เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร
พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…
แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า
ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++
พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…
แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า
ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 27
ตอนที่ 27
“เข้ามาในนี้ไม่ได้นะครับคุณ เชิญคุณออกไปด้านนอกก่อนเถอะครับ” การ์ดสองคนคนตามนายหัวเมฆาเข้ามาในห้องแต่งตัวนางแบบที่ตอนนี้ดูจะวุ่นวายแตกตื่นกันไปหมด
“ผมออกไปแน่ แต่ผมต้องพาคนของผมกลับออกไปด้วย” นายหัวเมืองใต้ตอบก่อนจะกวาดตามองไปรอบห้องสุชาวีไม่ได้อยู่ในห้องนี้ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ ในเมื่อเขาตามเธอมาติดๆเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหลบไปทางไหนนอกจากจะเดินทะลุผนังห้องนี้หนีเขาไป
การ์ดไม่กล้าใช้กำลังกับนายหัวคนดังเพราะทราบดีว่าเขาเป็นแขกวีไอพีการ์ดเชิญสีทอง ซึ่งมีความหมายว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ มีชื่อเสียงหรือไม่ก็ร่ำรวยมาก จึงได้แต่ยืนคุมเชิงห่างๆ
“มีใครเห็นผู้หญิงที่สวมชุดฟินาเล่วิ่งเข้ามาในห้องนี้บ้างไหมครับ”
“ไม่มีเสียงตอบ”
แน่ล่ะเมื่อสามนาทีก่อนหน้านี้ทุกคนเห็นสุชาวีนางแบบที่ไม่มีใครรู้จักแต่จับพลัดจับพลูมาสวมชุดเด่นของงานวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีคนโรคจิตวิ่งตามเธอมาและถามถึงทางหนี
ไม่มีใครตอบคำถามเธอเลยเพราะทุกคนกำลังงงตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งนางแบบควรจะอยู่บนเวทีไม่ใช่วิ่งหนีใครมาแบบนี้ แต่แล้วเขมมิกากับเข้าไปพูดคุยอะไรบางอย่างพร้อมฉุดแขนให้นางแบบผู้สวมชุดฟิเนเล่ตามเธอไปตามเส้นทางลับที่รู้กันเฉพาะนางแบบและเจ้าหน้าที่บางคน มันถูกสร้างไว้เพื่อให้นางแบบที่ต้องการหลบหน้านักข่าวกรณีไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ได้ใช้เป็นเส้นทางหลบเลี่ยงเนื่องจากสถานที่แห่งนี้ถูกใช้จัดงานเดินแบบเป็นประจำ
“ไม่มีใครเห็นนางแบบที่สวมชุดฟิเนเล่สีม่วงวิ่งมาทางนี้บ้างเลยหรือครับ”
หลายคนสบตากันแต่ยังไม่ขยับปากพูด หลายคนไม่อยากเชื่อว่าคนโรคจิตที่นางแบบสาวกล่าวอ้างจะมีหน้าตาดูดีถึงขนาดนี้
“คุณก็ไม่เห็นอย่างนั้นเหรอครับ” นายหัวเมฆาถามช่างแต่งหน้าสาวใหญ่ที่ยืนใกล้เขามากที่สุด
เธอยิ้มแหยๆ ไม่กล้าตอบเพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกกลัวพูดไปแล้วอาจจะเป็นผลเสีย
“แล้วคุณล่ะคนสวย”นายหัวเมฆาหันไปถามช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองที่ทำของตกตอนเขาผลักประตูเข้ามาเมื่อครู่เพราะท่างทางของเธอดูจะสนใจเขามากเป็นพิเศษ
“ว้าย! พ่อรูปหล่อชมจริงใจกันแบบนี้ลิลลีก็เขินแย่ซิคะ”
“เธอไปทางไหนครับ คุณคงเห็นเธอแน่ๆ”นายหัวเมฆาถามอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์
“แล้วคุณต้องการตามเธอไปทำไมหรือคะ”
นายหัวเมฆายิ้มเล็กน้อย “ผมไม่ได้ต้องการตามเธอ แต่ผมต้องการตามชุดที่ผมประมูลได้และนางแบบคนนั้นพามันไปด้วย”
“ว้าย! ตายแล้วจริงด้วย ยัยนางแบบคนนั้นเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ หรือว่าเธอตั้งใจจะขโมยชุดไป ก็ชุดนั้นมันมีทับทิมของแท้ประดับอยู่ด้วย” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองปิดปาก นายหัวเมฆาต้องการรู้ว่าสุชาวีหายตัวไปได้อย่างไรจึงไม่ได้อธิบายอะไร
“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคุณเห็นเธอใช่ไหมครับคนสวย” เขาไม่วายหยอดคำหวานเพราะรู้ว่าเธอคนนี้จะเป็นคนบอกทางให้
กระเทยสาวนางนั้นชี้นิ้วมือไปที่เส้นทางลับหลังราวแขวนชุดนางแบบ นายหัวเมฆายิ้มให้เธอเล็กน้อยแต่บาดใจจนลิลลีแทบจะปล่อยให้ไดร์เปล่าผมล่วงจากมือ สายตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าหล่อกับหุ่นล่ำสมส่วนที่กำลังเดินผ่านหน้าไป
“พ่อรูปหล่อเจอนางแบบคนนั้นได้ชุดคืนแล้ว อย่าลืมกลับมาหาลิลลีนะคะพี่จะคอย”
นางแบบบางคนก็มองหน้ากันแบบงงๆ บางคนก็ซุบซิบ
“หน้าคม ผิวคล้ำ หล่อ ล่ำสุดๆ นี่แหละผู้ชายในฝันของลิลลี” ช่างแต่งหน้าสาวเทียมออกอาการปลื้มจัด
++++++++++++++++++++++++++++
เสียงหอบถี่ๆหยุดลงก่อนจะยกมือทาบอกรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วและแรงกว่าปกติ “ขอบคุณมากนะคะคุณ ….ว้าย…คุณเขมมิกานางแบบชื่อดังเหรอนี่ !”
สุชาวีตื่นเต้นเมื่อเห็นหน้าชัดเจนว่าคนที่กึ่งลากกึ่งจูงพาเธอหนีออกมาจากห้องแต่งตัวคือใคร จนทำให้นายหัวเมฆาตามมาไม่ทันคือนางแบบชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทยนั่นเอง
“คนที่เธอหนีเขาคงตามมาไม่ทันแล้วล่ะ ไม่มีใครรู้เส้นทางนี้นอกจากพวกนางแบบ และก็พวกช่างแต่งหน้า” เขมมิกายิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่คุณเขมมิกามีน้ำใจช่วยดิฉันเอาไว้”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เห็นคนกำลังเดือดร้อนจะให้มองดูดายได้อย่างไรอีกอย่างพีก็รู้สึกถูกชะตากับเธออย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งที่เราพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก เหมื่อนกับว่าเราเคยเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันมาอย่างนั้นแหละ”
“คุณเขมมิกาให้เกียรติดิฉันมากไปแล้วค่ะ แค่คนดังอย่างคุณช่วยดิฉัน พูดคุยด้วยอย่างไม่ถือตัวมันก็เกินความคาดหมายแล้วค่ นอกจากคุณเขมมิกาจะสวยแล้วยังจะจิตใจดีอีกด้วย” สุชาวีชมอย่างจริงใจ
เขมมิกาเผลอยิ้มแต่เมื่อนึกได้ว่าเธอช่วยหญิงสาวเพราะอะไร ก็หยุดยิ้ม
“แหม…ปากหวานจังนะอย่างนี้สิคุณมาเรียถึง...”เขมิกาหยุดพูดกลัวจะเสียเรื่อง
ซะเขมมิกาก็ไม่อาจเลิกล้มแผนการด่วนพิเศษในสมองงานนี้ได้ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องตกนรกทั้งเป็น ดังนั้นการเลือกผลักคนอื่นให้ตกนรกแทนมันย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอ
“ขอบคุณมากนะคะถ้าอย่างนั้น ดิฉันต้องขอตัวก่อน แล้วทางไหนคะที่เป็นทางออกด้านหลังของโรงแรม” สุชาวีถามพร้อมลอยยิ้ม
“อย่าเพิ่งออกไปตอนนี้เลยนะคะ หากคนโรคจิตที่คุณวิ่งหนีตามมาเจอเข้าคุณต้องแย่แน่ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงดีล่ะคะ” สุชาวีคิด ถ้าเกิดเจอเขาเธอจะทำอย่างไรตอนนี้เธอคิดแต่เพียงว่าจะรีบกลับไปเก็บข้าวของให้ทันก่อนที่นายหัวเมฆาจะกลับไปถึงโรงแรมหากเป็นแค่เสื้อผ้าเธอคงจะทิ้งมันซะแต่มีเอกสารสำคัญมากอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเธอด้วย
“เอาอย่างนี้ดีไหมคะหากคุณไม่รังเกียจพื่อนใหม่ พี่มีเพื อนพักอยู่ที่โรงแรมนี้พอดี เราจะไปพักที่ห้องของเขาแค่ชั่วคราวพอเช้าคุณก็ค่อยกลับออกไปรับรองว่าต้องปลอดภัยเพราะนายคนนั้นคงไม่ตามคุณจนกระทั่งเช้าหรอก
สุชาวีคิดรู้สึกลังเล แม้ว่าท่าทางของนางแบบดังจะดูเป็นมิตรแต่สัญชาติญาณกลับเตือนให้เธอระวังตัว
“ไม่รบกวนคุณเขมมิกาดีกว่าค่ะ แค่นี้ดิฉันก็รบกวนคุณมากเกินไปแล้ว”สุชาวีตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันหลังคิดจะแยกออกไป
“เดี๋ยวสิ” น้ำเสียงกึ่งตวาด พร้อมกับเอื้อมมือไปกระชากแขนสุชาวีเอาไว้
“โอ้ย!” สุชาวีหันกลับมาเผชิญหน้ากับนางแบบคนดังตามแรงกระชาก
เขมมิกาหน้าเสีย “ขอ..ขอโทษนะคะคือว่า..พี่ห่วงคุณมากน่ะค่ะกลัวจะได้รับอันตรายจากนายโรคจิตคนนั้น เชื่อพี่เถอะนะคะแล้วคุณจะปลอดภัย
“อย่าดีกว่าค่ะ ดิฉันไม่รบกวนดีกว่าคุณช่วยปล่อยมือเถอะค่ะ”
เขมมิกายิ้มเหยียด “ปล่อยมือก็ได้ แต่ปล่อยตัวท่าจะยากนะแม่นางแบบเก๊”
“อะไรกัน” สุชาวีรู้สึกผิดปกติจากน้ำเสียงและแววตาของเขมมิกา เธอสะบัดแขนเขมมิกาออกและหันหลังเพื่อจะเดินหนีไปให้พ้นแต่ทำได้แค่เคิดเมื่อมีอะไรบางอย่างขวางเอาไว้จนเธอเซไป
“จัดการมัน!”
เขมมิกาพูดแค่นั้นชายหน้าตาดุหนวดเครารกรุงรังทั้งสองก็เข้ามาจับเธอไว้อีกคนเอาฝ่ามือหยาบหนามาปิดปากเธอเอาไว้ อีกคนช่วยคุมเชิงและดูต้นทาง
“ไปที่ลิฟท์ด้านหลังเร็วเข้าสิไอ้โง่ เดี๋ยวใครเห็นเข้าก็ได้พังกันหมด”
“ผู้หญิงคนนี้เหรอครับคุณเขมที่กิตติบอกว่าให้เราเอาตัวเธอไปให้นายแต่ไม่ใช่คุณพีระดานี่ครับ”
“ก็ไม่ใช่นังนั่นน่ะสิเพราะมันคนเดียวทำให้ฉันต้องวุ่นวายแบบนี้ เลยต้องเอานังนี่ไปให้ท่านแก้ขัดไปก่อน”
“ท่านคงไม่ยอม” ลูกสมุนของกิตติพูด
“ก็ยังดีกว่านอนค้างไปทั้งคืน ท่านได้ยามาใหม่ไม่ใช่เหรอ”
สุชาวีที่ถูกมือปิดปากแน่นจนไม่มีโอกาสพูดเบิกตากว้างเธอไม่รู้ว่าสามคนนี้คุยถึงเรื่องอะไรแต่มันไม่ดีกับตัวเธอแน่ แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าหนีเสือปะจระเข้ถ้าย้อนเวลาไปได้ยอมให้เสือกัดเสียดีกว่า เพราะถ้าเข้าปากจระเข้แล้วกระดูกชิ้นเดียวก็อาจไม่เหลือซาก
++++++++++++++++++++++++++
นักการเมืองตัณหากลับเดินกระสับกระส่ายอยู่ในห้องพร้อมกดโทรศัพท์ไปกดดันกิตติ
“ว่าไงวะไอ้กิตตินี่มันเลยเวลาที่แกจะต้องส่งนางแบบมาให้ฉันแล้ว ไหนล่ะฉันยังไม่เห็นแม้แต่เงา ยาของฉันมันออกฤทธิ์แล้วรู้ไหมวะ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงฉันไม่ได้ผู้หญิงหัวของแกจะต้องถูกระเบิดเป็นจุล”
“ท่านครับคุณเขมมิกากับคนของผมกำลังพาผู้หญิงไปส่งถึงเตียงนอนของท่านแล้วครับ” กิตติซ่อนความกลัวเอาไว้ในน้ำเสียง
น้ำเสียงขุ่นมัวของนักการเมืองชั่วเปลี่ยนไปทันที
“จริงเหรอ กำลังมาแล้วใช่ไหม” เสียงสัญญาณที่หน้าห้องบ่งบอกว่ามีคนมา
“มาแล้วน้องพีระดาคนสวย คืนนี้ล่ะนะพี่จะพาไปทัวร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ย ไม่ถึงไม่เลิกลา”เขาหัวเราะเสียงน่าเกลียดก่อนจะกดรีโมตคอนโทรลให้ประตูเปิดออ
เขมมิกาพร้อมกับลูกน้องของกิตติกำลังฉุดกระชากลากถูหญิงสาวสวยคนหนึ่งเข้ามาในห้องเขาโดยที่ปากของเธอถูกปิดเอาไว้ด้วยเทปกาว มือถูกจับไพล่หลังด้วยมือของลูกน้องกิตติ
“อะไรกันวะ แล้วนี่พวกมีงพาใครมาน้องพีระดานางแบบที่กำลังฮ็อตที่สุดในตอนนี้อยู่ในวะ” เขาเสียอารมณ์มากและมองมาที่เขมมิกาอย่างต้องการคำตอบ
“ตอบฉันมา” เขมมิการู้สึกกลัวอย่างประหลาดเพราะรู้ดีว่านักการเมืองคนนี้เวลาโกรธแล้วเป็นอย่างไรเขาเลวครบสูตรค้ายา ทุจริตสารพัดรูปแบบ แต่ฉาบไว้ด้วยภาพลักษณ์ของนักการเมืองมือสะอาด
“ท่านคะ นังพีระดา เอ้ย…น้องพีระดาหายตัวไปอย่างกะทันหันค่ะ พวกเราเลยหานางแบบคนอื่นมาให้ท่านทดแทนแต่รับรองว่าสวยไม่แพ้พีระดา แถมคืนนี้เธอยังเป็นคนที่ได้สวมชุดฟินนาเล่อีกค่ะท่าน”
เขมมิกาพูดได้เท่านั้นใบหน้าสวยก็สะบัดไปสุดแรงตามแรงตบที่ไม่คิดจะออมแรงและไม่เคยปราณี ใครหญิงสาวกุมกระชับโหนกแก้มที่แดงจัดและขึ้นเป็นรอยนิ้วชัดเจน
“ท่านคะดิฉันขอโทษค่ะ แต่ไม่มีใครรู้ว่ายัยพีระดาจะหายตัวไปกะทันหันทั้งๆทีงานกำลังจะเริ่ม”
“ฉันไม่สนใจคำแก้ตัวโว้ย ฉันอยากนอนกับนางแบบสุดฮ็อตหน้าใหม่และดังที่สุด”
สุชาวีแทบจะทรุดฮวบหากไม่มีไอ้สองคนนี้รั้งเธอเอาไว้
“ครั้งหน้าท่านจะได้ตามที่ท่านต้องการอย่างแน่นอน”
“ฉันไม่เชื่อเธอหรอกเขมมิกาผู้หญิงอย่างเธอมันจะมีอะไรให้เชื่อถือได้อีก” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ “ขนาดขายตัวแลกหนี้พนันที่บ่อนเธอยังทำมาแล้ว”
เขมมิกาหน้าซีดรู้สึกตกใจที่ขนาดท่านยังรู้เรื่องนี้ นึกเจ็บใจไอ้เจ้าของบ่อนนั่นมันคงเอาเรื่องเธอไปคุยอย่างสนุกปาก
“ท่านรู้..เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ”น้ำเสียงเขมมิกาแทบจะหายไปในลำคอและยกมือขึ้นปิดปากทั้งตกใจและอับอาย
“เจ้าของบ่อนนั่นมันเป็นลูกน้องเก่าฉันเอง แต่เอาเถอะฉันไม่มีเวลามาสนใจผู้หญิงอย่างเธอหรอกว่าจะฟอนเฟะสักแค่ไหน”
สุชาวีพยายามจะดิ้นให้พ้นพันธนาการจนเธอสามารถพ้นจากชายสองคนที่จับเธอมาแต่ร่างสมส่วนกับไปกระแทกกับนักการเมืองชั่วอย่างแรง
ทันใดนั่นนักการเมืองชั่วก็ได้เห็นใบหน้าชัดๆ ว่านางแบบที่เขมมิกาพามาสวยหยาดเยิ้มแค่ไหนเมื่อเขากระตุกเทปกาวออกจากริมฝีปากของเธอ ใบหน้าหญิงสาวสวยหมดจดตากลมโต จมูกสวยได้รูป ริมฝีปากเอิบอิ่มสวยไม่แพ้ใคร ยิ่งรูปร่างสวยที่ไม่แพ้นางแบบมือออาชีพของสุชาวีมันทำให้ตัวตนความเป็นชายของนักการเมืองเจ้าเล่ห์แข็งขืนคืนชีพขึ้นมาอย่างประหลาด
“ปล่อยฉันไปได้โปรดเถอะ คุณลองคิดดูสิคะหากลูกสาวคุณถูกจับมาอยู่ในสถาการณ์เดียวกับดิฉันคุณจะสงสารเธอไหม คุณยังคิดจะทำร้ายเธอลงอีกหรือเปล่า” สุชาวีพยายามจะหว่านล้อมคนที่กำลังหน้ามืดเพราะตัณหา
“อย่ามาหว่านล้อมฉันให้ยากเลยแม่กวางน้อย เพราะฉันมีลูกชายคนเดียวไม่มีลูกสาวคงไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เธอพยายามจะบอกหรอก ที่สำคัญคนอย่างฉันเลวมาไกลเกินจะกลับไปเป็นคนดีได้แล้ว” ก่อนที่เขาจะหัวเราะเสียงดังและไล่เขมมิกากับพวกออกไปเพื่อจะได้ไล่ล่า ขยำ ขยี้ แม่กวางน้อยแสนสวยได้อย่างถนัด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เข้ามาในนี้ไม่ได้นะครับคุณ เชิญคุณออกไปด้านนอกก่อนเถอะครับ” การ์ดสองคนคนตามนายหัวเมฆาเข้ามาในห้องแต่งตัวนางแบบที่ตอนนี้ดูจะวุ่นวายแตกตื่นกันไปหมด
“ผมออกไปแน่ แต่ผมต้องพาคนของผมกลับออกไปด้วย” นายหัวเมืองใต้ตอบก่อนจะกวาดตามองไปรอบห้องสุชาวีไม่ได้อยู่ในห้องนี้ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ ในเมื่อเขาตามเธอมาติดๆเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหลบไปทางไหนนอกจากจะเดินทะลุผนังห้องนี้หนีเขาไป
การ์ดไม่กล้าใช้กำลังกับนายหัวคนดังเพราะทราบดีว่าเขาเป็นแขกวีไอพีการ์ดเชิญสีทอง ซึ่งมีความหมายว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ มีชื่อเสียงหรือไม่ก็ร่ำรวยมาก จึงได้แต่ยืนคุมเชิงห่างๆ
“มีใครเห็นผู้หญิงที่สวมชุดฟินาเล่วิ่งเข้ามาในห้องนี้บ้างไหมครับ”
“ไม่มีเสียงตอบ”
แน่ล่ะเมื่อสามนาทีก่อนหน้านี้ทุกคนเห็นสุชาวีนางแบบที่ไม่มีใครรู้จักแต่จับพลัดจับพลูมาสวมชุดเด่นของงานวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีคนโรคจิตวิ่งตามเธอมาและถามถึงทางหนี
ไม่มีใครตอบคำถามเธอเลยเพราะทุกคนกำลังงงตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งนางแบบควรจะอยู่บนเวทีไม่ใช่วิ่งหนีใครมาแบบนี้ แต่แล้วเขมมิกากับเข้าไปพูดคุยอะไรบางอย่างพร้อมฉุดแขนให้นางแบบผู้สวมชุดฟิเนเล่ตามเธอไปตามเส้นทางลับที่รู้กันเฉพาะนางแบบและเจ้าหน้าที่บางคน มันถูกสร้างไว้เพื่อให้นางแบบที่ต้องการหลบหน้านักข่าวกรณีไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ได้ใช้เป็นเส้นทางหลบเลี่ยงเนื่องจากสถานที่แห่งนี้ถูกใช้จัดงานเดินแบบเป็นประจำ
“ไม่มีใครเห็นนางแบบที่สวมชุดฟิเนเล่สีม่วงวิ่งมาทางนี้บ้างเลยหรือครับ”
หลายคนสบตากันแต่ยังไม่ขยับปากพูด หลายคนไม่อยากเชื่อว่าคนโรคจิตที่นางแบบสาวกล่าวอ้างจะมีหน้าตาดูดีถึงขนาดนี้
“คุณก็ไม่เห็นอย่างนั้นเหรอครับ” นายหัวเมฆาถามช่างแต่งหน้าสาวใหญ่ที่ยืนใกล้เขามากที่สุด
เธอยิ้มแหยๆ ไม่กล้าตอบเพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกกลัวพูดไปแล้วอาจจะเป็นผลเสีย
“แล้วคุณล่ะคนสวย”นายหัวเมฆาหันไปถามช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองที่ทำของตกตอนเขาผลักประตูเข้ามาเมื่อครู่เพราะท่างทางของเธอดูจะสนใจเขามากเป็นพิเศษ
“ว้าย! พ่อรูปหล่อชมจริงใจกันแบบนี้ลิลลีก็เขินแย่ซิคะ”
“เธอไปทางไหนครับ คุณคงเห็นเธอแน่ๆ”นายหัวเมฆาถามอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์
“แล้วคุณต้องการตามเธอไปทำไมหรือคะ”
นายหัวเมฆายิ้มเล็กน้อย “ผมไม่ได้ต้องการตามเธอ แต่ผมต้องการตามชุดที่ผมประมูลได้และนางแบบคนนั้นพามันไปด้วย”
“ว้าย! ตายแล้วจริงด้วย ยัยนางแบบคนนั้นเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ หรือว่าเธอตั้งใจจะขโมยชุดไป ก็ชุดนั้นมันมีทับทิมของแท้ประดับอยู่ด้วย” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองปิดปาก นายหัวเมฆาต้องการรู้ว่าสุชาวีหายตัวไปได้อย่างไรจึงไม่ได้อธิบายอะไร
“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคุณเห็นเธอใช่ไหมครับคนสวย” เขาไม่วายหยอดคำหวานเพราะรู้ว่าเธอคนนี้จะเป็นคนบอกทางให้
กระเทยสาวนางนั้นชี้นิ้วมือไปที่เส้นทางลับหลังราวแขวนชุดนางแบบ นายหัวเมฆายิ้มให้เธอเล็กน้อยแต่บาดใจจนลิลลีแทบจะปล่อยให้ไดร์เปล่าผมล่วงจากมือ สายตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าหล่อกับหุ่นล่ำสมส่วนที่กำลังเดินผ่านหน้าไป
“พ่อรูปหล่อเจอนางแบบคนนั้นได้ชุดคืนแล้ว อย่าลืมกลับมาหาลิลลีนะคะพี่จะคอย”
นางแบบบางคนก็มองหน้ากันแบบงงๆ บางคนก็ซุบซิบ
“หน้าคม ผิวคล้ำ หล่อ ล่ำสุดๆ นี่แหละผู้ชายในฝันของลิลลี” ช่างแต่งหน้าสาวเทียมออกอาการปลื้มจัด
++++++++++++++++++++++++++++
เสียงหอบถี่ๆหยุดลงก่อนจะยกมือทาบอกรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วและแรงกว่าปกติ “ขอบคุณมากนะคะคุณ ….ว้าย…คุณเขมมิกานางแบบชื่อดังเหรอนี่ !”
สุชาวีตื่นเต้นเมื่อเห็นหน้าชัดเจนว่าคนที่กึ่งลากกึ่งจูงพาเธอหนีออกมาจากห้องแต่งตัวคือใคร จนทำให้นายหัวเมฆาตามมาไม่ทันคือนางแบบชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทยนั่นเอง
“คนที่เธอหนีเขาคงตามมาไม่ทันแล้วล่ะ ไม่มีใครรู้เส้นทางนี้นอกจากพวกนางแบบ และก็พวกช่างแต่งหน้า” เขมมิกายิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่คุณเขมมิกามีน้ำใจช่วยดิฉันเอาไว้”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เห็นคนกำลังเดือดร้อนจะให้มองดูดายได้อย่างไรอีกอย่างพีก็รู้สึกถูกชะตากับเธออย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งที่เราพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก เหมื่อนกับว่าเราเคยเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันมาอย่างนั้นแหละ”
“คุณเขมมิกาให้เกียรติดิฉันมากไปแล้วค่ะ แค่คนดังอย่างคุณช่วยดิฉัน พูดคุยด้วยอย่างไม่ถือตัวมันก็เกินความคาดหมายแล้วค่ นอกจากคุณเขมมิกาจะสวยแล้วยังจะจิตใจดีอีกด้วย” สุชาวีชมอย่างจริงใจ
เขมมิกาเผลอยิ้มแต่เมื่อนึกได้ว่าเธอช่วยหญิงสาวเพราะอะไร ก็หยุดยิ้ม
“แหม…ปากหวานจังนะอย่างนี้สิคุณมาเรียถึง...”เขมิกาหยุดพูดกลัวจะเสียเรื่อง
ซะเขมมิกาก็ไม่อาจเลิกล้มแผนการด่วนพิเศษในสมองงานนี้ได้ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องตกนรกทั้งเป็น ดังนั้นการเลือกผลักคนอื่นให้ตกนรกแทนมันย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอ
“ขอบคุณมากนะคะถ้าอย่างนั้น ดิฉันต้องขอตัวก่อน แล้วทางไหนคะที่เป็นทางออกด้านหลังของโรงแรม” สุชาวีถามพร้อมลอยยิ้ม
“อย่าเพิ่งออกไปตอนนี้เลยนะคะ หากคนโรคจิตที่คุณวิ่งหนีตามมาเจอเข้าคุณต้องแย่แน่ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงดีล่ะคะ” สุชาวีคิด ถ้าเกิดเจอเขาเธอจะทำอย่างไรตอนนี้เธอคิดแต่เพียงว่าจะรีบกลับไปเก็บข้าวของให้ทันก่อนที่นายหัวเมฆาจะกลับไปถึงโรงแรมหากเป็นแค่เสื้อผ้าเธอคงจะทิ้งมันซะแต่มีเอกสารสำคัญมากอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเธอด้วย
“เอาอย่างนี้ดีไหมคะหากคุณไม่รังเกียจพื่อนใหม่ พี่มีเพื อนพักอยู่ที่โรงแรมนี้พอดี เราจะไปพักที่ห้องของเขาแค่ชั่วคราวพอเช้าคุณก็ค่อยกลับออกไปรับรองว่าต้องปลอดภัยเพราะนายคนนั้นคงไม่ตามคุณจนกระทั่งเช้าหรอก
สุชาวีคิดรู้สึกลังเล แม้ว่าท่าทางของนางแบบดังจะดูเป็นมิตรแต่สัญชาติญาณกลับเตือนให้เธอระวังตัว
“ไม่รบกวนคุณเขมมิกาดีกว่าค่ะ แค่นี้ดิฉันก็รบกวนคุณมากเกินไปแล้ว”สุชาวีตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันหลังคิดจะแยกออกไป
“เดี๋ยวสิ” น้ำเสียงกึ่งตวาด พร้อมกับเอื้อมมือไปกระชากแขนสุชาวีเอาไว้
“โอ้ย!” สุชาวีหันกลับมาเผชิญหน้ากับนางแบบคนดังตามแรงกระชาก
เขมมิกาหน้าเสีย “ขอ..ขอโทษนะคะคือว่า..พี่ห่วงคุณมากน่ะค่ะกลัวจะได้รับอันตรายจากนายโรคจิตคนนั้น เชื่อพี่เถอะนะคะแล้วคุณจะปลอดภัย
“อย่าดีกว่าค่ะ ดิฉันไม่รบกวนดีกว่าคุณช่วยปล่อยมือเถอะค่ะ”
เขมมิกายิ้มเหยียด “ปล่อยมือก็ได้ แต่ปล่อยตัวท่าจะยากนะแม่นางแบบเก๊”
“อะไรกัน” สุชาวีรู้สึกผิดปกติจากน้ำเสียงและแววตาของเขมมิกา เธอสะบัดแขนเขมมิกาออกและหันหลังเพื่อจะเดินหนีไปให้พ้นแต่ทำได้แค่เคิดเมื่อมีอะไรบางอย่างขวางเอาไว้จนเธอเซไป
“จัดการมัน!”
เขมมิกาพูดแค่นั้นชายหน้าตาดุหนวดเครารกรุงรังทั้งสองก็เข้ามาจับเธอไว้อีกคนเอาฝ่ามือหยาบหนามาปิดปากเธอเอาไว้ อีกคนช่วยคุมเชิงและดูต้นทาง
“ไปที่ลิฟท์ด้านหลังเร็วเข้าสิไอ้โง่ เดี๋ยวใครเห็นเข้าก็ได้พังกันหมด”
“ผู้หญิงคนนี้เหรอครับคุณเขมที่กิตติบอกว่าให้เราเอาตัวเธอไปให้นายแต่ไม่ใช่คุณพีระดานี่ครับ”
“ก็ไม่ใช่นังนั่นน่ะสิเพราะมันคนเดียวทำให้ฉันต้องวุ่นวายแบบนี้ เลยต้องเอานังนี่ไปให้ท่านแก้ขัดไปก่อน”
“ท่านคงไม่ยอม” ลูกสมุนของกิตติพูด
“ก็ยังดีกว่านอนค้างไปทั้งคืน ท่านได้ยามาใหม่ไม่ใช่เหรอ”
สุชาวีที่ถูกมือปิดปากแน่นจนไม่มีโอกาสพูดเบิกตากว้างเธอไม่รู้ว่าสามคนนี้คุยถึงเรื่องอะไรแต่มันไม่ดีกับตัวเธอแน่ แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าหนีเสือปะจระเข้ถ้าย้อนเวลาไปได้ยอมให้เสือกัดเสียดีกว่า เพราะถ้าเข้าปากจระเข้แล้วกระดูกชิ้นเดียวก็อาจไม่เหลือซาก
++++++++++++++++++++++++++
นักการเมืองตัณหากลับเดินกระสับกระส่ายอยู่ในห้องพร้อมกดโทรศัพท์ไปกดดันกิตติ
“ว่าไงวะไอ้กิตตินี่มันเลยเวลาที่แกจะต้องส่งนางแบบมาให้ฉันแล้ว ไหนล่ะฉันยังไม่เห็นแม้แต่เงา ยาของฉันมันออกฤทธิ์แล้วรู้ไหมวะ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงฉันไม่ได้ผู้หญิงหัวของแกจะต้องถูกระเบิดเป็นจุล”
“ท่านครับคุณเขมมิกากับคนของผมกำลังพาผู้หญิงไปส่งถึงเตียงนอนของท่านแล้วครับ” กิตติซ่อนความกลัวเอาไว้ในน้ำเสียง
น้ำเสียงขุ่นมัวของนักการเมืองชั่วเปลี่ยนไปทันที
“จริงเหรอ กำลังมาแล้วใช่ไหม” เสียงสัญญาณที่หน้าห้องบ่งบอกว่ามีคนมา
“มาแล้วน้องพีระดาคนสวย คืนนี้ล่ะนะพี่จะพาไปทัวร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ย ไม่ถึงไม่เลิกลา”เขาหัวเราะเสียงน่าเกลียดก่อนจะกดรีโมตคอนโทรลให้ประตูเปิดออ
เขมมิกาพร้อมกับลูกน้องของกิตติกำลังฉุดกระชากลากถูหญิงสาวสวยคนหนึ่งเข้ามาในห้องเขาโดยที่ปากของเธอถูกปิดเอาไว้ด้วยเทปกาว มือถูกจับไพล่หลังด้วยมือของลูกน้องกิตติ
“อะไรกันวะ แล้วนี่พวกมีงพาใครมาน้องพีระดานางแบบที่กำลังฮ็อตที่สุดในตอนนี้อยู่ในวะ” เขาเสียอารมณ์มากและมองมาที่เขมมิกาอย่างต้องการคำตอบ
“ตอบฉันมา” เขมมิการู้สึกกลัวอย่างประหลาดเพราะรู้ดีว่านักการเมืองคนนี้เวลาโกรธแล้วเป็นอย่างไรเขาเลวครบสูตรค้ายา ทุจริตสารพัดรูปแบบ แต่ฉาบไว้ด้วยภาพลักษณ์ของนักการเมืองมือสะอาด
“ท่านคะ นังพีระดา เอ้ย…น้องพีระดาหายตัวไปอย่างกะทันหันค่ะ พวกเราเลยหานางแบบคนอื่นมาให้ท่านทดแทนแต่รับรองว่าสวยไม่แพ้พีระดา แถมคืนนี้เธอยังเป็นคนที่ได้สวมชุดฟินนาเล่อีกค่ะท่าน”
เขมมิกาพูดได้เท่านั้นใบหน้าสวยก็สะบัดไปสุดแรงตามแรงตบที่ไม่คิดจะออมแรงและไม่เคยปราณี ใครหญิงสาวกุมกระชับโหนกแก้มที่แดงจัดและขึ้นเป็นรอยนิ้วชัดเจน
“ท่านคะดิฉันขอโทษค่ะ แต่ไม่มีใครรู้ว่ายัยพีระดาจะหายตัวไปกะทันหันทั้งๆทีงานกำลังจะเริ่ม”
“ฉันไม่สนใจคำแก้ตัวโว้ย ฉันอยากนอนกับนางแบบสุดฮ็อตหน้าใหม่และดังที่สุด”
สุชาวีแทบจะทรุดฮวบหากไม่มีไอ้สองคนนี้รั้งเธอเอาไว้
“ครั้งหน้าท่านจะได้ตามที่ท่านต้องการอย่างแน่นอน”
“ฉันไม่เชื่อเธอหรอกเขมมิกาผู้หญิงอย่างเธอมันจะมีอะไรให้เชื่อถือได้อีก” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ “ขนาดขายตัวแลกหนี้พนันที่บ่อนเธอยังทำมาแล้ว”
เขมมิกาหน้าซีดรู้สึกตกใจที่ขนาดท่านยังรู้เรื่องนี้ นึกเจ็บใจไอ้เจ้าของบ่อนนั่นมันคงเอาเรื่องเธอไปคุยอย่างสนุกปาก
“ท่านรู้..เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ”น้ำเสียงเขมมิกาแทบจะหายไปในลำคอและยกมือขึ้นปิดปากทั้งตกใจและอับอาย
“เจ้าของบ่อนนั่นมันเป็นลูกน้องเก่าฉันเอง แต่เอาเถอะฉันไม่มีเวลามาสนใจผู้หญิงอย่างเธอหรอกว่าจะฟอนเฟะสักแค่ไหน”
สุชาวีพยายามจะดิ้นให้พ้นพันธนาการจนเธอสามารถพ้นจากชายสองคนที่จับเธอมาแต่ร่างสมส่วนกับไปกระแทกกับนักการเมืองชั่วอย่างแรง
ทันใดนั่นนักการเมืองชั่วก็ได้เห็นใบหน้าชัดๆ ว่านางแบบที่เขมมิกาพามาสวยหยาดเยิ้มแค่ไหนเมื่อเขากระตุกเทปกาวออกจากริมฝีปากของเธอ ใบหน้าหญิงสาวสวยหมดจดตากลมโต จมูกสวยได้รูป ริมฝีปากเอิบอิ่มสวยไม่แพ้ใคร ยิ่งรูปร่างสวยที่ไม่แพ้นางแบบมือออาชีพของสุชาวีมันทำให้ตัวตนความเป็นชายของนักการเมืองเจ้าเล่ห์แข็งขืนคืนชีพขึ้นมาอย่างประหลาด
“ปล่อยฉันไปได้โปรดเถอะ คุณลองคิดดูสิคะหากลูกสาวคุณถูกจับมาอยู่ในสถาการณ์เดียวกับดิฉันคุณจะสงสารเธอไหม คุณยังคิดจะทำร้ายเธอลงอีกหรือเปล่า” สุชาวีพยายามจะหว่านล้อมคนที่กำลังหน้ามืดเพราะตัณหา
“อย่ามาหว่านล้อมฉันให้ยากเลยแม่กวางน้อย เพราะฉันมีลูกชายคนเดียวไม่มีลูกสาวคงไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เธอพยายามจะบอกหรอก ที่สำคัญคนอย่างฉันเลวมาไกลเกินจะกลับไปเป็นคนดีได้แล้ว” ก่อนที่เขาจะหัวเราะเสียงดังและไล่เขมมิกากับพวกออกไปเพื่อจะได้ไล่ล่า ขยำ ขยี้ แม่กวางน้อยแสนสวยได้อย่างถนัด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.ค. 2555, 13:14:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.ค. 2555, 13:14:27 น.
จำนวนการเข้าชม : 3738
<< ตอนที่ 26 | ตอนที่ 28 >> |

อัปสรา 13 ก.ค. 2555, 14:07:10 น.
มาบ่ายๆนะ เรื่องนี้ต้องรีอีกมากเลยไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่
มาบ่ายๆนะ เรื่องนี้ต้องรีอีกมากเลยไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่

kaero 13 ก.ค. 2555, 15:06:19 น.
เอาน่า สู้ๆๆๆๆๆๆๆน๊ะ
เอาน่า สู้ๆๆๆๆๆๆๆน๊ะ

violette 13 ก.ค. 2555, 22:50:30 น.
สู้ๆๆค่า
สู้ๆๆค่า

sirynth 20 ก.ค. 2555, 12:21:51 น.
somebody help the pretty nurse please.
somebody help the pretty nurse please.
