ซูเปอร์สตาร์ยาหยี
ซูเปอร์สตาร์...สุดยอดดวงดาวในวงการบันเทิง ใครเล่าจะนึกฝัน วันหนึ่งเขาในดวงใจคนนั้นจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแถมบอกว่ารักกันซะด้วย แบบนี้จะทำตัวยังไงดีล่ะเนี่ย >//<

Tags: หวานแหวว, ฟุ้งฝัน

ตอน: 2. วรรษชล



“น้องชล ทางนี้” รถเก๋งสตาร์ทเครื่องพร้อม จอดรออยู่แล้วทางด้านหลังร้าน ทันทีที่วรรษชลเดินกึ่งวิ่งออกมาถึงริมบาทวิถี หญิงสาวตัดผมสั้นแค่ท้ายทอยท่าทางออกทอมบอยรีบตะโกนเรียกพร้อมเปิดประตูด้านซ้ายข้าง ๆ คนขับออกกว้าง

วรรษชลเองไวพอกัน ผลุบเข้ารถในอาการแทบเป็นกระโดด “ออกรถเลยพี่”

“พี่บอกแล้วว่าอย่ามา” เมยานีบ่น เหลือบมองกระจกมองหลังนิดหนึ่งว่ามีนักข่าวจมูกมดลอบตามทันหรือเปล่าแล้วผ่อนลมหายใจเมื่อไม่เห็น

“ผมไม่คิดว่าพวกนักข่าวจะตามติดขนาดนี้นี่ครับ”

“โธ่น้องชลฮะ! คดีเก่าไม่ทันจางคิดเหรอฮะว่าไอ้พวกนั้นมันจะเลิกง่าย ๆ น้องชลต้องระวังตัวกว่านี้” เมยานีขึ้นเสียง ถ้าไม่บ่นเสียบ้างวรรษชลคงยิ่งเหลวไหล

ล่าสุดเพราะวรรษชลตามใจตัวเองแอบหนีออกจากคอนโดกลางดึกไปสังสรรค์กับเพื่อนจนเมาแอ๋แล้วยังซ่าขับรถ สุดท้ายถูกเรียกตรวจที่จุดตรวจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกินกำหนดขนาดไหน หากว่านายมานายมีคนทั่วไปเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขอแค่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับวรรษชลนักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่นเป็นเรื่องใหญ่คอขาดบาดตายมากทีเดียว

เมยานีต้องแหกขี้ตาตื่นตอนตีสามเพื่อนขับรถมาเคลียร์กับตำรวจให้เพราะวรรษชลเมาพูดไม่รู้เรื่อง ภาพระหว่างเจ้าตัวเมาเป๋ทรงตัวแทบไม่อยู่ยืนพิงอยู่ข้างรถถูกเผยแพร่ครึกโครมทุกสื่อ งานนี้เมยานีโดนต้นสังกัดด่าเต็ม ๆ โทษฐานดูแลศิลปินไม่ดี

“พี่เมครับ” วรรษชลทำเสียงอ้อน

เมยานีไม่มองเพราะถ้าเจ้าตัวทำเสียงแบบนี้ หน้าตาไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะทำให้คนเห็นแล้วใจอ่อนแค่ไหน

“พอฮะน้องชล พี่อายุเยอะแล้วนะฮะอย่าให้พี่ถูกไล่ออกตอนแก่เลย เพรา ๆ หน่อยเถอะเรื่องเที่ยวน่ะ รับปากสิ...ยกเว้นน้องชลอยากเปลี่ยนคนดูแลนะฮะ”

“พี่เมก็” เสียงวรรษชลอ่อนลงอีก “ถ้าไม่ใช่พี่เมใครจะดูแลผมดีเท่า สัญญาครับสัญญา ผมจะไม่หนีเที่ยวอีก”

“เด็ดขาด” เมยานีดักคอเสียงเข้ม

วรรษชลพยักหน้า “ครับ! เด็ดขาด”


เพื่อไม่ให้วรรษชลหนีเที่ยว เมยานีขึ้นมาส่งถึงห้องพักชั้นแปดซึ่งเป็นชั้นที่มองเห็นวิวกรุงเทพสวยที่สุดของคอนโดหรูแห่งนี้ วรรษชลไม่ว่าอะไรออกจะขำซะด้วยซ้ำเพราะต่อให้จ้างเขาก็ไม่โง่โผล่หัวออกไปให้นักข่าวจิกทึ้งเล่น อีกไม่กี่นาทีหรอกนักข่าวที่ร้านอาหารคงตามมาซุ่มแถวคอนโดรอดูว่ามีใครไปมาหาสู่เขาหรือเปล่า

“พี่เมจะนอนนี่มั้ยครับผมได้เตรียมที่ให้”

“อย่าท้า” เมยานีแยกเขี้ยว คิดว่าถูกประชด

“เอ้าผมพูดจริง หน้าตาง่วงซะขนาดนี้ เช้าเรามีงานอีกพี่จะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา” วรรษชลปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต ถอดโยนส่ง ๆ หล่นลงบนพนักโซฟา ตามด้วยถอดกางเกงโยนไปอีกทาง

ถ้าเป็นสาว ๆ ทั่วไปเห็นแบบนี้มีหวังกรี๊ดสลบเขินแล้วเขินอีก แต่เมยานีทำงานใกล้ชิดวรรษชลมานานมาก ในสายตาเธอ วรรษชลเป็นแค่เด็กหนุ่มวัยคะนองหน้าตาดีคนหนึ่งเท่านั้นซึ่งไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกกับสาวทอมอย่างเธอแม้แต่น้อย

เมยานีส่ายหน้า ลุกขึ้นเก็บเสื้อกางเกงบนพนักโซฟาและบนพื้นเดินมาหย่อนใส่ตะกร้าสำหรับผ้าที่ใส่แล้ว

“ไม่ล่ะบ้านพี่อยู่แค่นี้ น้องชลรีบอาบน้ำนอนเถอะฮะ พี่จะคอย”

วรรษชลสวมแต่ผ้าขนหนูพันกายท่อนล่างหันมาจากท่าที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ บางทีเมยานีก็ทำตัวเหมือนแม่บ่นนู่นบ่นนี่และประคบประหงมจนน่ารำคาญ แต่นั่นล่ะ ทั้งหมดก็เพื่อภาพพจน์ที่ดีของเขาทั้งนั้น...รู้ล่ะ แต่บางทีก็เบื่อ “คร้าบ อยากอยู่ส่งผมเข้านอนก็เอาเลย”

แล้วผิวปากเดินเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางกวน ๆ

เสียงน้ำจากฝักบัวดังซู่ซ่า เสียงผิวปากเงียบลง วรรษชลไม่เกเรเมยานีค่อยโล่งอก เดินเล่นฆ่าเวลาไปรอบห้องเพราะเมื่อยขับรถตามนายตัวดี

ห้องพักหรูติดเครื่องปรับอากาศทั่วทั้งห้องตกแต่งตามเดิมที่โครงการจัดวางไว้แต่แรกทุกอย่าง ราคาของมันแพงระดับมนุษย์เงินเดือนได้ยินแล้วสูดปาก วรรษชลเองกว่าจะได้มันมาก็ต้องรับงานจนเพลียแทบร่วงกลางอากาศหลายครั้งหลายหน ความมุ่งมั่นของชายหนุ่มน่าชื่นชมพอ ๆ กับพรสวรรค์ติดตัว หน้าตาดีบวกพรสวรรค์เป็นใบเบิกทางให้หนทางบนเส้นทางบันเทิงสดใสปิ๊งปั๊งเรื่อยมา เมยานีชื่นชมวรรษชลในจุดนี้ เธอจึงไม่อยากให้ความหลงระเริงหรืออาจเป็นความดื้อดึงในบางขณะทำลายอนาคตอันสดใส

เมยานีหยิบกรอบรูปอันหนึ่งจากชั้นวางของบิวท์อินแบบโปร่ง มองหญิงชราในรูปกอดเด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูพลางยิ้มแจ่มใส...ยายของวรรษชล เขาไม่เคยพูดเรื่องพ่อแม่ให้ใครฟัง พูดถึงแต่ยายจนแม้แต่คนไม่เคยพบหน้ายายก็เหมือนสนิทชิดเชื้อกับยายของวรรษชลไปด้วย แสดงถึงความรักผูกพันที่ชายหนุ่มมีต่อหญิงชราผู้เลี้ยงดูมาแต่เล็กแต่น้อยอย่างมาก

น่าเสียดาย...ยายตายก่อนเห็นความสำเร็จของหลาน

“เปลี่ยนสเปคมาชอบคนแก่เหรอพี่” วรรษชลแซว โผล่หน้ามาจนใกล้ เมยานีมัวดูรูปเพลินไม่ทั้งตั้งตัวร้องเฮ้ย ตกใจแทบเขวี้ยงรูป

“โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แล้วนี่อะไร อาบน้ำเร็วอย่างกับซูเปอร์แมนแปลงร่าง”

หยดน้ำเกาะพราวแผงอกกว้างถูกเช็ดออกเร็ว ๆ “เร็วแต่สะอาดครับ รับรอง ผมอาบน้ำเรียบร้อยทีนี้พี่เมคงกลับบ้านได้อย่างสบายใจ”

“ยังฮะ”

“อ้าว” ยิ้มของวรรษชลหุบฉับเร็วยิ่งกว่าปฏิกิริยาของกิ้งกือตอนโดนไม้เขี่ย

“เปลี่ยนชุด เข้านอน พี่จะรอดูจนแน่ใจค่อยกลับ”

“โธ่” แกล้งทำคอตก “พี่ไม่เชื่อใจผม”

“เครดิตน้องชลมันไม่เหลือแล้วนี่ฮะ เร็วเข้า พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า นอนดึกมาก ๆ หน้าตาจะไม่สดใส”
ร่างสูงถูกดุนให้เข้าห้องอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ไม่กี่นาทีต่อมาวรรษชลแต่งชุดนอนเรียบร้อยก็กลับออกมายืนตรงหน้าเมยานี ส่งเสียงเข้มขึงขังเหมือนทหารรายงานตัว “ผมวรรษชล พร้อมเข้านอนแล้วครับ!”

“งั้นนอน หลับด้วย พี่จะได้กลับบ้านนอนมั่ง”

“อย่างกับครูอนุบาล” กลอกตาขึ้นเพดาน บ่นอุบอิบ

เมยานีทำเป็นไม่ได้ยินเสียงบ้างเพราะขี้เกียจต่อปากต่อคำ ตีหน้าดุรอดูวรรษชลเข้านอนเหมือนครูพี่เลี้ยง รอกระทั่งแน่ใจว่าชายหนุ่มหลับแน่ค่อยกลับ ใบหน้าเธอประดับรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างทั้งเพลียทั้งขำและเอ็นดู


หน้าตึก Fresh Entertainment ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่วงการเพลงไทย เช้านี้มีผู้คนมากหน้าเป็นพิเศษทั้งศิลปินนักร้องนักแสดง ผู้กำกับ ผู้บริหาร กองทัพนักข่าวกระทั่งกลุ่มแฟนคลับโขยงใหญ่ สาเหตุเพราะเช้านี้มีพิธีบวงสรวงละครเรื่องแรกในชีวิตวรรษชลนักร้องหนุ่มหล่อขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วประเทศ

กลุ่มแฟนคลับจากต่างที่ต่างถิ่นส่วนใหญ่ทราบข่าวจากอินเทอร์เน็ตพากันยกพลมารวมตัวกันให้กำลังใจวรรษชลด้วยอุปกรณ์แบบเต็มสูบทั้งป้ายไฟชื่อวรรษชลแผ่นใหญ่ ป้ายเขียนข้อความชื่นชม ขนม ดอกไม้ หอบหิ้วมาชนิดไม่กลัวแขนหัก

ตั๊ก...สาวทึนทึกวัย 42 ปี สวมเสื้อยืดตัวใหม่กับกางเกงยีนส์ตัวเก่งมาวินกว่าใครในหมู่แฟนคลับ ผมหยิกฟูสีน้ำตาลอมแดงของเธอโดดเด่นอย่างมากทำให้น้อง ๆ ที่เพิ่งรู้จักกันในบอร์ดแฟนคลับไม่ต้องเสียเวลาหาตัวนาน

“พี่ตั๊ก” สาวน้อยหน้าผ่องวิ่งหน้าแป้นคู่มากับเพื่อนอีกคน “อุ๋มอิ๋มค่ะ พี่ชลมาหรือยัง หนูนะรีบแทบตาย”

“เหรอ” ตั๊กลากเสียงแหลม ๆ “ขนาดรีบนะเนี่ย เกือบถึงเวลาบวงสรวงเชียว”

“ก็แหมรถมันติดอ่ะ”

“ข้ออ้างมาตรฐานนะยะหนู” แขวะยิ้ม ๆ

แฟนคลับคนอื่นมาเดี่ยวบ้างกลุ่มบ้างเริ่มทยอยจนเป็นกลุ่มใหญ่ ตั๊กมนุษย์สัมพันธ์ดีกว่าเพื่อนกลายเป็นหัวโจกโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอเรียกน้อง ๆ มาสุมหัวแจกกระดาษขนาดเอสี่คนละแผ่น

“น้องมาจากเว็บใช่ไหมคะ” ถามแฟนคลับคนหนึ่ง

“ค่ะพี่”

“รู้เรื่องบูมใช่ป่ะ”

เหล่าแฟนคลับพยักหน้า

“ดีเลย ช่วงบวงสรวงจนเสร็จงานเราทำได้แค่ซุ่มดูนะ ส่งเสียงดังไม่ได้เดี๋ยวโดนไล่เปิดหมด แต่หลังจากนั้นพี่ว่าจะบูมให้น้องชล มีใครซ้อมมาแล้วบ้าง”

บางคนพยักหน้าบางคนส่ายหน้า ตั๊กพ่นลมหายใจ

“ไม่เป็นไร งั้นซ้อมก่อน ท่อนตัวหนาพี่ร้อง น้อง ๆ ร้องท่อนตัวบางโอเคป่ะ เบา ๆ นะซ้อม ๆ”

คนมีใจมาเชียร์ศิลปิน ไม่ต้องรู้จักแค่รักศิลปินคนเดียวกันก็สื่อสารได้ง่าย ๆ ตั๊กส่งสัญญาณเริ่ม ทุกคนตั้งอกตั้งใจยิ่งกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัย

“ใครหล่อที่สุดในโลก” ตั๊กเริ่ม

“วรรษชล” เหล่าแฟนคลับร้องรับ

“ใครน่ารักที่สุดในโลก”

“วรรษชล”

“ใครร้องเพลงเพราะที่สุดในสามโลก”

“วรรษชล”

“รักใคร”

“วรรษชล”

“เชียร์ใคร”

“วรรษชล วรรษชล”

“หล่อน่ารักวรรษชล วรรษชล วี้ดดด บูม!” ตั๊กประสานเสียงบูมกับเพื่อนแฟนคลับแล้วหัวเราะให้กันในความพร้อมเพรียง

“อ๊าย พี่ชลมาแล้ว โอ๊ยหล่อม้ากกก” อุ๋มอิ๋มกรี๊ดในลำคอเพ้อมองตามวรรษชลที่เพิ่งลงจากตึกเพื่อร่วมพิธีบวงสรวง

แสงแฟลชรัวไม่ยั้งท่ามกลางเสียงกรี๊ดแบบกั๊ก ๆ ของแฟนคลับ บางคนยิ้มบางคนถึงกับร้องไห้ที่ได้เห็นศิลปินคนโปรดตัวเป็น ๆ วรรษชลโปรยยิ้มใส่กล้องและไม่ลืมหันมาขยิบตาขี้เล่นใส่แฟนคลับ

“โอ๊ยพี่หนูจะเป็นลม” เพื่อนของอุ๋มอิ๋มกองลงกับพื้นแล้วตอนเพ้อประโยคนี้แต่ไม่มีใครพยุงขึ้นเพราะต่างคนต่างพยายามเสพภาพวรรษชลที่เคลื่อนไหวตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้าให้มากที่สุด


ในโอกาสบวงสรวงละครเรื่องแรกในชีวิต วรรษชลจึงสวมเสื้อผ้าตามบุคลิกตัวละครที่ได้รับทำให้ลุคส์แผกกว่านักร้องหนุ่มมาดนุ่มยิ้มชวนละลายอย่างเคย ๆ เห็น สูทเนี้ยบเสริมส่งให้วรรษชลดูเป็นหนุ่มนักธุรกิจสมบทบาท นักข่าวส่งเสียงเรียกให้มองกล้องวุ่นไปหมด กล้องนั้นทีนี้ทีพร้อมกับแสงแฟลชตบใส่ไม่ยั้งชวนแสบตา แต่วรรษชลยังคงยิ้มละไม

นักข่าวเตรียมสัมภาษณ์ เมยานีได้รับสัญญาณจากผู้กำกับว่าพิธีบวงสรวงใกล้เริ่มรีบแทรกวงเข้ามาฉกตัววรรษชล

“ขอน้องบวงสรวงก่อนนะฮะ เสร็จแล้วค่อยสัมภาษณ์” คว้าข้อมือวรรษชล ส่งให้ยืนข้างผู้กำกับหน้าดุผู้ขึ้นชื่อเรื่องความดุจริง ๆ นักข่าวเห็นเข้าต่างล่าถอยยอมรอแม้พิธีจะนานพอสมควร

ละครฟอร์มยักษ์เรื่องดังกล่าว นอกจากได้วรรษชลประเดิมเป็นพระเอกเรื่องแรก ผู้กำกับมือทองยังได้นักแสดงแม่เหล็กเข้าร่วมด้วยอีกหลายคน นักข่าวสายบันเทิงจึงแห่ทำข่าวนี้เป็นแถว

เมื่อพิธีบวงสรวงเริ่ม พราหณ์ผู้ทำพิธีเป็นผู้นำทั้งหมด เสียงจ้อกแจ้กค่อยเบาลงเหลือแต่เสียงสวดมนต์เข้าบรรยากาศมัว ๆ ด้วยควันธูป


พิธีบวงสรวงเสร็จสิ้น นักแสดงรู้หน้าที่ยืนแถวหน้ากระดานรอนักข่าวเก็บภาพสวย ๆ แบบเต็มอกเต็มใจ

ระหว่างการสัมภาษณ์กำลังจะเริ่ม หญิงสาวผู้หนึ่งเดินตามทีมงานแหวกคนกลุ่มใหญ่เข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มปลื้มกึ่งเขิน วรรษชลไม่ทันสนใจนักมัวแต่แอคท่าให้นักข่าวเก็บภาพตามใจกระทั่ง

“น้องชลคะ” ทีมงานเอ่ยเรียก

วรรษชลหันมา ผู้หญิงคนหนึ่งหอบดอกช่อใหญ่หรูหรายืนอยู่ข้างทีมงาน ชายหนุ่มไม่คุ้นหน้า แน่ใจว่าไม่ใช่ทั้งทีมงาน ผู้บริหาร นักแสดงหรือนักข่าวสำนักไหน ๆ ทีมงานเองก็ไม่ยอมอธิบายกลับทำหน้ายิ้มแปลก ๆ ถอยหลังเปิดทางให้ผู้หญิงคนนั้นถึงตัววรรษชลใกล้ชิดขึ้น

เธอสบตาวรรษชลอย่างขวยเขิน ยื่นช่อดอกไม้ด้วยอาการสั่น ๆ “ขอแสดงความยินดีกับผลงานชิ้นใหม่ด้วยนะคะ ฉันมาขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันไว้เมื่อวานที่ร้านอาหาร”

นั่นล่ะวรรษชลค่อยจำหญิงสาวได้ รับดอกไม้ท่ามกลางแสงแฟลชวูบวาบและเสียงฮือฮาซุบซิบของเหล่านักข่าว “ขอบคุณครับ คุณนั่นเอง หายดีแล้วหรือครับ”

“ขอทราบรายละเอียดได้มั้ยคะ” นักข่าวคนหนึ่งตะโกนถามอย่างอดรนทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว เสียงนักข่าวคนอื่นอือออตาม

วรรษชลส่งสายตาหาเมยานีจนพบยืนคุมเชิงอยู่มุมหนึ่ง ถามทางโทรจิตตามประสาทำงานจนรู้ใจว่าจะเอายังไง เมยานียิ้มพยักหน้า ไฟเขียวให้ตอบตามสบาย

“คุณผู้หญิงท่านนี้ก็ได้ค่ะ” นักข่าวอีกคนพุ่งเป้ามายังหญิงสาวแทนวรรษชล เธอหน้าตื่นไม่น้อยกับไมโครโฟนหลายสิบตัว

“คุณรู้จักกับคุณวรรษชลเป็นการส่วนตัวหรือเปล่าคะ” นักข่าวต่างสำนักช่วยกันค้นหาข่าว

“ปะ...เปล่าค่ะ”

“แต่ดูเหมือนเป็นคนพิเศษ มีการมอบดอกไม้ให้กันเอิกเริกเชียว”

“เอิกเริกที่ไหนล่ะครับ” วรรษชลถ่อมตัวแต่นาทีนี้นักข่าวสนใจคุ้ยข่าวมากกว่า ความสนใจยังคงมุ่งอยู่ที่หญิงสาวท่าทางเงอะงะดูจะล้วงความลับง่ายกว่าวรรษชลหลายเท่า

“ถ้าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ช่วยเหลือถึงความเป็นมาของดอกไม้ช่อนี้หน่อยได้ไหมคะ”

หญิงสาวผู้ถูกสัมภาษณ์โดยไม่ทันตั้งตัวตัวสั่นแล้วสั่นอีก ทั้งเขินทั้งกลัว ทว่าพอถูกถามคำถามล่าสุดเธอกลับดูสงบขึ้น ค่อย ๆ เล่าให้นักข่าวฟังอย่างละเอียด

“เมื่อวานดิฉันสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้าน...ค่ะ ตอนหลังรู้สึกไม่สบายเลยเข้าห้องน้ำคิดว่าล้างหน้าล้างตาแล้วจะดีขึ้นแต่ก็ไม่หาย ดิฉันหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมก็พอดีคุณวรรษชลช่วยไว้ทันทำให้ไม่ล้มฟาดกับพื้น วันนี้ทราบข่าวว่าจะมีงานบวงสรวงละครที่นี่ดิฉันจึงตั้งใจมามอบดอกไม้แทนคำขอบคุณสำหรับน้ำใจของเขาค่ะ”
คำบอกเล่าของหญิงสาวเปรียบเหมือนก้อนหินโยนลงบึงน้ำไม่มีผิด มันทำให้ผิวน้ำกระเพื่อมแผ่เป็นวงกว้างเช่นเดียวกับเสียงฮือฮาของนักข่าว กระจอกข่าวทั้งหลายแหล่

“คุณทราบทันทีหรือเปล่าคะว่าคนที่ช่วยคุณไว้คือวรรษชลนักร้องซูเปอร์สตาร์”

“แน่นอนค่ะ” สบตาวรรษชลเขิน ๆ “ดิฉันอึ้งมากแทบเป็นลมอีกยก”

เสียงหัวเราะขำประโยคเมื่อครู่ดังขึ้น

“เพราะทราบทันทีนี่ล่ะค่ะดิฉันถึงตื้นตันมาก ไม่นึกว่าคนดังอย่างคุณวรรษชลจะช่วยคนธรรมดาอย่างดิฉันไว้ พอช่วยแล้วไม่ได้ไปเลย ยังคงเฝ้าดูจนดิฉันรู้สึกดีขึ้นด้วย เขามีน้ำใจมากจริง ๆ” หญิงสาวผู้โชคดีที่สุดแห่งปีเล่าต่อ

คราวนี้กล้องแพนมาจับวรรษชล...สุภาพบุรุษซูเปอร์สตาร์คนล่าสุด

ชายหนุ่มสบตาเมยานีแวบหนึ่ง เข้าใจแล้วว่าทำไมทีมงานจึงยอมพาผู้หญิงคนนี้มาพบเขาถึงกลางกองบวงสรวงละคร...แผนการตลาดยอดเยี่ยมฉับไวแท้ ๆ!


ฝนโปรยรู้สึกลำคอแห้งผากแทบเป็นผุยผงยิ่งกว่าเดินรอนแรมขาดน้ำอยู่กลางทะเลทราย พลิกตัวกระสับกระส่ายเพราะพิษไข้รุมเร้าสองวันติด เธอลืมตา ลุกขึ้นนั่งท่าทางอ่อนเพลีย หันหาน้ำในกระบอกข้างเตียงก็เห็นแต่ขวดเปล่า

“หมดซะแล้วเหรอ” เสียงพูดแหบแห้ง

เธอต้องการน้ำ ครั้นจะส่งเสียงเรียกป๋อมพี่เลี้ยงของน้องดากับน้องนน...หลานชายหลานสาวก็ไม่มีแรงมากพอ จำต้องหอบสังขารโงนเงนออกห้องนอนลงมายังครัวชั้นล่าง

“ป๋อม” เสียงเรียกดังเท่ามด ปกติไม่น่ามีใครได้ยินอยู่แล้วยิ่งมีเสียงกรีดร้องดังเป็นระยะจากชั้นล่างยิ่งแล้วใหญ่

“โอ๊ยหล่อ คนนี้ก็ด้วย กินอะไรเป็นอาหารเนี่ยอกอีป๋อมจะแตกตายอยู่แล้วน้า”

ฝนโปรยพอจับใจความได้จากเสียงแหลม ๆ ที่เจ้าตัวไม่คิดออมให้ค่อยเท่าใดนัก ลองแบบนี้ไม่พ้นอ่านหนังสือดาราหรือดูรายการบันเทิงในทีวีอยู่แน่ ๆ ขานี้เป็นเจ้าแม่ข่าวบันเทิงตัวยง

“ป๋อม” ฝนโปรยหอบสังขารลงถึงชั้นล่างจนได้ ผมเผ้านั้นยุ่งเหยิง ชุดนอนผ้าฝ้ายกระโปรงยาวแค่เข่ายับเสียไม่มี

ป๋อมไม่ได้ยิน ร่างอ้วน ๆ เหมือนหมูขนาดกลางนอนคว่ำกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น เท้าศอกอ่านนิตยสารบันเทิงเพลินใจ ฝนโปรยอยากแกล้งให้หนักเสียแต่สภาพไม่อำนวยเลยขยับมายืนบังแสงคนคลั่งดาราเล่น

ฝ่ายนั้นเงยหน้ายุ่ง ๆ ขึ้นมองท่าทางเหมือนแม่ค้าอารมณ์เสียเตรียมเฉ่งลูกค้าแต่พบว่าเป็นลูกค้ารายสำคัญจึงอ้าปากหวอ “คุณฝน”

“เด็ก ๆ ไปเรียนหมดแล้วเหรอ” ฝนโปรยเดินมาทิ้งตัวบนเก้าอี้บุนวมตัวยาว

ป๋อมปิดนิตยสาร จัดการเขี่ยไปไกลตัวเหมือนพยายามทำลายหลักฐาน ถลาเข้าบีบนวดแข้งขาเจ้านาย “ไปนานแล้วค่ะ นี่มันจะเที่ยงแล้วนี่คะ คุณฝนไม่สบายลงมาทำไม อยากได้อะไรน่าจะเรียกป๋อม”

พูดแล้วเจ้าตัวคงนึกได้ว่าถึงเรียกก็ไม่ได้ยิน รีบเบรกคำพูดไว้แค่นั้น เปลี่ยนเป็นเอาอกเอาใจ “หิวหรือยังคะเดี๋ยวป๋อมทำกับข้าวให้ อยากกินอย่างไหน เปรี้ยว หวาน เค็ม หรือเผ็ด”

“ขอน้ำก่อน” ฝนโปรยตอบ มองตามป๋อมวิ่งปรูดไปรินน้ำให้ทันทีด้วยแววตาขำ ๆ ถ้าขืนยังป่วยอยู่แบบนี้เธอแย่แน่ นี่ลางานสองวันแล้วอาการยังแย่อยู่ สายป่านขู่ไว้ว่าถ้าไม่ดีขึ้นภายในวันนี้จะพาไปหาหมอ ข้อนี้แหละที่ฝนโปรยกลัวขึ้นสมองที่สุด ป๋อมเดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำ “ขอบใจ กับข้าวขอเป็นน้ำ ๆ ได้มั้ยจะได้คล่องคอหน่อย”

“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวป๋อมจัดต้มยำกุ้งให้ กินเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ จะได้ฟื้นไข้เร็ว”

ฝนโปรยพยักหน้า เอนศีรษะหลับตาเมื่อปวดศีรษะหนึบขึ้นมา ครู่หนึ่งรู้สึกดีขึ้น ในครัวมีกลิ่นหอมส่งมาแล้ว อีกเดี๋ยวข้าวสวยร้อน ๆ กับต้มยำกุ้งรสเด็ดของป๋อมคงเสร็จ ฝนโปรยขยับตัวนั่งตรง สายตาเหลือบเห็นมุมนิตยสารโผล่จากใต้เก้าอี้จึงหยิบขึ้นดู ป๋อมเคยบอกว่าอยากเป็นดาราเคยไปสมัครแล้วเขาไล่กลับบ้านโทษฐานอ้วนเกินจึงต้องกลับมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่างเก่า

ทุกวันนี้ป๋อมมีหน้าที่ดูแลรฐนนท์...น้องนน กับรัญชิดา...น้องดา เป็นหลัก พร้อมกับงานอื่น ๆ ในบ้านซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร บ้านหลังเล็กแค่นี้ เรื่องเสื้อผ้าก็เพียงแต่จับยัดลงถังคอยรอตาก งานครัวสายป่านรับหน้าที่เป็นส่วนมากฝนโปรยช่วยบ้างเป็นบางที แต่ป่วย ๆ อย่างนี้อย่าว่าแต่ทำครัวเลย เอาตัวเองให้รอดฝนโปรยยังไม่ไหว

ฝนโปรยรีดนิตยสารดาราสภาพเยินสุด ๆ ถูกม้วนจนเป็นทรงกระบอกให้กางออก บนหน้าปกกระดาษยับสุดยับนั้นเป็นภาพชายหนุ่มหล่อเหลาผู้หนึ่งในชุดสูทสากลสีอ่อน ดวงตาเขามองตรงยังกล้องทำให้ใครมองก็เหมือนถูกสบตา มือสองข้างจากร้อนเพราะพิษไข้เปลี่ยนเป็นเย็นชื้นกะทันหัน

เทพบุตรน้ำใจงาม...วรรษชล พสุนธรา

นิตยสารถูกพลิกเปิดอย่างเร็ว เนื้อหาต่อจากโปรยปกยาวเต็มสองหน้ากระดาษ ฝนโปรยกวาดสายตาอ่านอย่างคนไม่มีสมาธินัก เฝ้าแต่พินิจรูปวรรษชลรูปแล้วรูปเล่าเหมือนจะให้แน่ใจว่าใช่ คนนั้น จริง ๆ...



akani
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2555, 19:01:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2555, 19:01:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 2044





<< 1. หัวใจสั่น ๆ   3. ชาคร >>
ทองหลาง 4 ส.ค. 2555, 19:11:59 น.
กำลังรออยู่เชียว


akani 4 ส.ค. 2555, 19:14:00 น.
ไวแท้


ปอรินทร์ 4 ส.ค. 2555, 19:15:37 น.
กะ....กรี๊ดดดดดดดดดดดด

อ่านแล้วรู้สึกว่าพระเอกเหมือน นิชคุณ สามีปลายเลยเนอะ อิอิ


wane 5 ส.ค. 2555, 04:33:38 น.
แอบหลงคนหล่อซะงั้น


Zephyr 5 ส.ค. 2555, 10:31:07 น.
อ๊ายยยยยยย น่ากรี๊ดดีแท้
เห็นด้วยกะคุณปอรินทร์เลยค่ะ
ฮ่าๆๆๆ อ่านไปอ่านมา หน้านิชคุณลอยขึ้นมาในทันใด หุหุ


panon 7 ส.ค. 2555, 15:14:41 น.
ตามตอนต่อไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account