เรือนกุหลาบ
กุหลาบแสนสวยดอกนั้น ช่างแสนดี เป็นที่รักเทิดทูนบูชาของหล่อนสุดหัวใจตั้งแต่เล็กจนโต..หญิงสาวไม่รู้เลย ว่าเบื้องหลังกุหลาบสีสวยนั้นซ่อนคมหนามไว้มิดชิด..เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหล่อนทุกวิถีทาง!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่๒๒ บทเรียนราคาแพง ๑/๒
แพรวาเดินตามเขามาอย่างว่าง่าย จนถึงมุมเหมาะเจาะในการเปิดใจ คุยเรื่องสำคัญ บริเวณนั้นเรียกได้ว่าเป็นซอกหลืบอย่างหรูของโรงแรม มีโคมไฟรูปมักลีผลห้อยย้อยลงมาจากเสาสูงใหญ่สาดแสงเหลืองนวล กระทบเสี้ยวหน้าชายหนุ่ม มองผาดเผินเหมือนรูปปั้นชั้นดี
บรรยากาศยามนี้ช่างโรแมนติก เป็นตรงกันข้ามกับสถานการณ์วิกฤตที่คนสองคนกำลังจะต้องเผชิญ กวินหันมามองเพื่อนสาวแวบหนึ่ง เหมือนจะเปิดโอกาสให้หล่อนแก้ตัว หรือพูดอะไรออกมาบ้าง..แต่เปล่าเลย แพรวายืนนิ่งสงบในหน้า แววตาเฉยเมย ชายหนุ่มพ่นลมหายใจยาวอย่างนึกขัดตา แล้วเขาก็หันไปเพ่งมองทัศนียภาพนอกหน้าต่าง เบื้องล่างมีไฟระยิบ รถรามากมายกลายเป็นจุดเล็กๆเต็มท้องถนน
“ผมเคยนับถือในมิตรภาพระหว่างเรา..คุณยังจำความรู้สึกดีๆที่มีให้กันได้ไหม?”
“จำได้ค่ะ..” หางเสียงของหล่อนสั่นไหวเล็กน้อย นัยน์ตาวาววามคู่สวยทอดมองเขาอย่างมีความหมาย “ทุกวันนี้มันยังคงอยู่...แล้วก็มากขึ้นเรื่อยๆ”
“คุณเข้าใจผิดแล้วแพร!” เขาเผลอกระแทกเสียงอย่างเหลืออดในอารมณ์ ชายหนุ่มเหลียวมองหญิงที่เขาเคยนับเป็น “คนพิเศษ” ด้วยหางตา..ความเสียดแทงแล่นริ้วขึ้นมาตามรอยที่เริ่มแตกเป็นทางของแก้วร้าว
“มันคงอยู่สำหรับคุณคนเดียว..ไม่ใช่ผมในเวลานี้”
กวินพยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติ ทว่าคนฟังกลับเยียบเย็นไปทุกขุมขน แพรวากำมือข้างหนึ่งที่ไขว้แอบไว้ด้านหลังแน่น หล่อนเผลอจิกเล็บฝังลงในฝ่ามือนุ่มจนเริ่มมีเลือดซึมออกมา
“ผมหลอกตัวเองมาตลอด..ว่าคุณช่างดีเหลือเกิน รักผมด้วยความจริงใจ เสมอต้นเสมอปลาย”
แพรวากลอกตามองเขา บอกเสียงแผ่วเบา
“แพรรักคุณ..มันคือความจริงตลอดกาล วินไม่ได้หลอกตัวเอง”
“หยุดพร่ำได้ไหมแพร..ฟังผมพูดให้จบ!” กวินตวาดเสียงใส่หน้าหล่อนอีกครั้ง เขาไม่เคยนึกว่าตัวเองจะเป็นควบคุมอารมณ์ยากเช่นนี้..โดยเฉพาะกับคนที่เขาเคยคิดว่ารู้ใจกันและกันมากที่สุด
“หลายครั้งที่ผมนึกเอะใจ หลายครั้งที่รู้สึกเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่หลังแววตาอ่อนโยน ของคุณ”
กวินผ่อนลมหายใจยาวเหยียด รัตติกาลเบื้องหน้า มีจุดดาวพราวพร่างประดับสวย เสี้ยวจันทร์เรืองแสงเหลืองอ่อนงดงามอร่ามทั่ว ทว่าหัวใจเขากลับหม่นมัว ไม่มีอณูแห่งความสุขแทรกซึมอยู่เลยแม้สักน้อย
“ผมน่าจะสงสัยให้มากกว่านี้..ว่าทำไมคุณถึงปิดบังเรื่องไข่มุก ทั้งๆรู้อยู่แก่ใจมาตลอดห้าปี”
แพรวาสั่นศีรษะจนไหมละเอียดปลิวกระจาย กวินยกมือห้าม พลางเอ่ยเสียงเครียด
“ผมบอกให้หยุดไง..คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะฟังจบ”
ดีไซเนอร์สาวกระพริบตาถี่ๆ เห็นเงาแพขนตางอนยาวทาบทับสันแก้ม ทว่าครั้งนี้กวินบอกตัวเองหนักแน่น..เขาจะไม่มีวันใจอ่อนกับหล่อนเหมือนที่แล้วมา
“ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกแพร..ที่เคยเฝ้าพรรณนาถึงไข่มุกให้คุณฟัง ทั้งหน้าตา บุคลิก คำพูด แล้วก็อะไรอีกมากมาย คุณจะไม่รู้เลยหรือไง ว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนเดียวกันกับน้องสาวตัวเอง..มันเป็นไปไม่ได้”
เขาระบายออกมาแบบต่อเนื่อง ไม่เว้นช่องว่างให้หล่อนได้มีโอกาสขัด
“แต่ผมก็ยังหลอกตัวเอง..นึกว่าคุณคงมีเหตุผลจำเป็นบางอย่าง ถึงแม้จะนึกไม่ออกว่าเรื่องอะไร แต่ก็ยังโง่ทำลืมๆไป ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ”
ชายหนุ่มยั้งใจตัวเองไม่อยู่ ถึงขนาดหันมายกมือบีบไหล่หล่อนโดยแรง ราวกับต้องการระบายความอัดอั้น ให้หญิงสาวรู้สึกรู้สาเสียบ้าง ทว่าแพรวายังคงนิ่งงัน แววตาเลื่อนลอยมองเลยหลังเขาออกไป
“ทั้งที่มันสำคัญอย่างยิ่ง..คุณเกือบทำความรักผมพังไม่มีชิ้นดี รู้ตัวบ้างไหมแพร..หัวใจคุณทำด้วยอะไร”
หญิงสาวไม่ตอบโต้ใดๆ แม้กระทั่งสีหน้าท่าทาง ราวกับคนไร้ความรู้สึก
“คุณหลอกลวงทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวเอง อย่านึกว่าผมไม่รู้..คุณไม่ใช่คนอ่อนหวานอย่างไข่มุก คุณไม่เคยชอบเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ เวลาไปไหนมาไหนกับผม”
เงาในตาดีไซเนอร์สาวโชติช่วงขึ้นมาแวบหนึ่ง แทนคำถามว่า..คุณรู้ได้อย่างไร? แต่เพียงอึดใจเดียวก็มีแววเฉยเมยซ้อนทับเข้ามาแทนที่
“ไม่สำคัญว่าผมรู้ได้ยังไง เอาเป็นว่าผมรู้..คุณไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อน อย่างที่ผมคิดและนับถือมาตลอด”
แม้ใบหน้าหล่อนเวลานี้ เสมือนสวมหน้ากากเอาไว้ แต่หัวไหล่ที่กระตุกขึ้นเล็กน้อยทำให้กวินรับรู้ว่าหล่อนเริ่ม..รู้สึกอะไรขึ้นมาบ้าง เขาปล่อยมือจากลาดบ่าของแพรวา ก่อนเอ่ยต่อแบบหมดเปลือก
“แต่เมื่อรู้..ก็ยังโง่ แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างเรา..บอกตรงๆว่าผมเสียดาย”
“แพร..เชื่อผมเถอะ เมื่อใดก็ตามที่คุณยอมเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพื่อใครอีกคน จนไม่เหลือเค้าความเป็นตัวเอง และยอมทุ่มเททำในสิ่งที่รู้ทั้งรู้ว่าขัดขวางความสุข ความสมหวังของคนๆนั้น..คุณไม่ได้รักเขาจริงหรอก”
“ผมผิดเอง..ที่ไม่ฟังเสียงหัวใจ ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ..แต่ก็ไม่นึกว่าคุณจะกล้ารังแกไข่มุกได้ถึงขนาดนี้”
กวินลงท้ายความในใจด้วยเสียงเรียบนิ่ง ทว่าหนักแน่นอย่างคนตัดสินใจเด็ดขาด
“คุณไม่ใช่เพื่อนของผมอีกแล้ว..”
ฝ่ายที่นิ่งฟังด้วยแววตาไร้ความรู้สึกมานาน เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง แพรวาบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ออกมาจากใจจริงเป็นครั้งแรก หล่อนกระพริบตาครั้งหนึ่ง มีหยาดน้ำใสวาววามรินลงมาเพียงหยดเดียวเท่านั้น
“แพรยอมรับผิดทุกอย่าง..แต่อยากให้รู้”
เสียงกังวานใสเริ่มอ่อนลง เหมือนรำพึงกับตัวเอง
“ถ้าตัดเรื่องวินออกไป..แพรไม่เคยอยากทำร้ายไข่มุกเลย..”
หลังกำแพงไม่ไกลจากตรงนั้น มีเงาร่างหญิงสาวสองคนยืนอิงแอบอยู่เงียบเชียบ ทุกคำพูดของคนในมุมมืดกระทบโสตประสาทผู้ฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ ไพลินยกมือทาบอกอย่างนึกไม่ถึง
“ฉันนึกว่าพี่แพรเป็นแฟนคุณวินเสียตั้งนาน..ทำไมเรื่องมันกลับตาลปัตรขนาดนี้”
เพทายนิ่งฟังอย่างไม่เห็นแปลก หล่อนยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงใจกับภาพและเสียงที่เพิ่งประจักษ์ชัดเมื่อครู่
“แต่แปลกนะ..ถูกคุณวินต่อว่าไม่เหลือดีขนาดนั้นยังทำนิ่ง ถ้าเป็นพี่คงวิ่งหนีไปร้องไห้เสียนานแล้ว”
ไพลินยังทำหน้าบอกความประหลาดใจอีกหลายประเด็น ผิดกับเพทายที่ไม่สงสัยอะไรเลย หล่อนบอกพี่สาวยิ้มๆ
“แค่นั้นก็มากเหลือทน..ลืมแล้วหรือ แม่มดไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร แม้เพียงหยดเดียวก็แสดงว่าเจ็บปวด ระทมทรวงจนถึงกับกลั้นไม่อยู่”
“มาทำอะไรกันตรงนี้คะพี่ๆ”
เสียงเล็กใสของน้องสาวสุดท้องทำให้ทั้งไพลิน และเพทายสะดุ้งเกือบพร้อมกัน ก่อนจะหันมาทำสัญญาณมือให้เบาเสียง มุกดาชะโงกหน้าไปมองคนในมุมมืดที่พี่สาวกำลังแอบดูอยู่ เห็นกวินยืนประสานสายตานิ่งกับพี่สาวแสนสวย มีแสงจันทร์สาดกระทบเสี้ยวหน้าคนทั้งคู่ ให้บรรยากาศรักโรแมนติกเหลือแสน หล่อนก็รู้สึกแปลบปลาบในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวถอยห่างออกมา ทำท่าจะหมุนตัวกลับ
“น่าอิจฉาคนมีความรักนะคะ..เราอย่าอยู่เป็นก้างขวางคอเขาเลย”
เพทายรีบรั้งเอาไว้ หล่อนฉุดข้อมือน้องสาวเดินนำไปยังห้องน้ำหญิงฝั่งตรงข้าม
“ฉันมีของดีจะอวดเธอ..ตามมานี่”
ไพลินกึ่งวิ่งกึ่งเดินเร็วๆตามหลังไปยังไม่มีทางเลือก เพทายปิดประตูไม้บานใหญ่เมื่อมาถึงที่หมายแล้วกดล็อกเอาหลังพิงขวางทางออกไว้ ก่อนจะหยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดมาอวดพี่น้องทั้งสอง ซึ่งตอนนี้พากันยืนทำหน้างงงวย ขมวดคิ้วมุ่น
“ฉันมีอะไรจะให้เธอฟัง..ตั้งใจฟังดีๆนะ ไข่มุก”
เพทายจัดการกดปุ่มเลือกโปรแกรมเสียงที่หล่อนเพิ่งอัดเอาไว้ เมื่อครั้งแอบได้ยินมานิตาคุยกับเพื่อนสนิทในห้องน้ำ
เสียงหวานใสดังชัดเจนออกมาจากลำโพงโทรศัพท์เครื่องนั้น มุกดาจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร
“รู้ไหมน้ำมน..ฉันไม่เคยเกลียดใครเท่าเด็กคนนั้นจริงๆ”
“เด็กคนไหนของเธอ?”
“ก็ยายเด็กไข่มุก น้องสาวแพรน่ะซี ทีแรกแพรตกลงกับฉันดิบดีว่าจะให้เดินชุดฟินาเล่”
“แล้วยังไง..น้องไข่มุกต่างหากที่ได้ใส่ชุดนั้น”
“ก็นั่นแหละ ฉันถึงได้ฉุนอยู่นี่ไง รู้ไหม แพรมาขอโทษฉันใหญ่ บอกว่าสงสารน้องสาว”
“สงสารเรื่องอะไร?”
“ก็ยายเด็กไข่มุกมันอิจฉาความสวยของฉัน ขอร้องแพรให้ตัวเองได้เดินชุดฟินาเล่แทน..ด้วยเหตุผลอะไรรู้ไหม..มันว่าฉันเด่นอยู่แล้ว ยิ่งใส่ฟินาเล่ยิ่งเด่นกว่าใครทั้งหมด อย่างฉันต้องใส่ชุดธรรมดาพื้นๆ จะได้เปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่อย่างมันได้แจ้งเกิดกับเขาบ้าง..ดูมันพูดซี!”
“เธอได้ยินมากับหูหรือไง..ว่าน้องเขาพูดยังงั้น”
“เปล่า..แพรเล่าให้ฟังตอนมาขอโทษฉันก่อนวันงานแค่วันเดียว”
“ฉันขอเตือนด้วยความหวังดี..ที่จริงแพรกับเธอก็ไม่ได้กินเส้นกันเท่าไหร่..ฟังหูไว้หูเสียบ้าง”
“เรื่องอื่นไม่รู้..แต่เรื่องนี้ฉันเชื่อสนิทใจทีเดียว..เด็กนั่นมันอิจฉาฉันมานานแล้ว”
“แล้วเธอจะทำอะไรได้ เจ้าของห้องเสื้อเขาให้เธอใส่ชุดไหน ก็ใส่ไปเหอะ ยังไงงานนี้ก็มีแต่แขกระดับนานาชาติ ใครได้เดินแบบก็เด่นกันทุกคนนั่นแหละ”
“ใช่..เธอพูดถูกน้ำมน แล้วฉันจะทำให้น้องสาวของแพรเด่นกว่าใครๆ คอยดูนะ ตอนมันหมุนตัวกลับฉันจะผลักให้หน้าคะมำตกเวทีไปเลย..คงสะใจพิลึก”
เสียงเทปบันทึกสิ้นสุดลง..เพทายรีบเปิดประเด็นทันทีโดยไม่รีรอ
“เป็นไงจ๊ะสาวน้อย..ชัดเจนรึยัง คุณพี่แสนสวยเค้าประสงค์ดีกับเธอแค่ไหน”
มุกดาพยักหน้าแทนคำตอบ หล่อนซึมลงไปถนัดตา ทว่าไม่มีวี่แววจะร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนที่เพทายคาดคะเน
“เอ้า..ไม่เสียใจรึไง เค้าทำเธอขนาดนี้!”
สาวแสบเป็นเดือนเป็นร้อน เต้นผางขึ้นมาทันที..มุกดาให้คำตอบที่ใครก็คาดไม่ถึง แม้แต่ไพลิน
“เสียใจสิ..แต่ความเจ็บปวดซ้ำซาก มันสอนให้เราเข้มแข็ง...ร้องไห้ไปก็เปลืองน้ำตาเปล่าๆ”
บรรยากาศยามนี้ช่างโรแมนติก เป็นตรงกันข้ามกับสถานการณ์วิกฤตที่คนสองคนกำลังจะต้องเผชิญ กวินหันมามองเพื่อนสาวแวบหนึ่ง เหมือนจะเปิดโอกาสให้หล่อนแก้ตัว หรือพูดอะไรออกมาบ้าง..แต่เปล่าเลย แพรวายืนนิ่งสงบในหน้า แววตาเฉยเมย ชายหนุ่มพ่นลมหายใจยาวอย่างนึกขัดตา แล้วเขาก็หันไปเพ่งมองทัศนียภาพนอกหน้าต่าง เบื้องล่างมีไฟระยิบ รถรามากมายกลายเป็นจุดเล็กๆเต็มท้องถนน
“ผมเคยนับถือในมิตรภาพระหว่างเรา..คุณยังจำความรู้สึกดีๆที่มีให้กันได้ไหม?”
“จำได้ค่ะ..” หางเสียงของหล่อนสั่นไหวเล็กน้อย นัยน์ตาวาววามคู่สวยทอดมองเขาอย่างมีความหมาย “ทุกวันนี้มันยังคงอยู่...แล้วก็มากขึ้นเรื่อยๆ”
“คุณเข้าใจผิดแล้วแพร!” เขาเผลอกระแทกเสียงอย่างเหลืออดในอารมณ์ ชายหนุ่มเหลียวมองหญิงที่เขาเคยนับเป็น “คนพิเศษ” ด้วยหางตา..ความเสียดแทงแล่นริ้วขึ้นมาตามรอยที่เริ่มแตกเป็นทางของแก้วร้าว
“มันคงอยู่สำหรับคุณคนเดียว..ไม่ใช่ผมในเวลานี้”
กวินพยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติ ทว่าคนฟังกลับเยียบเย็นไปทุกขุมขน แพรวากำมือข้างหนึ่งที่ไขว้แอบไว้ด้านหลังแน่น หล่อนเผลอจิกเล็บฝังลงในฝ่ามือนุ่มจนเริ่มมีเลือดซึมออกมา
“ผมหลอกตัวเองมาตลอด..ว่าคุณช่างดีเหลือเกิน รักผมด้วยความจริงใจ เสมอต้นเสมอปลาย”
แพรวากลอกตามองเขา บอกเสียงแผ่วเบา
“แพรรักคุณ..มันคือความจริงตลอดกาล วินไม่ได้หลอกตัวเอง”
“หยุดพร่ำได้ไหมแพร..ฟังผมพูดให้จบ!” กวินตวาดเสียงใส่หน้าหล่อนอีกครั้ง เขาไม่เคยนึกว่าตัวเองจะเป็นควบคุมอารมณ์ยากเช่นนี้..โดยเฉพาะกับคนที่เขาเคยคิดว่ารู้ใจกันและกันมากที่สุด
“หลายครั้งที่ผมนึกเอะใจ หลายครั้งที่รู้สึกเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่หลังแววตาอ่อนโยน ของคุณ”
กวินผ่อนลมหายใจยาวเหยียด รัตติกาลเบื้องหน้า มีจุดดาวพราวพร่างประดับสวย เสี้ยวจันทร์เรืองแสงเหลืองอ่อนงดงามอร่ามทั่ว ทว่าหัวใจเขากลับหม่นมัว ไม่มีอณูแห่งความสุขแทรกซึมอยู่เลยแม้สักน้อย
“ผมน่าจะสงสัยให้มากกว่านี้..ว่าทำไมคุณถึงปิดบังเรื่องไข่มุก ทั้งๆรู้อยู่แก่ใจมาตลอดห้าปี”
แพรวาสั่นศีรษะจนไหมละเอียดปลิวกระจาย กวินยกมือห้าม พลางเอ่ยเสียงเครียด
“ผมบอกให้หยุดไง..คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะฟังจบ”
ดีไซเนอร์สาวกระพริบตาถี่ๆ เห็นเงาแพขนตางอนยาวทาบทับสันแก้ม ทว่าครั้งนี้กวินบอกตัวเองหนักแน่น..เขาจะไม่มีวันใจอ่อนกับหล่อนเหมือนที่แล้วมา
“ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกแพร..ที่เคยเฝ้าพรรณนาถึงไข่มุกให้คุณฟัง ทั้งหน้าตา บุคลิก คำพูด แล้วก็อะไรอีกมากมาย คุณจะไม่รู้เลยหรือไง ว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนเดียวกันกับน้องสาวตัวเอง..มันเป็นไปไม่ได้”
เขาระบายออกมาแบบต่อเนื่อง ไม่เว้นช่องว่างให้หล่อนได้มีโอกาสขัด
“แต่ผมก็ยังหลอกตัวเอง..นึกว่าคุณคงมีเหตุผลจำเป็นบางอย่าง ถึงแม้จะนึกไม่ออกว่าเรื่องอะไร แต่ก็ยังโง่ทำลืมๆไป ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ”
ชายหนุ่มยั้งใจตัวเองไม่อยู่ ถึงขนาดหันมายกมือบีบไหล่หล่อนโดยแรง ราวกับต้องการระบายความอัดอั้น ให้หญิงสาวรู้สึกรู้สาเสียบ้าง ทว่าแพรวายังคงนิ่งงัน แววตาเลื่อนลอยมองเลยหลังเขาออกไป
“ทั้งที่มันสำคัญอย่างยิ่ง..คุณเกือบทำความรักผมพังไม่มีชิ้นดี รู้ตัวบ้างไหมแพร..หัวใจคุณทำด้วยอะไร”
หญิงสาวไม่ตอบโต้ใดๆ แม้กระทั่งสีหน้าท่าทาง ราวกับคนไร้ความรู้สึก
“คุณหลอกลวงทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวเอง อย่านึกว่าผมไม่รู้..คุณไม่ใช่คนอ่อนหวานอย่างไข่มุก คุณไม่เคยชอบเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ เวลาไปไหนมาไหนกับผม”
เงาในตาดีไซเนอร์สาวโชติช่วงขึ้นมาแวบหนึ่ง แทนคำถามว่า..คุณรู้ได้อย่างไร? แต่เพียงอึดใจเดียวก็มีแววเฉยเมยซ้อนทับเข้ามาแทนที่
“ไม่สำคัญว่าผมรู้ได้ยังไง เอาเป็นว่าผมรู้..คุณไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อน อย่างที่ผมคิดและนับถือมาตลอด”
แม้ใบหน้าหล่อนเวลานี้ เสมือนสวมหน้ากากเอาไว้ แต่หัวไหล่ที่กระตุกขึ้นเล็กน้อยทำให้กวินรับรู้ว่าหล่อนเริ่ม..รู้สึกอะไรขึ้นมาบ้าง เขาปล่อยมือจากลาดบ่าของแพรวา ก่อนเอ่ยต่อแบบหมดเปลือก
“แต่เมื่อรู้..ก็ยังโง่ แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างเรา..บอกตรงๆว่าผมเสียดาย”
“แพร..เชื่อผมเถอะ เมื่อใดก็ตามที่คุณยอมเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพื่อใครอีกคน จนไม่เหลือเค้าความเป็นตัวเอง และยอมทุ่มเททำในสิ่งที่รู้ทั้งรู้ว่าขัดขวางความสุข ความสมหวังของคนๆนั้น..คุณไม่ได้รักเขาจริงหรอก”
“ผมผิดเอง..ที่ไม่ฟังเสียงหัวใจ ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ..แต่ก็ไม่นึกว่าคุณจะกล้ารังแกไข่มุกได้ถึงขนาดนี้”
กวินลงท้ายความในใจด้วยเสียงเรียบนิ่ง ทว่าหนักแน่นอย่างคนตัดสินใจเด็ดขาด
“คุณไม่ใช่เพื่อนของผมอีกแล้ว..”
ฝ่ายที่นิ่งฟังด้วยแววตาไร้ความรู้สึกมานาน เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง แพรวาบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ออกมาจากใจจริงเป็นครั้งแรก หล่อนกระพริบตาครั้งหนึ่ง มีหยาดน้ำใสวาววามรินลงมาเพียงหยดเดียวเท่านั้น
“แพรยอมรับผิดทุกอย่าง..แต่อยากให้รู้”
เสียงกังวานใสเริ่มอ่อนลง เหมือนรำพึงกับตัวเอง
“ถ้าตัดเรื่องวินออกไป..แพรไม่เคยอยากทำร้ายไข่มุกเลย..”
หลังกำแพงไม่ไกลจากตรงนั้น มีเงาร่างหญิงสาวสองคนยืนอิงแอบอยู่เงียบเชียบ ทุกคำพูดของคนในมุมมืดกระทบโสตประสาทผู้ฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ ไพลินยกมือทาบอกอย่างนึกไม่ถึง
“ฉันนึกว่าพี่แพรเป็นแฟนคุณวินเสียตั้งนาน..ทำไมเรื่องมันกลับตาลปัตรขนาดนี้”
เพทายนิ่งฟังอย่างไม่เห็นแปลก หล่อนยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงใจกับภาพและเสียงที่เพิ่งประจักษ์ชัดเมื่อครู่
“แต่แปลกนะ..ถูกคุณวินต่อว่าไม่เหลือดีขนาดนั้นยังทำนิ่ง ถ้าเป็นพี่คงวิ่งหนีไปร้องไห้เสียนานแล้ว”
ไพลินยังทำหน้าบอกความประหลาดใจอีกหลายประเด็น ผิดกับเพทายที่ไม่สงสัยอะไรเลย หล่อนบอกพี่สาวยิ้มๆ
“แค่นั้นก็มากเหลือทน..ลืมแล้วหรือ แม่มดไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร แม้เพียงหยดเดียวก็แสดงว่าเจ็บปวด ระทมทรวงจนถึงกับกลั้นไม่อยู่”
“มาทำอะไรกันตรงนี้คะพี่ๆ”
เสียงเล็กใสของน้องสาวสุดท้องทำให้ทั้งไพลิน และเพทายสะดุ้งเกือบพร้อมกัน ก่อนจะหันมาทำสัญญาณมือให้เบาเสียง มุกดาชะโงกหน้าไปมองคนในมุมมืดที่พี่สาวกำลังแอบดูอยู่ เห็นกวินยืนประสานสายตานิ่งกับพี่สาวแสนสวย มีแสงจันทร์สาดกระทบเสี้ยวหน้าคนทั้งคู่ ให้บรรยากาศรักโรแมนติกเหลือแสน หล่อนก็รู้สึกแปลบปลาบในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวถอยห่างออกมา ทำท่าจะหมุนตัวกลับ
“น่าอิจฉาคนมีความรักนะคะ..เราอย่าอยู่เป็นก้างขวางคอเขาเลย”
เพทายรีบรั้งเอาไว้ หล่อนฉุดข้อมือน้องสาวเดินนำไปยังห้องน้ำหญิงฝั่งตรงข้าม
“ฉันมีของดีจะอวดเธอ..ตามมานี่”
ไพลินกึ่งวิ่งกึ่งเดินเร็วๆตามหลังไปยังไม่มีทางเลือก เพทายปิดประตูไม้บานใหญ่เมื่อมาถึงที่หมายแล้วกดล็อกเอาหลังพิงขวางทางออกไว้ ก่อนจะหยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดมาอวดพี่น้องทั้งสอง ซึ่งตอนนี้พากันยืนทำหน้างงงวย ขมวดคิ้วมุ่น
“ฉันมีอะไรจะให้เธอฟัง..ตั้งใจฟังดีๆนะ ไข่มุก”
เพทายจัดการกดปุ่มเลือกโปรแกรมเสียงที่หล่อนเพิ่งอัดเอาไว้ เมื่อครั้งแอบได้ยินมานิตาคุยกับเพื่อนสนิทในห้องน้ำ
เสียงหวานใสดังชัดเจนออกมาจากลำโพงโทรศัพท์เครื่องนั้น มุกดาจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร
“รู้ไหมน้ำมน..ฉันไม่เคยเกลียดใครเท่าเด็กคนนั้นจริงๆ”
“เด็กคนไหนของเธอ?”
“ก็ยายเด็กไข่มุก น้องสาวแพรน่ะซี ทีแรกแพรตกลงกับฉันดิบดีว่าจะให้เดินชุดฟินาเล่”
“แล้วยังไง..น้องไข่มุกต่างหากที่ได้ใส่ชุดนั้น”
“ก็นั่นแหละ ฉันถึงได้ฉุนอยู่นี่ไง รู้ไหม แพรมาขอโทษฉันใหญ่ บอกว่าสงสารน้องสาว”
“สงสารเรื่องอะไร?”
“ก็ยายเด็กไข่มุกมันอิจฉาความสวยของฉัน ขอร้องแพรให้ตัวเองได้เดินชุดฟินาเล่แทน..ด้วยเหตุผลอะไรรู้ไหม..มันว่าฉันเด่นอยู่แล้ว ยิ่งใส่ฟินาเล่ยิ่งเด่นกว่าใครทั้งหมด อย่างฉันต้องใส่ชุดธรรมดาพื้นๆ จะได้เปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่อย่างมันได้แจ้งเกิดกับเขาบ้าง..ดูมันพูดซี!”
“เธอได้ยินมากับหูหรือไง..ว่าน้องเขาพูดยังงั้น”
“เปล่า..แพรเล่าให้ฟังตอนมาขอโทษฉันก่อนวันงานแค่วันเดียว”
“ฉันขอเตือนด้วยความหวังดี..ที่จริงแพรกับเธอก็ไม่ได้กินเส้นกันเท่าไหร่..ฟังหูไว้หูเสียบ้าง”
“เรื่องอื่นไม่รู้..แต่เรื่องนี้ฉันเชื่อสนิทใจทีเดียว..เด็กนั่นมันอิจฉาฉันมานานแล้ว”
“แล้วเธอจะทำอะไรได้ เจ้าของห้องเสื้อเขาให้เธอใส่ชุดไหน ก็ใส่ไปเหอะ ยังไงงานนี้ก็มีแต่แขกระดับนานาชาติ ใครได้เดินแบบก็เด่นกันทุกคนนั่นแหละ”
“ใช่..เธอพูดถูกน้ำมน แล้วฉันจะทำให้น้องสาวของแพรเด่นกว่าใครๆ คอยดูนะ ตอนมันหมุนตัวกลับฉันจะผลักให้หน้าคะมำตกเวทีไปเลย..คงสะใจพิลึก”
เสียงเทปบันทึกสิ้นสุดลง..เพทายรีบเปิดประเด็นทันทีโดยไม่รีรอ
“เป็นไงจ๊ะสาวน้อย..ชัดเจนรึยัง คุณพี่แสนสวยเค้าประสงค์ดีกับเธอแค่ไหน”
มุกดาพยักหน้าแทนคำตอบ หล่อนซึมลงไปถนัดตา ทว่าไม่มีวี่แววจะร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนที่เพทายคาดคะเน
“เอ้า..ไม่เสียใจรึไง เค้าทำเธอขนาดนี้!”
สาวแสบเป็นเดือนเป็นร้อน เต้นผางขึ้นมาทันที..มุกดาให้คำตอบที่ใครก็คาดไม่ถึง แม้แต่ไพลิน
“เสียใจสิ..แต่ความเจ็บปวดซ้ำซาก มันสอนให้เราเข้มแข็ง...ร้องไห้ไปก็เปลืองน้ำตาเปล่าๆ”
ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ค. 2555, 00:45:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ค. 2555, 00:46:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 1759
<< บทที่๒๑ สาวแสบ ๒/๒ | บทที่๒๒ บทเรียนราคาแพง ๒/๒ >> |
Edelweiss 6 ก.ค. 2555, 08:10:43 น.
เก่งมากไข่มุก แต่พี่วินทนมาตั้ง 5 ปีเลยเหรอคะ
เก่งมากไข่มุก แต่พี่วินทนมาตั้ง 5 ปีเลยเหรอคะ
ศิลาริน 6 ก.ค. 2555, 09:36:42 น.
ู^__^
ู^__^
zilvermoon 6 ก.ค. 2555, 19:16:46 น.
พี่วินจัดหนัก..ยัยแพรจะเลิกทำร้ายไข่มุกได้มั้ยละเนี่ย
พี่วินจัดหนัก..ยัยแพรจะเลิกทำร้ายไข่มุกได้มั้ยละเนี่ย
ศิลาริน 6 ก.ค. 2555, 20:41:19 น.
ไข่มุกมีทัพเสริมเพิ่มขึ้นแล้ว^^
ไข่มุกมีทัพเสริมเพิ่มขึ้นแล้ว^^
wane 7 ก.ค. 2555, 05:28:23 น.
ไข่มุกเริ่มเก่งขึ้นมาบ้างแล้วนะ
ไข่มุกเริ่มเก่งขึ้นมาบ้างแล้วนะ
หนาวรัก 7 ก.ค. 2555, 11:33:28 น.
ไข่มุกสู้ๆ
ไข่มุกสู้ๆ
ศิลาริน 7 ก.ค. 2555, 18:51:52 น.
ขอบคุณกำลังใจที่มีให้ไข่มุกโดยถ้วนหน้าค่า ^^
ขอบคุณกำลังใจที่มีให้ไข่มุกโดยถ้วนหน้าค่า ^^