กับดักใจ...ซาตานยอดรัก
เขา...ที่ตกหลุมรักเพื่อนน้องสาวที่ห่างจากเขา 15 ปี จะทำยังไงหากไม่วางกับดักให้เธอติดบ่วงเขา
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
Tags: พี่ใหญ่

ตอน: ตอนที่ 24

ตอนที่ 24

ห้องรับแขกบ้านไชยสกุล เหมวัฒน์ออกมารับหญิงสาวที่เขาเอ่ยปากขอร้องให้เธอไปเป็นเพื่อนเขาแทนที่จะชวนสาวๆ ของเขาให้ไปด้วยกัน แต่เขากลับอยากให้เธอมากกว่าที่ไปด้วยกัน ชายหนุ่มอาสาจะมารับเธอตอน 5 โมงเย็นเพราะว่าเครื่องจะลงในช่วงเย็น เผื่อเวลาด้วย ตอนนี้เขาก็มานั่งรอเธอแล้วด้วย หลังจากที่เจอเด็กรับใช้บอกเขาว่าเธอบอกว่าขอเวลาอีก 10 นาที เพราะว่าเธอไม่คิดว่าเขาจะมาเร็วกว่าเวลาอย่างนี้

เหมวัฒน์มองไปรอบๆ ห้องเขาก็เห็นในนี้มีรูปถ่ายมากมายของทั้งสามคนไม่ว่าจะรูปทั้งครอบครัวและรูปเดี่ยวแสดงว่าพวกเธอทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ คงไม่ห่างเหินกันอย่างแน่นอน

เขาเดินไปหยุดที่หน้ารูปต่างๆ และหยุดสายตาเอาไว้ที่คนที่เขามารับวันนี้เธออยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามเหมือนอยู่บ้านและกำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน คงจะเป็นวันพักผ่อนสบายๆ ของเธอนั่นละ อาจจะเพราะหน้าที่การงานทำให้เธอต้องโตกว่าอายุและมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่มากทีเดียว

เหมวัฒน์เอามือหยิบรูปนั้นมาพิศดูอย่างชอบใจเพราะดูท่าแล้วเธอคงกำลังเล่นสนุกอยู่กับใครซักคนแน่เลย ก่อนเขาจะหันไปมองตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นด้านหลังเขา

“พี่สองคะ...เพชรขอโทษนะคะที่สายไม่คิดว่าพี่จะมาเร็วอย่างนี้น่ะค่ะ” เพชรไพลินที่รีบแต่งตัวหลังจากที่เด็กขึ้นไปบอกว่าเหมวัฒน์มารอเธอแล้ว ทำให้เธอต้องให้เด็กลงไปบอกเขาว่าขอเวลาอีกหน่อยเธอยังแต่งตัวไม่เสร็จเลย ก็เขามาเร็วกว่าเวลานี่นา

“หึๆ ไม่เป็นไรครับพี่มาเร็วเอง...” เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แล้วพิศมองการแต่งตัวของเธอที่อยู่ในกางเกงขาสั้นสีส้มและเสื้อผ้าชีฟองสายเดี่ยวสีชมพูอ่อน ทับด้วยเสื้อคลุมสีขาวอีกชั้น ปกติเขาเห็นว่าเธอดูมั่นใจกว่านี้

“อิๆ ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ...เราไปเจอเด็กนี่คะต้องทำให้เด็กประทับใจหน่อยค่ะ” เธอหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางของเขาที่มีคำถามอยู่ในแววตา เธอเองก็พิจารณาการแต่งตัวของเขาเหมือนกันวันนี้เขาอยู่ในชุดเสื้อโปโลสีครีม และกางเกงสแลคสีเทาทำให้วันนี้ชายหนุ่มดูสบายๆ ผ่อนคลายอย่างมาก

“อ๋อ..ครับ” เหมวัฒน์พยักหน้ารับรู้ พลางคิดว่าเธอเองก็รอบคอบนะเนี่ย...

“เราไปกันเลยมั้ยคะเครื่องน้องเขาลงตอนกี่โมงกันคะ?” เธอลืมถามเรื่องสำคัญเสียสนิทเกิดเครื่องมาเร็วกว่าที่เธอคิดละ

“น่าจะซัก 6 โมงนะเราไปกันเถอะ...อ้อ..พี่บอกรึยังว่าวันนี้เพชรสวยมาก” เขายิ้มให้เธอน้อยๆ กับท่าทีขัดเขินของเธอหลังจากที่เขาเอ่ยจบไป ขัดกับบุคลิกเปรี้ยวของเธออย่างสิ้นเชิง

“อุ้ย! พี่สองมาล้อเพชรเล่น...แต่เพชรก็ขอบคุณนะคะ” เธอเดินนำเขาออกจากบ้านไปแล้วหยุดที่หน้ารถของเขา

“หึๆ ไม่ได้ล้อพี่ว่าเพชรสวยจริงๆ นะ...แปลกนะคนสวยอย่างเพชรไม่มีแฟนจริงๆ น่ะ” อดที่จะถามเธออย่างแปลกใจไม่ได้ ผู้หญิงหน้าตาสะสวย รูปร่างดี แต่งตัวดี การศึกษาดีอย่างเธอกลับเป็นโสดไม่มีคนรักได้อย่างไร เขาเห็นแต่มีหนุ่มๆ อยากจะได้เธอเป็นแฟนทั้งนั้น

“อิๆ สงสัยเพชรจะโดนสาปค่ะ...ผู้ชายเขาคงกลัวว่าจะโดนเพชรข่มมั้งคะ?” เธอได้แต่ไหวไหล่น้อยๆ อย่างไม่ใส่ใจมากนัก เธอเองก็ไม่ได้เห็นว่าเรื่องการมีคนรักเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ใช่ว่าการมีแฟนแล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้นเสียหน่อย...อย่างมากก็คงทำให้สุขหรือทุกข์มากขึ้นละมั้ง?

“พี่ว่าคงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกมั้ง..เพราะเพชรปิดตัวเองรึเปล่า...” ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกตว่าเธอไม่ค่อยจะคุยล้อเล่นกับคนอื่นที่เธอไม่รู้จักสนิทสนมด้วย เธอค่อนข้างวางตัวดีอยู่ไม่น้อย ผิดกับสาวๆ สมัยนี้ที่ดูเป็นมิตรมากเกินไป

“เพชรว่าไม่นะคะ..แต่ว่าผู้ชายอาจจะมองต่างไปก็ได้ค่ะ..แล้วก็เพชรไม่อยากได้แฟนที่เจ้าชู้และไม่ทันเพชรค่ะ” เธอบอกตามตรง แม้จะไม่เคยมีคนรักอย่างจริงจังเลย แต่เธอเองก็มีสเปคอยู่ในใจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องหล่อหรือรวยมาก แต่ขอแค่ขยันทำงานก็พอแล้ว คนเราสามารถสร้างตัวเองจากศูนย์ได้มีเยอะไป และความขยันก็จะทำให้คนเราไม่อดตาย

“พี่ว่ายากนะ...ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนแหละ..เพชรไม่เคยได้ยินเหรอที่เขาว่า..ผู้ชายไม่เจ้าชู้เหมือนงูไม่มีพิษน่ะ?...ส่วนใหญ่มันก็มีอยู่ด้วยกันทุกคนแหละ..เว้นเสียแต่ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ชายแท้” เหมวัฒน์สบายใจที่จะพูดคุยกับเธออย่างนี้ ดูเธอไม่ใช่คนที่เข้าหายากนักหรอก...อย่างตอนนี้เขาก็เห็นว่าเธอมีความคิดดีทีเดียว ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยอย่างที่หลายครอบครัวที่ต้องการให้เงินต่อเงิน ต้องแต่งกับคนรวยเท่านั้นเขาก็เจอมาเยอะ..หรือสาวๆ ที่หวังรวยทางลัดเอาตัวเข้าแลกและจับผู้ชายรวยๆ เพื่อตัวเองจะได้สบาย

“เพชรไม่ถียงหรอกค่ะเรื่องนั้นแต่การที่ผู้ชายคนนั้นจะมาเป็นคนรักของเพชรหรือผู้หญิงคนไหนก็ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจไม่ใช่เหรอคะ..อย่าเอาเรื่องอะไรมาเป็นข้ออ้าง..หากว่าหมดรักกันแล้วก็เท่านั้นผู้ชายมักจะหาข้ออ้างให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกทั้งที่การที่ตัวเองมีคนอื่นทั้งๆ ที่คบกับเราอยู่น่ะแหละผิด..ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะบกพร่องแค่ไหน..เขาก็ควรจะหันหน้ามาคุยกันหรือไม่ไหวแล้วก็เลิกกันไปก่อน..นั่นแหละถึงจะเรียกว่าไม่ผิดเพชรคิดอย่างนั้นจริงๆ นะคะ” เธอไม่เห็นด้วยกับข้ออ้างที่ผู้ชายยกขึ้นมาอ้างหลังจากที่โดนจับได้ว่าเขาแอบมีใครอีกคน..ผมเหงาคุณไม่มีเวลาให้ผมเลย อย่างนี้เป็นต้นตอนแรกก็ดูเข้าใจดีแล้วจะมาอ้างอะไรตอนี้แทนที่จะคุยกันซิหรือไม่ก็ขอเลิกไปเลยจะได้ไม่ต้องเจ็บยาวเหมือนที่หลายคนเป็น

“เรื่องนั้นพี่ไม่เถียงหรอก..คนเราต่างความคิดกันนะ...” เหมวัฒน์เองก็เห็นด้วยกับเธออยู่มากหากไม่มีใจต่อกันแล้ว..จะทนอยู่ทำไมสู้บอกเลิกกันไปซะก็คงจะดีกว่า...ไม่อยากนั้นก็คงเจ็บทั้งสองฝ่าย เขาไม่ได้ว่าฝ่ายไหนผิดฝ่ายไหถูกเมื่อถึงเวลาที่คงวามรักไม่เหลืออะไรแล้ว

“ค่ะ..เฮ้อ...เพชรว่าเราคุยเรื่องอื่นกันดีกว่าค่ะ..น้องอะไรนะคะลูกสาวพี่สองน่ะค่ะ” เธอจำไม่ได้ว่าเขาบอกชื่อเธอไปหรือยัง

“เธอชื่อแองจี้ครับ..ลูกสาวของพี่นี่ไงครับรูปเธอ” เขาหยิบรูปถ่ายที่เขาเพิ่งได้มาหลังจากที่ได้รับข่าวจากแม่ของหนูน้อยว่าจะส่งลูกสาวคืนมาให้เขาและยอมเซ็นสิทธิ์เลี้ยงดูแองจี้ให้เขาแต่เพียงผู้เดียวและเธอไม่มีสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น

“ว้าว! น่ารักสมชื่อเลยค่ะ...แล้วแม่น้องเขามาด้วยรึเปล่าคะ?” เพชรไพลินเองก็ไม่แน่จากว่าแม่หนูน้อยมาด้วยจะเข้าใจชายหนุ่มผิดรึเปล่า แล้วเอาลูกคืนไปละ

“ไม่หรอกครับ..รายนั้นแค่ส่งลูกให้พ้นๆ ตัวเองได้คงดีใจสุดๆ เลยละเขากำลังจะแต่งงานใหม่..แต่ครั้งที่เท่าไหร่ผมไม่รู้หรอกนะ...พี่ห่วงแต่ลูกสาวเท่านั้นแหละกว่าเขาจะยอมส่งลูกคืนมาพี่ก็ต้องพยายามอย่างมากเลยละ อย่างน้อยๆ ให้แองจี้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวทางนี้น่าจะมีความสุขมากกว่า” บอกพลางคิดถึงลูกสาวที่เขาเพิ่งจะมีโอกาสได้เลี้ยงดูอุ้มชูเป็นครั้งแรก

“เหรอคะน่าสงสารน้องแองจี้นะคะ...” เธอเองก็เป็นเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันรู้เลยว่ามันเป็นยังไง ตอนเธอยังโตกว่านี้มากหรืออาจจะพอๆ กัน เธอรู้สึกว่าเป็นเพราะตัวเองที่ทำให้พ่อแม่ต้องแยกจากกัน

“พี่เองก็ไม่รู้จะทำยังไงตลอดเวลาหลายปีพี่พยายามทำให้เขาคืนลูกมาให้พี่หลังจากที่รู้ว่าเขาแต่งงานใหม่ แต่ดูเหมือนว่าเขายังทรมานพี่ไม่พอน่ะเลยไม่ยอมคืนแองจี้มาให้พี่เสียทีจนตอนนี้...” ทุกครั้งที่เขารู้ว่าเธอแต่งงานกับสามีคนใหม่เขาจะติดต่อไปเพื่อขอรับลูกสาวของเขากลับมา แต่ดูเหมือนว่าเธอยังอยากจะทำให้เขาทรมานเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เธอรู้ว่าเขารักลูก แต่ไม่ได้รักเธอเลยนั่นแหละเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสามารถเอาคืนเขาได้

“ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ...เพชรเชื่อว่าแองจี้เขาจะต้องรักพี่สองมากแน่นอนเลยค่ะ...ไม่แน่นะคะว่าคราวนี้แองจี้อาจจะมีความสุขที่ได้อยู่ในครอบครัวของแกจริงๆ เสียที ต่อไปพี่สองก็จะไม่มีเวลาไปไหนกับสาวๆ แล้วนะคะ...อิๆ จะทนได้มั้ยเนี่ยสาวๆ ของพี่สองจะไม่วีนเอาเหรอคะที่ไม่มีเวลาให้พวกเขาน่ะค่ะ” เธอเอ่ยติดตลกเธอรู้ว่าเขามีคู่ควงหลายคน แต่การจะเลี้ยงเด็กซักคนจะต้องมีเวลาให้เขาพอควรในช่วงปรับตัวไม่งั้นเด็กจะไม่ชินแล้วปรับตัวได้ยาก

“หึๆ ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนซิ..พี่ไม่ได้รั้งใครเอาไว้นี่นา..ตอนนี้ลูกสาวพี่เป็นความสำคัญอันดับแรกเลยทีเดียว คนอื่นไม่สำคัญหรอก...” เหมวัฒน์บอกอย่างไม่แยแส ตอนนี้เขามุ่งความสนใจที่ลูกสาวคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญแล้ว ไหนจะเรื่องเข้าโรงเรียนอีกเฮ้อ...

“สงสารพวกเธอนะคะบางทีพวกเขาอาจจะรักพี่สองจริงๆ ก็ได้?” เธอแย้งอย่างไม่เห็นด้วย แม้ว่าบางครั้งคนที่เข้าหาเขาอาจจะมีเรื่องของเงินตราเข้ามาเกี่ยวแต่พวกเธออาจจะรักเขาจริงๆ ก็ได้...และอาจจะรักลูกสาวของเขาด้วยก็ได้นะ

“ไม่หรอกพวกเขาแค่อยากจะได้เงินพี่เท่านั้นละ...ถ้าพี่จะมีใครซักคนละก็...เขาต้องรักลูกพี่ด้วยจริงๆ และลูกสาวพี่รักคนๆ นั้นด้วย” บอกตามความจริง การที่เขาจะมีใครใหม่นั่นหมายถึงว่าไม่ใช่แค่เขารักคนเดียวลูกเขาต้องรักเธอคนนั้นด้วย

“ก็จริงค่ะ..เพราะถ้าเขาไม่รักน้องแองจี้ก็น่าสงสารเด็กค่ะเพราะจะเกิดการเปรียบเทียบระหว่างความรักของตัวเองจากพ่อและผู้หญิงคนใหม่ที่จะเข้ามามีส่วนในชีวิต ถ้าเจอคนดีก็ดีไปนะคะ” เพชรไพลินเองก็เห็นด้วยเรื่องที่เขาบอกมา
“หึๆ สงสัยว่าชาตินี้พี่จะต้องอยู่เป็นโสดแน่เลย” เหมวัฒน์ได้แต่บอกอย่างปลงๆ เพราะจะให้ผู้หญิงที่ไหนมารักลูกคนอื่นเหมือนลูกตัวเอง แรกๆ ก็คงรับได้แต่นานไปละจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวเขาไม่รู้ได้เลย

“อย่าเพิ่งคิดมากซิคะ..เรื่องอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พี่สองคิดก็ได้ค่ะ...สวรรค์คงไม่สร้างให้พี่ต้องอยู่เป็นโสด ทั้งๆ ที่ทำให้พี่มีพร้อมขนาดนี้หรอกค่ะ” เธอเอ่ยติดตลกเพราะเธอไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะไม่มีคู่แท้หรอก อาจจะยังไม่เจอก็เลยดูเหมือนห่างไกลหรือเขาอาจจะเจอเธอคนนั้นแล้วแต่ว่าเขายังไม่รู้ตัว

“พี่ไม่อยากคาดหวังอะไรหรอก...เอาเป็นว่าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็น่าจะพอแล้วนะ...” ตอนนี้คิดอะไรมากไปเขานั่นละจะปวดหัวเสียเปล่าๆ

“ดีค่ะ..เพชรว่าเราไปกันเถอะค่ะ...เดี๋ยวน้องแองจี้จะรอนะคะเกิดลงเครื่องแล้วไม่เจอใครมารับแกเลย” เพชรไพลินบอกพลางคืนรูปถ่ายหนูน้อยที่เธอติดใจเพียงแค่เห็นรูปถ่ายเท่านั้น ชักอยากจะเจอตัวจริงเสียแล้วซิว่าจะน่ารักแค่ไหน...เห็นลูกคนอื่นน่ารักอย่างนี้ชักอยากมีบ้างแล้วซิ...แต่เฮ้อ...มันคงเป็นเรื่องไกลตัวเธอเสียเหลือเกินนี่นา แฟนยังไม่มีเลย...ฮือ..เรื่องมันเศร้า...

เหมวัฒน์ได้แต่อมยิ้มน้อยๆ กับท่าทางของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะพุ่งความสนใจไปที่เกทขาเข้าเสียมากกว่า คงกลัวว่าจะไม่เห็นหนูน้อยที่มารับวันนี้ และตอนนี้เขาก็มองไปทางเข้าเหมือนกัน เพราะว่าเครื่องลงพอดีกับที่พวกเขามาถึงพอดี มีผู้โดยสารเดินออกมาหลายคนแล้ว และพวกเขาก็พยายามมองหาแม่หนูตัวน้อยที่กำลังจะมาเป็นดวงใจเขาจากนี้ไป

“พี่สองคะนั่นรึเปล่าคะ?” เพชรไพลินชี้ไปที่หนูน้อยในชุดแซคสีชมพูผมยาวถักเปียสองข้างอย่างน่ารัก หนูน้อยเดินออกมาพร้อมแอร์โฮสเตสที่พาออกมา

“ไหนครับ...” เหมวัฒน์รีบมองตามทางที่หญิงสาวบอกและเขาก็ต้อยิ้มออกมาอย่างยินดี และวันนี้เขาได้เจอตัวจริงหนูน้อยเสียที “แองจี้!!!” เขาเรียกชื่อลูกสาวเสียงดัง และหนูน้อยก็หันมามองทางเขาทันที และบอกอะไรกับพนักงานสาวสวย แล้วมองมาทางนี้

“แองจี้...พ่ออยู่ทางนี้ค่ะ...” เขาเรียกและเดินออกจากที่กั้นไปหาหนูน้อยที่มาหยุดตรงหน้าเขาพอดี
“คุณพ่อ!!! แองจี้ดีใจที่สุดเลยค่ะ!!!” หนูน้อยโผกอดผู้เป็นพ่ออย่างคิดถึง เธอไม่เคยเจอหน้าพ่อแม้แต่ครั้งเดียว แต่เธอเคยแอบเห็นรูปพ่อแล้วเก็บเอาไว้ และหวังว่าซักครั้งที่เธอจะเป็นที่ต้องการของพ่อของเธอและมารับเธอเสียที ทุกครั้งที่แม่มีแฟนใหม่เธอก็จะต้องไปอยู่กับคนนั้นทีคนนี้ที คราวนี้เธอดีใจมากตอนที่แม่บอกว่าเธอจะต้องมาอยู่ที่เมืองไทยกับพ่อของเธอ

“พ่อก็เหมือนกันค่ะ...ไม่คิดว่าจะได้เจอแองจี้จริงๆ แล้วก็ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้ะ” ชายหนุ่มผละออกจากหนูน้อยนิดหนึ่ง พิจารณาใบหน้าลูกสาวอย่างคิดถึงและรักใคร่ เขาไม่คิดว่าเขาจะรักใครได้อย่างนี้ แต่เพียงแค่เขาได้เจอหน้าหนูน้อยเท่านั้นก็รู้เลยว่าเขาจะรักคนๆ นี้ได้โดยไม่มีเงื่อนไข และจะรักไปตลอด

“แองจี้นึกว่าพ่อไม่ต้องการแองจี้เสียอีกเพราะแม่บอกแองจี้ว่าพ่อไม่ต้องการหนู...” หนูน้อยเอ่ยเสียเครือ เธอได้ยินแม่พูดกรอกหูเธอตลอดเวลาว่าเธอเป็นลูกที่พ่อไม่ต้องการ เพราะถ้าต้องาการเขาคงมารับไปแล้ว...แต่เธอไม่เชื่อว่าพ่อที่ดูท่าทางใจดีอย่างนี้จะไม่ต้องการเธอ

“เหลวไหลพ่อน่ะอยากเจอแองจี้มากนะคะ..แต่ว่าช่างเถอะตอนนี้เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนี่นา...จริงซิพ่อมีคนที่อยากให้แองจี้รู้จักนะคะ...นี่พี่เพชรเป็นเพื่อนพ่อเองจ้ะ” เขาบอกหนูน้อยให้ได้รู้จักคนที่เขาพามาด้วยเพราะไม่รู้ว่าการเจอหน้ากันครั้งแรกกับลูกสาวจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างแต่พอเจออย่างนี้เขาก็โล่งใจหน่อย

“สวัสดีค่ะพี่เพชร..พี่เพชรเป็นแฟนพ่อเหรอคะ?”หนูน้อยถามประสาซื่อไม่ใช่เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงกับผู้ชายจะเป็นแค่เพื่อนกันเพราะแม่เธอก็บอกว่าเพื่อนแต่ก็ให้เธอไปอยู่ที่อื่นทุกที “แล้วแองจี้จะต้องอยู่ที่อื่นหรือเปล่าคะ?”

“สวัสดีจ้ะแองจี้พี่เพชรกับพ่อหนูไม่ได้เป็นแฟนกันจ้ะ...พี่เป็นเพื่อนกับคุณพ่อค่ะ..มารับแองจี้ไงคะ” เพชรไพลินย่อตัวลงมาทักทายหนูน้อยแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เธอรู้สึกสงสารหนูน้อยมากที่ได้ยินเรื่องที่พูดเมื่อครู่แสดงว่าเธอต้องเจออะไรบางอย่างแน่ถึงต้องเอ่ยถามเธอเมื่อครู่

“จริงเหรอคะ!! พ่อจ๋า...” เธอส่งสายตาเป็นคำถามไปให้คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักหลังจากที่ถอยให้หญิงสาวได้ทักทายกับลูกสาว

“ครับ..พี่เพชรเขามาเป็นเพื่อนพ่อ แล้วก็มาเป็นเพื่อนแองจี้ด้วยไงคะ” เขาบอกเสียงอ่อนโยนกับลูกสาว

“ดีจังเลยค่ะ..แองจี้ชอบพี่เพชร พี่เพชรสวย...” เธอเอ่ยออกมาประสาเด็ก เธอดีใจที่ตอนนี้เธอมีพ่อและยังไม่มีใครมาแย่งความรักของพ่อไปจากเธอ และเธอไม่ยอมให้ใครมาแย่งพ่อหรอกเว้นแต่คนที่เธอชอบ

“เอ่อ..เพชรว่าเราไปกันก่อนดีมั้ยคะ เพชรรู้สึกเหมือนว่ามีคนมองมาทางเรายังไงก็ไม่รู้ค่ะ” เธอไม่รู้หรอกว่ามีนักข่าวอยู่แถวนี้รึเปล่า แต่เธอก็ไม่อยากจะเสี่ยงหรอกนะ...

“จริงซิ..แองจี้คะเราไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวพ่อจะพากับบ้านของเรา พ่อทำห้องไว้ให้แองจี้ด้วยนะคะ...แต่ไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเปล่า..ยังไงก็ไปดูแล้วกันนะคะ..จะได้เจอลุงใหญ่แล้วก็อาสามด้วยนะคะ” เขาบอกอย่างมีความสุขพลางอุ้มลูกสาวตัวน้อยแล้วเดินไปที่ลานจอดรถทันที

“จริงเหรอคะ!!! แองจี้จะมีห้องของตัวเองด้วยเหรอคะ!!! แล้วลุงกับอาจะชอบแองจี้มั้ยคะ?” เธอบอกอย่างกังวลเธอกลัวว่าจะเป็นที่รักของทุกคนรึเปล่า เพราะเธอไม่เคยเจอหน้าพ่อและญาติเลย อยู่กับแม่เท่านั้นเธอเลยไม่รู้ว่าตัวเองมีญาติกับเขาด้วยเหมือนกัน

“หึๆ ลุงใหญ่กับอาสามใจดีออกจ้ะ รับรองว่าต้องหลงรักแองจี้แน่นอน ดูอย่างพี่เพชรซิคะ” เขาเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ด้านหลังของตัวรถ และยกที่นั่งด้านหน้าให้พ่อลูกได้คุยกันตามสบาย

“นั่นซิคะ..ลุงใหญ่กับอาสามจะต้องดีใจที่ได้เจอแองจี้แน่ๆ เลยจ้ะ” เพชรไพลินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอเชื่อว่ายังสายเลือดเดียวกันนี่นา

“แล้วก็ลุงใหญ่เป็นคนออกงบค่าห้องหนูด้วยนะคะ...พ่อเป็นคนออกแบบเอง” เขาบอกสิ่งที่หนูน้อยยังไมรู้ แม้พี่ชายเขาจะดูไม่ค่อยอะไรมากนัก แต่ก็เอ่ยปากบอกว่าจะออกค่าห้องหลานเอง

“แองจี้ชักอยากจะเจอลุงใหญ่กับอาสามเร็วๆ แล้วซิคะ”




อักษรจัญจ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ค. 2555, 09:26:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ค. 2555, 09:26:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2404





<< ตอนที่ 23   ตอนที่ 25 >>
สิรินภา 20 ก.ค. 2555, 10:23:46 น.
น่ารักจังคุณสองเนี่ย


Oleang 20 ก.ค. 2555, 10:50:11 น.
น่ารักมาต่ออีกเร็ว ๆ นะคะ


anOO 20 ก.ค. 2555, 13:13:24 น.
แองจี้คงจะมีความสุข จริงๆ จังๆสักที


หมูอ้วน 20 ก.ค. 2555, 13:41:38 น.
หนูแองจี้น่ารักมาก ๆ เลย


ร้อยวจี 20 ก.ค. 2555, 20:44:20 น.
รอๆๆๆๆ สนุกมากค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account