ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 12.“ก็ชีวิตเป็นของเรานี่คะ ทำไมเราต้องแคร์คนอื่นจนมองข้ามความรู้สึกของตัวเอง”
บทที่ 12
จรินนาที่ถือผลไม้อันได้แก่ องุ่น แอปเปิ้ล ลำใย และลิ้นจี่ต้องแปลกใจที่เดินเข้ามาในโรงแรมแล้วไม่พบเดชาพงษ์บนนั่งร้าน หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหาเขาแต่ว่าก็ไม่เห็นเงากระทั่งเห็นหลังอนงค์นางบนนั่งร้านอีกมุมหนึ่งของตัวอาคาร จรินนาสาวเท้าเข้าไปหาในทันที
“อ้าว พี่จินสวัสดีค่ะ” อนงค์นางวางพู่กันแล้วรีบยกมือไหว้จรินนา และด้วยกำลังอยากพักอนงค์นางจึงปีนลงมาหาลูกสาวเจ้าของโรงแรมที่เดินมองซ้ายมองขวาเหมือนตรวจตรางาน
“พี่ซื้อผลไม้มาฝากพวกเรา...อาจารย์เดชาพงษ์ไปไหนล่ะ” จรินนาไม่อ้อมค้อม ซึ่งอนงนางค์ก็พยายามสังเกตดูสีหน้าไปด้วย เพราะกำลังอ่านความรู้สึกแท้ ๆ ในใจของคู่สนทนาด้วย แต่มันก็ไม่อะไรผิดปกติ
“วันนี้อาจารย์ไปอุทัยธานีค่ะ ไปเรื่องรูปในผนังโบสถ์นี่แหละ พี่จินมีอะไรกับอาจารย์เหรอ”
“ไม่มีหรอก..ผ่านร้านผลไม้ เห็นน่ากินก็เลยซื้อมาฝาก ฝากทุก ๆ คนแหละ แบ่งกันกินนะ” จรินนาส่งถุงผลไม้ในมือให้กับอนงค์นาง
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วสุนันทาไปไหน วันนี้ไม่เห็นมาทำงาน”
“น้องกอล์ฟป่วยค่ะ พาไปหาหมอ อาจจะเข้ามาตอนบ่าย ๆ โทรมาบอกอย่างนั้น” ที่สุนันทาโทรบอกกับอนงค์นางเพราะเมื่อตัวเองไม่ได้เข้ามา อนงค์นางจะต้องเป็นฝ่ายหุงข้าวมาแทน
พอทราบเรื่องแล้วจรินนาก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันมาชวนอนงค์นางคุยด้วยเรื่องอื่น
“ยากไหมกว่าจะเขียนภาพพวกนี้ได้” จรินนาชวนคุย
“ตอนแรก ๆ ยากค่ะ แต่มันก็วิธีการสอนที่ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ตอนนี้ไม่ยากแล้ว แต่จะให้เก่งแล้วมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็ตัวใครตัวท่านละคะ”
ขณะที่สองสาวกำลังยืนคุยกันอยู่นั้น วิษณุจักรก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี พอเห็นหน้าจรินนา เขาก็ยิ้มให้ จรินนายิ้มตอบอย่างมีมารยาท อนงค์นางเองนั้นพอเห็นเขายิ้มให้กัน หญิงสาวก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเสียแล้ว และพอเขาทักทายกัน อนงค์นางจึงเลี่ยงเอาผลไม้ไปวางไว้บนโต๊ะแล้วก็เลี่ยงเดินไปห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกตัวอาคาร
“น้องจินมาทำธุระหรือครับ”
“ซื้อผลไม้มาฝากอาจารย์กับคณะค่ะ”
“ใจดีจังเลย ไม่เห็นมีอะไรมาฝากคณะพี่บ้าง”
“พอดีเมื่อวานทำผิดไว้ค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“ลืมเอากับข้าวมาให้สุนันทา ป้าสำเนียงแม่ของสุนันทาทำไว้อาจารย์เดชาพงษ์ จินอาสาถือมาให้แต่ว่าลืมไว้บนรถ ก็เลยไม่ได้กินกันเลย วันนี้เลยซื้อผลไม้มาขอโทษ”
“น่ารักจัง”
“พี่จักรกินข้าวหรือยังคะ”
“กำลังจะถามจินอยู่พอดีว่าจะออกไปกินข้าวกับพี่ได้ไหม”
“ได้ค่ะ แล้วพี่จักรว่างแล้วใช่ไหมคะ”
“สำหรับน้องจิน พี่ว่างได้เสมอครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปรถพี่นะครับ..ไม่ต้องไปสองคันให้เปลืองน้ำมัน”
หลังจากที่วิษณุจักรบังคับรถคันใหญ่ของตัวเองออกถนนมาแล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อจรินนาถามเขาตรง ๆ ว่า “ทำไมพี่จักรถึงยังอยู่เป็นโสดคะ”
“แล้วถ้าพี่ถามน้องจินบ้างล่ะ”
“ก็ยังไม่เจอคนถูกใจจริง ๆ”
“ก็แสดงว่าเคยเจอ”
“อายุเท่านี้ก็เจอคนมาเยอะค่ะ...เจ้าชู้ไก่แจ้ก็มี แล้วก็มีแบบคบกันไปสักระยะหนึ่งแล้วมันไม่ใช่ก็มีค่ะ” จรินนาตอบเขาไปตรง ๆ เขาเองถึงกับอมยิ้มบาง ๆ เพราะเดาไม่ออกว่า การถูกถามแบบนี้หญิงสาวจะมาไม้ไหนกับเขา แต่เขาเองก็ต้องแฟร์ที่จะบอกเล่าเรื่องของตัวเองให้จรินนารับรู้ไว้เช่นกัน
“แล้วจินเห็นว่าพี่เป็นอย่างไรบ้าง”
“เราเพิ่งรู้จักกัน ถ้าใช้สายตาของสาว ๆ มอง พี่ก็โอเคเลยแหละค่ะ ทุกอย่างผ่านหมด หน้าตา หน้าที่การงาน ฐานะ นิสัยใจคอ”
“แล้วพี่มีสิทธิ์จะผ่านไหม”
“เราเพิ่งรู้จักกันนะคะ”
“คงอีกสักพักใช่ไหม...”
“พี่จักรยังไม่ได้ตอบจินเลยว่า ทำไมพี่จักรถึงยังอยู่เป็นโสด สามสิบกว่าแล้วนะคะ ไม่น่ารักษาเนื้อรักษาตัวมาได้เป็นอย่างดี”
“เหมือนจะต้อนให้พี่จนมุม”
“ไม่ตอบก็ได้ค่ะ”
“แล้วจินเคยถามคำถามนี้กับคนอื่นไหม”
“จะถามเฉพาะบางคนค่ะ”
“คนพิเศษใช่เปล่า”
“เมื่อคืนอาอึ้มโทรมาหาจินค่ะ” จรินนาตัดสินใจไม่อ้อมค้อม วิษณุจักรหันมามองหน้าหญิงสาวแล้วถอนหายใจเบา ๆ เพราะเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่ได้อยากให้ผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง แต่ดูเหมือนว่า พอเขาอายุมากขึ้นแม่เขาดูจะเป็นทุกข์เป็นร้อนกับชีวิตโสดของเขาเป็นเงาตาม และก็พยายามที่จะสอดส่ายสายตามองหาใคร
สักคนที่เหมาะสมกัน จนกระทั่งจรินนากลับมา แม่มีคนรู้จักเยอะ เขาจึงพลอยเป็นที่รู้จักของคนอื่นๆ ไปด้วยขยับตัวไปทางไหน ทำอะไรย่อมมีคนเอาไปบอกกับแม่ และเรื่องที่เขาได้เจอกับจรินนากินข้าวด้วยกันก็มีคนเห็นและเอาไปบอกให้แม่รับรู้ จึงเป็นที่มาของการถูกจับคู่ในทันที
แม่รบเร้าให้เขาพาจรินนาไปให้รู้จัก พูดถึงความเหมาะสมกันและพยายามเชียร์อย่างสุดกำลัง และงานนี้แม่ก็คงจะเข้าทางญาติผู้ใหญ่ของจรินนาอีกด้วย ทางนั้นถึงได้เข้ามาคุยกับหญิงสาวจนกระทั่ง จรินนาต้องเอ่ยปากระบายความรู้สึกอะไรสักอย่างออกมา ซึ่งเขาเองก็ยังไม่พร้อมจะฟัง เพราะตลอดเวลาที่เจอกันนั้น เขารู้สึกว่า เขายังอ่านใจของจรินนาไม่ออก หญิงสาวไม่ได้ดูหลงใหลได้ปลื้มเขาเหมือนผู้หญิงอีกหลาย ๆ คน แต่ขณะเดียวกัน เขาเองกลับรู้สึกต้องการจรินนาเพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยและฉลาดน่าเอาชนะใจอย่างนี้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้...
“อาอึ้มจินว่าอย่างไรบ้าง”
“พี่จักรคุยอะไรกับแม่พี่จักรไปบ้างแล้วละคะ”
“แม่พี่หูตาอย่างกับสับปะรด...บางทีแม่ก็อาจจะคิดไปเองว่าเราเหมาะสมกัน แม่ก็เลย คุยกับอาอึ้มของน้องจิน แล้วอาอึ้มว่าอย่างไรบ้าง”
“อาอึ้มอยากให้จินคบกับพี่จักรค่ะ แต่จินปฏิเสธไปแล้วว่าจินยังไม่ได้รู้สึกพิเศษกับพี่ขนาดที่จะปิดโอกาสคนอื่น พี่จักรก็คงคิดเหมือนจิน”
“ถ้าพี่คิดไม่เหมือนจินล่ะ”
“จินถึงต้องถามว่าทำไมพี่จักรถึงยังอยู่เป็นโสดไงละคะ”
“พี่ยอมรับว่าพี่มีซุกซนบ้างตามประสาผู้ชายนะ แต่ที่ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนก็เนื่องด้วยความเหมาะสมหนึ่ง พี่ไม่อยากมีปัญหากับพ่อกับแม่ แม่พี่ก็ยังหัวเก่าอยู่ ยังมองว่าเงินเป็นเรื่องใหญ่อยู่ แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่ได้เจอคนถูกใจจริง ๆ ด้วย งานก็ด้วย องค์ประกอบมันหลาย ๆ อย่าง อาจจะรวมถึงยังไม่เจอเนื้อคู่ด้วยก็ได้”
“เชื่อด้วยเหรอคะ”
“ก็มีบ้างนะ แต่คงไม่มากเท่าแม่หรอก และพี่ก็เชื่อว่า แม่กับอาอึ้มของจินน่ะ ป่านนี้คงเอาดวงเราไปดูแล้วว่าชงกันหรือเปล่าด้วย ไม่งั้นไม่ออกมาเจ้ากี้เจ้าการอย่างนี้หรอก”
จรินนาถอนหายใจเบา ๆ ออกมา..
“ยิ่งจินเป็นแบบนี้พี่ยิ่งชอบนะ ตรงดี”
“อาจจะไม่ดีก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งสรุปอะไรเลย คุยกันอย่างพี่อย่างน้องดีกว่า ยืดยาวดี”
“หรือจินเจอใครที่จินรู้สึกว่าเขาดีกว่าพี่”
“ในเมืองนี้ใครจะเพอร์เฟคเท่าพี่จักรอีกละคะ”
“แต่ตอนนี้พี่มั่นใจแล้วนะว่าถ้าจินจะเลือกใครสักคน จินจะไม่ได้เลือกที่ความเหมาะสมหรอก จินจะเลือกด้วยความรู้สึกของจินล้วนๆ”
“ก็ชีวิตเป็นของเรานี่คะ ทำไมเราต้องแคร์คนอื่นจนมองข้ามความรู้สึกของเราไปด้วยละ”
วิษณุจักรถอนหายใจเบา ๆ แล้วเขาก็หันมายิ้มก่อนจะบอกว่า...
“ถึงร้านอาหารแล้ว กินข้าวกันก่อนดีกว่า อิ่มแล้วจินอาจจะรู้สึกดี ๆ กับพี่เพิ่มขึ้นก็ได้..”
พอทั้งสองลงจากรถเดินเข้าไปในร้านอาหารตรงทางออกสุนันทาก็เดินออกมาพร้อมกับลูกชาย
“น้าจิน” กอล์ฟร้องทักจรินนา จรินนาจึงต้องยิ้มให้กอล์ฟที่แม่ของเขาอ้างว่าป่วย สุนันทาจึงบอกให้ลูกชายสวัสดีทั้งจรินนาและวิษณุจักรชายหนุ่มรูปงามซึ่งว่าไปแล้วเขานั้นคู่ควรและเหมาะสมกับจรินนาเป็นอย่างมาก ส่วนจรินนาเมื่อเห็นว่าลูกของสุนันทานั้นน่ารักที่มีสัมมาคาระรู้จักยกมือไหว้และไหว้สวยเสียด้วย หญิงสาวจึงทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ คุยด้วย
“สวัสดีจ้ะกอล์ฟ ทำไมไม่ไปโรงเรียน”
“กอล์ฟไม่สบายครับ”
“แล้วหายหรือยัง”
“ดีขึ้นแล้วครับ แม่สุพาไปหาหมอมาแล้ว”
“หมอฉีดยาหรือเปล่า”
“ไม่ได้ฉีดครับ...”
“แล้วนี่อ้อนให้แม่สุพามากินอะไร”
“แม่สุจะมาซื้อปลาเผาไปฝากลุงอาจารย์”
จรินนายิ้มนิด ๆ เสมองหน้าของสุนันทานิดหน่อยแล้วก็ลุกขึ้นยืนประหนึ่งว่าเมื่อยแล้วแต่สายตาของสุนันทานั้งมองเห็นสายตาดูแคลนของสายตาของจรินนาเข้าจนได้
“งั้นน้าจินไม่กวนกอล์ฟแล้ว น้าจินกับลุงจักรหิวข้าว”
“เอ๊ะ ทำไมผมไม่เป็นน้าของกอล์ฟด้วยละครับ”
“ก็จินอ่อนกว่าสุ แล้วพี่จักรก็แก่กว่าสุ ก็แค่นี้แหละค่ะ...ขอตัวก่อนนะสุ..กอล์ฟครับน้าจินของตัวก่อนนะ หายเร็ว ๆ ล่ะ จะได้รีบไปโรงเรียน แม่สุจะได้ไม่เสียเวลาทำงาน”
“ขอตัวก่อนนะคะคุณจักร..”
สองแม่ลูกเดินจากไปแล้ว จรินนาก็เดินตามวิษณุจักรเข้าไปในร้านอาหารพลางครุ่นคิดว่า ทำไมพอรู้ว่าสุนันทาสนใจใส่ใจทุกข์สุขของเดชาพงษ์เธอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างยากระงับแบบนี้
จรินนาที่ถือผลไม้อันได้แก่ องุ่น แอปเปิ้ล ลำใย และลิ้นจี่ต้องแปลกใจที่เดินเข้ามาในโรงแรมแล้วไม่พบเดชาพงษ์บนนั่งร้าน หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหาเขาแต่ว่าก็ไม่เห็นเงากระทั่งเห็นหลังอนงค์นางบนนั่งร้านอีกมุมหนึ่งของตัวอาคาร จรินนาสาวเท้าเข้าไปหาในทันที
“อ้าว พี่จินสวัสดีค่ะ” อนงค์นางวางพู่กันแล้วรีบยกมือไหว้จรินนา และด้วยกำลังอยากพักอนงค์นางจึงปีนลงมาหาลูกสาวเจ้าของโรงแรมที่เดินมองซ้ายมองขวาเหมือนตรวจตรางาน
“พี่ซื้อผลไม้มาฝากพวกเรา...อาจารย์เดชาพงษ์ไปไหนล่ะ” จรินนาไม่อ้อมค้อม ซึ่งอนงนางค์ก็พยายามสังเกตดูสีหน้าไปด้วย เพราะกำลังอ่านความรู้สึกแท้ ๆ ในใจของคู่สนทนาด้วย แต่มันก็ไม่อะไรผิดปกติ
“วันนี้อาจารย์ไปอุทัยธานีค่ะ ไปเรื่องรูปในผนังโบสถ์นี่แหละ พี่จินมีอะไรกับอาจารย์เหรอ”
“ไม่มีหรอก..ผ่านร้านผลไม้ เห็นน่ากินก็เลยซื้อมาฝาก ฝากทุก ๆ คนแหละ แบ่งกันกินนะ” จรินนาส่งถุงผลไม้ในมือให้กับอนงค์นาง
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วสุนันทาไปไหน วันนี้ไม่เห็นมาทำงาน”
“น้องกอล์ฟป่วยค่ะ พาไปหาหมอ อาจจะเข้ามาตอนบ่าย ๆ โทรมาบอกอย่างนั้น” ที่สุนันทาโทรบอกกับอนงค์นางเพราะเมื่อตัวเองไม่ได้เข้ามา อนงค์นางจะต้องเป็นฝ่ายหุงข้าวมาแทน
พอทราบเรื่องแล้วจรินนาก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันมาชวนอนงค์นางคุยด้วยเรื่องอื่น
“ยากไหมกว่าจะเขียนภาพพวกนี้ได้” จรินนาชวนคุย
“ตอนแรก ๆ ยากค่ะ แต่มันก็วิธีการสอนที่ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ตอนนี้ไม่ยากแล้ว แต่จะให้เก่งแล้วมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็ตัวใครตัวท่านละคะ”
ขณะที่สองสาวกำลังยืนคุยกันอยู่นั้น วิษณุจักรก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี พอเห็นหน้าจรินนา เขาก็ยิ้มให้ จรินนายิ้มตอบอย่างมีมารยาท อนงค์นางเองนั้นพอเห็นเขายิ้มให้กัน หญิงสาวก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเสียแล้ว และพอเขาทักทายกัน อนงค์นางจึงเลี่ยงเอาผลไม้ไปวางไว้บนโต๊ะแล้วก็เลี่ยงเดินไปห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกตัวอาคาร
“น้องจินมาทำธุระหรือครับ”
“ซื้อผลไม้มาฝากอาจารย์กับคณะค่ะ”
“ใจดีจังเลย ไม่เห็นมีอะไรมาฝากคณะพี่บ้าง”
“พอดีเมื่อวานทำผิดไว้ค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“ลืมเอากับข้าวมาให้สุนันทา ป้าสำเนียงแม่ของสุนันทาทำไว้อาจารย์เดชาพงษ์ จินอาสาถือมาให้แต่ว่าลืมไว้บนรถ ก็เลยไม่ได้กินกันเลย วันนี้เลยซื้อผลไม้มาขอโทษ”
“น่ารักจัง”
“พี่จักรกินข้าวหรือยังคะ”
“กำลังจะถามจินอยู่พอดีว่าจะออกไปกินข้าวกับพี่ได้ไหม”
“ได้ค่ะ แล้วพี่จักรว่างแล้วใช่ไหมคะ”
“สำหรับน้องจิน พี่ว่างได้เสมอครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปรถพี่นะครับ..ไม่ต้องไปสองคันให้เปลืองน้ำมัน”
หลังจากที่วิษณุจักรบังคับรถคันใหญ่ของตัวเองออกถนนมาแล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อจรินนาถามเขาตรง ๆ ว่า “ทำไมพี่จักรถึงยังอยู่เป็นโสดคะ”
“แล้วถ้าพี่ถามน้องจินบ้างล่ะ”
“ก็ยังไม่เจอคนถูกใจจริง ๆ”
“ก็แสดงว่าเคยเจอ”
“อายุเท่านี้ก็เจอคนมาเยอะค่ะ...เจ้าชู้ไก่แจ้ก็มี แล้วก็มีแบบคบกันไปสักระยะหนึ่งแล้วมันไม่ใช่ก็มีค่ะ” จรินนาตอบเขาไปตรง ๆ เขาเองถึงกับอมยิ้มบาง ๆ เพราะเดาไม่ออกว่า การถูกถามแบบนี้หญิงสาวจะมาไม้ไหนกับเขา แต่เขาเองก็ต้องแฟร์ที่จะบอกเล่าเรื่องของตัวเองให้จรินนารับรู้ไว้เช่นกัน
“แล้วจินเห็นว่าพี่เป็นอย่างไรบ้าง”
“เราเพิ่งรู้จักกัน ถ้าใช้สายตาของสาว ๆ มอง พี่ก็โอเคเลยแหละค่ะ ทุกอย่างผ่านหมด หน้าตา หน้าที่การงาน ฐานะ นิสัยใจคอ”
“แล้วพี่มีสิทธิ์จะผ่านไหม”
“เราเพิ่งรู้จักกันนะคะ”
“คงอีกสักพักใช่ไหม...”
“พี่จักรยังไม่ได้ตอบจินเลยว่า ทำไมพี่จักรถึงยังอยู่เป็นโสด สามสิบกว่าแล้วนะคะ ไม่น่ารักษาเนื้อรักษาตัวมาได้เป็นอย่างดี”
“เหมือนจะต้อนให้พี่จนมุม”
“ไม่ตอบก็ได้ค่ะ”
“แล้วจินเคยถามคำถามนี้กับคนอื่นไหม”
“จะถามเฉพาะบางคนค่ะ”
“คนพิเศษใช่เปล่า”
“เมื่อคืนอาอึ้มโทรมาหาจินค่ะ” จรินนาตัดสินใจไม่อ้อมค้อม วิษณุจักรหันมามองหน้าหญิงสาวแล้วถอนหายใจเบา ๆ เพราะเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่ได้อยากให้ผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง แต่ดูเหมือนว่า พอเขาอายุมากขึ้นแม่เขาดูจะเป็นทุกข์เป็นร้อนกับชีวิตโสดของเขาเป็นเงาตาม และก็พยายามที่จะสอดส่ายสายตามองหาใคร
สักคนที่เหมาะสมกัน จนกระทั่งจรินนากลับมา แม่มีคนรู้จักเยอะ เขาจึงพลอยเป็นที่รู้จักของคนอื่นๆ ไปด้วยขยับตัวไปทางไหน ทำอะไรย่อมมีคนเอาไปบอกกับแม่ และเรื่องที่เขาได้เจอกับจรินนากินข้าวด้วยกันก็มีคนเห็นและเอาไปบอกให้แม่รับรู้ จึงเป็นที่มาของการถูกจับคู่ในทันที
แม่รบเร้าให้เขาพาจรินนาไปให้รู้จัก พูดถึงความเหมาะสมกันและพยายามเชียร์อย่างสุดกำลัง และงานนี้แม่ก็คงจะเข้าทางญาติผู้ใหญ่ของจรินนาอีกด้วย ทางนั้นถึงได้เข้ามาคุยกับหญิงสาวจนกระทั่ง จรินนาต้องเอ่ยปากระบายความรู้สึกอะไรสักอย่างออกมา ซึ่งเขาเองก็ยังไม่พร้อมจะฟัง เพราะตลอดเวลาที่เจอกันนั้น เขารู้สึกว่า เขายังอ่านใจของจรินนาไม่ออก หญิงสาวไม่ได้ดูหลงใหลได้ปลื้มเขาเหมือนผู้หญิงอีกหลาย ๆ คน แต่ขณะเดียวกัน เขาเองกลับรู้สึกต้องการจรินนาเพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยและฉลาดน่าเอาชนะใจอย่างนี้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้...
“อาอึ้มจินว่าอย่างไรบ้าง”
“พี่จักรคุยอะไรกับแม่พี่จักรไปบ้างแล้วละคะ”
“แม่พี่หูตาอย่างกับสับปะรด...บางทีแม่ก็อาจจะคิดไปเองว่าเราเหมาะสมกัน แม่ก็เลย คุยกับอาอึ้มของน้องจิน แล้วอาอึ้มว่าอย่างไรบ้าง”
“อาอึ้มอยากให้จินคบกับพี่จักรค่ะ แต่จินปฏิเสธไปแล้วว่าจินยังไม่ได้รู้สึกพิเศษกับพี่ขนาดที่จะปิดโอกาสคนอื่น พี่จักรก็คงคิดเหมือนจิน”
“ถ้าพี่คิดไม่เหมือนจินล่ะ”
“จินถึงต้องถามว่าทำไมพี่จักรถึงยังอยู่เป็นโสดไงละคะ”
“พี่ยอมรับว่าพี่มีซุกซนบ้างตามประสาผู้ชายนะ แต่ที่ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนก็เนื่องด้วยความเหมาะสมหนึ่ง พี่ไม่อยากมีปัญหากับพ่อกับแม่ แม่พี่ก็ยังหัวเก่าอยู่ ยังมองว่าเงินเป็นเรื่องใหญ่อยู่ แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่ได้เจอคนถูกใจจริง ๆ ด้วย งานก็ด้วย องค์ประกอบมันหลาย ๆ อย่าง อาจจะรวมถึงยังไม่เจอเนื้อคู่ด้วยก็ได้”
“เชื่อด้วยเหรอคะ”
“ก็มีบ้างนะ แต่คงไม่มากเท่าแม่หรอก และพี่ก็เชื่อว่า แม่กับอาอึ้มของจินน่ะ ป่านนี้คงเอาดวงเราไปดูแล้วว่าชงกันหรือเปล่าด้วย ไม่งั้นไม่ออกมาเจ้ากี้เจ้าการอย่างนี้หรอก”
จรินนาถอนหายใจเบา ๆ ออกมา..
“ยิ่งจินเป็นแบบนี้พี่ยิ่งชอบนะ ตรงดี”
“อาจจะไม่ดีก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งสรุปอะไรเลย คุยกันอย่างพี่อย่างน้องดีกว่า ยืดยาวดี”
“หรือจินเจอใครที่จินรู้สึกว่าเขาดีกว่าพี่”
“ในเมืองนี้ใครจะเพอร์เฟคเท่าพี่จักรอีกละคะ”
“แต่ตอนนี้พี่มั่นใจแล้วนะว่าถ้าจินจะเลือกใครสักคน จินจะไม่ได้เลือกที่ความเหมาะสมหรอก จินจะเลือกด้วยความรู้สึกของจินล้วนๆ”
“ก็ชีวิตเป็นของเรานี่คะ ทำไมเราต้องแคร์คนอื่นจนมองข้ามความรู้สึกของเราไปด้วยละ”
วิษณุจักรถอนหายใจเบา ๆ แล้วเขาก็หันมายิ้มก่อนจะบอกว่า...
“ถึงร้านอาหารแล้ว กินข้าวกันก่อนดีกว่า อิ่มแล้วจินอาจจะรู้สึกดี ๆ กับพี่เพิ่มขึ้นก็ได้..”
พอทั้งสองลงจากรถเดินเข้าไปในร้านอาหารตรงทางออกสุนันทาก็เดินออกมาพร้อมกับลูกชาย
“น้าจิน” กอล์ฟร้องทักจรินนา จรินนาจึงต้องยิ้มให้กอล์ฟที่แม่ของเขาอ้างว่าป่วย สุนันทาจึงบอกให้ลูกชายสวัสดีทั้งจรินนาและวิษณุจักรชายหนุ่มรูปงามซึ่งว่าไปแล้วเขานั้นคู่ควรและเหมาะสมกับจรินนาเป็นอย่างมาก ส่วนจรินนาเมื่อเห็นว่าลูกของสุนันทานั้นน่ารักที่มีสัมมาคาระรู้จักยกมือไหว้และไหว้สวยเสียด้วย หญิงสาวจึงทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ คุยด้วย
“สวัสดีจ้ะกอล์ฟ ทำไมไม่ไปโรงเรียน”
“กอล์ฟไม่สบายครับ”
“แล้วหายหรือยัง”
“ดีขึ้นแล้วครับ แม่สุพาไปหาหมอมาแล้ว”
“หมอฉีดยาหรือเปล่า”
“ไม่ได้ฉีดครับ...”
“แล้วนี่อ้อนให้แม่สุพามากินอะไร”
“แม่สุจะมาซื้อปลาเผาไปฝากลุงอาจารย์”
จรินนายิ้มนิด ๆ เสมองหน้าของสุนันทานิดหน่อยแล้วก็ลุกขึ้นยืนประหนึ่งว่าเมื่อยแล้วแต่สายตาของสุนันทานั้งมองเห็นสายตาดูแคลนของสายตาของจรินนาเข้าจนได้
“งั้นน้าจินไม่กวนกอล์ฟแล้ว น้าจินกับลุงจักรหิวข้าว”
“เอ๊ะ ทำไมผมไม่เป็นน้าของกอล์ฟด้วยละครับ”
“ก็จินอ่อนกว่าสุ แล้วพี่จักรก็แก่กว่าสุ ก็แค่นี้แหละค่ะ...ขอตัวก่อนนะสุ..กอล์ฟครับน้าจินของตัวก่อนนะ หายเร็ว ๆ ล่ะ จะได้รีบไปโรงเรียน แม่สุจะได้ไม่เสียเวลาทำงาน”
“ขอตัวก่อนนะคะคุณจักร..”
สองแม่ลูกเดินจากไปแล้ว จรินนาก็เดินตามวิษณุจักรเข้าไปในร้านอาหารพลางครุ่นคิดว่า ทำไมพอรู้ว่าสุนันทาสนใจใส่ใจทุกข์สุขของเดชาพงษ์เธอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างยากระงับแบบนี้

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ค. 2555, 21:24:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ค. 2555, 21:24:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 2350
<< 11.2 ในที่สุดผมก็สามารถเป็นอย่างที่พ่ออยากให้เป็นและเป็นในส่วนที่ผมอยากเป็น | 12.2“เราโตมาด้วยกันนะ จินรู้จักพี่ พี่ก็รู้จักจิน” >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 19 ก.ค. 2555, 21:26:08 น.
ก่อนอื่นก็ต้อง ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...
คงยังเดาไม่ได้ละซี่ว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างไร เพราะคนเขียนก็ปวดหัวตึ๊บอยู่เหมือนกัน..จุ๊บ ๆ
ก่อนอื่นก็ต้อง ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...



รอให้เป็นเล่ม 19 ก.ค. 2555, 21:41:56 น.
มาลงชื่อว่ายังติดตามอยู่
มาลงชื่อว่ายังติดตามอยู่

overtime 19 ก.ค. 2555, 21:45:23 น.
ขอบคุณคะพี่เฟื่อง
ขอบคุณคะพี่เฟื่อง

imsoul 19 ก.ค. 2555, 21:50:50 น.
มาไวนะคะ
มาไวนะคะ

nutcha 19 ก.ค. 2555, 22:21:23 น.
มาลงชดเชยไว้ก่อนหนีไปเที่ยวใช่ไหมคะคุณเฟื่อง
มาลงชดเชยไว้ก่อนหนีไปเที่ยวใช่ไหมคะคุณเฟื่อง

goldensun 19 ก.ค. 2555, 22:46:11 น.
จินรู้สึกหงุดหงิดอย่างนี้แล้ว ยังตอบใครต่อใครว่ายังไม่ได้คิดอะไรกับอาจารย์กล้วยอีกหรือคะ
จินรู้สึกหงุดหงิดอย่างนี้แล้ว ยังตอบใครต่อใครว่ายังไม่ได้คิดอะไรกับอาจารย์กล้วยอีกหรือคะ

Orathai 19 ก.ค. 2555, 23:21:46 น.
ตรงไปตรงมากันทั้งคู่..ดีจัง
ตรงไปตรงมากันทั้งคู่..ดีจัง

nunoi 19 ก.ค. 2555, 23:43:07 น.
จินน่ารัก พูดตรงดีจัง
จินน่ารัก พูดตรงดีจัง

คิมหันตุ์ 20 ก.ค. 2555, 00:49:58 น.
สวดยอด...คม ชัด ลึก มากๆค่ะ จิน
สวดยอด...คม ชัด ลึก มากๆค่ะ จิน

konhin 20 ก.ค. 2555, 04:30:09 น.
เอาอาจารย์กล้วยคืนมา หายไปไหนแล้วววววววว ฮ่าๆๆ
หนูจินแค่อาจจะไม่มั่นใจหรือเปล่าคะ
เอาอาจารย์กล้วยคืนมา หายไปไหนแล้วววววววว ฮ่าๆๆ
หนูจินแค่อาจจะไม่มั่นใจหรือเปล่าคะ

คนเหงา 20 ก.ค. 2555, 09:01:02 น.
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

anOO 20 ก.ค. 2555, 11:58:23 น.
คุณหนูจิน ตรงไปตรงมาดีจัง แต่กับอาจารย์กล้วยไม่ยักกะตรงแบบนี้
คุณหนูจิน ตรงไปตรงมาดีจัง แต่กับอาจารย์กล้วยไม่ยักกะตรงแบบนี้

lookAme 20 ก.ค. 2555, 18:16:06 น.
บางเรื่องก็รู้สึกช้านะหนูจิน
บางเรื่องก็รู้สึกช้านะหนูจิน

Zephyr 21 ก.ค. 2555, 10:46:41 น.
ก็ตัวเองหึงไง จินเอ้ย ทำไมความรู้สึกเฉื่อยแบบนี้นะ ฮ่าๆๆๆ
ก็ตัวเองหึงไง จินเอ้ย ทำไมความรู้สึกเฉื่อยแบบนี้นะ ฮ่าๆๆๆ