เรือนกุหลาบ
กุหลาบแสนสวยดอกนั้น ช่างแสนดี เป็นที่รักเทิดทูนบูชาของหล่อนสุดหัวใจตั้งแต่เล็กจนโต..หญิงสาวไม่รู้เลย ว่าเบื้องหลังกุหลาบสีสวยนั้นซ่อนคมหนามไว้มิดชิด..เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหล่อนทุกวิถีทาง!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๒๖ ความเข้าใจ ๒/๒

กวินกอดกระชับร่างหญิงสาวแน่นขึ้น เอามือประคองศีรษะหล่อนให้พิงกับบ่าเขา ก่อนจะเลื่อนลงมาบีบมือเย็นเฉียบของหล่อน ร่างบางในอ้อมแขนค่อยคลายจากอาการสั่นเทิ้ม ทว่าเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่ภายใน

กวินเอนกายพิงผนังไม้กระดาน พยายามทำเสียงสดใส เพื่อสร้างกำลังใจให้มุกดา
“ไม่ต้องกลัวนะไข่มุก..เราต้องรอด..เรื่องจะไม่จบแบบเดียวกับความฝัน”

จากที่กำลังห่อตัวนั่งโรยแรงพิงหลังกับฝา มุกดารีบดีดตัวตรง เงยหน้าถามเขาเสียงดัง ให้แน่ใจว่าหล่อนไม่ได้หูฝาดไปเอง

“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ..ความฝันหรือ?”
กวินรีบเอามือปิดปากหญิงสาว กลัวจะได้ยินไปถึงคนด้านนอก

“เรียกความฝัน..คงไม่ถูกทีเดียวหรอก เพราะมันอาจเป็นความจริงที่เราต่างหลงลืม”
เขาเห็นนัยน์ตาสกาวใสคู่นั้นมีน้ำรื้นปริ่มขึ้นมา หล่อนมองเขาแน่วนิ่ง พูดอะไรไม่ออก

“ตอนเด็กๆ พี่เคยคิดว่ามันเป็นเพียงความฝันฟุ้งซ่าน แต่ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งต้องยอมรับ..” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ทอดมองหญิงสาวอย่างอ่อนโยน เป็นสัมผัสทางกระแสตาที่เขาเคยมอบให้หล่อน แล้วกลับเปลี่ยนไปในช่วงเวลาหนึ่ง มุกดาโหยหาอยู่ลึกๆ หวังว่าสักวันหนึ่ง..เขาจะกลับมามองหล่อนด้วยสายตาแบบเดิม แล้วเวลานี้เขาก็มอบสิ่งนั้นให้สมความต้องการ

มุกดารู้สึกเหมือนมีน้ำตกใสเย็นรินรดกลางใจ แล้วแผ่ซ่านออกไปทั่วเรือนกาย หล่อนเป็นสุขอย่างยิ่ง แม้สถานการณ์ที่กำลังเผชิญ มิอาจรับประกันถึงวันพรุ่งนี้..ว่าจะมีสำหรับหล่อนและเขาอยู่อีกไหม

“ความฝัน..ไม่มีทางปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวได้ขนาดนั้น พี่เห็นเด็กหญิงตัวกระจ้อยร่อย หน้าตาน่ารัก..แล้วก็ได้รู้จัก ว่าเธอชื่อ..หนูลิ”

กวินค่อยๆระบายสิ่งที่เคยเป็นความลับ อัดอั้นตันใจมานานแสนนาน เขาไม่ถอนสายตาไปจากหญิงสาวในอ้อมกอดเลยแม้แต่วินาทีเดียว มุกดาฟังถึงตรงนี้ หล่อนก็เริ่มมีหยดน้ำรินลงสองพวงแก้ม

“ได้เห็นเธอเติบโต เป็นสาวสะพรั่ง สวย..หวาน..อ่อนโยน แล้วก็ใสซื่อเหมือนตอนนี้ไม่มีผิด..จำได้ว่าเธอชอบกุหลาบสีขาว คิดเป็นจริงเป็นจังถึงขนาดขอร้องให้คุณแม่เอาดอกกุหลาบสีขาวมาปลูกทั้งในบ้าน แล้วก็ที่ทำงาน ตอนนั้นพี่กำลังจะไปเรียนต่อที่ซานฟรานฯ ยิ่งใกล้จากบ้านเกิดเท่าไหร่ ความฝันยิ่งชัดเจน ต่อเนื่องมากขึ้นเท่านั้น..ผ้าเช็ดหน้าที่ไข่มุกคืนให้ พี่ยังพกติดตัวตลอดเวลา พร่ำเพ้อกระทั่งตอนที่อยู่ต่างประเทศ...ไม่เคยลืมวันแรกที่เราเจอกัน ทั้งในฝัน และความจริง..พี่เหมือนคนบ้า ทั้งที่ไม่พบหน้ากันตั้งหลายปี แล้วก็ไม่มีหวังจะได้พบ ยังไงก็หยุดคิดถึงภาพวันเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมาวนเวียนอยู่อย่างนั้น”

มุกดายกมือขึ้นปาดน้ำตา พยายามกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ทำไม่ได้จนแล้วจนรอด หล่อนตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้มแข็งมากกว่าเก่า ทว่าเวลานี้มันเหลือฝืนเต็มที

“ขอให้พี่ได้ระบายเถอะนะ..ไหนๆเราก็ต้องอยู่ในนี้กันสองคน ถ้าพี่นึกหาหนทางออกไปได้เมื่อไหร่ จะไม่พูดถึงมันอีกเลย”
“พูดเถอะค่ะ..ไข่มุกอยากฟังจนจบ”

มุกดาบอกเขา พร้อมระบายยิ้มน้อยๆ หล่อนแนบแก้มลงบนไหล่ของกวินอีกครั้ง

“พี่ฝันถึงเรื่องของเราจนกระทั่งเรียนจบ คืนสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย..ทำให้พี่ตื่นขึ้นมา ด้วยความรู้สึกร้อนวูบไปหมดทั้งตัว เหงื่อโชกราวกับอาบน้ำ..รู้ไหมเพราะอะไร”

ชายหนุ่มก้มลงถามหญิงสาวในอ้อมแขน เห็นหล่อนสั่นศีรษะให้แทนคำตอบ ดวงตากลมใสระยิบระยับท่ามกลางแสงจากโคมไฟสลัวราง มันทำให้นึกถึงภาพที่ศาลาริมน้ำ เมื่อเขาไปเยี่ยมเยือนเรือนกุหลาบครั้งแรก นิลเจียระไนน้ำงามคู่นี้ประทับลงในใจของเขาตั้งแต่นั้นมา และไม่เคยลบออกจากความทรงจำได้เลย แม้จะพยายามสักเพียงไหน

“พี่ฝันถึงตอนจบของเรา..ที่บ้านพักริมหาด เราถูกหลอกให้มาพบกัน แล้วก็ตายด้วยกันในกองเพลิงนั้นเอง”
“คุณวินจำได้..จำได้จริงๆหรือคะ ที่ผ่านมาไข่มุกไม่ได้ฝันไปเองข้างเดียว”
มุกดาย้ำถามเสียงรัว หล่อนรู้สึกว่าหัวอกโล่งเบา ไม่มีสิ่งใดคาใจอีกแล้ว เมื่อได้รู้ความจริงว่าเขา..ก็ “ฝัน” แบบเดียวกับหล่อนมาโดยตลอด

“เรียกพี่วินได้ไหม..มันฟังดูห่างเหิน”
เขาทำสายตาอ้อนหล่อนเหมือนเด็ก เป็นสายตาชนิดที่หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อน

“พี่จะลืมได้ลงคอเชียวหรือ..อุตส่าห์อธิษฐานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้น ต้องให้บอกไหม..ว่าพี่ขอว่ายังไง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ..ไข่มุกจำได้”
มุกดาหลุบตาลงต่ำ สีเลือดฉีดขึ้นสองแก้ม กวินมองกิริยานั้นอย่างนึกเสียดาย

“ชาตินี้พี่คงไม่มีหวังเหมือนชาติก่อน..ไข่มุกมีคนอื่นเสียแล้ว ไม่ยอมรอกันบ้างเลย”
มุกดาขมวดคิ้วฉงน เมื่อได้ยินถ้อยความในท้ายประโยค

“พี่วินพูดเรื่องอะไรคะ..ไข่มุกมีใคร?”
กวินยิ้มสมเพชตัวเอง

“ไข่มุกทำท่าตกใจได้แนบเนียนมากจ้ะ ไม่ต้องปิดพี่หรอก จนป่านนี้แล้ว”
มุกดาสั่นศีรษะจนเส้นผมปลิวกระจายเต็มพวงแก้ม

“ไข่มุกไม่ได้ทำท่า..ไม่เข้าใจจริงๆว่าพี่วินกำลังหมายถึงอะไร”
“ต้องให้เอาหลักฐานมายืนยันใช่ไหม..ได้ พี่ตั้งใจจะคืนให้นานแล้ว แต่ไม่มีโอกาส วันนี้จะเอามาให้ไข่มุก ก็พอดีคลาดกัน”

โปสการ์ดขนาดกะทัดรัดถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง กวินฝืนถามเสียงสดใส
“จะแต่งกันเมื่อไหร่..อย่าลืมบอกพี่เป็นคนแรกนะ”

มุกดารีบดึงกระดาษแข็งสีสวยแผ่นนั้นมาจากมือชายหนุ่ม ด้านหนึ่งมีภาพมุมสูงของวัดพระแก้วล้อมกรอบท้องฟ้าสีสด พลิกกลับอีกด้าน มีข้อความบันทึกไว้หวานหยด พร้อมรูปถ่ายหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวยืนโพสต์ท่าราวกับนายแบบ

“ไข่มุกคงไม่ได้ตั้งใจแนบมากับ Portfolio เล่มนั้นใช่ไหม..คงเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า”
มุกดามองข้อความภาษาอังกฤษในนั้น ซึ่งเขียนคล้ายลายมือของหล่อนด้วยความตกตะลึง แปลเป็นไทยตรงใจความสำคัญได้ว่า..

ไมเคิล..ฉันรอคุณอยู่เสมอ รอถึงวันที่เราจะได้แต่งงานกันเสียที..กลับมาหาฉันเร็วๆนะ ที่รัก
“คล้ายลายมือไข่มุกมากค่ะ..”

กวินหัวเราะขันกับคำกล่าวของหล่อน

“ก็ไข่มุกเขียนเอง จะให้คล้ายลายมือใครที่ไหน”

มุกดาเลื่อนสายตาออกจากกระดาษแผ่นนั้น ส่ายศีรษะช้าๆ เอ่ยเสียงเครียด

“ไม่ใช่ค่ะ..มีคนลอกเลียนลายมือไข่มุก..เขียนได้คล้ายมาก..แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว!”

เสียงหัวเราะของกวินหยุดชะงักลงทันที ทั้งสองมองหน้ากันแล้วนิ่งไปพักใหญ่ ไม่มีใครทันเอ่ยถามอะไรกันอีก เสียงแม่กุญแจถูกปลดล็อกก็ดึงความสนใจขึ้นมากลางครัน

ประตูถูกเปิดออก ยายแหวนรีบก้าวเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้า ก่อนจะรีบระล่ำระลักบอก
“พ่อหนุ่ม..นังหนู รีบหนีไปเร็วเถิด ก่อนที่ไอ้เสี่ยนั่นจะกลับมาทัน”
เมื่อเห็นคนทั้งสองยังยืนนิ่ง จ้องหน้าตนอย่างไม่ไว้ใจ หญิงสูงวัยก็รีบอธิบาย

“ยายเห็นนามบัตรในกระเป๋า..หนูเป็นญาติแพรวาใช่ไหม เป็นลูกสาวคุณตระการรึเปล่า”
มุกดาพยักหน้าทั้งที่ยังงุนงงไม่หาย

“รีบหนีไปเถิด หนูเอ๊ย ยายรู้จัก และนับถือคุณพ่อของหนูยิ่งกว่าญาติแท้ๆ ยายทนไม่ได้ หากหลานอีกคนของยาย ต้องไปเป็นนางบำเรอใคร หนีไปเร็วเข้าซี!”

ยายแหวนร้องบอก ในขณะที่มุกดายังตั้งตัวไม่ติด
“รีบไปกันเถอะไข่มุก ยายเขาพูดจริงรึเปล่าไม่สำคัญ โอกาสมาถึง ก็ต้องรีบคว้าไว้ ”

กวินตั้งสติได้ก่อน จึงกระซิบเตือนหญิงสาว พร้อมกับคว้าข้อมือหล่อนแล้วรีบพาเดินออกจากห้องอับแห่งนั้น

“เราจะไปยังไงกันคะ”

มุกดาหยุดชะงักอยู่กลางลำเรือ เมื่อพบว่ามันแล่นออกมาจากฝั่งเสียแล้ว

“ว่ายน้ำเป็นไหมแม่หนู..”

ยายแหวนเดินพาร่างโรยแรงของตนมาหยุดอยู่เบื้องหลัง เอ่ยถามเสียงแหบพร่า

“เป็นค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าตอบ ก่อนจะเบิกตากว้าง

“ยายจะให้เราว่ายน้ำหนีไปยังงั้นหรือคะ..”
“ไม่ไกลหรอกนังหนู ยายบอกให้ตำรวจสองคนนั่นไปเอาเรือจากฝากกระโน้นมารับแล้ว อีกประเดี๋ยวคงเจอกันกลางทาง..”

หญิงสูงวัยชีนิ้วไปยังท้องน้ำเบื้องขวา เห็นเรือลำเล็กแล่นมาจากที่ไกล
“นั่นไง..มากันแล้ว”

มุกดาขยับจะถามว่า ตำรวจสองคนนั้นคือใคร แล้วเสี่ยวิฑูรย์หายไปไหนเสียแล้ว กวินก็ฉุดข้อมือหล่อนให้เดินตามเขาออกมา

“แล้วพี่วินว่ายน้ำเป็นหรือคะ”
มุกดารั้งแขนเขาไว้ เมื่อเห็นกวินทำท่าจะพาหล่อนกระโดดข้ามขอบเรือลงไปในน้ำ

“ผู้ชายอกสามศอก..ว่ายน้ำไม่เป็นอายเขาแย่เลย พี่ไม่ใช่นายปรัชตอนเด็กๆเสียหน่อย..มาเถอะ เรือนั่นใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าไข่มุกไม่ไหวเกาะพี่ไว้แน่นๆก็แล้วกัน”












------------------
พรุ่งนี้ก็ตอนจบแล้วนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านค่ะ



ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2555, 00:22:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2555, 00:22:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1644





<< บทที่ ๒๖ ความเข้าใจ ๑/๒   บทที่ ๒๗ ฉากสุดท้าย ๑/๒ >>
หมีสีชมพู 22 ก.ค. 2555, 00:42:39 น.
เข้ามาลุ้นค่ะ ว่าจะรอดรึเปล่า


แล่นแต๊ 22 ก.ค. 2555, 01:05:54 น.
พี่วินพาไข่มุกหนีไปให้ได้นะ


เดิมเดิม 22 ก.ค. 2555, 08:35:23 น.
แล้วยายแหวนหล่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account