนะที่ขาดไม่ได้ของเกาะแห่งนี้คือ ภาพประกอบซีรีย์ "Winter Love Song" ที่ใครต่อใครก็พากันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

ลีวูจินบุ้ยใบ้ทำนองว่าให้ฉันถ่ายคู่กับรูปนั้น แต่ฉันปฏิเสธ ไม่เอาหรอกฉันไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่

อา...นั่นไง ในที่สุดเราก็เจอคุณเบ รูปปั้นนั่นดูไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่เลย (ฉันว่าของฉันคนเดียว) แต่ไหน ๆ ก็มาถึงนี่แล้วนี่นะแชะรูปซะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

"สวัสดีค่ะคุณเบ ฉัน candlemoon มาจากเมืองไทย พี่ชายสองคนของฉันพามาเยี่ยมคุณ ยืนอยู่อย่างนี้เมื่อยแย่นั่งพักบ้างก็ได้นะคะ"

ng เคาะหัวฉันทีนึง (ฉันฉี่รดที่นอนไม่รู้ด้วยนะเออ) เลยต้องบอกลาคุณเบ

นั่นไง...สวยมาก ถึงฉันจะไม่เคยดูในซีรีย์ แต่พอมาเห็นกับตาฉากทิวต้นไม้ใหญ่เป็นทางยาวไปตลอดแนว ช่างน่าประทับใจ ฉันกระโดดโลดเต้นวิ่งไปมา

"ขอโทษครับ" ลีวูจินเริ่มโปรยเสน่ห์กับสาว ๆ นักท่องเที่ยวชาวไทย

"โอ๊ะ...พูดไทยได้ด้วย"

ดูท่าจะสร้างความประหลาดใจบวกประทับใจอยู่ไม่น้อย ที่หนุ่มเกาหลีผู้หล่อเหลา "พูดไทยได้ด้วยอ่ะ"

"ผมเป็นลูกครึ่งไทย เกาหลี แม่ผมเป็นคนไทย" ลีวูจินพูดต่อตามด้วยรอยยิ้มบาดใจ แค่นี้ก็กระชากใจสาว ๆ ได้มากมายแล้ว

"ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยสิครับ"

หนึ่งในนั้นรีบรับกล้องถ่ายรูปไป แต่พอสาว ๆ พวกนั้นเห็นฉันเท่านั้นแหละ รอยยิ้มหวานจ๋อยที่ส่งให้วูจินหุบลงทันที แล้วก็เปิดขึ้นอีกเมื่อเห็น ng

"อึ๋ย...หล่ออ่ะ เหมือน เหมือนมาก ๆ เลย"

นี่ขนาดมองไม่เห็นหน้าตานะเนี่ย ยังกะมีเรด้าจับยังไงยังงั้น จริง ๆ เล้ย จะบ้าเกาหลีกันไปถึงไหน

สุดท้ายเมื่อถ่ายรูปให้เราเสร็จก็เจอประโยคเด็ด

"ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ"

แล้วกล้องจากแม่สาวชาวไทยก็ถูกส่งมาให้ฉัน เอาล่ะ...ได้อยู่ ฉันคิดถึงกวนมึนโฮขึ้นมาทันใด นั่นล่ะ...ภาพครึ่งท่อน (ท่อนล่าง) ได้ภาพหมู่ teen ของ ng กับวูจินไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า...

เราเดินกันต่อไปอีกหน่อยหลังจากแยกจากสาว ๆ พวกนั้น ฉันก็หันหลังวิ่งกลับไป แล้วก็พูดอะไรบางอย่าง...

ดีที่ว่าสองหนุ่มหันกลับมาเรียกฉัน ไม่เช่นนั้นแล้วฉันคงถูกฆ่าตายอยู่บนเกาะนั่นล่ะ ท่าทางที่กำลังจะกินหัวฉันแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานทันที เท่านั้นแหละฉันก็รีบวิ่งจี่กลับทันที แล้วก็

"แบร๋ ๆ ๆ ๆ" แลบลิ้นใส่ซะเลย (ตอนนี้ปลอดภัยอยู่ระหว่างสองหนุ่ม)

"พูดอะไรกับพวกนั้น" วูจินถาม

ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์ หัวเราะน้อย ๆ

"พูดว่า อย่ามายุ่งกับพี่ชั้นนะ" ทำท่าประกอบให้ดูด้วยท่าทางขึงขัง

เท่านั้นแหละสองหนุ่มก็หัวเราะเสียงดังลั่น ฉันมอง ng ที่หัวเราะน่ะเข้าใจรึเปล่า

ng หยุดหัวเราะแล้วก็กอดฉันอีกแล้ว

"ยอดาแซงน่ารัก" (เฮ้อ...ฉันล่ะหวั่นไหวจริง ๆ)

ก่อนกลับตรงที่มีป้ายไม้แผ่นเล็ก ๆ แขวนไว้ เอาซะหน่อยแล้วกัน ฉันล้วงเมจิกออกมาจากกระเป๋าเขียนไปว่า

"ฉันมาเที่ยวกับ kng & ลีวูจิน by candle"



เทียนจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ค. 2555, 20:13:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ค. 2555, 20:38:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1640





<< น้องสาวชาวเกาหลี   "เรื่องเรทอาร์ของโอปา ที่ฉันอยากรู้" >>
ปลายสี 4 ก.ค. 2555, 21:41:42 น.
น่าอิจฉามีพี่ชายเกาหลี ^^


เทียนจันทร์ 5 ก.ค. 2555, 11:44:09 น.
ขอบคุณค่ะคุณปลายสีที่ยังคงติดตามกันอยู่เสมอ จุ๊บ ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account