ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 14.2 “ยัง ขอเล่นตัวพอเป็นพิธีก่อน..อิอิ”

นางสำเนียงที่กำลังพรวนดินให้ต้นกุหลาบแปลงข้างรั้วหน้าบ้านต้องแปลกใจที่เห็นรถของอาจารย์เดชาพงษ์มาจอดที่หน้าบ้านแต่เช้า เขาเปิดประตูลงมาพร้อมถุงใส่ผัก และกระเป๋าผ้าใส่ของ

“สวัสดีครับป้า” เขายกมือไหว้อย่างทะลักทุเลนางสำเนียงรีบทิ้งเสียมแล้วรับไหว้ก่อนจะถามไถ่ว่าทำไมถึงได้มาแต่เช้า

“แวะเอาผักมาฝากป้าครับ แล้วก็เอาของที่คุณจินสั่งไว้มาให้” หนูนาส่งสบู่กับโทนเนอร์จันทร์เจ้าฉายมาให้แบบด่วนพิเศษ เพราะต้องการให้พี่ชายใช้เจ้าสิ่งนี้เดินเกมรุกจีบสาวที่ทอดสะพานมาแล้ว เขาเองก็ต้องรีบปฏิบัติตาม กับส่วนหนึ่งนั้น เมื่อชอบลูกสาวเขา เขาก็ต้องเปิดเผยความรู้สึกให้คุณบรรจงได้รู้ไปเสียเลย เพราะถ้าคุณไม่บรรจงไม่กีดกันขัดขวาง เรื่องมันก็จะได้ลงเอยอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนเรื่องความเหลื่อมล้ำทางฐานะนั้น เขาครุ่นคิดแล้วว่า เขาเองไม่มีเจตนาหวังในทรัพย์สมบัติหรือละโมบโลภมากคิดเอามรดกตกทอดของหญิงสาวมาปรนเปรอความสุขในอนาคต เขาจึงกล้าที่จะลุยเข้าไปอย่างคนที่บริสุทธิ์ใจ กับส่วนหนึ่งเขามั่นใจว่า เมื่อเป็นเนื้อคู่กันอย่างที่เมขลาเคยทำนายทายทักไว้ก่อนที่จะไม่สามารถรู้อนาคตคนอื่นแล้ว อุปสรรคขวากหนามการลงเอยกันด้วยการแต่งงานคงเป็นเรื่องไม่ยากนัก และที่สำคัญหากเขาแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาตามพี่ต้นกล้าไปแล้ว หนูนาก็จะสามารถเข้าสู่ประตูวิวาห์กับกฤษณะตามความต้องการอย่างเร่งด่วนของฝ่ายชายโดยที่หนูนาก็ไม่ต้องมาเสียสัจจะ

นางสำเนียงเปิดประตูให้อาจารย์เดชาพงษ์ก่อนจะรับถุงผักแล้วเดินนำเขาเข้าบ้าน เพราะขณะนี้สองพ่อลูกกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่ด้วยกัน

“ใครมาแต่เช้าหรือแม่สำเนียง”

“อาจารย์เดชาพงษ์ เอาผักมาฝาก”

พอได้ยินชื่อของเขาใบหน้าของจรินนามีเลือดฝาดขึ้นมาทันที

“รีบเชิญเขาเข้ามาในบ้านแล้วก็หาจานมาไว้ด้วย สงสัยจะยังไม่ได้กินข้าวมาแน่ ๆ”

เดชาพงษ์เดินตามเข้ามาในบ้าน กระเป๋าผ้าต่อยังแขวนกับแขนตัวเองอยู่แต่เขาก็ยกมือไหว้เจ้าของบ้านที่ลุกจากเก้าอี้เดินออกไปต้อนรับจนได้ ฝ่ายจรินนาเองนั้นก็นั่งกินข้าวเงียบ ๆ โดยจะดูว่า วันนี้เขาจะมาไม้ไหน ทั้งที่ในใจนั้นรู้สึกดีไม่น้อยที่เห็นเขากล้าลุยมาถึงที่บ้าน

“กำลังกินข้าวกันเลย กินข้าวมาหรือยังครับ”

“ผม...เอ่อ..” เขาอึก ๆ อัก ๆ แต่เมื่อความจริง เขาก็ยังไม่ได้กินข้าวเช้า เขาจึงตัดสินใจไม่อ้อมค้อม

“ยังเลยครับ กลัวผักจะเหี่ยวเลยรีบมา กลัวว่าจะไม่มีใครอยู่บ้านด้วยครับ" พอหาข้ออ้างได้เขาก็ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินตามเจ้าของบ้านไปยังโต๊ะอาหาร โดยจรินนาก็ยิ้มให้เขาก่อนเสยกน้ำขึ้นดื่ม..

“ของคุณจินครับ” เขาวางกระเป๋าลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งเดียวกับคุณบรรจงและประโยคนั้นก็เหมือนเป็นการทักหญิงสาวและบอกให้นายบรรจงได้รู้ว่า ในวันนี้เขาก็มาธุระของ จรินนาด้วย

“อะไรหรือครับ” นายบรรจงเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม จรินนาเองก็แปลกใจที่เห็นเขาถือกระเป๋ามาให้เธอทั้งที่คืนนั้นเธอไม่ได้เอ่ยถึงมันอีก

“สบู่กับโทนเนอร์ครับ คุณจินเธอได้ของชำร่วยตอนไปงานแต่งพี่ชายผม ใช้แล้วติดใจก็เลยถามไถ่ผมไปว่ามีขายที่ไหน พอดีน้องสาวผมเขาจัดจำหน่ายอยู่ ผมก็เลยสั่งมาให้คุณจินยกเซ็ทเลยครับ”

อันที่จริงก้อนที่ได้ตอนเป็นของชำร่วยเธอไม่ได้เอามาใช้เพราะลืมไว้บนรถของเอกรินทร์แต่พอเขาหาข้ออ้างได้จรินนาก็ต้องทึ่งกับความหัวไวของเขา

“อืม..ใช้ดีเหรอ”

“ดีค่ะป๊า เดี๋ยวป๊าแบ่งไปบ้างก็ได้ ตัวไหนนะที่บอกว่าแก้ผดผื่นคันนะคะ”

“ย่านางครับ ก้อนสีเขียว เย็นสดชื่นดีครับ”

ระหว่างนั้นนางสำเนียงก็กุลีกุจอยกจานมาวางพร้อมกับตักข้าวสวยให้แขกที่มาเยือนแต่เช้าก่อนจะหันไปรินน้ำให้

“ขอบคุณครับป้า”

เดชาพงษ์มองอาหารบนโต๊ะแล้วก็แลเหลือบไปมองจรินนาที่นั่งอยู่เยื้อง ๆ กัน หญิงสาวสบตาเขาพอดี “เชิญเลยค่ะ..กับข้าวเช้าน้อยหน่อย แล้วก็มีแต่จืด ๆ ทั้งนั้นเลย บ้านเราไม่ค่อยกินเผ็ดกัน”

“ครับ”ตอบรับแล้วเขาก็ตักผัดถั่วงอกมาใส่จานและครั้งนี้ก็ไม่มีช้อนหรือตะเกียบมาคอยขัดจังหวะเขาเหมือนวันที่ได้ร่วมโต๊ะกับหญิงสาวครั้งแรก และเมื่อเคี้ยวข้าวไปได้หนึ่งคำคุณบรรจงก็ชวนเขาคุยถึงเรื่องงานกระทั่งวกกลับมาหาเรื่องบุญทอดกฐินที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“ต้องซื้อของอะไรไปบ้างนะอาจารย์”

“ไปที่ร้านสังฆภัณฑ์เลยครับ บอกทางร้านแล้วเดี๋ยวเขาก็จัดมาให้ แต่ว่าจะไปซื้อวันไหน ก็บอกผมได้ครับผมจะได้ไปด้วย เพราะร้านสังฆภัณฑ์มักจะฉวยโอกาสจัดของไม่มีความจำเป็นมาให้ด้วย”

“แล้วเมื่อกี้ทำไมต้องบอกให้บอกทางร้านสังฆภัณฑ์ได้เลย” จรินนาขัดขึ้นมายิ้ม ๆ
“หมายถึงถ้าไม่มีผมไปด้วยนะครับ...ถ้าให้ผมอธิบายอย่างละเอียดผมก็จำไม่ได้หรอกว่าอะไรบ้าง แต่อย่างน้อยผมก็รู้แหละครับว่าวัดนั้นใช้ผ้าสีอะไร...”

“สีอะไรผมก็จำไม่ได้นะ”

“สีพระราชทานครับ สีแก่นขนุน”

“อืม ได้อาจารย์ช่วยก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องกังวล แล้วจะไปเมื่อไหร่ดีละลูก” พอผู้เป็นพ่อวกมาหาจรินนาทำหน้าตาเหรอหราขึ้นมาทันที “อ้าว ทำไมป๊ามาถามจินละคะ ถามคนที่เขาจะไปด้วยซี่”

“ป๊าคิดว่า ป๊าจะให้หนูเป็นธุระจัดการให้ อยากให้ได้บุญใหญ่ในครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นเลย”

“แต่จิน” จรินนาแกล้งโอดครวญทั้งที่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ใกล้ชิดกับเขามากยิ่งขึ้น

“ไปเหอะ ไปกับอาจารย์เขา ค่อย ๆ เรียนรู้ เรื่องบุญกุศลไว้ ปีหน้าทอดอีกจะได้ไม่ต้องรบกวนอาจารย์เขา...”

“ผมเต็มใจให้รบกวนครับ”

“แต่เกิดเป็นคนมันต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด เอาเป็นว่า ปีนี้ผมให้ลูกสาวผมไปศึกษางานพวกนี้ไว้ก่อนแล้วกัน เป็นธุระให้ผมหน่อยนะ ขอบคุณล่วงหน้าเลย...”


ระหว่างที่ข้างนอกกินกันไปคุยกันไปที่ในครัวนางสำเนียงก็เก็บล้างถ้วยชามเพื่อจะเตรียมตัวออกไปเฝ้าร้านให้ลูกสาว แต่ว่าวันนี้ด้วยวงข้าวใช้เวลาบนโต๊ะนานกว่าปกติ สุนันทาจึงต้องโทรมาตามเพราะเห็นว่าแม่ผิดเวลา และพอรู้ว่าวันนี้เดชาพงษ์มาที่นี่แต่เช้าและกำลังร่วมรับประทานอาหารอยู่กับสองพ่อลูก สุนันทาจึงคิดแก้เกมก่อนจะขอตัววางสาย..

“แม่รีบมาแล้วกัน...ถ้วยจานชามก็ปล่อยให้นังจินมันทำมั่งก็ได้ เดี๋ยวมันจะเป็นง่อยตายไปซะก่อนหรอก”

เมื่อวางสายจากแม่สุนันทาก็กดโทรศัพท์หาเดชาพงษ์ทันที..เมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซีดของเขาดังเรียกเขาจึงรีบขยับตัวดึงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอ และพอมองเห็นว่าเป็นเบอร์จากสุนันทาเขาก็รีบลุกจากโต๊ะอาหารเดินออกไปไกลพอที่จะทำให้สองพ่อลูกไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไรกับใคร

“มีอะไรหรือสุ โทรมาแต่เช้าเลย”

“ไม่เช้าแล้วค่ะอาจารย์ แปดโมงจะเก้าโมงแล้วนะคะ” แม้จะพยายามอ่อนหวาน แต่ว่าความหงุดหงิดที่มีมากกว่าทำให้สุนันทาระงับอารมณ์ไม่ได้ และพอได้ฟังเสียงห้วน ๆ ของหญิงสาวเดชาพงษ์จึงนิ่งเงียบฟัง

“คือ วันนี้สุปวดท้องค่ะ คงไม่ได้เข้าไปทำงานนะคะ อย่างไรอาจารย์แวะมาเอาข้าวที่สุหุงไว้แล้วหน่อยนะคะ สุเตรียมกับอย่างอื่นไว้ด้วย"

“เป็นอะไรมากไหม”

“โรคผู้หญิงนะคะ” บอกเขาแล้วสุนันทาก็ทำเสียงซี๊ดซ๊าดเพื่อให้เขาห่วงใยซึ่งมันก็ได้ผลไม่น้อย

“ต้องไปหาหมอไหม”

“ยังไม่ต้องไปหรอกค่ะ สักพักคงดี แต่อาจารย์รีบมาแล้วกัน สุอยากนอนพักนาน ๆ”

“ครับ งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปนะ”

“ค่ะ งั้น...แค่นี้นะคะ” สุนันทาทำเสียงระโหยโรยแรงแล้วรีบวางสายไป เดชาพงษ์ถอนหายใจ เบา ๆ ก่อนจะหันมาหาสองพ่อลูก “คุณอา คุณจิน ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ”

“จะรีบไปไหนละคะ ไม่ทานของหวานก่อน” จรินนาเผลอตัวถามเขาออกไปอย่างมีอารมณ์

“คะคือ...ต้องรีบไปเอาข้าวนะครับ”

“ครับผม ตามสบายเลย วันหลังก็แวะมากินข้าวด้วยกันอีกนะ...” คุณบรรจงกล่าวลา เดชาพงษ์จึงยกมือไหว้ก่อนจะหันหลังเดินออกจากบ้าน

---------------------------
“สวัสดีครับจำผมได้ไหม...”

“คุณเอก จำได้ เจอกันหน้าห้องน้ำ”

“ทำงานอยู่หรือเปล่า ผมรบกวนหรือเปล่า”

“ไม่รบครับ พอคุยได้นิดหน่อย”

“เป็นเพื่อนกับเจ้าสาวเหรอครับ”

“ครับ...มากับแฟนเหรอครับ”

“เปล่าครับ มากับน้องสาว ลูกพี่ลูกน้องกัน”

“อืม...นึกว่าแฟนดูเหมาะสมกัน”

“ผมไม่มีแฟนครับ เป็นโสด”

“ชั่วคราว”

“ประมาณนั้นครับ”

“แล้วที่เคยมีหายไปไหนละครับ”

“เลิกกันแล้วครับ เป็นโสดจริง ๆ คุณหนึ่งละแฟนไปไหน”

“โสดเหมือนกันครับ”

“ไม่น่าเชื่อ”

“ทำไมไม่เชื่อ”

“น่ารักออกอย่างนี้ไม่มีแฟนได้ไง”

“คนอื่นคงน่ารักกว่า เขาก็เลยไป แล้วของคุณเอกล่ะ”

“ของผมเรื่องมันซับซ้อนครับ แต่ตอนนี้ผมว่าง”

“อืม”

“กินข้าวเที่ยงหรือยังครับ”

“กำลังจะลงออกไปกิน”

“ทำงานอะไรนะ”

“บริษัทครับ ฝ่ายบัญชี หัวฟูทั้งวัน”

“ทำงานในกทม.เงินคงดี”

“พอได้ครับ คุณเอกล่ะทำงานอะไร”

“ผมทำงานให้ครอบครัว เงินเดือนนิดเดียว”

“อยู่นครสวรรค์ค่าใช้จ่ายคงไม่เยอะ”

“ก็พออยู่ได้ครับอยู่กับครอบครัวกินไม่ต้องควักทุกอย่าง...คุณหนึ่งอยู่กับใคร”

“คนเดียวครับ”

“แถวไหน”

“รัชฎา”

“อืม...บ้านหรือคอนโดครับ”

“ห้องเช่าถูกๆ”

“ครับ...ขอเบอร์ได้ไหม”

“เบอร์อะไร”

“รองเท้า”

“43”

“เท้าเท่ากันเลย”

“เสื้อไซด์แอล กางเกงเอวสามสิบสอง ได้เข็มขัดด้วยก็ดี”

“มาเป็นชุด...”

“ได้ครบชุดก็ดี”

“ต้องไปวัดตัวที่ห้องแล้วจะได้ใส่ได้พอดี....”

“....ขอตัวก่อนนะครับ พอดีงานเข้า ว่าง ๆ คุยกันใหม่ อย่างไรก็ขอเบอร์ไว้ด้วย”
“ขอเบอร์คุณเอกก่อนดีกว่าครับ”

พอได้เบอร์ของเอกรินทร์มาแล้ว นาทีก็ไม่ได้ข้อความสนทนาทางเฟสบุ๊คจากเอกรินทร์อีก กระทั่งทำงานเพลิน ๆ แพรวพรรณเพื่อนสนิทที่เพิ่งย้ายตามเจ้าบ่าวผู้การเรือไปอยู่สัตหีบข้อความมาคุยด้วย นาทีจึงได้วางข้อความของเอกรินทร์ให้แพรวพรรณได้อ่าน และพออ่านแล้ว แพรวพรรณก็หยอกกลับมา

“คุยกันทางไหนเนี่ย”

“เฟสนี่แหละ เขาเป็นเพื่อนแพรวนี่ คงเห็นหนึ่งเป็นเพื่อนแพรวเหมือนกันก็เลยขอเป็นเพื่อนมา หนึ่ง แต่หนึ่งเพิ่งกดรับนะ แต่เขาก็เพิ่งทักหนึ่งมาเหมือนกัน”
“นัดเจอกันหรือยัง”

“บ้า ไม่ไวไฟขนาดนั้นหรอก เข็ดแล้วผู้ชาย”

“ให้จริง”

“จริง....แต่เขาก็น่ารักจริง ๆ นะ แอบดูรูปที่เขาลง ๆ ไว้ หน้าแหลม ๆ ตาเป็นประกายดีจัง”

“หนุ่มนครศรี กับหนุ่มนครสวรรค์เข้ากันดี”

“ไม่อยากรักคนบ้านไกล เบื่อความคิดถึง แล้วก็ขี้เกียจหวาดระแวง แล้วถ้าขี้หึงด้วย ไม่เป็นอันทำงานทำการ ว่าจะพักหัวใจสักพัก”

“ให้จริง”

“อยากเจอเนื้อคู่แท้ ๆ”

“เสียดายเนอะ ตอนที่หนูนายังดูดวงได้ ก็ไม่ได้ให้หนูนาดู”

“อย่างพวกหนึ่งไม่มีคู่แท้หรอกแพรว”

“เขาอาจจะใช่ก็ได้ อยู่ตั้งไกลยังไปเจอกันหน้าห้องน้ำได้เลย อย่าเพิ่งสรุป...แล้วสรุปว่าตอนนี้โทรคุยกันหรือยัง”

“ยัง ขอเล่นตัวพอเป็นพิธีก่อน..อิอิ”








จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ส.ค. 2555, 08:10:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ส.ค. 2555, 08:10:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2233





<< 14.1“เรื่องจริง ๆ ค่ะ อนงค์นางชอบอาจารย์เดชาพงษ์...”   15.1 “พี่ว่าเขาคงไม่ใช่คนเจ้าชู้ และก็ดูอบอุ่น” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 6 ส.ค. 2555, 08:15:13 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ครับ....คู่วายออกมาและ พอเป็นกระษัย...กรุบกริบ ๆ... 555555 เขียนไปยิ้มไปเขิน...อร๊ากกกกก ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจเหมือนเดิมครับ....


goldensun 6 ส.ค. 2555, 09:31:08 น.
อาจารย์ยังไม่ทันเกมสาวๆ อยู่ดี


คิมหันตุ์ 6 ส.ค. 2555, 11:02:22 น.
มุกวายๆ น่ารักนะคะ คุณเฟื่องใช้บ่อยรึป่าวคะ? (ล้อเล่นน๊ะ)


anOO 6 ส.ค. 2555, 14:09:50 น.
อาจารย์กล้วยอาจจะทันคุณหนูจิน แต่ไม่ทันเล่ห์ยัยสุแน่


nutcha 6 ส.ค. 2555, 14:56:08 น.
พี่ต้นกล้วยตามเกมยัยสุให้ทันน้า


แว่นใส 6 ส.ค. 2555, 16:41:50 น.
55555


Orathai 7 ส.ค. 2555, 07:16:30 น.
อาจารย์กล้วยแกเจอผู้หญิงเจ้าอารมณ์นะ..สุนันทากับจรินนาเหมือนอารมณ์อยากเอาชนะกัน


konhin 7 ส.ค. 2555, 13:41:27 น.
รักแท้ไม่แพ้อุปสรรค จับยัยสุลงไหดีมั้ยเนี่ย เค้าจะได้หวานกันบ่อยๆ น่ารักอ่ะ


Zephyr 12 ส.ค. 2555, 00:12:50 น.
สุกะหนูจิน เอาตากล้วยเป็นของรางวัลในการแข่งกันเหรอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account