มนตรากระดังงา
นางพริมา กีรติอนันต์ พัฒนภิรมย์ กับ นายภัทร์ พัฒนภิรมย์ คู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 6 ปี และมีพยานรักเป็นเด็กชายน่ารัก 2 คน ต้องจบชีวิตคู่ที่เริ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยลงเพราะฝ่ายชายไปมีเมียน้อยซึ่งกำลังจะมีลูกสาวด้วยกัน หญิงสาวยอมหย่าให้และยอมเป็นแม่หม้ายในวัยเพียง 30 ปี ชีวิตคู่ที่พังทลายกลับสร้างพริมาคนใหม่ให้แกร่งกว่าเดิม เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้น กระดังงาลนไฟดอกนี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย รวมทั้งภัทร์ พัฒนภิรมย์ ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอดีตภรรยา จนทำให้ความรักที่เขาคิดว่าได้มอดเชื้อไปแล้วนั้นปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา
Tags: รักร้าว มีเมียน้อย คืนดี
ตอน: ตอนที่ 9 ครบ 100% ค่ะ
ตอนที่ 9 แบบครบ 100% มาแล้วค่ะ เป็นตอนหวานส่งท้ายแล้วนะคะก่อนที่จะเข้าสู่ภาคปัจจุบันอย่างที่ใครต่อใครเฝ้ารอ ซึ่งจะเป็นตอนที่สะท้อนชีวิตคู่ของทั้งสองคน---เศร้าและเครียดมาก (หมายถึงคนเขียนตอนที่ต้องปั่นตอนเหล่านี้ ไม่ซาบซ่าเหมือนตอนจีบกันเลย)....ผู้อ่านชอบไม่ชอบ ยอกกันบ้างนะคะ แนะนำติชมได้เลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ อาทิตา
ตอนที่ 9
เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้วภัทร์และพริมาก็กลับมาคบหาดูใจกันดังเดิม......หวานกว่าเดิมถึงจะถูก คนรอบข้างที่ตามลุ้นมาตลอดต่างพลอยโล่งอกและดีใจไปด้วย ใคร ๆ ก็ได้แต่แอบหวังว่าเมื่อรากฐานแห่งรักมั่นคงแบบนี้ คู่รักคู่นี้คงลงเอยกันได้อย่างสวยงาม
ภัทร์ต้องจบช้ากว่าเพื่อนร่วมรุ่นไปหนึ่งภาคเรียนเนื่องจากต้องพักรักษาตัวจากอุบัติเหตุ ชายหนุ่มเลยพลาดการสอบปลายภาคในปีนั้นไป แต่ในระหว่างที่ต้องรอรับปริญญาพร้อมกับรุ่นน้องในอีกครี่งปีหลังนั้น เขาก็ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทในประเทศ โดยทิ้งความตั้งใจเดิมที่จะไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลหลักที่ว่า
‘เรียนที่ไหน ๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ แถมเรียนในไทยยังได้ฝึกงานในสาขาของธนาคารไปได้อีกด้วย’
ส่วนเหตุผลรองก็คือ อยากอยู่ใกล้แฟนสาวที่อีกหนึ่งปีก็จะเรียนจบแล้ว ภัทร์วาดแผนไว้ในใจอย่างสวยหรูว่าจะขอหมั้นกับพริมาแล้วค่อยชวนเธอไปเรียนต่อโทด้วยกันที่ต่างประเทศ แต่ในที่สุดแผนนี้ก็ไม่สมหวังเพราะพริมาเลือกที่จะทำงานหาประสบการณ์ก่อนที่จะเรียนต่อ
ทุก ๆ วันหลังเลิกงานภัทร์จะมารับแฟนสาวเพื่อไปกินข้าว หรือไม่ก็ดูหนังฟังเฟลงตามประสาคู่รักทั่วไป เขาได้รับมอบหมายให้เริ่มงานจากตำแหน่งพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร เพราะบิดาต้องการให้เขาได้เรียนรู้ระบบของธนาคารในทุก ๆ ด้าน ซึ่งภัทร์ก็เต็มใจและตั้งใจเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวเป็นอย่างดี และถึงแม้จะเป็นถึงลูกชายเจ้าของธนาคาร เขาก็ไม่ได้รับอภิสิทธิ์เหนือจากพนักงานคนอื่นแต่อย่างใด ชายหนุ่มทุ่มเทเรียนรู้งานและเรียนโทควบคู่ไปด้วยทุกวันเสาร์อาทิตย์ นับเป็นชายหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งที่เป็นที่จับตามองของสังคม จึงมีข่าวของเขาในหน้าสังคมของหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารชื่อดังหลายฉบับให้ได้อ่านอยู่บ่อย ๆ รวมทั้งยังได้ยินบ่อยครั้งจากรายการบันเทิงในโทรทัศน์ที่ชอบเอาบรรดาคนดังทั้งหลายมาซุบซิบให้กระฉ่อน ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งพริมาก็โดนเอี่ยวเข้าไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
‘...อีกหนุ่มฮอตประจำปีนี้คงหนีไม่พ้น ภัทร์ พัฒนภิรมย์ แห่งธนาคารพัฒนทรัพย์ ที่เรียนจบ ป. ตรีปุ๊ป หนุ่มโป๊ปก็เรียนต่อโทปั๊ป ไม่ยอมให้เสียเวลาแถมยังเริ่มเรียนรู้งานจากหน้าเคาน์เตอร์ที่สาขาสยามเป็นแห่งแรกควบคู่กับการเรียนโทไปด้วยอีก ไฟแรงจริง ๆ นะคะ สาวใดอยากเปิดบัญชีกับเจ้าตัวอย่ามัวรอช้า นาน ๆ จะได้เห็นลูกชายนายแบงค์มานั่งรับฝากและถอนเอง เพียงแต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าถ้าคิดจะฝากประจำพิเศษแบบตลอดชีพคงไม่ได้เสียแล้ว เพราะแว่ว ๆ มาว่ามีสาวอักษรปี 3 ชิงเปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว’
‘ภัทร์ พัฒนภิรมย์ ขยันออกงานกับบิดาเป็นว่าเล่นเพราะท่านเจ้าสัว พัฒน ต้องการปูทางธุรกิจให้ลูกชายคนเดียวได้สานต่อ ช่วงนี้ไม่ว่าใครจะเชิญไปงานไหนจะได้เห็นสองพ่อลูกคู่นี้เป็นเงาตามตัวกันไม่ห่าง ตำแหน่งนักธุรกิจอนาคตไกลคงไม่เกินเอื้อมแน่ ๆ เพราะได้เทรนเนอร์วีไอพีส่วนตัวแบบนี้ แต่ใช่ว่าหนุ่มโป๊ปจะตามเป็นเงาแค่บิดาเพียงคนเดียว เพราะในยามว่างก็ยังคงเห็นหนีบหวานใจคนสวยไปดูหนังกันสองต่อสองเป็นประจำ จะใช่หนังรักโรแมนติคหรือเปล่าเจ๊ลัดดาก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ ๆ เขานั่ง ‘เลิฟ ซีท’ กันล่ะค่ะคุณผู้ชมขา’
‘ขอแสดงความยินดีกับสาขาใหม่ของธนาคารพัฒนทรัพย์ ที่เพิ่งเปิดตัวในสิงคโปร์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากท่านเจ้าสัวพัฒน พัฒนภิรมย์ จะเป็นคนตัดริบบิ้นฉลองสาขาที่ 10 ในต่างประเทศด้วยตัวเองแล้ว ยังเปิดตัวลูกชายอย่างเป็นทางการด้วยการมอบหมายให้ลูกชายคนเดียว ภัทร์ ขึ้นกล่าวเปิดงานอีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเลยนะคะงานนี้ เอ๊ะ! หรือว่าจะสามตัวกันแน่ เพราะงานนี้หนุ่มโป๊ปแอบควงหวานใจไปเดินช็อปปิ้งแถวถนนออร์ชาร์ดให้สาว ๆ เมืองลอดช่องได้ตาลุกตาวาว กันเป็นแถว ซึ่งสาวคนนี้น่าจะเป็นตัวจริงเสียงจริงของว่าที่นายแบงค์ เพราะทั้งท่านเจ้าสัวและคุณนายอนุญาตให้ว่าที่ลูกสะใภ้ร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน้าธนาคารเสียด้วยสิ คราวหน้า ‘สะเก็ดข่าว’ จะไปล้วงลึกมาให้คุณผู้ชมได้ทราบนะคะว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นคือใครกัน’
‘วาเลนไทน์นี้ คู่รักหลายคู่ต่างจูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรักเพื่อเอาเคล็ด ส่วนคู่นี้แม้ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่ก็ฉลองวาเลนไทน์ไม่น้อยหน้าคู่อื่น ๆ ภัทร์ พัฒนภิรมย์ ส่งช่อดอกไม้ช่อโตไปให้แฟนสาวถึงคณะอักษรในตอนเช้า แถมตกเย็นก็พาไปดินเนอร์หรูใต้แสงเทียนกันสองต่อสองที่ร้านอาหารดังริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดูจากภาพแล้ว ‘แคทรียาคะขา’ อยากรู้จังว่ากล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นจะใช่แหวนเพชรเม็ดงามไว้มัดใจสาวหรือเปล่าคะ หนุ่มโป๊ปช่วยมาตอบที’
‘ที่แท้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พริมาลูกสาวคนสวยของท่านผู้ว่าบุรินทร์ กีรติอนันต์ เจ้าเมืองภูเก็ตนี่เอง ที่ครองตำแหน่งว่าที่ลูกสะใภ้ของท่านเจ้าสัว พัฒน พัฒนภิรมย์ อยู่ หนุ่มโป๊ปเล่นตามรับส่งทั้งเช้าและเย็นแบบนี้ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายก็เลยหมดโอกาสจะทำความรู้จักหนูปริมอย่างเป็นส่วนตัวเสียแล้ว แว่ว ๆ มาว่าถ้าสาวเจ้าเรียนจบปุ๊ป หนุ่มโป๊ปก็จะจับเป็นเจ้าสาวปั๊ป งานนี้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ทั่วกรุงคงอกหักกันเป็นแถว’
************************
การคบหาดูใจของทั้งคู่นอกจากจะอยู่ในสายตาของเพื่อน ๆ ฝ่ายหญิงแล้ว บรรดาผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับรู้ โดยเฉพาะท่านเจ้าสัว พัฒน นั้นดูจะถูกใจแฟนสาวของลูกชายคนนี้เป็นพิเศษ เนื่องด้วยครอบครัวและบุคลิกของพริมาที่เหมาะสมกับตำแหน่งลูกสะใภ้เจ้าของธนาคาร แถมตัวหญิงสาวยังทำให้ลูกชายของเขาทิ้งลายเจ้าชู้เสียได้ ท่านเจ้าสัวบอกกับลูกชายบนโต๊ะอาหารค่ำวันหนึ่งว่า
“คนที่จะเป็นนายธนาคารที่ดีได้นั้น ต้องได้รับการไว้ใจจากผู้คนรอบข้าง ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องการงาน และความไว้ใจจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเขาเชื่อใจเรา การเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี รักเดียวใจเดียว ย่อมได้รับการเชื่อใจมากกว่าการเป็นคนเจ้าชู้ โป๊ปจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ เพราะโป๊ปกำลังแบก พัฒนทรัพย์ ติดตัวไปด้วยตลอดเวลาแล้วนะ เมื่อก่อนพ่อไม่เคยว่าเรื่องแฟน ๆ ของโป๊ป เพราะเห็นว่าโป๊ปยังเด็ก แต่ตอนนี้โป๊ปเรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว พ่อว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ จะสนุกก็ต้องอยู่ในขอบเขต เพราะมีทั้งลูกน้องและลูกค้าที่รู้จักเรา ถ้าจะจริงจังกับใครสักคนก็ต้องทำให้ได้ แต่ถ้ายังคิดว่าไม่ใช่ ก็อย่าให้มันลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น ลูกสาวเขามีพ่อมีแม่นะ อย่าให้เขามาถอนหงอกพ่อกับแม่ได้ล่ะ”
“ถึงพ่อไม่บอก ผมก็ทราบดีครับ” ภัทร์เข้าใจดีว่าบิดาหมายถึงอะไร
“คราวนี้พี่โป๊ปคงได้เลิกเจ้าชู้เสียจริง ๆ เพราะโดนทั้งคุณพ่อทั้งปริมกำราบเสียอยู่หมัด ฮ่าๆๆ” ภัทราหัวเราะเยาะพี่ชายอย่างชอบใจ
************************
หลังเรียนจบพริมาก็สมัครเข้าทำงานกับสายการบินแห่งหนึ่ง ได้เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องสมใจ จะมีก็แต่ภัทร์ที่ไม่ชอบใจนักเพราะอยากให้พริมาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยกัน แถมตั้งแต่เข้าทำงานหญิงสาวก็มีเวลาให้เขาได้น้อยลง และภัทร์ยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้นเมื่อทราบว่าแฟนสาวมีหนุ่ม ๆ ทั้งสจ๊วตและนักบินมาขายขนมจีบให้อยู่เรื่อย ๆ อาการหวงแฟนจึงกำเริบอย่างหนัก ภัทร์ยอมลุกจากเตียงในรุ่งสางหรือกลางดึกเพื่อไปส่งและรับแฟนสาวที่สนามบินด้วยตัวเองเกือบทุกครั้ง จนพริมาโดนบรรดาเพื่อนร่วมงานแซวอยู่บ่อย ๆ ส่วนตัวชายหนุ่มที่ทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจนั้นก็บอกกับเธอว่า
“เพื่อความปลอดภัย ทั้งกับตัวปริมเอง และกับหัวใจพี่”
พริมาที่รับรู้ถึงความเสมอต้นเสมอปลายของภัทร์ แฟนหนุ่มที่คบกันมาได้กว่า 3 ปีแล้ว เธอได้ให้สัญญากับเขาว่าจะขอทำงานสายการบินเพียง 5 ปี เพราะอยากได้ประสบการณ์ก่อน แล้วจึงจะตกลงใช้ชีวิตคู่กับเขา ภัทร์จึงยอมเข้าใจแต่โดยดี
************************
ผ่านไป 2 ปีนับจากวันที่พริมาได้เริ่มชีวิตทำงาน
“ปริม วันหยุดหน้าของปริม เราไปเที่ยวกันนะ” ภัทร์เอ่ยปากชวนแฟนสาวที่กำลังยืนล้างจานอยู่ในห้องครัวของเขาในคอนโดหรู ซึ่งตอนนี้เขาอาศัยอยู่ตามลำพัง เพราะน้องสาว ภัทรา บินไปเรียนต่อด้านแฟชั่นที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ
“คราวนี้จะไปไหนเหรอคะ ในหรือนอกประเทศ” พริมาตอบพลางเริ่มเช็ดจานไปพลาง
“พี่อยากไปปายน่ะ โอเคไหม” ภัทร์เข้ามาโอบกอดพริมาจากด้านหลัง ก่อนที่จะขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่ เขาหากำไรจากแฟนสาวแบบนี้อยู่บ่อย ๆ นอกเหนือไปจากการจับมือถือแขนที่ทำอยู่เป็นประจำ
“ปายเหรอคะ อือ ตกลงค่ะ ช่วงนี้อากาศกำลังเริ่มหนาว บรรยากาศน่าจะดี แถมไม่ใช่หน้าเทศกาล คนคงไม่พลุกพล่านนัก แล้วเราจะไปสักกี่วันดีคะ เดี๋ยวปริมจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินและจองที่พักเลย” พริมาสรุปอย่างรวดเร็วเพราะอยากไปพักผ่อนจากการทำงานอยู่เหมือนกัน
“แล้วแต่ปริมสิ พี่ไม่มีปัญหา จะกี่วันก็ได้ ไปหลายวันยิ่งดี ช่วงนี้คุณพ่อให้พี่ศีกษางานฝ่ายสินเชื่ออยู่ รายละเอียดเยอะแยะไปหมด ปวดหัว ถ้าได้ไปเที่ยวพักผ่อนหลาย ๆ วันแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
“แหม! ปริมลืมไปว่ากำลังพูดกับเจ้าของกิจการอยู่ จะหยุดงานขาดงานกี่วันก็ย่อมได้ ไม่เหมือนลูกจ้างอย่างปริมหรอก” พริมาแกล้งประชดแฟนหนุ่ม
“ฮ่า ๆๆ ไม่ต้องมาประชดพี่เลย นี่แน่ะ! ต้องลงโทษซะหน่อย” ภัทร์หอมแก้มปลั่งอีกครั้ง
“พี่บอกให้ปริมมาทำงานที่ธนาคารตั้งหลายครั้งแล้ว คุณพ่อก็เอ่ยปากชวนเองแล้วด้วย ปริมนั่นแหละที่รังเกียจธนาคารของพี่ ไม่ยอมมาทำงานให้สักที” ภัทร์แกล้งบ่นใส่แฟนสาวก่อนที่จะเกยคางไปบนหัวไหล่มนของพริมา
“ก็ปริมไม่อยากให้ใครว่าได้นี่คะว่าใช้เส้นเข้าทำงานน่ะ และอีกอย่างปริมก็ไม่รู้จะไปทำอะไรที่ธนาคาร ปริมไม่ชอบตัวเลข ไม่ชอบไปนั่งนับเงินของคนอื่น ถ้าเป็นของปริมเองก็ว่าไปอย่าง” พริมาพูดเล่นสนุก ๆ
“ปริมชอบเป็นแอร์มากกว่าค่ะ ได้ไปเที่ยวหลาย ๆ ที่ดีออก” พริมาที่เช็ดจานใบสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ค่อย ๆ หมุนตัวมาหาแฟนหนุ่ม
“ก็พี่ไม่ได้ไปด้วยนี่คร้าบบบ” ภัทร์พูดพลางจรดหน้าผากของตนไปชิดกับหน้าผากนูนของหญิงสาวในอ้อมกอด
“พี่อยากใช้เวลากับปริมตามลำพังบ้าง ปริมสะดวกกี่วันก็แล้วแต่ปริม จะพักที่ไหนปริมก็เลือกได้เลย พี่ขอแค่ข้อเดียว ขอแค่คราวนี้.....เราไปกันสองคนนะ ไม่มีคนอื่นนะครับ” ภัทร์บอกเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ก่อนที่จะย้ำอีกครั้งว่า
“ไม่ต้องชวนปรัชญ์ไม่ต้องชวนอัณณ์นะครับ แค่เราสองคนเท่านั้น” ภัทร์พูดเสร็จก็ปิดปากแฟนสาวไม่ให้โต้แย้งด้วยจุมพิตหวานเนิ่นนานจนคนในวงแขนแกร่งเริ่มอ่อนระทวยจนแทบยืนไม่ติด
“พี่โป๊ป...พะ...พะ...พอแล้ว” พริมากระตุกชายเสื้อแฟนหนุ่มให้หยุดภารกิจ ‘ชิมของหวาน’ อย่างที่ภัทร์เรียก
“เห้ออออ” ภัทร์ถอนหายใจเพราะต้องจำใจยอมหยุด ชายหนุ่มหอมแก้มแฟนสาวอีกครั้งแล้วจึงรีบถอยห่างออกมา เพราะกลัวที่จะห้ามใจตัวเองไม่อยู่และต้องทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคนรัก..... ‘รอจนกว่าจะถึงวันแต่งงานนะคะพี่โป๊ป’
************************
สิบวันต่อมา ณ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18 องศา
ภัทร์และพริมาขับรถเช่ามาจากสนามบินเชียงใหม่และเข้าที่พักตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา รีสอร์ต ‘ณ ปาย’ แห่งนี้เป็นรีสอร์ตที่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนยิ่งนัก เจ้าของรีสอร์ตเป็นคนรักธรรมชาติมาก รีสอร์ตแห่งนี้จึงมีต้นไม้จำนวนมากมายให้ความร่มรื่น แถมต้นไม้เหล่านั้นยังเปรียบเสมือนแนวรั้วที่ช่วยกั้นห้องพักแต่ละหลังออกจากกัน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวแก่แขกที่มาพักผ่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นเจ้าของยังเน้นให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นที่พักผ่อนแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ในแต่ละห้องจึงไม่มีโทรทัศน์หรือเครื่องเสียงให้ความบันเทิงใด ๆ เลย เพราะต้องการให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติมากกว่า จุดเด่นของที่พักแห่งนี้ก็คือบรรดาบ้านต้นไม้ขนาดย่อมหลังสีขาวสะอาดตาที่ตั้งอยู่บนต้นไม้ขนาดใหญ่ทั่วทั้งรีสอร์ต ซึ่งบ้านต้นไม้แบบนี้นั้นจะทำให้แขกผู้มาเยือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเท่านี้รีสอร์ตยังเน้นความเป็นไทย ตกแต่งห้องพักกระจุ๋มกระจิ๋มในสไตล์ล้านนา บรรยากาศโดยรอบจึงสดชื่นด้วยแมกไม้และดูสบายตาเหมาะกับการมา ‘ชาร์จแบต’ จึงไม่น่าแปลกใจที่ห้องพักเกือบทั้งหมดของรีสอร์ตจะถูกจองเต็มข้ามปีตลอดทั้งปี
ห้องพักของภัทร์และพริมาเป็นกระท่อมไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เหมาะสำหรับหนึ่งครอบครัวได้พักอาศัย กระท่อมนี้ตั้งติดอยู่ริมแม่น้ำปายที่ไหลผ่านด้านหลังของรีสอร์ต มี 2 ห้องนอน หน้ากระท่อมมีชิงช้าไม้ตัวเขื่องน่านั่งเล่นผูกติดอยู่กับกิ่งของต้นไม้ใหญ่ พริมาเป็นคนเลือกที่พักเอง เพราะเธอหลงเสน่ห์มนต์แม่น้ำปายตั้งแต่แรกเห็นรูปจากในเว็บไซต์ของรีสอร์ต ที่สำคัญกระท่อมน้อยหลังนี้มี 2 ห้องนอนจึงเหมาะสำหรับคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานอย่างเธอและภัทร์
หลังจากออกไปเดินเล่นบนถนนคนเดินของอำเภอปายตั้งแต่เมื่อช่วงเย็น ภัทร์และพริมาเดินเลือกซื้อเลือกหาสินค้าที่ระลึกที่วางขายเต็มสองข้างทางเพื่อนำไปฝากพรรคพวกเพื่อนฝูง ชายหนุ่มหญิงสาวเดินชมสภาพบ้านเมือง และวิถีชีวิตของผู้คนที่ไม่ต้องรีบเร่งทำงานแข่งกับเวลาเหมือนคนที่มาจากสังคมเมืองหลวงอย่างพวกเขา ทั้งคู่ลองชิมอาหารหน้าตาแปลก ๆ ของเหล่าชาวเขาอย่างสนุกสนาน และเมื่อเดินชมเมืองจนพลบค่ำแล้ว สองหนุ่มสาวก็แวะรับประทานอาหารเย็นก่อนที่จะกลับเข้ามายังที่พักเพื่อพักผ่อน อากาศในช่วงค่ำของที่ปายถึงแม้จะไม่ใช่หน้าหนาวก็ยังถือว่าค่อนข้างเย็นมาก พริมาจึงใช้เวลาอาบน้ำและแต่งตัวไม่ถึงห้านาที หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนซึ่งมีลายดอกไม้น่ารักทั่วทั้งตัว ชุดนอนตัวนี้ทำจากเนื้อผ้าที่ค่อนข้างหนาแถมจั๊มทั้งปลายแขนและขาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องด้วยอากาศที่ค่อนข้างเย็นในยามค่ำคืนของเมืองที่อยู่ในหุบเขาอย่างปาย พริมาจึงสวมเสื้อกันหนาวทับเสื้อนอนอีกหนึ่งชั้น และสวมทั้งถุงมือและถุงเท้าไหมพรมสีสวย
“บรื๋ออออ หนาวจังเลยค่ะ นี่ขนาดไม่ใช่หน้าหนาวนะคะ” พริมาพูดกับภัทร์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้รับแขกที่ทำจากไม้ซึ่งวางอยู่หน้าห้องนอนทั้งสองห้อง
“แล้วปริมมีเสื้อกันหนาวพอไหม เอาของพี่ไปใส่อีกตัวไหม ตกดึกน่าจะหนาวกว่านี้อีก” ภัทร์บอกกับคนรัก
“ไม่ต้องมั้งคะ เพราะมีผ้าห่มอีก ผ้าห่มของที่นี่ค่อนข้างหนา แต่ถ้าทนหนาวไม่ไหว เดี๋ยวปริมค่อยใส่เลคกิ้งอีกชั้น พี่โป๊ปรีบไปอาบน้ำเถอะคะ เดี๋ยวยิ่งดึกอากาศจะยิ่งเย็นไปกว่านี้” พริมานั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวที่ถูกคั่นกลางด้วยโต๊ะกาแฟขนาดเล็ก พลางผูกผ้าพันคอผ้าไหมสีสดเป็นปมเพื่อกันไม่ให้ลื่นหลุดในเวลานอน
ภัทร์วางหนังสือลงบนโต๊ะและลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเหยียดมือทั้งสองขึ้นไปบนอากาศเพื่อยืดเส้นยืดสาย และเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการที่ต้องขับรถมาจากสนามบินเชียงใหม่กว่าหลายชั่วโมง เพราะเส้นทางที่เป็นหุบเขาและไม่คุ้นเคย ชายหนุ่มจึงไม่กล้าขับเร็วมากนัก
“ถ้าปริมง่วง ก็เข้านอนได้เลยนะ” ภัทร์บอกกับพริมาก่อนที่จะเดินมาหยุดข้างหน้าแล้วจึงทิ้งตัวลงนั่งยองอยู่หน้าแฟนสาว
“กู๊ดไนท์ครับ” ภัทร์หอมแก้มพริมาแล้วสบตาหวานซึ้ง
“กู๊ดไนท์ค่ะ” พริมาตอบกลับพร้อมทั้งรีบหอมแก้มชายคนรักเช่นกัน หญิงสาวสบตากับชายหนุ่มด้วยท่าทางเอียงอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอและเขาได้มาค้างคืนกันตามลำพัง ก่อนที่จะรีบลุกเดินเข้าไปในห้องนอนแทบจะทันทีที่ภัทร์หลีกทางให้
************************
“พี่โป๊ปคะ ๆ หลับหรือยังคะ” พริมาเคาะประตูหน้าห้องแฟนหนุ่มในเวลาหลังเที่ยงคืนเศษ ๆ
“มีอะไรปริม!!!” ภัทร์ถามหญิงสาวกลับมาในทันทีด้วยน้ำเสียงตกใจก่อนที่จะเปิดประตูออกมาเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มยังไม่นอน เขายังอ่านหนังสืออยู่
“เอ่อออ ปริม...ปริมนอนไม่หลับน่ะค่ะ” พริมาบอกกับคนรักด้วยสีหน้าจ๋อย ๆ
“แปลกที่เหรอ” ภัทร์
“จะว่างั้นก็ได้ค่ะ”
“เอ่อออ อันที่จริง ปริมไม่กล้านอนคนเดียวน่ะค่ะ พี่โป๊ปคะ ปริมขอนอนด้วยคนได้ไหมคะ ปริม...ปริมกลัวผีน่ะค่ะ” พริมาตัดสินใจพูดออกไป เพราะบรรยากาศที่เงียบสงบของทั้งตัวกระท่อมที่สร้างจากไม้ อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ตที่ดูวังเวงในยามคำคืนแบบนี้ หรือจะเป็นเพราะความกลัวผีที่มีอยู่ในใจลึก ๆ ของตัวเอง พริมาก็ไม่อาจบอกได้ แต่ที่แน่ ๆ คือ เธอไม่กล้านอนคนเดียวในกระท่อมหลังนี้อย่างเด็ดขาด
“ปริมพูดจริงเหรอ” ภัทร์ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าสาวมั่นต้องหน้าจะกลัวผีขนาดยอมขอมานอนห้องเดียวกับเขา
“ค่ะ ไม่กล้านอนคนเดียวจริง ๆ” พริมาสารภาพเพราะปกติเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือเวลาไปทำงานต่างประเทศ พริมาจะมีเพื่อนร่วมห้องด้วยทุกครั้ง
“ปริมรู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ เหมือนมีคนคอยมองอยู่ตลอดเวลาน่ะค่ะ” พริมาบอกภัทร์ตามที่รู้สึก
“คิดมากไปหรือเปล่าจ๊ะ แต่ถ้าไม่กล้านอนจริง ๆ ก็เข้ามา” ภัทร์ส่ายหัวไปมาเพราะรู้สึกขำในความขี้ขลาดของแฟนสาว ชายหนุ่มหลีกทางให้พริมาที่หอบหมอนหนุนใบโตพร้อมทั้งผ้าห่มให้เดินเข้ามาในห้องนอน
เมื่อมีแฟนสาวมานอนร่วมห้อง ภัทร์จึงต้องปิดโคมไฟหัวเตียงที่ใช้อ่านหนังสือเพื่อเข้านอนพร้อมแฟนสาวที่ออกอาการง่วงมากแล้ว ทั้งสองต่างข่มตาให้หลับ ไม่มีบทสนทนาใด ๆ จนเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง
“ปริม หลับหรือยัง”
“.......”
“ปริม หลับหรือยัง” ภัทร์ถามซ้ำอีกครั้ง เพราะเขาค่อนข้างแน่ใจว่าพริมาคงแกล้งทำเป็นหลับอยู่ ภัทร์จึงชะโงกหน้าเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่ แสงสว่างจากหลอดไฟหน้าห้องที่เปิดทิ้งไว้ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้ชายหนุ่มได้มองเห็นหน้าคนรักอยู่ลาง ๆ ในความมืด ใบหน้างามที่ดูผ่าน ๆ จะเหมือนหลับตาพริ้มและคงนอนฝันดีอยู่ แต่พอเพ่งได้สักพักก็จะเห็นว่าคิ้วเริ่มขมวดเป็นปม ภัทร์นึกขำแฟนสาว ชายหนุ่มจึงแกล้งหายใจรดหน้าช้า ๆ และเขาก็ต้องแอบยิ้มในความมืดเมื่อเห็นพริมาที่ยังคงหลับตาอยู่พยายามกลั้นหายใจ
“ปริมจ๋า ปริมจ๋า อย่าเพิ่งหลับสิ อยู่คุยกันก่อน” ภัทร์ยังคงสนุกที่ได้แกล้งแฟนสาว เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด และพูดชิดริมฝีปากได้รูปของเธอ
“สงสัยจะหลับแล้วจริง ๆ งั้น....ลักหลับเลยดีกว่า” พูดเสร็จภัทร์ก็แกล้งจรดริมฝีปากของตนจนชิดกับริมฝีปากของพริมา ทันใดนั้นเองพริมาก็รีบใช้มือดันตัวแฟนหนุ่มให้ห่างออกไป
“พี่โป๊ปจะทำอะไรคะ!” พริมาร้องถามเสียงหลงอย่างหน้าตาตื่น
“ว้า! ตื่นแล้วเหรอ ยังไม่ทันได้ลักหลับเลย หึๆๆ” ภัทร์หัวเราะและก้มลงมองพริมาที่ยังคงใช้มือยันตัวของเขาเอาไว้ ชายหนุ่มจึงเท้าแขนขึ้นมาทั้งสองข้าง
“ปริม” ภัทร์สบตากับคนที่ยังนอนอยู่ใต้อ้อมกอดด้วยแววตาหวานซึ้งและสื่อความหมาย
“ค่ะ” พริมาตอบก่อนที่จะหลบสายตาจากคนรัก เธอไม่อยากให้ภัทร์ได้เห็นแววตาที่วูบไหวไปตามอารมณ์ของตนเองที่ขณะนี้กำลังปั่นป่วนไปหมด เธอเคยอยู่ใกล้กับเขา.....แต่ไม่เคยอยู่ใกล้กันขนาดนี้ และในท่าแบบนี้…..แถมยังนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาบนเตียงนอนอีกต่างหาก พริมาที่พยายามดันตัวของภัทร์ให้ออกห่างให้มากขึ้น เพราะไม่อยากให้แฟนหนุ่มได้รับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเธอในเวลานี้ หัวใจที่เต้นแทบไม่เป็นจังหวะเพราะความใกล้ชิดที่กำลังเกิดขึ้น....พริมากลัวหัวใจตัวเอง
“พี่รักปริมนะครับ” ภัทร์บอกรักด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ปริมก็รักพี่โป๊ปค่ะ” พริมาเงยหน้าขึ้นสบตากับคนรักอีกครั้ง
“แต่งงานกับพี่นะ” ภัทร์เอ่ย
“พี่โป๊ป” พริมาเรียกชื่อแฟนหนุ่มอย่างตกตะลึง ถึงแม้เธอจะเคยพูดคุยถึงเรื่องนี้กับภัทร์มาบ้างแต่ก็ไม่ได้จริงจังมากนักเพราะต่างก็ยังสนุกกับงานกันอยู่ ที่สำคัญเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกขอแต่งงานในสถานการณ์หมิ่นเหม่และล่อแหลมแบบนี้
“กลับไปกรุงเทพแล้ว เราแต่งงานกันเลยนะ พี่ไม่อยากรออีกแล้ว พี่อยากใช้ชีวิตกับปริม” ภัทร์บอกคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความจริงจัง
“พี่โป๊ปแน่ใจว่าพร้อมจะใช้ชีวิตคู่กับปริมแล้วนะคะ” พริมาถาม
“พี่แน่ใจ ปริมละ พร้อมไหม ยังหวงชีวิตสาวโสดไหม” ภัทร์ถามกลับ
“ปริมรักพี่โป๊ปนะคะ แต่ปริมยังไม่แน่ใจว่าพร้อมกับชีวิตคู่หรือยัง ปริมยังสนุกกับงาน ยังสนุกกับการได้ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ยัง...” พริมาอธิบายยังไม่ทันจบ ภัทร์ก็พูดแทรกขึ้นว่า
“พี่ไม่ได้ให้ปริมลาออกจากงานนะ ถ้าปริมยังอยากทำงาน ปริมก็ยังทำได้เหมือนเดิม ปริมยังไปเที่ยวไหนต่อไหนได้เหมือนเดิม พี่ไม่ได้ห้าม ปริมยังอยากทำอะไรก็ยังทำได้ พี่แค่ขอมีส่วนร่วมมากขึ้น พี่อยากใช้เวลากับปริมมากขึ้น พี่อยากตื่นนอนมาเห็นหน้าปริม และอยากเข้านอนพร้อมปริมแบบนี้ทุก ๆ คืน พี่พร้อมจะเดินไปข้างหน้ากับปริม แล้วปริมล่ะพร้อมจะมีพี่อยู่เคียงข้างไปตลอดชีวิตหรือยัง” ภัทร์ใช้ลูกอ้อนถาม
“ถ้าพี่โป๊ปพร้อม ปริมก็พร้อมแล้วค่ะ” พริมาตอบอย่างไม่ลังเล ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ แล้วเธอยังสนุกกับการใช้ชีวิตและการทำงานที่เธอรัก แต่เพราะความรักที่มีให้กับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหมดหัวใจ เธอก็พร้อมที่จะเสียสละความสุขเหล่านั้นเพื่อแลกกับความสุขอีกรูปแบบหนึ่งของชีวิต พริมาคิดว่าตัวเองพร้อมทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรในอนาคตข้างหน้าบ้าง
“ปริมพูดจริง ๆ นะ ตกลงกลับไปเราแต่งงานกันเลยนะ” ภัทร์ถามย้ำด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้งสีหน้าและแววตาที่เปล่งประกายความสุขออกมาอย่างชัดเจน จนพริมายิ้มพราวตามไปด้วย
“ค่ะ ปริมพร้อมจะแต่งงานกับพี่โป๊ปแล้ว” พริมาในวัยย่างเบญจเพสกล่าวออกไป
“พี่รักปริมนะครับ” ภัทร์พูดเสร็จก็ค่อย ๆ ลดใบหน้าลงไปหาหญิงสาวในอ้อมกอด และบรรจงมอบจุมพิตหวานล้ำราวกับเป็นการให้สัญญาแก่กันและกัน
“พี่โป๊ป....ปริมรักพี่โป๊ปนะคะ” พริมาบอกรักด้วยน้ำเสียงหวานไม่แพ้กัน
“พี่ก็รักปริม พี่รักปริมมากนะครับ และขอสัญญาว่าจะรักจะทะนุถนอมปริมตลอดไป เราจะมีชีวิตคู่และช่วยกันสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยกันนะครับ” ภัทร์พูดจบก็ก้มหน้าลงไปจูบปากอิ่มของหญิงสาวที่เผยอขึ้นรับอย่างเต็มใจอีกครั้งอย่างเนิ่นนานและเริ่มรุกรานมากยิ่งขึ้น จากจุมพิตหวานจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความร้อนแรงที่พัดโหมขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดที่จะหักห้ามใจไว้ได้ ในที่สุดพริมาก็ปล่อยตัวปล่อยใจยอมให้อารมณ์นำพาร่างกายที่ไม่อาจฝืนและต่อต้านความต้องการของหัวใจได้อีกต่อไป เธอยินยอมให้ภัทร์เป็นคนนำทางเธอไปสู่จุดหมายที่ปลายรุ้ง......ที่เส้นขอบฟ้าไกล
************************
อีก 4 เดือนต่อมาก็มีข่าวใหญ่ในหน้าสังคมของหนังสือพิมพ์และนิตยสารแทบทุกฉบับว่า.....
‘Society wedding of the year คงหนีไม่พ้นงานวิวาห์ตระการตาแห่งปี ระหว่าง ภัทร์ บุตรชาย เจ้าสัวพัฒนและคุณหญิงพิจิตรา พัฒนภิรมย์ และ พริมา บุตรีของผู้ว่าบุรินทร์และคุณนายเปมิกา กีรติอนันต์ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โรงแรมหรูกลางเมืองกรุง
ระดับว่าที่นายแบงค์แต่งงานทั้งทีแขกเหรื่อทั้งของญาติผู้ใหญ่และคู่บ่าวสาวเลยมีร่วม ๆ 3,000 คน งบจัดงานที่ได้ยินมาจึงพุ่งกระฉูดไปถึง 8 หลัก แต่แค่นี้ถือว่าจิ๊บ ๆ ค่ะ ไม่ระคายขนหน้าแข้งของพ่อเจ้าบ่าวหรอก นี่ยังไม่รวมสินสอดทองหมั้นที่ทางเจ้าสัวพัฒนจัดอย่างเต็มที่ไว้รับขวัญลูกสะใภ้คนงาม ซ้อขอไม่บอกตัวเลขนะคะเพราะกลัวจะเป็นลมกันเสียก่อน เพียงรถยนต์คันหรูที่มอบให้เจ้าสาวเป็นของรับไหว้ในวันแต่งก็ราคากว่า 10 ล้านบาทแล้ว ไหนจะเครื่องเพชรชุดใหญ่และแหวนแต่งงานตั้งเกือบสิบกระรัตนั่นอีก โอ้ย! อิจฉาค่ะอิจฉา แต่ในเมื่อเขาเข้าหอกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมบินไปฮันนีมูนกันถึงมัลดีฟส์ตั้ง 7 วัน 7 คืนอีก ซ้อก็คงได้แต่ทำใจและต้องมองหาที่ซับน้ำตาใหม่กันต่อไป ซ้อขออวยพรให้ทั้งคู่ครองรักกันไปตราบนานเท่านาน และขอให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มธนาคารพัฒนทรัพย์นะเจ้าคะ’
************************
ตอนที่ 9
เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้วภัทร์และพริมาก็กลับมาคบหาดูใจกันดังเดิม......หวานกว่าเดิมถึงจะถูก คนรอบข้างที่ตามลุ้นมาตลอดต่างพลอยโล่งอกและดีใจไปด้วย ใคร ๆ ก็ได้แต่แอบหวังว่าเมื่อรากฐานแห่งรักมั่นคงแบบนี้ คู่รักคู่นี้คงลงเอยกันได้อย่างสวยงาม
ภัทร์ต้องจบช้ากว่าเพื่อนร่วมรุ่นไปหนึ่งภาคเรียนเนื่องจากต้องพักรักษาตัวจากอุบัติเหตุ ชายหนุ่มเลยพลาดการสอบปลายภาคในปีนั้นไป แต่ในระหว่างที่ต้องรอรับปริญญาพร้อมกับรุ่นน้องในอีกครี่งปีหลังนั้น เขาก็ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทในประเทศ โดยทิ้งความตั้งใจเดิมที่จะไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลหลักที่ว่า
‘เรียนที่ไหน ๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ แถมเรียนในไทยยังได้ฝึกงานในสาขาของธนาคารไปได้อีกด้วย’
ส่วนเหตุผลรองก็คือ อยากอยู่ใกล้แฟนสาวที่อีกหนึ่งปีก็จะเรียนจบแล้ว ภัทร์วาดแผนไว้ในใจอย่างสวยหรูว่าจะขอหมั้นกับพริมาแล้วค่อยชวนเธอไปเรียนต่อโทด้วยกันที่ต่างประเทศ แต่ในที่สุดแผนนี้ก็ไม่สมหวังเพราะพริมาเลือกที่จะทำงานหาประสบการณ์ก่อนที่จะเรียนต่อ
ทุก ๆ วันหลังเลิกงานภัทร์จะมารับแฟนสาวเพื่อไปกินข้าว หรือไม่ก็ดูหนังฟังเฟลงตามประสาคู่รักทั่วไป เขาได้รับมอบหมายให้เริ่มงานจากตำแหน่งพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร เพราะบิดาต้องการให้เขาได้เรียนรู้ระบบของธนาคารในทุก ๆ ด้าน ซึ่งภัทร์ก็เต็มใจและตั้งใจเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวเป็นอย่างดี และถึงแม้จะเป็นถึงลูกชายเจ้าของธนาคาร เขาก็ไม่ได้รับอภิสิทธิ์เหนือจากพนักงานคนอื่นแต่อย่างใด ชายหนุ่มทุ่มเทเรียนรู้งานและเรียนโทควบคู่ไปด้วยทุกวันเสาร์อาทิตย์ นับเป็นชายหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งที่เป็นที่จับตามองของสังคม จึงมีข่าวของเขาในหน้าสังคมของหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารชื่อดังหลายฉบับให้ได้อ่านอยู่บ่อย ๆ รวมทั้งยังได้ยินบ่อยครั้งจากรายการบันเทิงในโทรทัศน์ที่ชอบเอาบรรดาคนดังทั้งหลายมาซุบซิบให้กระฉ่อน ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งพริมาก็โดนเอี่ยวเข้าไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
‘...อีกหนุ่มฮอตประจำปีนี้คงหนีไม่พ้น ภัทร์ พัฒนภิรมย์ แห่งธนาคารพัฒนทรัพย์ ที่เรียนจบ ป. ตรีปุ๊ป หนุ่มโป๊ปก็เรียนต่อโทปั๊ป ไม่ยอมให้เสียเวลาแถมยังเริ่มเรียนรู้งานจากหน้าเคาน์เตอร์ที่สาขาสยามเป็นแห่งแรกควบคู่กับการเรียนโทไปด้วยอีก ไฟแรงจริง ๆ นะคะ สาวใดอยากเปิดบัญชีกับเจ้าตัวอย่ามัวรอช้า นาน ๆ จะได้เห็นลูกชายนายแบงค์มานั่งรับฝากและถอนเอง เพียงแต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าถ้าคิดจะฝากประจำพิเศษแบบตลอดชีพคงไม่ได้เสียแล้ว เพราะแว่ว ๆ มาว่ามีสาวอักษรปี 3 ชิงเปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว’
‘ภัทร์ พัฒนภิรมย์ ขยันออกงานกับบิดาเป็นว่าเล่นเพราะท่านเจ้าสัว พัฒน ต้องการปูทางธุรกิจให้ลูกชายคนเดียวได้สานต่อ ช่วงนี้ไม่ว่าใครจะเชิญไปงานไหนจะได้เห็นสองพ่อลูกคู่นี้เป็นเงาตามตัวกันไม่ห่าง ตำแหน่งนักธุรกิจอนาคตไกลคงไม่เกินเอื้อมแน่ ๆ เพราะได้เทรนเนอร์วีไอพีส่วนตัวแบบนี้ แต่ใช่ว่าหนุ่มโป๊ปจะตามเป็นเงาแค่บิดาเพียงคนเดียว เพราะในยามว่างก็ยังคงเห็นหนีบหวานใจคนสวยไปดูหนังกันสองต่อสองเป็นประจำ จะใช่หนังรักโรแมนติคหรือเปล่าเจ๊ลัดดาก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ ๆ เขานั่ง ‘เลิฟ ซีท’ กันล่ะค่ะคุณผู้ชมขา’
‘ขอแสดงความยินดีกับสาขาใหม่ของธนาคารพัฒนทรัพย์ ที่เพิ่งเปิดตัวในสิงคโปร์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากท่านเจ้าสัวพัฒน พัฒนภิรมย์ จะเป็นคนตัดริบบิ้นฉลองสาขาที่ 10 ในต่างประเทศด้วยตัวเองแล้ว ยังเปิดตัวลูกชายอย่างเป็นทางการด้วยการมอบหมายให้ลูกชายคนเดียว ภัทร์ ขึ้นกล่าวเปิดงานอีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเลยนะคะงานนี้ เอ๊ะ! หรือว่าจะสามตัวกันแน่ เพราะงานนี้หนุ่มโป๊ปแอบควงหวานใจไปเดินช็อปปิ้งแถวถนนออร์ชาร์ดให้สาว ๆ เมืองลอดช่องได้ตาลุกตาวาว กันเป็นแถว ซึ่งสาวคนนี้น่าจะเป็นตัวจริงเสียงจริงของว่าที่นายแบงค์ เพราะทั้งท่านเจ้าสัวและคุณนายอนุญาตให้ว่าที่ลูกสะใภ้ร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน้าธนาคารเสียด้วยสิ คราวหน้า ‘สะเก็ดข่าว’ จะไปล้วงลึกมาให้คุณผู้ชมได้ทราบนะคะว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นคือใครกัน’
‘วาเลนไทน์นี้ คู่รักหลายคู่ต่างจูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรักเพื่อเอาเคล็ด ส่วนคู่นี้แม้ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่ก็ฉลองวาเลนไทน์ไม่น้อยหน้าคู่อื่น ๆ ภัทร์ พัฒนภิรมย์ ส่งช่อดอกไม้ช่อโตไปให้แฟนสาวถึงคณะอักษรในตอนเช้า แถมตกเย็นก็พาไปดินเนอร์หรูใต้แสงเทียนกันสองต่อสองที่ร้านอาหารดังริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดูจากภาพแล้ว ‘แคทรียาคะขา’ อยากรู้จังว่ากล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นจะใช่แหวนเพชรเม็ดงามไว้มัดใจสาวหรือเปล่าคะ หนุ่มโป๊ปช่วยมาตอบที’
‘ที่แท้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พริมาลูกสาวคนสวยของท่านผู้ว่าบุรินทร์ กีรติอนันต์ เจ้าเมืองภูเก็ตนี่เอง ที่ครองตำแหน่งว่าที่ลูกสะใภ้ของท่านเจ้าสัว พัฒน พัฒนภิรมย์ อยู่ หนุ่มโป๊ปเล่นตามรับส่งทั้งเช้าและเย็นแบบนี้ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายก็เลยหมดโอกาสจะทำความรู้จักหนูปริมอย่างเป็นส่วนตัวเสียแล้ว แว่ว ๆ มาว่าถ้าสาวเจ้าเรียนจบปุ๊ป หนุ่มโป๊ปก็จะจับเป็นเจ้าสาวปั๊ป งานนี้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ทั่วกรุงคงอกหักกันเป็นแถว’
************************
การคบหาดูใจของทั้งคู่นอกจากจะอยู่ในสายตาของเพื่อน ๆ ฝ่ายหญิงแล้ว บรรดาผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับรู้ โดยเฉพาะท่านเจ้าสัว พัฒน นั้นดูจะถูกใจแฟนสาวของลูกชายคนนี้เป็นพิเศษ เนื่องด้วยครอบครัวและบุคลิกของพริมาที่เหมาะสมกับตำแหน่งลูกสะใภ้เจ้าของธนาคาร แถมตัวหญิงสาวยังทำให้ลูกชายของเขาทิ้งลายเจ้าชู้เสียได้ ท่านเจ้าสัวบอกกับลูกชายบนโต๊ะอาหารค่ำวันหนึ่งว่า
“คนที่จะเป็นนายธนาคารที่ดีได้นั้น ต้องได้รับการไว้ใจจากผู้คนรอบข้าง ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องการงาน และความไว้ใจจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเขาเชื่อใจเรา การเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี รักเดียวใจเดียว ย่อมได้รับการเชื่อใจมากกว่าการเป็นคนเจ้าชู้ โป๊ปจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ เพราะโป๊ปกำลังแบก พัฒนทรัพย์ ติดตัวไปด้วยตลอดเวลาแล้วนะ เมื่อก่อนพ่อไม่เคยว่าเรื่องแฟน ๆ ของโป๊ป เพราะเห็นว่าโป๊ปยังเด็ก แต่ตอนนี้โป๊ปเรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว พ่อว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ จะสนุกก็ต้องอยู่ในขอบเขต เพราะมีทั้งลูกน้องและลูกค้าที่รู้จักเรา ถ้าจะจริงจังกับใครสักคนก็ต้องทำให้ได้ แต่ถ้ายังคิดว่าไม่ใช่ ก็อย่าให้มันลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น ลูกสาวเขามีพ่อมีแม่นะ อย่าให้เขามาถอนหงอกพ่อกับแม่ได้ล่ะ”
“ถึงพ่อไม่บอก ผมก็ทราบดีครับ” ภัทร์เข้าใจดีว่าบิดาหมายถึงอะไร
“คราวนี้พี่โป๊ปคงได้เลิกเจ้าชู้เสียจริง ๆ เพราะโดนทั้งคุณพ่อทั้งปริมกำราบเสียอยู่หมัด ฮ่าๆๆ” ภัทราหัวเราะเยาะพี่ชายอย่างชอบใจ
************************
หลังเรียนจบพริมาก็สมัครเข้าทำงานกับสายการบินแห่งหนึ่ง ได้เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องสมใจ จะมีก็แต่ภัทร์ที่ไม่ชอบใจนักเพราะอยากให้พริมาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยกัน แถมตั้งแต่เข้าทำงานหญิงสาวก็มีเวลาให้เขาได้น้อยลง และภัทร์ยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้นเมื่อทราบว่าแฟนสาวมีหนุ่ม ๆ ทั้งสจ๊วตและนักบินมาขายขนมจีบให้อยู่เรื่อย ๆ อาการหวงแฟนจึงกำเริบอย่างหนัก ภัทร์ยอมลุกจากเตียงในรุ่งสางหรือกลางดึกเพื่อไปส่งและรับแฟนสาวที่สนามบินด้วยตัวเองเกือบทุกครั้ง จนพริมาโดนบรรดาเพื่อนร่วมงานแซวอยู่บ่อย ๆ ส่วนตัวชายหนุ่มที่ทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจนั้นก็บอกกับเธอว่า
“เพื่อความปลอดภัย ทั้งกับตัวปริมเอง และกับหัวใจพี่”
พริมาที่รับรู้ถึงความเสมอต้นเสมอปลายของภัทร์ แฟนหนุ่มที่คบกันมาได้กว่า 3 ปีแล้ว เธอได้ให้สัญญากับเขาว่าจะขอทำงานสายการบินเพียง 5 ปี เพราะอยากได้ประสบการณ์ก่อน แล้วจึงจะตกลงใช้ชีวิตคู่กับเขา ภัทร์จึงยอมเข้าใจแต่โดยดี
************************
ผ่านไป 2 ปีนับจากวันที่พริมาได้เริ่มชีวิตทำงาน
“ปริม วันหยุดหน้าของปริม เราไปเที่ยวกันนะ” ภัทร์เอ่ยปากชวนแฟนสาวที่กำลังยืนล้างจานอยู่ในห้องครัวของเขาในคอนโดหรู ซึ่งตอนนี้เขาอาศัยอยู่ตามลำพัง เพราะน้องสาว ภัทรา บินไปเรียนต่อด้านแฟชั่นที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ
“คราวนี้จะไปไหนเหรอคะ ในหรือนอกประเทศ” พริมาตอบพลางเริ่มเช็ดจานไปพลาง
“พี่อยากไปปายน่ะ โอเคไหม” ภัทร์เข้ามาโอบกอดพริมาจากด้านหลัง ก่อนที่จะขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่ เขาหากำไรจากแฟนสาวแบบนี้อยู่บ่อย ๆ นอกเหนือไปจากการจับมือถือแขนที่ทำอยู่เป็นประจำ
“ปายเหรอคะ อือ ตกลงค่ะ ช่วงนี้อากาศกำลังเริ่มหนาว บรรยากาศน่าจะดี แถมไม่ใช่หน้าเทศกาล คนคงไม่พลุกพล่านนัก แล้วเราจะไปสักกี่วันดีคะ เดี๋ยวปริมจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินและจองที่พักเลย” พริมาสรุปอย่างรวดเร็วเพราะอยากไปพักผ่อนจากการทำงานอยู่เหมือนกัน
“แล้วแต่ปริมสิ พี่ไม่มีปัญหา จะกี่วันก็ได้ ไปหลายวันยิ่งดี ช่วงนี้คุณพ่อให้พี่ศีกษางานฝ่ายสินเชื่ออยู่ รายละเอียดเยอะแยะไปหมด ปวดหัว ถ้าได้ไปเที่ยวพักผ่อนหลาย ๆ วันแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
“แหม! ปริมลืมไปว่ากำลังพูดกับเจ้าของกิจการอยู่ จะหยุดงานขาดงานกี่วันก็ย่อมได้ ไม่เหมือนลูกจ้างอย่างปริมหรอก” พริมาแกล้งประชดแฟนหนุ่ม
“ฮ่า ๆๆ ไม่ต้องมาประชดพี่เลย นี่แน่ะ! ต้องลงโทษซะหน่อย” ภัทร์หอมแก้มปลั่งอีกครั้ง
“พี่บอกให้ปริมมาทำงานที่ธนาคารตั้งหลายครั้งแล้ว คุณพ่อก็เอ่ยปากชวนเองแล้วด้วย ปริมนั่นแหละที่รังเกียจธนาคารของพี่ ไม่ยอมมาทำงานให้สักที” ภัทร์แกล้งบ่นใส่แฟนสาวก่อนที่จะเกยคางไปบนหัวไหล่มนของพริมา
“ก็ปริมไม่อยากให้ใครว่าได้นี่คะว่าใช้เส้นเข้าทำงานน่ะ และอีกอย่างปริมก็ไม่รู้จะไปทำอะไรที่ธนาคาร ปริมไม่ชอบตัวเลข ไม่ชอบไปนั่งนับเงินของคนอื่น ถ้าเป็นของปริมเองก็ว่าไปอย่าง” พริมาพูดเล่นสนุก ๆ
“ปริมชอบเป็นแอร์มากกว่าค่ะ ได้ไปเที่ยวหลาย ๆ ที่ดีออก” พริมาที่เช็ดจานใบสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ค่อย ๆ หมุนตัวมาหาแฟนหนุ่ม
“ก็พี่ไม่ได้ไปด้วยนี่คร้าบบบ” ภัทร์พูดพลางจรดหน้าผากของตนไปชิดกับหน้าผากนูนของหญิงสาวในอ้อมกอด
“พี่อยากใช้เวลากับปริมตามลำพังบ้าง ปริมสะดวกกี่วันก็แล้วแต่ปริม จะพักที่ไหนปริมก็เลือกได้เลย พี่ขอแค่ข้อเดียว ขอแค่คราวนี้.....เราไปกันสองคนนะ ไม่มีคนอื่นนะครับ” ภัทร์บอกเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ก่อนที่จะย้ำอีกครั้งว่า
“ไม่ต้องชวนปรัชญ์ไม่ต้องชวนอัณณ์นะครับ แค่เราสองคนเท่านั้น” ภัทร์พูดเสร็จก็ปิดปากแฟนสาวไม่ให้โต้แย้งด้วยจุมพิตหวานเนิ่นนานจนคนในวงแขนแกร่งเริ่มอ่อนระทวยจนแทบยืนไม่ติด
“พี่โป๊ป...พะ...พะ...พอแล้ว” พริมากระตุกชายเสื้อแฟนหนุ่มให้หยุดภารกิจ ‘ชิมของหวาน’ อย่างที่ภัทร์เรียก
“เห้ออออ” ภัทร์ถอนหายใจเพราะต้องจำใจยอมหยุด ชายหนุ่มหอมแก้มแฟนสาวอีกครั้งแล้วจึงรีบถอยห่างออกมา เพราะกลัวที่จะห้ามใจตัวเองไม่อยู่และต้องทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคนรัก..... ‘รอจนกว่าจะถึงวันแต่งงานนะคะพี่โป๊ป’
************************
สิบวันต่อมา ณ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18 องศา
ภัทร์และพริมาขับรถเช่ามาจากสนามบินเชียงใหม่และเข้าที่พักตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา รีสอร์ต ‘ณ ปาย’ แห่งนี้เป็นรีสอร์ตที่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนยิ่งนัก เจ้าของรีสอร์ตเป็นคนรักธรรมชาติมาก รีสอร์ตแห่งนี้จึงมีต้นไม้จำนวนมากมายให้ความร่มรื่น แถมต้นไม้เหล่านั้นยังเปรียบเสมือนแนวรั้วที่ช่วยกั้นห้องพักแต่ละหลังออกจากกัน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวแก่แขกที่มาพักผ่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นเจ้าของยังเน้นให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นที่พักผ่อนแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ในแต่ละห้องจึงไม่มีโทรทัศน์หรือเครื่องเสียงให้ความบันเทิงใด ๆ เลย เพราะต้องการให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติมากกว่า จุดเด่นของที่พักแห่งนี้ก็คือบรรดาบ้านต้นไม้ขนาดย่อมหลังสีขาวสะอาดตาที่ตั้งอยู่บนต้นไม้ขนาดใหญ่ทั่วทั้งรีสอร์ต ซึ่งบ้านต้นไม้แบบนี้นั้นจะทำให้แขกผู้มาเยือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเท่านี้รีสอร์ตยังเน้นความเป็นไทย ตกแต่งห้องพักกระจุ๋มกระจิ๋มในสไตล์ล้านนา บรรยากาศโดยรอบจึงสดชื่นด้วยแมกไม้และดูสบายตาเหมาะกับการมา ‘ชาร์จแบต’ จึงไม่น่าแปลกใจที่ห้องพักเกือบทั้งหมดของรีสอร์ตจะถูกจองเต็มข้ามปีตลอดทั้งปี
ห้องพักของภัทร์และพริมาเป็นกระท่อมไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เหมาะสำหรับหนึ่งครอบครัวได้พักอาศัย กระท่อมนี้ตั้งติดอยู่ริมแม่น้ำปายที่ไหลผ่านด้านหลังของรีสอร์ต มี 2 ห้องนอน หน้ากระท่อมมีชิงช้าไม้ตัวเขื่องน่านั่งเล่นผูกติดอยู่กับกิ่งของต้นไม้ใหญ่ พริมาเป็นคนเลือกที่พักเอง เพราะเธอหลงเสน่ห์มนต์แม่น้ำปายตั้งแต่แรกเห็นรูปจากในเว็บไซต์ของรีสอร์ต ที่สำคัญกระท่อมน้อยหลังนี้มี 2 ห้องนอนจึงเหมาะสำหรับคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานอย่างเธอและภัทร์
หลังจากออกไปเดินเล่นบนถนนคนเดินของอำเภอปายตั้งแต่เมื่อช่วงเย็น ภัทร์และพริมาเดินเลือกซื้อเลือกหาสินค้าที่ระลึกที่วางขายเต็มสองข้างทางเพื่อนำไปฝากพรรคพวกเพื่อนฝูง ชายหนุ่มหญิงสาวเดินชมสภาพบ้านเมือง และวิถีชีวิตของผู้คนที่ไม่ต้องรีบเร่งทำงานแข่งกับเวลาเหมือนคนที่มาจากสังคมเมืองหลวงอย่างพวกเขา ทั้งคู่ลองชิมอาหารหน้าตาแปลก ๆ ของเหล่าชาวเขาอย่างสนุกสนาน และเมื่อเดินชมเมืองจนพลบค่ำแล้ว สองหนุ่มสาวก็แวะรับประทานอาหารเย็นก่อนที่จะกลับเข้ามายังที่พักเพื่อพักผ่อน อากาศในช่วงค่ำของที่ปายถึงแม้จะไม่ใช่หน้าหนาวก็ยังถือว่าค่อนข้างเย็นมาก พริมาจึงใช้เวลาอาบน้ำและแต่งตัวไม่ถึงห้านาที หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนซึ่งมีลายดอกไม้น่ารักทั่วทั้งตัว ชุดนอนตัวนี้ทำจากเนื้อผ้าที่ค่อนข้างหนาแถมจั๊มทั้งปลายแขนและขาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องด้วยอากาศที่ค่อนข้างเย็นในยามค่ำคืนของเมืองที่อยู่ในหุบเขาอย่างปาย พริมาจึงสวมเสื้อกันหนาวทับเสื้อนอนอีกหนึ่งชั้น และสวมทั้งถุงมือและถุงเท้าไหมพรมสีสวย
“บรื๋ออออ หนาวจังเลยค่ะ นี่ขนาดไม่ใช่หน้าหนาวนะคะ” พริมาพูดกับภัทร์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้รับแขกที่ทำจากไม้ซึ่งวางอยู่หน้าห้องนอนทั้งสองห้อง
“แล้วปริมมีเสื้อกันหนาวพอไหม เอาของพี่ไปใส่อีกตัวไหม ตกดึกน่าจะหนาวกว่านี้อีก” ภัทร์บอกกับคนรัก
“ไม่ต้องมั้งคะ เพราะมีผ้าห่มอีก ผ้าห่มของที่นี่ค่อนข้างหนา แต่ถ้าทนหนาวไม่ไหว เดี๋ยวปริมค่อยใส่เลคกิ้งอีกชั้น พี่โป๊ปรีบไปอาบน้ำเถอะคะ เดี๋ยวยิ่งดึกอากาศจะยิ่งเย็นไปกว่านี้” พริมานั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวที่ถูกคั่นกลางด้วยโต๊ะกาแฟขนาดเล็ก พลางผูกผ้าพันคอผ้าไหมสีสดเป็นปมเพื่อกันไม่ให้ลื่นหลุดในเวลานอน
ภัทร์วางหนังสือลงบนโต๊ะและลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเหยียดมือทั้งสองขึ้นไปบนอากาศเพื่อยืดเส้นยืดสาย และเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการที่ต้องขับรถมาจากสนามบินเชียงใหม่กว่าหลายชั่วโมง เพราะเส้นทางที่เป็นหุบเขาและไม่คุ้นเคย ชายหนุ่มจึงไม่กล้าขับเร็วมากนัก
“ถ้าปริมง่วง ก็เข้านอนได้เลยนะ” ภัทร์บอกกับพริมาก่อนที่จะเดินมาหยุดข้างหน้าแล้วจึงทิ้งตัวลงนั่งยองอยู่หน้าแฟนสาว
“กู๊ดไนท์ครับ” ภัทร์หอมแก้มพริมาแล้วสบตาหวานซึ้ง
“กู๊ดไนท์ค่ะ” พริมาตอบกลับพร้อมทั้งรีบหอมแก้มชายคนรักเช่นกัน หญิงสาวสบตากับชายหนุ่มด้วยท่าทางเอียงอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอและเขาได้มาค้างคืนกันตามลำพัง ก่อนที่จะรีบลุกเดินเข้าไปในห้องนอนแทบจะทันทีที่ภัทร์หลีกทางให้
************************
“พี่โป๊ปคะ ๆ หลับหรือยังคะ” พริมาเคาะประตูหน้าห้องแฟนหนุ่มในเวลาหลังเที่ยงคืนเศษ ๆ
“มีอะไรปริม!!!” ภัทร์ถามหญิงสาวกลับมาในทันทีด้วยน้ำเสียงตกใจก่อนที่จะเปิดประตูออกมาเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มยังไม่นอน เขายังอ่านหนังสืออยู่
“เอ่อออ ปริม...ปริมนอนไม่หลับน่ะค่ะ” พริมาบอกกับคนรักด้วยสีหน้าจ๋อย ๆ
“แปลกที่เหรอ” ภัทร์
“จะว่างั้นก็ได้ค่ะ”
“เอ่อออ อันที่จริง ปริมไม่กล้านอนคนเดียวน่ะค่ะ พี่โป๊ปคะ ปริมขอนอนด้วยคนได้ไหมคะ ปริม...ปริมกลัวผีน่ะค่ะ” พริมาตัดสินใจพูดออกไป เพราะบรรยากาศที่เงียบสงบของทั้งตัวกระท่อมที่สร้างจากไม้ อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ตที่ดูวังเวงในยามคำคืนแบบนี้ หรือจะเป็นเพราะความกลัวผีที่มีอยู่ในใจลึก ๆ ของตัวเอง พริมาก็ไม่อาจบอกได้ แต่ที่แน่ ๆ คือ เธอไม่กล้านอนคนเดียวในกระท่อมหลังนี้อย่างเด็ดขาด
“ปริมพูดจริงเหรอ” ภัทร์ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าสาวมั่นต้องหน้าจะกลัวผีขนาดยอมขอมานอนห้องเดียวกับเขา
“ค่ะ ไม่กล้านอนคนเดียวจริง ๆ” พริมาสารภาพเพราะปกติเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือเวลาไปทำงานต่างประเทศ พริมาจะมีเพื่อนร่วมห้องด้วยทุกครั้ง
“ปริมรู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ เหมือนมีคนคอยมองอยู่ตลอดเวลาน่ะค่ะ” พริมาบอกภัทร์ตามที่รู้สึก
“คิดมากไปหรือเปล่าจ๊ะ แต่ถ้าไม่กล้านอนจริง ๆ ก็เข้ามา” ภัทร์ส่ายหัวไปมาเพราะรู้สึกขำในความขี้ขลาดของแฟนสาว ชายหนุ่มหลีกทางให้พริมาที่หอบหมอนหนุนใบโตพร้อมทั้งผ้าห่มให้เดินเข้ามาในห้องนอน
เมื่อมีแฟนสาวมานอนร่วมห้อง ภัทร์จึงต้องปิดโคมไฟหัวเตียงที่ใช้อ่านหนังสือเพื่อเข้านอนพร้อมแฟนสาวที่ออกอาการง่วงมากแล้ว ทั้งสองต่างข่มตาให้หลับ ไม่มีบทสนทนาใด ๆ จนเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง
“ปริม หลับหรือยัง”
“.......”
“ปริม หลับหรือยัง” ภัทร์ถามซ้ำอีกครั้ง เพราะเขาค่อนข้างแน่ใจว่าพริมาคงแกล้งทำเป็นหลับอยู่ ภัทร์จึงชะโงกหน้าเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่ แสงสว่างจากหลอดไฟหน้าห้องที่เปิดทิ้งไว้ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้ชายหนุ่มได้มองเห็นหน้าคนรักอยู่ลาง ๆ ในความมืด ใบหน้างามที่ดูผ่าน ๆ จะเหมือนหลับตาพริ้มและคงนอนฝันดีอยู่ แต่พอเพ่งได้สักพักก็จะเห็นว่าคิ้วเริ่มขมวดเป็นปม ภัทร์นึกขำแฟนสาว ชายหนุ่มจึงแกล้งหายใจรดหน้าช้า ๆ และเขาก็ต้องแอบยิ้มในความมืดเมื่อเห็นพริมาที่ยังคงหลับตาอยู่พยายามกลั้นหายใจ
“ปริมจ๋า ปริมจ๋า อย่าเพิ่งหลับสิ อยู่คุยกันก่อน” ภัทร์ยังคงสนุกที่ได้แกล้งแฟนสาว เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด และพูดชิดริมฝีปากได้รูปของเธอ
“สงสัยจะหลับแล้วจริง ๆ งั้น....ลักหลับเลยดีกว่า” พูดเสร็จภัทร์ก็แกล้งจรดริมฝีปากของตนจนชิดกับริมฝีปากของพริมา ทันใดนั้นเองพริมาก็รีบใช้มือดันตัวแฟนหนุ่มให้ห่างออกไป
“พี่โป๊ปจะทำอะไรคะ!” พริมาร้องถามเสียงหลงอย่างหน้าตาตื่น
“ว้า! ตื่นแล้วเหรอ ยังไม่ทันได้ลักหลับเลย หึๆๆ” ภัทร์หัวเราะและก้มลงมองพริมาที่ยังคงใช้มือยันตัวของเขาเอาไว้ ชายหนุ่มจึงเท้าแขนขึ้นมาทั้งสองข้าง
“ปริม” ภัทร์สบตากับคนที่ยังนอนอยู่ใต้อ้อมกอดด้วยแววตาหวานซึ้งและสื่อความหมาย
“ค่ะ” พริมาตอบก่อนที่จะหลบสายตาจากคนรัก เธอไม่อยากให้ภัทร์ได้เห็นแววตาที่วูบไหวไปตามอารมณ์ของตนเองที่ขณะนี้กำลังปั่นป่วนไปหมด เธอเคยอยู่ใกล้กับเขา.....แต่ไม่เคยอยู่ใกล้กันขนาดนี้ และในท่าแบบนี้…..แถมยังนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาบนเตียงนอนอีกต่างหาก พริมาที่พยายามดันตัวของภัทร์ให้ออกห่างให้มากขึ้น เพราะไม่อยากให้แฟนหนุ่มได้รับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเธอในเวลานี้ หัวใจที่เต้นแทบไม่เป็นจังหวะเพราะความใกล้ชิดที่กำลังเกิดขึ้น....พริมากลัวหัวใจตัวเอง
“พี่รักปริมนะครับ” ภัทร์บอกรักด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ปริมก็รักพี่โป๊ปค่ะ” พริมาเงยหน้าขึ้นสบตากับคนรักอีกครั้ง
“แต่งงานกับพี่นะ” ภัทร์เอ่ย
“พี่โป๊ป” พริมาเรียกชื่อแฟนหนุ่มอย่างตกตะลึง ถึงแม้เธอจะเคยพูดคุยถึงเรื่องนี้กับภัทร์มาบ้างแต่ก็ไม่ได้จริงจังมากนักเพราะต่างก็ยังสนุกกับงานกันอยู่ ที่สำคัญเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกขอแต่งงานในสถานการณ์หมิ่นเหม่และล่อแหลมแบบนี้
“กลับไปกรุงเทพแล้ว เราแต่งงานกันเลยนะ พี่ไม่อยากรออีกแล้ว พี่อยากใช้ชีวิตกับปริม” ภัทร์บอกคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความจริงจัง
“พี่โป๊ปแน่ใจว่าพร้อมจะใช้ชีวิตคู่กับปริมแล้วนะคะ” พริมาถาม
“พี่แน่ใจ ปริมละ พร้อมไหม ยังหวงชีวิตสาวโสดไหม” ภัทร์ถามกลับ
“ปริมรักพี่โป๊ปนะคะ แต่ปริมยังไม่แน่ใจว่าพร้อมกับชีวิตคู่หรือยัง ปริมยังสนุกกับงาน ยังสนุกกับการได้ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ยัง...” พริมาอธิบายยังไม่ทันจบ ภัทร์ก็พูดแทรกขึ้นว่า
“พี่ไม่ได้ให้ปริมลาออกจากงานนะ ถ้าปริมยังอยากทำงาน ปริมก็ยังทำได้เหมือนเดิม ปริมยังไปเที่ยวไหนต่อไหนได้เหมือนเดิม พี่ไม่ได้ห้าม ปริมยังอยากทำอะไรก็ยังทำได้ พี่แค่ขอมีส่วนร่วมมากขึ้น พี่อยากใช้เวลากับปริมมากขึ้น พี่อยากตื่นนอนมาเห็นหน้าปริม และอยากเข้านอนพร้อมปริมแบบนี้ทุก ๆ คืน พี่พร้อมจะเดินไปข้างหน้ากับปริม แล้วปริมล่ะพร้อมจะมีพี่อยู่เคียงข้างไปตลอดชีวิตหรือยัง” ภัทร์ใช้ลูกอ้อนถาม
“ถ้าพี่โป๊ปพร้อม ปริมก็พร้อมแล้วค่ะ” พริมาตอบอย่างไม่ลังเล ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ แล้วเธอยังสนุกกับการใช้ชีวิตและการทำงานที่เธอรัก แต่เพราะความรักที่มีให้กับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหมดหัวใจ เธอก็พร้อมที่จะเสียสละความสุขเหล่านั้นเพื่อแลกกับความสุขอีกรูปแบบหนึ่งของชีวิต พริมาคิดว่าตัวเองพร้อมทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรในอนาคตข้างหน้าบ้าง
“ปริมพูดจริง ๆ นะ ตกลงกลับไปเราแต่งงานกันเลยนะ” ภัทร์ถามย้ำด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้งสีหน้าและแววตาที่เปล่งประกายความสุขออกมาอย่างชัดเจน จนพริมายิ้มพราวตามไปด้วย
“ค่ะ ปริมพร้อมจะแต่งงานกับพี่โป๊ปแล้ว” พริมาในวัยย่างเบญจเพสกล่าวออกไป
“พี่รักปริมนะครับ” ภัทร์พูดเสร็จก็ค่อย ๆ ลดใบหน้าลงไปหาหญิงสาวในอ้อมกอด และบรรจงมอบจุมพิตหวานล้ำราวกับเป็นการให้สัญญาแก่กันและกัน
“พี่โป๊ป....ปริมรักพี่โป๊ปนะคะ” พริมาบอกรักด้วยน้ำเสียงหวานไม่แพ้กัน
“พี่ก็รักปริม พี่รักปริมมากนะครับ และขอสัญญาว่าจะรักจะทะนุถนอมปริมตลอดไป เราจะมีชีวิตคู่และช่วยกันสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยกันนะครับ” ภัทร์พูดจบก็ก้มหน้าลงไปจูบปากอิ่มของหญิงสาวที่เผยอขึ้นรับอย่างเต็มใจอีกครั้งอย่างเนิ่นนานและเริ่มรุกรานมากยิ่งขึ้น จากจุมพิตหวานจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความร้อนแรงที่พัดโหมขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดที่จะหักห้ามใจไว้ได้ ในที่สุดพริมาก็ปล่อยตัวปล่อยใจยอมให้อารมณ์นำพาร่างกายที่ไม่อาจฝืนและต่อต้านความต้องการของหัวใจได้อีกต่อไป เธอยินยอมให้ภัทร์เป็นคนนำทางเธอไปสู่จุดหมายที่ปลายรุ้ง......ที่เส้นขอบฟ้าไกล
************************
อีก 4 เดือนต่อมาก็มีข่าวใหญ่ในหน้าสังคมของหนังสือพิมพ์และนิตยสารแทบทุกฉบับว่า.....
‘Society wedding of the year คงหนีไม่พ้นงานวิวาห์ตระการตาแห่งปี ระหว่าง ภัทร์ บุตรชาย เจ้าสัวพัฒนและคุณหญิงพิจิตรา พัฒนภิรมย์ และ พริมา บุตรีของผู้ว่าบุรินทร์และคุณนายเปมิกา กีรติอนันต์ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โรงแรมหรูกลางเมืองกรุง
ระดับว่าที่นายแบงค์แต่งงานทั้งทีแขกเหรื่อทั้งของญาติผู้ใหญ่และคู่บ่าวสาวเลยมีร่วม ๆ 3,000 คน งบจัดงานที่ได้ยินมาจึงพุ่งกระฉูดไปถึง 8 หลัก แต่แค่นี้ถือว่าจิ๊บ ๆ ค่ะ ไม่ระคายขนหน้าแข้งของพ่อเจ้าบ่าวหรอก นี่ยังไม่รวมสินสอดทองหมั้นที่ทางเจ้าสัวพัฒนจัดอย่างเต็มที่ไว้รับขวัญลูกสะใภ้คนงาม ซ้อขอไม่บอกตัวเลขนะคะเพราะกลัวจะเป็นลมกันเสียก่อน เพียงรถยนต์คันหรูที่มอบให้เจ้าสาวเป็นของรับไหว้ในวันแต่งก็ราคากว่า 10 ล้านบาทแล้ว ไหนจะเครื่องเพชรชุดใหญ่และแหวนแต่งงานตั้งเกือบสิบกระรัตนั่นอีก โอ้ย! อิจฉาค่ะอิจฉา แต่ในเมื่อเขาเข้าหอกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมบินไปฮันนีมูนกันถึงมัลดีฟส์ตั้ง 7 วัน 7 คืนอีก ซ้อก็คงได้แต่ทำใจและต้องมองหาที่ซับน้ำตาใหม่กันต่อไป ซ้อขออวยพรให้ทั้งคู่ครองรักกันไปตราบนานเท่านาน และขอให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มธนาคารพัฒนทรัพย์นะเจ้าคะ’
************************
อาทิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2555, 21:34:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ค. 2555, 21:34:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 1984
<< ตอนที่ 9 (1) | ตอนที่ 10 ครบ 100% มาแล้วค่า >> |
พนาศิลป์ 31 ก.ค. 2555, 18:42:25 น.
มาส่งท้ายตอนหวานด้วยคน^^
มาส่งท้ายตอนหวานด้วยคน^^