ปีกนางฟ้า (Angel Wing)
เมื่อ สิ่งที่ เรียก ว่า "โชคซะตา" ที่ เรา ทุก คนเชื้อมา ตลอดว่า เราเป็นผู้ กำหนด เส้นทางของเราเอง แต่ ทว่า สิ่งที่ เราทำได้ กลับมี เพียง แต่ เดินไป ตามเส้นทางของ โชคซะตา ที่ถูกกำหนดมาให้เรา แล้ว
Tags: เวทมนตร์.วิญญาญ.ยมทูต.เทวทูต.ความดี.ความเลว.รักหวานซึ้ง
ตอน: The Book Of Darkness V
ดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้าจากไป ดวงจันทราปรากฏขึ้นแทน พาทุกสรรพสิ่งเข้าสู่นิทราอีกคราว เมื่อถึงเวลานัด มาครอส,ราทารี่,เจราส ก็มาตรงเวลา รีฟอสเดินไปนั่งโต๊ะตัวที่พวกมาครอส นั่งกันอยู่ แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ
“ได้ข้อมูล อะไรมาบ้างไหมครับ” พร้อมๆกับหันมองทุกคน มาครอสตอบด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดเป็นคนแรก
“ไม่ได้ข่าวอะไร เลย” ราทารี่มองหน้ารีฟอสแล้วตอบด้วยท่าทางผิดหวัง
“เหมือน กัน รู้แต่เพียงว่าหนังสือ อยู่ในเมืองนี้เท่านั้นเอง” รีฟอสมองมาทาง เจราส เจราสแค่ส่ายหน้า ชั่วครู่หนึ่งมาสเตอร์ก็เดินมาหารีฟอสพร้อมกับ ยื่นกระดาษให้ 2-3 แผ่น ราทารี่กล่าวทักทายมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็ยิ้มรับ เมื่อส่งของให้รีฟอสแล้วมาสเตอร์ก็เดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ รีฟอสตั้งหน้าตั้งตาอ่านกระดาษที่มาสเตอร์นำมาให้สักพักหนึ่ง แล้วก็เรื่มบอกกับทุกคน
“รู้แล้ว ว่า หนังสือ อยู่ที่ไหน” ทุกคนต่างจ้องมองรีฟอสเพื่อรอฟังคำตอบ
“อยู่ที่ คฤหาสน์ เคานต์ โรมานอฟ เมจาวาล” ทุกคนต่างทำท่าทางตกใจ แล้วถามรีฟอสด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“นายแน่ใจ นะว่า ข่าวไม่ผิดพลาด” รีฟอสหันมองราทารี่พร้อมๆกับพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ
“เธอ ก็ น่าจะรู้นี่ ว่าข่าวจากมาสเตอร์แน่นอนแค่ไหน” ราทารี่หันมองไปทางมาสเตอร์ที่กำลังจัดของอยู่หลังเคาน์เตอร์ ก็ถอนหายใจ แล้วเงียบไป รีฟอสจึงพูดต่อ
“มีใคร จะถอนตัวมั้ย” ทุกคนต่างเงียบ มาครอสหันมองทุกๆคนแล้วพูดขึ้น
“พวกนายจะ บ้าไปแล้วหรือไง” “คฤหาสน์โรมานอฟ มี เวรยามแค่ไหน ไม่รู้หรือไง” แล้วหันมองมาทาง
รีฟอส พร้อมๆกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเหมือนคนสติแตก
“ไหน ถ้าถูกจับได้ อีก” “พวกเราได้ ตายกันหมดแน่” ราทารี่จ้องมองมาครอสที่กำลังจะสติแตก ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“หรือ ว่านาย จะถอนตัว” รีฟอสมองมาครอสที่นั่ง ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“มาครอส ตกลงว่า นายจะถอนตัวใช่มั้ย” เมื่อมาครอสได้ยินที่ รีฟอสถามก็ตั้งสติขึ้น
“ถ้าพวกนาย ไม่กลัว มีหรือฉันจะกลัว” เมื่อรีฟอสเห็นทุกคนพร้อมจะรับฟังต่อแล้วจึงพูดต่อ
“จากข้อมูลของมาสเตอร์ ระบุว่า” “เคานต์โรมานอฟ ได้นำ “หนังสือแห่งรัตติกาล” มาเก็บไว้ที่คฤหาสน์ของตนเอง” พอรีฟอสพูดจบราทารี่ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย
“แล้วหนังสือเล่มที่ ว่า นี้มันมีค่าตรงไหน” ทุก คนต่างรอฟังคำตอบจากรีฟอส รีฟอสหันมองราทารี่แล้วส่ายหน้า เป็นเชิงบอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อมาครอสเห็นเช่นนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด
“เยี่ยม พวกเราเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อหนังสือไร ค่าเล่มเดียวนี่นะ” ทุกคนต่างได้ยินสิ่งที่มาครอสพูดขึ้นแต่ทุกคนก็ทำท่าทางเฉยๆ
“เราจะลง มือกันในคืนมะรืนที่จะถึงนี้” ทุกคนต่างเงียบไม่มีข้อโต้แย้ง รีฟอสจึงพูดต่อ
“ขอ ให้ทุกคนมาเจอกันที่บาร์นี้ ก่อน” “เราจะลงมือหลังระฆังตีบอกเวลา” ทุก คนต่างหยักหน้ารับ แล้วทยอยกันลุกขึ้น เดินออกจากบาร์ไป เมื่อทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว รีฟอสจึงเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์ เมื่อมาสเตอร์เห็นรีฟอสนั่งอยู่ ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้าง จ๊ะ” เมื่อรีฟอสได้ยิมที่มาสเตอร์ถามก็ยิ้มรับ
“ผมอยากได้ แผนผังคฤหาสน์ โรมานอฟ” “มาสเตอร์พอจะหาได้หรือเปล่าครับ” มาสเตอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
“ได้สิจ๊ะ แล้วพวกเธอจะลงมือกัน วันไหน จ๊ะ”
“คืน มะรืนนี้ ครับ” มาสเตอร์จ้องมองรีฟอสด้วยสายตาเป็นห่วง
“รีฟอส จ๊ะ เธอรู้ไหมว่า โรมานอฟ เป็นคน ยังไง” เมื่อได้ยินที่มาสเตอร์ถามรีฟอสก็พยักหน้ารับ
“ได้ยินข่าวลือ ว่าเขาเป็นคนที่น่ารังเกลียด ครับ” มาสเตอร์มองรีฟอสแล้วถอนหายใจแล้วพูดต่อด้วยท่าทางเป็นกังวนจนรีฟอสสังเกตได้ชัด
“เขา เป็นคน ที่อำมหิต และ คนอย่างเขาก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้คนที่ขโมยของของเขาไปง่ายๆหรอก จ๊ะ”
รีฟอสได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์เตือนก็พูดขึ้น
“แต่ว่า.....” มาสเตอร์ก็พูดขึ้นขัดซะก่อน
“จ๊ะ ฉันห้ามเธอไม่สำเร็จ อยู่แล้วจ๊ะ” พร้อมๆ กับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน มาสเตอร์ขอให้รีฟอสนอนที่นี่ เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว รีฟอสก็ไม่อยากขัดใจมาสเตอร์จึงตกลง แล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง รีฟอสเดินผ่านห้องของเทียน่า แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องที่อยู่ถัดจากห้องของเทียน่าไป เมื่อรีฟอสเดินผ่านประตูเข้ามาก็เห็นสภาพภายในห้อง มีเตียงอยู่ติดผนังของห้อง มีชั้นหนังสือ และตู้ อยู่อีกข้างหนึ่ง มีบานหน้าต่างอยู่ใกล้ๆกับหัวเตียง รีฟอสเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างออก สายลมพัดเข้ามากระทบกับใบหน้าของรีฟอส แล้วเงยหน้าขึ้นมอง ดวงจันทร์ ที่คืนนี้ถูกหมู่เมฆยาวราตรีบดบังแสงสว่าง รีฟอสเดินกลับไปที่เตียงแล้วเอนตัวลงนอน ในยามราตรีอันเงียบสงัด
รี ฟอสรู้สึกว่าตนเองกำลังเดินอยู่ที่ไหนสักแห่ง เป็นทุกดอกไม้หลากหลายสีสันขึ้นอยู่มากมาย เบื้องหน้ารีฟอส มีสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ นางมีผมสีทองยาวสลวย กำลังยืนส่งยิ้มให้อยู่ ด้านหลังของนางนั้น มีบุรุษหนุ่มผมยาวดำสลวยยืนพิงหลังนางอยู่ สตรีนางนั้นยื่นมือมาหารีฟอส พร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รีฟอสยื่นมือไปหมายจะจับมือสตรีนางนั้น
“รีฟอส” “รีฟอสนายตื่นหรือยัง” รี ฟอสลืมตาขึ้น แล้วพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง มองแสงแดดสาดส่องรอดผ่านเข้ามาภายในห้อง แล้วหันกลับไปมองบานประตูที่มีสียงเรียกดังขึ้น รีฟอสลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู เมื่อเปิดประตูออก ก็พบว่า เทียน่ายืนอยู่หน้าห้อง เทียน่ายืนมองรีฟอสที่เปิดประตูออกมา แล้วยื่นเสื้อผ้า กับผ้าเช็ดตัวให้ แล้วรีบเดินลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้รีฟอสยืนงงอยู่คนเดียว รีฟอสเดินออกจากห้องไปยังห้องน้ำ แล้วจัดการธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จแล้วก็เดินลงไปชั้นล่าง ด้านล่าง มาสเตอร์ และ เทียน่า กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ รีฟอสจึงรีบเดินเข้าไป
“มีอะไรให้ช่วย ไหมครับมาสเตอร์” มาสเตอร์หันมองรีฟอสที่กำลังเดินเข้ามาใกล้
“ใกล้จะเสร็จ แล้วจ๊ะ” เมื่อพูดจบก็จัดของบนโต๊ะก็ต่อ
“เมื่อคืนหลับ สบายไหมจ๊ะ” รีฟอสเดินไปนั่งที่โต๊ะพร้อมๆกับตอบคำถามของมาสเตอร์
“ครับ” มาสเตอร์ ยิ้มรับ ทั่งสามคนนั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน รีฟอสสังเกตว่าสายมากแล้วทำไมมาสเตอร์ยังไม่เปิดร้านจึงถามมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็บอกว่า “วันนี้ปิดร้าน แล้วจะไม่อยู่ร้านด้วย” เมื่อ รีฟอสได้ยินที่มาสเตอร์บอกก็พอจะเดาได้ว่ามาสเตอร์จะไปไหน มาสเตอร์จ้องมองรีฟอสและเทียน่า ก็เสนอให้ทั้งสองคน ไปเดินเล่นในตัวเมืองแล้วเย็นๆค่อยกลับมา รีฟอสก็พยักหน้าเห็นด้วย หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเทียน่ากับรีฟอสก็เดินออกจากร้านไป
ระหว่าง ทางรีฟอสหันมองเทียน่า เทียน่าอยู่ในชุด เสื้อแขนยาวสีชมพู กางเกงขายาวสีดำ ผมที่ยาวสลวยถูกเกล้าไว้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อเทียน่าหันมองสบตากับรีฟอสก็หันหน้าหนีทันที รีฟอสจ้องมองเทียน่าด้วยท่าทางงงๆ
“เป็นอะไรไป เทียน่า” เทียน่าได้ยินที่รีฟอสถามก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเขินๆ
“เปล่า ฉันแค่อยากรู้ ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน” รีฟอสจ้องมองเทียน่าที่กำลังยืนหน้าแดงอยู่ ก็ หันมองไปทางอื่นแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เขินเช่นกัน
“เธอก็น่า จะรู้นี่” เทียน่าคว้าแขนรีฟอสแล้วขยับมายืนตรงหน้ารีฟอส
“ก็ ฉันอยากได้ยินจากปากเธอ นี่” รี ฟอสจ้องมองผู้หญิงที่ยืน อยู่เบื้องหน้า ตนเองในยามนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน ใบหน้าที่ขาวได้รูป ดวงตาสีฟ้าคู่งานที่กำลังจดจ้องรีฟอสเพื่อรอฟังคำตอบ รีฟอสขยับเข้าไปใกล้ๆเทียน่าแล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ฉันเอง ก็รัก เธอ และจะไม่มีสิ่งใดมา พรากเราทั้งคู่” เมื่อ เทียน่าได้ยินคำตอบของรีฟอส ก็ยกมือขึ้นปิดปากตนเองพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้าคู่งามจนอาบ แก้มสีขาวอมชมพูทั้งสองข้าง แล้วเอนตัวเข้ากอดรีฟอส รีฟอสยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนแก้มของเทียน่าพร้อมๆกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน และทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันเข้าไปในตัวเมือง ทั้งสองคนเดินเที่ยวเล่นกันจนเพลิน เมื่อรู้ตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็กำลังจะลับลาขอบฟ้าไป รีฟอสและเทียน่ามานั่งพักกันอยู่ที่บริเวณขอบสระน้ำของรูปปั้นเทพธิดา เทเรซ่า และ แคล์ เทียน่าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่บัดนี้กลายเป็นสีส้ม พร้อมกับพูดขึ้นลอยๆ
“ช่วงเวลาแห่งความสุข มักจะผ่านไปเร็วเสมอเลยนะ” เมื่อ รีฟอสได้ยินเช่นนั้นก็ บอกให้เทียน่านั่งคอยอยู่นี่ก่อน แล้วตัวเองก็รีบเดินเข้าไปในร้านขายดอกไม้ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ สักพักหนึ่งรีฟอสก็เดินออกมาจากร้านขายดอกไม้มานั่งลงข้างๆเทียน่าตามเดิม แล้วบอกให้ เทียน่าแบมือออก รีฟอสนำของที่ชื้อมาจากร้านดอกไม้วางลงบนมือของเทียน่า แล้วจับมือของเทียน่าให้กำของสิ่งนั้นไว้ แล้วบอกให้เทียน่าหลับตาลง
เทีย น่าก็ทำตาม สักพักหนึ่งก็ปล่อยมืออกจากเทียน่าแล้วบอกให้เทียน่าลืมตาขึ้น เทียน่าค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมๆกับจ้องมองสิ่งของที่อยู่ในมือตนเอง เป็นลูกแก้วใสๆข้างในมีก้อนผนึกสีฟ้าส่องแสงสว่างออกมา จากลูกแก้วทั้งสองลูก แล้วหันมองรีฟอสด้วยท่าทางสงสัยว่า สิ่งนี้คืออะไร รีฟอสหยิบลูกแก้วลูกหนึ่งบนมือเทียน่าไปพร้อมๆกับอธิบายขึ้นว่าสิ่งนี้คือ อะไร
“สิ่งนี้เรียกว่า “ดอกไม้แห่งคำมั่นสัญญา” ” เทียน่ามองรีฟอสด้วยสีหน้าแปลกใจ
“มัน จะเติบโตโดนการกินความรักของคู่รักคู่นั้น หากคนใดคนหนึ่งหมดรัก” “ผลึกสีฟ้าที่อยู่ด้านในก็จะหม่นแสงลงทันที” เมื่อ เทียน่าได้ฟังสิ่งที่รีฟอสพูดก็หยิบลูกแก้วใสขึ้นมาดูในระดับสายตา แล้วสังเกตเห็น ว่าผนึกสีฟ้าที่อยู่ด้านในลูกแก้วแตกออกจากกันอยู่ตลาดเวลา แต่ทว่าขนาดของผลึกกลับไม่ลดลงเลย และแสงสีฟ้าของผลึกก็ยังคงสว่างสดใสอยู่ตลอดเวลา เทียน่าลุกขึ้นแล้วมายืนอยู่ที่ตรงหน้ารีฟอส แล้วก้มลงหอมแก้มรีฟอส
“ขอบ คุณ นะ” ด้วย น้ำเสียงที่เสียงที่มีความสุขก่อนจะเดินไป รีฟอสยกมือขึ้นสัมผัสแก้มข้างที่โดนเทียน่าหอม แล้วมองเทียน่าที่กำลังเดินไป ก็ยิ้มขึ้นแล้วลุกเดินตามเทียน่าไป ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ราตรีเริ่มเข้ามาเยือนหมู่ดวงดาวบนท้องนภาเริ่มส่องแสงสว่างอีกคราว
เมื่อ รีฟอส และเทียน่า กลับมาถึงร้านก็เห็นไฟในร้านเปิดอยู่ จึงเปิดประตูเข้าไปภายในร้านแต่กลับไม่เห็นมีใครอยู่ในร้าน มาสเตอร์เมื่อได้ยินเสียงมาจากหน้าร้านก็เดินออกมาดู ก็พบว่ารีฟอสและเทียน่ากำลังเดินเข้ามาภายในร้าน มาสเตอร์ก็เอ่ยทักขึ้น
“เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ เดทกันสนุกมั้ยจ๊ะ” เมื่อเทียน่าได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์แซวขึ้นก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเขินๆ
“เดท เดิด อะไรกันค่ะ คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้” เมื่อ พูดจบเทียน่าก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน รีฟอสยืนมองเทียน่าที่กำลังวิ่งขึ้นไปที่ชั้นบนด้วยสายตาที่อ่อนโยน แล้วเดินเข้ามาหามาสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังร้าน ที่กำลังเตรียมอาหารมื้อเย็นอยู่
“มีอะไรให้ช่วย มั้ยครับ” มาสเตอร์หันมองรีฟอสที่ยืนอยู่
“เธอ ช่วยไปจัดโต๊ะหน่อยได้ มั้ยจ๊ะ” รี ฟอสพยักหน้ารับแล้วเดินออกมาจากหลังร้าน หลังจากที่รีฟอส จัดโต๊ะ และมาสเตอร์ทำอาหารเสร็จแล้ว เทียน่าก็เดินลงมาพอดี ขณะที่กำลังทานอาหารกันอยู่มาสเตอร์ก็เอ่ยถามรีฟอสขึ้นมา
“รีฟอสจ๊ะ เธอน่าจะย้ายมาอยู่กับเราที่นี่นะจ๊ะ” รีฟอสมองมาสเตอร์ที่กำลังมองตนเองอยู่
“ขอบคุณครับ แต่...” ยังไม่ทันที่รีฟอสจะทันได้พูดมาสเตอร์ก็พูดขึ้นขัดซะก่อน
“เธอไม่ต้องคิดมากหรอกจ๊ะ ฉันเองก็คิดว่าเธอเป็นเหมือนกับลูกฉันอีกคนหนึ่งเลยนะ จ๊ะ” แล้วยิ้มให้กับ
รีฟอสอย่างอ่อนโยน
“เทียน่าก็คิดว่าดี ใช่มั้ยจ๊ะ” แล้ว หันมองมาทางเทียน่า เทียน่าได้ยินที่มาสเตอร์ถามก็หันมองมาทางรีฟอส เมื่อมองสบตากับรีฟอสก็หน้าแดงขึ้นจนต้องก้มหน้าลง เพื่อหลบสายตาของรีฟอส แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเขินๆ
“แล้วแต่ รีฟอสเขาล่ะค่ะ คุณแม่” รี ฟอสหันมองมาสเตอร์และเทียน่าที่กำลังรอฟังคำตอบอยู่ เม็ดฝนก็ล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า กระเด็นเข้ามาในร้าน มาสเตอร์จึงขอให้ทั้งสองคนช่วยกันปิดหน้าต่าง เมื่อปิดเสร็จแล้ว มาสเตอร์และเทียน่าก็ช่วยกันเก็บโต๊ะ เมื่อเสร็จแล้วทั้งสองคนก็เดินไปหลังร้าน รีฟอสเดินตามไปหวังจะช่วยมาสเตอร์และเทียนน่าจัด การจามชามเหล่านั้น แต่มาสเตอร์กลับบอกว่าไม่เป็นไร รีฟอสจึงเดินออกจากหลังร้านแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะภายในร้าน ตัวที่ติดกับริมหน้าต่าง รีฟอสนั่งมองสายฝนที่ไหลผ่านบานหน้าต่างพร้อมๆกับคิดอะไรเรื่อยเปื่อย มาสเตอร์เดินออกมาจากหลังร้านก็เห็นรีฟอสนั่งมองสายฝนอยู่ ก็เดินเข้าไปจับบ่ารีฟอส รีฟอสหันมองมาสเตอร์ที่เอามือวางบนบ่าของตนเอง
“ฝน ท่าทางจะตกอีกนาน เลยนะจ๊ะ” พร้อมๆกับมองออกไปนอกหน้าต่าง รีฟอสหันมองทางหน้าต่างก็เหมือนที่มาสเตอร์บอกฝนไม่มีท่าทางที่จะหยุดตกเลย มาสเตอร์ก็พูดต่อ
“งั้นคืนนี้ค้างที่นี่ก็แล้วกันนะจ๊ะ” “ถ้าตากฝนเกิดเป็นหวัดขึ้นมาจะ แย่เอานะจ๊ะ” รี ฟอสหันมองมาสเตอร์แล้วหยักหน้ารับ เมื่อมาสเตอร์เห็นรีฟอสตกลงก็ยิ้มรับแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง รีฟอสมองดูเวลาว่าดึกมากแล้วแต่ฝนก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดตกเลย จึงถอนหายใจแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเดินผ่ายห้องของเทียน่าไป แล้วเปิดประตูเขาไปในห้องที่เขานอนเมื่อคืน เมื่อเข้าไปในห้องแล้วเดินไปที่หน้าต่าง มองดูสายฝนที่เทลงว่ามาไม่มีท่าทางที่จะหยุดตกเลย รีฟอสจึงเดินไปนั่งที่เตียงแล้วกำลังจะเอนตัวลงนอน ก็ได้ยินเสียงเคาะข้างฝาข้างๆเตียงดังขึ้น
“รีฟอส เธอหลับหรือยัง รีฟอส” รีฟอสหันมองที่ข้างฝาก็รู้ทันที่ว่าเป็นเสียงเทียน่า จึงนั่งหลังพิงข้างฝาแล้วตอบกลับไป
“ยัง มีอะไรหรอ” เทียน่านั่งอยู่บนเตียงตัวเองโดยหันหน้าเข้าข้างฝา
“คือว่า...วันนี้ฉันมีความสุขมากๆเลยนะ”ด้วยน้ำเสียงที่เขินอาย เมื่อรีฟอสได้ยินที่เทียน่าพูดก็ตอบกลับทันที
“อือ ฉันก็ด้วย” เมื่อเทียน่าได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“จริงๆแล้วฉันดีใจมาก เลยนะที่คุณแม่ชวนเธอมาอยู่ที่นี่ด้วย” แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“แล้วเธอว่าไงบ้างล่ะ” รีฟอสฟังที่เทียน่าพูดก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อือ ฉันเองก็ไม่อยากที่จะขัดใจมาสเตอร์เขาหรอกนะ” แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เขินๆ
“จริงๆ แล้วฉันเองก็อยากที่จะอยู่ๆใกล้ๆกับเธอด้วย” เทียน่าได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดขึ้นก็อายจนหน้าแดง แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบ
“งั้นตกลงว่า เธอจะย้ายมาอยู่กับเราหรอ” รีฟอสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เขินหนักกว่าเก่า
“เธอก็ได้ยินแล้วนี่ ยังจะถามอะไรอีก” เมื่อรีฟอสพูดจบ เทียน่าก็ยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข แล้วเอนตัวลงนอน
“รีฟอส ราตรีสวัสดิ์” ด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข รีฟอสเองก็เอนตัวลงนอนพร้อมๆกับตอบกลับไป
“อือ ราตีสวัสดิ์ เช่นกัน” สายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาในยามราตรี ให้ความชุ่มฉ่ำ และ สดชื่น แก่ทุกสรรพสิ่ง
รี ฟอสลุกขึ้นยืน พร้อมๆกับหันมองสำรวจรอบๆบริเวณ ตนเองกำลังยืนอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด หลากหลายสีสัน รีฟอสมองเห็นผู้หญิงผมยาวสีทอง ยืนอยู่เบื้องหน้าตนเองไม่ไกลมากนัก นางกำลังยืนส่งยิ้มให้กับรีฟอสอย่างอ่อนโยน รีฟอสจ้องมองสตรีนางนั้น
“คุณเป็นใคร ครับ” หญิงสาวนางนั้นจ้องมองรีฟอสด้วยแววตาที่โหยหา “อีกไม่นาน” แล้วยิ้มให้กับรีฟอสอย่างอ่อนโยน
“ได้ข้อมูล อะไรมาบ้างไหมครับ” พร้อมๆกับหันมองทุกคน มาครอสตอบด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดเป็นคนแรก
“ไม่ได้ข่าวอะไร เลย” ราทารี่มองหน้ารีฟอสแล้วตอบด้วยท่าทางผิดหวัง
“เหมือน กัน รู้แต่เพียงว่าหนังสือ อยู่ในเมืองนี้เท่านั้นเอง” รีฟอสมองมาทาง เจราส เจราสแค่ส่ายหน้า ชั่วครู่หนึ่งมาสเตอร์ก็เดินมาหารีฟอสพร้อมกับ ยื่นกระดาษให้ 2-3 แผ่น ราทารี่กล่าวทักทายมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็ยิ้มรับ เมื่อส่งของให้รีฟอสแล้วมาสเตอร์ก็เดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ รีฟอสตั้งหน้าตั้งตาอ่านกระดาษที่มาสเตอร์นำมาให้สักพักหนึ่ง แล้วก็เรื่มบอกกับทุกคน
“รู้แล้ว ว่า หนังสือ อยู่ที่ไหน” ทุกคนต่างจ้องมองรีฟอสเพื่อรอฟังคำตอบ
“อยู่ที่ คฤหาสน์ เคานต์ โรมานอฟ เมจาวาล” ทุกคนต่างทำท่าทางตกใจ แล้วถามรีฟอสด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“นายแน่ใจ นะว่า ข่าวไม่ผิดพลาด” รีฟอสหันมองราทารี่พร้อมๆกับพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ
“เธอ ก็ น่าจะรู้นี่ ว่าข่าวจากมาสเตอร์แน่นอนแค่ไหน” ราทารี่หันมองไปทางมาสเตอร์ที่กำลังจัดของอยู่หลังเคาน์เตอร์ ก็ถอนหายใจ แล้วเงียบไป รีฟอสจึงพูดต่อ
“มีใคร จะถอนตัวมั้ย” ทุกคนต่างเงียบ มาครอสหันมองทุกๆคนแล้วพูดขึ้น
“พวกนายจะ บ้าไปแล้วหรือไง” “คฤหาสน์โรมานอฟ มี เวรยามแค่ไหน ไม่รู้หรือไง” แล้วหันมองมาทาง
รีฟอส พร้อมๆกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเหมือนคนสติแตก
“ไหน ถ้าถูกจับได้ อีก” “พวกเราได้ ตายกันหมดแน่” ราทารี่จ้องมองมาครอสที่กำลังจะสติแตก ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“หรือ ว่านาย จะถอนตัว” รีฟอสมองมาครอสที่นั่ง ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“มาครอส ตกลงว่า นายจะถอนตัวใช่มั้ย” เมื่อมาครอสได้ยินที่ รีฟอสถามก็ตั้งสติขึ้น
“ถ้าพวกนาย ไม่กลัว มีหรือฉันจะกลัว” เมื่อรีฟอสเห็นทุกคนพร้อมจะรับฟังต่อแล้วจึงพูดต่อ
“จากข้อมูลของมาสเตอร์ ระบุว่า” “เคานต์โรมานอฟ ได้นำ “หนังสือแห่งรัตติกาล” มาเก็บไว้ที่คฤหาสน์ของตนเอง” พอรีฟอสพูดจบราทารี่ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย
“แล้วหนังสือเล่มที่ ว่า นี้มันมีค่าตรงไหน” ทุก คนต่างรอฟังคำตอบจากรีฟอส รีฟอสหันมองราทารี่แล้วส่ายหน้า เป็นเชิงบอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อมาครอสเห็นเช่นนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด
“เยี่ยม พวกเราเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อหนังสือไร ค่าเล่มเดียวนี่นะ” ทุกคนต่างได้ยินสิ่งที่มาครอสพูดขึ้นแต่ทุกคนก็ทำท่าทางเฉยๆ
“เราจะลง มือกันในคืนมะรืนที่จะถึงนี้” ทุกคนต่างเงียบไม่มีข้อโต้แย้ง รีฟอสจึงพูดต่อ
“ขอ ให้ทุกคนมาเจอกันที่บาร์นี้ ก่อน” “เราจะลงมือหลังระฆังตีบอกเวลา” ทุก คนต่างหยักหน้ารับ แล้วทยอยกันลุกขึ้น เดินออกจากบาร์ไป เมื่อทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว รีฟอสจึงเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์ เมื่อมาสเตอร์เห็นรีฟอสนั่งอยู่ ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้าง จ๊ะ” เมื่อรีฟอสได้ยิมที่มาสเตอร์ถามก็ยิ้มรับ
“ผมอยากได้ แผนผังคฤหาสน์ โรมานอฟ” “มาสเตอร์พอจะหาได้หรือเปล่าครับ” มาสเตอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
“ได้สิจ๊ะ แล้วพวกเธอจะลงมือกัน วันไหน จ๊ะ”
“คืน มะรืนนี้ ครับ” มาสเตอร์จ้องมองรีฟอสด้วยสายตาเป็นห่วง
“รีฟอส จ๊ะ เธอรู้ไหมว่า โรมานอฟ เป็นคน ยังไง” เมื่อได้ยินที่มาสเตอร์ถามรีฟอสก็พยักหน้ารับ
“ได้ยินข่าวลือ ว่าเขาเป็นคนที่น่ารังเกลียด ครับ” มาสเตอร์มองรีฟอสแล้วถอนหายใจแล้วพูดต่อด้วยท่าทางเป็นกังวนจนรีฟอสสังเกตได้ชัด
“เขา เป็นคน ที่อำมหิต และ คนอย่างเขาก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้คนที่ขโมยของของเขาไปง่ายๆหรอก จ๊ะ”
รีฟอสได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์เตือนก็พูดขึ้น
“แต่ว่า.....” มาสเตอร์ก็พูดขึ้นขัดซะก่อน
“จ๊ะ ฉันห้ามเธอไม่สำเร็จ อยู่แล้วจ๊ะ” พร้อมๆ กับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน มาสเตอร์ขอให้รีฟอสนอนที่นี่ เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว รีฟอสก็ไม่อยากขัดใจมาสเตอร์จึงตกลง แล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง รีฟอสเดินผ่านห้องของเทียน่า แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องที่อยู่ถัดจากห้องของเทียน่าไป เมื่อรีฟอสเดินผ่านประตูเข้ามาก็เห็นสภาพภายในห้อง มีเตียงอยู่ติดผนังของห้อง มีชั้นหนังสือ และตู้ อยู่อีกข้างหนึ่ง มีบานหน้าต่างอยู่ใกล้ๆกับหัวเตียง รีฟอสเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างออก สายลมพัดเข้ามากระทบกับใบหน้าของรีฟอส แล้วเงยหน้าขึ้นมอง ดวงจันทร์ ที่คืนนี้ถูกหมู่เมฆยาวราตรีบดบังแสงสว่าง รีฟอสเดินกลับไปที่เตียงแล้วเอนตัวลงนอน ในยามราตรีอันเงียบสงัด
รี ฟอสรู้สึกว่าตนเองกำลังเดินอยู่ที่ไหนสักแห่ง เป็นทุกดอกไม้หลากหลายสีสันขึ้นอยู่มากมาย เบื้องหน้ารีฟอส มีสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ นางมีผมสีทองยาวสลวย กำลังยืนส่งยิ้มให้อยู่ ด้านหลังของนางนั้น มีบุรุษหนุ่มผมยาวดำสลวยยืนพิงหลังนางอยู่ สตรีนางนั้นยื่นมือมาหารีฟอส พร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รีฟอสยื่นมือไปหมายจะจับมือสตรีนางนั้น
“รีฟอส” “รีฟอสนายตื่นหรือยัง” รี ฟอสลืมตาขึ้น แล้วพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง มองแสงแดดสาดส่องรอดผ่านเข้ามาภายในห้อง แล้วหันกลับไปมองบานประตูที่มีสียงเรียกดังขึ้น รีฟอสลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู เมื่อเปิดประตูออก ก็พบว่า เทียน่ายืนอยู่หน้าห้อง เทียน่ายืนมองรีฟอสที่เปิดประตูออกมา แล้วยื่นเสื้อผ้า กับผ้าเช็ดตัวให้ แล้วรีบเดินลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้รีฟอสยืนงงอยู่คนเดียว รีฟอสเดินออกจากห้องไปยังห้องน้ำ แล้วจัดการธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จแล้วก็เดินลงไปชั้นล่าง ด้านล่าง มาสเตอร์ และ เทียน่า กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ รีฟอสจึงรีบเดินเข้าไป
“มีอะไรให้ช่วย ไหมครับมาสเตอร์” มาสเตอร์หันมองรีฟอสที่กำลังเดินเข้ามาใกล้
“ใกล้จะเสร็จ แล้วจ๊ะ” เมื่อพูดจบก็จัดของบนโต๊ะก็ต่อ
“เมื่อคืนหลับ สบายไหมจ๊ะ” รีฟอสเดินไปนั่งที่โต๊ะพร้อมๆกับตอบคำถามของมาสเตอร์
“ครับ” มาสเตอร์ ยิ้มรับ ทั่งสามคนนั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน รีฟอสสังเกตว่าสายมากแล้วทำไมมาสเตอร์ยังไม่เปิดร้านจึงถามมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็บอกว่า “วันนี้ปิดร้าน แล้วจะไม่อยู่ร้านด้วย” เมื่อ รีฟอสได้ยินที่มาสเตอร์บอกก็พอจะเดาได้ว่ามาสเตอร์จะไปไหน มาสเตอร์จ้องมองรีฟอสและเทียน่า ก็เสนอให้ทั้งสองคน ไปเดินเล่นในตัวเมืองแล้วเย็นๆค่อยกลับมา รีฟอสก็พยักหน้าเห็นด้วย หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเทียน่ากับรีฟอสก็เดินออกจากร้านไป
ระหว่าง ทางรีฟอสหันมองเทียน่า เทียน่าอยู่ในชุด เสื้อแขนยาวสีชมพู กางเกงขายาวสีดำ ผมที่ยาวสลวยถูกเกล้าไว้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อเทียน่าหันมองสบตากับรีฟอสก็หันหน้าหนีทันที รีฟอสจ้องมองเทียน่าด้วยท่าทางงงๆ
“เป็นอะไรไป เทียน่า” เทียน่าได้ยินที่รีฟอสถามก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเขินๆ
“เปล่า ฉันแค่อยากรู้ ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน” รีฟอสจ้องมองเทียน่าที่กำลังยืนหน้าแดงอยู่ ก็ หันมองไปทางอื่นแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เขินเช่นกัน
“เธอก็น่า จะรู้นี่” เทียน่าคว้าแขนรีฟอสแล้วขยับมายืนตรงหน้ารีฟอส
“ก็ ฉันอยากได้ยินจากปากเธอ นี่” รี ฟอสจ้องมองผู้หญิงที่ยืน อยู่เบื้องหน้า ตนเองในยามนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน ใบหน้าที่ขาวได้รูป ดวงตาสีฟ้าคู่งานที่กำลังจดจ้องรีฟอสเพื่อรอฟังคำตอบ รีฟอสขยับเข้าไปใกล้ๆเทียน่าแล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ฉันเอง ก็รัก เธอ และจะไม่มีสิ่งใดมา พรากเราทั้งคู่” เมื่อ เทียน่าได้ยินคำตอบของรีฟอส ก็ยกมือขึ้นปิดปากตนเองพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้าคู่งามจนอาบ แก้มสีขาวอมชมพูทั้งสองข้าง แล้วเอนตัวเข้ากอดรีฟอส รีฟอสยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนแก้มของเทียน่าพร้อมๆกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน และทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันเข้าไปในตัวเมือง ทั้งสองคนเดินเที่ยวเล่นกันจนเพลิน เมื่อรู้ตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็กำลังจะลับลาขอบฟ้าไป รีฟอสและเทียน่ามานั่งพักกันอยู่ที่บริเวณขอบสระน้ำของรูปปั้นเทพธิดา เทเรซ่า และ แคล์ เทียน่าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่บัดนี้กลายเป็นสีส้ม พร้อมกับพูดขึ้นลอยๆ
“ช่วงเวลาแห่งความสุข มักจะผ่านไปเร็วเสมอเลยนะ” เมื่อ รีฟอสได้ยินเช่นนั้นก็ บอกให้เทียน่านั่งคอยอยู่นี่ก่อน แล้วตัวเองก็รีบเดินเข้าไปในร้านขายดอกไม้ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ สักพักหนึ่งรีฟอสก็เดินออกมาจากร้านขายดอกไม้มานั่งลงข้างๆเทียน่าตามเดิม แล้วบอกให้ เทียน่าแบมือออก รีฟอสนำของที่ชื้อมาจากร้านดอกไม้วางลงบนมือของเทียน่า แล้วจับมือของเทียน่าให้กำของสิ่งนั้นไว้ แล้วบอกให้เทียน่าหลับตาลง
เทีย น่าก็ทำตาม สักพักหนึ่งก็ปล่อยมืออกจากเทียน่าแล้วบอกให้เทียน่าลืมตาขึ้น เทียน่าค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมๆกับจ้องมองสิ่งของที่อยู่ในมือตนเอง เป็นลูกแก้วใสๆข้างในมีก้อนผนึกสีฟ้าส่องแสงสว่างออกมา จากลูกแก้วทั้งสองลูก แล้วหันมองรีฟอสด้วยท่าทางสงสัยว่า สิ่งนี้คืออะไร รีฟอสหยิบลูกแก้วลูกหนึ่งบนมือเทียน่าไปพร้อมๆกับอธิบายขึ้นว่าสิ่งนี้คือ อะไร
“สิ่งนี้เรียกว่า “ดอกไม้แห่งคำมั่นสัญญา” ” เทียน่ามองรีฟอสด้วยสีหน้าแปลกใจ
“มัน จะเติบโตโดนการกินความรักของคู่รักคู่นั้น หากคนใดคนหนึ่งหมดรัก” “ผลึกสีฟ้าที่อยู่ด้านในก็จะหม่นแสงลงทันที” เมื่อ เทียน่าได้ฟังสิ่งที่รีฟอสพูดก็หยิบลูกแก้วใสขึ้นมาดูในระดับสายตา แล้วสังเกตเห็น ว่าผนึกสีฟ้าที่อยู่ด้านในลูกแก้วแตกออกจากกันอยู่ตลาดเวลา แต่ทว่าขนาดของผลึกกลับไม่ลดลงเลย และแสงสีฟ้าของผลึกก็ยังคงสว่างสดใสอยู่ตลอดเวลา เทียน่าลุกขึ้นแล้วมายืนอยู่ที่ตรงหน้ารีฟอส แล้วก้มลงหอมแก้มรีฟอส
“ขอบ คุณ นะ” ด้วย น้ำเสียงที่เสียงที่มีความสุขก่อนจะเดินไป รีฟอสยกมือขึ้นสัมผัสแก้มข้างที่โดนเทียน่าหอม แล้วมองเทียน่าที่กำลังเดินไป ก็ยิ้มขึ้นแล้วลุกเดินตามเทียน่าไป ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ราตรีเริ่มเข้ามาเยือนหมู่ดวงดาวบนท้องนภาเริ่มส่องแสงสว่างอีกคราว
เมื่อ รีฟอส และเทียน่า กลับมาถึงร้านก็เห็นไฟในร้านเปิดอยู่ จึงเปิดประตูเข้าไปภายในร้านแต่กลับไม่เห็นมีใครอยู่ในร้าน มาสเตอร์เมื่อได้ยินเสียงมาจากหน้าร้านก็เดินออกมาดู ก็พบว่ารีฟอสและเทียน่ากำลังเดินเข้ามาภายในร้าน มาสเตอร์ก็เอ่ยทักขึ้น
“เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ เดทกันสนุกมั้ยจ๊ะ” เมื่อเทียน่าได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์แซวขึ้นก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเขินๆ
“เดท เดิด อะไรกันค่ะ คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้” เมื่อ พูดจบเทียน่าก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน รีฟอสยืนมองเทียน่าที่กำลังวิ่งขึ้นไปที่ชั้นบนด้วยสายตาที่อ่อนโยน แล้วเดินเข้ามาหามาสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังร้าน ที่กำลังเตรียมอาหารมื้อเย็นอยู่
“มีอะไรให้ช่วย มั้ยครับ” มาสเตอร์หันมองรีฟอสที่ยืนอยู่
“เธอ ช่วยไปจัดโต๊ะหน่อยได้ มั้ยจ๊ะ” รี ฟอสพยักหน้ารับแล้วเดินออกมาจากหลังร้าน หลังจากที่รีฟอส จัดโต๊ะ และมาสเตอร์ทำอาหารเสร็จแล้ว เทียน่าก็เดินลงมาพอดี ขณะที่กำลังทานอาหารกันอยู่มาสเตอร์ก็เอ่ยถามรีฟอสขึ้นมา
“รีฟอสจ๊ะ เธอน่าจะย้ายมาอยู่กับเราที่นี่นะจ๊ะ” รีฟอสมองมาสเตอร์ที่กำลังมองตนเองอยู่
“ขอบคุณครับ แต่...” ยังไม่ทันที่รีฟอสจะทันได้พูดมาสเตอร์ก็พูดขึ้นขัดซะก่อน
“เธอไม่ต้องคิดมากหรอกจ๊ะ ฉันเองก็คิดว่าเธอเป็นเหมือนกับลูกฉันอีกคนหนึ่งเลยนะ จ๊ะ” แล้วยิ้มให้กับ
รีฟอสอย่างอ่อนโยน
“เทียน่าก็คิดว่าดี ใช่มั้ยจ๊ะ” แล้ว หันมองมาทางเทียน่า เทียน่าได้ยินที่มาสเตอร์ถามก็หันมองมาทางรีฟอส เมื่อมองสบตากับรีฟอสก็หน้าแดงขึ้นจนต้องก้มหน้าลง เพื่อหลบสายตาของรีฟอส แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเขินๆ
“แล้วแต่ รีฟอสเขาล่ะค่ะ คุณแม่” รี ฟอสหันมองมาสเตอร์และเทียน่าที่กำลังรอฟังคำตอบอยู่ เม็ดฝนก็ล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า กระเด็นเข้ามาในร้าน มาสเตอร์จึงขอให้ทั้งสองคนช่วยกันปิดหน้าต่าง เมื่อปิดเสร็จแล้ว มาสเตอร์และเทียน่าก็ช่วยกันเก็บโต๊ะ เมื่อเสร็จแล้วทั้งสองคนก็เดินไปหลังร้าน รีฟอสเดินตามไปหวังจะช่วยมาสเตอร์และเทียนน่าจัด การจามชามเหล่านั้น แต่มาสเตอร์กลับบอกว่าไม่เป็นไร รีฟอสจึงเดินออกจากหลังร้านแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะภายในร้าน ตัวที่ติดกับริมหน้าต่าง รีฟอสนั่งมองสายฝนที่ไหลผ่านบานหน้าต่างพร้อมๆกับคิดอะไรเรื่อยเปื่อย มาสเตอร์เดินออกมาจากหลังร้านก็เห็นรีฟอสนั่งมองสายฝนอยู่ ก็เดินเข้าไปจับบ่ารีฟอส รีฟอสหันมองมาสเตอร์ที่เอามือวางบนบ่าของตนเอง
“ฝน ท่าทางจะตกอีกนาน เลยนะจ๊ะ” พร้อมๆกับมองออกไปนอกหน้าต่าง รีฟอสหันมองทางหน้าต่างก็เหมือนที่มาสเตอร์บอกฝนไม่มีท่าทางที่จะหยุดตกเลย มาสเตอร์ก็พูดต่อ
“งั้นคืนนี้ค้างที่นี่ก็แล้วกันนะจ๊ะ” “ถ้าตากฝนเกิดเป็นหวัดขึ้นมาจะ แย่เอานะจ๊ะ” รี ฟอสหันมองมาสเตอร์แล้วหยักหน้ารับ เมื่อมาสเตอร์เห็นรีฟอสตกลงก็ยิ้มรับแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง รีฟอสมองดูเวลาว่าดึกมากแล้วแต่ฝนก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดตกเลย จึงถอนหายใจแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเดินผ่ายห้องของเทียน่าไป แล้วเปิดประตูเขาไปในห้องที่เขานอนเมื่อคืน เมื่อเข้าไปในห้องแล้วเดินไปที่หน้าต่าง มองดูสายฝนที่เทลงว่ามาไม่มีท่าทางที่จะหยุดตกเลย รีฟอสจึงเดินไปนั่งที่เตียงแล้วกำลังจะเอนตัวลงนอน ก็ได้ยินเสียงเคาะข้างฝาข้างๆเตียงดังขึ้น
“รีฟอส เธอหลับหรือยัง รีฟอส” รีฟอสหันมองที่ข้างฝาก็รู้ทันที่ว่าเป็นเสียงเทียน่า จึงนั่งหลังพิงข้างฝาแล้วตอบกลับไป
“ยัง มีอะไรหรอ” เทียน่านั่งอยู่บนเตียงตัวเองโดยหันหน้าเข้าข้างฝา
“คือว่า...วันนี้ฉันมีความสุขมากๆเลยนะ”ด้วยน้ำเสียงที่เขินอาย เมื่อรีฟอสได้ยินที่เทียน่าพูดก็ตอบกลับทันที
“อือ ฉันก็ด้วย” เมื่อเทียน่าได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“จริงๆแล้วฉันดีใจมาก เลยนะที่คุณแม่ชวนเธอมาอยู่ที่นี่ด้วย” แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“แล้วเธอว่าไงบ้างล่ะ” รีฟอสฟังที่เทียน่าพูดก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อือ ฉันเองก็ไม่อยากที่จะขัดใจมาสเตอร์เขาหรอกนะ” แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เขินๆ
“จริงๆ แล้วฉันเองก็อยากที่จะอยู่ๆใกล้ๆกับเธอด้วย” เทียน่าได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดขึ้นก็อายจนหน้าแดง แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบ
“งั้นตกลงว่า เธอจะย้ายมาอยู่กับเราหรอ” รีฟอสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เขินหนักกว่าเก่า
“เธอก็ได้ยินแล้วนี่ ยังจะถามอะไรอีก” เมื่อรีฟอสพูดจบ เทียน่าก็ยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข แล้วเอนตัวลงนอน
“รีฟอส ราตรีสวัสดิ์” ด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข รีฟอสเองก็เอนตัวลงนอนพร้อมๆกับตอบกลับไป
“อือ ราตีสวัสดิ์ เช่นกัน” สายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาในยามราตรี ให้ความชุ่มฉ่ำ และ สดชื่น แก่ทุกสรรพสิ่ง
รี ฟอสลุกขึ้นยืน พร้อมๆกับหันมองสำรวจรอบๆบริเวณ ตนเองกำลังยืนอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด หลากหลายสีสัน รีฟอสมองเห็นผู้หญิงผมยาวสีทอง ยืนอยู่เบื้องหน้าตนเองไม่ไกลมากนัก นางกำลังยืนส่งยิ้มให้กับรีฟอสอย่างอ่อนโยน รีฟอสจ้องมองสตรีนางนั้น
“คุณเป็นใคร ครับ” หญิงสาวนางนั้นจ้องมองรีฟอสด้วยแววตาที่โหยหา “อีกไม่นาน” แล้วยิ้มให้กับรีฟอสอย่างอ่อนโยน
นาฬิกาปลาวาฬทราย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2555, 15:18:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2555, 15:18:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 992
<< The Book Of Darkness IV | The Book Of Darkness VI >> |