หนาวไฟพิศวาส
การพูดเล่นโดยไม่คิดถึงใจคนฟัง นำมาซึ่งความปวดร้าวสุดชีวิตให้กับชายสองคน คนที่ต้องสูญเสียคนรักไปตลอดการ ภูชิสะต้องการดับไฟแค้นของตัวเองด้วยการสั่งสอนให้มีนาได้รู้รสของความเจ็บปวด เขาต้องการเห็นหญิงคนนี้ตายตกตามไปกับน้องชายของเขา หากว่า มีนากลับต้องการทวงแค้นนั้นคืน หากว่า เธอกลับได้รับรู้ว่าทำไมภูชิสะจึงทำอย่างนั้นแม้เปลวไฟยังให้ความร้อนไม่ได้นอกจากยิ่งใกล้ ยิ่งหนาวนัก
Tags: แค้น แสน แค้น

ตอน: เหยียบถิ่น


ในเวลาเดียวแต่ต่างกันที่สถานที่ สามสาวบ้านนกยูงมาพักผ่อนยังสถานที่ตากอากาศ
ดวงอาทิตย์สาดแสงส่องกระทบน้ำทะเลเกิดแสงสะท้อนเป็นสีทองงามระยับบนโขดหินสูงราบมีร่างของมีนานั่งกอดเข่า แนบคางลงบนนั้น ข่าวการเปิดประกาศรับผู้จัดการการตลาดฝ่ายต่างประเทศ ของบริษัท พี มิคล์ ทำให้มีนาคิดเรื่อง การเดินหน้าเข้าไปทำลายพี มิลค์ ให้ได้ตามความคิดของเธอ และในเวลานี้ในมือเรียวเล็ก หากนุ่มนวลมีแท่งตรวจวัดการตั้งครรภ์
เด็กน้อยที่ไม่ตั้งใจให้เกิดทั้งพ่อและแม่ได้เกิดมาแล้ว หากคำนวณไม่พลาด เขามีอายุได้สองเดือน แม่ใจง่าย และพ่อจอมลวงโลกได้สร้างเขาขึ้นมาแล้ว ต่อไปเล่าชีวิตน้อยๆนี้จะทำอย่างไร อยู่โดยมีแม่และป้าเลี้ยงดู แน่นอนว่าหากกันยาทราบ พี่สาวจะประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหิน แต่ ภูชิสะจะไม่ได้รับอะไรตอบแทนบ้างเลยหรือ เธอเคยคิด แล้วทำไมจึงหยุดไปไม่คิดต่อ ปล่อยเวลามากระทั่งรู้ตัวแล้วว่าตั้งครรภ์ เธอยังอยากที่จะทำให้อีกฝ่ายพินาศล่มจมอีกหรือเปล่า...อยากสิ อยากมากเสียด้วย มีนาตอบตัวเองอย่างมั่นคงมากกว่าเดิม
ภูชิสะต้องเจ็บร้อยเท่าพันทวี นมแปรรูปที่ได้รับการยอมรับว่าสินค้าไทยมาตรฐานโลกตัวนี้ แท้ที่จริงมีปัญหา และปัญหามาจากตัวสินค้า ไม่ใช่ฝีมือของเธอ
มีนาขยับตัว เธอหายใจเร็วกว่าปกติ เพราะมีอีกชีวิตอยู่ในร่างกาย เธอรักเขา รักลูกของเธออย่างไม่รู้ว่าทำไมจึงรักได้มากเพียงนี้ แม้จะเคลื่อนไหวแต่ละก้าว ยังเต็มไปด้วยระมัดระวัง...อย่าเสียดายถ้าหนูจะไม่มีพ่อเหมือนคนอื่น แต่หนูจะมีแม่ที่แสนรักหนูอย่างสุดหัวใจ คนดี รอมาเจอแม่ ไม่กี่เดือนนี้ รอก่อน!!
กันยาและนุ่มช่วยกันเก็บของใช้ใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับ ยังไม่วายบ่นตามประสาว่า
“ฉันเหลือวันลาอีกกี่วันล่ะนี่ วันหยุด ลากิจ พักร้อน เอ๊ย แม้แต่ลาป่วยฉันยังเหลืออีกเพียงสิบห้าวัน”
“คุณมายจะมาตามลำพังคุณเมย์ก็ไม่ยอม ลาหยุด ลากิจมาเฝ้าคุณมายเอง แล้วบ่นเสียดายวันหยุดทำไมล่ะคะ”
“ฉันไม่เสียดาย” นายสาวกระแทกเสียงด้วยความห่วงใย “แต่ฉัน อยากเก็บวันหยุดไว้เยอะๆ”
“ปีที่แล้วไม่ค่อยได้หยุด เขาไม่เอามาทบให้เลยหรือคะ”
กันยาเบือนหน้าไปยิ้มขำกับความซื่อของแม่บ้าน ระหว่างนั้นมีนาเดินเข้ามาในบ้าน พี่สาวยิ้มเป็นกำลังใจให้น้องสาวเช่นเคย แต่บ่นอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
“มายดูผอมลงไปผิดตาเลยนะ ทำไมไม่กินให้มากล่ะ เดี๋ยวขากลับแวะกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านกระท่อมริมทางก็ได้นะ เจ้าโปรดของมายนี่นา”
พอฟังคำว่าเนื้อ มีนากลับรู้สึกผะอืดผะอมแทนความอยากกินอย่างที่เคย
“ไม่กินดีกว่าค่ะพี่เมย์”
“แล้วจะกินอะไร เธอผอมมากไปหรือเปล่านี่ ไหปลาร้าใส่น้ำได้เป็นขันแล้วรู้มั้ย”
“ตัวเล็กๆอย่างพี่เมย์ก็สวยดีนี่คะ” น้องสาวเปลี่ยนบรรยากาศ “อรชรอ้อนแอ้น น่าหาสามีได้แล้ว”
“นี่ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ตกลงขากลับจะกินอะไร”
“ซาลาเปาไม่มีไส้ กับนมสดสามแก้ว”
อาหารที่มีนาโพล่งปากบอกออกไป ไม่คุ้นหูพี่สาวว่าอีกฝ่ายชื่นชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อมีนาพูดออกไปแล้วเจ้าตัวอยากกินจนน้ำลายสอทีเดียว
“นะพี่เมย์ หมั่นโถสักสามลูกเมย์ก็กินหมดลูกใหญ่ๆเลยก็ได้ค่ะ”
“ตรงไหนมีล่ะ ผ่านแถวนี้มาตั้งแต่พ่อแม่ยังไม่เสีย ไม่เคยเห็นว่ามีเลย”
“เอาซาลาเปาไส้ครีมมากินแต่แป้งก็ได้ค่ะ แต่นมสด เอานมสดนะคะ”
กันยานึกขำกับอาการอยากของน้องสาว เธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า เห็นเด็กหญิงวัยประถมจอมเฮี้ยวมานั่งร้องขอโน่นขอนี่ พอพี่สาวไม่ยอม ก็นอนหนุนตักเสียเฉย เวลานี้มีนาซบแก้มกับไหล่พี่สาว พลางทำตาปริบๆเหมือนแมวหมดมาดซน
“นี่ถ้าต้องไปซื้อถึงดาวอังคารคุณเมย์คงรีบไปแล้วล่ะค่ะ”นุ่มแซวเจ้านาย “ลองคุณมายอ้อนขนาดนี้”
ซาลาเปาไม่มีไส้หายากมาก แต่สุดท้าย กันยาก็ถามหาจนไปได้ที่ร้านอาหาร ขาหมูหมั่นโถว แต่เธอเลือกซื้อแต่หมั่นโถวใส่ถุงมาหลายลูก มีนาได้กลิ่นแป้งแล้วน้ำลายสอ ส่วนนมสด พี่สาวคนดีใช้วิธีอุ่นใส่แก้วมาให้น้องสาว
มีนากินได้อย่างเอร็ดอร่อยจนน่าแปลกใจ
“เอาอีกมั้ย”
“อิ่มแล้วค่ะ นุ่มเอาไปกินบ้างมั้ย”
“ทีเมื่อกี้ไม่ชวน สงสัยหวงนะเนี่ย” นุ่มแซว มีนาสะอึกในคอ เพราะเธอกลัวใครแย่งกินจริงเสียด้วย กระทั่งกินไม่หมดแล้วถึงได้เห็นคนรอบข้าง “ยังกะคนท้องเลย”
“นุ่ม” มีนาเรียกอีกฝ่ายอย่างตกใจ กันยาเหลือบมองทางกระจกหลัง ท่าทางจืดเจื่อนของมีนาชวนให้พี่สาวสงสัยขึ้นมาแล้วเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อมาถึงบ้านแล้ว กันยาจึงเลยเข้าไปในห้องของน้องสาว มีนาหยุดชะงัก ก่อนถอนใจขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยปากกับพี่สาวว่า
“มายไม่ได้ท้องหรอกค่ะพี่เมย์ แต่มายกำลังจะบอกพี่เมย์ว่า มายจะไปหาภูชิสะ”
“อะไร จะไปหาอ้ายผีทะเลนั่นหรือ เธอจะบ้าหรือไง ไม่เอา ไม่ให้ไป เป็นตายยังไงก็ไม่ให้ไป”
ขอดีดีไม่มีทางให้ไปแน่ และถ้าบอกว่าจะไปเพื่อเอาแค้นคืนกลับ พี่สาวของเธอคงเลือกที่จะไปยิงผู้ชายคนนั้นแทนน้องสาว มีนารู้ใจ รับรู้ในความรักของพี่สาว ดังนั้นไม่มีทางใดอีกแล้วที่จะทำให้พี่สาวคนดีตัดใจจากน้องเหลวไหลคนนี้ได้นอกจากโป้ปด
“มายคิดถึงพี่ภูค่ะ”
“มาย”
“มายทนคิดถึงเขาไม่ไหวอีกแล้ว มายอยากไปหาพี่ภู”
“ยัยบ้า นี่เธอพูดเล่นใช่มั้ย ไม่มีทางที่...”
“พี่เมย์เป็นสาวพี่เมย์ไม่ทราบหรอกค่ะว่าคนที่เคยแล้วมีความรู้สึกยังไง”
“มีนา” กันยาตวัดฝ่ามือตบแก้มน้องสาวเต็มแรง
เผียะ
มีนาหน้าหันไปตามแรงตบของพี่สาว เธอเจ็บ แต่ทนดื้อ
“ตีมายให้ตายมายก็จะไปหาพี่ภูค่ะ ไปทำให้เขารักเขาหลง”
“น้ำเน่า ยัยมีนาเธอหยุดคิดบ้าๆเดี๋ยวนี้นะ”
“มายอยากนอนกับเขา พี่เมย์เข้าใจมั้ยคะจะให้มายนั่งอยู่กับบ้านอย่างนี้มายทนไม่ได้”
“เธอมันบ้าผู้ชาย”
“พี่เมย์จะด่าว่ามายยังไงก็ตามค่ะ แต่มายขอยืนยันมายจะไป”
“ถ้าเธอก้าวออกไปจากที่นี่ บ้านนี้พี่จะปิดตาย”
กันยาน้ำตาร่วงรินซึมไหลผ่านกรอบแว่น มีนา เบือนหน้าไปทางอื่นอย่างเจ็บช้ำน้ำใจที่สุดที่ทำร้ายหัวใจคนเป็นพี่สาวได้มากเพียงนี้ แต่ไม่พูดแรงอย่างนี้ กันยาคงไม่มีทางยอมปล่อยเธอให้ไป
...เธอต้องการเอาคืนการกระทำของภูชิสะ สักวันพี่สาวจะเข้าใจ วันนี้มีนาได้แต่กราบขอโทษพี่สาวในใจ
และในที่สุด หญิงสาวซึ่งกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆก็จากไปจนได้ มีนาทิ้งให้กันยาแค้นทั้งผู้ชายและน้องสาวเกินกว่าจะทำใจได้ ในที่สุดหญิงผู้พี่จึงปิดประตูบ้านนกยูง และขนของออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นจริง
ตัดขาดจากน้องสาว เพราะถ้ามีนากลับมาเธอจะไม่พบพี่สาวของเธออีกเลย!!!

ที่ออฟฟิศ พีมิคล์
ยุทธนาแทบหยุดหายใจเมื่อพบผู้มาสมัครงานตามป้ายประกาศงานเธอเดินเข้ามาที่ห้องของเขาอย่างมาดมั่นทำหน้าผิดหวัง เมื่อเจอเขาจนชายหนุ่มแปลกใจแต่ก็ถามธุระ
“สมัครงานค่ะตามป้ายประกาศ” น้ำเสียงใสกล่าวระบายยิ้มหวานปานจะหยด เธอจะรู้บ้างไหมหัวใจของเขาแทบขาดรอน ๆ
“เขียนใบสมัครทิ้งไว้ก่อนสิครับ คุณทำข้ามขั้นตอน”
“ขอโทษค่ะ ดิฉันเป็นคนต่างจังหวัดอยากทราบผลในทันทีว่ามีหวังมั้ย คุณเป็นผู้จัดการใช่มั้ยคะ”
“ครับ”
“คุณคงจะตอบได้ ขอเพียงคุณพิจารณาเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“จะไม่ให้เวลาผมพิจารณารายละเอียดบ้างเชียวหรือ”
“ดิฉันไม่อยากตกงานนานค่ะ เพราะต้องระมัดระวังการใช้จ่าย” เธอตอบซื่อตามจริงเธอเดินหน้ามาอย่างยอมตายดาบหน้า มีเงินติดตัวมาไม่มากนัก
และเพราะความสวยสะดุดตา แก้มใสระเรื่อชมพูน่าแตะต้อง ทำให้ยุทธนาสงสาร เขาเองก็จัดแจงตำแหน่งในดวงใจให้ไว้แล้ว ดังนั้นนั่งพิจารณาคุณสมบัติของเธอเป็นพิเศษอีกหน่อย ระหว่างที่กำลังอ่านรายละเอียดประวัติของมีนา เขาก็ชวนคุยไปด้วย
“แล้วคุณพักอยู่ที่ไหน”
“ดิฉันพึ่งย้ายมาในวันนี้ด้วยกรเป๋าใบเดียว กำลังหาที่พักราคาย่อมอยู่ค่ะ”
ชายหนุ่มหน้าตาดีมองหลักฐานการศึกษาและสำเนา ซึ่งมาจากเมืองกรุง ซึ่งนับได้ว่าเป็นต่างจังหวัดของที่นี่
“คุณพูดได้สามภาษา”
“ค่ะ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สอบได้เกรดตามใบประกาศนั้นค่ะ”
“แต่คุณไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานจริง”
“แต่ดิฉันฝึกงานในส่วนราชการเป็นล่ามตามใบรับรองผล”
“ทำไมไม่รับราชการล่ะครับ”
“เงินไม่พอใช้หรอกค่ะ ดิฉันคิดว่าที่นี่เงินคงดีกว่ามาก ดิฉันไม่ชอบทำงานในแวดวงที่ไร้อิสระอย่างในส่วนราชการค่ะ”
“นั่นสิครับ การติดต่อกับทางราชการก็เป็นเรื่องน่าเบื่อไม่น้อยเหมือน” ยุทธนากล่าวอย่างอารมณ์ดี มีนายิ้มในสีหน้าเล็กน้อย รู้สึกเหนื่อย แต่ทน
“คุณพร้อมจะเริ่มเมื่อไหร่ล่ะ”
“หมายความว่าดิฉันสอบผ่านใช่มั้ยคะ”
“ก็ต้องทดลองงานตามปกติครับ”
“ดิฉันพร้อมทำงานพรุ่งนี้ค่ะ เพราะวันนี้คงหาบ้านพักใกล้ๆที่ทำงาน ดิฉันไม่มีรถ”
“ที่พักใกล้ ๆ นี้ไม่มีหรอก นอกจากบ้านพักของผม” ยุทธนาไม่มีเจตนาเจ้าชู้ เพราะเขากล่าวมาจากใจจริง และคิดว่าหญิงสาวคงจะเหนียมอายหรือปฏิเสธ แต่เขาคะเนผิด เพราะมีนาต่อรองทันทีว่า
“คุณจะแบ่งให้เช่ามั้ยคะ”
“เอ่อ”
“ตกลงแบ่งเช่ามั้ยค่ะ”
“คุณไม่กลัวเลยหรือ”
“ดิฉันต้องกลัวอะไรล่ะคะ” หญิงสาวย้อน เพราะเธอไม่กลัว เธอมาเพื่อสู้ ไม่ใช่เพื่อหวาดหวั่นต่อภัยอันตราย แม้กับผู้ชายก็เถอะ
ชายหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมกับตัดสินใจแน่วแน่เช่นกันเขาจึงตอบตกลง
“ผมให้พักแบ่งคนละครึ่งหลังก็แล้วกัน ไม่ต้องเสียค่าเช่า เอาเป็นว่าเป็นสวัสดิการก็แล้วกัน ตกลงผมจะพาคุณไปดูบ้านและพัก ก่อนเริ่มงานในวันพรุ่งนี้”
“ได้ค่ะ”
ยุทธนาปลื้มไม่น้อย ที่บทจะได้คนมาช่วยงานก็ได้ดังใจทีเดียว สวย คล่อง และดูเก่งมากเสียด้วย ชายหนุ่มพาว่าที่ผู้จัดการติดต่อฝ่ายต่างประเทศ ไปยังรถกระบะสี่ประตูสีขาวของเขา จากนั้นจึงพาเดินทางไปยังที่พัก วึ่งอยู่ห่างจากออฟฟิศสามสิบกิโล
ภูเขาแนวยาวซ้อนกันสามลูก ยังดูเป็นป่าสมบูรณ์อยู่ เป็นแนวหลังของบ้านทรงสเปน ดูโรเเมนติก และเป็นบ้านชายโสดแท้จริง เพราะของบางอย่างยังทิ้งเกลื่อน ดูท่าทางไม่มีผู้หญิงมาร่วมชายคาเลยสักคนเป็นแน่
มีนาก้าวลงจากรถปิกอัพ โดยที่ยุทธนาเดินนำเข้าตัวบ้าน บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาไม่หยุด
“เอ่อผมจ้างแม่บ้านเป็นรายวัน บ้านมีสองห้อง ห้องนอนของผมห้องหนึ่ง ส่วนอีกห้องเป็นห้องรับแขก ทำเผื่อไว้ครับ ส่วนใหญ่แล้วไม่มีมาพักหรอกครับ อยู่ตรงข้ามกัน ห้องน้ำและห้องครัวอยู่ด้านในสุดครับ ว่าแต่ไม่กลัวเอ่อ..จริงๆหรือ”
“ไม่ค่ะฉันเชื่อคุณ” เธอบอกอย่างเชื่อมั่น
เพราะหากเกิดเรื่องร้ายกับเธออีกเธอจะไม่นิ่งเฉยอีกแล้ว เพราะตารางไม่ได้มีไว้ขังสุนัขสักตัว
ยุทธนาหันมาถามด้วยความกังวลเล็กน้อย
“คงอยู่ได้นะผมจะหาเครื่องใช้ส่วนตัวของคุณมาให้ทีหลัง”
“ถ้ากรุณาพาดิฉันไปซื้อในวันนี้ก็ได้ค่ะ” เธอไม่เกรงใจและเขาก็ยินดีบริการน่าแปลกที่เขากระชุ่มกระชวยอย่างเห็นได้ชัด
ยุทธนาพาหญิงสาวเข้าไปในห้าง ซึ่งอยู่ในตัวเมือง เจ้าของห้างคือสุภาพ เพื่อนของภูชิสะ มีนาเลือกดูเฉพาะของใช้จำเป็น โดยที่ยุทธนารอคอยอย่างมีมารยาท
กว่าจะช่วยกันจัดบ้านเสร็จก็เกือบมืด ยุทธนายกเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มมาตั้งเพื่อเลี้ยงรับ
“ยินดีต้อนรับผู้ช่วยคนใหม่ครับ”
“ค่ะหวังว่าดิฉันคงจะผ่านงานนี้นะคะเรียกมีนาก็ได้ค่ะ”
“คุณมีนาตั้งใจทำงานสิครับ แต่ขอเตือนนะครับถึงจะพักที่นี่ แต่ก็ไม่มีระบบเส้นสาย นายผมจริงจังแล้วก็ดุมาก”
ใช่นายของคุณเป็นคนจริง และใจร้ายที่สุดด้วยเธอจะมาท้าทายคนที่สร้างตราบาปให้กับชีวิตเธอ และเธอได้เข้ามาแล้ว เข้ามาเพื่อให้รู้วิธีจัดการอย่างแยบยลที่สุด เพื่อไม่ให้สิ่งที่จะทำสาวมาถึงตัวเธอได้

ชุดทำงานคือกางเกงใดก็ได้กับเสื้อคลุมสีขาวคลุมต้นขา แม้หญิงสาวแต่งกายเรียบง่าย ดวงหน้างามระบายสีสันเพียงบางๆด้วยลิปติกสีเนื้อ แก้มสีชมพูระเรื่อของเธอไม่ต้องใช่สีใดแต่งแต้มอีกเลย นอกจากแป้งเนื้อเนียน เพียงแค่นั้นยังปิดความสวยงามของเธอไม่ได้ ที่สำคัญมีนาทำงานเก่งและ รู้ไว หัวดี อย่างที่ยุทธนาวางใจ
ครึ่งเดือนผ่านไป มีนากำลังหาช่องทางติดต่อกับผู้ค้าต่างชาติ เวลานั้นกำธรแวะมาหาเพื่อนที่บริษัทแต่พบสาวสวยในชุดพนักงานมิได้สวมหมวก นั่นอยู่ในห้องผู้จัดการ ซึ่งโดยปกติ ยุทธนาทำงานตามลำพัง แยกห้องกับภูชิสะ และภูชิสะไม่ได้เข้ามาในบริษัทกว่าครึ่งเดือนแล้ว เพื่อนไม่รู้จึงได้มาตามหา และพบสาวสวยที่ทำให้กำธรแพทย์หนุ่มชะงักเท้า หัวใจกระตุกวูบทีเดียว
มีนาช้อนตาขึ้นมองผู้ที่เปิดห้องเข้ามาอย่างถือวิสาสะ หมอกำธร ยิ้มกว้าง ทักหญิงสาวไปว่า

“เอ่อขอโทษครับ ภูชิสะ มาที่นี่หรือเปล่า”
“ไม่เคยมาค่ะ อยู่แต่คุณต้อม ให้ช่วยอะไรมั้ยคะ” เธอสร้างไมตรีด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย หมอหนุ่มสะท้านทรวงประหลาดรอยยิ้มหวานรับดวงตาเปล่งประกาย
“ผมเป็นเพื่อนภูชิสะ ชื่อกำธร คุณล่ะครับเป็นพนักงานใหม่หรือผมไม่เคยเห็น”
“ทำงานได้สองอาทิตย์แล้วค่ะชื่อมีนา”
“ชื่อเพราะจัง”
“คล้องกับคุณกำธรเลยนะคะ” เธอเอ่ยแล้ว ยิ้มเล็กน้อย ซึ่งหมอหนุ่มคิดว่า มันคล้องกันตรงไหน มีนา กับกำธร
มีนาก้มมองแฟ้มในมือเปิดไล่เลียงอ่านเป็นการตัดบท กำธรจึงต้องขอตัวกลับ หากมิอาจเก็บงำเรื่องหญิงสาวไว้ได้จึงต้องไปเล่าสู่ให้สุภาพฟังถึงบ้านตึกสามชั้นในตัวเมืองของอีกฝ่าย
“ฉันไปหาไอ้ใหญ่ แต่ไปเจอพนักงานใหม่ สงสัยเป้นผู้ช่วยเจ้าต้อม แหมสวยเป็นบ้า ท่าทางเจ้าชู้เสียด้วยสิ”
“แกถอดแว่นมองหรือเปล่า วะกำ เพราะฉันไม่ค่อยเชื่อสายตาสั้นจู๋ของแกนักหรอก”
“สั้นแต่ตา ส่วนไอ้นั่น ยาวกว่าแก”
“แต่ฉันก็ใหญ่กว่าแก”
“เอ้า เอ้า เรียกพี่ใหญ่ก็ได้ แต่คงใหญ่ไม่เท่าคนชื่อใหญ่ เจ้าหมอนั่นเชื้อสายมันแรง ผิดปกติชายไทย”
“ตกลงว่าพวกเรามองกันเองเสียแล้ว”
“ไอ้บ้า ที่ยังวโสดเพราะหาที่รองรับอย่างสมใจหมายไม่ได้ แต่ถ้าคนที่ฉันเห้นวันนี้รับรอง ผ่าน ผ่าน”
“ผ่านแกแล้วหรือเห้นแค่ไม่ถึงครึ่งวัน”
“กูไม่พูดกับมึงแล้วเสี่ย เสียอารมณ์” หมอกำธร หรือเพื่อนเรียกไอ้กำ ทำท่าหมดความอยากกระจายข่าว อาเสี่ยสุภาพจึง ต้องง้อเสียหน่อย
“เอ้า เอ้า ตกลงว่าแกใส่แว่นมองแน่นะ”
“รับรองแว่นฉันใสแจ๋ว และฉันว่า ผู้หญิงคนนี้ต้องทำให้ไอ้ใหญ่คั่วจนไหม้แน่ๆแน่ เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ชะมัด”
“ไอ้ใหญ่มันไปหามาจากไหนกันล่ะ แล้วคุณปีที่มันประกาศว่าเป็นเพื่อน มันจะเอาไปไว้ส่วนไหนของประเทศ” สุภาพเอ่ยถึงผู้หญิงของภูชิสะ ซึ่งปรียาไม่เคยมองชายใดนอกกจากภูชิสะเพียงคนเดียว และน่าเสียดายที่เพื่อนสนิทรู่ว่า ภูชิสะไม่คิดแต่งงานกับฝ่ายหญิงแน่นอน
“ฉันโทรหามันไม่ได้ฉันเลยไปที่บริษัท ไม่รู้อยู่ฟาร์มหรือเปล่า”
“งั้นเย็นนี้ไปยลโฉมหญิงของมันเสียหน่อย มันคงเก็บไว้บ้านด้วยแหง ๆ และฉันคิดว่าอาจจะไม่รอดมือถ้าสวยขนาดนายเพ้อไอ้หมอ”
“ฉันลืมคิดไปสนิทเลยข้อนี้ ไอ้ใหญ่มันเป็นสันดานเสีย เรื่องผู้หญิงสวยซะด้วยสิ”
สองเพื่อนรักต่างนิทาภูชิสะอย่างสนุกปากด้วยความสนิทสนม และตั้งใจว่าจะไปหาอีกฝ่ายถึงเรือนพักทีเดียว!!


ยุทธนานั่งสนทนาอยู่กับภูชิสะ ที่เรือนไม้ยกพื้นหลังใหญ่ สร้างแบบทรงกาแล ชานหน้าเรือนเป็นพื้นไม้แผ่น ใหญ่ มีหลังคากันแดดฝน เพื่อให้ไม้อยู่คงทน สองหนุ่มต่างวัย นั่งบนเก้าอี้ หน้าชานเรือน ซึ่งโต๊ะชุดไม้ ชุดนี้ยังเป็นที่สังสรรค์เกือบทุกอาทิตย์ของเจ้าของบ้าน เว้นแต่หลังจากที่อคิราภ์เสียชีวิต ที่เรือนหลังนี้ไม่มีการสังสรรค์อีกเลย
วันนี้ภูชิสะเอาเอกสารมาให้เซ็นถึงบ้านเพราะทราบว่านายหรือพี่บุญธรรมกลับมาแล้ว
“แกกลัวว่าข้ามวันแล้วลายเซ็นฉันจะเปลี่ยนไปหรือไงต้อม”
“ผมรอนานแล้วนี่ครับ นาบอกว่าจะไปกรุงเทพเท่านั้น นี่คงแอบไปเที่ยวกับอีหนูต่างชาติด้วยแหงเลย”
“ไปนอกจริง แต่ไม่ได้มีอีหนู” ชายมากวัยกว่าปฏิเสธ แล้วสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางสดชื่นของยุทธนา ซึ่งดูยิ้มง่ายหัวเราะง่าย แม้แต่เรื่องไม่น่าหัวเราะกับคำว่าไม่มีอีหนู
“แกเมารักหรือเมากัญชา ถึงได้หัวเราะง่ายเสียจริง”
“เปล่าครับนาย” ชายผู้น้องปฏิเสธ แต่ไม่วายยิ้มกว้างให้เห็นอีก จากนั้นยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วจึงขอตัวกลับ
“ใกล้งานเลิกแล้ว ผมกลับล่ะ”
“แกต้องไปคุมเวลาพนักงานด้วยหรือต้อม”
ครานี้ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังก่อนว่า
“ผมลืมบอกว่าผมได้ผู้ช่วยคนใหม่แล้วครับ ภาษาเก่งอย่างนี้เลยครับ” เขายกหัวแม่มืออวด “ไม่ต้องจ้างคนแปล ไม่ต้องเปลืองสมองนายด้วย กำลังติดต่อกับเดนมาร์กด้วย”
“เก่งมากเลยหรือ”
“ทั้งเก่ง และสวย ผมไปล่ะครับ”
ชายหนุ่มลากลับทันที โดยมีสายตาคมกริบมองตามไป พลางเอ่ยลอดริมฝีปาก
“ได้เมียก่อนพี่มันเสียก็ไม่รู้ ไอ้ต้อมเอ๊ย” จากนั้นภูชิสะค่อยยิ้มออกมาจางๆ อย่างพลอยยินดีไปด้วย
น้องชายคนหนึ่งตายไปด้วยความผิดหวัง คนที่เหลือภูชิสะจึงหวังให้อีกฝ่ายมีความสุขอย่างแท้จริง!!

ได้เวลางานเลิกแล้ว พนักงานหลายร้อยคนตอกบัตรออก และขับรถพากันกลับไปยังที่พัก ซึ่งเป็นตึกสามชั้น จัดให้พนักงานพักร่วมกันห้องละสองถึงสามคน มีรถรับส่งถึงที่ พนักงานบางคนมีบ้านอยู่ในท้องถิ่นจะได้ค่าที่พักเป็นส่วนสวัสดิการ
ยุทธนา และมีนากลับออกจากบริษัทพร้อมกัน ชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูรถให้มีนาก้าวขึ้นนั่ง หญิงสาวคาดเข้มขัดแล้วจึง ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าหนังสะพายสีดำ หยิบผ้าสีขาวสลับน้ำเงิน ออกมาซับเหงื่อบนใบหน้าและลำคอ ให้คลายความเหนียวลงบ้าง
ชายผู้ที่เธอร่วมชายคาอยู่ด้วยเป็นสุภาพบุรุษที่เธอวางใจได้ เขาชอบเธอเธอรู้ หากคนที่เธอต้องการไม่ใช่เขา แต่เป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้ต่างหาก
จังหวะการทำเอกสารปลอมสักฉบับกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เธอจะทำให้แนบเนียนที่สุด อย่างน้อยหากหนังสือภาษาต่างชาตินี้เซ็นโดยไม่ระวัง ความล่มจมจะตามมาอย่างแน่นอน
“นายกลับมาแล้ว ผมบอกว่ารับผู้ช่วยใหม่จะไปพบท่านเลยมั้ย ท่านอยากพบ”
“ทั้งโทรม ๆ อย่างนี้ท่านคงอยากไล่ดิฉันแน่”
“อย่าแทนตัวว่าดิฉันได้มั้ย มีนา”
“มีนาก็ได้ค่ะ”
“น่ารักนะครับ” เขาชมจากใจ สบตาวาวหวานให้เธอ แต่มีนาเบือนหนีราวไม่รู้เท่าชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง พลางสารภาพจากใจว่า
“แต่ว่าผมไม่ค่อยอยากพาไปซักเท่าไหร่เลย”
“ทำไมคะ”
“ผมบอกก่อนเลยนะครับว่า นายชอบผู้หญิงสวย”
ใช่ หลอกเธออย่างง่ายดายยิ่งกว่าเอาหลอดเจาะกล่องนมสดเสียอีก
“คุณต้องใจแข็งนะมีนา” ยุทธนาเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง มีนาจึงเอ่ยตอบเสียงอ่อน
“คุณต้อมขา มีนาเคยเจ็บและต้องจำจนตายเชียวละ”
“พูดจริงหรือครับ ไม่น่าเชื่อ”
“คุณจะไม่เชื่อก็ได้ค่ะ เอ่อ นายของคุณ ไม่ใช่ต้องพูดว่าของเราต่างหาก ท่านไม่มีญาติเลยหรือคะ”
“มีครับเป็นน้องชายคนเดียว แต่ตายไปแล้ว”
“ตาย” มีนาอุทาน ตกใจจนรู้สึกช็อก สีหน้าซีดสลด ท่าทางอ่อนแรงราวกับเป็นลม
ยุทธนาสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มจึงกุมมือหญิงสาวด้วยมือข้างที่ว่าง กระแสความเย๋ฯซึมเข้าสู่มืออบอุ่นของเขา ดังนั้นยุทธนารีบจอดรถข้างทาง รีบถามหญิงสาวอย่างวิตกห่วงใย
“มีนาคุณเป็นอะไร เหมือนคุณจะเป็นลม แย่จริง ผมไม่มียาดมเสียด้วย”
“มาย เอ่อ มีนาเหนื่อยเท่านั้นเอง”กล่าวพลางเธอเปิดกระเป๋าที่วางหน้าตัก หยิบน้ำมันเหลืองมาเทใส่นิ้ว แล้วป้ายที่ซอกนิ้วโป้งและนิ้วชี้มือ พลางสูดลมเพื่อให้รู้สึกหายใจโล่ง เตรียมพร้อมรับฟังเรื่องที่คาดไม่ถึง
“เป้นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นมั้ยมีนา”
“ค่ะดีแล้ว เอ่อน้องชายเขาเป็นอะไรตายคะ”
“ถูกผู้หญิงหลอกว่าจะแต่งงานด้วยแล้วก็ไม่แต่ง คุณเล็กก็เลยยิงตัวตาย”
มีนาสะอึกก้อนแข็งจุกแน่นในลำคอแทบหายใจไม่ออก
อคิราภ์ตายเพราะความสนุกของเธอ ชายหนุ่มนักเที่ยวราตรีพร้อมเธอ ยิงตัวตาย น้องชายของภูชิสะ
“นายรักน้องเหมือนลูกตามใจทุกอย่างจนคุณเล็กเป็นคนเอาแต่ใจและอ่อนแอ”
“คุณ รู้จักครอบครัวนี้นานแล้วหรือคะ” เสียงถามแทบไม่หลุดรอดจากริมฝีปาก
“ก็นายเลี้ยงผมจะว่าอย่างนั้นก็ได้ ส่งผมและให้โอกาสผมรักนายและคุณเล็ก”
“เช่นนั้นคุณคงแค้นผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย”
“ใครก็ต้องคิดอย่างผม นายรักคุณเล็กมากเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ตอนคุณเล็กจากไปใหม่ ๆ นายน่าสงสารมาก วัน ๆ นอนถึงสามชั่วโมงหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ทำงานทุกอย่างแม้แต่เก็บมูลวัว นายอยากทำให้ลืมเจ็บลืมเศร้า”
เธอไม่เคยให้ความอ่อนแอเป็นนายเช่นนี้เลย ความผิดของการหลงตัวเองของเธอ ทำให้อคิราภ์ต้องตาย
ภูชิสะจึงแค้นมาก เขาไปทำร้ายเธอเพื่อชดเชยให้สิ่งที่เขารัก ใช่สิ เขาลงข้อความ เพื่อเล็ก...เพื่อน้องชายที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
มีนา เธอทำร้ายให้ผู้ชายคนหนึ่งตายไปแล้ว และกำลังคิดมาทำลายผู้ชายที่ทำเพื่อน้องชายของเขาอีกหรือ
“โธ่มีนา ร้องไห้เชียวหรือครับ” ยุทธนา เอยเสียงแผ่ว สำนึกผิด “ผมไม่น่าเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟัง”
“ฉันควรรู้ค่ะควรรู้ ควรร็เรื่องนี้ น่าจะรู้แต่แรกแล้ว”
ถ้ารู้เหตุผลในการปรากฏตัวของภูชิสะแม้เขาต้องการหัว เธอจะมอบให้ไว้ในมือ มือที่หยาบกร้านยามสัมผัสกายเธอ
เธอไม่พูดเรื่องใด ๆ กับเชายหนุ่มอีกเลย จนยุทธนาโทษผิดว่าตัวเองที่ทำให้ความแจ่มใสของมีนากลายเป็นหดหู่
เมื่อถึงบ้านพัก มีนารีบเดินลิ่วเข้าบ้าน เข้าไปในครัว แต่ยุทธนาดึงแขนอีกฝ่ายไว้พลางห้าม
“พักเถอะมีนา”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันจะอุ่นกับข้าวที่แม่บ้านของคุณทำไว้ให้ก่อน ไปอาบน้ำสิคะ”
“ผมรู้สึกว่าคุณยังหดหู่เรื่องของนายอยู่นะครับ”
“ใครได้ฟังก็ต้องรู้สึกอย่างฉันนี่ละคุณต้อม” เธอตอบ พลางหันกายให้เขา
ยุทธนาตามใจอีกฝ่าย ชายหนุ่มเข้าห้องส่วนตัว พลางนิ่งคิดด้วยความสงสัย เพราะจากท่าทีของมีนาที่แสดงออกมานั้น ต่อให้เธอให้สงสารอย่างไร ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนจนดูเศร้าซึม ราวกับว่า เธอมีส่วนในการตายของอคิราภ์อย่างนั้น
“ผู้หญิงอย่างคุณช่างทุเรศสิ้นดี สนุกมากนักเหรอที่เห็นผู้ชายเป็นควาย” เสียงกร่นด่าของภูชิสะย้อนกลับมาในสมองของมีนาอีกครั้ง
“น้องสาวของฉันไม่เห็นใครเป็นควายและจะไม่มีทางเป็นผู้หญิงทุเรศอย่างที่คุณกล่าวหา ทำไมไม่คิดดูเองว่า น้องชายของคุณจะมีปัญญาผู้นำชีวิตใครได้ เรียนจวนจะครบกำหนดเส้นไล่ออกแล้วยังเรียนไม่จบเล้ย”
“ถ้าคิดอย่างนั้นเธอก็ไม่มีสิทธิ์หลอกลวงเขา”
เธอหลอกอคิราภ์ หลอกให้เขาพาเที่ยวสนุก หลอกว่าให้เขาพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ และเธอ เธอทำให้เขาตาย เขายิงตัวตายเพราะการล้อเล่นของเธอ
หญิงสาวกลืนก้อนขมสุดฝืนลงคอยากเย็น ปล่อยแกงที่แม่บ้านทำไว้ให้ไหม้ด้วยความเหม่อลอย กลิ่นไหม้โชยไปข้างนอก ยุทธนารีบเข้ามาดู จึงเห็นมีนายืนเหม่อลอย น้ำตารินไหลอาบสองแก้มนวล
“มีนา คุณเป็นอะไร”
“คะ”หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว แล้วจึงลนลานไปหาเตาแก๊ส แต่ยุทธนาเอาตัวขวางไว้ พลางว่า
“เหมือนคุณไม่สบายเลย ไปอาบน้ำก่อนเถอะทางนี้ผมจัดการเอง”
“เอ่อค่ะ มายไปก่อนนะคะ”
เธอหลุดเรียกชื่อจริงของตัวเองออกมาอีกครั้ง แต่ยุทธนาไม่ทันฟัง มัวแต่สนใจกับการใช้ผ้า ยกหม้อไหม้เกรียมลงจากเตา จากนั้นจึงได้นำอาหารอย่างอื่นที่พอทำได้มาอุ่น และทำเพิ่มไปอีกอย่าง เป็นแกงสำเร็จรูป บรรจุกระป๋องอย่างดี
“สงสัยต้องซื้อเครื่องไมโครเวบมาดีกว่าเตาเสียแล้ว แบบนี้อันตรายแน่”
หนุ่มโสดวางแผนอนาคตต่อไปอีกขั้น หลังทำทุกอย่างแล้วจึงได้ออกมาเรียกมีนา แต่อีกฝ่ายตระโกนออกมาจากห้องว่า
“คุณต้อมทานเถอะมีนาจะพักผ่อนแล้วค่ะไม่ต้องเรียกนะคะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
เธอทำให้ชายหนุ่มได้งุนงงต่อการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จู่ๆก็แบ่งเขต สร้างกำแพงเสียแล้ว ยุทธนาได้แต่คิดว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่เขาเล่า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมมีนาจึงได้หดหู่ถึงเพียงนั้น!!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ค. 2555, 14:43:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ค. 2555, 14:43:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 2426





<< ตามผลงาน   สุดแค้น >>
นุช 10 ก.ค. 2555, 18:26:14 น.
คิดถึงหนูมายกับนายภู แล้ววันนี้ก็ได้อ่านสมใจแล้ว ไม่รู้ว่ามายรู้ว่าตัวเองเป็นเหตุให้นายเล็กตายแล้วจะเลิกแก้แค้นหรือเปล่าคะคุณรุ่ง


นางแก้ว 10 ก.ค. 2555, 19:03:15 น.
ตามค่ะพี่นุช เดี๋ยวตัวเอกก็ออกลาย พี่เมย์ไงตัวเอ๊ก ตัวเอก


invisible 10 ก.ค. 2555, 19:26:05 น.
พี่เมข์ก้อยังไม่รู้ว่าท้องอ่ะสิ
แถมน้องหายตัวไปอย่างนี้ืจะอาละวาดป่าวน้อออ


นางแก้ว 10 ก.ค. 2555, 20:08:40 น.
ตอนหน้าพี่เมย์ออกลายค่ะ เธอน่ะสยบมารตัวจริง เสียงจริง คู่กัดที่กัดจิกตีเลยล่ะค่ะ


anonym 10 ก.ค. 2555, 22:56:35 น.
จริงๆมายรู้ความจริงก็ควรอโหสิให้อีกฝ่ายทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ
ปล่อยให้พี่เมย์จัดการดีกว่า ฮ่าๆๆ (ลุ้นๆๆๆๆ มากค่ะ)


Zephyr 10 ก.ค. 2555, 23:39:59 น.
ความจริงเปิดออกมาแล้ว มายจะเอาไงต่อ เดินหน้าทำต่อหรือหยุดทุกอย่างจบแค่นี้
ปล่อยพี่เมย์มาเคลียร์เถอะ ฮ่าๆๆๆ
อยากให้พี่เมย์คู่กะพี่ภู จริงๆนะ


nutcha 11 ก.ค. 2555, 15:43:51 น.
พี่เมย์จะคู่ใครคะ อยากให้คู่กะต้อมจังให้พี่เมย์เป็นพี่เมียที่คอยกัดน้องเขยต้วแสบ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account