เรือนกุหลาบ
กุหลาบแสนสวยดอกนั้น ช่างแสนดี เป็นที่รักเทิดทูนบูชาของหล่อนสุดหัวใจตั้งแต่เล็กจนโต..หญิงสาวไม่รู้เลย ว่าเบื้องหลังกุหลาบสีสวยนั้นซ่อนคมหนามไว้มิดชิด..เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหล่อนทุกวิถีทาง!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๒๕ สินค้าชิ้นงาม ๒/๓

รถตู้ติดฟิล์มดำคันนั้นแล่นไปตามท้องถนนอย่างนุ่มนวล บอกราคาเครื่องยนต์คุณภาพสูง มุกดากลอกตามองนอกหน้าต่างซึ่งมีทัศนียภาพภูเขาเขียวครึ้มอยู่รายล้อม สลับกับเหลือบลงมองโทรศัพท์มือถือในมือด้วยความลังเล หล่อนกำลังชั่งใจอย่างหนัก ว่าจะรายงานไพลินไปตามระเบียบที่เคยกำชับหล่อนไว้ หรือจะปล่อยเลยตามเลย ค่อยเล่าให้พี่สาวฟังย้อนหลังตอนกลับถึงบ้าน

กฤษดาสารภาพกับหล่อนตามตรงว่าเขาเคยคิดจะจีบหล่อนเล่นๆเหมือนที่ทำกับสาวหลายคน แต่เขาก็ได้รับบทเรียนจากการทำตัวเจ้าชู้ไม่เลือกหน้าเสียก่อน เขาเกือบถูกสามีตัวจริงของพริตตี้แสนสวยนางหนึ่งยิงตาย เธอคือผู้หญิงคนล่าสุดที่เขาเข้าไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว แถมยังเป็นนักเลงเต็มรูปแบบ พกอาวุธติดตัวมาขู่เขาถึงคอนโดกลางวันแสกๆ

ถัดจากนั้นชายหนุ่มก็เล่าว่าเขาถูกบาปกรรมเล่นงานอีกหลายตลบ ทั้งการงาน การเงิน และความรักกับผู้หญิงคนสุดท้ายที่เขาคิดจริงจังด้วย ชีวิตพังทลาย มีอันเป็นไปจนแทบตั้งตัวไม่ติด เขาเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ในคืนที่คิดจะกระโดดตึกตาย บังเอิญเจอพลเมืองดีผู้หนึ่งรั้งเขาเอาไว้ด้วยคำพูดบาดลึก ทว่ากินใจ

และพลเมืองดีคนนั้น บัดนี้ได้กลายมาเป็นเสมือนพี่ชาย และอาจารย์ทางธรรม ผู้ซึ่งเขาพาหล่อนมาทำความรู้จักเมื่อเช้านี้ กฤษดาแนะนำชีวิตทางโลกให้หล่อนฟังคร่าวๆ ว่าคุณวิฑูรย์ เป็นเจ้าของกิจการร้านอาหารไทยทั้งในและนอกประเทศ มีฐานะมั่นคง แต่กลับไม่ปรนเปรอความสุขให้ตัวเองเพียงฝ่ายเดียว เขายังมีน้ำใจเจือจาน ช่วยเหลืองานสาธารณกุศลหลายอย่าง สำคัญที่สุดคือเขาคนนี้แหละ ชักจูงให้ชายหนุ่มหันมารู้จักทำบุญสุนทาน ถือศีล รู้จักเห็นใจเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะเพศแม่ ไม่เอารัดเอาเปรียบเหมือนที่ผ่านมา

กฤษดาบอกหล่อนว่า คุณวิฑูรย์ เป็นหนึ่งในเจ้าภาพรายใหญ่ ของงานทอดผ้าป่าเพื่อการสร้างโบสถ์วิหารตามวัดที่ยังขาดปัจจัยหลายๆอย่างในครั้งนี้ด้วย เขาอธิบายคร่าวๆอีกว่า คณะญาติธรรมกลุ่มนี้จะเดินทางตระเวณหาวัดที่ยังขาดแคลนสถานปฏิบัติธรรม และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทั่วเมืองไทย จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปร่วมทำบุญใหญ่กันในวัดต่างๆทุกสามเดือน มีโครงการสานต่อเรื่อยๆจนกว่าจะครบเจ็ดสิบหกจังหวัดทั่วประเทศ

มุกดารู้สึกดีใจที่เห็นชายหนุ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น หล่อนจึงรีบตอบตกลงคำชักชวนให้เข้าร่วมงานบุญที่วัดเล็กๆแห่งหนึ่งในหัวหิน เพื่อเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนให้เขามีกำลังใจทำความดียิ่งๆขึ้นไป ทีแรกหล่อนไม่เห็นว่ากฤษดาเป็นคนแปลกหน้า จึงไม่คิดจะรายงานพี่สาว ถึงเรื่องการทำบุญในต่างจังหวัดครั้งนี้

แต่หล่อนก็เพิ่งมารู้อย่างกะทันหันอีกเหมือนกัน ว่า “อาจารย์ทางธรรม” ของชายหนุ่ม ผู้เป็นคน “แปลกหน้า” สำหรับหล่อน จะร่วมเดินทางไปด้วยกัน

อัธยาศัยใจดี ยิ้มแย้ม และการทักทายอย่างเป็นกันเอง ของ คุณวิฑูรย์ ผู้ใหญ่รุ่นราวคราวพ่อของหล่อน ทำให้หญิงสาวตัดสินใจลำบาก

ตลอดเวลาที่นั่งในรถตู้คันเดียวกัน เขาก็ชวนหล่อนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ราวกับรู้จักกันมานานนมเยี่ยงญาติมิตร กระแสเสียงอบอุ่นของเขา ทำให้มุกดานึกถึงลุงเหิม เพื่อนบ้านที่ปราณบุรีของผู้เป็นบิดา หล่อนลืมเสียสนิทว่าเพิ่งรู้จักเขาวันนี้

จนกระทั่ง “ผู้ใหญ่แปลกหน้า” ถอดแว่นดำอันใหญ่ของเขาออก แล้วทอดสายตามองหล่อน

เงาประหลาดจุดขึ้นในกรอบตาคมลึกคู่นั้น มุกดาสัมผัสได้ถึงกระแสบางอย่างที่ขัดแย้งกับรอยยิ้มเป็นกันเอง เสียงหัวเราะทุ้มนุ่มเจือความเมตตาอยู่ไม่จาง คำพูดของเขาฟังรื่นหู และน่าคล้อยตามทุกประโยค ทว่าเพียงแววตาเท่านั้น ที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

มุกดาไม่เคยเจอใครที่มีความขัดแย้งในตัวเองขนาดนี้มาก่อน หล่อนจึงกลับมาลังเลอีกครั้ง..ว่าควรรายงานไพลินตามที่สัญญาเอาไว้ หรือไม่..

“ถึงแล้วนะจ๊ะ หนูไข่มุก”
เสียงทุ้มลึกของชายวัยกลางกระซิบบอกหล่อนที่ข้างหู มุกดาตื่นจากภวังค์ หันมาอีกทีปลายจมูกก็เกือบจะชนกับเสี้ยวหน้าของผู้ใหญ่ท่านนั้น หล่อนสะดุ้งถอยด้วยความตกใจ

“เป็นอะไรไป..มองหน้าอาราวกับเห็นผีเสียอย่างนั้น”

คุณวิฑูรย์เอ่ยขันๆ ก่อนจะก้าวลงจากรถไปยืนข้างกฤษดาที่รอหน้ายิ้มรื่นอยู่แล้ว มุกดาจึงเป็นฝ่ายเก้อเขินไปเอง..หล่อนคงคิดมากเกินกว่าเห็นเสียกระมัง

“เดี๋ยวคนขับรถของพี่วิฑูรย์จะขนของสังฆทานตามไปทีหลัง เรารีบเข้าศาลากันก่อนเถอะไข่มุก ชักช้าจะถูกแย่งที่นั่งหมด”

มุกดายิ้มรับ ก่อนจะเดินตามชายทั้งสองไปอย่างไม่มีทางเลือก หญิงสาวหย่อนโทรศัพท์เครื่องจิ๋วลงกระเป๋าสะพาย หมดโอกาสรายงานไพลินนับตั้งแต่วินาทีนั้น

เมื่อขึ้นมาถึงศาลาฟังธรรม ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินสวนกันขวักไขว่ เรือนไม้กระดานที่คับแคบอยู่แล้ว ยิ่งแออัดมากเข้าไปอีก ทว่ารอยยิ้มของแต่ละคนซึ่งมีให้กันถ้วนหน้า แม้ไม่เคยรู้จักพบเห็นกันมาก่อน ทำให้ความแออัดแปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

กัลยาณมิตรผู้หนึ่งยิ้มให้หล่อนอย่างอ่อนโยน เมื่อหล่อนวางธนบัตรใบละร้อยลงในกล่องการกุศลที่เขาถือไว้

“อนุโมทนานะครับ..”

มุกดารู้สึกราวกับตัวเองยิ้มออกมาจากใจ เมื่อเอ่ยกลับด้วยประโยคเดียวกัน มองเลยลงไปด้านล่างศาลา หล่อนเห็นโรงทานที่มีอาหารหลากประเภทจัดเป็นซุ้มอยู่ติดๆกัน ใบหน้าของพ่อครัว แม่ครัวทุกคนล้วนมีรอยยิ้มประดับทั้งนัยน์ตาและมุมปาก ไม่ไกลจากนั้นก็เห็นวัยรุ่นเกือบสิบคนช่วยกันแบกถังน้ำมาเรียงไว้ตามจุดบริการ ท่าทีขันแข็ง มองไปทางห้องน้ำก็เห็นเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอาสาจูงมือผู้เฒ่าผู้แก่ออกเดินด้วยความเต็มใจ

กลิ่นอายของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งหล่อนแทบไม่เคยเห็นในสังคมเมือง ทำให้มัวดื่มด่ำกับความปีติในใจคนเดียวเป็นนาน หันกลับมาอีกที กฤษดา กับ คุณวิฑูรย์ ก็หายวับ ไม่เหลือแม้แต่เงา

มุกดาตัดสินใจเดินเข้าไปจุดธูป กราบพระประธานที่โต๊ะหมู่บูชากลางศาลา หล่อนหลับตานิ่ง อธิษฐานในใจเงียบๆคนเดียวครู่หนึ่ง เปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง ความสงบสงัดก็รายล้อมรอบกายอย่างน่าประหลาด

ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่และความชุลมุนจากการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของเหล่าญาติธรรม ระหว่างรอเจ้าภาพประกาศเปิดงานอย่างเป็นทางการ มุกดาเห็นใครคนหนึ่งนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมเฉลียง มีสาธุชนนั่งคุกเข่าบ้าง พับเพียบบ้าง รายล้อมด้วยท่าทีให้ความเคารพนับถือ


เขาเป็นเพียงชายชราผมสีขาวโพลนทั้งศีรษะ สวมเสื้อป่านคอกลมสีขาวและกางเกงแพร ปราศจากเครื่องประดับบนเรือนกายอย่างใครหลายคน ที่หล่อนเพิ่งเดินสวนมาตั้งแต่ลานจอดรถ

ราวกับรู้ว่าหล่อนมองอยู่ ชายชราเงยหน้า ทอดสายตาตรงมาพร้อมจุดรอยยิ้มที่มุมปาก เป็นยิ้มแต่เพียงในหน้า ของผู้ซึ่งสำรวมแล้วทั้งกาย วาจา ใจ แม้ไม่ใช่การแสดงออกที่มากมายอย่างปุถุชนคนทั่วไป ทว่าหล่อนกลับรู้สึกเลื่อมใส และเสมือนมีกระแสบางอย่างดึงดูดให้เดินเข้าไปหา ยกมือประนมนอบพร้อมศีรษะมนน้อมลงจรด มุกดายอบกายลงนั่งพับเพียบบนพื้น ห่างจากเก้าอี้สีขาวที่เขานั่งอยู่เพียงเอื้อมมือถึง ลุงป้าน้าอาผู้นั่งอยู่ก่อนต่างพากันมองหล่อนด้วยความสนใจ

“ศีล..และความดีอันบริสุทธิ์ จะคุ้มครองหนูไปทุกหนทุกแห่ง..จงอย่ากลัว แม้ภยันตรายจะรออยู่เบื้องหน้า”
มุกดาเลิกคิ้วฉงนกับคำทักทายของชายรุ่นปู่ ร่างกายอาจเสื่อมสภาพไปตามสังขารที่ร่วงโรย ทว่าน้ำเสียงของเขากลับดังกังวาน มีความแน่วนิ่งจนกระทั่งจบประโยค

“รักแท้ เกิดจากได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขตั้งแต่อดีตชาติ และมาเกื้อกูลกันอีกในปัจจุบัน” ปู่ชราน่าเกรงขามผู้นั้นทอดมองหล่อนด้วยกระแสเมตตา ใครหลายคนนั่งฟังกันเงียบกริบ ราวกับทุกถ้อยคำของเขามีความหมายกินนัยที่มีค่าควรแก่การจดจำ

“หากหนู..และเขา ไม่ใส่ใจสร้างเหตุอันดีร่วมกันในชาตินี้ อดีตที่แล้วมาก็เปล่าประโยชน์ รักแท้มิอาจเกิดขึ้นได้”

มุกดากระพริบตาถี่ๆ หล่อนพยายามทำความเข้าใจกับ ปริศนาของชายชรา

“มีสติ..และจงเชื่อหัวใจอันแท้จริง สิ่งที่หนูกำลังจะเจอมันอาจเลวร้าย..แต่”
หัวใจหล่อนกระตุกวูบเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย

“หากเขายังร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา..จงเชื่อเถิดว่า อุปสรรคอันใด ก็มิอาจขวางกั้น”


ลลิตพรรณเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องรับแขก จนแม้กระทั่งตัวหล่อนเองก็เริ่มเวียนหัว สาวหน้าหมวยหย่อนก้นลงบนเบาะหนัง พิงพนัก ยกมือบีบขมับไล่ความตึงเครียด หล่อนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เมื่อแพรวาก็อาบน้ำแต่งตัวสวยพริ้งออกไปนอกบ้านหลังจากมีเรื่องกับกวิน ตั้งแต่เที่ยงวัน ส่วนเพทายและชายหนุ่มตัวการก็มัวแต่จดจ่อกับการร่ำเรียนวิชากุหลาบอยู่ตรงศาลาริมน้ำหลังบ้าน

ไม่มีใครสักคน ที่ใยดีเพื่อนซี้ผู้อ่อนต่อโลกของหล่อน จนป่านนี้ยังไม่กลับมาถึงบ้าน หล่อนไม่อยากเชื่อเรื่องเสี่ยวิฑูรย์อะไรนั่น ที่แพรวาพยายามยืนกรานกับกวินในตอนนั้น แต่เมื่อรูปการมันชักไม่น่าไว้วางใจ หล่อนก็รู้สึกกระสับกระส่าย สังหรณ์ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเพื่อนสาวจริงๆ

ลลิตพรรณตัดสินใจยกโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเลขหมายปลายทาง ซึ่งเป็นความหวังสุดท้าย หล่อนนึกถึงใครไม่ออกแล้วในตอนนี้ นอกจาก..

“พี่เขียว...ไข่มุกท่าจะแย่”
เมื่อได้ยินเสียงมรกตตอบรับกลับมา ลลิตพรรณจึงรีบสาธยายเรื่องราวอันอัดอั้นตันใจจนหมดเปลือก กระทั่งจบลงที่เรื่องของเสี่ยวิฑูรย์ ผู้ต้องสงสัย

“ยายจอย..ฉันขออะไรอย่าง” มรกตส่งเสียงลอดไรฟันผ่านหูโทรศัพท์เข้ามา เมื่อรับทราบข้อร้องเรียนทุกประการจากเพื่อนสนิทน้องสาวคนเล็ก

“ขอกี่อย่างก็ว่ามาเถอะพี่เขียว..จอยเป็นห่วงน้องพี่จะตายอยู่แล้ว”
ลลิตพรรณรีบรับคำด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

“ทำยังไงก็ได้..ลากตัวเจ้านายหน้าโง่นั่นมาหาฉันที.พามาคนเดียวนะ คนอื่นไม่เกี่ยว!”




ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ค. 2555, 02:06:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ค. 2555, 02:06:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1530





<< บทที่ ๒๕ สินค้าชิ้นงาม ๑/๓   บทที่ ๒๕ สินค้าชิ้นงาม ๓/๓ >>
เดิมเดิม 20 ก.ค. 2555, 18:52:34 น.
ต้องให้พี่เขียวจัดอีกแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account