ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 17.1“อาจารย์เดชาพงษ์เขาเคยรักแกเหรอ”

บทที่ 17

ขณะที่ขับรถกลับนครสวรรค์พร้อมขนมของฝากที่จรินนาสั่งไว้ด้วยหัวใจที่พองโตตามประสาคนที่มีความรักและมีความหวัง เดชาพงษ์ก็ได้รับโทรศัพท์จากเมขลาน้องสาวคนเล็ก เขาจึงต้องลดความเร็วในการขับขี่ลง

“เป็นอย่างไรบ้างพี่ เดินหน้าจีบคุณหนูจินไปถึงไหนแล้ว” เพราะหัวใจกำลังชื่นฉ่ำเดชาพงษ์จึงต้องบอกเล่าถ้อยคำสนทนาเมื่อคืนให้น้องสาวรับรู้อย่างไม่ปิดบัง...

“ดีแล้วค่ะ เยี่ยมไปเลย...แล้วนี่ไปหาเขาก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้มันดูเฟิร์ส ๆ หน่อยนะ เสื้อตัวสีน้ำเงินลายขาวตัวที่เพิ่งซื้อไปให้สวย ใส่ไปเลย”

อันที่จริงเดชาพงษ์อยากจะเถียงว่าคนเราถ้าคิดจะรักกันก็ขอให้รักกันที่เนื้อใจไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก แต่เมื่อมีความรักเข้าจริง ๆ เขาก็เลยรู้ว่า รูปลักษณ์ภายนอกนั้นมันก็สำคัญอยู่ไม่น้อยแต่ถึงกระนั้นระหว่างเขากับจรินนา เขาก็มั่นใจว่า หญิงสาวมองเห็นรูปทองและเนื้อใจของเขามากกว่าเปลือก ไม่เช่นนั้นหญิงสาวก็คงไม่ทอดสะพานเสียขนาดนี้

“อืม..”

“พี่กล้วยมีคนอยากคุยด้วย”

พอเมขลาบอกแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มแทรกเข้ามาแทนที่

“สวัสดีครับพี่กล้วย ผมกฤษณะนะครับ”

“ครับ ว่าไง มีอะไร”

“เมื่อไหร่พี่จะแต่งงานซะที ผมใจจะขาดแล้ว”

“อ้าว...พี่เกี่ยวอะไรด้วย”

“ก็ถ้าพี่ไม่แต่ง หนูนาเขาก็ไม่ยอมแต่ง เขาไม่อยากแต่งก่อนพี่แต่งงานนะครับ...พี่ช่วยผมหน่อยนะครับ ช่วยแต่งเร็ว ๆ หน่อยนะ ผมจะได้จูงมือหนูนาเข้าประตูวิวาห์บ้าง ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ติดขัดตรงพี่นิดเดียวเอง”

“อืม..” เดชาพงษ์รู้สึกหนักใจขึ้นมา แต่ด้วยไม่อยากให้ใครเอาชีวิตมาผูกไว้กับตัวเอง เขาจึงต้องบอกไปว่า “บอกให้หนูนาแต่งไปเหอะ แต่งก่อนพี่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก พี่ไม่ถือ”

“แต่หนูนาเขาบอกว่า เขาเคยพูดแบบนั้นไปแล้ว เขาต้องรักษาสัจจะ...ผมก็เลยตะกายข้างฝาจนเล็บฉีกไปแล้ว” ถ้ากฤษณะบอกอย่างนี้ก็แสดงว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นยังเป็นเพียงแค่คู่รักกัน ยังไม่เลยเถิดแบบหนุ่มสาวยุคใหม่ที่อยู่ห่างไกลพ่อแม่...

“จะเก็บไว้พิจารณาแล้วกัน แต่คิดว่าคงไม่ใช่ปีสองปีนี้แน่ ๆ อย่างไรก็อดทนไปก่อนนะ...”

“นะพี่ รีบ ๆ หน่อยนะ พลีสสสส”


กลับมาถึงบ้านพักเดชาพงษ์ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดูใบหน้าที่ตัวเองกับกระจกนานขึ้น และที่จะลืมไม่ได้นั่นก็คือ รูปของจรินนาที่ยังถือว่าไม่สมบูรณ์นักซึ่งเขาจะยกกรอบผ้าใบไปให้หญิงสาวดูก่อน หลังจากนั้นก็จะใช้รูปนี้เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์กันต่อไป ด้วยข้ออ้างที่ว่าต้องการวาดรูปนี้ให้สมบูรณ์ที่สุด

เขาขับรถไปจอดที่หน้าบ้านของจรินนาท่ามกลางความแปลกใจ เพราะที่ข้างรั้วมีรถของสุนันทาจอดอยู่ก่อน...เขาถอนหายใจเบา ๆ แม้จะไม่ได้รักสุนันทาในแบบที่สุนันทาต้องการ แต่ถ้าเขาจีบจรินนาอย่างเปิดเผย สุนันทาจะต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอน...แต่ว่าสุนันทาก็ต้องยอมรับความจริงนี้

และพอสุนันทาที่ยืนคุยอยู่กับแม่ข้างแปลงกุหลาบโดยมีลูกชายวิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ เห็นว่าเดชาพงษ์ขับรถมาจอดหญิงสาวก็ทำหน้าแปลกใจ และก็ต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นที่เห็นว่าในมือของเขามีของพะรุงพะรัง...

“มาได้อย่างไรนะ” นางสำเนียงเปรยกับลูกสาวเบา ๆ ก่อนจะรีบเดินไปช่วยรับของที่อยู่ในมือ

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”

“ไปอุทัยธานีมาครับก็เลยซื้อพุทราที่ข้างทางมาฝากป้า แล้วก็ขนมปังสังขยาของคุณจิน ของฝากขึ้นชื่อของเขา แล้วก็ข้าวเกรียบกุ้งน้ำพริกเผา...” เมื่อส่งของให้ป้าสำเนียงไปแล้วเขาก็วกกลับไปที่รถ เดินไปคว้ารูปที่ยังติดอยู่ในกรอบวาดออกมา..สุนันทาที่เดินตามมาสมทบปั้นหน้าแทบไม่ถูกเมื่อเห็นว่ารูปที่เขาวาดนั้นแม้จะแต่งองค์ทรงเครื่องแบบตัวละครตัวนาง แต่ว่าใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรานั้นคือใบหน้าของจรินนาชัด ๆ

“รูปอะไรหรือครับ” กอล์ฟเอ่ยปากถาม

“รูปนางละครครับ” เขาตอบเด็กชาย

“สวยจังเลย...เอ๊ะหน้าเหมือนน้าจินเลยนะ” เด็กชายกอล์ฟพูดออกมาในขณะที่เพ่งพิศรูปนี้

ลมหายใจของสุนันทาเริ่มร้อนขึ้น เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอภาพบาดตาตำใจแบบนี้
“ของฝากของสุพรุ่งนี้ผมจะเอาไปที่โรงแรมนะ” เขาหมายถึงพุทรากับขนมปัง

“ไม่ต้องหรอกค่ะ พรุ่งนี้สุคงไม่ไป...”

“ทำไมละ”

“ช่วงนี้ที่ร้านมีงานเยอะค่ะ...สุขอตัวก่อนนะคะ”ใบหน้าบึ้งตึงและน้ำเสียงสะบัดสะบิ้งของสุนันทาบอกให้รู้ว่าหญิงสาวผิดหวังและเจ็บปวดกับการมาปรากฏตัวที่นี่ของเขา..

“อย่างไรก็ทนอีกหน่อยนะ งานใกล้จะเสร็จแล้ว” เขาพูดเป็นนัย

“ถ้าส่วนที่สุรับผิดชอบเสร็จ ตรงชั้นอื่น ๆ ที่อาจารย์แบ่งสันปันส่วนไว้ให้ สุก็ยกให้คนอื่นไปเลยแล้วกัน ให้พี่เกียรติก็ได้ เห็นว่ากำลังเดือดร้อน”

“เอาอย่างนั้นนะ”

“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ กอล์ฟกลับบ้านกันลูก...แม่หนูกลับก่อนนะ”

สุนันทาเรียกลูกให้เดินมาหาก่อนจะจูงมือเดินกลับไปที่รถ...ฝ่ายจรินนานั้นเมื่อเห็นว่าสุนันทากลับบ้านไปพร้อมใบหน้าบึ้งตึง หญิงสาวก็ลงมาจากชั้นสองด้วยใบหน้ายิ้มชื่นดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็น

ภาพวาดครึ่งตัวของนางละครที่เกล้าผมถือชฏาเตรียมสวมหัว

“สีดาหน้าหมวยนี่สวยจังเลยค่ะ”

“ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ครับ ขอลงสีอีกนิด คงจะสวยกว่านี้ แบบนี้พอใส่กรอบติดฝาบ้านได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะได้...ป้าสำเนียงว่าสวยไหม”

“สวยมาก...”

แม้จะเห็นว่าจรินนาดูมีความสุขแต่นางสำเนียงก็รู้สึกสงสารลูกสาวขึ้นมา...แต่ว่าเมื่อมันไม่ใช่ ฝืนไปก็จะมีแต่เจ็บปวด...ลูกสาวของนางจะต้องเข้าใจ


กลับมาถึงบ้านแล้วสุนันทาก็พาลรีพาลขวางโดยการเข้าห้องปิดประตูทิ้งลูกชายไว้กับเด็กในร้านก่อนจะโทรกลับไปหาแม่เพื่อระบายความคลั่งแค้นใจ...

“แม่ หนูอยากให้แม่ลาออกจากการเป็นคนรับใช้บ้านนั้น แล้วมาอยู่กับหนูที่นี่”

“เกิดอะไรขึ้นรึ”

“แม่รักหนูไหม ถ้าแม่รักหนู แม่ต้องช่วยหนู หนูไม่ไหวแล้วนะ”

“ทำไมละ”

“ก็นังจินนะซิ มันแย่งคนรักของหนู แม่ก็เห็นกับตา”

“อาจารย์เดชาพงษ์เขาเคยรักแกเหรอ”

“แต่ถ้าไม่มีนังจิน มันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอกแม่ ก่อนหน้านั้นเขาก็ยังดี ๆ กับหนูอยู่เลย”

“คิดเองเออเอง นี่แม่จะบอกอะไรให้นะ เรานะต้องเจียมตัวว่าเราเป็นใคร เขาเป็นใคร เราเป็นลูกศิษย์เขา คนดี ๆ มีสามัญสำนึก เขาไม่เอาลูกศิษย์ทำเมียหรอก...”

“ที่แต่งงานกับอาจารย์ที่สอนตัวเองก็มีเยอะแยะ แม่อย่ามาอ้างเลย ความรักมันไม่มีถูกมีผิดหรอก”

“แต่มันใช้ไม่ได้กับอาจารย์เดชาพงษ์แน่ ๆ และที่สำคัญก่อนหน้านั้น แม่ก็ดูออกว่าเขาไม่ได้มีทีท่าสนใจแกเลยสักนิด ทำใจเถอะลูก แล้วก็แสดงความยินดีกับเขา มุทิตาจิตน่ะทำแล้วมันทำให้เรามีความสุขนะลูก...”

“หนูรู้จักแต่ริษยา”

“อยากจมอยู่บนกองทุกข์ก็ตามใจ แล้วอีกอย่าง อย่าลืมนะว่า เรานะเป็นแม่หม้ายลูกติด ผู้ชาย โสด ๆ ที่ไหนเขาจะมาสนใจ รึถ้ามีมาจริง ๆ มันก็หวังมาปอกลอก ถ้าอยู่คนเดียวได้ก็อยู่ ลูกก็มีแล้ว กิจการงานก็เก็บกินไปจนแก่เฒ่าไปอย่างสบายๆ ...ความสุขนะมันอยู่ที่วิธีคิด”

“แม่ไม่มาเป็นหนู แม่ไม่รู้หรอก”

“ไปข้าง ๆ คู ๆ แม่เหนื่อยจะคุยด้วย”

“ใช่ซิ นังจินมันดี มันออดอ้อนแม่เก่งกว่าหนู แม่ถึงรักมันมากกว่าหนู”

“ไม่มีแม่คนไหนรักลูกตัวเองน้อยกว่าลูกคนอื่นหรอก...หรือแกเองรักอาจารย์เดชาพงษ์มากกว่าน้องกอล์ฟ..”

“ไม่คุยกับแม่แล้ว...แค่นี้นะ”

วางสายจากแม่ไปแล้วสุนันทาก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนที่เคยมีสามีนอนอยู่เคียงข้าง แต่ว่าหลังจากที่เขาจากไปความเปลี่ยวเหงาก็เข้ามาสิงสู่จิตใจทุกคืนทุกวัน...และมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสุนันทาก็ไม่อยากเจอกับภาวะแบบนี้ทั้งที่ตัวเองยังสาวยังสวยสด...แต่ครั้นจะทำตัวเหลวไหลไปกับใครง่าย ๆ เพื่อปลดเปลื้องความต้องการจากส่วนลึกของธรรมชาติสุนันทาก็นึกถึงลูกชายขึ้นมา เธอไม่อยากให้ลูกมีปัญหา อยากให้ลูกเข้ากับพ่อเลี้ยงได้และน้องกอล์ฟก็เข้ากับอาจารย์เดชาพงษ์ได้เป็นอย่างดีเธอจึงมาดหมายว่าจะให้เขามาเป็นพ่อเลี้ยง แต่ว่าบัดนี้ความหวังนั้นก็หลุดลอยไปแล้วเพราะจรินนาคนเดียว...


หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสุนันทาก็ได้สติ เกมส์ที่เดินหมากพลาดไปแล้วต้องรีบแก้ หญิงสาวคว้าโทรศัพท์มือถือและกดโทรหาเดชาพงษ์ทันที “อาจารย์คะ เมื่อกี้สุขอโทษ”..

“เรื่องอะไรรึ”

“ที่สุเสียมารยาทออกไป สุ คือ สุ หงุดหงิดนะคะ”

“ครับ...”

“ตอนนี้อาจารย์อยู่ที่ไหนคะ”

“อยู่บ้านพ่อแม่ที่กระดานป้าย ขับรถเอาของมาฝากท่านหน่อย ไม่ได้มานานแล้ว”

“น่ารักจังเลยค่ะ...หายากนะคะผู้ชายใส่ใจพ่อแม่”

“มีเยอะแยะครับ”

“แต่สุดันเจอแต่อาจารย์”

“ครับ”

“แล้วคืนนี้จะนอนค้างที่โน่นหรือเปล่าหรือ จะกลับมานอนที่โรงเรียน”

“ว่าจะค้างนะ พรุ่งนี้เข้าโรงแรมทีเดียวไปเลย”

“เรื่องที่สุบอกว่าจะถอนตัว สุไม่ถอนแล้วนะคะ สุอยากทำงานต่อ อยากแสดงฝีมือทิ้งไว้ อาจารย์ไม่โกรธสุนะคะ”

“ไม่โกรธหรอกครับ”

“ขอบคุณมากค่ะที่ไม่ถือโทษโกรธเคืองคนที่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ...อาจารย์คะ สุมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยคะ...สุอยากให้แม่ลาออกจากงานที่บ้านคุณลุงมาอยู่กับสุ เพราะแม่แก่แล้ว สุอยากตอบแทนบุญคุณของแม่ อาจารย์ว่าสุคิดดีไหมคะ”

“ดีมากครับ”

“แต่แม่ไม่ยอมมา อาจารย์ช่วยพูดให้หน่อยได้ไหมคะ ตอนนี้สุเองก็ไม่มีใคร มีแม่มาอยู่ด้วย สุก็อุ่นใจ แล้วสุไม่อยากให้ใครเอาไปพูดว่าสุได้ดีแล้วไม่เหลียวแลแม่”
เดชาพงษ์ถอนหายใจเบา ๆ เพราะถ้านางสำเนียงไม่อยู่ที่บ้านหลังนั้น บ้านที่เคยสะอาดเรียบร้อยจะต้องมีปัญหาแน่ ๆ สุนันทาเล่นงานจรินนาด้วยแผนนี้ถือว่าล้ำลึกจริง ๆ

“แล้วคุยกับป้าเขาหรือยัง”

“ก็เคยบอกอาจารย์ไปแล้วว่าแม่ของสุลำเอียง รักจินมากกว่าสุ...กลัวจินจะลำบากตรากตรำทั้งที่จริง ๆ แล้วบ้านนั้นมีเงินจ้างคนใช้ทำงานได้เป็นสิบ ๆ คนด้วยซ้ำ”

“แต่ว่าเขาก็อยู่กันมานานนะครับอยู่กันมาจนรู้ใจกัน”

“สุอยากให้อาจารย์ช่วยพูดกับแม่ให้หน่อยนะค่ะ ช่วยหน่อยได้ไหมนะคะ...รับปากสุหน่อย สุอยากตอบแทนบุญคุณของแม่..” สุนันทาระงับสติอารมณ์แล้วก็ออดอ้อน...

“ได้ไหมคะ”

“ถ้ามีโอกาสก็จะพูดให้ครับ...งั้นวันนี้ขอตัวก่อนนะ พอดี ไม่ได้เอาที่ชาร์ตแบตมาด้วย แบตจะหมดแล้ว..."

ตัดสายของสุนันทาแล้วเดชาพงษ์ก็ถอนหายใจเบา ๆ เพราะรู้สึกลำบากใจกับความรู้สึกของ สุนันทา...ทางเดียวที่จะทำให้สุนันทาคลายรักจากเขาได้ก็น่าจะเป็นการบอกตรง ๆ แต่สุนันทาก็ยังไม่ได้ล้ำเส้นเข้ามาจนน่าเกลียดแล้วเขาจะออกตัวไปก่อนได้อย่างไร...




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2555, 22:51:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2555, 22:51:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2156





<< 16.2 "เอารูปมาให้ด้วยอยากเห็นนางสีดาหน้าหมวยจะแย่อยู่แล้ว...”    17.2 “หนึ่งเป็นผู้หญิง หนึ่งก็ทำตัวสวย ๆ รอรับสายเขาอย่างเดียว..5555+” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 13 ส.ค. 2555, 22:52:37 น.
มาตอนดึก ๆ มาตอนที่คนอื่นเพลีย ๆ...อว๊ากกกกก...ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ....จุ๊บ ๆ


คิมหันตุ์ 13 ส.ค. 2555, 23:14:06 น.
กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยค่ะเปิดมาก็เจอ...^^


sai 13 ส.ค. 2555, 23:15:21 น.
ได้อ่านก่อนนอนเลย ขอบคุณนะคะ ^_______^


nateetip 13 ส.ค. 2555, 23:26:47 น.
มาดึกแค่ไหน ก็มีคนรออ่านค่ะ


konhin 14 ส.ค. 2555, 00:29:25 น.
ก็บอกไปว่าจีบหนูจินอยู่ดิ จะได้รู้ว่าไม่ได้แล ฮ่าๆๆ


wii 14 ส.ค. 2555, 05:21:11 น.
เป็นใคร ใครก็ทำอย่างสุกันทั้งนั้นเเหละ เเละก็สนับสนุนให้เเม่กลับไปอยู่กับสุเสียที จะใด้ไม่ต้องลำบากอีก


goldensun 14 ส.ค. 2555, 05:37:07 น.
ลำบากใจจริง อาจารย์ จะแกะสุออก คงต้องใช้ตัวช่วย ขอจินแต่งไปเลย


imsoul 14 ส.ค. 2555, 06:18:08 น.
เอาใจช่วยอาจารย์


แว่นใส 14 ส.ค. 2555, 08:23:41 น.
น่าสงสารจริง


nutcha 14 ส.ค. 2555, 08:44:56 น.
ปรึกษาว่าที่น้องเขยซิพี่ต้นกล้วย รับรองคะน้าช่วยเต็มที่เพราะไม่อยากนอนตะกายฝาแล้ว


Zephyr 14 ส.ค. 2555, 11:28:13 น.
เอาเถอะให้ป้าสไเนียงกลับไปดีมั้ย สองคนนี้จะได้ไม่ต้องเอาชนะกันอีก
เห็นแล้วเหนื่อยแทน เฮ้ออออออ


Orathai 15 ส.ค. 2555, 00:43:42 น.
สุนันนทาแกไม่ยอมแพ้แฮะ มีแรงฮึดขึ้นมาอีก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account