ลิขิตพราย โดย วงแหวนดาวเสาร์ สนพ.อรุณ
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางรอนแรมไปในหนทางมืดมิด
มีเพียงเสียงหริ่งเรไรและหิ่งห้อยนำทาง
เขากำลังหนีจากสังคม ผู้คน มาเพื่อตามหาสิ่งหนึ่งซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้ในป่าลึก... “บ่อพราย”
ตำนานเล่าขานกันว่าหากใครได้ส่องดูเงาตนเองที่บ่อในคืนเดือนมืด คนผู้นั้นจะมองเห็นสิ่งที่ตนตามหา
พี่นนท์คนใหม่กลายเป็นอีกคนที่เพลงพิณไม่รู้จัก จากผู้ชายขี้แพ้ สุภาพ อ่อนโยน ไม่สู้คน
กลายเป็นกระด้าง ปราดเปรียว สนุกกับชีวิตในเวลาที่ได้เอาชนะทุกสิ่งด้วยแววตาทรงพลังจนน่าขนลุก
ชั่วเวลาไม่กี่เดือนสรานนท์กลับกลายจากคนหมดตัวไปเป็นตากล้องมาแรงที่สุดในขณะนั้น
เขาเปิดนิทรรศการภาพถ่ายชวนพิศวงและดูสูงค่าจนเหล่าเศรษฐีแทบจะเหยียบกันเพื่อแย่งชิงไปไว้ในครอบครอง
ด้วยแรงดึงดูดแปลกประหลาดราวกับไม่ใช่พลังจากน้ำมือมนุษย์
มีเพียงเสียงหริ่งเรไรและหิ่งห้อยนำทาง
เขากำลังหนีจากสังคม ผู้คน มาเพื่อตามหาสิ่งหนึ่งซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้ในป่าลึก... “บ่อพราย”
ตำนานเล่าขานกันว่าหากใครได้ส่องดูเงาตนเองที่บ่อในคืนเดือนมืด คนผู้นั้นจะมองเห็นสิ่งที่ตนตามหา
พี่นนท์คนใหม่กลายเป็นอีกคนที่เพลงพิณไม่รู้จัก จากผู้ชายขี้แพ้ สุภาพ อ่อนโยน ไม่สู้คน
กลายเป็นกระด้าง ปราดเปรียว สนุกกับชีวิตในเวลาที่ได้เอาชนะทุกสิ่งด้วยแววตาทรงพลังจนน่าขนลุก
ชั่วเวลาไม่กี่เดือนสรานนท์กลับกลายจากคนหมดตัวไปเป็นตากล้องมาแรงที่สุดในขณะนั้น
เขาเปิดนิทรรศการภาพถ่ายชวนพิศวงและดูสูงค่าจนเหล่าเศรษฐีแทบจะเหยียบกันเพื่อแย่งชิงไปไว้ในครอบครอง
ด้วยแรงดึงดูดแปลกประหลาดราวกับไม่ใช่พลังจากน้ำมือมนุษย์
Tags: สรานนท์ เพลงพิณ ธิติ พล กมลณัฐ บ่อพราย
ตอน: บทที่ ๒ ล้างรอยจำ(ต่อ)
คุณซาอิ แกะน้อยงุงิหางเนียนนุ่ม – มาแล้วค่า จู่ๆก็งานเข้าเลยมาช้ากว่าที่ตั้งใจไปวันนึงงงง
คุณชีจัง – หนุ่มแว่นที่รูปงามถือเป็นปูชนียบุคคล... ยังไงก็อย่าลืมคิดถึงอัคน้อยมั่งนะ
เค้าไม่อยากเป็นแมวหัวเน่า นี่ก็เริ่มทึ้งขนตัวเองแล้วเนี่ย
คุณพธิสา – เขียนชื่อถูกไหมคะ จำได้ว่าเคยถาม แต่ติดตามาแค่ธ.ธงอ่า ถ้าผิดบอกเค้าน้า
พี่พลเป็นพระรองหนา บ่อใช่ตัวประกอบ ฮี่ๆๆ รอชมความน่ารักนะคะ
คุณอะมีราห์แท็คฯ – ขอบคุณสำหรับความห่วงใยค่ะ คนนี้คนเขียนกำลังมุงานขาดใจเพื่ออนาคต แฮ่กๆๆ
คุณหลิง – ยินดีที่สนุกค่ะ พอเรื่องราวเริ่มเข้มข้นแล้วหวังว่าจะสนุกกว่านี้อีก
คุณน้องมูน - คนนี้พระเอกแน่ เอิ๊กๆ จริงๆๆๆๆนะ ด้วยเกียรติของลูกเสือเวรี่สามัญชั้นอนุบาล
คุณพระอาทิตย์สีทอง – แค่ซื้อตึกที่เสียไปคืนมาจากธิติได้เฉยๆค่ะ ซึ่งธิติยอมคืนให้เพราะอะไรนั้น
จะเฉลยในอนาคต อุอุ
คุณหมูอ้วนตุ้ยนุ้ย – กลัวผีแล้วหรือคะคุณหมูอ้วน ในเรื่องนี้พรายไม่เชิงว่าเป็นผีนะ
แค่เป็นสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบที่น่ากลัวเท่านั้นเอง(แล้วมันต่างกันยังไง)
คุณแพทโอเค – โอเคมากค่ะที่รีบตามมาอ่านโดยว่องไว เลิฟๆ ตอนนี้พี่นนท์ยังไม่ทำอะไรน่ากังวล
แต่ตอนหน้าคิดว่าจะทำนะ ทำกับหนูเพลงเนี่ยแหละ อร๊าววว
คุณซิลเวอร์มูน – ปิดปากไม่มิดเสียงร้องเลยเล็ดออกมาค่ะ *+* อุกๆๆ
คนเขียนไม่ได้เขียนบทสนทนาทั้งหมดในรถ เหมือนพอขึ้นมาก็คุยกันไปสักพักแล้ว
ละก็กระโดดข้ามมาเขียนบทพูดต่อจากนั้นเลย เพลงเลยพูดได้ว่า
“สรุปว่าตอนนี้พี่นนท์รวยขึ้นมาเพราะมรดกที่คุณปู่ทิ้งไว้ให้”
...คงรีบโพสต์ไปหน่อย เลยตรวจไม่ค่อยละเอียด
หลังจากนั่งคุยกันมาบนรถได้ครู่ใหญ่<<เดี๋ยวจะเพิ่มอะไรประมาณนี้ลงไป
ขอบคุณสำหรับไลค์ย้อนหลังนะคะ
คุณเฟอร์นักล่าโป๋ยแมว – พี่นนท์เป็นสิ่งมีชีวิตแปลกๆไปแล้วละ...
พี่พลพระรอง ก็มีคู่เป็นสาวทอมงาย ตีกันสนุกเลย แหย่กัน หยอกกัน น่าร๊ากกกก
คุยในห้องน้ำเพราะกลัวคุยข้างนอกพี่นนท์ก็ไม่ยอมแยกไปไหนมั้ง ตามคุมแจ
คุณเลิฟหมวย – พี่นนท์จะพยายามหล่อขึ้นเรื่อยๆค่ะ เอาใจช่วยหน่อยนะคะ คนหล่อมือใหม่...
คุณกานตี – มายาไฟฯ ภาคต่อ พระเอกนามสกุลเมห์ฮราทั้งสองคน อิอิอิ แต่ไม่ใช่อัคนิแล้วนะคะ
เดี๋ยวเอาตอนพิเศษมาลงคงจะพอเดาได้ว่าใคร หนึ่งในนั้นก็มีชามัลไง โฉดซ้า ตายไปแล้วก็ปลุกผีมาได้
หญิงสาวรุดออกจากห้องน้ำ ไม่พบร่างสูงอย่าที่คิดว่าเขาจะรออยู่หลังจากเดินมาส่งเธอถึงที่
ลืมไปเลยว่าเขาไม่ใช่พี่นนท์คนเก่าแล้ว หากเป็นคนเดิมคงยังยืนรอหงิมๆ อยู่หน้าห้องน้ำ
จนเธอออกมา
หรือว่าเขากำลังเข้าไปหาอรดีอย่างที่เพลงพิณกลัว...
สู่โถงจัดงานซึ่งจัดแต่งด้วยโทนสีเขียวไพรเจือเทาหม่น คริสตัลลูกระย้าจากบนเพดาน
เจียระไนราวกับหยดน้ำเพชรที่พร้อมจะหยาดลงมาสู่บรรยากาศสดชื่นซึ่งพรรณไม้
โทนเขียวช่วยกันขับให้งานวันนี้สามารถเข้าเทรนด์อนุรักษ์นิยมได้พอดีพอดิบทั้งที่
เจ้าของงานผู้เป็นลูกชายเจ้าพ่อสื่ออย่างนายปราชญ์ดูจะไปทางวัตถุนิยมเสียมากกว่า
...เพลงพิณกวาดตามองหาสรานนท์ไปรอบๆ แต่ก่อนเธอคงต้องห่วงว่าพี่นนท์จะวางตัวยังไง
ในงานเลี้ยงรูปแบบที่เขาไม่เคยคุ้น แต่วันนี้ เวลานี้ เห็นจะไม่ต้องอีกต่อไป
เขากลายเป็นหนุ่มหล่อที่ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ แต่เพียงสบสายตาเย็นชาที่เขาจับจ้อง
สาวๆ เหล่านั้นก็พากันล่าถอยออกไป อย่างอื่นไม่มีมีอะไรต้องห่วง ทว่าตอนนี้เพลงพิณ
ห่วงแค่ว่าพี่นนท์จะไปก่อเรื่องอะไรหรือเปล่ากลับอดีตคนรักที่กลายมาเป็นคู่ควงเจ้าของงาน
สายตาของคนมองหาพลันไปหยุดที่ร่างสูงซึ่งกำลังก้าวสง่าผ่าเผยเข้าไปหาคนคู่หนึ่ง
และเป้าหมายของเขาทำให้เธอต้องตกใจ... เอาเข้าแล้วไง พี่นนท์กำลังเดินเข้าไปหา
คุณปราชญ์กับผู้หญิงคนนั้นจนได้ หลังจากที่เพียงแค่เฝ้ามองคนทั้งคู่อยู่ห่างๆ มาตลอด
ตั้งแต่เหยียบมาถึงงาน อรดีในชุดสีเขียวเหลือบน้ำเงินราวกับประกายขนหางนกยูง
ดูสะสวยสมกับเป็นคู่รักของพระเอกในคืนนี้
เพลงพิณเขม่นหน้าอรดีอยู่ในทีฐานะที่หักอกพี่นนท์ของเธอจนแทบเสียผู้เสียคน
ปราชญ์ผู้ชายคนใหม่ของเจ้าหล่อนก็ดูดีอยู่หรอก เสียตรงว่าตัวเตี้ยไปสักหน่อย
ชายหนุ่มแต่งผมให้เป็นทรงสูงขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสูงมากไปนิดแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด
เพลงพิณแอบยิ้มเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นอรดีเองถึงกับต้องเลือกรองเท้าแทบจะไร้ส้นมาสวม
เพราะเกรงใจคนรักใหม่ทั้งที่ดูไม่เข้ากับชุดสักเท่าไร
ก็ดีแล้วที่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับหลักที่โผไปเกาะ
ทำไมพี่นนท์ไม่จัดการกับเป้าหมายเสียตั้งแต่ตอนเธอเข้าห้องน้ำ หญิงสาวมองเห็น
จากแววตาว่าพี่นนท์มีความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะพูดบางอย่างกับคนทั้งคู่
จากความเป็นตัวเขาในตอนนี้ทำให้เธอไม่กล้าเข้าไปขัด อย่างน้อยก็ก่อนที่จะรู้ว่า
เขาอยากทำอะไร หากว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตนัด เพลงพิณแค่อยากจะระวังไว้
หญิงสาวเลียบเคียงเอ้อระเหยเข้าไปใกล้ ให้พอที่จะได้ยินบทสนทนาที่สรานนท์
กำลังเริ่มต้นขึ้นมาท่ามกลางความแปลกใจของคู่รักใหม่
“ผมสรานนท์ ศาสตร์ศศิน เป็น...คนรู้จักของอรดี”
เพลงพิณเห็นว่าแฟนเก่าของพี่นนท์หน้าเสียขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ปนเปด้วย
ความแปลกใจแบบเดียวกับที่เธอรู้สึกกับพี่นนท์ หญิงสาวผู้นั้นมองคนรักเก่า
ตั้งแต่หัวจรดเท้า น่าเสียดาย บทสนทนาที่ตามมาเบาเกินกว่าที่เพลงพิณจะได้ยิน
และเธอก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้กว่านี้โดยกลุ่มคนซึ่งกำลังคุยกันจะไม่รู้สึกสังเกต
ฝ่ายชายผู้เรียกว่าเป็นเจ้าของงานวันเกิดในค่ำคืนนี้เริ่มแสดงสีหน้าแปลกๆ
ฝ่ายหญิงกำลังกลัว ส่วนฝ่ายชายกำลังเริ่มโกรธ ส่วนพี่นนท์...
แม้จะเห็นแค่เพียงแผ่นหลังของเขาก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ในอารมณ์สบายๆ
อย่างเมื่อแรกที่ก้าวเข้าไป
เขาทำให้เธอไม่สบายใจ แต่เพลงพิณยังไม่คิดจะห้าม ยังอยากเฝ้าดูต่อไปอีกหน่อย
ว่าพี่นนท์คนใหม่นี้จะแปลกไปถึงเพียงไหน เธอเกือบจะเอาใจช่วยเขา ทั้งที่เดิม
ตั้งใจไว้ว่าจะขัดขวางหากอีกฝ่ายคิดจะทำหรือพูดอะไรไม่ดี อาจเพราะเพลงพิณ
มองเห็นเงาของความเจ็บปวด แม้ไม่ใช่จากท่าทีของเขาที่เป็นสง่าอยู่...
แต่เงาซึ่งทอดอยู่บนพื้นกลับดูหม่นหมองราวกับมันคือเงาของพี่นนท์คนเดิม
เป็นตัวเก็บกักความทุกข์ทั้งชีวิตของเขาที่ผ่านมา
ท่ามกลางสำเนียงสนทนาจากแขกกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เสียงไม่ดังนักแต่ราวกับมี
ผึ้งฝูงย่อมๆ บินวนหึ่งๆ ไปรอบห้อง ผสานกับเพลงคลาสสิกที่ครวญคลอ
แสงพร่าพรายจากโคมไฟคริสตัลเหนือขึ้นไป
เพลงพิณคล้ายมองเห็นเพียงคนสามคนสนทนากันอยู่ในบรรยากาศเลอะเลือนนั้น
จู่ๆ สีหน้าของอรดีจากที่แฝงความกลัวค่อยๆ กลายกลับเป็นเคลิบเคลิ้ม
ไปในถ้อยคำของอดีตคนรัก สายตาผู้หญิงคนนั้นจับจ้องไปคลาดไปจากใบหน้าพี่นนท์
เจ้าหล่อนเอื้อมมาแตะแขนคนรักเก่าโดยไม่สนใจสายตาที่ตอนนี้เหมือนจะฆ่าคนได้
ของปราชญ์คู่หมั้นหนุ่ม
เพลงพิณเห็นเจ้าของวันเกิดกำแก้วไวน์แดงในมือค่อนข้างแน่นจนน่ากลัวว่ามันจะแตกร้าวลงคามือ
แต่คนระดับลูกชายของผู้มีหน้ามีตาในสังคมคงไม่มีทางจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ถึงขนาดนั้น
สรานนท์คล้ายสังเกตเห็นเช่นกัน เพลงพิณเห็นจากเสียวหน้าที่ผินมาว่าพี่นนท์ก็กำลังมอง
แก้วในมือของชายหนุ่มที่ประจันหน้ากันอยู่ มีเพียงอรดีที่ไม่รู้สึกรู้สากับความตึงเครียด
และยังคงไล้มืออยู่กับแขนของสรานนท์
โผละ...
“อ๊ะ...” เพลงพิณอุทานผะแผ่ว เมื่อแก้วไวน์ในมือปราชญ์แตกกระจายขึ้นคาตา
อาการของมันคล้ายกับการระเบิดอย่างเบาะๆ มากกว่าถูกบีบจนแตก สีแดงปนชมพู
อาบทักซิโด้ขาวจนชุ่มโชกไปทั้งแผงอก ขณะที่เจ้าตัวอุทานเสียงไม่เบาเลย เรียกสายตา
ของแขกเหรื่อจำนวนมากให้หันตาม ปราชญ์สบถเสียงดัง ปาก้านแก้วที่ยังเหลือคามือซึ่ง
ถูกบาดเลือดไหลทิ้ง ก่อนก้าวออกไปจากห้องไม่เหลียวหลัง ความโกลาหลอย่างย่อยๆ
ได้บังเกิดขึ้น แม้ผู้ร่วมงานจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเสีย แต่ความสงบรื่นรมย์ในงาน
ได้จางหายไปส่วนหนึ่ง สรานนท์แตะศอกอรดีไว้คล้ายรั้งมิให้เจ้าหล่อนตามคู่หมั้นออกไป
ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมตามใจเขาจนใครต่อใครยิ่งมองมาเป็นจุดเดียว
เพลงพิณรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแปลกๆ จนต้องละสายตา หญิงสาวก้าวผ่านประตูกระจก
ออกไปยังระเบียงเบื้องนอกเพื่อผ่อนคลาย ลมเย็นจากสวนล่างที่เชื่อมกับทะเลสาบลูกย่อมๆ
ของโรงแรมโชยแผ่วปะทะผิวหน้า หญิงสาวคว้าเครื่องดื่มจากบริกรมาจิบพลางถอนใจเฮือกใหญ่
เธอคิดไปเองหรือไรกับภาพที่แก้วไวน์มันเกิดจะระเบิดขึ้นมาแรงเพียงนั้น แต่สรานนท์กับอรดี
กลับไม่มีร่องรอยความเปรอะเปื้อน เหมือนกับหยาดหยดแดงๆ ของไวน์กระจายถูกผู้ถือแก้ว
เพียงลำพังเท่านั้น
บนระเบียงยังมีคนออกมายืนสนทนากันประปราย โดยผู้เป็นเป้าหมายมิทันรู้สึกตัว
เงาร่างหนึ่งตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ลำพังในเงามืด
เสียงห้าวทุ้มเอ่ยปลุกเพลงพิณจากภวังค์ความคิด
“หาตัวเจอจนได้นะน้องเพลง”
“คุณธิติ” เพลงพิณอุทาน... ลืมไปเสียสนิทว่าเขาเองก็มางานนี้ด้วยเพราะมัวแต่สนใจพี่นนท์
“ไหนว่าเจอกันที่งานไง ไม่คิดจะมองหาพี่บ้างเหรอครับ”
สุ่มเสียงนั้นมีร่องรอยประชดอยู่ในความเย็นชา คืนนี้เขาดูดีมีมาดในชุดสูทสีดำเหลือบกรมท่า
เพิ่งสังเกตว่าช่วงนี้ธิติเองก็ดูจะขาวขึ้น เขาอาจดูแลตัวเอง อาบน้ำแร่แช่น้ำนมมาหรือไง
เพลงพิณก็ไม่อยากสนใจ แต่ตอนนี้ในมือชายหนุ่มมีเครื่องดื่มเย็นเฉียบสองแก้ว
เห็นได้ชัดว่าหยิบมาเผื่อเธอ เมื่อเขายื่นให้เพลงพิณแก้วหนึ่งหญิงสาวมิได้ปฏิเสธ
เธอวางแก้วเดิมที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะนั่งเล่นแถวนั้น รับแก้วใหม่มาจิบในทันทีด้วยอยากจะ
สงบอารมณ์ฟุ้งซ่านจากสถานการณ์ประหลาดในห้องโถงเมื่อครู่ลงให้สนิท
ธิติชวนเพลงพิณชนแก้วและสนทนากันถึงเรื่องสัพเพเหระในงานเลี้ยงและที่ทำงาน
ไม่ได้เฉียดใกล้ไปถึงเรื่องสรานนท์ กว่าจะรู้ตัวเขาก็พาเธอเดินลงจากระเบียงลงมา
ในสวนที่จัดไว้สวย เสียงดนตรีคลอแผ่ว เพลงพิณรู้สึกวิงเวียนจึงนั่งแปะลงริมขอบน้ำพุ
พาให้ธิตินั่งลงตาม หญิงสาววางแก้วว่างเปล่าลงข้างกาย รู้สึกร้อนซู่ขึ้นในกระแสเลือด
อย่างประหลาด
มิได้สังเกตเห็นสายตาพราวด้วยแววบางอย่างที่ทอดมองมาจากชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
“อีกเดี๋ยวเพลงจะกลับแล้วค่ะคุณธิติ ไม่อยากอยู่ดึกมาก” หญิงสาวพึมพำ
“พี่ไปส่งเอง ให้พี่ดูแลเพลงนะครับคืนนี้...”
“แต่ว่าเพลงมากับพี่นนท์ เขาขับรถเพลงมา” หญิงสาวโพล่งออกไป
ธิติคล้ายคอแข็งขึ้นจากท่าทาง แต่เพลงพิณไม่เห็นสีหน้าของเขาที่ดูเป็นเงามืด ณ บรรยากาศตรงนั้น
น้ำพุไหลพุ่งซ่าๆ ประกายเป็นฝอยต้องกับแสงจันทร์ กับเดือนดาว และไฟโคมน้อยที่จัดไว้ในสวน
ละอองไอน้ำปะปนมากับสายลมแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยให้เพลงพิณผ่อนคลายลงจากความรู้สึกแปลกๆ
ที่ทวีขึ้นในกายทุกทีๆ
“พี่จัดการได้ ไอ้นนท์มันเคยยอมพี่มาตลอด เพลงกลัวอะไร มากับมันแต่กลับกับพี่ก็ได้
เรื่องรถก็ให้มันดูไป ไม่เห็นสำคัญ”
เพลงพิณหลุดหัวเราะบางเบา ไม่คิดว่าวันนี้ผู้ชายชื่อสรานนท์จะยอมให้ธิติอย่างที่แล้วมา
แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อมือหนาของธิติก็เอื้อมมาสัมผัสแขนพาให้ขนลุกซู่
ยังไม่ทันปฏิเสธมืออีกข้างที่แข็งแรงพอกันก็จับแขนอีกข้างของเพลงพิณไว้แน่น
แต่ก่อนที่อะไรจะเกิดต่อจากนั้น...เสียงเย็นๆ ก็ดังแทรกอารมณ์รินๆ ของน้ำพุขึ้นมา
“ปล่อยเพลงพิณ...”
แม้จะอยู่ในสภาวะมึนงงเพียงใดหญิงสาวก็จำเสียงของพี่นนท์ได้ดี
ถึงวิธีการพูดของเขาจะต่างออกไปจากคนเดิม แต่เวลานี้เธอรู้สึกดีใจที่มันเป็นแบบนั้น
เพราะพี่นนท์คนเก่าคงไม่สามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้านี้ได้ง่ายดายนัก
ธิติสะดุดกึก หญิงสาวสัมผัสได้ว่าร่างทะมึนที่ขวางกลางระหว่างเธอกับพี่นนท์ไว้เริ่มหอบหายใจแรง
คล้ายถูกบีบคั้นจากภายใน เขาค่อยๆ คลายมือจากแขนบอบบางของหญิงสาวโดยไม่มีคำโต้แย้ง
ก่อนหันหลังกลับ เดินทื่อจากไปเงียบๆ จนน่าระหลาดใจ
“พี่นนท์” เพลงพิณยิ้มกับใบหน้าของคนที่เธอวางใจ เขาแทรกเข้ามาได้จังหวะพอดี ก่อนที่ธิติจะ...
หญิงสาวก้าวไปหาสรานนท์ อยากขอให้เขาช่วยเธอจากความรู้สึกสั่นพร่าที่ปะทุจากภายใน
มากขึ้นทุกทีๆ ในเครื่องดื่มของธิติมีอะไรบางอย่างผสมอยู่ เพลงพิณทรุดฮวบ
ขณะที่อ้อมแขนแข็งแรงทว่าเย็นเยียบประคองร่างแบบบางไว้ทันท่วงที
“เพลง ถึงบ้านแล้ว... ตื่นเถอะ...” สรานนท์ประคองเพลงพิณที่ตัวอ่อนปวกเปียก
ออกมาจากประตูที่นั่งข้างคนขับ คว้ากระเป๋าถือของเธอมาคล้องเข้ากับไหล่ตนเอง
เมื่อต้องใช้ทั้งสองมือประคองหญิงสาวที่ยังครางอ้อแอ้ไม่ได้ศัพท์ ตัวร้อนราวจับไข้
อันที่จริงวันนี้ การที่เขามาปรากฏตัวยังบ้านของเพลงพิณชวนเธอไปด้วยกัน
ประการแรกก็แค่เพื่อมอบของขวัญบางอย่างให้ เธอคงได้เปิดถุงนั้นดูในวันหลัง
และอีกประการ...ตัวเขาคนเดิมที่ยังแอบแฝงอยู่ส่วนไหนสักส่วนในจิตใจต้องการเธอไปเป็นกำลังใจ
ในการเผชิญหน้ากับอรดีซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของเขา แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร และตอนนี้
ความรู้สึกอ่อนไหวจะยังไม่แสดงตัวตนออกมาแม้นสักน้อย แต่สรานนท์ยังต้องการใครสักคน
ที่จะยืนอยู่เคียงข้าง
ไม่ว่าสิ่งที่เขาเป็น... สิ่งที่เขาทำ... จะถูก หรือว่าผิด
ชายหนุ่มมองขึ้นไปยังเงาของบ้านหลังทะมึน มันไม่ได้โอฬารจนเรียกได้ว่าคฤหาสน์
แต่ก็นับว่าใหญ่โตสมฐานะเจ้าสัวพิริยะ เหล่าคนที่มาดูแลบ้านกลับไปหมดแล้วตั้งแต่ค่ำ
อากงของเพลงพิณเก็บตัวเงียบมาหลายปี ไม่สุงสิงกับใครราวไม่มีตัวตนอยู่ในบ้าน
ยามนี้ก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของอีกฝ่าย
ร่างอบอุ่นเนียนนุ่มเบียดชิดเข้ามา ชายหนุ่มก้มลงมองร่างในอ้อมแขน
เสื้อคลุมบางพลิ้วของเจ้าตัวยุ่งในอ้อนแขนเขาไหลตกลงมาอยู่ที่ต้นแขน
เผยช่วงไหล่นวลเนียนอย่างไม่ตั้งใจ สรานนท์หน้าร้อนวูบกับภาพดังกล่าว
พยายามเสมองไปทางอื่น กับผู้หญิงอื่นมันก็เท่านั้น แต่เพลงพิณเป็นน้อง
จริงอยู่ที่ตอนนี้เขาเองเปลี่ยนไปมาก ด้วย ‘มรดก’ ที่ค้นพบจากการชักนำในบันทึกของปู่
จนสามารถปลดปล่อยอะไรบางอย่างข้างในออกมา ตัวตนที่ซ่อนอยู่ แน่ใจได้ว่านั่นคือตัวเขาเอง
หาใช่อำนาจอื่นใดที่แฝงมาในร่าง เพียงแต่เขาได้รับพลังที่จะปลดปล่อยตัวตนนั้นออกมา
กับความสามารถแปลกประหลาดอย่างสิ่งมีชีวิตเร้นลับในป่า จนให้นึกลำพองในอก
กับความรู้สึกใหม่สดที่กำลังเปลี่ยนชีวิตและตัวตนเดิมๆ ไปจนยากจะหยุดยั้ง
เหมือนศรที่พุ่งออกจากแล่งด้วยความเร็วถึงที่สุด แต่ในความเข้มแข็งที่ฉาบอยู่
สรานนท์รู้ว่าเขายังมีความอ่อนแออยู่ลึกๆ ความไร้เดียงสาที่จะไม่กล้าลงมือทำบางอย่าง
อันขัดกับมโนสำนึกที่ตัวเขาเองในอดีตเคยยึดติดอย่างแน่นเหนียว อย่างเช่น ในเรื่องของเธอ
...ตั้งแต่เพลงพิณอายุสิบสี่สิบห้า
เขาก็รู้สึกได้ว่าใครหลายคนมองเด็กสาวต่างออกไปจากเดิม
รวมถึงธิติ สรานนท์คิดตำหนิเพื่อนในใจรุนแรง
ทว่าในใจส่วนลึก เขารู้ ตนเองก็อยากจะชอบเธอเช่นกันในเวลานั้น แต่เขาก็ไม่กล้า
แม้แต่จะคิดกับเด็กที่เขาเห็นเป็นน้องสาวมาตลอดเกินเลยไปกว่าที่เคย ความหวั่นไหวนั้น
ยังติดลึกในใจทั้งที่สรานนท์อยากจะลืมมันไป
แต่ตอนนี้เขาจะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ ?
ไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่เคยเก็บกดความต้องการไว้แต่เพียงในใจตนอีกแล้ว
[ถ้าชอบก็อย่าลืมไลค์นะค้า ^0^ ]
คุณชีจัง – หนุ่มแว่นที่รูปงามถือเป็นปูชนียบุคคล... ยังไงก็อย่าลืมคิดถึงอัคน้อยมั่งนะ
เค้าไม่อยากเป็นแมวหัวเน่า นี่ก็เริ่มทึ้งขนตัวเองแล้วเนี่ย
คุณพธิสา – เขียนชื่อถูกไหมคะ จำได้ว่าเคยถาม แต่ติดตามาแค่ธ.ธงอ่า ถ้าผิดบอกเค้าน้า
พี่พลเป็นพระรองหนา บ่อใช่ตัวประกอบ ฮี่ๆๆ รอชมความน่ารักนะคะ
คุณอะมีราห์แท็คฯ – ขอบคุณสำหรับความห่วงใยค่ะ คนนี้คนเขียนกำลังมุงานขาดใจเพื่ออนาคต แฮ่กๆๆ
คุณหลิง – ยินดีที่สนุกค่ะ พอเรื่องราวเริ่มเข้มข้นแล้วหวังว่าจะสนุกกว่านี้อีก
คุณน้องมูน - คนนี้พระเอกแน่ เอิ๊กๆ จริงๆๆๆๆนะ ด้วยเกียรติของลูกเสือเวรี่สามัญชั้นอนุบาล
คุณพระอาทิตย์สีทอง – แค่ซื้อตึกที่เสียไปคืนมาจากธิติได้เฉยๆค่ะ ซึ่งธิติยอมคืนให้เพราะอะไรนั้น
จะเฉลยในอนาคต อุอุ
คุณหมูอ้วนตุ้ยนุ้ย – กลัวผีแล้วหรือคะคุณหมูอ้วน ในเรื่องนี้พรายไม่เชิงว่าเป็นผีนะ
แค่เป็นสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบที่น่ากลัวเท่านั้นเอง(แล้วมันต่างกันยังไง)
คุณแพทโอเค – โอเคมากค่ะที่รีบตามมาอ่านโดยว่องไว เลิฟๆ ตอนนี้พี่นนท์ยังไม่ทำอะไรน่ากังวล
แต่ตอนหน้าคิดว่าจะทำนะ ทำกับหนูเพลงเนี่ยแหละ อร๊าววว
คุณซิลเวอร์มูน – ปิดปากไม่มิดเสียงร้องเลยเล็ดออกมาค่ะ *+* อุกๆๆ
คนเขียนไม่ได้เขียนบทสนทนาทั้งหมดในรถ เหมือนพอขึ้นมาก็คุยกันไปสักพักแล้ว
ละก็กระโดดข้ามมาเขียนบทพูดต่อจากนั้นเลย เพลงเลยพูดได้ว่า
“สรุปว่าตอนนี้พี่นนท์รวยขึ้นมาเพราะมรดกที่คุณปู่ทิ้งไว้ให้”
...คงรีบโพสต์ไปหน่อย เลยตรวจไม่ค่อยละเอียด
หลังจากนั่งคุยกันมาบนรถได้ครู่ใหญ่<<เดี๋ยวจะเพิ่มอะไรประมาณนี้ลงไป
ขอบคุณสำหรับไลค์ย้อนหลังนะคะ
คุณเฟอร์นักล่าโป๋ยแมว – พี่นนท์เป็นสิ่งมีชีวิตแปลกๆไปแล้วละ...
พี่พลพระรอง ก็มีคู่เป็นสาวทอมงาย ตีกันสนุกเลย แหย่กัน หยอกกัน น่าร๊ากกกก
คุยในห้องน้ำเพราะกลัวคุยข้างนอกพี่นนท์ก็ไม่ยอมแยกไปไหนมั้ง ตามคุมแจ
คุณเลิฟหมวย – พี่นนท์จะพยายามหล่อขึ้นเรื่อยๆค่ะ เอาใจช่วยหน่อยนะคะ คนหล่อมือใหม่...
คุณกานตี – มายาไฟฯ ภาคต่อ พระเอกนามสกุลเมห์ฮราทั้งสองคน อิอิอิ แต่ไม่ใช่อัคนิแล้วนะคะ
เดี๋ยวเอาตอนพิเศษมาลงคงจะพอเดาได้ว่าใคร หนึ่งในนั้นก็มีชามัลไง โฉดซ้า ตายไปแล้วก็ปลุกผีมาได้
หญิงสาวรุดออกจากห้องน้ำ ไม่พบร่างสูงอย่าที่คิดว่าเขาจะรออยู่หลังจากเดินมาส่งเธอถึงที่
ลืมไปเลยว่าเขาไม่ใช่พี่นนท์คนเก่าแล้ว หากเป็นคนเดิมคงยังยืนรอหงิมๆ อยู่หน้าห้องน้ำ
จนเธอออกมา
หรือว่าเขากำลังเข้าไปหาอรดีอย่างที่เพลงพิณกลัว...
สู่โถงจัดงานซึ่งจัดแต่งด้วยโทนสีเขียวไพรเจือเทาหม่น คริสตัลลูกระย้าจากบนเพดาน
เจียระไนราวกับหยดน้ำเพชรที่พร้อมจะหยาดลงมาสู่บรรยากาศสดชื่นซึ่งพรรณไม้
โทนเขียวช่วยกันขับให้งานวันนี้สามารถเข้าเทรนด์อนุรักษ์นิยมได้พอดีพอดิบทั้งที่
เจ้าของงานผู้เป็นลูกชายเจ้าพ่อสื่ออย่างนายปราชญ์ดูจะไปทางวัตถุนิยมเสียมากกว่า
...เพลงพิณกวาดตามองหาสรานนท์ไปรอบๆ แต่ก่อนเธอคงต้องห่วงว่าพี่นนท์จะวางตัวยังไง
ในงานเลี้ยงรูปแบบที่เขาไม่เคยคุ้น แต่วันนี้ เวลานี้ เห็นจะไม่ต้องอีกต่อไป
เขากลายเป็นหนุ่มหล่อที่ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ แต่เพียงสบสายตาเย็นชาที่เขาจับจ้อง
สาวๆ เหล่านั้นก็พากันล่าถอยออกไป อย่างอื่นไม่มีมีอะไรต้องห่วง ทว่าตอนนี้เพลงพิณ
ห่วงแค่ว่าพี่นนท์จะไปก่อเรื่องอะไรหรือเปล่ากลับอดีตคนรักที่กลายมาเป็นคู่ควงเจ้าของงาน
สายตาของคนมองหาพลันไปหยุดที่ร่างสูงซึ่งกำลังก้าวสง่าผ่าเผยเข้าไปหาคนคู่หนึ่ง
และเป้าหมายของเขาทำให้เธอต้องตกใจ... เอาเข้าแล้วไง พี่นนท์กำลังเดินเข้าไปหา
คุณปราชญ์กับผู้หญิงคนนั้นจนได้ หลังจากที่เพียงแค่เฝ้ามองคนทั้งคู่อยู่ห่างๆ มาตลอด
ตั้งแต่เหยียบมาถึงงาน อรดีในชุดสีเขียวเหลือบน้ำเงินราวกับประกายขนหางนกยูง
ดูสะสวยสมกับเป็นคู่รักของพระเอกในคืนนี้
เพลงพิณเขม่นหน้าอรดีอยู่ในทีฐานะที่หักอกพี่นนท์ของเธอจนแทบเสียผู้เสียคน
ปราชญ์ผู้ชายคนใหม่ของเจ้าหล่อนก็ดูดีอยู่หรอก เสียตรงว่าตัวเตี้ยไปสักหน่อย
ชายหนุ่มแต่งผมให้เป็นทรงสูงขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสูงมากไปนิดแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด
เพลงพิณแอบยิ้มเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นอรดีเองถึงกับต้องเลือกรองเท้าแทบจะไร้ส้นมาสวม
เพราะเกรงใจคนรักใหม่ทั้งที่ดูไม่เข้ากับชุดสักเท่าไร
ก็ดีแล้วที่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับหลักที่โผไปเกาะ
ทำไมพี่นนท์ไม่จัดการกับเป้าหมายเสียตั้งแต่ตอนเธอเข้าห้องน้ำ หญิงสาวมองเห็น
จากแววตาว่าพี่นนท์มีความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะพูดบางอย่างกับคนทั้งคู่
จากความเป็นตัวเขาในตอนนี้ทำให้เธอไม่กล้าเข้าไปขัด อย่างน้อยก็ก่อนที่จะรู้ว่า
เขาอยากทำอะไร หากว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตนัด เพลงพิณแค่อยากจะระวังไว้
หญิงสาวเลียบเคียงเอ้อระเหยเข้าไปใกล้ ให้พอที่จะได้ยินบทสนทนาที่สรานนท์
กำลังเริ่มต้นขึ้นมาท่ามกลางความแปลกใจของคู่รักใหม่
“ผมสรานนท์ ศาสตร์ศศิน เป็น...คนรู้จักของอรดี”
เพลงพิณเห็นว่าแฟนเก่าของพี่นนท์หน้าเสียขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ปนเปด้วย
ความแปลกใจแบบเดียวกับที่เธอรู้สึกกับพี่นนท์ หญิงสาวผู้นั้นมองคนรักเก่า
ตั้งแต่หัวจรดเท้า น่าเสียดาย บทสนทนาที่ตามมาเบาเกินกว่าที่เพลงพิณจะได้ยิน
และเธอก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้กว่านี้โดยกลุ่มคนซึ่งกำลังคุยกันจะไม่รู้สึกสังเกต
ฝ่ายชายผู้เรียกว่าเป็นเจ้าของงานวันเกิดในค่ำคืนนี้เริ่มแสดงสีหน้าแปลกๆ
ฝ่ายหญิงกำลังกลัว ส่วนฝ่ายชายกำลังเริ่มโกรธ ส่วนพี่นนท์...
แม้จะเห็นแค่เพียงแผ่นหลังของเขาก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ในอารมณ์สบายๆ
อย่างเมื่อแรกที่ก้าวเข้าไป
เขาทำให้เธอไม่สบายใจ แต่เพลงพิณยังไม่คิดจะห้าม ยังอยากเฝ้าดูต่อไปอีกหน่อย
ว่าพี่นนท์คนใหม่นี้จะแปลกไปถึงเพียงไหน เธอเกือบจะเอาใจช่วยเขา ทั้งที่เดิม
ตั้งใจไว้ว่าจะขัดขวางหากอีกฝ่ายคิดจะทำหรือพูดอะไรไม่ดี อาจเพราะเพลงพิณ
มองเห็นเงาของความเจ็บปวด แม้ไม่ใช่จากท่าทีของเขาที่เป็นสง่าอยู่...
แต่เงาซึ่งทอดอยู่บนพื้นกลับดูหม่นหมองราวกับมันคือเงาของพี่นนท์คนเดิม
เป็นตัวเก็บกักความทุกข์ทั้งชีวิตของเขาที่ผ่านมา
ท่ามกลางสำเนียงสนทนาจากแขกกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เสียงไม่ดังนักแต่ราวกับมี
ผึ้งฝูงย่อมๆ บินวนหึ่งๆ ไปรอบห้อง ผสานกับเพลงคลาสสิกที่ครวญคลอ
แสงพร่าพรายจากโคมไฟคริสตัลเหนือขึ้นไป
เพลงพิณคล้ายมองเห็นเพียงคนสามคนสนทนากันอยู่ในบรรยากาศเลอะเลือนนั้น
จู่ๆ สีหน้าของอรดีจากที่แฝงความกลัวค่อยๆ กลายกลับเป็นเคลิบเคลิ้ม
ไปในถ้อยคำของอดีตคนรัก สายตาผู้หญิงคนนั้นจับจ้องไปคลาดไปจากใบหน้าพี่นนท์
เจ้าหล่อนเอื้อมมาแตะแขนคนรักเก่าโดยไม่สนใจสายตาที่ตอนนี้เหมือนจะฆ่าคนได้
ของปราชญ์คู่หมั้นหนุ่ม
เพลงพิณเห็นเจ้าของวันเกิดกำแก้วไวน์แดงในมือค่อนข้างแน่นจนน่ากลัวว่ามันจะแตกร้าวลงคามือ
แต่คนระดับลูกชายของผู้มีหน้ามีตาในสังคมคงไม่มีทางจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ถึงขนาดนั้น
สรานนท์คล้ายสังเกตเห็นเช่นกัน เพลงพิณเห็นจากเสียวหน้าที่ผินมาว่าพี่นนท์ก็กำลังมอง
แก้วในมือของชายหนุ่มที่ประจันหน้ากันอยู่ มีเพียงอรดีที่ไม่รู้สึกรู้สากับความตึงเครียด
และยังคงไล้มืออยู่กับแขนของสรานนท์
โผละ...
“อ๊ะ...” เพลงพิณอุทานผะแผ่ว เมื่อแก้วไวน์ในมือปราชญ์แตกกระจายขึ้นคาตา
อาการของมันคล้ายกับการระเบิดอย่างเบาะๆ มากกว่าถูกบีบจนแตก สีแดงปนชมพู
อาบทักซิโด้ขาวจนชุ่มโชกไปทั้งแผงอก ขณะที่เจ้าตัวอุทานเสียงไม่เบาเลย เรียกสายตา
ของแขกเหรื่อจำนวนมากให้หันตาม ปราชญ์สบถเสียงดัง ปาก้านแก้วที่ยังเหลือคามือซึ่ง
ถูกบาดเลือดไหลทิ้ง ก่อนก้าวออกไปจากห้องไม่เหลียวหลัง ความโกลาหลอย่างย่อยๆ
ได้บังเกิดขึ้น แม้ผู้ร่วมงานจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเสีย แต่ความสงบรื่นรมย์ในงาน
ได้จางหายไปส่วนหนึ่ง สรานนท์แตะศอกอรดีไว้คล้ายรั้งมิให้เจ้าหล่อนตามคู่หมั้นออกไป
ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมตามใจเขาจนใครต่อใครยิ่งมองมาเป็นจุดเดียว
เพลงพิณรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแปลกๆ จนต้องละสายตา หญิงสาวก้าวผ่านประตูกระจก
ออกไปยังระเบียงเบื้องนอกเพื่อผ่อนคลาย ลมเย็นจากสวนล่างที่เชื่อมกับทะเลสาบลูกย่อมๆ
ของโรงแรมโชยแผ่วปะทะผิวหน้า หญิงสาวคว้าเครื่องดื่มจากบริกรมาจิบพลางถอนใจเฮือกใหญ่
เธอคิดไปเองหรือไรกับภาพที่แก้วไวน์มันเกิดจะระเบิดขึ้นมาแรงเพียงนั้น แต่สรานนท์กับอรดี
กลับไม่มีร่องรอยความเปรอะเปื้อน เหมือนกับหยาดหยดแดงๆ ของไวน์กระจายถูกผู้ถือแก้ว
เพียงลำพังเท่านั้น
บนระเบียงยังมีคนออกมายืนสนทนากันประปราย โดยผู้เป็นเป้าหมายมิทันรู้สึกตัว
เงาร่างหนึ่งตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ลำพังในเงามืด
เสียงห้าวทุ้มเอ่ยปลุกเพลงพิณจากภวังค์ความคิด
“หาตัวเจอจนได้นะน้องเพลง”
“คุณธิติ” เพลงพิณอุทาน... ลืมไปเสียสนิทว่าเขาเองก็มางานนี้ด้วยเพราะมัวแต่สนใจพี่นนท์
“ไหนว่าเจอกันที่งานไง ไม่คิดจะมองหาพี่บ้างเหรอครับ”
สุ่มเสียงนั้นมีร่องรอยประชดอยู่ในความเย็นชา คืนนี้เขาดูดีมีมาดในชุดสูทสีดำเหลือบกรมท่า
เพิ่งสังเกตว่าช่วงนี้ธิติเองก็ดูจะขาวขึ้น เขาอาจดูแลตัวเอง อาบน้ำแร่แช่น้ำนมมาหรือไง
เพลงพิณก็ไม่อยากสนใจ แต่ตอนนี้ในมือชายหนุ่มมีเครื่องดื่มเย็นเฉียบสองแก้ว
เห็นได้ชัดว่าหยิบมาเผื่อเธอ เมื่อเขายื่นให้เพลงพิณแก้วหนึ่งหญิงสาวมิได้ปฏิเสธ
เธอวางแก้วเดิมที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะนั่งเล่นแถวนั้น รับแก้วใหม่มาจิบในทันทีด้วยอยากจะ
สงบอารมณ์ฟุ้งซ่านจากสถานการณ์ประหลาดในห้องโถงเมื่อครู่ลงให้สนิท
ธิติชวนเพลงพิณชนแก้วและสนทนากันถึงเรื่องสัพเพเหระในงานเลี้ยงและที่ทำงาน
ไม่ได้เฉียดใกล้ไปถึงเรื่องสรานนท์ กว่าจะรู้ตัวเขาก็พาเธอเดินลงจากระเบียงลงมา
ในสวนที่จัดไว้สวย เสียงดนตรีคลอแผ่ว เพลงพิณรู้สึกวิงเวียนจึงนั่งแปะลงริมขอบน้ำพุ
พาให้ธิตินั่งลงตาม หญิงสาววางแก้วว่างเปล่าลงข้างกาย รู้สึกร้อนซู่ขึ้นในกระแสเลือด
อย่างประหลาด
มิได้สังเกตเห็นสายตาพราวด้วยแววบางอย่างที่ทอดมองมาจากชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
“อีกเดี๋ยวเพลงจะกลับแล้วค่ะคุณธิติ ไม่อยากอยู่ดึกมาก” หญิงสาวพึมพำ
“พี่ไปส่งเอง ให้พี่ดูแลเพลงนะครับคืนนี้...”
“แต่ว่าเพลงมากับพี่นนท์ เขาขับรถเพลงมา” หญิงสาวโพล่งออกไป
ธิติคล้ายคอแข็งขึ้นจากท่าทาง แต่เพลงพิณไม่เห็นสีหน้าของเขาที่ดูเป็นเงามืด ณ บรรยากาศตรงนั้น
น้ำพุไหลพุ่งซ่าๆ ประกายเป็นฝอยต้องกับแสงจันทร์ กับเดือนดาว และไฟโคมน้อยที่จัดไว้ในสวน
ละอองไอน้ำปะปนมากับสายลมแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยให้เพลงพิณผ่อนคลายลงจากความรู้สึกแปลกๆ
ที่ทวีขึ้นในกายทุกทีๆ
“พี่จัดการได้ ไอ้นนท์มันเคยยอมพี่มาตลอด เพลงกลัวอะไร มากับมันแต่กลับกับพี่ก็ได้
เรื่องรถก็ให้มันดูไป ไม่เห็นสำคัญ”
เพลงพิณหลุดหัวเราะบางเบา ไม่คิดว่าวันนี้ผู้ชายชื่อสรานนท์จะยอมให้ธิติอย่างที่แล้วมา
แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อมือหนาของธิติก็เอื้อมมาสัมผัสแขนพาให้ขนลุกซู่
ยังไม่ทันปฏิเสธมืออีกข้างที่แข็งแรงพอกันก็จับแขนอีกข้างของเพลงพิณไว้แน่น
แต่ก่อนที่อะไรจะเกิดต่อจากนั้น...เสียงเย็นๆ ก็ดังแทรกอารมณ์รินๆ ของน้ำพุขึ้นมา
“ปล่อยเพลงพิณ...”
แม้จะอยู่ในสภาวะมึนงงเพียงใดหญิงสาวก็จำเสียงของพี่นนท์ได้ดี
ถึงวิธีการพูดของเขาจะต่างออกไปจากคนเดิม แต่เวลานี้เธอรู้สึกดีใจที่มันเป็นแบบนั้น
เพราะพี่นนท์คนเก่าคงไม่สามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้านี้ได้ง่ายดายนัก
ธิติสะดุดกึก หญิงสาวสัมผัสได้ว่าร่างทะมึนที่ขวางกลางระหว่างเธอกับพี่นนท์ไว้เริ่มหอบหายใจแรง
คล้ายถูกบีบคั้นจากภายใน เขาค่อยๆ คลายมือจากแขนบอบบางของหญิงสาวโดยไม่มีคำโต้แย้ง
ก่อนหันหลังกลับ เดินทื่อจากไปเงียบๆ จนน่าระหลาดใจ
“พี่นนท์” เพลงพิณยิ้มกับใบหน้าของคนที่เธอวางใจ เขาแทรกเข้ามาได้จังหวะพอดี ก่อนที่ธิติจะ...
หญิงสาวก้าวไปหาสรานนท์ อยากขอให้เขาช่วยเธอจากความรู้สึกสั่นพร่าที่ปะทุจากภายใน
มากขึ้นทุกทีๆ ในเครื่องดื่มของธิติมีอะไรบางอย่างผสมอยู่ เพลงพิณทรุดฮวบ
ขณะที่อ้อมแขนแข็งแรงทว่าเย็นเยียบประคองร่างแบบบางไว้ทันท่วงที
“เพลง ถึงบ้านแล้ว... ตื่นเถอะ...” สรานนท์ประคองเพลงพิณที่ตัวอ่อนปวกเปียก
ออกมาจากประตูที่นั่งข้างคนขับ คว้ากระเป๋าถือของเธอมาคล้องเข้ากับไหล่ตนเอง
เมื่อต้องใช้ทั้งสองมือประคองหญิงสาวที่ยังครางอ้อแอ้ไม่ได้ศัพท์ ตัวร้อนราวจับไข้
อันที่จริงวันนี้ การที่เขามาปรากฏตัวยังบ้านของเพลงพิณชวนเธอไปด้วยกัน
ประการแรกก็แค่เพื่อมอบของขวัญบางอย่างให้ เธอคงได้เปิดถุงนั้นดูในวันหลัง
และอีกประการ...ตัวเขาคนเดิมที่ยังแอบแฝงอยู่ส่วนไหนสักส่วนในจิตใจต้องการเธอไปเป็นกำลังใจ
ในการเผชิญหน้ากับอรดีซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของเขา แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร และตอนนี้
ความรู้สึกอ่อนไหวจะยังไม่แสดงตัวตนออกมาแม้นสักน้อย แต่สรานนท์ยังต้องการใครสักคน
ที่จะยืนอยู่เคียงข้าง
ไม่ว่าสิ่งที่เขาเป็น... สิ่งที่เขาทำ... จะถูก หรือว่าผิด
ชายหนุ่มมองขึ้นไปยังเงาของบ้านหลังทะมึน มันไม่ได้โอฬารจนเรียกได้ว่าคฤหาสน์
แต่ก็นับว่าใหญ่โตสมฐานะเจ้าสัวพิริยะ เหล่าคนที่มาดูแลบ้านกลับไปหมดแล้วตั้งแต่ค่ำ
อากงของเพลงพิณเก็บตัวเงียบมาหลายปี ไม่สุงสิงกับใครราวไม่มีตัวตนอยู่ในบ้าน
ยามนี้ก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของอีกฝ่าย
ร่างอบอุ่นเนียนนุ่มเบียดชิดเข้ามา ชายหนุ่มก้มลงมองร่างในอ้อมแขน
เสื้อคลุมบางพลิ้วของเจ้าตัวยุ่งในอ้อนแขนเขาไหลตกลงมาอยู่ที่ต้นแขน
เผยช่วงไหล่นวลเนียนอย่างไม่ตั้งใจ สรานนท์หน้าร้อนวูบกับภาพดังกล่าว
พยายามเสมองไปทางอื่น กับผู้หญิงอื่นมันก็เท่านั้น แต่เพลงพิณเป็นน้อง
จริงอยู่ที่ตอนนี้เขาเองเปลี่ยนไปมาก ด้วย ‘มรดก’ ที่ค้นพบจากการชักนำในบันทึกของปู่
จนสามารถปลดปล่อยอะไรบางอย่างข้างในออกมา ตัวตนที่ซ่อนอยู่ แน่ใจได้ว่านั่นคือตัวเขาเอง
หาใช่อำนาจอื่นใดที่แฝงมาในร่าง เพียงแต่เขาได้รับพลังที่จะปลดปล่อยตัวตนนั้นออกมา
กับความสามารถแปลกประหลาดอย่างสิ่งมีชีวิตเร้นลับในป่า จนให้นึกลำพองในอก
กับความรู้สึกใหม่สดที่กำลังเปลี่ยนชีวิตและตัวตนเดิมๆ ไปจนยากจะหยุดยั้ง
เหมือนศรที่พุ่งออกจากแล่งด้วยความเร็วถึงที่สุด แต่ในความเข้มแข็งที่ฉาบอยู่
สรานนท์รู้ว่าเขายังมีความอ่อนแออยู่ลึกๆ ความไร้เดียงสาที่จะไม่กล้าลงมือทำบางอย่าง
อันขัดกับมโนสำนึกที่ตัวเขาเองในอดีตเคยยึดติดอย่างแน่นเหนียว อย่างเช่น ในเรื่องของเธอ
...ตั้งแต่เพลงพิณอายุสิบสี่สิบห้า
เขาก็รู้สึกได้ว่าใครหลายคนมองเด็กสาวต่างออกไปจากเดิม
รวมถึงธิติ สรานนท์คิดตำหนิเพื่อนในใจรุนแรง
ทว่าในใจส่วนลึก เขารู้ ตนเองก็อยากจะชอบเธอเช่นกันในเวลานั้น แต่เขาก็ไม่กล้า
แม้แต่จะคิดกับเด็กที่เขาเห็นเป็นน้องสาวมาตลอดเกินเลยไปกว่าที่เคย ความหวั่นไหวนั้น
ยังติดลึกในใจทั้งที่สรานนท์อยากจะลืมมันไป
แต่ตอนนี้เขาจะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ ?
ไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่เคยเก็บกดความต้องการไว้แต่เพียงในใจตนอีกแล้ว
[ถ้าชอบก็อย่าลืมไลค์นะค้า ^0^ ]

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ค. 2555, 08:12:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 07:30:07 น.
จำนวนการเข้าชม : 1662
<< บทที่ ๒ ล้างรอยจำ(ตอนแรก) | บทที่ ๒ ล้างรอยจำ(ต่อ-จบบท) >> |

patok 20 ก.ค. 2555, 08:23:38 น.
มาแต่เช้าเลย
มาแต่เช้าเลย


sai 20 ก.ค. 2555, 09:07:01 น.
อ้าวววๆๆๆ ยังไงเอย พี่นนท์
อ้าวววๆๆๆ ยังไงเอย พี่นนท์



ฮอบบิท 20 ก.ค. 2555, 10:59:56 น.
เห็นพี่นนท์เปลี่ยนไปขนาดนี้ อยากไปชุบตัวในบ่อพรายบ้างแล้วละ
เห็นพี่นนท์เปลี่ยนไปขนาดนี้ อยากไปชุบตัวในบ่อพรายบ้างแล้วละ

SunSeed 20 ก.ค. 2555, 11:13:32 น.
พี่นนท์ จะไหวมั๊ยเนี่ย หึหึหึ
พี่นนท์ จะไหวมั๊ยเนี่ย หึหึหึ

pattisa 20 ก.ค. 2555, 11:24:53 น.
พัฐิสาค่ะ สะกดประหลาดแบบนี้แหละค่ะ
ไม่่ใช่ว่านายธิติก็ไปเจอบ่อพรายมานะ เพราะดูลึกลับขึ้นเหมือนกัน
พัฐิสาค่ะ สะกดประหลาดแบบนี้แหละค่ะ


อสิตา 20 ก.ค. 2555, 11:33:09 น.
^
^
แล้วเค้าเอาธ.ธงมาจากไหนอะ หน้าแตกอีก คราวนี้ไม่ลืมแน่ละ 555
แหม ตัวร้ายเรื่องนี้ก็ต้องไม่ธรรมดานะ แต่ไม่ธรรมดาแบบไหนยังไม่บอก...
^
^

แหม ตัวร้ายเรื่องนี้ก็ต้องไม่ธรรมดานะ แต่ไม่ธรรมดาแบบไหนยังไม่บอก...


หมูอ้วน 20 ก.ค. 2555, 13:34:04 น.
เชียร์พี่นนท์ให้บอกรักหนูเพลงค่าาา อย่าช้านะ
เชียร์พี่นนท์ให้บอกรักหนูเพลงค่าาา อย่าช้านะ

goldensun 20 ก.ค. 2555, 18:01:37 น.
เพลงโดนวางยาซะแล้ว ดีที่นนท์มาช่วยทัน
กลับมาคราวนี้ มั่นใจขึ้น เข้มแข็งขึ้น มีพลังจิตด้วย
เพลงโดนวางยาซะแล้ว ดีที่นนท์มาช่วยทัน
กลับมาคราวนี้ มั่นใจขึ้น เข้มแข็งขึ้น มีพลังจิตด้วย

Zephyr 20 ก.ค. 2555, 18:33:26 น.
เอ๊ อาเฮียก็หลงรักหนูเพลงเหรอ บอกรักซี่ ง่ายๆเลยสำหรับตัวตนใหม่น่ะ อ่านแล้วงงๆนะมะม้า
แต่อ่านซ้ำแล้วเข้าใจขึ้นนะ อิอิ หรือเฟอร์จะงงคนเดียว เพราะอ้านข้าม ฮ่าๆ ก๊งเองแหละ
ว่าแต่พี่นนท์ไปได้อำนาจอะไรมานะ ถึงสั่งคนอื่นให้ทำตามได้น่ะ
เอ๊ อาเฮียก็หลงรักหนูเพลงเหรอ บอกรักซี่ ง่ายๆเลยสำหรับตัวตนใหม่น่ะ อ่านแล้วงงๆนะมะม้า
แต่อ่านซ้ำแล้วเข้าใจขึ้นนะ อิอิ หรือเฟอร์จะงงคนเดียว เพราะอ้านข้าม ฮ่าๆ ก๊งเองแหละ
ว่าแต่พี่นนท์ไปได้อำนาจอะไรมานะ ถึงสั่งคนอื่นให้ทำตามได้น่ะ

lovemuay 20 ก.ค. 2555, 20:52:59 น.
นั่นสิพี่นนท์ รุกเลย คริคริ
ว่าแต่นางเอกโชคดีนะเนี่ยที่พี่นนท์เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไปคนเดิมจะช่วยนางเอกได้รึป่าวก็ไม่รู้
นั่นสิพี่นนท์ รุกเลย คริคริ
ว่าแต่นางเอกโชคดีนะเนี่ยที่พี่นนท์เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไปคนเดิมจะช่วยนางเอกได้รึป่าวก็ไม่รู้

ฮอบบิท 21 ก.ค. 2555, 10:45:25 น.
ไหนๆ พี่นนท์ก็ชุบตัวในบ่อพรายแล้ว น่าจะเอาน้ำมันพรายกลับมาด้วย อะไรๆ จะได้ง่ายขึ้น
ไหนๆ พี่นนท์ก็ชุบตัวในบ่อพรายแล้ว น่าจะเอาน้ำมันพรายกลับมาด้วย อะไรๆ จะได้ง่ายขึ้น

zilvermoon 21 ก.ค. 2555, 12:17:52 น.
555 แอบชอบเม้นท์ข้างบนของคุณฮอบบิท ถ้าพี่นนท์มีน้ำมันพรายเอามาแบ่งด้วยน้า..
อุเหม่ นายธิติกล้าพูดเนอะ "ไอ้นนท์มันเคยยอมพี่มาตลอด" ขอก้านคอหนักๆ สักห้าหกที
ว่าแต่พี่นนท์ตอนหน้าจะทำไรค้า
555 แอบชอบเม้นท์ข้างบนของคุณฮอบบิท ถ้าพี่นนท์มีน้ำมันพรายเอามาแบ่งด้วยน้า..

อุเหม่ นายธิติกล้าพูดเนอะ "ไอ้นนท์มันเคยยอมพี่มาตลอด" ขอก้านคอหนักๆ สักห้าหกที
ว่าแต่พี่นนท์ตอนหน้าจะทำไรค้า


Auuuu 21 ก.ค. 2555, 23:54:32 น.
ทำไมนายธิติกลัวเลยล่ะะะ อะไรกันนนน
ทำไมนายธิติกลัวเลยล่ะะะ อะไรกันนนน

shadha 28 ก.ค. 2555, 22:06:13 น.
ตาพี่นนท์ทำท่าจะเกเรซะแระ
ตาพี่นนท์ทำท่าจะเกเรซะแระ