เล่ห์สลับขั้ว
เมื่อความจำเป็นทำให้ต้องมาอยู่ร่วมรั้วบ้านเดียวกัน และรู้ว่าจะต้องโดนจับคู่ เธอจึงสร้างสถานการณ์ให้เขาเข้าใจผิด หวังให้เกลียด แต่ความใกล้ชิดทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้าม เธอชอบเขา และเขาก็ชอบเธอแม้ความจริงเรื่องชายไม่จริงหญิงแท้จะยังคลุมเครือเต็มทีก็ตาม และ...สิ่งที่เรียกว่ารักก็ทำให้เขายอมฝ่าฝันอุปสรรคหัวใจตัวเองและคู่ต่อสู้ได้ในทุกทางและอภัยได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายความจริงบางอย่างในอดีตต้องทำให้เธอคิดจะวิ่งหนีเขาเพื่อไปทำใจ...วิมวิพาหวังสักวันจะยอมอภัยในสิ่งที่ผิดพลาดครั้งเยาว์วัยของคฑาคินได้ด้วยคำว่า 'รัก'
Tags: น่ารัก

ตอน: ตอนที่ 28 เล่ห์สลับขั้ว

ตอนที่ 28

ประตูคอนโดที่ถูกรูดด้วยคีย์การ์ดเปิดกว้างต้อนรับแล้ว หากหญิงสาวที่มาเยือนกลับยืนละล้าละลังเป็นพัก กว่าจะยอมก้าวเท้าตามเจ้าของห้องเข้ามาภายใน สิ่งแรกที่วิมวิพาเห็นทำให้ถึงกับเบิกตาตะลึง กระชับสายกระเป๋าสะพายไหล่ใบเล็กบีบมั่น ข่มอาการตกประหม่ากับภาพเบื้องหน้า กลัวว่าจะเผลออุทานแปลก ๆ ออกมาเหลือเกิน ก็สิ่งที่เห็นช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ สวนดอกไม้ขนาดย่อม ถูกเนรมิตกลางห้องกว้าง มันสวยละลานตาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ราวกับว่านี่เป็นแดนวิมาน สวนดอกไม้ของเจ้าหญิงในนิทานสำหรับหลอกเด็กอย่างไงอย่างงั้น ทว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือนิทาน ทุกสิ่งอย่างที่ปรากฏในสายตาของหญิงสาวคือความเป็นจริงทั้งหมด ดอกไม้สดยังส่งกลิ่นหอมอบอวลให้เธอสัมผัสกลิ่นหอมจากทางจมูกแหลมได้ กลีบดอกไม้นุ่มมือคือของจริงไม่ใช่พลาสติกหรือทำมาจากสิ่งประดิษฐ์อื่น ที่คล้ายคลึงกันแต่อย่างใด หญิงสาวเหลือบมองรอบ ๆ กายอีกครั้ง ด้านผนังห้อง ตรงมุมนั่งเล่นมีรูปใบใหญ่ขนาดเท่าตัวจริงของเธอ ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเป็นรูปจากหนังสือนิตยสารแฟชั่นฉบับหนึ่งที่เธอเคยถ่ายแบบให้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชวินได้มาด้วยวิธีใด สายตาสวยเริ่มเศร้าลงพร้อม ๆ กับหัวใจที่สั่นระริก เธอค่อย ๆ ถอนสายตาที่ตรึงรูปถ่ายตัวเองด้านผนัง เปลี่ยนเป็นกวาดช้า ๆ มองผ่านสวนดอกไม้หลากสีเข้าไปด้านในอีกนิด หลังเคาร์เตอร์เครื่องดื่มคือห้องอาหารซึ่งตกแต่งบรรยากาศไม่ต่างจากห้องอาหารโรงแรมชั้นเยี่ยม ทุกอย่างดูดีสวยงามเป็นเรื่องที่ควรน่าประทับใจและกล่าวขอบคุณกับความตั้งใจยิ่งใหญ่ของชายหนุ่มที่มีให้มากมายเพียงนี้ แต่กระนั้นก็ตามทุกอย่างกลับตรงกันข้ามอยู่ดี หัวใจดวงเล็กที่สั่นไหวเต็มไปด้วยความสงสารที่มีให้แก่คนที่เสมือนพี่ชายของเธอก็เท่านั้น

“ตอนแรกพี่ว่าจะทำเซอร์ไพรส์น้องวิมคืนนี้ พี่อยากมีดินเนอร์สุดแสนพิเศษกับน้องวิมสักครั้ง แต่พอรู้ความจริงจากปากนายคิน...” ชวินหยุดแค่นั้น กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ คฑาคินบอกความจริงกับเขาหมดแล้วเรื่องตกลงคบกับวิมวิพา แต่ทว่าเขาเหมือนจะไม่อยากยอมรับตราบใดที่ไม่ได้ยินจากปากวิมวิพาเอง “แต่คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหมครับ ถ้าจะเปลี่ยนดินเนอร์มาเป็นอาหารกลางวันยามบ่าย ๆ ของเราสองคนแทน” ชายหนุ่มยิ้มหวานไม่คุยต่อในสิ่งที่ค้างไว้ เขาเลือกจะใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มกับการทำคะแนนเรียกร้องความสนใจและเห็นใจจากอีกฝ่ายมากกว่า

วิมวิพาสบตาเขา นัยน์แววตาคู่สวยหมองหม่นลง หากก็เต็มไปด้วยความสงสารฉายชัด “พี่ชวินขอบคุณมากนะคะ ทั้งหมดที่พี่ทำเพื่อวิม วิมซาบซึ้งน้ำใจจริง ๆ”

“แต่ก็ไม่มากพอทำให้น้องวิมตกปากรับคำ เลือกจะคบพี่เป็นแฟนได้ใช่ไหมครับ”

หญิงสาวอ้ำอึ้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มฝาดเฝื่อน “มีผู้หญิงอีกตั้งมากให้พี่ชวินได้มีโอกาสเลือกพวกเธอนะคะ วิมไม่ใช่คนเลิศเลออะไร...”

“ขอร้องละครับ อย่าพึ่งพูดอะไรตอนนี้เลย” ชายหนุ่มแทรกพูดขึ้น หัวใจเต้นแรงและกำลังบีบตัวเจ็บแปลบ เมื่อรู้ว่าวิมวิพากำลังจะปฏิเสธเขา โดยที่เขายังไม่ได้สารภาพกับเธอไปมากกว่านี้เลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ ! เขาจะไม่ยอมนั่งทานข้าวมื้อพิเศษสุดนี้ เคล้าความเจ็บปวดเป็นแน่ “เอาไว้เราทานข้าวกันก่อนนะครับ ทานไปคุยไปก็ได้ก็ได้ พี่ว่าน้องวิมคงจะหิวมากแล้ว เลยเวลาอาหารเที่ยงมาตั้งเกือบสองชั่วโมงแล้วนะครับ”

วิมวิพาพยักหน้านิด ๆ ชวินเอื้อมมือมาจับมือเรียวก่อนจะเดินจูงไปยังโต๊ะอาหาร เพียงไม่ถึงห้านาทีที่ไปนั่ง ก็มีอาหารหรูขึ้นเหลาจากโรงแรมดังมาเสิร์ฟถึงที่ ประดุจว่าชวินได้จัดการโทร.ไปสั่งจองไว้เรียบร้อยแล้ว บริกรหนุ่มสองคนที่ได้รับการเปิดประตูเชิญจากเจ้าของห้อง เดินเข้ามาจัดอาหารหน้าตาดีและยังร้อนเหมือนพึ่งออกจากเตา ด้วยความคล่องแคล่วลงบนโต๊ะ ด้วยความชำนาญในอาชีพไม่นานทุกอย่างก็จัดสวยงามเสร็จสรรพ พวกเขาตั้งแก้วทรงสูงรินไวน์ลงในแก้วทั้งสองใบเป็นอย่างสุดท้าย ก่อนจะโน้มศีรษะสุภาพ บอกลาหนุ่มสาวในห้องและเดินออกไปอย่างรู้หน้าที่

โชคดีที่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ยามบ่ายไม่ร้อนระอุอย่างเช่นอากาศด้านนอกคอนโด เพราะถ้าไม่เช่นนั้นคงทำให้บรรยากาศดี ๆ ที่ชวินตั้งใจสร้างขึ้นล้มเหลวและไม่เหมาะกับการมานั่งดื่มนั่งทานอาหารตรงหน้าเป็นแน่ ชายหนุ่มยกแก้วไวน์ชูไปด้านหน้าพลางเอ่ยชักชวนคนที่นั่งตรงกันข้ามน้ำเสียงนุ่มสุภาพ

“แก้วนี้พี่ดื่มให้กับพรหมลิขิตที่ทำให้พี่ได้มาพบกับน้องวิม” เขายิ้มเจื่อน ๆ “ดื่มซิครับสาวน้อย ช่วยดื่มให้กับพรหมลิขิตที่ชอบเล่นตลกหน่อยจะเป็นไร”

ดวงหน้าสวยสลดซีดลง เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะฝืนใจยกแก้วด้านขวามือชูขึ้นตามเขา “แต่สำหรับวิม แก้วนี้วิมขอดื่มให้กับความโชคดีที่ทำให้วิมได้พบผู้ชายที่น่ารักอย่างพี่ชวินนะคะ” กล่าวจบก็ยกแก้วขึ้นจิบไวน์รสนุ่มลิ้นถือว่าเป็นวาสนาของลิ้นเธอเลยก็ว่าได้ที่มีโอกาสได้ลิ้มลองไวน์ราคาแพงราคาสูงลิบลิ่วขวดนี้ เธอวางแก้วในมือลงตรงตำแหน่งเดิม ประสานตากับดวงตาคมคายคู่ตรงหน้าซึ่งเขาพินิจทั่วใบหน้าเธออย่างไม่คิดละวาง

“ถ้าพี่น่ารักแล้วน้องวิมรักพี่ไม่ได้หรือครับ”

“พี่ชวิน ! ” วิมวิพาอุทานชื่อเขา กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากพลางก้มหน้า “ที่พี่ชวินขอร้องให้วิมตามมาถึงที่นี่เพื่ออะไรกันแน่คะ พี่ชวินมีอะไรให้วิมดูหรืออยากจะพูดอะไร วิมว่ารีบ ๆ พูดมาเถอะนะคะ”

“ทำไมครับ กลัวนายคินรอเหรอ” เขาแสยะยิ้มราวหยันตัวเอง “ทานอาหารมื้อนี้ด้วยกันก่อนซิครับ แล้วพี่จะพาน้องวิมไปดูอะไรอีกอย่างที่พี่ตั้งใจทำไว้เพื่อน้องวิม”

แม้หญิงสาวจะรู้สึกอึดอัด แต่หากยังโอ้เอ้ชักช้าก็คงยิ่งลำบากใจไปมากกว่านี้ เธอจึงเริ่มลงมือทานอาหารบนโต๊ะ โดยมีชวินคอยบริการตักนั่นตักนี่ใส่จานให้เธอจนเกือบเต็ม ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วรสชาติของอาหารโรงแรมที่สั่งมาคงอร่อยล้ำมากแน่นอน หากยามนี้สำหรับคนทั้งสองดูจะไม่ได้พิสมัยกับรสชาติอาหารเอาเสียเลย มันฝืดคอแทบกลืนกันไม่ลงราวกับว่าเป็นอาหารมื้อที่ไม่อร่อยและขมสุดในชีวิต

เวลาผ่านไปไม่นานวิมวิพาก็อิ่ม ทั้งที่แทบนับคำของอาหารที่ตักเข้าปากได้เลย เธอรวบช้อนวางไว้ในจานก่อนยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ทุกอากัปกิริยาต่อหน้าชวินวันนี้ วิมวิพายอมรับเลยว่ามันเกรงเกร็งไปหมด ไม่เหมือนกับชวินคนที่เธอเคยอยู่ด้วยและรู้จักเมื่อครั้งก่อน ๆ วันนี้เขาดูเงียบขรึมเคร่งเครียด แต่เธอก็ไม่แปลกใจกับอาการของเขาหรอก แถมยังรู้ดีด้วยซ้ำว่าที่เขาต้องเป็นแบบนี้เพราะเธอคือต้นเหตุ

“วิมอิ่มแล้วค่ะ”

“งั้นทานของหวานก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้” ชวินขยับตัวหวังจะเดินไปหยิบขนมไทยร้านดังเจ้าอร่อย ที่จัดเก็บไว้ในตู้เย็น ทว่าพอเห็นหญิงสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เขาก็หยุดชะงักนั่งนิ่งตามเดิม

“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ชวินอิ่มแล้วเหมือนกันใช่ไหมคะ” เธอถามเพราะเห็นว่าเขาก็รวบช้อนกับซ้อมเรียบร้อยแล้วเช่นกัน นอกจากยกไวน์ขึ้นจิบเขาก็เหมือนจะไม่แตะต้องหรือทานอะไรอีกเลย “รีบพาวิมไปดูในสิ่งที่พี่ชวินต้องการให้วิมดูดีกว่านะคะ” เพราะไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ และถือว่าไหน ๆ ความจริงของเธอกับคฑาคินก็ถูกเปิดเผยแล้ว การที่เธอยอมทำตามใจชวิน เพื่อดูในสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้เธอ และเก็บความประทับใจนั้นไว้ในฐานะน้องสาว ก็คงจะทำให้ชวินรู้สึกดีขึ้นบ้าง

“ใจร้อนจังเลยนะครับ” ยิ้มเก๋ ๆ มุมปากนิดหนึ่ง “โอเค...งั้นเราก็ไปดูกันเลยดีกว่า” ชวินลุกเดินอ้อมไปหาหญิงสาว แตะข้อศอกเล็กเบา ๆ ให้ลุกขึ้นเดินตาม เขาพาเธอไปหยุดตรงหน้าห้องหนึ่ง ที่ปิดประตูสนิท วิมวิพาหันมองหน้าเขาเป็นเชิงถามว่านี่คือห้องอะไร ชายหนุ่มยิ้มอย่างไม่มีเลศนัยใด ๆ เขาตอบราวกับอ่านข้อสงสัยในแววตาสวยคู่ตรงหน้าออก “สิ่งที่พี่อยากให้น้องวิมดูอยู่ในห้องนี้ครับ”

วิมวิพาละล้าละลัง การเข้าไปในห้องนี้อาจจะทำให้ต้องใกล้ชิดกับชวินมากขึ้นซึ่งเธอไม่แน่ใจว่ามันจะสมควรเข้าไปดีหรือไม่ ทว่ากิริยาท่าทางของชายหนุ่มที่ดูไม่มีพิษภัย นอกจากความปรารถนาที่อยากจะให้เธอได้เห็นบางสิ่งที่ทำเพื่อเธอเท่านั้น จึงทำให้คนที่ตอนแรกกล้า ๆ กลัว ๆ ยอมเดินตามร่างโปร่งเข้าไปภายในห้อง

หญิงสาวคลี่ยิ้มทั้งน้ำตาคลอคลอง ชวินเป็นผู้ชายโรแมนติกและน่ารักอย่างที่เธอรู้จักไม่มีผิดเพี้ยน ห้องสี่เหลี่ยมโล่งกว้างขาวโพลนทั้งห้อง มีรูปใส่กรอบแขวนทั้งสองด้านผนังห้อง ประดุจนี่คือแกลลอรี่โชว์รูปถ่ายของวิมวิพาก็ไม่ปาน เพราะทั้งห้องนี้มีแต่รูปของเธอทั้งหมด จากภาพถ่ายที่เคยถ่ายไว้กับนิตยสาร มีทั้งที่ได้ลงในหนังสือและคัดทิ้ง หากก็มีหลายรูป อาจจะเป็นพวกนักข่าวแอบถ่ายเล่น ๆ ไว้ ชวินช่างไปสรรหารูปพวกนี้ได้มาเยอะมากมายเช่นนี้ได้อย่างไรกัน วิมวิพาหมุนตัวมองรอบห้องชื่นชมผลงานรูปตัวเองบนผนัง นึกพอใจกับความแสนเอาใจและโรแมนติกของชายหนุ่ม แต่กระนั้นก็ทำได้แค่เพียงบอกกับตัวเองในใจเท่านั้นว่า เธออยากจะรักชวินได้บ้างเหลือเกิน เพราะถ้าหากสามารถบังคับใจตัวเองได้จริง ๆ ชวินก็เป็นผู้ชายวิเศษควรคู่แก่การได้รับความรัก

“น้องวิมชอบไหมครับ”

“ชอบมากค่ะ สวยมาก แต่ทำไมพี่ชวินต้องทำขนาดนี้ด้วยละคะ ที่นี่บ้านพี่ชวินนะคะ แล้วเอารูปวิมมาติดเต็มไปหมด แล้วห้องนี้ก็เสียเนื้อที่ในการใช้งานไปเปล่า ๆ ซิคะ” เธอพูด ระหว่างนั้นก็ไปหยุดยืนเงยมองรูปถ่ายในกรอบรูปหนึ่ง ซึ่งมันคือรูปสมัยที่เธอเคยไปเต้นเปิดงานประกวดให้บริษัทของเขา รอยยิ้มแห่งความสุขและขบขันน้อย ๆ เกิดขึ้น ยามนึกถึงผู้ชายอีกคน คฑาคินวันนั้นเป็นวันแรกที่เธอเจอกับเขา ไม่มีแววตาเป็นมิตรให้อย่างที่ชวินมีเลยสักนิด แต่วันนี้เธอกลับมอบใจให้คฑาคินผู้ชายหน้าบูดคิ้วขมวดคนนั้นไปเสียแล้ว

หญิงสาวหลุดจากภวังค์ความคิด ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ ๆ ก็รู้สึกถูกสวมกอดจากด้านหลัง แขนใหญ่กระชับร่างเธอแน่นจนหลังบางเบียดซุกเข้ากับอกกว้าง

“ห้องนี้ไม่ได้เสียเนื้อที่ใช้งานหรอกครับ เพราะห้องนี้มันเป็นห้องแห่งความสุขและความรักที่พี่มีให้น้องวิม”

ร่างเพรียวบางดิ้นขลุก ๆ ในวงแขนแกร่ง ร้องขอเสียงสั่น “พี่ชวินปล่อยวิมเถอะค่ะ”

“น้องวิมรักพี่ไม่ได้จริง ๆ หรือครับ ทำไมละครับพี่มีอะไรที่สู้นายคินไม่ได้” คนถามยังไม่ยอมปล่อยร่างนุ่มนิ่มออกไปง่าย ๆ เขารู้สึกอยากจะทำอะไรก็ได้กับเธอ ให้มากกว่าการกอดรัดแค่นี้ด้วยซ้ำ ไวเท่าความคิดจมูกโด่งก็ซุกไซ้จู่โจมดอมดมสองแก้มใสนัวเนีย

วิมวิพาดิ้นสุดแรง พยายามจะกระทุ้งศอกแหลมไปด้านหลังแต่ตัวเธอกลับถูกกอดรวบแน่นจนขยับต่อไปไม่ไหว นอกจากเอี้ยวหน้าหลบเป็นพัลวัน “พี่ชวินเมามากแล้วนะคะ ปล่อยวิมเถอะค่ะ วิมขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลย”

“พี่ไม่ได้เมานะครับ พี่ชอบน้องวิม และก็คิดว่ารักน้องวิมแล้วด้วย” มือใหญ่จับไหล่เล็กสองข้างแล้วหมุนร่างบางให้หันมาหาเร็ว ๆ ก่อนจะพยายามกดจูบลงกับเรียวปากอวบอิ่ม หากวิมวิพาสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ยอมให้เขาทำตามอำเภอใจได้เช่นกัน

สองมือเรียวผลักกลางอกใหญ่แรง ๆ พร้อมทุบตีคนหน้ามืดเต็มกำลัง เท้าเล็กก้าวถอยหลังหวังให้ห่างออก แต่ด้วยแข้งขาที่อ่อนยวบทำให้เธอเสียหลักทรุดฮวบนั่งกองหมดแรง เพราะไม่คิดว่าชวินผู้ชายน่ารักแสนดี จะมีอารมณ์รักและพิศวาสในตัวเธอมากเพียงนี้ เขากำลังทำให้เธอกลัว ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะต้องถูกเขาหักหาญน้ำใจถึงเพียงนี้ เสียดายความรู้สึกที่ดี ๆ ที่มีต่อชวิน ไม่อยากเสียคำว่าพี่ชายที่น่ารักไปเพราะการกระทำของเขาตอนนี้เลยจริง ๆ

“พี่ชวินอย่า ! ” หญิงสาวร้องห้าม เมื่อร่างใหญ่คุกเข่าอยู่เหนือตัว เขาผลักให้เธอนอนยาวกับพื้นห้องโล่งกว้างที่มีแค่พรมนุ่มสีขาวปูไว้เท่านั้น มือเรียวตบตีคนตัวใหญ่ที่โน้มหน้าประพรมจูบทั่วใบหน้าและลำคอขาวของเธอ เสี้ยวนาทีต่อมาสองมือก็ปัดป่ายได้เพียงอากาศก่อนจะถูกเขากดแน่นตรึงราบอยู่ข้างลำตัว

ดวงตารื้นน้ำกะพริบปริบ รู้ว่าหมดกำลังจะต้านทานผู้ชายที่กำลังเยอะกว่าได้ไหว ไม่นะ ! เธอไม่อยากจะถูกข่มเหงน้ำใจจากชายคนที่ไม่ได้รัก เวลานั้นเองดวงตาที่เงยมองเห็นแต่ฝ้าเพดานก็เบิกขยายขึ้นอีกนิด ก่อนที่น้ำตาจะพากันไหลอาบลงสองข้างขมับ ภาพของเธอที่ถูกตัดต่อใส่ชุดนางฟ้าแสนสวย รูปภาพใบใหญ่สุดบนฝ้าเพดานนั้นทำให้ยิ่งรู้สึกสะเทือนในอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก เธอเข้าใจแล้วว่าชวินอาจจะชอบและหลงรักเธอมากอย่างเขาว่าจริง ๆ หัวใจคนจะบังคับได้อย่างไรกัน เธอห้ามเขาที่จะให้รักเธอไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องยอมให้เขาเอาคำว่ารักมากระทำเช่นนี้กับเธอได้เหมือนกัน

“พี่รักน้องวิมนะครับ” ชายหนุ่มกระซิบเสียงกระเส่า

“ไม่จริง ถ้าพี่ชวินรักวิม พี่ชวินคงไม่คิดจะขืนใจวิมอย่างที่ทำตอนนี้หรอก” คนที่ถูกกดนอนยาวกับพื้นกล่าวทั้งเสียงสะอื้นหนัก ๆ “พี่ทำให้วิมเป็นนางฟ้าอยู่ที่สูง มันหมายความว่าไงคะ ถ้าพี่ไม่ได้หมายความว่าอยากจะให้เกียรติวิม”

ชวินนิ่งคล้ายกับสะดุดกับคำพูดของเธอ ชายหนุ่มมองคนใต้ร่างแวบหนึ่งเห็นดวงตาฉ่ำน้ำจ้องเพดานนิ่ง จึงเงยหน้าขึ้นมองตาม หัวใจดวงใหญ่เย็นวาบและเจ็บแทบแตกสลายในเวลาเดียวกัน เขาเคยคิดว่าเธอสวยเหมือนนางฟ้าสุดเซ็กซี่ของเขา เคยคิดอยากให้เธอเห็นภาพนี้แล้วยิ้มสดใส ไม่ใช่ต้องมาเปื้อนรอยราคีที่เขากำลังจะยัดเยียดให้

“น้องวิม พี่...” เขาหันมาสบตาเธอนิ่ง

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่ชวินคิดว่าความสัมพันธ์ทางกายครั้งหนึ่ง คือความรักที่พี่อยากจะมอบให้วิม ก็ได้วิมยอม แต่ยังไงวิมก็รักพี่คินค่ะ ไม่มีเหตุผลว่าทำไม พี่คินไม่ได้ดีกว่าหรือทำอะไรให้วิมประทับใจกว่าพี่ชวินเลยสักนิด แต่เพียงแค่หัวใจเราสองคนตรงกันก็เท่านั้น” เธอกะพริบตาถี่ ๆ ไล่เงาน้ำ และจ้องเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มอย่างจะอยากให้ลึงถึงขั้วหัวใจ “สำหรับพี่ชวิน พี่คือพี่ชายที่วิมนับถือ แต่ถ้าพี่ชายยังอยากจะทำกับน้องสาวได้ลงคอ นางฟ้าของพี่องค์นี้ก็คงไม่ได้งดงามอีกต่อไปแล้ว...”

ชายหนุ่มอึ้ง เขาหลับตาแน่นข่มความรู้สึกทุกอย่างให้เย็นลง ก่อนจะลืมขึ้นแล้วโน้มหน้าต่ำเข้าชิดคนใต้ร่าง ปากหนาประทับจูบ ลงตรงมุมปากหญิงสาว ทว่ามันเต็มไปด้วยนิ่มนวลราวจะฝากจูบนี้ไว้แทนความรักครั้งหนึ่งที่เคยมี เพียงแค่เท่านั้นที่เขาเลือกทำ ก่อนจะขยับเบียงตัวลุกนั่งชันเข่าอยู่ข้าง ๆ ร่างบางที่นอนหลับตาปี๋ และเธอแทบหยุดหายใจ

“พี่ไม่อยากให้นางฟ้ามีรอยราคีหรอกครับ ขอโทษนะครับน้องวิม”

***--***--***--***--***--***--***

เสียงกดออดรัวเร็วพร้อมกับเสียงเคาะประตูติดกันดัง ๆ ไม่หยุด ทำให้เจ้าของห้องคอนโดหรูรู้ว่าคือใคร ชวินรีบไปเปิดประตูและเขาเกือบจะหลบคนที่พุ่งตัวกระโจนเข้ามาหาแทบไม่ทัน

“พี่ชวินวิมอยู่ไหน ! ” คฑาคินตะโกนถามดังลั่น หันรีหันขวางอยู่พักหนึ่ง แล้วเดินกวาดตามองหาวิมวิพาทั่วห้องกว้างของญาติผู้พี่ “ผมถามว่าอยู่ไหน”

“ในห้องนอน” เจ้าบ้านตอบเสียงเรียบพลางยิ้มยียวน ไม่ได้กลัวว่าจะเจ็บตัวจากหมัดของคฑาคินเลยสักนิด เพราะเขาต้องการให้น้องชาย ต่อยเขาคืนสักหมัดสองหมัดเป็นการลงโทษที่เกือบทำลายหัวใจของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

คฑาคินกัดกรามแน่น หันมองมาดวงตากร้าว เขากำหมัดทั้งสองเข้าด้วยกันแน่น ทว่าพอเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ที่เดินออกมาจากมุมตรงห้องน้ำ ทำให้ชายหนุ่มชะงักงัน

“วิม พี่ชวินทำอะไร บอกพี่มาซิ ทำให้หูตาแดงอย่างนี้ หัวเปียกหน้าเปียกไปหมด” คฑาคินปรี่เข้าไปลูบศีรษะและใบหน้าหญิงสาวที่เปียกปอนออกมาจากห้องน้ำ ใจคอไม่ดีเลยกับสภาพของเธอที่ดูยับเยิน จนเขาไม่อยากคิดว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ระหว่างเธอกับชวิน

“วิมร้อนก็เลยไปล้างหน้าในห้องน้ำ พี่คินทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนี้ด้วยละคะ” เธอยิ้มเกรง ๆ มองชวินก็เห็นว่าเขากระตุกยิ้มกับคำพูดแก้ตัวของเธอ ที่จริงเธอไปล้างหน้าเพราะเปื้อนคราบน้ำตาต่างหาก

“แล้วทำไมเสื้อผ้ายับอย่างนี้ พี่ไม่เชื่อว่าสภาพแย่ขนาดนี้จะ...”

“จะทำไมคะ คิดว่าวิมกับพี่ชวินมีอะไรกันอย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวกระชากเสียงใส่คนที่ตะคอกดุดันกับเธอก่อน

“หรือมันไม่จริงละ อยู่ดี ๆ ก็ตามกันมาถึงคอนโด” คฑาคินถลึงตาด้วยความโมโห เดินดิ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อญาติผู้พี่เต็มแรง “พี่ชวินโกรธผมก็ลงกับผมซิ ทำไมต้องลากวิมมาด้วย อยากจะเอาคืนผมใช่ไหม พี่คิดว่าผมแย่งวิมมาจากพี่ใช่ไหม ! ”

“นายคินปล่อย” น้ำเสียงสั่งนั้นเรียบนิ่ง เขาเบือนหน้าเบื่อหน่ายกับคำพูดของญาติผู้น้อง เขาไม่ได้อยากจะเอาชนะคฑาคิน แต่ที่พาวิมวิพามา ก็เพราะอยากจะเอาชนะใจหญิงสาวต่างหาก แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจ เขาก็กำลังจะยอมรับความจริงที่เจ็บปวดอยู่และไม่อยากจะต้องมีปากเสียงกับคฑาคินอีกต่อไปแล้ว “บอกให้ปล่อยคอเสื้อไง นี่พี่ชายแกนะ แกคิดจะต่อยหน้าพี่ชายของแกเพราะเรื่องผู้หญิงเลยรึไง”

“ทีพี่ชวินละ กล้าต่อยหน้าผมเพราะเรื่องผู้หญิงคนเดียวเลย พี่ยังเห็นว่าผมเป็นน้องอยู่หรือเปล่า” ตะคั้นตะคอกเสียงดังลั่น และคงลืมไปว่าผู้หญิงคนที่ว่าก็ยืนหัวโด่อยู่ทนโท่

วิมวิพาหน้ามุ่ย เบ้าตาร้อนผะผ่าว เธอนี่ช่างน่ารำคาญ เป็นตัวปัญหาสร้างความร้าวฉานให้พี่น้องเขาจนมีปากเสียงแตกแยกกันจนได้

“เลิกทะเลาะกันสักทีเถอะค่ะ ถ้าเรื่องทั้งหมดมันเกิดเพราะวิม วิมจะไปจากครอบครัวพวกพี่เอง จะได้จบ ๆ สักที” ชายหนุ่มสองคนหันขวับมองมาพร้อมกันราวกับนัดไว้ “วิมเป็นแค่คนนอก มาทีหลังไม่ควรจะมาสร้างปัญหาให้กับคนในครอบครัวคนอื่นแบบนี้ แต่ถ้าพวกพี่สองคนอยากจะทะเลาะกันต่อก็ตามสบายนะคะ วิมถือว่าที่เหลือไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับวิมแล้ว และจะไม่รับรู้รับทราบอะไรต่ออีกทั้งสิ้น” หญิงสาวก้าวฉับ ๆ เดินไปหยิบกระเป๋าของตน แล้วตรงไปเปิดประตูออกจากคอนโดโดยเร็ว ทิ้งให้คนมองตามยืนงงงันหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ซวยแล้วซินาย คราวนี้ตัวใครตัวมัน แฟนใครก็ไปง้อเอาเองเถอะ” ชวินว่า แล้วกระชากคอเสื้อตัวเองกลับ เดินไปยวบตัวนั่งโซฟาพาดแขนยาวตามที่พิงหลัง ราวกับสบายอุราเต็มประดา ครั้นคฑาคินหันมาทำหน้าประหลาด ญาติผู้พี่ก็ยิ้มล้อเลียนใส่ตา “จะมายืนงงอยู่ได้ รีบไปง้อซิ ถ้านายไปช้า แล้วพี่ตามน้องวิมทัน คราวนี้นายไม่มีทางได้น้องวิมคืนแน่”

***--***--***--***--***--***--***

คฑาคินวิ่งตามร่างบางที่เดินตัวปลิวจ้ำอ้าวไม่มีสะดุดหรือชะลอฝีเท้าลงสักนิด มือหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือแนบหูเหมือนกำลังคุยกับใคร เธอไม่สนใจเสียงเรียกของชายหนุ่มซึ่งตะโกนตามหลังมา หากใช้มืออีกข้างที่ว่างโบกแท็กซี่คันแรกที่เธอเห็นว่าว่างทันที

“วิมหยุดก่อน จะไปไหน” ชายหนุ่มตามทันมารั้งเอวคอดไว้พอดี “ไม่ต้องไปแท็กซี่หรอก กลับบ้านพร้อมพี่นะ...”

“วิมมีธุระไปต่อค่ะ พี่คินกลับก่อนเถอะ” คางมนเชิดเล็กน้อย สะบัดงอน ๆ

“โกรธพี่ใช่ไหมครับ พี่ขอโทษนะ พี่กับพี่ชวินไม่ได้คิดว่าวิมเป็นคนนอก...”

“แต่คิดว่าวิมเป็นตัวปัญหา เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะวิม พี่คินปากเจ่อโดนต่อยแบบนี้ก็เพราะวิมไม่ใช่หรือคะ” นิ้วเรียวจิ้มแรง ๆ กับมุมปากหนาที่ช้ำฉุ

“โอ้ย ! เจ็บนะครับ” คฑาคินเบือนหน้าหลบ แต่แขนทั้งสองก็ไม่ได้จะปล่อยห่างจากเอวบางเลย เขายิ่งกอดแน่นไม่สนใจคนขับรถแท็กซี่ที่มาจอดนิ่งรออยู่แล้ว “โกรธก็ควรหันหน้าพูดกันซิครับ อย่างหนีพี่อย่างนี้ โทษนะครับพี่ แฟนผมไม่ได้แล้ว” ท้ายประโยคตะโกนบอกคนขับที่เริ่มทำหน้ายุ่ง เลื่อนกระจกรถชะเง้อมองผู้โดยสาร

“อย่าพึ่งค่ะพี่ ไปค่ะ ไป” หญิงสาวรีบหันไปเบรกคนขับแท็กซี่วัยกลางคนไว้ก่อนที่จะเคลื่อนรถออก แล้วค้อนขวับให้คฑาคิน “ปล่อยวิมได้แล้ว วิมไม่ได้โกรธพี่คิน แต่วิมมีธุระจริง ๆ ค่ะ”

“ธุระอะไร ที่ไหน กับใคร”

“ถามจู้จี้เป็นผู้หญิงไปได้ วิมมีคนทาบทามไปเล่นละคร ก็เลยจะแวะไปดูบทที่บ้านพี่เขา”

“ไปตอนนี้เลยเนี้ยนะ งั้นพี่ไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ วิมไม่อยากเป็นข่าว” ส่ายหน้าเร็ว ๆ “ไม่ต้องตามไป รับรองวิมกลับเข้าบ้านไม่เกินห้าทุ่มแน่”

ชายหนุ่มปล่อยเอวคอด ยกนาฬิกาข้อมือตัวเองขึ้นดู “แต่นี่มันสี่โมงเย็นอยู่เลย ถ้าจะไปจริง ๆ ก็ควรจะเข้าบ้านก่อนทุ่ม ถ้าเกินนี้พี่ก็ไม่อนุญาตให้ไปแล้วล่ะ”

คนถูกออกคำสั่งถอนหายใจยาว หน้ามุ่ย “ก็ได้ค่ะทุ่มก็ทุ่ม งั้นก็ปล่อยให้วิมไปได้แล้วใช่ไหมคะ วิมไม่อยากให้ผู้ใหญ่รอ”

คฑาคินทำหน้าคล้ายจะยอม แต่ก็ยังไม่วายถามต่อด้วยน้ำเสียงหงอย ๆ อย่างคนกลัวถูกทิ้ง “วิมไม่โกรธพี่จริง ๆ ใช่ไหมครับ ไม่คิดจะหนีพี่ไปอย่างที่พูดเมื่อกี้หรอกใช่ไหม พี่กลัวว่าวิมจะหนีไปอยู่อังกฤษกับคุณพ่อวิมจริง ๆ”

วิมวิพาคลี่ยิ้มน้อย ๆ “วิมไม่ได้จะหนีไปไหนหรอกค่ะ ไม่ได้โกรธ แต่รำคาญพวกพี่ทะเลาะกัน ก็เลยพูดไปอย่างนั้นแหละ ก็วิมเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมดจริง ๆ นี่ค่ะ ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธหรือโทษใคร”

“ใช่ตัวต้นเหตุไม่มีสิทธิ์หนี ต้องอยู่รับผิดชอบหัวใจพี่ก่อน” ยิ้มใส่ตาคู่โตวาว แล้วกดจมูกขโมยหอมแก้มใสเร็ว ๆ ไปที

“พี่คินเล่นบ้า ๆ” หญิงสาวสะบัดเสียงดุ หันไปมองคนขับที่จอดรถรออีกครั้ง ก็เห็นว่ากำลังออกรถและแล่นฉิวหนีไปเสียแล้ว เพราะมัวแต่ง้องอนกัน ปล่อยแท็กซี่รอนานจนเขาเคือง ไม่โดนคนขับปาอะไรใส่หน้าหรือด่าทอด้วยคำหยาบคายก็ถือว่าบุญคุ้มมากเลยเชียว “พี่คินมัวแต่เล่นไม่เข้าเรื่อง เห็นไหมคะพี่คนนั้นเขาเลยโกรธไม่รอวิมแล้ว”

“ก็ช่างเขาซิครับ ให้พี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้”

“ไม่ค่ะ” เธอตอบเสียงเขียว “ถ้าเซ้าซี้จะไปกับวิมอีก วิมจะโกรธจริง ๆ แล้วนะคะ”

เขายกมือทั้งสองขึ้นเหมือนยอมแพ้ “ก็ได้ ก็ได้ครับ พี่อนุญาตให้ว่าที่นางเอกไปรับงานได้ แต่ต้องเอาบทกลับมาให้พี่ดูก่อนนะ อย่าพึ่งตอบรับเขาละ อ้อ...แล้วก็ห้ามกลับช้ากว่าที่ตกลงกันไว้ หนึ่งทุ่มนะครับ ถ้าช้าแม้แต่นาทีเดียวจะต้องถูกลงโทษ แล้วห้ามงอแงด้วยละ เวลาพี่ทำโทษน่ะ” สายตาเจ้าเล่ห์พร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำอีกฝ่ายอยากจะเอานิ้วจิ้มตาแรง ๆ นัก




กันเหงา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.ค. 2555, 20:08:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.ค. 2555, 20:08:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1398





<< ตอนที่ 27 เล่ห์สลับขั้ว   ตอนที่ 29 เล่ห์สลับขั้ว >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account