ทิวาเลือน
เรื่องราวของการสืบหาความจริงที่ยังคลุมเครือของการเลิกราของเมฆาและเริ่มทิวาจนนำไปสู่อุบัติเหตุที่คร่าชีวิตฝ่ายหญิง

โดยรวี ที่อยากจะช่วยญาติให้หลุดพ้นความเศร้าโศก ชักชวน อรุณงามญาติฝ่ายหญิงให้มาช่วยกันสืบด้วยความไม่เต็มใจนัก

ยิ่งสืบยิ่งยุ่ง อะไรหนอหรือใครกันที่เป็นสาเหตุอันแท้จริง


Tags: ชิตา ทิวาเลือน รักโรแมนติค

ตอน: ๙


หลานชายพ่อเลี้ยงใหญ่แห่งเมืองเหนือโดนซ้อม น่าจะเป็นข่าวดังของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่พ่อเลี้ยงเอนกสั่งปิดข่าวเงียบ ตัวท่านเองก็บินขึ้นเหนือด่วน สั่งลูกน้องให้หาตัวนักเลงสามคนนั้นและผู้อยู่เบื้องให้ได้ ไหนจะหลานชายที่เจ็บ ไหนจะต้องทำงานแทนรวี เพราะขาดรวี บริษัทสาขาก็ชะงัก ท่านถึงกับโทรไปหาหลานชายอีกคนที่เมืองจีนต่อหน้าหลานชายที่นอนเจ็บ

พอเมฆารับสาย ท่านก็ด่าเป็นชุด

“กลับมาซะทีซีโว้ย โง่ง่าวจมอยู่กับความหลังนั่นแหละ กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียวที่ตายไปแล้ว ส่วนคนเป็นจะทุกข์ใจเพราะแก แทบตายเพราะแก แกจะไม่สนเลยใช่ไหม ดี ถ้าแกไม่กลับมาในสามวันนี้ เห็นดีแน่”

“ลุง ใจเย็นก่อนครับ มีเรื่องอะไรกัน”

“ไม่บอกโว้ย” แล้วพ่อเลี้ยงก็กดสายทิ้ง เขวี้ยงโทรศัพท์โครมอย่างโมโหสุดขีด

“มันไม่ยอมใช่ไหม” คนเจ็บถาม

“ไม่รู้มัน ถ้ามันไม่มา ฉันจะไม่ให้เงินมันซักสลึงเดียว”

“อย่าเลย เดี๋ยวชาวบ้านเค้าจะนินทา หาว่าผมประจบฮุบสมบัติลุง”

รวียังมีอารมณ์ขัน ทั้งที่ร่างกายฟกช้ำ ปากบวมเจ่อ คิ้วแตกเย็บไปสิบเข็ม แขนขาร้าวระบม ร้าวกับว่ามันพร้อมจะหักได้ทุกเมื่อ

“ใครว่าฉันจะยกให้แก” ลุงสวนมาทำเอาหลานชายหน้าเหวอ แต่ก็หัวเราะตามหลัง ทำเอาหน้าแหยแกเพราะเจ็บแผล

“งั้นถ้าผมมีลูก คงยกให้ลูกผมใช่ไหม”

“ไม่ให้โว้ย”พ่อเลี้ยงอมยิ้มตอบ มองหน้าหลานชายหยั่งเชิง

“งั้น ออกโรงพยาบาลแล้ว ผมลาออก” รวีก็ยิ้มตอบเช่นกัน

“เออ ไปกันให้หมด ปีกกล้าขาแข็งนักนี่”

“ผมไม่โง่หาเงินให้คนท่ามากอย่างเมฆาเปล่าๆ หรอก” รวีแกล้งว่า

“ไอ้ลูกหมา” พ่อเลี้ยงว่า แล้วเดินมาตบแขนเบาๆ

“ลุงรู้หรอกว่า แกหยิ่ง ไม่อยากได้อะไรจากฉัน แล้วไม่พอใจเมฆมาก ที่ทำตัวเหมือนหนีปัญหา ถึงได้อยากออกไปทำเอง แต่จะไปตั้งต้นให้เหนื่อยทำไม ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ต้องเป็นของแกกับเมฆมัน”

“ก็ไม่แน่ ถ้าเกิดลุงอยากมีเมีย มีลูกขึ้นมา พวกผมก็หมาหัวเน่าเฝ้ายุ้งข้าวฟรี”

“ไม่เอาหรอก ป้าแกที่ตายไปทำเอาฉันเข็ดจนวันนี้”

แล้วลุงหลานก็ยิ้มให้กัน เคยเข้าใจกันอย่างไร บัดนี้ก็ยังคงเข้าใจกันอย่างนั้น เหลือแต่เมฆาที่อยู่เมืองไกลเท่านั้น ไม่รู้ว่าบาดแผลความรักจะทำให้เขายังคงเป็นคนเดิมของครอบครัวหรือไม่

“แกพูดถึงลูก แล้วแม่มันล่ะ”

“ลุงยังไม่ได้พบเหรอ”

“ถ้าแกหมายถึงหนูอรุณงาม ฉันไม่ได้ตาบอดโว้ย นั่งเฝ้าแกตั้งแต่ดึกจนเช้า ไม่ได้หลับไม่ได้นอน”

รวีจ้องหน้าผู้เป็นลุง

“ลุงว่าเป็นไงมั่ง”

พ่อเลี้ยงเอนกก็จ้องหน้าหลายชายด้วยความรัก ความเป็นห่วงสุดชีวิตท่านเช่นกัน

“ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าพวกแกไปรักกันตอนไหน หากรักกันจริงๆ ฉันก็ไม่ว่า แต่คนฉลาดอย่างแกคงรู้ว่า อุปสรรคมันไม่ได้อยู่ฉัน แล้วที่พาเขามาอยู่คอนโดเนี่ย ป้าเขาไม่เอาแกตายหรือไง”

หูตาของพ่อเลี้ยงเอนกมีอยู่ทั่วเชียงใหม่จริงๆ เกาะติดสถานการณ์เรื่องของหลานชายทุกอย่าง

“ลุงจำได้หรือว่าอรุณงามเป็นใคร”

“จำชื่อได้ เลยถามให้แน่ใจว่าเป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะมันเป็นเรื่องหัวใจของแก”

“ถ้าลุงไม่ว่า ผมก็ดีใจ ส่วนเรื่องอื่นผมจัดการเอง”

“เออ อย่าให้คุณรุ้งแพง เขามาถอนหงอกฉันก็แล้วกัน แต่คงยากว่ะ ทางที่ดี ฉันซื้อเสื้อกันกระสุนมาใส่ดีกว่า หลานชายคนแรก ไปทำหลานเขาตาย ส่วนอีกคนก็พามาอยู่ด้วยกันเฉยๆ”

“บางทีเรื่องของเมฆากับทิวา หรือเรื่องของผมกับอรุณมันอาจไม่ใช่อย่างที่ลุงคิดก็ได้ครับ”

“แล้วมันยังไงล่ะ”

“เดี๋ยวผมจัดการเองน่า ลุงไม่ต้องห่วง”

“เออ อย่าให้ใครมาซ้อมอีกก็แล้วกัน”

ท่านปรามาส แต่สายตาก็บ่งบอกว่าห่วงใยเป็นอย่างมาก กังวลอย่างที่สุด ในเรื่องความรักของรวี แต่ท่านก็ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องรักใคร่ของใคร เพราะถือคติว่า หัวใจของใครก็ของใคร เรือนต้องปลูกตามใจผู้อยู่อาศัย และท่านก็มั่นใจว่า รวีคงจัดการปัญหาได้อย่างที่พูด

ฝ่ายอรุณงามพอรวีฟื้นและพูดคุยกับพ่อเลี้ยงเล็กน้อยแล้ว หล่อนก็กลับคอนโด อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้หล่อนเฝ้ายาวไม่ได้หลับไม่ได้นอนด้วยเขายังมีอาการปวดและมีไข้ และเพ้อไม่ได้ศัพท์ หล่อนเฝ้าจนถึงเช้าอีกวันอาการเขาทุเลาลง และจำได้ว่าหล่อนเป็นใคร อรุณงามก็เลยกลับไปคอนโดและโทรแจ้งพ่อเลี้ยงตามที่ท่านสั่ง พอกลับมาก็ เห็นว่าพ่อเลี้ยงเอนกมาเยี่ยมหลานอีกครั้งและยังคุยกันอยู่ ก็ไม่เข้าไปรบกวน นั่งอยู่ที่มุมรับรองของโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ จิบกาแฟ พร้อมกับปากกาและกระดาษ เริ่มไล่รายชื่อผู้ชายที่เคยมาชอบทิวาและไม่สมหวัง ว่าคนใดคนหนึ่งอาจจะฉวยโอกาสเอากับทิวาได้ มีทั้งคนที่ทำงานทิวา เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่มีโอกาสเจอทิวาในช่วงก่อนวันแต่งงาน ยิ่งพยายามนึกชื่อผู้ชายเหล่านั้น ก็รู้สึกได้ว่ายิ่งไม่เข้าท่า แต่ก็เขียนไปเรื่อยๆ พลางนึกขอโทษขอโพยเจ้าของชื่อในใจ ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ แค่นึกพอให้มีเบาะแสเท่านั้น

จากนั้นก็พลิกหน้ากระดาษ เขียนรายชื่อแฟนเก่าและผู้หญิงที่เมฆาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย เน้นพิเศษตรงผู้หญิงที่เคยมาราวีเริ่มทิวา พวกหล่อนเหล่านี้อาจจะจ้างใครมาทำร้ายทิวาได้

เฮ้อ เท่าที่รู้ หล่อนก็ทำได้แค่นี้ ต้องรอให้นายรวีหายดีก่อนละมั้ง เขาถึงจะเดินทางไปจีน ถามเมฆาให้รู้เรื่อง

“ถอนหายใจเฮือกๆ หนักใจอะไรหรือหนู”

พ่อเลี้ยงเอนก มายืนอยู่ด้านหลังเมื่อไรไม่ทราบ อรุณงามเก็บกระดาษรายชื่ออย่างรวดเร็ว หันไปยกมือไหว้

“เปล่าหรอกค่ะ แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

“คิดเรื่องของหนูกับรวีหรือ”

“ก็ไม่เชิงค่ะ”

“ฉันไม่ค่อยเข้าใจความรักของพวกหนุ่มสาวสมัยนี้เลยจริงๆ รอให้เจ้ารวีมันหายดีก่อน มันคงจะจัดการอะไรๆ ให้เรียบร้อย ส่วนฉันไม่ขอก้าวก่าย”

“ขออนุญาตถามท่านซักอย่าง จะได้ไหมคะ”

“ได้ ว่ามา”

“ท่านโกรธ คุณรวีไหมที่ เอ่อ มาคบกับดิฉัน”

“จะโกรธทำไม รวีรักใคร ฉันก็ต้องรับเป็นหลานอยู่แล้ว หนูไม่ต้องกังวลหรอก ว่าแต่รีบเข้าไปเถอะ มันคงอยากเห็นหน้าหนูแล้วมั้ง”

“ขอบคุณค่ะ” อรุณงามยกมือไหว้ ปากบอกขอบคุณ แต่ในใจขอโทษที่ต้องโกหกคำโต

พอเข้าไปในห้อง ก็พบว่าเขากำลังพยายามจะลุกขึ้นนั่ง อรุณงามรีบเข้าไปประคอง ช่วยวางหมอนให้เขาพิง

“โอเคไหมคะ”

“อืมขอบคุณมาก อ้อ เมื่อกี้เจอลุงผมหรือเปล่า”

“เจอค่ะ คุณบอกท่านแล้วหรือว่าเราเป็นแฟนกัน”

“ใช่ แล้วท่านพูดอะไรกับคุณหรือเปล่า”

“ท่านบอกว่าคุณรักใคร ท่านก็ยินดีที่จะรับคนนั้นเป็นหลานอีกคน ฉันเลยรู้สึกผิดและไม่สบายใจ” สีหน้าท่าทางบอกให้รู้ว่าหล่อนกังวลจริงๆ

“เอาน่า อย่าคิดมาก เอางี้ ถ้าจะทำให้คุณสบายใจได้ ก็โทษในใจว่าเป็นความผิดผมคนเดียวเสีย”

“ฉันก็แค่เสียใจที่ต้องโกหกผู้ใหญ่”

“งั้นเสร็จงานแล้ว เราก็เป็นแฟนกันจริงๆ เอาไหม”

“ไม่หรอก ฉันกลัวแฟนคุณมาฉีกอกฉัน ถามจริงๆ เถอะ คุณรวี คุณแกล้งเป็นแฟนฉันแบบนี้ แล้วแฟนตัวจริงคุณล่ะ”

“ผมยังไม่มีแฟนหรอก” คนป่วยเน้นคำ พร้อมยิ้มเซียวๆ มาให้

ไม่มีก็ดี หล่อนจะได้ไม่รู้สึกผิดเพิ่มขึ้น แต่วันรุ่งขึ้น หล่อนก็ชักไม่แน่ใจ เมื่อ กลับจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดและกำลังจะเปิดประตูห้องพักฟื้นของรวี อรุณงามก็ได้ยินเสียงมาจากด้านใน

“อิงอร พอแล้ว ผมอิ่มแล้ว”

“แหม รวีคะ อิงอรอุตส่าห์ลางานมาเฝ้าไข้คุณทั้งที ก็ขอให้อรได้ปรนนิบัติคุณบ้างซีคะ คุณน่ะใจร้าย เจ็บปวดปางตายอย่างนี้ บอกอรสักคำก็ไม่มี”

“ผมเกรงใจ”

“อย่ามาทำท่าอย่างนี้กับอิงนะ หรือว่าช่วงที่อิงไม่ได้มาหา มีใครแอบมาเฝ้าคุณ”

“มีแต่คนมาเยี่ยมทั้งนั้น” ตอบไปก็รำคาญไป สวยก็จริงแต่ทำตัวน่าเบื่อเหลือเกิน จะบอกลายังไงให้บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น และต้องให้ไปก่อนอรุณงามจะกลับมา

“มาเยี่ยมถึงเตียงใช่ไหมละ”

เอา เอาเข้าไป

“ผมไม่ชอบให้ใครมาพูดจาหยาบคายด้วย หากอยากพูดนัก เชิญออกไปพูดข้างนอก” คนเจ็บทำเสียงเย็นชาใส่ ไล่ทางอ้อม เอนตัวลงนอน

อิงอร หน้าบึ้ง ก่อนจะเหยียดริมฝีปากยิ้ม ก้มตัวเอาแก้มแนบแก้มจนอกแทบจะชนอกเพื่องอนง้อรวี คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเงียบๆ เลยได้เห็นฉากเด็ด

“ก็อิง หึงนี่คะ” อิงอรฉอเลาะ

“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าใช้คำนั้นกับผม และกรุณาปล่อย ผมจะพักผ่อน”

แต่สาวอิงอรในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีขาว กระโปรงยีนส์สั้นจู่ จะทำตามก็หาไม่ จากที่เอาแก้มแนบแก้ม ก็กลายเป็นปากแนบปาก และจุมพิตไปแทบจะทุกตารางนิ้วบนใบหน้าคมเข้มของฝ่ายชาย มือไม้ก็เริ่มปะป่ายไปทั่ว

อึ๋ย คนเพิ่งมาถึงอุทานในใจ เล่นหนังสดกลางวันแสกๆ กลางโรงพยาบาล ไม่อายผีสางนางไม้ เทวดากันบ้าง

ผู้หญิงปล้ำผู้ชายจริงๆด้วย เจ้าข้าเอ้ย เกิดมาเพิ่งเคยเห็นกับตาก็คราวนี้ ฝ่ายนายรวี ก็พยายามปัดป้อง แต่ว่าคนป่วย คงสู้แรงรักของหญิงที่ชื่ออรไม่ได้แน่เลย บัดสีที่สุด
นายรวีนะนายรวีทำกันได้ ถึงจะเป็นแฟนหลอกๆ แต่ก็ช่วยขัดขืนให้มันจริงจังกว่านี้ได้ไหม

หล่อนโกรธ ถ้าจะเข้าไปอาละวาดมันจะดูสมบทบาทเกินไปหรือเปล่า แต่หล่อนก็โกรธจริงนี่นา หรือว่าถอยไปตั้งหลักก่อนดีกว่า อรุณงามชั่งใจก่อนตัดสินใจถอยหลังแต่ก็ชนกับใครก็ไม่รู้ ด้วยความตกใจจึงร้องออกมา อิงอรชะงัก หันขวับมามองพอเห็นว่าเป็นใคร ก็แกล้งทำสีหน้าเขินอายและรีบจัดเผ้าผมตัวเองให้เรียบร้อย นายรวีเองก็ตาโต มองมาเห็นหล่อนก่อนจะมองเห็นใครข้างหลัง

อรุณงามหันไปมองบ้าง แล้วหล่อนก็ตาโตยิ่งกว่ารวี


สองปี ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปและไม่เคยกลับบ้านแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ได้ทำให้ เมฆา เพลย์บอยหนุ่มหล่อแห่งเมืองเหนือ เปลี่ยนไปมากนัก เขามีรูปหน้าเหลี่ยม คิ้วเข้ม ริมฝีปากหนา ละม้ายลูกพี่ลูกน้องที่นอนเจ็บอยู่ ผมที่เคยตัดสั้นตอนนี้ก็ไว้ยาวระบ่า แต่ก็ดูเก๋ไก๋ รับกับชุดกางเกงสแล็คเสื้อเชิ้ตได้ไม่ขัดเขิน แต่ก็แตกต่างจากเดิมอย่างมาก็คือดวงตาโตสีดำสนิทที่ฉายแววหมองเศร้า และไร้ชีวิตชีวาชัดเจน

และตอนนี้ ในห้องพักฟื้นก็เหลือแต่ หล่อน รวี และเขา อิงอรกลับไปแล้วพร้อมทอดสายตาให้ญาติรวีอย่างเปิดเผย จนอรุณงามอดขำในใจไม่ได้

เออ เนอะ คนเราก็เป็นไปได้

พออิงอรกลับไป ห้องก็เหมือนตกอยู่ในความเงียบ คนเพิ่งกลับมากับคนป่วยดูจะคุมเชิงกันอยู่พิกล รวีทักญาติแค่ว่า

“กลับมาเมื่อไหร่” อีกฝ่ายก็ตอบว่า

“เมื่อเช้า”

“เจอลุงหรือยัง”

“เจอแล้ว ลุงไล่ให้มาเยี่ยมนาย เพราะว่านายเจ็บตัวเพื่อฉัน” ประชดยังไงบอกไม่ถูก แต่รวีก็พยักหน้า

“เรื่องมันยาว”

“พอเดาได้” เขาว่าพลางหันมามองอรุณงาม ปกติตอนนายคนนี้เป็นแฟนกับเริ่มทิวา หล่อนก็ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ ด้วยรู้ๆ กันว่า เจ้าชู้ กะล่อนขนาดไหน ไม่รู้ว่าทิวาปราบยังไงถึงได้กลายเป็นเสือถอดขึ้ยว

เรื่องมันยุ่งกว่าเก่าเสียแล้ว หล่อนขยับตัวอย่างอึดอัด

“ไม่เจอกันนาน ผมแปลกใจนะที่เจอคุณที่นี่”

หากเป็นสองสามวันก่อน หล่อนคงสวนประโยคเด็ดออกไปให้หายแค้นบ้าง แต่กระดาษแผ่นนั้นทำให้อรุณงามลังเลใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ระหว่างเริ่มทิวากับเมฆา

“ฉันก็แปลกใจไม่แพ้กัน”

“ลุงบอกว่าอรุณงามเป็นแฟนแก”

“ ถ้าใช่ แล้วจะทำไม”

“ก็ไม่ทำไม แค่มาบอกว่าอย่ายุ่งเรื่องของฉันกับทิวา ไม่อย่างนั้นฉันจะเอานายเจ็บกว่านี้”

น้ำเสียงไม่ได้บอกว่าล้อเล่น สีหน้าจริงจัง เขามายืนชิดเตียง ตาจ้องมองญาติหนุ่มที่นอนอยู่ แน่วแน่ อรุณงามกำสายกระเป๋าแน่น กระเป๋าที่ข้างในบรรจุกระเป๋าสตางค์ และในกระเป๋าสตางค์บรรจุกระดาษลายมือทิวาแผ่นนั้น

“ถือว่าฉันขอ หากแกทำเพื่อให้ฉันกลับบ้าน ฉันก็กลับมาแล้ว อดีตก็คืออดีต อย่ารื้อฟื้นมันอีก ไม่อย่างนั้น ฉันจะเอานายเจ็บกว่านี้”

“พูดยังกะว่า นายเป็นคนจ้างคนมาทำร้ายฉัน”

“แกบ้าหรือเปล่า ฉันอยู่เมืองจีน จะมาทำร้ายแกได้อย่างไร แต่ก็สมน้ำหน้าแล้ว”

“เมฆ ฉันกับอรุณอยากจะคุยกับแกดีๆ เรื่องของทิวา ถ้าหากเพียงแกจะยอมเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้เราฟัง”

ดวงตาเขาวาวโรจน์ เมฆาเข้ามากระชากคอเสื้อคนป่วยบนเตียง อรุณงามรีบเข้าไปห้าม แต่ก็โดนเข้าผลักจนล้มลง

“ฉันจะไม่พูด ไม่คุยอะไรทั้งนั้น อยู่ให้ไกลจากเรื่องของฉันกับทิวา ไอ้รวี” เขาตะคอกสุดเสียง หน้าตาแดงก่ำ แล้วก็ปล่อยญาติ และเดินออกจากห้องทันที

แม้จะตะลึงในน้ำเสียงของเมฆา แต่เขาก็ห่วงหญิงสาวที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น

“คุณเจ็บไหม” รวีถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร” อรุณงามค่อยๆ ลุกขึ้น สายตายังมองไปยังประตูห้องที่เมฆาลับกายไปพึมพำพอได้ยินกันสองคน

“ฉันว่าท่าทางเขาแปลกมาก ”

“ผมก็ว่างั้น” รวีถอนหายเฮือกใหญ่ ท่าทีของเมฆาผิดจากที่คิดไว้มาก ซึ่งยิ่งทำให้น่าสงสัยเข้าไปใหญ่

“คุณอย่าเพิ่งคิดมากเลยค่ะ พักผ่อนก่อนตื่นมาอีกทีฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“แหมสั่งยังกะสั่งสามี”

นี่มันไม่ใช่เวลามาล้อเล่น อรุณงามขึ้นเสียงใส่เขาทันที

“อย่ามายั่วโมโหนะ ฉันยอมร่วมมือเพื่อที่จะให้เคลียร์ปัญหาให้หมด กวนมากนักเดี๋ยวแม่จะหนีไปให้หมดเรื่องหมดราว หน้าไหนก็ตามไม่ได้ทั้งนั้น”

“คุณไม่หนีหรอก อรุณ เพราะคุณก็อยากรู้ว่าใครทำร้ายทิวาเหมือนผม”


ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าโรงพยาบาล มีรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่จอดอยู่ ชายในรถที่ดูภายนอกแต่งตัวเหมือนกับคนทำงานทั่วไป กำลังกดโทรศัพท์ไปหานาย

“เจอตัวแล้วครับ”

“ที่โรงพยาบาลหรือ”

“ครับ เอาไงต่อ”

“ตามอย่าให้คลาดสายตา แล้วโทรรายงานด้วย อย่าให้รู้ตัว เข้าใจไหม”

“ครับนาย”

.......................................................................

ตุ๊งแช่ - อิอิ
an-o - ขอบคุณสำหรับคำผิดค่ะ
natee - ดีใจที่ชอบค่ะ
บุษ - ขอบคุณคนอ่านเช่นกันค่ะ
หมูบิน - ดีใจที่รู้สึกลุ้นไปกับนิยายค่ะ แค่นี้คนเขียนก็ดีใจ

....................................................................

ฝนตกมาทั้งวัน แต่เนตทีโอทีไม่มีล่ม ไม่มีหาย เจ๋งจริงๆ

ชิตา

โดย : ชิตา วันที่ : [ 17 มี.ค. 2554 ] 20:32:47 น.




>> ความคิดเห็นที่ 1

มาต่อไวไวนะคะ ถ้าเป็นหนังสือจะรีบเปิดท้ายบท ดูเฉลยก่อนเลย :)
โดย : natee [ 17 มี.ค. 2554 ] 21:52:04 น.




>> ความคิดเห็นที่ 2

ใครมาเฝ้าหน้าโรงพยาบาลล่ะเนี้ย
มาเฝ้าระวีหรือว่าเฝ้างามล่ะเนี้ย
โดย : an-o [ 17 มี.ค. 2554 ] 22:18:31 น.




>> ความคิดเห็นที่ 3

ยังซับซ้อนซ่อนเงื่อนต่อไป สนุกดีค่ะ
โดย : บุษ [ 18 มี.ค. 2554 ] 01:57:58 น.




>> ความคิดเห็นที่ 4

เดาไม่ถูกสักที ขอรออ่านไปจนถึงตอนจบเลยละกันนะค่ะ

ปล. คนอ่านยิ่งดีใจกว่าค่ะที่มีคนเขียนน่ารักๆ มาลงนิยายให้อ่านกัน


โดย : หมูบิน [ 18 มี.ค. 2554 ] 07:15:59 น.




>> ความคิดเห็นที่ 5

โอ้ยยยยยยยย ลุ้น น น น

อิรุงตุงนัง จริงๆๆ
โดย : black-sheep [ 26 มี.ค. 2554 ] 01:53:23 น.






ชิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2554, 21:38:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2554, 21:38:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1736





<< ๘   ๑๐ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account