ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 9.1 ตอนพิเศษราชนาวีที่รัก 2
บทที่ 9
“ขอบคุณค่ะ รับของที่ระลึกด้วยค่ะ”
ของที่ระลึกของเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นเป็น ตุ๊กตาเซรามิกเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สั่งทำพิเศษจากโรงงานที่จังหวัดลำปาง ..ความพิเศษนั้นคือเจ้าบ่าวอยู่ในชุดนายทหารเรือมีกระบี่เหน็บอยู่ด้านข้างลำตัว ส่วนเจ้าสาวนั้นสวมชุดสีชมพูอ่อนฟูฟ่องมือขวาโอบเอวเจ้าบ่าว ส่วนมือซ้ายนั้นหอบหนังสือไว้ที่เอว..
คอนเซ็ปนี้เจ้าสาวเป็นคนคิดเอง และพอพลิกดูด้านหลังก็เห็นข้อความ “ แพรวพรรณ จิรวัติ” วันเดือนปี ติดอยู่ที่ตุ๊กตา คนที่มาร่วมงานต่างก็ไม่พลาดของชำร่วยชิ้นนี้ ซึ่งเจ้าภาพนั้นก็สั่งทำมาอย่างเกินจำนวนคนที่เชิญมาในงาน เพราะต้องการให้ทุกคนที่มานั้น มีของชิ้นนี้ติดมือกลับไป..เพื่อจะกล่าวถึงงานใหญ่โตที่จัดขึ้นในครั้งนี้ไปตราบนานเท่านาน นอกจากนั้นหิรัญญายังเหมาสบู่เอนไซม์ “จันทร์เจ้าฉาย”ของศุภนิมิตรมาแจกให้แขกที่มาร่วมงาน แต่ว่าใต้สบู่แฟนซีนั้นมีใบแทรกบอกสรรพคุณสินค้าและเว็บไซด์สำหรับสั่งซื้อกรณีติดใจในรูป กลิ่น และสรรพคุณของสบู่ ซึ่งจรินนาได้ทดลองใช้ไปแล้ว จึงพอรู้ว่าสบู่ของจันทร์เจ้าฉายนั้นเป็นอย่างไร
“สวยจังเลย” เอกรินทร์บอกกับหิรัญญา แต่ว่าสายตานั้นยังอยู่ที่ใบหน้าของนาที นาทีเองก็ยิ้มนิด ๆ จรินนาที่เขียนคำอวยพรเสร็จ เงยหน้าขึ้น หญิงสาวนั้นรู้ใจเอกรินทร์เป็นอย่างดี จึงเหลือบตาไปมองชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มเพื่อดูว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไรและเมื่อเห็นว่า ทั้งคู่ดูจะมีใจให้กัน จรินนาก็แตะแขนชวนให้เอกรินทร์เดินออกไป เพราะว่ามีแขกจากในตัวจังหวัดเดินตามหลังมาอีกไม่น้อย
“จะรีบไปไหน”
“ไปหาโต๊ะนั่ง..”
“ทางนี้ค่ะ ถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อน” คุณนายวันเพ็ญรีบร้องทัก เมื่อเห็นว่า เอกรินทร์กับ จรินนาลูกชายลูกสาวคหบดีในตัวจังหวัดกำลังจะเดินเข้างานโดยไม่สนใจเจ้าบ่าวเจ้าสาวและพ่อแม่ของทั้งคู่..
จรินนาโปรยยิ้ม..แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องเบิ่งตากว้าง เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ก่อนถึงคณะพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาว
“อ้าว..อาจารย์กล้วย..มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เอกรินทร์ร้องทัก..เดชาพงษ์ยิ้มเพียงแย้มให้ โดยสายตาของเขานั้นเหลือบมองหน้าจรินนาเพียงนิดเดียว
“สักครู่ครับ คุณเอกมาถึงนานหรือยัง” จริง ๆ เขาไม่น่าถามออกไปอย่างนั้น แต่ว่ามันก็เป็นมารยาทของการสนทนา
“เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”
“เชิญถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวครับ” เขาตัดบท
“ถ่ายด้วยกันไหม” หูตาของเอกรินทร์แพรวพราวกับผู้ชายหน้าตาดีทุกคน..แต่ว่าจรินนานั้นปั้นหน้านิ่งทำเหมือนว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เช่นกัน เมื่อหญิงสาวทำเหมือนกับว่าไม่เคยคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวแล้ว เขาก็ต้องเล่นบทคนแปลกหน้าคืนกลับไปบ้าง
“ผมถ่ายตั้งแต่เช้าแล้วครับ เชิญ ครับ ขอตัวก่อน..” ว่าแล้วเดชาพงษ์ผู้มีร่างสูงใหญ่ก็เดินผ่านซุ้มดอกไม้ที่วางตำแหน่งสลับกันรูปเวดดิ้งตามสมัยนิยมของคู่บ่าวสาวนับสิบ ๆ ภาพ เข้าไปในบริเวณจัดเลี้ยง..โดยที่จรินนานั้นเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่เขาเดินผ่านเธอไป..
“ระวังหัวใจตัวเองนะ..” เอกรินทร์แกล้งเย้า..จรินนาค้อนให้..แต่ว่ายังไม่ทันที่จรินนาจะเอ่ยความในใจออกมา คุณนายวันเพ็ญที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีชมพูมีผมดัดจัดทรงเป็นพุ่มติดกากเพชรก็รีบเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการ เพราะอยากให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกับลูกเขยและลูกสาวที่เหมาะสมกับอย่างกิ่งทองใบหยก..
โดยเฉพาะคู่นี้ คุณนายวันเพ็ญให้ความสนใจเป็นพิเศษ..เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่รวยติดอันดับเศรษฐีใหญ่ของเมืองปากน้ำโพ
“คุณพ่อกับคุณแม่มากันตั้งแต่เช้า..ตอนเย็นเลยขอตัวไม่มา..ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์ให้เกียรติมาร่วมงานกับน้องแพรว..”
“เป็นบุญตาของผมครับ” เอกรินทร์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
“ค่ะ..ตั้งใจจัดเต็มที่ เอาให้คนลือกันไปสามชั่วอายุคนเลย..”
“น่าจะได้อยู่ครับ อลังการสมกับที่ได้ลูกเขยเป็นนายทหารเรือ..” แม้จะรู้สึกว่า เจ้าสาวควรจะได้คู่ครองที่เหมาะสมกันทางฐานะมากกว่านี้ แต่ว่าพอเห็นหน้าจิรวัติในงานเลี้ยงของสมาคมแห่งหนึ่งหลังจากที่ทั้งคู่หมั้นหมายกัน เขาก็เข้าใจทันทีว่า..ทำไมแพรวพรรณถึงพร้อมที่จะแข็งข้อกับแม่หากว่าเขาเดินเกมคลุมถุงชนอย่างที่ผู้ใหญ่ต้องการ เพราะความหล่อเหลาของผู้การจิรวัตินั้นไม่เป็นรองใคร ยศตำแหน่งนั้นเล่ามันก็หาไม่ได้ง่าย ๆ ในถิ่นนี้เช่นกัน
“ทางนี้ดีกว่า ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวหน่อย”
เอกรินทร์กับจรินนาเดินตามหลังคุณนายวันเพ็ญไปอย่างเสียไม่ได้ และเมื่อไปถึง จรินนาก็ยิ้ม บาง ๆ ให้กับแพรวพรรณเจ้าสาวที่ก่อนหน้านั้นได้คุยกันเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
“ดีใจด้วยนะแพรว..เจ้าบ่าวหล่อมาก” พอชมเจ้าบ่าวไปแล้วจรินนาก็นึกถึงน้องชายเจ้าบ่าวขึ้นมา หากเขาอยู่ชุดที่ดูเป็นทางการอย่างชุดสูทเขาก็คงดูดีไม่น้อย ...แต่ในความเป็นเขา มันก็มีตัวตนมีเอกลักษณะเฉพาะตัว โดยเฉพาะวันที่เขานุ่งผ้าโสร่งเดินออกมารับเธอ...
“ขอบคุณครับ” จิรวัตินั้นหน้าเปื้อนยิ้มตาเป็นประกายตลอดเวลา จรินนารู้สึกอิจฉาความสุขของคนทั้งคู่ ..ไม่ใช่แค่คู่นี้หรอก..ทุกครั้งที่เธอไปงานแต่งงานเธอจะต้องรู้สึกอิจฉาความรักของคนอื่น เพราะความรักของเธอนั้น ที่ผ่าน ๆ มามันเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ คบกับใครได้ไม่นาน ปัญหามันจะต้องตามมาให้
เลิกลากันไปในที่สุด..และคำปลอบใจที่เธอได้จากเพื่อน ๆ ก็คือ ‘ให้คิดเสียว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน’ และพอมางานแต่งงานครั้งใด จรินนาก็อดที่จะถามตัวเองไม่ได้ว่า แล้วเนื้อคู่ของเธอตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ออกมาทำให้หัวใจของเธอได้ชุ่มชื่นเสียที...
“แต่งแล้วแพรวจะย้ายไปอยู่สัตหีบเลยหรือเปล่า” เอกรินทร์ชวนคุย
“ไปค่ะ แต่ก็คงกลับนครสวรรค์เดือนละหนสองหนค่ะ คุณแม่ขอไว้”
“มีลูกสาวคนเดียวด้วย”
“ค่ะ..พี่เอกแต่งเมื่อไหร่ บอกแพรวด้วยนะคะ แพรวมาใช้แรงแน่นอนค่ะ”
“..ครับ” รับคำแพรวพรรณสั้น ๆ แล้วเอกรินทร์ก็ต้องขยับตัวไปตามความต้องการของตากล้องหนุ่มรูปหล่อ โดยเขานั้นเดินไปอยู่ด้านข้างผู้การสุดหล่อ ซึ่งวันนี้ชุดสโมสรทำให้ใบหน้าคมคายนั้นดูมีราศีมากขึ้น
และเมื่อตากล้องนับ เขาก็ยิ้มบาง ๆ กระทั่งแสงเฟลชทำงาน หลังกะพริบเปลือกตาเขาก็มองเห็นว่า..คนที่เขารู้สึกถูกชะตานั้นมองเขาอยู่..เขายิ้มให้ทั้งตาและปากให้นาทีเช่นกัน
เมื่อเอกรินทร์กับจรินนาเดินเข้าไปในงานแล้วนาทีก็เดินถือแก้วน้ำเย็นมาให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเพราะมั่นใจว่าทั้งคู่นั้นคงกระหายแล้วเป็นแน่
“ขอบใจมาก”
“พี่เอกรินทร์..มองหนึ่งด้วย” นาทีกระซิบบอกแพรวพรรณเบา ๆ
“ใจตรงกันละซิ”
“นิดนึง”
“ตามเข้าไปข้างในสิ คนบางตาแล้ว ให้คนอื่น ๆ ดูแลแทนก็ได้” แพรวพรรณชี้ช่อง
อย่างรู้ใจ..นาทีทำเป็นกระบิดกระบวน
“น่าเกลียด...”
“ถ้าไม่สานความสัมพันธ์กันวันนี้ แล้วจะรอวันไหน” แพรวพรรณกระซิบบอกเพื่อนรักเบา ๆ และเสียงกระแอมของจิรวัติก็ทำให้แพรวพรรณหันมายิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์ให้กับเขา..
“ซุบซิบอะไรกัน” จิรวัตินั้นรู้ว่านาทีเป็นผู้ชายแบบไหน เพียงแต่เขาอยากมีส่วนร่วมกับเพื่อนของภรรยาเท่านั้นเอง
“ไม่มีอะไร”
“ผู้การกินน้ำซะ จะได้เอาแก้วไปเก็บ” นาทีรีบรวบรัด จิรวัติยื่นมือมารับแก้วจากแพรวพรรณที่ขณะนี้เธอสวยเสียจนเขาไม่อยากละสายตาไปจากวงหน้านั้นเลย
“หรือจะกินเหล้าย้อมใจ” นาทีถามอีกครั้ง
“ระดับนี้แล้วครับ..บนเวที บนเตียงไม่ใช่ปัญหา”
“บ้า” เจ้าสาวหน้าแดงระเรื่อ
“ขอให้ได้ลูกสาวแล้วกัน เผื่อเป็นดองกับพี่ญา” นาทีกระทุ้ง แพรวพรรณยิ่งหน้าแดงหนักเข้าไปอีก จิรวัติดื่มน้ำไปหมดแก้ว แล้วก็ทำตาเชื่อมกับเจ้าสาวที่มีเหงื่อซึมอยู่ที่ไรผม เห็นดังนั้นเขาจึงส่งแก้วให้นาที แล้วก็ดึงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาซับเบา ๆ พลางทำตามเชื่อมบอกความเสน่หาไปด้วย..นาทีเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเสียแล้ว เขาจึงเดินเลี่ยงออกไป
“ขอบคุณค่ะ รับของที่ระลึกด้วยค่ะ”
ของที่ระลึกของเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นเป็น ตุ๊กตาเซรามิกเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สั่งทำพิเศษจากโรงงานที่จังหวัดลำปาง ..ความพิเศษนั้นคือเจ้าบ่าวอยู่ในชุดนายทหารเรือมีกระบี่เหน็บอยู่ด้านข้างลำตัว ส่วนเจ้าสาวนั้นสวมชุดสีชมพูอ่อนฟูฟ่องมือขวาโอบเอวเจ้าบ่าว ส่วนมือซ้ายนั้นหอบหนังสือไว้ที่เอว..
คอนเซ็ปนี้เจ้าสาวเป็นคนคิดเอง และพอพลิกดูด้านหลังก็เห็นข้อความ “ แพรวพรรณ จิรวัติ” วันเดือนปี ติดอยู่ที่ตุ๊กตา คนที่มาร่วมงานต่างก็ไม่พลาดของชำร่วยชิ้นนี้ ซึ่งเจ้าภาพนั้นก็สั่งทำมาอย่างเกินจำนวนคนที่เชิญมาในงาน เพราะต้องการให้ทุกคนที่มานั้น มีของชิ้นนี้ติดมือกลับไป..เพื่อจะกล่าวถึงงานใหญ่โตที่จัดขึ้นในครั้งนี้ไปตราบนานเท่านาน นอกจากนั้นหิรัญญายังเหมาสบู่เอนไซม์ “จันทร์เจ้าฉาย”ของศุภนิมิตรมาแจกให้แขกที่มาร่วมงาน แต่ว่าใต้สบู่แฟนซีนั้นมีใบแทรกบอกสรรพคุณสินค้าและเว็บไซด์สำหรับสั่งซื้อกรณีติดใจในรูป กลิ่น และสรรพคุณของสบู่ ซึ่งจรินนาได้ทดลองใช้ไปแล้ว จึงพอรู้ว่าสบู่ของจันทร์เจ้าฉายนั้นเป็นอย่างไร
“สวยจังเลย” เอกรินทร์บอกกับหิรัญญา แต่ว่าสายตานั้นยังอยู่ที่ใบหน้าของนาที นาทีเองก็ยิ้มนิด ๆ จรินนาที่เขียนคำอวยพรเสร็จ เงยหน้าขึ้น หญิงสาวนั้นรู้ใจเอกรินทร์เป็นอย่างดี จึงเหลือบตาไปมองชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มเพื่อดูว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไรและเมื่อเห็นว่า ทั้งคู่ดูจะมีใจให้กัน จรินนาก็แตะแขนชวนให้เอกรินทร์เดินออกไป เพราะว่ามีแขกจากในตัวจังหวัดเดินตามหลังมาอีกไม่น้อย
“จะรีบไปไหน”
“ไปหาโต๊ะนั่ง..”
“ทางนี้ค่ะ ถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อน” คุณนายวันเพ็ญรีบร้องทัก เมื่อเห็นว่า เอกรินทร์กับ จรินนาลูกชายลูกสาวคหบดีในตัวจังหวัดกำลังจะเดินเข้างานโดยไม่สนใจเจ้าบ่าวเจ้าสาวและพ่อแม่ของทั้งคู่..
จรินนาโปรยยิ้ม..แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องเบิ่งตากว้าง เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ก่อนถึงคณะพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาว
“อ้าว..อาจารย์กล้วย..มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เอกรินทร์ร้องทัก..เดชาพงษ์ยิ้มเพียงแย้มให้ โดยสายตาของเขานั้นเหลือบมองหน้าจรินนาเพียงนิดเดียว
“สักครู่ครับ คุณเอกมาถึงนานหรือยัง” จริง ๆ เขาไม่น่าถามออกไปอย่างนั้น แต่ว่ามันก็เป็นมารยาทของการสนทนา
“เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”
“เชิญถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวครับ” เขาตัดบท
“ถ่ายด้วยกันไหม” หูตาของเอกรินทร์แพรวพราวกับผู้ชายหน้าตาดีทุกคน..แต่ว่าจรินนานั้นปั้นหน้านิ่งทำเหมือนว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เช่นกัน เมื่อหญิงสาวทำเหมือนกับว่าไม่เคยคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวแล้ว เขาก็ต้องเล่นบทคนแปลกหน้าคืนกลับไปบ้าง
“ผมถ่ายตั้งแต่เช้าแล้วครับ เชิญ ครับ ขอตัวก่อน..” ว่าแล้วเดชาพงษ์ผู้มีร่างสูงใหญ่ก็เดินผ่านซุ้มดอกไม้ที่วางตำแหน่งสลับกันรูปเวดดิ้งตามสมัยนิยมของคู่บ่าวสาวนับสิบ ๆ ภาพ เข้าไปในบริเวณจัดเลี้ยง..โดยที่จรินนานั้นเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่เขาเดินผ่านเธอไป..
“ระวังหัวใจตัวเองนะ..” เอกรินทร์แกล้งเย้า..จรินนาค้อนให้..แต่ว่ายังไม่ทันที่จรินนาจะเอ่ยความในใจออกมา คุณนายวันเพ็ญที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีชมพูมีผมดัดจัดทรงเป็นพุ่มติดกากเพชรก็รีบเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการ เพราะอยากให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกับลูกเขยและลูกสาวที่เหมาะสมกับอย่างกิ่งทองใบหยก..
โดยเฉพาะคู่นี้ คุณนายวันเพ็ญให้ความสนใจเป็นพิเศษ..เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่รวยติดอันดับเศรษฐีใหญ่ของเมืองปากน้ำโพ
“คุณพ่อกับคุณแม่มากันตั้งแต่เช้า..ตอนเย็นเลยขอตัวไม่มา..ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์ให้เกียรติมาร่วมงานกับน้องแพรว..”
“เป็นบุญตาของผมครับ” เอกรินทร์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
“ค่ะ..ตั้งใจจัดเต็มที่ เอาให้คนลือกันไปสามชั่วอายุคนเลย..”
“น่าจะได้อยู่ครับ อลังการสมกับที่ได้ลูกเขยเป็นนายทหารเรือ..” แม้จะรู้สึกว่า เจ้าสาวควรจะได้คู่ครองที่เหมาะสมกันทางฐานะมากกว่านี้ แต่ว่าพอเห็นหน้าจิรวัติในงานเลี้ยงของสมาคมแห่งหนึ่งหลังจากที่ทั้งคู่หมั้นหมายกัน เขาก็เข้าใจทันทีว่า..ทำไมแพรวพรรณถึงพร้อมที่จะแข็งข้อกับแม่หากว่าเขาเดินเกมคลุมถุงชนอย่างที่ผู้ใหญ่ต้องการ เพราะความหล่อเหลาของผู้การจิรวัตินั้นไม่เป็นรองใคร ยศตำแหน่งนั้นเล่ามันก็หาไม่ได้ง่าย ๆ ในถิ่นนี้เช่นกัน
“ทางนี้ดีกว่า ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวหน่อย”
เอกรินทร์กับจรินนาเดินตามหลังคุณนายวันเพ็ญไปอย่างเสียไม่ได้ และเมื่อไปถึง จรินนาก็ยิ้ม บาง ๆ ให้กับแพรวพรรณเจ้าสาวที่ก่อนหน้านั้นได้คุยกันเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
“ดีใจด้วยนะแพรว..เจ้าบ่าวหล่อมาก” พอชมเจ้าบ่าวไปแล้วจรินนาก็นึกถึงน้องชายเจ้าบ่าวขึ้นมา หากเขาอยู่ชุดที่ดูเป็นทางการอย่างชุดสูทเขาก็คงดูดีไม่น้อย ...แต่ในความเป็นเขา มันก็มีตัวตนมีเอกลักษณะเฉพาะตัว โดยเฉพาะวันที่เขานุ่งผ้าโสร่งเดินออกมารับเธอ...
“ขอบคุณครับ” จิรวัตินั้นหน้าเปื้อนยิ้มตาเป็นประกายตลอดเวลา จรินนารู้สึกอิจฉาความสุขของคนทั้งคู่ ..ไม่ใช่แค่คู่นี้หรอก..ทุกครั้งที่เธอไปงานแต่งงานเธอจะต้องรู้สึกอิจฉาความรักของคนอื่น เพราะความรักของเธอนั้น ที่ผ่าน ๆ มามันเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ คบกับใครได้ไม่นาน ปัญหามันจะต้องตามมาให้
เลิกลากันไปในที่สุด..และคำปลอบใจที่เธอได้จากเพื่อน ๆ ก็คือ ‘ให้คิดเสียว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน’ และพอมางานแต่งงานครั้งใด จรินนาก็อดที่จะถามตัวเองไม่ได้ว่า แล้วเนื้อคู่ของเธอตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ออกมาทำให้หัวใจของเธอได้ชุ่มชื่นเสียที...
“แต่งแล้วแพรวจะย้ายไปอยู่สัตหีบเลยหรือเปล่า” เอกรินทร์ชวนคุย
“ไปค่ะ แต่ก็คงกลับนครสวรรค์เดือนละหนสองหนค่ะ คุณแม่ขอไว้”
“มีลูกสาวคนเดียวด้วย”
“ค่ะ..พี่เอกแต่งเมื่อไหร่ บอกแพรวด้วยนะคะ แพรวมาใช้แรงแน่นอนค่ะ”
“..ครับ” รับคำแพรวพรรณสั้น ๆ แล้วเอกรินทร์ก็ต้องขยับตัวไปตามความต้องการของตากล้องหนุ่มรูปหล่อ โดยเขานั้นเดินไปอยู่ด้านข้างผู้การสุดหล่อ ซึ่งวันนี้ชุดสโมสรทำให้ใบหน้าคมคายนั้นดูมีราศีมากขึ้น
และเมื่อตากล้องนับ เขาก็ยิ้มบาง ๆ กระทั่งแสงเฟลชทำงาน หลังกะพริบเปลือกตาเขาก็มองเห็นว่า..คนที่เขารู้สึกถูกชะตานั้นมองเขาอยู่..เขายิ้มให้ทั้งตาและปากให้นาทีเช่นกัน
เมื่อเอกรินทร์กับจรินนาเดินเข้าไปในงานแล้วนาทีก็เดินถือแก้วน้ำเย็นมาให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเพราะมั่นใจว่าทั้งคู่นั้นคงกระหายแล้วเป็นแน่
“ขอบใจมาก”
“พี่เอกรินทร์..มองหนึ่งด้วย” นาทีกระซิบบอกแพรวพรรณเบา ๆ
“ใจตรงกันละซิ”
“นิดนึง”
“ตามเข้าไปข้างในสิ คนบางตาแล้ว ให้คนอื่น ๆ ดูแลแทนก็ได้” แพรวพรรณชี้ช่อง
อย่างรู้ใจ..นาทีทำเป็นกระบิดกระบวน
“น่าเกลียด...”
“ถ้าไม่สานความสัมพันธ์กันวันนี้ แล้วจะรอวันไหน” แพรวพรรณกระซิบบอกเพื่อนรักเบา ๆ และเสียงกระแอมของจิรวัติก็ทำให้แพรวพรรณหันมายิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์ให้กับเขา..
“ซุบซิบอะไรกัน” จิรวัตินั้นรู้ว่านาทีเป็นผู้ชายแบบไหน เพียงแต่เขาอยากมีส่วนร่วมกับเพื่อนของภรรยาเท่านั้นเอง
“ไม่มีอะไร”
“ผู้การกินน้ำซะ จะได้เอาแก้วไปเก็บ” นาทีรีบรวบรัด จิรวัติยื่นมือมารับแก้วจากแพรวพรรณที่ขณะนี้เธอสวยเสียจนเขาไม่อยากละสายตาไปจากวงหน้านั้นเลย
“หรือจะกินเหล้าย้อมใจ” นาทีถามอีกครั้ง
“ระดับนี้แล้วครับ..บนเวที บนเตียงไม่ใช่ปัญหา”
“บ้า” เจ้าสาวหน้าแดงระเรื่อ
“ขอให้ได้ลูกสาวแล้วกัน เผื่อเป็นดองกับพี่ญา” นาทีกระทุ้ง แพรวพรรณยิ่งหน้าแดงหนักเข้าไปอีก จิรวัติดื่มน้ำไปหมดแก้ว แล้วก็ทำตาเชื่อมกับเจ้าสาวที่มีเหงื่อซึมอยู่ที่ไรผม เห็นดังนั้นเขาจึงส่งแก้วให้นาที แล้วก็ดึงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาซับเบา ๆ พลางทำตามเชื่อมบอกความเสน่หาไปด้วย..นาทีเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเสียแล้ว เขาจึงเดินเลี่ยงออกไป

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.ค. 2555, 19:49:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.ค. 2555, 20:00:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 2934
<< 8.2 ลิขิตพรหม (ตอนพิเศษราชนาวีที่รัก 1) | 9.2 ตอนพิเศษราชนาวีที่รัก 3 >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 13 ก.ค. 2555, 19:55:48 น.
ตอนแรกกะจะรอให้คุณ Zephyr แฟนพี่ต้นกล้วยมาคอมเม้นท์ก่อน ถึงจะลงตอนนี้ให้ แต่ว่า เห็นแก่แฟนพี่ต้นกล้วยอีกหลาย ๆ คน กับผมว่าจะนอนแต่หัวค่ำ ก็เลยต้องโพสต์เสียก่อน
อย่างไรก็ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจอีกครั้งนะครับ ต้องบอกก่อนว่า ตอนพิเศษของราชนาวีที่รักนี้ จริง ๆ จะมีในเล่มเล็กในบล็อกเซ็ท ชุดภารกิจรักแล้ว แต่ว่า ฉบับที่อยู่ในเรื่องในสวนศิลป์ถูกรีไรท์อีกนิด ๆ หน่อย ๆ ครับ... จุ๊บ ๆ
ตอนแรกกะจะรอให้คุณ Zephyr แฟนพี่ต้นกล้วยมาคอมเม้นท์ก่อน ถึงจะลงตอนนี้ให้ แต่ว่า เห็นแก่แฟนพี่ต้นกล้วยอีกหลาย ๆ คน กับผมว่าจะนอนแต่หัวค่ำ ก็เลยต้องโพสต์เสียก่อน


sunflower 13 ก.ค. 2555, 19:55:54 น.
น่ารัก^^
น่ารัก^^

รอให้เป็นเล่ม 13 ก.ค. 2555, 20:10:35 น.
แอ๊ยยยยยย เก๊าก็เป็นแฟนตะเองนะ
แอ๊ยยยยยย เก๊าก็เป็นแฟนตะเองนะ

goldensun 13 ก.ค. 2555, 20:24:54 น.
เลยเชิดใส่กันไปเลย
เลยเชิดใส่กันไปเลย

imsoul 13 ก.ค. 2555, 20:26:16 น.
มาอีกแล้วววววว ขอบคุณคะ
มาอีกแล้วววววว ขอบคุณคะ

wii 13 ก.ค. 2555, 20:40:46 น.
อยากให้นายจักรกับนาทีสมหวังนะ
อยากให้นายจักรกับนาทีสมหวังนะ


Orathai 13 ก.ค. 2555, 21:30:13 น.
อมยิ้มตลอดเลย..อ่านจบแล้วยังยิ้มอยู่เลยง่ะ
อมยิ้มตลอดเลย..อ่านจบแล้วยังยิ้มอยู่เลยง่ะ



nutcha 13 ก.ค. 2555, 23:21:52 น.
เย้ เย้ เย้ ได้อ่านพี่ต้นกล้วยก่อนนอนจริง ๆ ด้วย
เย้ เย้ เย้ ได้อ่านพี่ต้นกล้วยก่อนนอนจริง ๆ ด้วย

คิมหันตุ์ 13 ก.ค. 2555, 23:37:05 น.
ตอนนี้ ไม่ใช่ทางของพี่จารย์กล้วยจริงๆ ฮ่าฮ่า
ตอนนี้ ไม่ใช่ทางของพี่จารย์กล้วยจริงๆ ฮ่าฮ่า

overtime 14 ก.ค. 2555, 01:11:03 น.
ขอบคุณพี่เฟื่องเร็วทันใจมาก แต่อย่าว่างั้นงี้เลยพรุ่งนี้ขออีกตอนด้วยค่าาา
ขอบคุณพี่เฟื่องเร็วทันใจมาก แต่อย่าว่างั้นงี้เลยพรุ่งนี้ขออีกตอนด้วยค่าาา



Zephyr 16 ก.ค. 2555, 21:35:29 น.
อ่ะ คุณเฟื่องรอเค้าอยู่เหรอคะ แหะ แหะ เค้าอยู่เวรล่ะ ไม่ได้อ่านเลย จนวันนี้ อิอิ
แต่นะ มาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววว รายงานตัว ครับพ้มมม
ชักอยากเชียร์คู่นาทีกะพี่เอกซะแล้ว อิอิ
อ่ะ คุณเฟื่องรอเค้าอยู่เหรอคะ แหะ แหะ เค้าอยู่เวรล่ะ ไม่ได้อ่านเลย จนวันนี้ อิอิ
แต่นะ มาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววว รายงานตัว ครับพ้มมม
ชักอยากเชียร์คู่นาทีกะพี่เอกซะแล้ว อิอิ


lookAme 20 ก.ค. 2555, 18:09:41 น.
มาอ่านซ้ำ อิอิ
มาอ่านซ้ำ อิอิ