ดึกดื่นในคืนหนาว
ยังไม่ได้เรียบเรียงค่ะ^^
Tags: Erotic

ตอน: ตอนที่ ๓ แผลงฤทธิ์

พระเพลิง รู้สึกหงุดหงิดโมโหทุกครั้งเพียงแค่เหลืบตาเห็นร่างเล็กของเด็กสาวที่เขาช่วยเหลือมาในคืนนี้นั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนโซฟาชุดรับแขกในคอนโดมิเนียมสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงของเขา โดยที่ชายหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจพาเด็กคนนี้มาที่นี้ทั้งๆที่เขาน่าจะปล่อยเธอทิ้งไว้ในตัวเมืองชนบทนั่นเสียก็สิ้นเรื่อง
“ ขอบคุณ ”
หลังจากนั่งนิ่งด้วยความรู้สึกหวาดเกรงอยู่นาน อัณณ์ ก็ตัดสินใจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาหวิวพร้อมกับปรายตาขึ้นมองร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวข้างๆกัน เธอเห็นสายตาคมกริบนั่นทีไรก็ให้รู้สึกอึดอัดร้อนรนจะทำจะพูดอะไรก็ให้รู้สึกติดขัดมันไปเสียหมด ยิ่งเห็นท่าทางของเขาที่ไม่ชอบเธอด้วยแล้วก็ยิ่งอึดอัด
“ ฉันไม่ต้องการคำขอบคุณ พรุ่งนี้รีบๆออกไปจากที่นี่ซะ ”
พระเพลิง ตอบกลับน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะลุกขึ้นอย่างเซ็งๆเดินไปหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็นทรงสวยขึ้นมากระดกดื่มจากนั้นก็เดินกลับมานั่งที่เดิมจ้องมองร่างเล็กจิ๋วที่นั่งอยู่ก่อนจะถามเธอน้ำเสียงห้วนสั้นที่เป็นเอกลักษณ์อันไม่พึ่งประสงค์ของเขา
“ เธอมันตัวอะไร? เพศไหน? ”
อัณณ์ อึกอักเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจว่าด้วยรูปกายภายนอกของเธอเป็นแบบนี้การที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะเข้าใจผิดมันก็ไม่ผิดหรอก
“..... ”
อัณณ์ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเธอเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งเพราะคิดว่าถึงบอกว่าเธอเป็นหญิงคนตรงหน้าก็ไม่มีทางเชื่อเธออยู่ดีเพราะงั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบเสีย ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นรอบมองเครื่องหน้าของคนตัวใหญ่ที่ชวนให้หลงใหล คิ้วเข้มดกดำหัวคิ้วยาวต่อกันอย่างคนเจ้าชู้ ตาคมดุ จมูกโด่งเป็นสัน เรียวปากหนาเป็นรูปกระจับดูก็รู้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ผิวกายสีแทนออกเหลืองสวยเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวของเธอเสียอีก ไม่ว่าจะท่านั่งท่าเดินดูสง่างาม องอาจไปเสียหมด
...สมกับเป็นทายาทของตระกูลทัพพสารที่ยิ่งใหญ่...
“ ชิ!! พวกลักเพศ ”
พระเพลิง สบถในลำคออย่างดูแคลนเพราะตัวเขาเองไม่ชอบคนประเภทนี้ที่ไม่มีความแน่นอน ขนาดเรื่องของตัวเองยังกำหนดให้แน่นอนไม่ได้ ชายหนุ่มยกเบียร์เย็นๆในมือขึ้นกระดกดื่มอีกเพียงครั้งน้ำสีเหลืองอำพันในนั้นก็ไหลลงไปในลำคอใหญ่หนายาวระหงของเขาจนหมด ลูกกระเดือกแหลมๆของเขาเลื่อนขึ้นลงตามการดื่มเป็นจังหวะสม่ำเสมอราวกับสิ่งที่เขากำลังกลืนมันลงไปนั้นมีรสชาติหวานหอมทั้งๆที่จริงๆแล้ว อัณณ์ คิดว่าเจ้าน้ำพวกนี้ไม่มีอะไรน่ากินเลยสักนิดรสชาติออกจะขมไปเสียด้วยซ้ำ
“ ทำไมถึงโดนล่า”
ร่างใหญ่ถามต่อแบบไม่ใส่ใจนักก่อนจะปากระป๋องเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วไปยังตะกร้าใส่ขยะตรงมุมห้องไกลจากจุดที่เขานั่งอยู่มากเหมือนกันแต่ถึงกระนั้นมันก็ยังพุ่งตรงลงถัง
“ ฉัน..”
อัณณ์ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหุบปากเงียบแล้วหันไปมองยังประตูบานหนาที่เธอพึ่งเดินผ่านเข้ามาเพราะได้ยินเสียงลูกบิดถูกหมุนให้เปิดออกจากคนที่อยู่ด้านนอกจากนั้นไม่นานหญิงสาวร่างสูงหุ่นสวยที่ถ้าเธอจำไม่ผิดผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม สาวสวยดูแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าคู่ควงของเธอนั่งคุยอยู่กับเด็กสาวที่ดูเหมือนเด็กหนุ่มแถมที่แปลกไปกว่านั้นคือ
..พระเพลิง พาเด็กคนนี้เข้ามาคุยในห้องของเขาที่ไม่ใช่ว่าใครๆก็จะเข้ามาได้ง่ายๆ...
“ ใครกันค่ะ เพลิง ”
สาวสวยเอ่ยถามเสียงเรียบหน้ายิ้มก่อนจะเดินเข้าไปนั่งบนตักของแฟนหนุ่มอย่างที่เธอเคยทำพร้อมกับปรายตามองคนแปลกหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะเลิกสนใจร่างเล็กนั่นเมื่อเห็นว่าเครื่องหน้าของเด็กสาวเป็นไปแบบธรรมดาไม่ได้น่ารักสวยหวานอย่างที่แฟนหนุ่มของเธอชอบ
“ ไม่รู้สิ เก็บมาจากข้างทาง ”
พระเพลิง ตอบเสียงสั้นห้วนอย่างเคยไม่ได้ปิดบังใดๆทั้งสิ้นเพราะมันเป็นอย่างที่เขาพูด ในขณะที่ อัณณ์ กำมือเล็กของเธอแน่นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสิ่งของหรือะไรสักอย่างที่ไม่ใช่คน
“ ตายแล้วนี่ เพลิง ไปเก็บเด็กเหลือขอมาเหรอค่ะ ยี๊!! น่ารังเกียจ”
สาวสวยพูดเสียงจีบปากจีบคอพร้อมกับมองร่างเล็กตรงหน้าอย่างรังเกียจสิ่งที่สาวสวยแสดงออกมานั้นยิ่งทำให้ อัณณ์ รู้สึกว่าตัวเธอช่างไม่มีค่าอะไรเลย เด็กสาวกำมือแน่นก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าต่อปากต่อคำเพราะเธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะทำอย่างนั้นได้ พระเพลิง ปรายตามองเด็กสาวครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ ว่าเขาทำไม? เด็กนี่ทำอะไรให้เธอรึไง ฉันเห็นเขานั่งเจียมตัวดีออก ”
พระเพลิง ถามคู่ควงของเขาเสียงเซ็งๆก่อนจะผลักสาวสวยที่นั่งอยู่บนตักเขาออกอย่างรำคาญ เขาเกลียดนักเชียวการพูดจีบปากจีบคอวางท่าสูงส่งแต่มองคนอื่นด้วยสายตาต่ำๆ อาจจะใช่ที่เขาก็ชอบทำท่าทางแบบนี้ใส่คนอื่นแต่ในใจลึกๆของเขาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นมันเป็นเพียงแค่ท่าทางที่เขาทำมาตั้งแต่เด็กจนติดเป็นนิสัยที่หลายๆคนได้เห็นก็มักจะบอกว่าเขาเป็นพวกหัวสูงและชอบเหยียบย่ำคนอื่น ซึ่งเขาก็ยอมรับอีกเช่นกันว่าเขาชอบทำแบบนั้น แต่มันก็เฉพาะกับบางคนอีกนั่นแหละ ไม่ใช่กับทุกคนและยิ่งกับคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวคนนี้เขาก็ไม่เห็นว่าจะต้องเหยียบย่ำเพราะเท่าที่เด็กนี่เป็นอยู่ก็คงจะเกินพอแล้ว ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนยืดตัวเต็มความสูงของเขาที่ทำเอาสาวสวยหุ่นสูงดูเตี้ยไปทันตาเห็น
“เอ๊ะ!! นี่ เพลิง เข้าข้างนางเด็กจรจัดนี่เหรอค่ะ”
สาวสวยเริ่มเดือดเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มของเธอเลือกจะช่วยคนนอกมากกว่าเธอที่เป็นแฟนของเขาแถมยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าคำนั้นไปถึงไหนต่อไหน ถ้าจะเรียกตัวเองว่า..เมีย..ก็ยังได้เพราะแบบนี้สาวสวยจึงคิดว่า พระเพลิง ทำไม่ถูกที่ว่าเธอต่อหน้าใครที่ไหนก็ไม่รู้ที่ไม่มีค่าอะไรในสายตาของเธอเลย
“ เข้าข้าง แล้วจะทำไม ”
พระเพลิง ถามคู่ควงสาวสวยของเขาน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาเริ่มจะกรุ่นๆขึ้นมาซะแล้ว เขาไม่เข้าใจผู้หญิงพวกนี้เลยว่าทำไมจะต้องรุกขึ้นมาโวยวายกับเรื่องเล็กๆแค่นี้ที่ไม่มีสาระอะไรอื่นเลยนอกจากสร้างความน่ารำคาญให้กับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คู่ควงสาวสวยคนนี้ของเขาก็เหมือนกัน ถ้าเธอยังไม่หยุดทำตัวน่ารำคาญรับรองได้เลยว่าเขาสั่งปลดจากตำแหน่งแน่นอน
“ กรี๊ด!!! เพลิง เข้าข้างมัน เพลิง เข้าข้างมัน กรี๊ด!!!”
เมื่อเจอคำตอบแบบตัดเยื่อขาดใยและไม่ใส่ใจของ พระเพลิง สาวสวยก็แผดเสียงกรี๊ดลั่นห้องอย่างคนที่ไม่เคยถูกขัดใจทำเอา พระเพลิง กัดฟันแน่นกำมือจนสั่น
“ โว้ย!! น่ารำคาญชิป!! ออกไปให้พ้นๆเลยไป”
พระเพลิง เดินเข้าไปจับต้นแขนของสาวสวยพร้อมกับลากเธอไปยังประตูห้องชุดสุดหรู เขาไม่รอช้าหรือมีท่าทางลังเลอะไรเลยก่อนจะเปิดประตูแล้วผลักร่างของหญิงสาวออกไปให้พ้นสายตา
“ กี้ไม่ไป ปล่อยกี้นะ เพลิงทำแบบนี้กับกี้ไม่ได้นะ กรี๊ด!!!”
สาวสวยยังโวยวายไม่เลิกแม้จะถูกผลักออกไปนอกห้องแล้วแต่ก็ยังยกมือทุบประตูร้องตะโกนโวยวายอย่างเอาเป็นเอาตาย อยากเหลือเกินที่จะกลับเข้าไปข้างใน พระเพลิง ที่คิดว่าเรื่องทุกอย่างคงจะจบแล้วถึงกับพ่นลมออกจมูกก่อนจะเดินกลับไปยังประตูบานเดิมแล้วดึงมันให้เปิดออกอีกครั้งก่อนจะตะคอกเสียงดังกลับไปว่า
“ อยากตายนักใช่ไหม!!!”
เขาพูดออกมาเพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้เสียงโวยวายหน้าห้องเงียบสงบลงได้ อัณณ์ ไม่รู้ว่าสาวสวยคนนั้นมีสีหน้ายังไงกับคำพูดของชายหนุ่มแต่สำหรับเธอบอกได้คำเดียวว่า
..ช๊อก..
พระเพลิง ดันประตูให้ปิดลงเสียงดังสนั่นก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเมื่อคนชอบโวยวายวิ่งหนีรนรานจากไปเพราะความกลัว มันเป็นเรื่องที่ผู้หญิงพวกนั้นรู้กันดีอยู่แล้วว่าควรจะรู้ถึงอารมณ์ร้ายๆของเขาและถ้าเขาพูดพวกเธอก็สมควรต้องฟังเพราะเขาเป็นคนประเภท
..กล้าพูดกล้าทำ..
อัณณ์ กลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบากเมื่อเห็นอารมณ์ร้ายๆของชายหนุ่ม
..นี่ขนาดผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเขา แถมสวยหยดย้อยเขายังจะฆ่าได้ แล้วหน้าตาพื้นๆอย่างเธอจะเหลือเหรอ คงตายตั้งแต่ยังไม่ได้กรี๊ดซะด้วยซ้ำ...
ยิ่งคิด อัณณ์ ก็ยิ่งหวั่นใจ หวั่นใจกับสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่และต้องเผชิญต่อไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ มองทำไม อยากจะตายอีกคนรึไง!! ”
พระเพลิง ตะคอกถามเด็กสาวที่เขาพึ่งช่วยมาด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธเมื่อหันมาแล้วพบว่าเด็กสาวเอาแต่นั่งจ้องเขาตาค้างอ้าปากกว้างเหมือนเจอปีศาจจากอเวจีก็ไม่ปาน
“..ปะ..เปล่าๆๆ ไม่อยากตาย..ไม่อยากเลยสักนิด..”
อัณณ์ ตอบเสียงติดขัดเพราะความกลัวพร้อมกับส่ายหัวจนผมที่ฟูอยู่แล้วยิ่งฟูเข้าไปใหญ่
“ เอ่อ ดี!!”
พระเพลิง บอกแค่นั้นแล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขาหยิบมือถือที่กำลังส่งเสียงร้องออกมากดรับสายทั้งๆที่อารมณ์ยังกรุ่นโกรธอย่างที่ อัณณ์ เห็นแล้วรู้สึกเสียวแทนคนที่โทรมาเพราะคงจะถูกหางเล่ไปด้วยอย่างแน่นอน
“ ว่าไง”
พระเพลิง กรอกเสียงกลับเข้าไปในโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาที่ราคาอยู่ที่หลักหมื่นเสียงเรียบไร้ซึ่งอารมณ์โกรธใดๆทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงทำเอาเด็กสาวงงเป็นไก่ตาแตก แต่ก็มาคิดขึ้นได้ว่าคนที่โทรเข้ามาอาจจะมีความสำคัญกับเขามากจนถึงขนาดทำให้เขาใจเย็นลงได้
...ที่สำคัญกว่านั้นคือ คนๆนั้นเป็นใคร?..
อัณณ์ คิดได้แค่นั้นก็นั่งฟังชายหนุ่มตรงหน้าคุยโทรศัพท์อย่างตั้งใจ



แคลอรี่ร้อยเปอร์เซ็น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ค. 2555, 01:01:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ค. 2555, 01:06:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1238





<< ตอนที่ ๒ มโนธรรม   ตอนที่ ๔ ไม่มีเรื่องบังเอิญ >>
zilvermoon 6 ก.ค. 2555, 19:26:23 น.
อืมม..เด็กคนนี้น่าสนใจ..ดูมีที่มาที่ไป
ว่าแต่นายเพลิงนี่..ทั้งโหดทั้งเหวี่ยงได้เสมอภาคดีแท้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account