เล่ห์สลับขั้ว
เมื่อความจำเป็นทำให้ต้องมาอยู่ร่วมรั้วบ้านเดียวกัน และรู้ว่าจะต้องโดนจับคู่ เธอจึงสร้างสถานการณ์ให้เขาเข้าใจผิด หวังให้เกลียด แต่ความใกล้ชิดทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้าม เธอชอบเขา และเขาก็ชอบเธอแม้ความจริงเรื่องชายไม่จริงหญิงแท้จะยังคลุมเครือเต็มทีก็ตาม และ...สิ่งที่เรียกว่ารักก็ทำให้เขายอมฝ่าฝันอุปสรรคหัวใจตัวเองและคู่ต่อสู้ได้ในทุกทางและอภัยได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายความจริงบางอย่างในอดีตต้องทำให้เธอคิดจะวิ่งหนีเขาเพื่อไปทำใจ...วิมวิพาหวังสักวันจะยอมอภัยในสิ่งที่ผิดพลาดครั้งเยาว์วัยของคฑาคินได้ด้วยคำว่า 'รัก'
Tags: น่ารัก

ตอน: ตอนที่ 30 เล่ห์สลับขั้ว

ตอนที่ 30
คฑาคินขับรถดิ่งกลับบ้านทันทีหลังจากตัดสายโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าเหยียบคันเร่งเร็วเท่าไหร่ แต่ก็มาถึงประตูรั้วบ้านแล้ว ซึ่งตอนนี้รั้วบ้านเขากลายเป็นที่พักพิงของใครหลายคน มายืนเกาะแขนเกี่ยวขาชะโงกหน้าด้อม ๆ มอง ๆ และพอคนพวกนั้นเห็นรถคันของเขาเลี้ยวเข้ามาก็พากันวิ่งกรูมารุม ราวกับว่าเขาเป็นดาราดัง แน่นอนว่าคนพวกนั้นไม่ใช่ใครหากเป็นนักข่าวที่รอทำข่าวบ้า ๆ ของวิมวิพานั่นแหละ นาทีแรกที่พวกนักข่าวเห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายบนเตียงที่เป็นข่าวอยู่ หลายคนก็ทำหน้าผิดหวังเบือนหน้าหนี แต่กลับมีบางคนที่ดันจำได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในข่าวคนควงคู่กับนางแบบฉาว จึงพากันมาเคาะกระจกโบกมือขอให้เขาลงจากรถไปให้สัมภาษณ์
เมื่อเห็นว่าการจะขับรถเข้าบ้านตัวเองเริ่มยากเย็น จึงพาลโมโหขึ้นอีกเป็นกอง เขาเลื่อนกระจกลงนิดตะโกนบอกพวกนักข่าวว่าจะเปิดประตูให้เข้าไปในบ้านได้ แล้วจะเรียกวิมวิพามาให้สัมภาษณ์ความจริงทั้งหมดกับนักข่าวเอง ที่จู่ ๆ ทำแบบนี้เพราะที่จริงแล้วเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าวิมวิพาจะมีความจริงอะไรมาบอก
ชายหนุ่มขับรถเข้ามาจอดตรงหน้าตึกใหญ่ พอลงจากรถได้ปากก็ตะโกนให้เด็กรับใช้ในบ้านมาช่วยกันต้อนรับนักข่าวให้ไปนั่งรอในห้องรับแขกให้เรียบร้อย ส่วนตัวเองก็รีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองยังห้องนอนวิมวิพาเพราะรู้ดี ว่าวันนี้หญิงสาวคงไม่มีหน้าจะออกไปพบปะใครที่ไหนแน่ แต่พอเคาะประตูแล้วบิดลูกบิดเปิดผางเข้าไป ก็พบว่าชวินได้มานั่งปลอบใจลูบหัวลูบหางเจ้าของห้องนอนอยู่ก่อนแล้ว
“พี่ชวิน ! ” ยอมรับว่าความโทสะพลุ่งพล่านขึ้นอีกระลอก แต่คนรู้ฐานะว่าเป็นลองอย่างชวิน ก็มีมารยาทพอที่จะขยับออกห่างวิมวิพาที่นั่งร้องไห้ตัวโยนตรงขอบเตียง “น้องวิมนี่ดีนะครับ วัน ๆ มีแต่ผู้ชายคิดถึง คนหนึ่งโทร.มาหา อีกคนก็มาปลอบใจถึงที่” ความหึงหวงทำให้พูดประชดประชันออกไป
“นายคินพูดอะไรก็นึกถึงใจน้องวิมบ้าง ตอนนี้น้องวิมต้องการคนเข้าใจโดยเฉพาะนาย” ญาติผู้พี่สวนกลับเสียงเคร่ง
“พี่ชวินพูดอย่างนี้ แสดงว่าน้องวิมคงบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องรู้ราว ว่าไปนอนกับไอ้หมอนั่นได้ยังไงซินะ”
“ก็ใช่น่ะซิ หรือนายคิดว่าผู้หญิงคนที่ตัดสินใจเลือกนาย จะหักหลังนายด้วยการไปนอนกับผู้ชายคนอื่นยังนั้นนะเรอะ” ชวินลุกพรวดเดินตรงเข้ามาหาญาติผู้น้อง “ถ้านายยังไม่ได้เปิดใจรับฟังคำอธิบายอะไรจากน้องวิมเลย นายก็อย่าพึ่งด่วนสรุปกับแค่ภาพถ่ายที่เห็น”
“แล้วถ้ามีคนต้องการสร้างเรื่องให้น้องวิมเสียหายจริง ๆ ใครกันละที่เกลียดน้องวิมขนาดทำเรื่องแบบนี้ได้” คฑาคินกลอกสายตาแข็ง ๆ ผ่านชวินไปหาคนที่นั่งห่อไหล่บนเตียงนอน นึกถึงภาพเปลือยผิวขาวเนียนของเจ้าหล่อน ที่เขาเองยังไม่เคยจะได้ล้วงล้ำเกินเลยกับเธอสักครั้ง แต่ไอ้อาจารย์หน้าขาว คนที่หญิงสาวเคยมีใจให้กลับได้ครอบครองเธอจนหมดตัวเรียบร้อยไปแล้ว ไม่แน่ว่า กระทั่งหัวใจของเธอตอนนี้ อาจจะยกให้ไอ้หมอนั่นไปหมดแล้วเหมือนกันก็เป็นได้
“พี่คินวิมไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะคะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ปั้นมานอนอยู่กับวิมได้ยังไง วิมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วิมงงไปหมดแล้ว” พูดเสียงสั่นเครือ น้ำตาล่วงเผาะ ๆ ตอนนี้เรี่ยวแรงจะลุกเดินแทบไม่มี เหมือนหมดแรงหมดกำลังใจจะทำอะไรต่อ โดยเฉพาะเวลาที่เห็นสายตาไม่เชื่อใจและออกจะรังเกียจมากจากคฑาคินแบบนี้ เธอเดินเนิบ ๆ กลั้นเสียงสะอื้นตรงมาหาชายหนุ่ม สวมกอดเขาด้วยแขนเล็กและร่างกายที่สั่นสะท้าน พลางพูดเสียงเศร้าระคนเว้าวอน “พี่คินเชื่อวิมนะคะ วิมไม่รู้เรื่องจริง ๆ วิมไม่ได้นอกใจพี่คิน ไม่เคยแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ”
คฑาคินปลดแขนเล็กออกจากตัว พูดเสียงท้วน “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกับพี่ ลงไปบอกความจริงนักข่าวให้มันจบ ๆ ไปซะ บอกเลยว่าเรื่องทุกอย่างมันเกิดได้อย่างไร”
“แต่วิมยังไม่รู้นี่คะ ว่าจะบอกนักข่าวยังไง วิมคิดอะไรไม่ออกให้เวลาวิมอีกนิดนะ” เธอบอก ขณะที่ถูกคฑาคินคว้าแขนถูลู่ถูกังให้เดินตามออกไปจากห้อง วิมวิพาขืนตัวกลับพลางพูดปนเสียงสะอื้นทรมานแทบขาดใจ “พี่คิน อย่าลากวิมไปทั้งสภาพแบบนี้เลย วิมขอร้องละ”
“นายคินเลิกบ้าสักที นายจะลากน้องวิมลงไปให้นักข่าวทำไม” ชวินรีบมาขวาง กระชากมือคฑาคินออกจากแขนเล็ก
“นักข่าวอยู่ข้างล่างแล้ว และวันนี้ทุกอย่างจะต้องจบ” คนอารมณ์กรุ่นยังไม่มีทีท่าจะยอมฟัง จะตามไปลากตัวหญิงสาวลงไปด้วยให้จงได้ หากถูกชวินทัดทานไว้เสียก่อน
“นายเป็นคนอนุญาตให้นักข่าวเข้ามาในบ้านเหรอ นายกำลังจะทำให้เรื่องวุ่นวายไปกันใหญ่”
“ทำไมพี่ชวินไม่คิดว่าผมกำลังจะทำให้ทุกอย่างจบลงบ้างละครับ ผมทรมานผมเจ็บแค่ไหนพี่ชวินรู้บ้างไหม”
“แล้วนายคิดว่านายเจ็บคนเดียวรึไง นายคิดว่าคนที่โดนปฏิเสธความรักอย่างพี่เจ็บน้อยกว่านายเหรอ” ชวินตวาดเสียงเข้ม ผลักบ่ากว้างของอีกฝ่ายแรง ๆ จนติดผนังห้อง “ฟังนะ ถ้านายรักน้องวิมก็ควรสงสารเธอ จิตใจน้องวิมยังไม่พร้อมจะพูดอะไรกับใครได้ในเวลานี้หรอก นายพาน้องวิมไปพักผ่อนที่อื่นสักพักแล้วกัน ให้เรื่องมันซาลง ระหว่างนี้พี่จะสืบเองว่าเรื่องมันเป็นมายังไง พาน้องวิมไปที่ไหนก็ได้ให้ไกลจากกรุงเทพฯ เงียบแล้วก็ไม่มีนักข่าวตามเจอ”
คฑาคินสบตาคนพูดเห็นความจริงใจเหลือล้น ก่อนเหลือบมองร่างบางที่ยืนกอดตัวเองร้องฟูมฟาย จริง ๆ เขาสงสารเธอนะ อยากจะเข้าไปคว้าเอาตัวเธอมากอดให้หายจากอาการเกรงกลัวนั้น แต่พอภาพถ่ายที่เขาเห็นมาจากทางอินเตอร์เน็ตแล่นวูบฉายขึ้นมาในความคิด ก็ทำให้อีกด้านของความรู้สึกบอกว่า เขาจะไม่ใจอ่อนกับเธอ ตราบใดที่ความจริง ยังไม่สรุปออกมาว่าเธอเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งอย่างที่ว่า
“งั้นก็ไปกัน” คฑาคินผลุนผลันเข้าไปคว้าข้อมือเล็ก ดึงให้เดินตามอีกครั้ง “บอกคนดูแลบ้านพักตากอากาศที่เพชรบูรณ์ ให้ไปทำความสะอาดด้วย ผมจะพาน้องวิมไปที่นั่น”
“เดี๋ยวซิคะ พี่ชวินจะให้วิมไปตอนนี้เลยเหรอ” วิมวิพาหันรีหันขวาง มองชวินระหว่างนั้นก็เดินตามแรงฉุดของคฑาคินไปยังประตูห้องนอน
“ตอนนี้แหละครับ ถ้าช้านักข่าวคงมาเยอะกว่านี้แน่ เพราะถ้าเขารู้ว่านายคินเปิดประตูให้พวกเขาเข้ามาได้ แล้วคิดว่าจะได้สัมภาษณ์น้องวิมจริง ๆ ละก็ คงมากันอีกเป็นสิบ” ชวินออกความคิดเห็น รู้ว่าหนุ่มสาวไม่มีเวลาเก็บข้าวของอะไรหรอก มีแค่เงินติดตัวไปก็คงหาซื้อเอาข้างหน้าได้ไม่ยาก “พี่จะโทรบอกเลขาฯ ให้เอารถไปเปลี่ยน ยังไงจะโทร.ไปบอกอีกทีว่านัดเจอกันที่ไหน ขืนขับรถตัวเองไป ยังไงซะนักข่าวก็ต้องตามถูกแน่”
“แต่เราจะไปยังไงพ้นละคะ ก็พี่คินให้นักข่าวมานั่งรออยู่ในบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ” วิมวิพาลังเล ยกมือปาดน้ำตาลวก ๆ
“พี่จะถ่วงเวลาเอง ยังไงพี่ก็คือหนึ่งในผู้ชายที่มีข่าวกับน้องวิมไม่ใช่เหรอครับ ถ้าพี่จะเป็นคนไปนั่งให้สัมภาษณ์คนแรก นักข่าวก็คงจะให้ความสนใจอยู่บ้าง” ชวินยิ้มให้น้อย ๆ หากแววตาเศร้าลง ไม่นานก็ฝืนยิ้มกว้างขวางเพิ่มขึ้น พร้อมโยนกุญแจรถคันของตัวเองให้คฑาคิน ญาติผู้น้องรับกุญแจที่ลอยลิ่วลงมาตรงหน้าไว้ในกำมือ มองหน้าอีกฝ่ายฉงน “รีบไปเถอะ เอารถพี่ไปเพราะมันจอดอยู่ด้านหลังตึก นายจะได้ไม่ต้องฝ่านักข่าวไปเอารถตัวเองไง”
“แต่...พี่ชวินจะทำแบบนี้จริง ๆ เหรอ” คฑาคินถามเสียงอ่อนลง รู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวเกินไปไหม ที่ปล่อยให้พี่ชายลำบากเพียงผู้เดียว โดนเขาแย่งวิมวิพามา ชวินก็คงรู้สึกเสียใจไม่น้อย แล้วนี่ต้องมาช่วยเหลือความรักของเขากับหญิงสาวอีก
“เอาน่า ยังไงข่าวของพี่ก็ไม่ได้เสียหายเท่ากับน้องวิม แล้วก็ช่วงที่มีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง นายกับน้องวิมคงทำความเข้าใจกันมากกว่าชวนทะเลาะนะ พี่ไม่อยากเห็นคนที่พี่รักทั้งสองคนต้องเจ็บปวดเสียใจจากความคิดชั่ววูบ”
***--***--***--***--***--***--***
คฑาคินและวิมวิพาอยู่ในรถยนต์คันที่เลขาฯ สาวของชวินช่วยนำมาเปลี่ยนให้ หนุ่มสาวพากันเดินทางจนมาถึงบ้านพักตากอากาศของครอบครัวชายหนุ่ม ซึ่งตั้งอยู่ที่เขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์ บ้านสองชั้นไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่ามากเท่ากับบ้านในเมืองกรุง แต่วิมวิพารู้สึกถึงความสงบเงียบเป็นส่วนตัวและน่าอยู่ เพราะกลิ่นไอธรรมชาติรายล้อม เต็มไปด้วยต้นไม้ภูเขา เธอได้ยินเสียงจักจั่นเรไรร้องไกล ๆ มันเพราะน่าฟังมากกว่าน่ารำคาญอย่างเสียงอึกทึกครึกโครมในเมือง และแม้ธรรมชาติรอบกายจะยังปรากฏไม่ชัดเจนนัก ด้วยเพราะแสงท้องฟ้ายามค่ำคืนปิดมืด หากหญิงสาวคิดว่าที่นี่ คงพอจะทำให้เธอผ่อนคลายจากเรื่องน่าปวดหัวได้บ้าง วิมวิพาเดินบนทางที่โรยด้วยก้อนหินแม่น้ำกลมแบน ตามหลังคฑาคินขึ้นเนินเล็ก ๆ ไปห่าง ๆ หลังจากที่จอดรถไว้ยังด้านล่างแถวสนามหญ้า
“ขอโทษนะครับที่มารบกวนตอนดึก” คฑาคินก็เดินตรงไปหาหญิงสาววัยสี่สิบที่เป็นแม่บ้านดูแลบ้านพักหลังนี้ให้ หล่อนโค้งศีรษะทักทายชายหนุ่มเล็กน้อย เปิดยิ้มแล้วพูดน้ำเสียงใจดี
“ไม่เป็นไรหรอกจ้า คุณชวินโทร.มาบอกไว้แล้ว ยังไงคุณคินพาแม่หนูคนนั้นเข้าไปในบ้านก่อนดีกว่า” หญิงวัยกลางคนที่ดูรู้ว่าน่าจะเป็นคนในพื้นเพ เดินนำไปไขประตูบ้านไม้สีขาวเปิดออก แล้วหันกลับมามองสาวสวยจากกรุงเทพฯ ซึ่งเดินก้มหน้าตามเข้ามาในบ้านช้า ๆ “หิวไหมหนู ฉันทำกับข้าวเตรียมไว้ให้แล้ว ยังไงกินข้าวก่อนไหม เดี๋ยวจะไปอุ่นให้ ทำรอไว้ตั้งแต่ค่ำ ๆ ป่านนี้คงเย็นหมดแล้วละ”
“ขอบคุณมากค่ะน้า วิมไม่หิวหรอกค่ะ เดินทางมาเหนื่อยวิมอยากจะพักผ่อนมากกว่า”
“อ้อ...อย่างนั้นก็ตามมาทางนี้ดีซิ” คนดูแลบ้านเดินนำไปยังบันไดขึ้นสู่ชั้นสอง พร้อมผายมือนำทางไปก่อนและอธิบาย “ห้องนอนมีสองห้อง ฉันทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ให้เรียบร้อยแล้ว หนูก็เลือกเอาแล้วกันจะนอนห้องไหน...”
“ไม่จำเป็นต้องเลือกหรอกครับ” คฑาคินแทรกขึ้นเดินตามไปรวบเอวคอดของวิมวิพาดึงเข้าหาตัว ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกแม่บ้านต่อว่า “เธอเป็นแฟนผม ผมนอนห้องไหนเธอก็ต้องนอนห้องนั้นแหละครับ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอกนะครับ ถ้ามีอะไรขาดเหลือผมจะขอความช่วยเหลือเอง”
ผู้ดูแลบ้านอมยิ้มแล้วรีบบอกลา “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็พักผ่อนกันเถอะ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนแล้วกัน ผัวฉันมันนั่งหลับรออยู่หลังบ้านโน้นตั้งแต่สามทุ่มแล้ว...”
“อ้าว ! น้าไม่ได้พักที่บ้านหลังนี้ด้วยกันหรอกหรือคะ” วิมวิพารีบถามเร็ว ๆ จากที่สังเกตุตั้งแต่อยู่ในรถ ใกล้ ๆ นี้ไม่มีบ้านสักหลัง มีแต่บ้านพักออกเป็นส่วนตัวตั้งอยู่ห่าง ๆ กันมากกว่า แล้วถ้าคุณน้าแม่บ้านคนนี้ไม่อยู่ แสดงว่าเธอต้องอยู่กับคฑาคินสองคนเหรอ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดกลัวการอยู่กับคฑาคินสองต่อสองสักครั้ง ทว่ายามนี้แววตาเจ้าเล่ห์ระคนเกลียดชังที่เขามองเธอ ทำหวั่นใจชอบกล
“ฉันพักอยู่ในหมู่บ้านข้างล่างโน้น แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะมาทำกับข้าวแล้วก็ทำความสะอาดที่นี่ทุกวัน ช่วงที่พวกคุณพักอยู่...”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมกับแฟนช่วยกันทำเองได้ อย่างที่บอกถ้าผมมีเรื่องรบกวนแล้วจะโทร.ไปหาเองครับ” ชายหนุ่มรีบชิงตัดบท หันมองหน้าเง้าของเจ้าของร่างนิ่มข้างกายด้วยแววตามีเลศนัย และเลศนัยที่ว่าดูจะฉายออกมาทางน่ากลัวมากเสียด้วย
วิมวิพาไม่มีสิทธิ์พูดอะไรต่อ เธอได้แต่มองตามแสงไฟจากรถกระบะของสองสามีภรรยาที่ขับออกไปเท่านั้น คฑาคินรุนหลังบางให้เดินเร็ว ๆ พร้อมกับเสียงข่มขู่ออกคำสั่ง
“ไป ขึ้นไปข้างบน”
“ค่ะ” คนมีชนักติดหลังไม่กล้าต่อรอง ก้มหน้าก้มตาเดินตามแรงผลักจากฝ่ามือใหญ่ไปแต่โดยดี
ในห้องนอนทางด้านริมสุด วิมวิพาแทบไม่ทันได้สังเกตความสวยงามหรืออะไรในห้อง พอเธอเข้ามาถึงได้ คฑาคินก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ที่มีเพียงผ้าขนหนูกับเสื้อคลุมอาบน้ำแขวนอยู่เท่านั้น ทั้งสองอย่างในตู้ถูกมือใหญ่ดึงออกมารวดเร็ว แล้วเขาก็โยนส่งมาให้เธอคว้าไว้แทบไม่ทัน
“ไปอาบน้ำ” ชายหนุ่มสั่งเสียงห้วน ๆ เห็นไหล่บางของหญิงสาวห่อเข้าหากันสั่นอย่างหวาดกลัว “ทำไม ! กลัวพี่อย่างนั้นเหรอ ถ้ากลัวแล้วตามมาทำไม”
“เปล่าค่ะ วิมไม่ได้กลัวพี่คิน” หญิงสาวกอดผ้าขนหนูกับเสื้อคลุมไว้แน่นกับอก พลางตอบเสียงสั่นเครือ “พี่คินพาวิมไปไหนวิมก็ไปด้วยได้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“ขอให้มันจริงอย่างปากเถอะ กลัวว่าตัวมากับพี่ แต่ใจจะคิดถึงแต่ไอ้อาจารย์นั่นนะซิ”
“พี่คินยังไม่เชื่อใจวิมอีกเหรอคะ วิมมั่นใจว่าพี่ปั้นไม่ได้ทำอะไรวิมแบบนั้นแน่ พี่ปั้นเป็นสุภาพบุรุษพอนะคะ...”
“ขนาดบอกว่ายังไม่รู้เรื่องอะไร แต่กลับปกป้องให้เกียรติไอ้พี่ปั้นได้เต็มปาก พี่อยากจะรู้นักว่ามันไปทำอีท่าไหนให้ วิมถึงเชื่อว่ามันเป็นสุภาพบุรุษ อยู่บนเตียงด้วยกันขนาดนั้นอดใจไม่ทำอะไรไหวก็ให้มันรู้ไปซิ” พูดถึงตอนนี้ความหึงหวงและความโกรธกริ้วแล่นริ้วขึ้นสู่ใบหน้าคมเข้มจนแดงจัด เขาเดินมาบีบไหล่เล็กทั้งสองข้างแน่น วิมวิพาหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ
“วิมเจ็บนะ พี่คินจะฆ่าวิมหรือไง” เธอสะบัดเสียงต่อว่าหากไม่ดังนัก และพร่ำพูดเสียงระโหยอ่อนในประโยคถัดมา “เข้าใจวิม เชื่อใจวิมหน่อยไม่ได้หรือคะ ตอนนี้วิมต้องการความเชื่อใจจากพี่คินมากกว่าใคร ถ้าเพียงแค่คนที่วิมรัก เชื่อใจวิม ต่อให้คนอื่นจะมองยังไงวิมก็ไม่แคร์”
คฑาคินคลายมือออกจากไหล่ของหญิงสาว คำพูดของเธอทำให้เขาอยากจะใจอ่อนให้รู้แล้วรู้รอด แต่ศักดิ์ศรีบางอย่างที่ค้ำคออยู่มันบอกให้หัวใจอีกฝั่งของเขาต้องคัดค้าน
“ฟังแล้วซึ้งดี แต่ตอนนี้พี่ยังไม่อยากจะเชื่อ” เขาทำเสียงราวกับไม่แยแส ก่อนออกคำสั่งอีกครั้ง “ไปอาบน้ำ ดึกแล้วจะนอนไหม”
หญิงสาวอึกอัก หันไปมองห้องน้ำสลับกับหน้าชายหนุ่ม “แต่วิม...ไม่มีชุดเปลี่ยน”
“ก็ไม่ต้องใส่ ยังไงคืนนี้ก็ไม่จำเป็น”
คนได้ยินใจหล่นวูบ หมายความว่าไงเขาจะไม่ให้เธอใส่อะไรนอน วิมวิพาคิดได้แค่นั้นก็เหมือนคำตอบจะชัดเจน เมื่อมือใหญ่มาดึงทึ้งช่วยปลดเสื้อผ้าเธอออก
“พี่คินจะทำอะไร หยุดนะคะ”
“ก็พาไปอาบน้ำ ใจจริงก็ไม่อยากซ้ำรอยใครหรอกนะ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำก็จะต้องล้างคาวออกให้หมดซะก่อน”
น้ำใส ๆ จากตาคู่กลมไหลอาบแก้ม เขาไม่เชื่อใจเธอแล้วทำไมยังอยากจะรังแกเธออยู่อีก “ถ้ารังเกียจ คิดว่าพี่คินจะซ้ำรอยใคร พี่คินก็ปล่อยวิมซะไม่ต้องเข้าใกล้วิม”
“ทำไมหวงเนื้อหวงตัวกับพี่ จะเก็บไว้ให้ไอ้นั่นคนเดียวหรือไง”
“ก็พี่คินดูถูกวิม” มือเล็กปัดป้องร่างกายตัวเอง จากมือใหญ่ที่ยื้อแย่งปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก และเหมือนเธอเป็นผู้แพ้อย่างง่ายดายเหลือเกิน เพราะตอนนี้ผู้ชนะเหวี่ยงเสื้อผ้าของเธอกระจุยกระจายไปคนละทิศละทางของห้องนอนเรียบร้อยแล้ว
นัยน์ตาคมเต็มไปด้วยไฟพิศวาสเมื่อได้จ้องมองเรือนร่างนวลเนียนสะคราญอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก แบบที่ไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ปิดบัง วิมวิพากำลังทำให้ความเป็นชายของเขาตื่นเกร็งและจะทนกับความหิวกระหายนี้ไม่ไหว คฑาคินรีบอุ้มหุ่นสวยเย้ายวนเข้าไปในห้องน้ำ แม้ร่างนุ่มนิ่มจะพยายามดิ้นรนลงจากแขนแกร่ง แต่ใช่ว่าเป็นผลเพราะเธอได้ลงมายืนกับพื้นก็ตอนที่เขาตั้งใจวางเธอลงเท่านั้น คฑาคินเอื้อมมืออ้อมร่างแม่สาวไปเปิดฝักบัว เวลานั้นวิมวิพาแทบจะหยุดหายใจ ความเย็นของน้ำจากหัวฝักบัวโปรยพร่างกระทบลงบนผิวกายเปลือยเปล่า ก่อนจะรู้สึกอีกทีว่าอุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนเป็นอุ่นขึ้น
ชายหนุ่มที่ยังอยู่ในชุดทำงานเดิมครบถ้วน ยามนี้ได้เปียกปอนจากน้ำฝักบัวไปพร้อม ๆ กับหญิงสาวตรงหน้า เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดแรกจากด้านบนออก และไล่ไปเรื่อย ๆ โดยที่ก็ปล่อยให้สายน้ำไหลอยู่เช่นนั้น รู้สึกได้ถึงหัวใจตัวเองสั่นแรง เขากำลังตื่นเต้นราวกับเป็นเด็กหนุ่มที่กำลังจะได้หัดลองการมีสัมพันธ์รักครั้งแรกก็ไม่ปาน ความใจร้อนทำให้เขารู้สึกว่ากระดุมช่างปลดยากเย็นเหลือเกิน จนแทบอยากจะฉีกเสื้อผ้าตัวเองทิ้งไปเสีย และเพียงกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกได้ มือใหญ่ก็รีบเหวี่ยงเสื้อเชิ้ตตัวนั้นขว้างทิ้งอย่างไม่ดูดำดูดี เขาจับมือเรียวที่ป้องปิดหน้าอกอวบอิ่มนั้น มาโอบกอดเอวสอบของเขาไว้ ก่อนจะใช้มือใหญ่ของตนประคองเนื้อนุ่มหยุ่นแทนทันที เพียงสัมผัสแรกที่แตะลงบนหน้าอกเต็มตึงเบา ๆ ยอดติ่งตูมก็ทะยานชูชันเข้าหาฝ่ามือของเขาอย่างเต็มอกเต็มใจ คฑาคินกอบกุมทรวงอกสวยลูบเบา ๆ ก่อนลากผ่านปาดป่ายผิวกายขาวนวลลงมาตาความคอดกิ่วของเอว พร้อมกันนั้นก็แนบอกกว้างเบียดชิดร่างเพรียวบางติดกับผนังห้องน้ำ
ปากอวบอิ่มสีซีดที่กำลังจะอ้าประท้วง หากถูกปิดลงด้วยเรียวปากหนาเร็ว ๆ เขาแทรกลิ้นเข้าควานหาลิ้นเล็กของเธอราวกับหิวกระหายมาแสนนาน มือยังคงไล้เรื่อยทั่วกายสาว ผ่านหน้าท้องแบนราบและหยุดเคล้าคลึงสะโพกพาย ก่อนย้ายมือมาต้นขาด้านในใกล้จุดอ่อนไหวของเธอที่สุด
วิมวิพาเกร็งยะเยือก ขนลุกเกรียว แต่แปลกแทนที่เธอจะผละหนีจากเขา กลับกอดรั้งเบียดร่างกายเข้าหาอีกฝ่ายจนเนื้อชิดกันแนบแน่น พอเขาถอนจุมพิตเธอก็รีบซบหน้าลงกับไหล่แข็งแรงหนีความเขินอายระคนหวาดกลัว เธอไม่ทำแม้จะต่อต้านหรือตัดพ้อเขาสักคำ กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้ถูกชักนำไปตามอารมณ์หวามไหวที่ชายหนุ่มปลุกเร้าให้เสียอีก
“พี่คิน...จะทำอะไร...” รู้ตัวดีว่าไม่ใช่เด็กน้อย ที่ไม่เข้าใจความหมายของเพศตรงข้าม แต่กระนั้นก็กลับถามออกไปอย่างพาซื่อ
“ก็อาบน้ำให้ไงครับ” เสียงของเขาสั่นกระเส่าก็จริงแต่นุ่มนวลขึ้น ปากหนาประพรมจูบทั่วหน้าและซอกคอระหง มือของเขาก็ไม่หยุดนิ่งยังซุกซนเอาแต่ใจสำรวจทั่วร่างกายหญิงสาว ไม่มีสักจุดที่เขาจะยอมปล่อยให้หลุดลอดมิผ่านการจับต้อง “แล้วหลังจากอาบน้ำเสร็จ วิมก็จะรู้เองว่าพี่จะทำอะไรต่อ”
“ไม่นะคะ พี่คินอย่ารังแกวิมเลย” หญิงสาวเบือนหน้าหลบปากเย็น ๆ ที่ซุกไซ้ใบหูเล็ก เลื่อนมือมาผลักอกกว้างแกร่งที่เบียดชิดแทบจะกลืนกลายเป็นคน ๆ เดียวกันให้ห่างออกอย่างอ้อยอิ่ง
“พี่ไม่ได้รังแก แต่พี่กำลังจะทำให้วิมลืมผู้ชายทุกคน และจดจำได้เพียงคืนนี้กับพี่เท่านั้น”
คฑาคินไม่ได้แค่ขู่ เพราะหลังจากพูดจบ เขาก็เข้ารวบกอดร่างเย้ายวนไว้อีกครั้ง หาวิธีเล้าโลมเธอให้ตอบรับไฟเสน่หาที่ลุกโชนอย่างชำนาญ พร้อม ๆ กับปลดกางเกงของตนเองออกแล้วเขี่ยทิ้งอย่างไม่แยแส เพราะสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้มีเพียงเธอ ร่างงดงามนุ่มนวลในอ้อมกอดเท่านั้น เขามอบความสุขที่เกิดมาจากความรักและความโกรธให้แก่หญิงสาวจนร้อนระอุอยู่ใต้สายน้ำจากฝักบัวเป็นครั้งแรก เขาไม่ได้รุนแรงอย่างที่หญิงสาวกลัว หากประเล้าประโลมจนเธอยินยอมพร้อมพักอย่างเต็มใจ เธอตอบรับความสุขสมด้วยเสียงครวญครางหากฟังราวกับว่าเจ็บปวดเหลือเกิน และสัมผัสที่เขาได้รับในการฝากฝังแก่นกายลงไปอย่างยากเย็นนั้น ทำให้อยากจะคิดเหลือเกินว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ แต่ติดเพียงแค่ว่าถ้าเธอเป็นผู้หญิงจริง ๆ เขาคงคิดตามนั้นไปเรียบร้อยแล้ว
***--***--***--***--***--***--***
มือใหญ่ซุกซนที่วนเวียนลูบคลึงหน้าอกเต็มตึงของคนที่นอนอยู่ด้วยบนเตียงอย่างเอาแต่ใจ เมื่อคืนเขารู้สึกว่านี่แหละความสุขแท้จริง เขาช่างมีความสุขมากเหลือเกิน การได้มีหญิงสาวคนรักอยู่ใกล้ ได้ร่วมรักได้นอนกอดเธอไว้ทั้งคืนจนเช้าเป็นความสุขที่ยากหาอะไรเปรียบปราน และแม้พระอาทิตย์จะทอกระทบผ้าม่านแล้วก็ตาม เขายังคงไม่อยากจะปล่อยเธอให้ลุกจากเตียงนอนและออกห่างอ้อมกอดเลย ความโกรธที่ติดมาแต่ต้นเวลานี้เหมือนจะลืมเลือนจางหายไปด้วย เพราะการอยู่ด้วยกันสองต่อสองทำให้เขาอยากจะลืมทุกคนบนโลกนี้ และปัญหากระทบจิตใจออกไปให้หมดสิ้น
คฑาคินจูบหนัก ๆ ตรงขมับเล็กของคนที่นอนตะแคงหันหลังให้ มือใหญ่ก็ลูบไล้ผิวนวลเนียนไม่หยุด “ตื่นแล้วเหรอครับ ไปอาบน้ำด้วยกันกับพี่นะ”
“ไม่ค่ะ เดี๋ยวพี่คินก็รังแกวิมอีก” คนที่นอนหันหลังให้ จับมือใหญ่ที่รุกรานกายสาวจนขนลุกเกรียวให้หยุด เธอดึงมือเขาออกจากตัวช้า ๆ พร้อมขยับออกห่าง
“จะในห้องน้ำ หรือบนเตียง พี่รังแกวิมได้อยู่ดีนั้นแหละ พี่จะไม่ยอมให้วิมมีเวลานึกถึงผู้ชายคนอื่น”
หญิงสาวพลิกตัวหันมามองหน้าคนที่เท้าศอกอยู่เหนือร่าง “เรื่องเมื่อคืน พอทำให้พี่คินเชื่อวิมไม่ได้อีกเหรอคะ ว่าวิมเออ...” เก้อกระดากใจเหมือนกันที่จะพูดออกไป ว่าเขาเป็นคนแรกของเธออย่างแน่นอน เพราะความรู้สึกปวดหนึบตามร่างกายยามนี้เพราะฝีมือเขา เธอแน่ใจว่าไม่เคยรู้สึกเจ็บแปลก ๆ แบบนี้มาก่อน
“พี่ก็อยากจะเชื่อ ว่าพี่คือผู้ชายคนแรกของวิม...”
“อยากจะเชื่อแล้วทำไมไม่เชื่อละคะ หรือว่าพี่คินไม่รู้ บอกวิมมาซิคะว่าพี่คินไม่รู้จริง ๆ ว่าวิม...บริสุทธิ์”



กันเหงา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ค. 2555, 17:55:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.ค. 2555, 17:55:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1432





<< ตอนที่ 29 เล่ห์สลับขั้ว   ตอนที่ 31 เล่ห์สลับขั้ว >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account