อรุณสวัสดิ์หัวใจ # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
ความรักก่อให้เกิดความทุกข์ และรักที่เป็นไม่ได้ทุกข์ยิ่งกว่า
ตากับยายหล่อหลอมให้หลานสาวมีวิธีคิดอย่างคนพอเพียง
แต่บุญก็พา วาสนาก็ส่ง ให้เธอเป็นไปเกินกว่าที่ใจปรารถนา..

ไกล สุดเอื้อมมือถึง ไกล อยู่ถึงฟ้ากั้น
ไกล ไปหลายคืนวัน ไย รักมิกรายจากใจ

รักคือการแบ่งปัน รักคือการห่วงใบ รักคือการเสียสละ และรักคือการช่วยเหลือ

"ฉันไม่ได้แย่งเธอมาจากใคร เพียงแต่ว่าฉันทำตามที่ใจฉันเรียกร้องเท่านั้น
ถึงฉันจะเหลวไหลไปตามประสา แต่วันหนึ่งฉันก็รู้ว่าฉันควรหยุดที่ใคร"..

ดุจบ่วง ร้อยรัด ดวงใจ
ยิ่งแก้ ยิ่งพันใจ ยุ่งเหยิง
ยิ่งหนี ยิ่งตามติด ยากหลบ
พบคน ที่หัวใจ วางไว้ ใช่เลย

"ฉันรักเธอตั้งแต่เห็นหน้า เมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ ได้เห็นเนื้อแท้จากข้างใน ฉันก็รักเธอยิ่งขึ้น หัวใจของฉันเพรียกหาผู้หญิงดีพร้อมคนหนึ่ง แล้วฉันจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร"
Tags: โรแมนติกดราม่า

ตอน: 17.

17

คืนนั้นหลังจากที่เธออาบน้ำผลัดผ้าซึ่งเขาออกไปซื้อให้ใหม่ เป็นกางเกงรัดรูปสีดำ พร้อมผ้าบาติกลายสัตว์ทะเลหน้าเป็นกับเสื้อเชิ้ตตัวเล็ก ๆ สีส้มสดอีกตัว

“จะให้ฉันเป็นสาวชาวเลให้ได้”

“แทนตัวเองว่าสายบัว หรือบัวได้ไหม”

สายบัวไม่ตอบ ได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ปิ้งปลาหมึกกับกุ้งหอยปูและปลาด้วยใจไม่เป็นปกตินัก เธอกลัวว่าคุณอารักษ์จะพูดจาอะไรมากไปกว่านี้

“กินเยอะ ๆ ซิ ผอมไปรู้ไหม” ว่าพลางคีบเนื้อกุ้งที่แกะเปลือกออกแล้วส่งใส่จานให้ สายบัวเขี่ยแล้วคีบกำลังจะเข้าปาก พลันสายตาของเธอก็เจอะกับสายตาที่มองบนใบหน้าแบบไม่วางตาพร้อมเผยความในใจอีกครั้ง

สายตาแบบนี้ สายบัวนึกถึงครั้งที่เธอจ้องมองคุณหมอจนปากค้างอยู่ในโรงพยาบาล

ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน

“กินซิ เหลือเยอะแยะเลยเนี่ย” สายบัวรีบตัดบท แล้วเลื่อนถาดไปยังคนที่อยู่เบื้องหน้า

“ฉันก็อิ่มแล้ว”เขาทำท่าจะเรอออกมา แต่นึกได้ว่ามีเธออยู่ตรงหน้า

“เกลียดฉันมากไหม”

สายบัวไม่ตอบคำถามนั้น เธอเกลียดเขามากไหม? เธอย้อนคิด

“เกลียด” สายบัวพูดแค่นั้นคุณอารักษ์หน้าเจื่อนลง

“หากคุณกินของที่ซื้อมาไม่หมด รู้ไหมว่า”

“พอ ไม่ต้องเทศนาแล้วฉันรู้ว่าเธอเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ไงฉันถึงได้เลือกเธอ”

สายบัวหน้าแดงกับเหตุผลที่เขาค่อย ๆ เผยออกมา ยังไม่ทันจะช่วยกันจิ้มน้ำจิ้มกินจนหมดถาด สายลมก็โชยมาพร้อมไอเย็น พักใหญ่ก็แรงขึ้น ๆ หลังจากนั้นก็มีเสียงฟ้าคำรามและเม็ดฝนซัดกระหน่ำจนต้องรีบเก็บครัวเคลื่อนที่เข้าไปในบ้าน ยังไม่ทันจะปิดประตู ไฟฟ้าก็ดับพรึบ ทีนี้สายบัวรู้สึกว่า ตัวเธอกับคุณอารักษ์อยู่ใกล้กันเหลือเกิน เมื่อได้สติสายบัวรีบถอยหนี
แล้วไฟแช็คในมือคุณอารักษ์ก็สว่างขึ้น

“เฮ้ย” คุณอารักษ์ร้องเสียงหลง เพราะสายบัวหักตาขึ้นพร้อมกับแลบลิ้นยาวพร้อมกับส่งเสียง ดัง

“แฮ้”

“เธอนี่ ตกใจหมดเลย เห็นตะเกียงบ้างไหมเมื่อตอนกลางวัน”

“เห็นเทียนอยู่บนหลังตู้เย็น” แล้วคุณอารักษ์ก็ดึงมือสายบัวให้เดินตามกันไปในครัว

“อย่าบอกนะว่ากลัวผี”

“เออ กลัวผี ตาขาวจะตาย นี่แหละที่ฉันไม่อยากเรียนหมอ”

“นึกว่ากลัวแผลอย่างเดียวเสียอีก”

“จริง ๆ กลัวเข็มกลัวมีดด้วย และอีกอย่าง ฉันใจแข็งให้ใครตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอก”

สายบัวสะดุดใจกึ๊ก นี่แหละมั้งที่หล่อหลอมให้หมอโกมุท ไม่แม้แต่ชายตามองเธอ ทั้งที่รู้ว่าเธอชะเง้อชะแง้แลหา รอคอย


คืนนั้นฝนตกกระหน่ำทั้งคืน ไฟฟ้าไม่มา สายบัวขอเข้าไปนอนในห้อง แล้วต้องการให้คุณอารักษ์นอนข้างนอก

“ยุงเยอะนะ อีกอย่าง เธอก็รู้ว่าฉันกลัว ง่ะ ฉันสัญญาด้วยเกียรติ”

“แต่คุณเคยมีประวัติ” สายบัวยังจำได้ติดตา ภาพที่คุณอารักษ์จูจุ๊บกับเพื่อนคุณอาภัสวรรณในเธค และวันนั้น เขาทำหน้าหื่นกามมาก ๆ จนเธอต้องฟาดด้วยไม้กวาด

“ถ้าฉันคิดไม่ซื่อกับเธอเหมือนเมื่อครั้งโน้นนะ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้หรอก เมื่อคืนเธอเสร็จฉันไปแล้ว”

สายบัวครุ่นคิด นึกถึงถ้อยคำพนัน ผู้ชายไว้ใจได้หรือ



“บัวจ๋า ฉันกลัวผี ได้โปรดเถอะ” เสียงฟ้ายังครืน ๆ แต่สายบัวไม่ยอมเปิดประตูให้ คิดดีแล้ว อย่าเสี่ยงเลยดีกว่า กันไว้ดีกว่าแก้

“นี่คุณอารักษ์ มีวิธีช่วย”

“ทำไงล่ะ”

“คุณก็นอนแล้วก็หลับตาพนมมือ แล้วก็กล่าวคำว่า พุทโธ ๆ ๆ ๆ แบบนี้ แล้วคุณก็จะหลับไปในอู่ทะเลบุญ หลับไปพร้อมกับพระ ผีมันก็ไม่กล้าแหยม ทำได้นะ”

แล้วสายบัวก็เงียบเสียงไป

เช้าวันรุ่งขึ้น สายบัวพบว่าคุณอารักษ์นอนครางอือ ๆ ใต้ผ้าห่มผืนที่เธอนำมาโยนให้ตอนกลางดึก

สายบัวเขาไปใกล้ ๆ ใช้หลังมือแตะที่หน้าผาก ตัวไม่ร้อนหรือเย็นจัด แสดงว่าไม่ป่วย

“ตื่น แล้วกลับเข้าฝั่งเถอะ บัว คิดว่ามันหมดเวลาสนุกแล้ว”

“แต่ฉันปวดหัว ขับรถไม่ไหว” คุณอารักษ์ลุกนั่งแล้วก็คืบคลานผ่านประตูไปในห้องนอนแล้วก็ ค่อย ๆ เกาะเตียงแล้วปีนขึ้นไปหยิบผ้าห่มผืนที่เธอใช้เมื่อคืนคลุมโปง

สายบัวส่ายหัว ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพเหล่านี้จากผู้ชายหล่อเนี๊ยบ ผู้ปิดบังความจริงตลอดมาว่าคิดอย่างไรกับเธอ เมื่อคืนหลังจากที่คุณอารักษ์เงียบเสียงลง สายบัวจึงเริ่มใช้แสงเทียนในมือสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง แล้วเธอจึงรู้ว่าแท้จริงแล้ว

รูปที่เธอเคยวาดแล้วมีคนมาซื้อไปจากร้านหน้ารามนั้น หลายใบถูกใส่กรอบอย่างดีแขวนไว้ที่นี่ บนชั้นหนังสือ มีรูปภาพของเธอตั้งแต่วันที่ไปสมัครสุดยอดนางแบบ ภาพบนเวที ภาพกิจกรรมต่าง ๆ ที่เธอเองก็ไม่เคยมีเก็บมากมายเท่านี้

สายบัวค้นไปเรื่อย ๆ พบว่า มีหนังสือของเธอทุกงาน ทุกเล่มที่สร้างชื่อและทำรายได้ให้กับเธอ

แล้วใจที่คิดว่ามั่นคงก็เริ่มสั่นไหวจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ดุจบ่วงร้อยรัด ดวงใจ
ยิ่งแก้ยิ่งพันใจ ยุ่งเหยิง
ยิ่งหนียิ่งตามติด ยากหลบ
พบคนที่หัวใจวางไว้ ‘ใช่เลย’

มีใครทำให้เธอได้เท่านี้บ้างเล่า

คืนนั้นสายบัวคิดว่าตัวเองจะต้องนอนหลับด้วยความอ่อนเพลีย แต่เอาเข้าจริง ๆ เธอพยายามครุ่นคิดว่า เธอเผลอตัว จนไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งแอบมองอยู่ หรือคุณหมอก็เป็นเช่นเดียวกับเธอ น่าจะรู้แต่ไม่รู้ เพราะไม่ได้สนใจ
ภาพที่คุณอารักษ์ จูบกับเด็กคนนั้นกับมาในหัวอีกรอบ มันคงไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากนึกถึง ตัวคุณอารักษ์ ก็มีข่าวกับพวกดาราอยู่บ่อย ๆ เพียงแต่เธอไม่ได้สนใจจำเท่านั้น เขาขึ้นชื่อว่าคาสโนว่า อย่างไรเธอก็ยังไม่ปักใจนัก เพราะนึกถึงคำพนันนั่น

“ตกลงบ้านนี้เป็นของใครกันแน่คะ”

“ก็บอกแล้วไงว่าหลายเจ้าของ ฉันใจกว้างนะ มีอะไรก็อยากแบ่งให้คนอื่นได้ใช้บ้าง ก็เหมือนกับเธอคิดที่จะวาดภาพสวย ๆ แล้วขายในราคาถูก ๆ หรือไม่ก็เปิดร้านขายอาหาร ที่มัน อร่อย ๆ ติดแอร์เย็น ๆ แล้วก็ขายราคาเดียวกับข้าวแกงริมถนน เพียงแต่ฉันยังใจใหญ่ไม่เท่าเธอเท่านั้น แต่ต่อไปฉันต้องพยายามคิดทำ”

อาหารเช้ามือนั้นเป็นข้าวต้มที่ดัดแปลงจากข้าวสวยเมื่อคืน และพวกของทะเลสดที่ยังเหลืออยู่ในตู้เย็น สายบัวมีฝีมือจึงตั้งใจโชว์เต็มที่

“น่ารักจัง รู้จักประหยัด แล้วก็อร่อย สูตรนี้ใครสอนเนี่ย”

“อ่านจากหนังสือ แล้วก็คุณนันทพร”

“ลงทุนไปเรียนกับคุณนันทพร เพื่อจะได้ไปล้วงความลับว่า คุณหมอโกมุทชอบอะไร” สายบัวหน้าตึงในทันทีเมื่อได้ยินเขาเอ่ยถึงคนที่ยังไม่หายเป็นปกติ

“คุณเกลียดคุณหมอมากหรือคะ”

“ก้อไม่มากหรอก จริง ๆ พี่น้องต้องรักกันนะ ฉันก็รักเขา ห่วงเขา แต่วิธีแสดงออกบางทีมันไม่คุ้นเคยเหมือนพี่น้องท้องเดียวกันอย่างกับวรรณ ก็เท่านั้น”

สายบัวครุ่นคิด มีอะไรอีกมากมายในสองพี่น้องที่เธอยังไม่รู้อย่างแน่ชัด

“กลับกันเถอะค่ะ”

“กลับไปนี่เธอจะจัดการอย่างไรกับพี่ต้น และน้องฟ้า”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร จริงๆ ฉันนึกถึงข้อดีและบุญคุณของพี่ต้นมากกว่านะคะ ถ้าไม่ได้พี่ต้น ฉันคงเปิ่น เชย ไร้เดียงสาต่อวงการมายา แต่งหน้าเองก็ไม่ได้ ต่อรองค่าตัวก็ไม่เป็น เรื่องขัดสีฉวีวรรณพี่ต้นจัดการให้ทุกอย่าง จนฉันเป็นอย่างวันนี้ได้”

“เธอนี่ใจประเสริฐแท้ แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังพี่ต้นล่ะ เธอคิดอย่างไรกับเขา”

“คุณอารักษ์”

“เขารักจริงหวังแต่งนะสายบัว เขาจะรอเธอจนกว่าเธอจะใจอ่อน แต่ถึงเธอยังใจแข็งเขาก็จะทำให้เธอใจอ่อน ยามเธอมีภัยเขาจะตามปกป้องคุ้มครอง” ถ้อยคำนั้นเหมือนน้ำกรดลดลงหัวใจของใบบัวเลยทีเดียว

คนพูดละถ้วยลงจากเรือนไปแล้ว แต่สายบัวเป็นห่วงบ้านและสถานที่แห่งนี้ ไม่รู้จะจัดการกับมันอย่างไร จึงตะโกนตามไปว่า

“คุณอารักษ์ ตกลงเราจะกลับกันในตอนสาย ๆ ใช่ไหม บัวจะได้เก็บห้องครัวให้เรียบร้อย”

อารักษ์หันกลับมาใบหน้าบอกให้รู้ว่าไม่ได้ดั่งใจเลย แล้วก็พูดว่า

“เออ”



“จริง ๆ ไม่ต้องเก็บก็ได้ เดี๋ยวฉันจะโทรให้ป้าคนรู้จักที่อยู่ในหมู่บ้าน ขับรถมาจัดการเก็บกวาดได้”

สายบัวรู้สึกว่าคนมีเงินนี่ มักจะมีปัญญาด้วย เขาเก่งเรื่องบริหารจัดการกัน เรื่องยากจึงกลายเป็นเรื่องง่าย

“ไม่กลัวใคร มางัดแงะเอาสมบัติไปหรือคะ”

“ก็จ้างนักเลงมันดูแลแล้ว ใครที่ไหนจะกล้า เกาะเล็กนิดเดียว”

“อำเภอหนึ่งเลยนะคะ”

“เขาถึงกันหมดแหละ”

“ผู้ทรงอิทธิพลว่างั้นเถอะ”

“ชอบที่นี่ไหม”

สายบัวไม่ตอบได้แต่มองไปทางแถบทะเลสีครามด้วยสายตาที่หาคำบรรยายออกมาไม่ได้

“อยากเล่นน้ำทะเลไหม จะพาไปเล่นที่จันทบุรีนะ”

สายบัวงีบหลับไปแล้วเพราะรถขึ้นลงเขา ทำให้เธอรู้สึกวิงเวียน

มารู้สึกตัวอีกที เมื่อรถคันนั้นอยู่บนเรือเฟอร์รี่ คุณอารักษ์ไม่ได้ลงจากรถ ยังคงสตาร์ทรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ นั่งมองสายบัว เมื่อลืมตาตื่น พบดวงตาคู่นั้น จ้องมองมาอย่างมีความหมาย

สายบัวนึกถึงตาของดินที่เคยมองเธอ เธอปฏิเสธดินโดยสิ้นเชิง แต่ดินไม่ได้ปฏิบัติกับเธอเช่นคุณอารักษ์ ความรัก จะสมหวังหรือไม่ มันก็ต้องมีชั้นเชิง นึกย้อนกลับไปมองตัวเอง มันก็ใช้วิธีการโง่ ๆ ซื่อ ๆ มันจึงได้เป็นแม่สายบัวรอเก้อ มั่นใจแต่ว่าจะสมหวัง หากเขาทั้งสองคนไม่เลิกกัน เธอก็คงเดียวดาย สายบัวนึกหน้าคุณดุจเดือน อันที่จริง มันน่าจะเป็นปกติของคนสองคน ย่อมมีการเข้าใจกันผิด หรือเขายังไม่ได้เลิกกันจริง ๆ

“ประทับใจไหม เกาะช้าง”

สายบัวไล่ความงัวเงีย หันกลับไปมองอีกรอบ นับว่าเป็นความทรงจำที่ดีทีเดียว ไม่แปลกใจหรอก ที่กลุ่มเพื่อนคุณอารักษ์ ผลัดเปลี่ยนกันมาใช้สถานที่เพื่อพักผ่อน เป็นส่วนตัวและไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก แม้ทะเลตรงนั้นจะไม่มีหาดทราย ใช่ว่าจะหาหาดทรายไม่ได้ ขับรถกลับมานิด หรือปั่นจักรยานคันที่ผูกไว้กับเสาบ้านนั่นเลยไปอีกหน่อย

หากมีเวลาเธอก็อยากกลับมาอีกสักรอบ แต่จะมาได้อย่างไร เพราะเจ้าของบ้านคือใครก็ไม่รู้ หากเธอปฏิเสธเขาโดยสิ้นเชิง เขาก็คงถอยกลับไปเหมือนดิน

“แวะไหว้พระก่อนนะ ไหน ๆ ก็มาถึงตราดแล้ว” เมื่อเรือเฟอร์รี่เทียบท่า รถคันนั้นก็แล่นเข้าสู่เมืองตราด ไปหยุดที่วัดบุปผาราม เมื่อลงจากรถ คุณอารักษ์เดินเนิบนาบนำหน้าไปที่พระอุโบสถ เมื่อถึงที่หมายก็ซื้อดอกไม้ธูปเทียนส่งให้กับเธอ แต่สายบัวไม่รับ แถมบอกว่า

“ของใคร ของมัน ดีกว่าค่ะ”

ไม่อยากร้อย ไม่อยากผูกพันกันไป ด้วยบุญ หรือว่าบาป

คนส่งดอกไม้ให้ยักไหล่ก่อนจะเดินเข้าไปในพระอุโบสถโดยไม่ได้กล่าวชวน เห็นว่าน่าจะออกมาได้แล้ว แต่คุณอารักษ์ก็ยังอยู่ข้างใน สายบัวจำต้องเดินตามเข้าไป พบว่าเขานั่งคุกเข่าหลับตาปากขมุบขมิบ คงจะสวดมนต์บทใด บทหนึ่ง สายบัวแปลกใจไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพอย่างนี้จากผู้ชายลักษณะเช่นนี้

แล้วเธอก็นั่งท่าเทพธิดา พนมมือไว้ระดับอก แล้วก็หลับตาระลึกนึกถึงคุณของพระพุทธอันได้แก่ พระ บริสุทธิคุณ ด้วยหมดกิเลสอาสวะเครื่องร้อยรัดให้เกิดภพและชาติ นึกถึงพระปัญญาคุณ คือสามารถตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง เป็นศาสดาเอกผู้ยิ่งใหญ่ของโลก นึกถึงพระเมตตาคุณ คือจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ตามอุปนิสัยบารมี ส่วนเธอเองนั้นหากไม่ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาตั้งแต่วัยเยาว์ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตที่เดินมาจนถึงวันนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

อัตตาหิ อัตตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่เคยคิดจะรวยทางลัด ไม่เคยคิดจะเอาเนื้อตัวเข้าแลก เพื่อให้ได้มาในทรัพย์ ถึงไม่ได้เป็นนางแบบ เธอก็พอใจที่จะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป แม้กระนั้น ชีวิตก็เป็นไปอย่างคาดไม่ถึง สายบัวไม่ได้นึกถึงอะไรนอกจากบุญกุศลที่ได้กระทำไว้

นึกถึงเงินแค่ 300 บาทต่อเดือนที่เธอดึงจากเงินเดือนที่ได้รับจากคุณจารุวรรณไปจ่ายเป็นค่าอาหารส่วนหนึ่งเพื่อใส่บาตรในตอนเช้า

บุญกุศลใดที่เกิดขึ้นในคราวนี้ คราวที่เดินทางมาเข้าเฝ้าระลึกนึกถึง
พระพุทธเจ้าในพระอุโบสถแห่งนี้ ขอบุญกุศลนั้นจงสำเร็จแด่ตาและยาย พ่อกับแม่ ให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป บุญกุศลนั้น ช่วยให้หมอโกมุท อยู่รอดปลอดภัยกลับมาดำเนินสัมมาอาชีพ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไปด้วยเถิด

สายบัวก้มกราบด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์อย่างงดงาม นึกถึงคำของหลวงพ่อที่วัด

‘กราบสวย ตั้งใจกราบ มันก็แสดงถึงข้างในว่า มีความตั้งใจ มีความเลื่อมใสศรัทธาในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแค่ไหน’ เมื่อกราบครบเงยหน้าขึ้นมา พบสายตาคุณอารักษ์จ้องมองนิ่ง ๆ

สายบัว นึกอยากทำบุญค่าน้ำค่าไฟบำรุงวัด แต่เงินไม่มีเลย เมื่อกี้นี้ทำไว้ท่าไม่รับดอกไม้ธูปเทียน จึงไม่มีดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระพุทธเจ้าสักดอก

“ยืมเงินสักร้อยได้ไหม”

คุณอารักษ์ยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากคล้ายหมอโกมุท แล้วก็หยิบเงินจากกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกส่งให้ เป็นแบงก์ร้อย 5 ใบ

“ห้าร้อยเลยแล้วกัน ไม่มีดอกเบี้ย”

คงรู้ว่าถ้าให้เปล่า เธอก็คงไม่เอา




“สวดมนต์บทไหนหรือ” อดถามไม่ได้ เพราะอยู่ด้วยกันแค่สองคน แถมคุณอารักษ์ไม่ยอมที่จะเปิดเพลง คงจงใจทำให้เธอรู้สึกอึดอัด และที่สำคัญแกล้งหาวให้เธอ หวั่นเกรงอีกด้วย

“บทง่าย ๆ อิติปิโส พาหุงฯ มหากาฯ แล้วก็ชินบัญชร”

บทง่าย ๆ แสดงว่ารู้จักบทยาก ๆ ด้วย

“ไม่รู้รึว่าตอนฉันเป็นเด็ก ฉันบวชเณรในภาคฤดูร้อนตั้งหลายครั้ง ส่วนหมอโกมุทไม่เคยเพราะเรียนเก่งจัดจึงต้องเรียนพิเศษเพื่อให้เก่งจัดจนเป็นหมอให้ได้” สายบัวรู้สึกตลกเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“คุณบวชได้กี่วันหรือคะ”

“ปิดเทอมทีก็บวชที คุณแม่มีญาติบวชพระอยู่ต่างจังหวัด ปิดเทอมฉันเบื่อบ้านก็เลยขอไปบวชเณร บวชได้สามสี่ปีมั้งช่วงมัธยมต้น บางปีบวชแล้วก็มาอยู่วัดที่พระมาบิณฑบาตนี่แหละ จึงเป็นที่มาให้คุณแม่ต้องลุกมาใส่บาตรลูกเณร พอมาใส่แล้วจะเลิกไปก็คงน่าเกลียด”

“อ้าว”

“ตอนแรกคุณแม่บ้านใหญ่ท่านใส่คนเดียว ท่านเข้าวัดรักษาศีลมานานแล้ว ตั้งแต่รู้ว่าคุณพ่อมีบ้านมั่นคงอีกหลัง หาวิธีทำใจนะซิ ส่วนคุณแม่ฉัน ก็ไม่อยากทำอะไรที่มันเหมือนอีก ก็เลยไปมุ่งที่งานสังคม” คุณอารักษ์เล่าเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสำหรับชีวิตคนจริง ๆ

“พอฉันไปบวช ต้องบิณฑบาตผ่านหน้าบ้าน ท่านก็เลยต้องลุกมาใส่บาตรเณรลูกชายบ้าง เคยทำแล้วก็เลยกลายเป็นธรรมเนียมแข่งกันใส่บาตรกันไปอย่างที่เธอเห็น”

“บุญที่มีลูกชาย”

ยายกับตาเคยบอกว่า มีลูกบวชก็ได้เป็นญาติกับพระศาสนา ตากับยายไม่มีลูกชายสักคน แถมเธอก็ยังมาเป็นผู้หญิง ตอนที่ลูกชายของป้าได้บวช ก็บวชแค่ประเดี๋ยวประด๋าวยังไม่ทันล้างถ้วยชามที่ยืมจากวัดมาจัดงานส่งคืนด้วยซ้ำ หนังสือคงยังท่องไม่ได้ แล้วก็สึกออกมา นึกถึงคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นี่ เป็นไปได้อย่างไร

“รู้ป่ะ บางปีหลวงลุงฉันก็พาออกไปธุดงค์ด้วยนะ”

“ฮ้า! จริงหรือ” สายบัวแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“แล้วเป็นไง”

“ก็ได้เห็นวิถีคนวัฒนธรรมและกิจวัตรต่าง ๆ ของพระแต่ละที่ก็ไม่ค่อยเหมือนกัน บางทีมนต์บทเดียวกัน ยังคนละทำนองเลย บ้านเธอสวดอย่างไรล่ะ ลองโชว์หน่อยซิ”

สายบัวยิ้มนิด ๆ ไม่กล้าหรอก เธอสวดมนต์กับคนแก่มาตลอด เสียงมันก็เป็นลักษณะยานคาง ช้า ๆ สั่น ๆ นะซิ

เมื่อเขาเล่าเรื่องเคยบวชเณรทำให้สายบัวอดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วศีลธรรมที่ได้เคยเรียนรู้ทำไมไม่หยิบมาใช้

“มีอะไรสงสัยอีกหรือ” เขาหันมาถาม คล้ายกับรู้ใจ

“มี แต่ไม่รู้จะถามดีหรือเปล่า และถ้าถามออกไปแล้วคุณอารักษ์จะโกรธบัวหรือเปล่า”

“ถ้าถามเรื่องที่ควรถามก็ไม่โกรธ”

“แล้วทำไมถามเรื่องบุหรี่ถึงได้โกรธ” สายบัวยังนึกถึงวันที่เขาขาหัก

“ตอนนั้นมันคนละตอนกับตอนนี้นี่ เธอยังจำได้อีกหรือ”

“บัวอยากรู้ว่า ทำไมคุณอารักษ์ไม่เอาหลักธรรมที่เคยเล่าเรียนมาใช้ในชีวิตประจำวัน” เมื่อยิงคำถามไปแล้วคนต้องตอบอึ้งไป สายบัวมองข้างทาง แล้วก็ถามต่อว่า

“ทำไมคุณถึงได้เกเรไม่เรียนหนังสือให้มันจบเป็นเรื่องเป็นราวแล้วทำการทำงานเหมือนคนอื่น ๆ เขา”

“อารมณ์ชั่วแล่นนะบัว คนเราก็มีผิดพลาดกันได้ พระยังมีผิดศีลเลย อลัชชีก็เยอะแยะ เพราะฉะนั้นที่ฉันเป็นแบบนี้ เธออย่าเอาศาสนามาเป็นตัววัดว่าฉันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ที่ฉันเป็นอย่างนี้ เพราะสันดานของฉันมันไม่ดีเองต่างหาก”

“ข้อนั้นบัวเข้าใจค่ะ”

“ฉันชอบเธอตรงนี้แหละนะ ดูเธอพร้อมจะรับฟังและเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ แต่อย่างไรแล้วเธอก็ยังปิดกั้นสิ่งใหม่ที่มีประโยชน์ไม่เต็มที่ไว้ได้ด้วย”
จากที่ต้องการคำตอบกลายเป็นว่า สายบัวมีคำถามถามเขาเรื่องของตัวเอง

“เธอกล้าเป็นนางแบบ กล้าเดิน กล้าแต่งตัวแปลก ๆ แต่พอสลัดคราบเหล่านั้นออก เธอกลายเป็นคนธรรมดาได้เหมือนไม่เคยทำอะไรแบบนั้นมาก่อน น่ารักนะ”

พูดอะไรกันก็ไม่พ้นสุดท้ายกับคำพูดกระเทาะหัวใจของเธอ

“แล้วที่ฉันเรียนหนังสือไม่จบ ใช่ว่าฉันจะยอมจำนนต่อโชคชะตาชีวิต เมื่อฉันคิดได้ ได้คิดเพราะได้เห็นความมุมานะของเธอ ฉันก็มาค้นว่าฉันยังมีอะไร และฉันมีดีอะไร เมื่อรู้แล้วว่าเรามีศักยภาพในตัวเองแค่ไหนฉันก็ลุย ทำบางสิ่งบางอย่างให้เป็นที่ยอมรับแก่คุณพ่อคุณแม่ พี่ ๆ ของฉัน”

สายบัวหันไปมองหน้าคนขับรถ เขาปรายตามามองเธอ

“ชีวิตคนเรานะบัว มันไม่สายสำหรับการเริ่มต้น เธอไม่รู้หรือว่าฉันจบระดับปริญญาตรีเหมือนกันนะ ตั้งสองใบแนะ”

สายบัวทำหน้าแปลกใจ

“ใบหนึ่งจากอเมริกา เป็นการศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ตที่ฉันเผลอไปเล่นเว็บโป๊นั้นแหละ”

สายบัวเอื้อมมือไปแง๊บที่พุงซะหนึ่งทีนึกถึงหนังโป๊ทีไรแล้วโมโหอีตานี่ทุกทีไป

“โอ๊ย!” เขาโอดด้วยริมฝีปากคลี่ยิ้มแล้วก็พูดต่อ

“อีกใบที่ไหนเธอทายซิ”

สายบัวไม่ยอมตอบ

“รามคำแหงครับ จบก่อนเธออีกนะ เพราะฉันมีของเก่าไปเทียบโอนด้วยไง”

“จริงอ่ะ” สายบัวทำหน้าไม่เชื่อ

“เธอไม่รู้หรือไงว่า พันธุกรรมมันดีไง อย่างไรเสียความฉลาดเป็นกรดแบบคุณพ่อ พี่หมอสามหมอไม่ได้เอาไปหมดหรอก มันมีตกมาถึงฉันอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน”



ตกลงคืนนั้นคุณอารักษ์ พาสายบัวนอนค้างที่หาดเจ้าหลาวจันทบุรีอีกหนึ่งคืน ตอนบ่ายยันค่ำ ทั้งคู่ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นดำผุดดำว่ายกันอย่างสนุกสนาน
และสิ่งหนึ่งที่ทำให้สายบัวรู้สึกแปลก ๆ ก็คือ คุณอารักษ์แทบไม่ถูกเนื้อต้องตัวเธออีกเลยทั้งที่มีโอกาส อาจเป็นแผนให้เธอตายใจ

“เล่นน้ำทะเลจะให้สนุกรู้ไหมต้องเล่นอย่างไร”

สายบัวส่ายหน้า คุณอารักษ์เดินขึ้นไปบนฝั่งแล้ววิ่งสปริงตัวกระโดดให้ไกลที่สุดแล้วเอาก้นลง น้ำแตกกระจาย

“ลองดูซิ”

“น่าเกลียดเป็นสาวเป็นนาง”

“ลองเถอะน่านะ นะ ลองดูสักตั้ง”

คนอย่างสายบัวนะรึจะทำไม่ได้ ไม่ได้บ้ายุ แต่เธอก็โตมาจากบ้านนอก โลดโผนโจนทะยานมากับกาหลง เดี๋ยวก็รู้ว่าเด็กบ้านนอกเป็นอย่างไร
เมื่อน้ำกระจายแล้วสายบัวทะลึ่งพรวด เสียงปรบมือก็ดังขึ้น สายบัวยักคิ้วหลิ่วตาให้เป็นเชิงให้รู้ว่า

‘เจ๋งไหม’

“เธอลุยได้มากกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เอาไว้ว่าง ๆ เราไปเที่ยวน้ำตกหรือปีนภูเขากันนะ?”


สายบัวอยากจะปฏิเสธ แต่คำว่า ‘ว่าง ๆ’ กับ ‘กันนะ’ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่

“จริง ๆ นอกจากที่ที่เธอเคยเห็น ฉันกับเพื่อน ๆ ก็ชอบลุยป่าลุยเขา ภูสอยดาว ดอยเสมอดาว ดอยผ้าห่มปกอย่างนี้นะ หรืออุทยานต่าง ๆ นี่ฉันไปกันมาเกือบหมดแล้ว กางเต็นท์ อาบน้ำตก ก่อไฟปิ้งย่าง”

“แล้วก็มีดื่ม”

“เธอไม่ชอบคนดื่มเหล้าหรือ”

“ไม่ถึงกับเกลียดแต่ถ้าบ่อยจนติดก็ไม่ดี “

“งั้นฉันจะพยายามเลิก”

“ไม่เห็นต้องพยายามเลย ก็เลิกไปเลยซี่ ไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองก็รู้นี่”

“ก็คิดว่าอาจทำไม่ได้ ฉันเองถึงจะรักษาศีลได้ขาด ๆ เกิน ๆ แต่ฉันก็ไม่อยากเสียสัจจะหรอกนะ”

สายบัวรู้สึกว่า เหมือนเขาจะต้อนให้เธอจนใจ หญิงสาวลุกขึ้นแต่เป็นจังหวะเดียวกับที่คลื่นซัดเข้ามาทำให้ร่างเพรียวลมเสียหลักล้มลงที่ใกล้กับคนนั่งชันเข่าเอาฝ่ามือท้าวพื้นทราย

“อย่างไรเธอก็หนีฉันไม่พ้นหรอกสายบัว” คนพูดกระเถิบตัวมาใกล้ ๆ สายบัวรู้สึกถึงใจที่เต้นแรงผิดปกติของตน เมื่อตั้งหลักได้สายบัวจึงขยับตัวออกห่าง

“ฉันเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้อยู่ตามลำพังกับเธอใช่ไหม”

สายบัวอยากจะตอบว่า ‘ใช่’ แต่เธอจะพูดไปทำไม ที่ผ่านมาเธอก็อยู่ในสายตาของเขาตลอดแล้วนี่

“หิวข้าวแล้ว ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” กว่าจะหาหนทางบ่ายเบี่ยงได้เล่นเอาเธอเกือบจนมุมเหมือนกัน

กลางคืนคุณอารักษ์สั่งอาหารทะเลสดรสชาติแสนอร่อย เสิร์ฟพร้อมกับไวน์ชั้นดีที่โต๊ะตัวริมทะเล พร้อมกับอ้างว่า บุญส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป
แสงเทียนจากเชิงทองเหลืองลายฉลุห้าช่อกับดนตรีบรรเลงทำนองเพลง wind of change ทำให้สายบัวต้องเหลียวซ้ายขวาหาตัวคนบงการ เธอรู้ว่าคนนั้นนั่งอยู่ตรงนี้แต่เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอชอบเพลงนี้ มันอยู่ในเครื่องเล่นแผ่นซีดีที่คุณหมอโกมุทซื้อให้ไม่ใช่หรือ

Listening to the wind of change

“เพราะนะ”

“ฟังได้ ทำนองดี แต่ไม่รู้ความหมาย” สายบัวบอกตามความรู้สึก

“เพราะรักนะ” เขาจ้องหน้านวลเนียนซึ่งเลือดคงสูบฉีดขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวพยายามหักห้าม

“แกะปูให้บ้างซิคะ” สายบัวยื่นปูเผาไปที่จานของเขา แล้วทำเป็นไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดที่ได้ยิน คนเจ้าชู้มักจะเป็นอย่างนี้กันทั้งนั้น หวานเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หากเธอถลำลึก คืนนี้เธออาจเป็นเหยื่อ หลังจากนั้น เธอก็จะกลายเป็นเพียงหนึ่งในบันทึกของหัวใจ เธอยังไม่ยอมจนมุม เขาเล่าเรื่องส่วนตัวของเขาอีกมากมาย จนกระทั่งสายบัวรู้สึกคุ้นเคยและคล้อยตาม แต่อีกใจมันก็อดคิดไม่ได้ว่า

เรื่องนี้เขาเล่ากี่รอบต่อกี่รอบแล้ว

“เธอเชื่อที่ฉันพูดไหม” น้ำเสียงนั้นอ้อแอ้เพราะไวน์พร่องไปเกือบหมดขวด

“เชื่อว่าคงมีคนหลงเชื่อ”

“ฉันต้อนเธอไม่จนมุมจริง ๆ สายบัว แต่ถึงอย่างไร เธอต้องเชื่อนะว่า บางเรื่องฉันเล่าให้เธอฟังคนเดียว”

“ขอบคุณที่ไว้วางใจ” สายบัวแดกดันให้ แต่เขากลับตอบว่า

“ฉันวางเดิมพันนี้ด้วยหัวใจของฉันเองเลยนะ”

เมื่อถึงเวลาต้องนอน สายบัวทำท่าหาวและปรือตาอย่างไม่ได้คิดถึงมาดสวย เขาลุกขึ้นแล้วดึงเธอให้ลุกตาม สายบัวปล่อยให้เขาจูงจากโต๊ะไปที่หน้าห้องนอนของตนเองอย่างว่าง่าย

“Good night and sweet dream…daring”

สายบัวทำหน้างง ๆ แล้วเขาก็ขำกิ๊ก ๆ

“เธออยากได้ยินแบบภาษาไทยหรือเปล่าละ”

สายบัวรีบยกมือขึ้นห้าม หัวเราะก่อนจะเร้นกายเข้าห้องแล้วปิดประตูลงล็อค เธอยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเขายังไม่ได้เดินจากไปเพราะสายบัวรู้สึกถึงความอบอุ่นอีกฝั่งของประตู ยิ่งถ้อยคำที่กระเส่าเล็ดลอดความหนาของประตูเข้ามายิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าควบคุมอาการร้อนผะผ่าวที่โหนกแก้มไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่า เลือดสาวสูบฉีด

“ฝันถึงฉันบ้างนะคนดี”

คืนนั้นเป็นอีกคืนที่สายบัวรู้สึกว่าข่มตาให้หลับลงยากเสียจริง แววตา รอยยิ้มเล็กที่มุมปากของคุณอารักษ์ แม้แต่น้ำเสียง ด้วยเป็นพี่น้องจึงละม้าย แต่มันก็ไม่ใช่ แต่เพียงบางส่วนที่เธอสัมผัสมันทำให้เธอรู้สึกสับสน



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 พ.ค. 2554, 09:20:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 พ.ค. 2554, 09:20:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 2664





<< 16   18. >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 10 พ.ค. 2554, 09:28:53 น.
เสร็จเป็นเล่มแล้วครับ ท่านที่สนใจ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ f_nakhon@hotmail.com ครับ ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ..


mottanoy 10 พ.ค. 2554, 09:38:52 น.
หวานก็เป็นด้วยแฮะ หวังว่าคงไม่ออกลายทีหลังนะคะ แล้วสายบัวจะทำไงกะหมอโกมุทดีล่ะเนี่ยะ


chat 10 พ.ค. 2554, 11:00:32 น.
น่ารักและสนุกมากขึ้นมากขึ่้นทุกๆตอนค่ะ..


คิมหันตุ์ 10 พ.ค. 2554, 14:41:37 น.
เห้อ.........น่ารักจังคุณอารักษ์


pattisa 11 พ.ค. 2554, 06:14:32 น.
คุณอารักษ์น่ารักมากกก :) เจอผู้ชายแบบนี้รักตายเลย บัวก็ปิดกั้นตัวเองจั๊งง ไม่เป็นไรให้อภัยเพราะน่ารักทั้งคู่ :D นิดนึงนะค่ะ good night and sweet dream.. น่าจะเป็น darling หรือเปล่าค่ะ ;)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account