ทิวาเลือน
เรื่องราวของการสืบหาความจริงที่ยังคลุมเครือของการเลิกราของเมฆาและเริ่มทิวาจนนำไปสู่อุบัติเหตุที่คร่าชีวิตฝ่ายหญิง

โดยรวี ที่อยากจะช่วยญาติให้หลุดพ้นความเศร้าโศก ชักชวน อรุณงามญาติฝ่ายหญิงให้มาช่วยกันสืบด้วยความไม่เต็มใจนัก

ยิ่งสืบยิ่งยุ่ง อะไรหนอหรือใครกันที่เป็นสาเหตุอันแท้จริง


Tags: ชิตา ทิวาเลือน รักโรแมนติค

ตอน: ๑๑

เมฆากลับมาขึ้นมาจากกรุงเทพอีกครั้ง เพราะความจำเป็น แต่การกลับบ้านก็คือการกลับสู่นรกอย่างแท้จริงสำหรับเขา

เรือนไม้สักหลังใหญ่ชานเมืองของพ่อเลี้ยงมีแต่เด็กรับใช้อยู่ รวีไปอยู่คอนโด ดังนั้นจึงเหลือเพียงเขา นายเมฆาผู้ที่แผลจากความรักยังสดใหม่ แม้เวลาจะผ่านไปสองปี เขาก็ยังคุมแค้นต่อผู้ใดก็ตามที่บังอาจจะขุดคุ้ยเรื่องราวอันน่าสังเวชของคนรักของเขา โดยเฉพาะไอ้รวี มันสั่งให้สืบเรื่องเริ่มทิวาอีกแล้วจากที่คนของเขาส่งข่าวมา

เริ่มทิวา

สองปีในเมืองจีน ไม่ได้ทำให้รักจาง ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกผิดเบาบาง เขาจึงกลับบ้านไม่ได้จนแล้วจนรอด

“พ่อเลี้ยงเมฆเจ้า จะกินข้าวเลยก่อเจ้า” เสียงเด็กรับใช้ถาม

“ยัง”

“เมื่อกี้ พ่อเลี้ยงเอนกโทรมา ถามว่า เมื่อใดพ่อเลี้ยงเมฆจะลงไปกรุงเทพ”

“ขอบใจ เดี๋ยวฉันโทรบอกลุงเอง”

“ห้องเก่าพ่อเลี้ยงเมฆ ข้าเจ้าจัดให้เรียบร้อยหลายวันแล้ว เมื่อใดพ่อเลี้ยงจะย้ายเข้าไปเจ้า ห้องที่อยู่ตอนนี้คับแคบ บ่สะดวกสบายเลย”

“ฉันอยู่ห้องเดิมดีแล้ว จะไปไหนก็ไป ฉันอยากอยู่คนเดียว” เขาไล่ เด็กรับใช้จึงยอมล่าถอย เพื่อไปซุบซิบกับเพื่อนหรือไม่ก็โทรศัพท์ไปรายงานพ่อเลี้ยงเอนกลุงของเขา

ไม่มีทางที่เขาจะไปพักในห้องนั้นได้อีก ห้องที่ความรักระหว่างเขาและเริ่มทิวาได้เติบโตและผูกพันธ์แน่นแฟ้น ห้องที่เริ่มทิวาได้กลายเป็นของเขาด้วยความเต็มอกเต็มใจ รักมันหลากล้นท่วมหัวอกจนไม่อาจรั้งรอวันวิวาห์ที่ใกล้เข้ามาได้ มันเป็นไปโดยธรรมชาติในคืนหนึ่งเมื่อสองปี
ก่อน ซึ่งเขาจะไม่มีวันลืม

ช่วงเวลานั้นช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนสุข ซึ่งเขาชอบที่ระลึกถึงเพื่อระบายทุกข์ในอกอยู่เสมอ

ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเมฆานั่งแนบชิดกับเริ่มทิวา มือซ้ายโอบกอดหล่อนแนบอก มือขวาก็ไล้ใบหน้านวลเล่น แอบจุมพิตขมับบ้าง แก้มนวลบ้าง ตามแต่อารมณ์รักจะพาไป แหวนเพชรส่งประกายบนมืองาม ประกาศความเป็นเจ้าของผู้หญิงในอ้อมแขน

“อีกสองเดือน อีกสองเดือน” เขาพึมพำเบาๆ

“แหม เมฆคะ นั่งนับวันนับคืนเชียวหรือ”

“เบื่อหรือ”

“เปล่า ทิวาขำต่างหาก สองเดือนเร็วจะตาย แล้วก็จะอยู่ด้วยกันจนเบื่อไปข้าง”

เขาลงโทษด้วยการขโมยจูบไปอีกหนึ่งที


“ผมไม่มีวันเบื่อทิวา อยากให้บอกก็จะบอกอีก ว่าผมทั้งรักทั้งหลงทิวา จะคลั่งตายอยู่แล้ว”
“พูดบ่อยๆ นะคะ ทิวาจะได้ยืนยันกับตัวเองได้ว่า ไม่ได้ฝันไป”

เมฆากระซิบอะไรบางอย่างข้างหู ประมาณว่าจะพิสูจน์ก็ได้ ว่าเริ่มทิวาไม่ได้ฝันไป หญิงสาวหน้าแดงก่ำ

“บ้า”

“ผมรู้น่า ว่าไม่ตกลง ผมจะอดเปรี้ยว ไว้กินหวาน ผมหวังว่า ทิวาคงจะหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัว”

“แล้วถ้าไม่หวานล่ะ” ถามอย่างฉอเลาะ

“ผมก็จะทุบ จะตี เอ้ย จะกอดจะจูบทิวาจนตัวอ่อนระทวยในอ้อมกอดผมยังไงเล่า”

“พูดได้ไม่อายปาก ทิวาอายนะคะ”

“เอ้า ไม่พูดก็ไม่พูด ไปบ้านผมกันดีกว่า ลุงผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องแขกฝ่ายทิวาในงานแต่ง”

“ทำไมหรือคะ ก็ป้าส่งรายชื่อให้แล้วไม่ใช่หรือ”

“ท่านว่า ทำไมมันน้อยไป”

“ญาติพวกเราไม่เยอะหรอกค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อน”

แม้ว่าป้ารุ้งแพงจะไม่เต็มใจอย่างที่สุดให้หลานสาวแต่งงานกับหลานชายพ่อเลี้ยงเอนกเพราะไม่เชื่อใจเมฆาแม้แต่น้อยว่าจะเลิกเจ้าชู้ได้ แต่ในเมื่อห้ามไม่ได้ อย่างน้อยท่านก็จะจัดการงานแต่งของหลานสาวให้สมหน้าสมตา ไม่น้อยหน้าใคร ถึงเป็นเหตุให้ขัดคอกับลุงเจ้าบ่าวอยู่เสมอ

“ผมว่าลุงผมคงชอบที่จะยั่วโมโหป้าคุณ”

“แต่ป้าไม่ชอบไปด้วยแน่ๆ งั้นรีบไปเถอะค่ะ ให้ผู้ใหญ่รอไม่ดี”

ทั้งสองจูงมือคลอเคลียกันออกจากร้านอาหาร แล้วให้บังเอิญที่เจอกับเริ่มตะวันพอดี เขามาทานข้าวกับเพื่อนอาจารย์ด้วยกันและเห็นสองหนุ่มสาวพอดี

“จะไปไหนทิวา” เข้าขวางหน้าทันที ดวงตาลุกโชนด้วยความหึงหวงในอกแต่ก็สู้เก็บกดเอาไว้ รักญาติฉันคนรัก แต่หล่อนไม่ได้รับรักตอบ กลับไปเลือกเพลย์บอยมาเป็นคู่ ช้ำใจใครจะเหมือนเขา

“อ้าวพี่ตะวัน” เริ่มทิวายิ้มให้ มือเมฆากระชับแน่น เขายิ้มๆ นิด เย้ยน้อยๆ ที่มุมปาก

“ทิวาจะไปบ้านพ่อเลี้ยงเอนกค่ะ ท่านมีเรื่องงานแต่งจะปรึกษา พี่ตะวันล่ะคะ”

“มากินข้าวกับเพื่อน แล้วเราจะกลับบ้านกลับช่องยังไง ดึกแล้ว”

เมฆาทำท่าจะโต้คำพูดนั้น แต่เริ่มทิวากดมือไว้ ยิ้มให้อย่างที่น้องสาวพึงจะกระทำต่อพี่ชายที่หวงน้อง

“แหม พี่ตะวัน ถ้าคู่หมั้นทิวาจะใจดำ ไม่ไปส่งทิวาที่บ้าน ทิวาก็จะโทรมาหาพี่ตะวันให้ไปจัดการกับเขาเลยดีไหมคะ”

“ไม่มีวันนั้นหรอก ทิวา ริ้นสักตัวผมก็จะไม่ให้มันมาสัมผัสผิวคุณ” เมฆาว่า ยกมือหญิงสาวมาจุมพิตต่อหน้าต่อตาตะวันฉายให้กระอักเลือดอยู่ในอก ขณะที่ทิวายิ้มอายๆ

“พี่ตะวันเป็นพยานนะคะ”

ตะวันฉายเดินหนีทันทีด้วยไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ เริ่มทิวาถอนหายใจน้อยๆ

“อย่าคิดมากน่า ทิวา”

“คิดมากเรื่องอะไรคะ”

“ก็เรื่องนายเมฆา ไม่ต้องไปสงสารเขาหรอก อีกหน่อยเขาจะทำใจได้เอง”

“คุณก็รู้ หรือคะ”

“ใครไม่รู้ก็บ้าแล้ว แม้แต่ทิวาก็รู้ตัวไม่ใช่หรือ”

“ค่ะ” เริ่มทิวาถอนหายใจ ใช้มืออีกข้างวางทับมือของเขาที่กุมมือหล่อนอยู่

“แต่ทิวาก็รักเขาเหมือนพี่ชายจริงๆ ไม่ได้รักแบบชายหญิง”

“และผมก็คือผู้ชายโชคดีคนนั้นที่คุณรัก แต่คุณต้องระวังตัวนะ ทิวา ผมว่าแววตานายตะวันดูแปลกๆ”

“แปลกยังไงคะ”

“บอกไม่ถูก ทิวาระวังก็แล้วกัน”

“เขาเป็นพี่ชายทิวานะคะ”


“ก็ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ” เมฆาย้ำ เริ่มทิวาจึงพยักหน้าเอาใจ แต่ในใจกลับขำ ถึงตะวันฉายจะผิดหวังจากหล่อนมากมายแค่ไหน แต่เขาไม่มีวันทำร้ายหล่อน

ไม่มีวัน



“ฝ่ายหนูมีญาติน้อยจังนะ”

พ่อเลี้ยงเอนกบอกตรงๆ เมื่อเริ่มทิวาและเมฆานั่งลงในห้องรับแขกเรียบร้อย มีรวีนั่งข้างๆ

“ค่ะ ก็เท่าที่คุณป้าส่งให้คุณลุงก็ถือว่ามากแล้ว”

“แล้วเพื่อนเจ้าสาวล่ะ ฉันเห็นแค่แวบๆ เฉียดกันไปก็เฉียดกันมา” รวีถาม

“สนใจหรือไง” เมฆาถามลูกพี่ลูกน้อง

“เปล่า ก็ธรรมดาว่าเพื่อนเจ้าบ่าวก็อยากเจอเพื่อนเจ้าสาว”

“แกก็ไปบ้านทิวาสิ แล้วก็จะได้เจอจังๆ”

“ไม่เอา กลัวป้าทิวา” รวีพูดล้อเล่นทำท่าขึงขังจริงจังซะจน ทุกคนอดหัวเราะไม่ได้

“แต่ว่าไปกันสักวันก็ดีนะ หลังจากวันสู่ขอวันนั้นแล้วก็ไม่ได้ไปอีก อีกหน่อยจะเป็นญาติกันก็ต้องสนิทสนมกันไว้” พ่อเลี้ยงเอนกว่า

จากนั้นสองหนุ่มสาวก็ขึ้นไปดูห้องหอข้างบน ทิ้งให้รวีกับพ่อเลี้ยงเอนกนั่งอยู่ด้วยกัน

ผู้เป็นลุงจ้องหน้าหลานชาย

“แล้วแกล่ะ ว่าไง”

“เรื่องอะไรล่ะครับ”

“ก็เรื่องเรียนต่อเมืองจีน แกยังอยากไปอีกหรือ”

“เรียนภาษา แล้วก็หาตลาดทางนั้นไงครับ ผมว่าดีออก”

“ฉันว่าแกขี้เกียจมากกว่า”

“ก็แล้วแต่ลุงจะคิดนะครับ ผมไปแค่สองสามปีเอง ทางนี้เจ้าเมฆมันแต่งงานแล้ว ก็คงเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตั้งใจทำงานมากขึ้น” รวีว่า

“ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ใช่ว่าตอนนี้มันทำงานไม่ดีนะ แต่ว่าถ้าตั้งใจอีกนิดก็คงดีกว่า”

ท่านรำพึงขึ้นไปด้านบนที่หลานชายกับว่าที่สะใภ้ขึ้นไปดูห้องหอ ด้วยกัน รำพึงกับรวีเบาๆ ว่า

“เป็นบุญนักหนาของเมฆมัน ที่ได้หนูทิวามาเป็นคู่ครอง”


กว่าเมฆาจะขับรถมาส่งเริ่มทิวาถึงบ้าน ก็เกือบเที่ยงคืน ป้ารุ้งแพงหลับไปแล้วเพราะเริ่มทิวาได้โทรมาบอกก่อนแล้วว่ากลับดึก แม้จะไม่พอใจ แต่เมฆาก็เป็นคู่หมั้น มิใช่ใครอื่น อรุณงามกับตะวันฉายก็คงนอนแล้วเช่นกัน ดังนั้นก่อนลงจากรถที่หน้าบ้าน ว่าที่สามีจึงจูบอำลาเริ่มทิวาอยู่นาน จนกระทั่งแสงไฟหน้าบ้านสว่างขึ้น เมฆาก็รีบผละออก ซึ่งหล่อนก็ก้าวลงจากรถพอดีกับที่ตะวันฉายมาเปิดประตูรั้วให้ เขาตวัดสายตามองท้ายรถเมฆาอย่างไม่พอใจก่อนจะกระชากเริ่มทิวาให้เดินเข้ามาในเขตบ้าน

“ทำอะไร ระวังขี้ปากชาวบ้านบ้าง”

“ทิวาไม่ได้ทำอะไรนี่คะ”


ทางเดินรั้วสู่ตัวบ้านแวดล้อมไปด้วยต้นมะม่วงและลำใยสูงใหญ่ เริ่มทิวาเร่งฝีเท้า แต่ตะวันฉายดึงแขนไว้ ใบหน้าเขาเคร่งเครียดถมึงทึง

“ทิวาที่แสนดีคนเดิมหายไปไหน ตั้งแต่คบกับไอ้หมอนั่น ทิวาเปลี่ยนไปมากนะ พี่ไม่ชอบ”

“พี่ตะวันคะ ทิวาเข้าใจในความเป็นห่วง แต่จริงๆแล้ว คุณเมฆเป็นคนดี อดีตเขาอาจจะออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่ตอนนี้เขาเป็นคนดีแล้ว ไม่งั้นทิวาก็คงไม่เลือกเขา และที่สำคัญป้ารุ้งแพงก็ยอมรับเขาแล้วนะคะ”

“แล้ววันนี้มันอะไรกัน”

“อะไรที่ว่า คืออะไรล่ะคะ” เริ่มทิวาย้อนเบาๆ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้รำคาญ หล่อนกำลังพยายามจะทำให้ตะวันฉายทำใจให้ได้ ทำไมจะไม่รู้ว่า เขารักหล่อน แต่มันก็คงเป็นแค่เพราะความผูกพันธ์อันเนิ่นนานต่างหาก แต่ถึงหล่อนรักตอบ มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

“ก็ ไอ้เมฆ มัน มัน” จะพูดก็พูดไม่ออก หัวใจของตะวันฉายปวดร้าว มองหน้าหญิงที่เขาหลงรักมานานแสนนาน แล้วก็ตัดสินใจ

หากเพียงแค่บอกไป บางทีทิวาจะเห็นใจและเข้าใจ

“ทิวา เราต้องพูดกัน พี่มีเรื่องจะบอกทิวา”

เริ่มทิวายิ้ม

“ได้ค่ะ เรื่องอะไรหรือคะ เดินไปคุยไปดีไหม”

“คุยกันตรงนี้แหละ”

“ค่ะ” หล่อนก็รับคำอย่างว่าง่าย

เขาเริ่มอย่างช้าๆ ชัดเจน

“ทิวาก็รู้ใช่ไหมว่า พี่คิดยังไงกับทิวา พี่ไม่ได้รักทิวาอย่างน้อง แต่รักฉันชายหนุ่มรักหญิงสาว อาจจะช้าไปที่มาพูดตอนนี้ แต่พี่อยากให้ทิวา ลองมองพี่ใหม่ ให้โอกาสพี่สักนิด แล้วพี่จะทำให้ทิวาลืมนายเมฆาคนนั้น พี่จะทำให้ทิวามีความสุข”

เริ่มทิวายิ้ม

“ทิวาขอบคุณค่ะ ที่รักทิวา แต่ทิวารักคุณเมฆ รักจริงๆ ไม่ได้รักเพราะหลง ทิวาขอบคุณอีกครั้งที่รักทิวา แต่ว่าเปลี่ยนรักนั้นเป็นรักแบบพี่น้องจะดีกว่าไหมคะ ทิวาจะดีใจมากที่วันแต่งงานของทิวา พี่ตะวันจะมาอวยพรให้ทิวาด้วยความรักแบบนั้น”

แต่ตะวันฉายไม่ได้คิดอย่างนั้น

“ทำไมล่ะ นายเมฆามันเป็นเพลย์บอยนะ ทิวา มันจะทำให้ทิวาต้องเจ็บปวด ผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนแล้วที่มาราวีทิวา ขืนแต่งงานกับมันทิวาจะไม่มีความสุข”

“ทิวาเลือกแล้ว และทิวาจะไม่เปลี่ยนใจ และมั่นใจได้ว่า ถึงแม้จะแต่งงานไปแล้ว ทิวาก็จะรักเคารพพี่ตะวันอย่างเดิม ไม่เปลี่ยน”

“แต่พี่ไม่ต้องการ” เขาคำรามพร้อมกับสติที่ขาดผึง กระชากตัวเริ่มทิวาเข้าหาตัว บดริมฝีปากหล่อนอย่างรุนแรง เริ่มทิวาพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็ไม่พ้น ตะวันฉายใช้มือจับปลายคางหล่อนไว้แน่นไม่ปล่อย เริ่มทิวาขืนตัวสุดชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล

ชั่วอึดใจ แสงไฟตรงบันไดหน้าบ้านก็สว่างขึ้น ตะวันฉายเผลอ หล่อนก็เลยสะบัดตัวหลุดออกมา สีหน้าตะวันฉายฉายแวว ตกใจ และเสียใจ ปนกับความรู้สึกผิด ขณะที่เริ่มทิวาตรงกันข้าม มันบอกเขาว่า แค่การกระทำอันอุกอาจนี้เพียงชั่ววูบ เริ่มทิวาก็โกรธก็เกลียด หมดความไว้วางใจในตัวเขาเสียแล้ว

“ทิวา กลับดึกจังวันนี้ อ้าวพี่ตะวัน” อรุณงามนั่นเอง

เริ่มทิวาสะบัดหน้าเดินขึ้นเรือนไปทันที ด้วยไม่อยากให้ญาติเห็นสีหน้า น้ำตาเริ่มจะหยดหยาด

“เป็นอะไรของเขานะ พี่ตะวันล่ะคะ มารอทิวาหรือ”

“เรื่องของพี่” ดุน้องแล้วก็ซ่อนสีหน้าเดินขึ้นเรือนตามหลังเริ่มทิวาไป ทิ้งให้คนเป็นน้องสั่นหน้า ด้วยไม่เข้าใจเรื่องราว นึกได้แต่ว่า น่าสงสารตะวันฉายจริงๆ ที่มีรักแล้วก็ไม่สมหวัง นี่ก็คงมารอเริ่มทิวาอยู่แน่ๆ เลย แต่ทำไงได้ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดมันใกล้กันเกินไป ที่จะรักกันฉันคนรัก


“มีอะไรหรือทิวา วันนี้ดูแปลกๆ ไป” คู่หมั้นทักหล่อน ยามนั่งรถไปดูการตกแต่งห้องหออีกครั้งในวันถัดมา

“เปล่าค่ะ”

“แต่ผมว่า ทิวาเงียบไปนะ”

“หรือคะ คงเหนื่อยมั้งคะ วันนี้วิ่งวุ่นทั้งวัน”

“แต่งงานแล้ว ทิวาก็ไม่ต้องทำงานแล้วนะ อยู่บ้านเป็นแม่บ้านให้ผมก็พอ”

“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”

ไม่นานนักรถก็จอดหน้าบ้าน แต่ยังไม่ทันที่เด็กในบ้านจะมาเปิดประตูให้ ก็มีเก๋งกลางเก่ากลางใหม่มาจอดเทียบ หญิงในอดีตของเมฆาคนหนึ่งลงจากรถ เริ่มทิวาถอนหายใจ ขณะที่เมฆาขมวดคิ้ว

“ทิวาเข้าไปข้างในก่อน เดี๋ยวผมจัดการเอง”

“เธอคงอยากมาพบทิวามังคะ” หล่อนพูดเสียงเรียบเรื่อย มองนางพยาบาลที่ชื่อว่า ดาเรศอย่างพิจารณา หล่อนคนนี้เคยมาอาละวาด ตอนเริ่มทิวาคบกับเมฆาได้ใหม่ๆ แต่หล่อนก็อดทน และโต้กลับไปบ้าง พอให้รู้สึก จากนั้นเมฆาก็จัดการเลิกกับหล่อนอย่างเด็ดขาด แล้ววันนี้ใยจึงมาพบปะกันอีก อีกทั้งสีหน้าก็กระหยิ่มยิ้มย่อง

“ได้ข่าวว่าจะแต่งงาน”

“ขอโทษที่ไม่ได้เชิญ” เริ่มทิวาบอกน้ำเสียงเรียบ

“ไม่เป็นไร สวัสดีค่ะ พ่อเลี้ยงจะไม่ทัก เมียเก่าหน่อยหรือคะ อ้อ หรือกลัวเมียใหม่จะว่า”

“อย่าทำปากเปราะแถวนี้ มีธุระอะไรก็รีบพูด ไม่มีก็รีบไปเสีย ดาเรศ”

“ไม่ต้องไล่หรอกค่ะ ไปแน่ แค่เอาของขวัญวันแต่งงานมาให้”ดาเรศว่าพลางหยิบซองสีน้ำตาลเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เมฆารีบเข้ามายืนขวาง

ดาเรศยิ้มเยาะๆ

“ก็แค่ รูปภาพประทับใจในอดีต” หล่อนยัดซองนั้นใส่มือเริ่มทิวา ก่อนจะโค้งตัวให้เมฆา เดินหันหลังขึ้นรถและขับออกไป

เริ่มทิวาแกะดูทันที โดยที่เมฆาผู้เพิ่งจะเอะใจคว้าเอาไว้ไม่ทัน รูปแรกๆ สีหน้ายังไม่เปลี่ยน แต่พอรูปหลังๆ เริ่มทิวา หน้าเริ่มบึ้งและแดงก่ำ ก่อนจะเงยหน้ามองคู่หมั้น

“คงรักคงหลงมากซีนะ ถึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เอ้าดูเสียสิคะ เขาคงเอามาให้เผื่อจะเปลี่ยนใจไม่แต่งกับทิวาแล้วละมัง”

รูปถูกยัดใส่มือ เมฆารีบมอง มันเป็นภาพที่ถ่ายกันเล่นๆ ดาเรศในรูปสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น ในห้องที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เขาเองก็นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เขาเองนั่นแหละ ที่ชวนหล่อนถ่ายเล่นๆ ดีนะที่ไม่ได้ถ่ายคลิป เก็บไว้ เพราะเขาก็ใจไม่กล้าขนาดนั้น ไม่อย่างนั้น วันนี้ก็บรรลัย

“โธ่ ทิวาจ๋า แค่รูปถ่ายเล่นๆ สมัยก่อน”

“อ้อ แล้ววันแต่งงาน แม่ดาเรศเขาจะส่งคลิปฉาว มาประจานกลางงานหรือเปล่าคะ”

“โธ่ คลิปที่ไหน ไม่มีหรอก มีเท่านี้จริงๆ ผมบอกแล้วไงว่าเลิกก็คือเลิก โถ อย่า ร้องไห้คนดีของผม อย่าทำให้เรื่องแค่นี้มาทำให้ทิวาอารมณ์เสียสิ นั่นเป็นเรื่องในอดีต ตอนนี้ผมมีแต่คุณคนเดียว คุณต้องมั่นใจในตัวผม พูดซิ ว่าคุณมั่นใจในตัวผม” ท้ายประโยค เขาพูดเสียงจริงจัง กอดหล่อนไว้ในวงแขนหน้าบ้านนั่นแหละ ไม่อายสายตาผู้ใดทั้งสิ้น

“ทิวาขอโทษค่ะ ทิวาแค่... ค่ะ ทิวาเชื่อคุณ เชื่อคุณคนเดียว ถ้าไม่เชื่อ ทิวาคงไม่แต่งงานกับคุณหรอก”

“วันนี้ทิวาแปลกไปนะ มีอะไรบอกผมมาเถิด คนดี”

เริ่มทิวาฝืนยิ้ม

“ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ”

แต่สีหน้าของเริ่มทิวาก็ไม่ดีขึ้น เมื่อเขาชวนคุยเรื่องการโยกย้าย โต๊ะ ตู้ เตียง หล่อนก็ให้ความเห็นแกนๆ เมฆาเห็นท่าไม่ดีจึงให้ช่างและนักออกแบบกลับไปก่อน เหลือแต่สองคนหนุ่มสาวในห้อง แล้วเขาก็ล็อกประตู เดินตรงไปยังสาวเจ้าที่นั่งนิ่งบนเตียง สีหน้าใช้ความคิด

“เหลือแต่เราสองคนแล้ว เป็นอะไรก็ว่ามา หรือยังกังวลเรื่องดาเรศ”

แขนข้างหนึ่งโอบให้เริ่มทิวาเข้ามาชิดและพิงอกเขา อีกข้างจับมือหล่อนมาคลึงเล่นเบาๆ

“ทิวา เกิดอะไรขึ้น บอกผม โกรธผมหรือ”

หล่อนสั่นศรีษะ

“เปล่าค่ะ คุณเมฆคะ สมมติว่าคุณเมฆมีเพื่อนสนิท รักและไว้ใจเขาอย่างเพื่อน แต่จู่ๆ วันหนึ่ง เพื่อนคนที่ว่าก็ทำลายความไว้ใจนั้น คุณเมฆจะทำอย่างไรคะ”

“ก็ต้องดูว่าทำลายความไว้ใจ ในเรื่องอะไร และทำไม เอ ที่ถามอย่างนี้ กลุ้มใจเรื่องเพื่อนหรือ”

“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แค่ไม่สบายใจนิดหน่อย”

“อยากเล่าไหม”

“ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเถอะ เก็บมาคิดก็ปวดหัวเปล่า” โกหกเพื่อไม่ให้เขาซักต่อ

“นั่นสิ ไหนดูหน่อย เจ้าสาวหน้ามู่ทู่” เขาเชยใบหน้าขึ้นมาเพิ่งพิศ ดวงตาฉายแววรักลึกซึ้ง อดใจไม่ไหว ต้องจุมพิตหน้าผากนวลไปครั้งหนึ่ง

“มู่ทู่ แต่ก็ยังสวย” เขาจุมพิตริมฝีปากนิ่มเนิ่นนาน ส่งผ่านความรักความปรารถนาที่อัดแน่นคับอกออกไป ถ่ายทอดแรงรักดุจแรงไฟที่กระตุ้นอีกฝ่ายให้ยกมือขึ้นกอดตอบและเคลื่อนตัวเข้าหา

เคยกอดจูบกันก็บ่อย แต่ทุกครั้งเขาก็จะเป็นฝ่ายยับยั้งเมื่อเห็นว่าจะเลยเถิดด้วยให้เกียรติหญิงคนรัก คราวนี้ก็เช่นกัน เมฆาผละออกอย่างแสนเสียดาย แต่เริ่มทิวากลับกอดรัดเขาแน่นขึ้น จูบตอบเขา เลื่อนสองมือไปที่ศรีษะกดลงให้ริมฝีปากแนบชิดยิ่งขึ้น

“ทิวา” เมฆาคราง แต่ตอนนี้ต่อให้พ่อเลี้ยงเอนกมาเคาะประตู เขาก็คงตะเพิดไล่

“ไม่รักทิวาหรือ” เสียงเอ่ยถามเบาๆ ลอดริมฝีปาก ยามที่ผละออกชั่วครู่เพื่อหายใจ

“งั้นผมก็จะพิสูจน์ให้ดู” เขาคำราม ก่อนจะรวบร่างบาง ลงบนเตียงในห้องหอของทั้งสองเอง

เริ่มทิวานั้นตัวอ่อนระทวยใต้ร่างเขา ยอมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เมฆาจะปั้นจะแต่งอย่างไร หล่อนทำตามทั้งสิ้น รับบทเรียนรักด้วยความเต็มอกเต็มใจ หล่อนเป็นของเขาแล้ว หล่อนก็ไม่กลัวใครทั้งสิ้น แรงรักแรงเสน่หาของทั้งสอง ดังทะเลต้องพายุ คลื่นสาดซัดพัดโหมเข้าฝั่ง กวาดสรรพสิ่งราบเรียบเป็นหน้ากลอง แล้วเศษเสี้ยนอย่างเรื่องที่ตะวันฉายกระทำต่อเริ่มทิวาเมื่อคืน ก็โดนซัดระเนระนาด ออกจากใจหล่อน เหลือแต่พายุรักของคู่หมั้นหนุ่มนามว่าเมฆาเท่านั้น
......................................................................................


an-o - รักษาสุขภาพด้วยเช่นกัน

natee - กะจะลงให้เสร็จภายในอาทิตย์หน้าค่ะ

บุษ - ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ตุ๊งแช่ - ตอนเขียน คนเขียนก็งงๆ เหมือนกันๆ ฮาฮา


...................................................................

พรุ่งนี้วันอาทิตย์ สุขสันต์วันหยุดค่ะ ทุกคน

ชิตา




โดย : ชิตา วันที่ : [ 19 มี.ค. 2554 ] 19:51:40 น.




>> ความคิดเห็นที่ 1

เริ่มเข้าเค้าแล้วนะค่ะ

have a nice weekend ka
โดย : หมูบิน [ 19 มี.ค. 2554 ] 20:07:04 น.




>> ความคิดเห็นที่ 2

คุณหมูบิน

ไม่อยากให้ฝนตก แต่อยากให้อากาศเย็น มีแดดอ่อนๆ
แหม น่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่สดใส เหมาะแก่การเขียนิยายจริงๆ
โดย : ชิตา [ 19 มี.ค. 2554 ] 20:34:44 น.




>> ความคิดเห็นที่ 3

อ่านนิยายจากบนรถไฟ หัวคลอนดีแท้
โดย : ตุ๊งแช่ [ 19 มี.ค. 2554 ] 20:58:01 น.




>> ความคิดเห็นที่ 4

รถไฟเฉยๆ หรือรถไฟฟ้าจ๊ะ

โดย : ชิตา [ 19 มี.ค. 2554 ] 20:59:03 น.




>> ความคิดเห็นที่ 5

ขอบคุณค่ะ มาลงสมำ่เสมอดีจัง. ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
โดย : natee [ 19 มี.ค. 2554 ] 22:42:22 น.




>> ความคิดเห็นที่ 6

เริ๋มเป็นเรื่องราวให้คาดเดาได้แล้ว
ประโยคตอนที่เจอกันที่ร้านอาหาร
พิมพ์ชื่อสชับกันนะค่ะ แล้วพิมพ์ชื่อตะวันผิด
จากตะวันฉายเป็นเริ่มตะวันด้วย อย่าลืมแก้น๊า
โดย : an-o [ 19 มี.ค. 2554 ] 22:53:12 น.




>> ความคิดเห็นที่ 7

natee - ขอบคุณที่ติดตามเช่นกัน คนเขียนมีกำลังใจ

an-o - แท้งกิ้วมากๆ จัดการแก้ไขในต้นฉบับแล้วค่ะ
ชิตาพิมพ์เอง ทวนเอง อาจตาลาย ไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ก่อน
โดย : ชิตา [ 20 มี.ค. 2554 ] 00:08:07 น.




>> ความคิดเห็นที่ 8

ฮื่มๆ มันน่าสงสัยพี่ตะวันจริงๆนะว่าทำให้ท้องหรือเปล่า โอ๊ยมืดแปดด้านเดาต่อไม่ได้ ติดตามตอนต่อไปค่ะ :)
โดย : pattisa [ 20 มี.ค. 2554 ] 01:42:40 น.




>> ความคิดเห็นที่ 9

สงสารความรักของสองคนนี้จัง
โดย : บุษ [ 20 มี.ค. 2554 ] 03:56:38 น.




>> ความคิดเห็นที่ 10

โอย ย เครียดแทน แล้วค่าาา
โดย : black-sheep [ 26 มี.ค. 2554 ] 02:01:56 น.




ชิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2554, 21:42:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2554, 21:42:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1915





<< ๑๐   ๑๒ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account