เพทายพ่ายตะวัน
เมื่อเธอคือ กุหลาบแดง แห่ง "เรือนกุหลาบ" และเขาคือ ศัลยแพทย์ ผู้มีฝีปากเชือดเฉือนยิ่งกว่ามีดผ่าตัด..ยุทธการปราบพยศครั้งนี้..มีหัวใจเป็นเดิมพัน!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๔ ดวลกันนัดแรก ๑/๒

เสียงหัวเราะสดใสของเมรีดังมาถึงส่วนที่จัดเป็นครัวเล็กๆหลังร้าน เพทายกำลังปอกแอ๊บเปิ้ลที่ลูกค้าซื้อมาฝากลงจานกระเบื้อง หล่อนค่อยๆจัดเรียงชิ้นผลไม้อย่างสวยงาม พลางอมยิ้มเมื่อเห็นหน้าตาน่ารับประทานของมัน เพื่อนสาวคงกำลังมีแขกคนสำคัญ ที่พูดคุยถูกคอ ถึงได้หัวเราะคิกคักขนาดนั้น หล่อนเพิ่งได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋งของเครื่องประดับหน้าร้าน ที่แสดงว่ามีแขกผลักประตูเข้ามาเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง แล้วหลังจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะของเมรีสลับกับเปี่ยมรักดังติดกันเป็นระยะ

“อ้าว..เข้ามาทำไมฝอยทอง พี่กำลังจะเอาแอ๊บเปิ้ลออกไปให้ทานพอดีเลย”
เปี่ยมรักยิ้มกว้างเห็นฟันขาวเรียงตัดกับผิวสีแทน

“ก๊อ กะลังจะมาเรียกพี่เพให้ออกไปดูแขกไงล่ะคะ”
“ดูแขก?”
เพทายเลิกคิ้วฉงน

“อื้อ..รีบออกไปเถอะค่ะ..พี่เมรีกับแขกวีไอพีเค้ารออยู่”
ไม่พูดเปล่า เปี่ยมรักคว้าข้อมือรุ่นพี่ทำท่าเหมือนจะกึ่งลากกึ่งจูงออกไปให้เร็วที่สุด เพทายเกร็งตัวไว้ ก่อนถามให้หายข้องใจ

“เดี๋ยว..ยายฝอย ทำไมต้องดูแขก หน้าตาเขามีอะไรประหลาดหรือ ทำยังกะเป็นของแปลก ต้องเรียกไปดู”

เมื่อเริ่มงุนงง หรือประหลาดใจ ชื่อเล่นของเปี่ยมรักมักจะถูกเรียกให้สั้นลงแบบนี้เสมอ
“ฝอยทองค่ะ ไม่ใช่ฝอย ได้ยินแล้วนึกถึงฝอยขัดหม้อ..น่าเกลียดชะมัด”

“เออน่า เข้าเรื่องก่อน จะบอกรึยังว่าทำไมต้องไปดู”
เปี่ยมรักปล่อยมือรุ่นพี่ พลางถอนหายใจ

“โอ๊ย พี่เพนี่เรื่องมากจริง ออกไปดูเองก็รู้แล้ว..ไม่เห็นต้องถามให้มากความ..ก็พี่เพลงฟ้า เพื่อนสนิทพี่ชายของพี่เมยังไงคะ ผู้หญิงน่าสงสารที่ถูกหมอผีหักอก”

เพทายพยักหน้าน้อยๆ ทำเสียงอุทานในลำคอ
“อ้อ..เหยื่อผู้น่าสงสาร ของนายผีเจาะปากนั่นเอง”
เปี่ยมรักหัวเราะพรืด

“หมอผีอย่างเดียวก็น่าเกลียดแล้ว..ทำไมต้องเจาะปากด้วยคะ”
“ก็เป็นหมอที่ผีเจาะปากมาพูดน่ะซี คนอะไรปากหมาชะมัด ว่าแต่ กับแค่เคยถูกนายนั่นหักอก ทำไมต้องทำท่าตื่นเต้น ยังกะเขาเป็นของแปลกด้วยล่ะ”

พอถึงคำถามนี้ เปี่ยมรักก็ทำตาลอย เหมือนคนเคลิ้มฝัน

“แหม..จะว่าแปลกก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เรียกว่าน่าทึ่งมากกว่า ผู้หญิงที่เป็นหมอศัลย์ก็หายากพอแล้ว แต่นี่พี่เพลงทั้งสวยหยาดหยด เหมือนนางฟ้า ทั้งคุยเก่ง ยิ้มง่าย พูดกับหนูนี่ไม่มีถือตัวเลยนะคะ แถมนัยน์ตาก็พิฆาต พี่เพอย่าเผลอไปป๊ะสายตาเค้าตรงๆนะคะ เดี๋ยวใจสั่นไม่รู้ตัว ขนาดหนูเป็นผู้หญิงยังหลงเสน่ห์เค้าเลย แล้วปกติเจอแต่สต๊าฟศัลย์ที่ชอบกินหัว พูดจาไม่ค่อยปราณีใคร มาเจอพี่เพลงนี่ตรงข้ามเลยค่ะ”

เพทายหลิ่วตามองรุ่นน้องคนสนิทอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ
“ขนาดนั้นเลยหรือ?”

“พี่เพไม่เชื่อใช่ไหมคะ..ถ้างั้นต้องไปดูเองกับตาค่ะ”
เปี่ยมรักคว้าข้อมือเพทาย แล้วพาเดินออกไปหน้าร้านเพื่อพิสูจน์คำอวดอ้าง และแล้วหญิงสาวก็ถึงขั้นเบิกตากว้าง ออกอาการนิ่งงันไปในวินาที ที่ได้สบตาแขกวีไอพีครั้งแรก..

ใบหน้ารูปไข่ของเพลงฟ้า ถูกธรรมชาติออกแบบมาให้ลงตัวราวกับรูปปั้นเทพธิดา รายละเอียดทั้ง คิ้ว ตา จมูก ปาก เรียกว่าไม่มีที่ติ จะมองมุมไหน หันข้างซ้ายขวา หรือมองตรง ก็สวยจับตา
ความรู้สึกที่เห็นครั้งแรก เพทายบอกตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้ มีความหวานซ่อนเปรี้ยว สายตาพิฆาตทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม เป็นผู้หญิงที่มีเซ็กแอพพีลสูงมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความบอบบางอ่อนหวาน ซ่อนอยู่ในรูปร่างสูงเพรียวอรชร กับดวงหน้าทรงเสน่ห์ล้อมกรอบผมสีน้ำตาลเข้มซึ่งถูกขมวดเป็นมวยสูงแบบแฟชั่นวัยรุ่นสมัยใหม่ เพทายพยายามจ้องมองให้ลึกถึงตัวตนเบื้องหลังรูปสวยของหญิงสาว ว่าจะมีจริตเสแสร้ง สวมหน้ากาก อย่างแพรวา พี่สาวต่างสายเลือดของหล่อนหรือไม่

หล่อนเคยอคติพวกผู้หญิงสวยจัดทั้งหลาย เพราะส่วนมากมักมีแบ๊คกราวน์ร้ายๆ ซ่อนอยู่ ทว่าผู้หญิงคนนี้หล่อนไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ หรือสัมผัสถึงความร้ายกาจได้แต่อย่างใด นอกจากกระแสความจริงใจในรอยยิ้มทั้งปากและตาเมื่อพบกันครั้งแรก นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม กับโครงจมูกที่โด่งเรียว ล้ำหน้าสาวเอเชียทั่วไป ทำให้เพทายนึกสงสัยว่าหล่อนอาจมีพ่อแม่เป็นชาวตะวันตกแถบยุโรปไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง

“พี่เพลงเค้าเป็นลูกครึ่งสวีเดน คุณพ่อเป็นชาวสวีเดนทั้งสัญชาติและเชื้อชาติเลยจ้ะ”
เมรีอธิบายอย่างเดาใจสีหน้าประหลาดของเพื่อนซี้ออก

เพทายยิ้มแห้งๆ ก่อนจะอ้อมมานั่งบนเก้าอี้ที่เหลืออยู่ข้างเปี่ยมรัก วางจานแอ๊บเปิ้ลลงตรงหน้าอย่างเบามือที่สุด

“รู้ได้ไงเนี่ย..ว่าฉันกำลังสงสัย”
เมรีรีบบอกเสียงกลั้วหัวเราะ

“ก็เห็นจ้องเอาจ้องเอา นี่ถ้าไม่ติดว่าทำคิ้วขมวดกับหน้างงๆ และเธอเป็นผู้หญิงล่ะก็ ฉันคงคิดว่าเธอใกล้จะกลืนกินพี่เพลงลงไปทั้งตัวแล้วยายเพ”
“พูดซะเว่อเลยยายเม..ฉันก็แค่สงสัย เห็นสีตาแปลก ผมสีแปลก ไม่เหมือนคนทั่วไปเท่านั้นเอง”

เสียงหัวเราะหวานใสของแขกวีไอพีแทรกขึ้นมาเมื่อจบประโยค
“เพิ่งรู้นะคะว่าตัวเองผิดปกติ..”
“อุ้ย..อย่าเพิ่งเข้าใจผิดค่ะคุณเพลงฟ้า ดิฉันแค่แสดงความชื่นชม เห็นคุณสวยแปลกไม่เหมือนใครน่ะค่ะ”

พทายรีบแก้เสียงระล่ำระลัก เมรีกับเปี่ยมรักนั่งหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง
เพลงฟ้ายิ้มเก๋ก่อนแหย่
“เพลงก็ยังเป็นของแปลกสำหรับคุณอยู่ดี..”

เพทายเบ้ปาก พลางโบกไม้โบกมือ ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้
“โอย ไปกันใหญ่แล้วค่ะ เอาเป็นว่าดิฉันขอเปลี่ยนคำพูด..คุณสวยค่ะ สวยมากทีเดียว”

“อย่าไปถือสาแม่คนนี้เขาเลยค่ะพี่เพลง เขาเป็นคนตลก ถึงปากจะไม่ค่อยดีในบางครั้ง แต่ก็หวังดีกับทุกคนที่เขาคิดว่าดีล่ะค่ะ”
เมรีอธิบาย ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าเพลงฟ้าแกล้งแหย่เพื่อนซี้ไปอย่างนั้นเอง

“ไม่จริงค่ะพี่เพลง ปากไม่ดีหลายครั้ง แล้วก็หวังร้ายกับคนที่ไม่คิดว่าดีถึงจะถูก”
เปี่ยมรักขัดขึ้นอย่างอดไม่ได้ ส่งผลให้ “คนปากไม่ดีหลายครั้ง” หันมาแยกเขี้ยวใส่พร้อมจ้องเขม็ง
“ค่ะ..น้องฝอยทอง งั้นพี่ก็ต้องภาวนาให้คุณเพเขาคิดว่าพี่ดีพอใช้นะคะ”

เพลงฟ้าบอกยิ้มๆ ก่อนแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

“ฉันชื่อเพลงฟ้า คุณเพเรียกฉันว่า เพลงเฉยๆก็ได้ค่ะ จะได้ฟังไม่ห่างเหิน ฉันเป็นเพื่อนสนิทของนพ พี่ชายน้องเม น้องฝอยทองนี่ก็ทำงานที่เดียวกันค่ะ เจอหน้ากันในห้องผ่าตัดบ่อยๆ แต่ยังไม่เคยร่วมงานกันโดยตรง..ฉันชื่นชมคุณมากนะคะ น้องเมบอกฉันว่า คุณเพเป็น Wedding Planner เมื่อกี้คุยกัน ก็เอาอัลบั้มงานแต่งลูกค้ามาให้ดู ออกแบบสวยมากค่ะ ไอเดียก็เก๋ ผู้หญิงทำอาชีพนี้ในเมืองไทยไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ เคยเห็นแต่เมืองนอก..นี่ก็ว่าจะมาคุยเรื่องงานแต่งของพี่ชายฉัน อีกสองเดือนเท่านั้นเอง..คุณเพคงไม่รังเกียจถ้าฉันจะขอทาบทามคุณให้ออกแบบงานแต่งพี่ชายฉันครั้งนี้”

เพทายยิ้มไม่หุบก็คราวนี้ หล่อนรีบพยักหน้ารับทันที
“ไม่รังเกียจเลยค่ะ ยินดีซะด้วยซ้ำ แหม..คุณเพลงชมเพเสียตัวแทบลอยติดเพดาน เพก็แค่ทำงานด้วยใจรักค่ะ ไม่ได้เก่งไปกว่าใครหรอก คุณเสียอีกที่เพต้องชื่นชมยิ่งกว่า..หมอศัลย์ผู้หญิงนี่หายากจริงๆค่ะ ต้องอึดและเก่งมากๆ แถมหมอศัลย์ที่เป็นผู้หญิงแล้วยังสวยหยดอย่างคุณ เพไม่เคยพบเคยเห็น”

“ลอยติดเพดานเมื่อไหร่ ก็ยังเห็นนั่งบนเก้าอี้”
เปี่ยมรักแขวะรุ่นพี่อย่างนึกหมั่นไส้

“ฉันแค่เปรียบเปรยย่ะคุณน้อง..ท่าทางจะสอบตกภาษาไทย แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ”
เมรีกับเพลงฟ้ามองหน้ากันแล้วปล่อยกิ๊กออกมา

“คุณเพนี่เป็นคนตลกนะคะ..อยู่ใกล้แล้วรู้สึกสนุก ไม่เครียด”
เพทายยิ้มรื่น

“เพถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันค่ะ..ว่าแต่ มาเตรียมงานแต่งให้พี่ชาย แล้วเมื่อไหร่จะถึงทีคนสวยอย่างคุณเพลงบ้างล่ะคะ เพอยากออกแบบงานให้คุณจริงๆ”

สีหน้าเพลงฟ้าเจื่อนลงทันที หล่อนนิ่งอึ้ง ราวกับคำถามนั้นกระทบกระเทือนจิตใจอย่างแรง บรรยากาศการสนทนาที่เคยครึกครื้นเริ่มเปลี่ยนเป็นอึมครึม เมรีเอื้อมมือมาตีเผียะลงบนแขนเพื่อนซี้

“ปากเสียจริงยายเพ..พูดทำไมเนี่ย”
เพทายทำหน้าเหลอหลา ไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดอะไรผิด

“ปากเสียตรงไหน ฉันออกจะพูดเพราะ”
เมรีกระเถิบตัวเข้ามากระซิบข้างหูเพื่อน พอให้ได้ยินกันสองคน

“พี่เพลงเพิ่งโดนหักอกมา ลืมไปแล้วรึไง..”
เพทายเลยถึงบ้างอ้อ รีบขอโทษขอโพยเพลงฟ้าเป็นการใหญ่

“เพขอโทษนะคะ..ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้คุณนึกถึง..”
“ไม่เป็นไรค่ะ”

เพลงฟ้าขัดขึ้นด้วยเสียงค่อนข้างกระแทก ก่อนที่เพทายจะพูดอะไรให้หล่อนเจ็บปวดมากไปกว่านี้
“เพลงคงยังไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกนานทีเดียว..”

หญิงสาวปรับเสียงให้อ่อนลง เมื่อเห็นท่าทางผงะของ Wedding Planner
เพทายมองใบหน้าแสนสวย ที่บัดนี้นัยน์ตาโศกสลด หม่นหมองเป็นคนละคนอย่างนึกเห็นใจ หล่อนแตะหลังมือเพลงฟ้าเบาๆ

“คุณเพลง..นายหมอผีนั่นคงทำให้คุณเจ็บใจมากใช่ไหมคะ”
เมื่อใจคิด ปากก็ถามอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ เมรีทำตาเขียวใส่เพื่อน พร้อมกระแอมไอ
“มากไม่มาก เธอคิดเอาเองละกัน พี่เพลงซูบลงไปเยอะนะ ที่เห็นสวยๆนี่ เมื่อก่อนสวยกว่านี้เป็นกอง”

“ทำไมล่ะ?”
เพทายถามพาซื่อ

“ก็กินอะไรไม่ลงเลยน่ะซี..ตั้งแต่..”
เมรีหยุดกึก เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วคิดว่าไม่ควรพูดจะดีกว่า

“ขนาดนั้นเลยหรือ?!”
เพทายอุทาน สีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ

“เรื่องแบบนี้ต้องเจอกับตัวเองค่ะ..ถึงจะเข้าใจ”
หล่อนได้ยินเพลงฟ้าเปรยออกมาลอยๆ เหมือนรำพึงกับตัวเอง

“เมื่อคืนเขาก็เพิ่งโทรมาเยาะเย้ยฉัน..”

“เอาอีกแล้วหรือ..หมอนี่มันกัดไม่ปล่อยจริงๆเลย”
เมรีสบถขึ้นมาเมื่อได้ฟัง

เพทายหูผึ่งทันที
“เยาะเย้ยว่ายังไงคะคุณเพลง..บอกมาเลย เดี๋ยวเพจะไปจัดการให้หงายเก๋ง”

เพลงฟ้ายิ้มขื่น แววตามีประกายกร้าว หล่อนนิ่งไปนาน จนไม่มีใครกล้าถามอะไรอีก
เพทายนึกเจ็บแค้นแทนหญิงสาวนับแต่วินาทีนั้น

ไอ้หมอผีเจาะปาก..คนอย่างนายต้องมาเจอกับฉันสักตั้ง!


บ่ายวันนั้นหลังจากแขกวีไอพีล่ำลาเจ้าของร้าน แล้วขอตัวกลับไปทำธุระส่วนตัวที่คั่งค้างอยู่ เปี่ยมรักก็ชวนเพทายออกไปช่วยเลือกของที่ห้างสรรพสินค้าต่อ เมรีเลยต้องนั่งเฝ้าร้านอยู่คนเดียว นึกว่าจะต้องเหงาเสียแล้ว เพราะช่วงบ่ายแก่ๆ ลูกค้าก็แวะเวียนเข้ามาน้อยลง ยิ่งเป็นวันศุกร์ด้วย บรรยากาศก็ยิ่งเงียบกริบ ทว่าคลาดกันเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่สองสาวก้าวเท้าออกจากร้าน สองหนุ่มหล่อก็ผลักประตูเข้ามา ทำเอาเมรีแทบไม่ทันตั้งตัว

คนแรกที่มายืนยิ้มหน้าโต๊ะทำงาน คือคนคุ้นเคย ที่หล่อนยินดีต้อนรับเสมอ ความสุภาพ และรู้จักพูดจาให้คนฟังรื่นหู ทำให้เมรีอารมณ์ดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้และพูดคุยกับศิระ

“สวัสดีค่ะคุณเต้ วันนี้นึกยังไงถึงมาที่ร้านได้คะ”
หล่อนเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้ม ทว่าพอเห็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ก้าวเข้ามายืนข้างศิระ ท่าทางเก้อๆ รอยยิ้มของเมรีก็หุบฉับ แต่ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง

หญิงสาวทักเขาเสียงเรียบ ประนมมือไหว้ระดับอกตามมารยาท
“สวัสดีค่ะ คุณชัดเจน”
“สวัสดีครับ”

เขาทักตอบเสียงเรียบพอกัน พลางยกมือขึ้นรับไหว้ ใบหน้าคมสันที่มีไรหนวดเขียวจางแสดงท่าทีอึดอัดอย่างเปิดเผย

“สบายดีนะครับ คุณเมรี”
ศิระเอ่ยแทรกขึ้นมา เพื่อคลายบรรยากาศตึงเครียดที่เพื่อนรักของเขาเป็นคนก่อ

เมรีค่อยยิ้มออก..แต่ไม่เต็มที่เท่าตอนแรก
“สบายดีค่ะ..เชิญนั่งก่อนซีคะ” หล่อนผายมือเป็นเชิงเชื้อเชิญ เห็นแอ๊บเปิ้ลสีสวยยังวางเรียงอยู่ครบ ไม่แหว่งหายไปแม้แต่ชิ้นเดียว เลยชวนเขาแก้เก้อ

“ทานแอ๊บเปิ้ลไปพลางๆก่อนนะคะ เดี๋ยวเมจะเอาน้ำมาให้”
ศิระรีบยกมือห้าม

“ไม่ต้องหรอกครับ..รบกวนคุณเปล่าๆ..เอ่อ ผมมานี่เพราะมีธุระสำคัญ”
เมรีเบิกตากว้างอย่างสนใจ

“เรื่องอะไรหรือคะ?”
เจอคำถามง่ายๆแบบนี้ ศิระกลับอึ้งไป พูดไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาสะกิดไหล่ชัดเจน พลางกระซิบถาม

“ธุระเรื่องอะไรดีวะแก..”
ชัดเจนเหลือบมองเพื่อน แล้วนิ่วหน้า นัยน์ตาสื่อความหมายทำนองว่า..ธุระเรื่องหัวใจก็บอกเขาไปตรงๆ

“อะไรกันคะ..เมถามยากไปหรือเนี่ย..ต้องปรึกษากันด้วย”
เมรีถามกลั้วหัวเราะ
ศิระหน้าเสีย เขารีบหาเหตุผลขึ้นมาอ้างแบบปัจจุบันทันด่วน

“ธุระเรื่องน้อง..เอ่อ..ใช่แล้ว! เรื่องน้องฝอยทองนี่แหละครับ”
“ไอ้บ้าเอ๊ย..”

ชัดเจนยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ ส่งผลให้ศิระหันมาส่งสายตาค้อนขวับ
“เรื่องฝอยทอง?”

เมรีถามย้ำ นึกว่าตัวเองหูฝาด
“ใช่ครับ..คือ พอดีผมจะมาถามถึงของขวัญที่น้องเค้าจะให้ผมวันนั้น แต่เผอิญผมติดธุระ เลยยังไม่ได้รับของจากน้องเค้า”

“อ๋อ..”
เมรีถึงบางอ้อ หล่อนยิ้มกว้าง

“วันฉลองแต่งงานของนัทที่หาดใหญ่ใช่ไหมคะ..น้องฝอยทองเค้ากำลังงอนคุณอยู่พอดีเลย คุณเต้”
ศิระทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดเสียเต็มประดา เขารีบขอโทษขอโพยเสียงอ่อน

“ผมเสียใจจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจทำให้น้องเค้าเสียความรู้สึก แต่วันนั้นมีเคสฉุกเฉิน ผมต้องรีบกลับไปผ่าตัด เหตุสุดวิสัยจริงๆครับ ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกผิดอยู่เลย ตั้งใจจะมาขอโทษ..”

“ไอ้ตอแหล..”
ชัดเจนแขวะขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ดังพอจะทำให้เมรีนิ่วหน้า

ศิระหมั่นไส้เพื่อนจึงกดส้นเท้าลงบนหลังเท้าอีกฝ่าย ชัดเจนอุทานออกมาเสียงดัง ศิระจึงรีบถามกลบเกลื่อน
“ว่าแต่น้องฝอยทองอยู่ที่นี่รึเปล่าครับ..ผมเคยได้ยินเค้าพูดถึงร้านคุณบ่อยๆ เลยแวะมา เผื่อฟลุ๊ก”

“อ้าว..แล้วทำไมไม่โทรถามยายฝอยทองเสียเลยล่ะคะ จะได้รู้แน่ว่าเธออยู่ที่ไหน”
เมรีอดสงสัยไม่ได้

ศิระทำหน้าปั้นยากก่อนจะพยายามหาเหตุผลมาอธิบายต่อ
“อ๋อ..คือ ผมอยากเซอร์ไพรส์นะครับ มาให้เจอตัว แล้วค่อยบอก คือผมอยากจะชวนเค้าไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อ เป็นการตอบแทนน้ำใจ แล้วก็เพื่อไถ่โทษสำหรับวันนั้นด้วย..ถ้าโทรบอกแต่เนิ่นๆ ก็ไม่เซอร์ไพรส์ซีครับ”

เมรีได้ฟัง ถึงกับยิ้มเขินแทนเปี่ยมรัก
“แหม..คุณเต้เนี่ย โรแมนติกชะมัดเลยค่ะ ถ้าฝอยทองรู้คงจะดีใจ”

“เวรกรรมแล้วไหมล่ะ..”
ชัดเจนเปรยออกมาลอยๆพลางส่ายหน้าประกอบ
“ไม่คิดจะช่วย ก็อย่าเอาเท้าราน้ำได้ไหมไอ้ชัด..”

ศิระเหลือทนเต็มที เลยหันมาบอกเสียงลอดไรฟัน
“น้องฝอยทองเพิ่งสวนกับคุณเมื่อกี้เองค่ะ..เสียดาย คลาดกันนิดเดียว”
ศิระหันกลับมาทันทีเมื่อได้ยิน

“อ้าว...เหรอครับ..แล้วน้องเค้าไปไหนทราบไหมคุณเมรี..ผมตามไปจะทันรึเปล่า”
เมรีส่ายหน้า ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“อย่าเลยค่ะ ไปตามกันที่ห้างบรรยากาศไม่สวย พรุ่งนี้ค่อยไปหาเธอที่บ้านนายนัทดีกว่า โรแมนติกกว่ากันเยอะ”

“เอ..จะดีหรือครับคุณเมรี?”
เมรีรีบบอกเสียงเน้นย้ำ

“ดีสิคะคุณเต้..บ้านนายนัท คุณก็เคยเข้าออกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว กับแค่ไปเยี่ยมน้องสาวเพื่อนสนิท เจ้าของบ้านเขาไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ อย่าคิดมาก”

“เอ..แล้วเค้าจะว่างคุยกับผมหรือครับ เผื่อมีแขกคนสำคัญอยู่ด้วย”
ศิระเริ่มโยนหินถามทาง ซึ่งเขาก็โยนได้ถูกจุดเสียด้วย เมรีรีบบอกทันที

“โอ๊ย ไม่หรอกค่ะ..ยายเพเค้าคงอยากคุยกับเพื่อนของเขามากกว่า เห็นว่าพรุ่งนี้นัดตีแบดกันด้วย”
“คุณเพหรือครับ..คุณเพอยู่ด้วยจริงๆหรือครับ?”

ศิระหลุดปากอย่างลืมตัว อารามดีใจทำให้เขาไม่ทันระวัง

“อยู่ซีค่ะ..พรุ่งนี้เขาจะไปคุยธุระกันช่วงเช้า แล้วตอนบ่ายก็ตีแบดกันในสนามบ้านเพื่อนเขานั่นแหละ..
เอ๊ะ..แล้วทำไมคุณเต้ต้องทำท่าตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย มีอะไรรึเปล่าคะ?”
ศิระยิ้มกลบเกลื่อนก่อนบอก

“ไม่มีอะไรครับ แค่ดีใจที่พรุ่งนี้จะได้เจอน้องฝอยทองแล้ว อยากรู้จริงๆ ว่าในกล่องของขวัญนั้นมีอะไร”
ชัดเจนทำเสียงแค่นหัวเราะในลำคอ ทว่าเวลานี้ไม่มีใครสนใจท่าทางกวนประสาทของเขาอีกแล้ว ศิระยืนยิ้มอยู่คนเดียวอย่างสมใจ

ส่วนเมรีก็ยิ้มกริ่ม นัยน์ตาเป็นประกายไม่ต่างกัน

คืนนี้หล่อนจะโทรไปบอกเปี่ยมรัก ให้เตรียมตัวรอรับเซอร์ไพรส์ จะได้แต่งตัวแต่งหน้าสวยๆ รอราชรถมาเกยในวันพรุ่งนี้

เห็นที..นลัศจะได้น้องเขยเป็นศัลยแพทย์รูปหล่อเสียแล้วกระมัง



ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2555, 06:08:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ส.ค. 2555, 01:25:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1717





<< บทที่ ๓ ความหลังของศัลยแพทย์ ๒/๒   บทที่ ๔ ดวลกันนัดแรก ๒/๒ >>
หมีสีชมพู 30 ก.ค. 2555, 16:41:00 น.
เอ่อ ทำไมไม่บอกว่ามาเจอเพทายคะเนี่ย เดี๋ยวก็มีเรื่องวุ่นวายหรอก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account