บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย
เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ
แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก
โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!
ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก
หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า
“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”
“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”
ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก
หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย
เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ
แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก
โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!
ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก
หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า
“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”
“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”
ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก
หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ ๕
ปัณณ์นั่งกุมขมับอยู่บนเตียง มองผู้หญิงร่างเล็กที่นอนขดตัวสั่นงันงกอยู่ข้างๆ ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอย่างไร จากประสบการณ์อันแสนโชกโชนเขาค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนแรกของสิมิลัน มายาวี
แต่...ผู้หญิงสมัยนี้ก็เล่นละครเก่งๆ ทั้งนั้น ยิ่งผู้หญิงคนนี้เป็นดาราฝีมือจัดจ้าน ขนาดสั่งน้ำตาให้ไหลได้ตามต้องการ ใครจะรู้เจ้าหล่อนอาจจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี สินค้าก็เลยยังไม่บอบช้ำมากนัก บวกกับการเล่นละครอีกนิดๆ หน่อยๆ ก็เหมือนสาวบริสุทธิ์แล้ว
ชายหนุ่มหยิบแพรเพลาะเนื้อนุ่มคลุมร่างเปลือยเปล่าให้อีกฝ่าย ภาพที่เธอกำผ้าห่มแน่นราวกับมันจะเป็นปราการคุ้มกันอะไรได้ ทั้งยังหันหลังให้เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ทำให้ปัณณ์นึกขัน
เคยคิดว่าสถานการณ์แบบนี้จะมีแต่ในละครเสียอีก ไม่คาดว่าวันหนึ่งจะได้เห็นฉากนี้ในชีวิตจริง มีด้วยเว้ยผู้หญิงที่ร้องไห้หลังมีเซ็กซ์!
นักแสดงหนุ่มซูเปอร์สตาร์แห่งยุคลุกขึ้นสวมเสื้อคลุม ออกจากห้องไปรินบรั่นดีจิบอย่างสบายอารมณ์
กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ที่เบื้องหลัง เขาจึงหันกลับมาแต้มยิ้มเอ็นดู เมื่อเห็นร่างบางที่ยืนอยู่ข้างประตูห้องนอนสะดุ้งโหยง ผวาสุดตัวพลางถอยกรูดโดยอัตโนมัติ ขณะดวงหน้าเล็กๆ นั้นก้มจนคางแทบชิดอก ไม่กล้าสบตาเขาแม้แต่นิดเดียว
“ไม่ต้องสวมบทนางเอกแล้วก็ได้ งานของคุณจบแล้ว”
ชายหนุ่มมองสภาพตัวสั่นงันงกเหมือนนกเปียกน้ำของสตรีตรงหน้าด้วยความพึงใจเป็นพิเศษ เขาเดินมาที่โต๊ะข้างโซฟา ดึงลิ้นชักหยิบกล่องกำมะหยี่ผอมเพรียวคล้ายกล่องปากกาขึ้นมา สีน้ำเงินสดของตัวกล่องตัดกับตัวอักษรย่อ AG สีทองวาววับอันเป็นสัญลักษณ์ของเพชรแอบโซลูตเจมส์ พร้อมกับดึงเงินปึกหนึ่งออกมาโยนไว้บนโต๊ะ
“โบนัส ผมเพิ่มให้เป็นพิเศษ” เขายิ้มแจ่มใส “ผมรับรองว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟังแน่นอน ส่วนเธอ...ถ้าอยากเอาไปเล่าให้ใครฟัง ผมก็ไม่ว่านะ ไม่ใช่ว่าคนอย่างเธอจะมีโอกาสได้นอนกับซูเปอร์สตาร์บ่อยๆ เสียเมื่อไหร่นี่เนอะ”
ดวงตาที่ชอกช้ำด้วยรอยน้ำตาแปรไปเป็นวาวจ้า ร่างเล็กแบบบางกระโจนพรวดเดียวเข้าถึงตัวปัณณ์ รัชนาถ พร้อมกับระดมทุบอีกฝ่ายอย่างแรง
“ไอ้สารเลว ไอ้คนชั่ว แกเอาเรื่องงานมาบังหน้า หลอกฉันมาข่มขืนแล้วยังมีหน้าเอาเงินฟาดหัวฉันอีกเหรอ”
ใช่แค่มือ...สิมิลันใช้เท้าทั้งเตะทั้งต่อยอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง จนปัณณ์ต้องยึดแขนเธอไว้ด้านหลัง รวบร่างนุ่มนิ่มเข้ามาใกล้จนเนินเนื้อนุ่มเบียดชิดแผงอกของเขา
“อย่าบอกนะว่านี่เป็นวิธีขอยกที่สองจากผมน่ะ” ปัณณ์ยิ้มกริ่มสีหน้ามีเลศนัย
และโดยไม่ทันคาดคิด สิมิลันก้มลงกัดท่อนแขนเขาที่ยึดข้อมือเธอไว้อย่างแรง
“โอ๊ย!” อุ้งมือแข็งแรงราวคีบเหล็กคลายออกทันควัน สิมิลันรวบรวมแรงกายและใจทั้งหมดที่มีกระทืบส้นรองเท้าลงบนหน้าเท้าเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม ปัณณ์ตัวงอทรุดลงไปกองกับพื้นทันที
“คอยดู! ฉันจะเอาแกเข้าคุกให้ได้ ไอ้พระเอกบ้ากาม ไอ้คนแก่ตัณหากลับ!”
สิมิลันคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาถือ เหลือบมองเงินปึกใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะและกล่องเครื่องเพชรอย่างชั่งใจ แล้วสุดท้ายตัดสินใจคว้ามันมายัดใส่กระเป๋า เดินไปที่ลิฟต์ เพียงกดปุ่มประตูก็เปิดออก ดวงตาวาวจ้าโกรธแค้นเหลือบมองร่างสูงกำยำที่พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นด้วยสายตาเกลียดชัง
“เดี๋ยว! สิมิลัน!” นั่นเป็นคำสุดท้ายที่เธอได้ยิน ประตูลิฟต์เลื่อนปิดลงช้าๆ ขณะสิมิลันทรุดลงไปกองกับพื้น น้ำตาไหลพราก
ปัณณ์ รัชนาถ ยันตัวกับพื้นเพื่อลุกขึ้นมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟาแทน ยายเด็กนั่นแสบไม่ใช่เล่น หน็อย...นี่คงจะกลัวเสียหน้าที่ทำอาชีพแบบนี้ ถึงต้องมากุเรื่องกล่าวหาว่าเขาขืนใจเจ้าหล่อนอย่างนี้
เจ้าของห้องคลำท่อนแขนที่เป็นจ้ำช้ำเลือดตามรอยฟันของหญิงสาวชัดเจน แล้วสำรวจร่องรอยเล็บที่อีกฝ่ายตะกุยจนเขาได้แผลไปทั้งเนื้อตัวอย่างหงุดหงิด
“บ้าชะมัด! พรุ่งนี้ต้องถ่ายฉากว่ายน้ำด้วย ยายบ้า!”
กระนั้นปัณณ์กลับส่ายหน้า เดินโขยกเขยกกลับไปรินเหล้าดื่มด้วยความครึ้มอกครึ้มใจดังเดิม
นาน...กว่าชายหนุ่มจะกลับเข้าไปในห้องนอน หยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ เสียงร้องเพลงดังหงุงหงิงลอยมาตามลมบอกอารมณ์ผาสุขของเจ้าตัวได้ดีที่สุด
ปัณณ์ออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น เขาเหลือบมองที่นอนว่างเปล่าข้างกาย แล้วล้มตัวลงนอน หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
แวบหนึ่งที่มือหนาไล้ไปตามผ้าปูนอนยับยู่ยี่ข้างกาย กรุ่นกลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่ลอยมากระทบฆานประสาทเย้ายวนชวนให้ทำจมูกฟุดฟิดแล้วก้มลงไปสูดกลิ่นนั้นจากหมอนที่วางอยู่ข้างๆ กันด้วยความพึงใจ
เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย
หอมอยู่ไม่รู้หาย เหมือนกลิ่นผ้าเจ้าตาตรู
ดวงตาคมเป็นประกายแจ่มใส ขณะใบหน้าแต้มยิ้มนิดๆ พึมพำเสียงเบา
“ปกติฉันไม่เคยเรียกใครซ้ำเป็นครั้งที่สองเลย แต่ถ้าเป็นเธอนะสิมิลัน บางที...คราวหน้าฉันอาจจะยอมละเมิดกฎของตัวเองสักครั้งก็ได้”
สิมิลันกระเซอะกระเซิงออกจากคอนโดมิเนียมหรูในสภาพที่แตกต่างจากตอนเข้าไปโดยสิ้นเชิง หญิงสาวออกจากลิฟต์วิ่งปรี่ไปนอกอาคาร แล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที ความรีบร้อนทำให้ไม่ทันเห็นว่าศิวัชยังคงจอดรถคอยอยู่ที่เดิม และเห็นทุกอิริยาบถของเธอรวมถึงท่าทีหวาดผวาและความเร่งร้อนเหล่านั้นเต็มตา
ตลอดเวลาที่อยู่บนแท็กซี่ หญิงสาวฝืนกลั้นรอยน้ำตาไว้ ด้วยไม่อยากให้เป็นพิรุธ หรือสร้างความสนใจแก่คนขับรถ มือที่กุมกันไว้ที่หน้าตักบิดแน่นเพื่อข่มความรู้สึก
สิมิลันไขกุญแจ โหย่งเท้าเข้าบ้านโดยไม่ให้เกิดเสียง ลงกลอนแน่นหนา แล้วคลำหาทางขึ้นห้องพักในความมืด ร่างแบบบางทิ้งตัวลงบนที่นอนขดตัวงอกอดเข่าไว้ซุกหน้าปล่อยน้ำตาให้พร่างลง เธอกัดริมฝีปากแน่นข่มเสียงสะอื้นมิให้เล็ดลอดออกมา ยิ่งนึกถึงคำพูดของปัณณ์ก็ยิ่งอดสูใจ เงินที่เขาโยนให้ยังอยู่ในกระเป๋า
เธอนึกอยากให้ตัวเองเป็นนางเอกละครเหลือเกิน จะได้วางท่ารักศักดิ์ศรีปาเงินปึกนั้นใส่หน้าเขาให้มันกระจายว่อนอยู่ในอากาศ
แต่สิมิลันก็ทำได้แค่คิด เพราะในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่เคยเป็นนางเอกไม่ว่าจะนอกจอหรือว่าในจอ เป็นได้แค่ตัวอิจฉาเท่านั้น และเธอก็ไม่มีศักดิ์ศรีเหลือเลยสักนิด การรับเงินและสายสร้อยของเขามาก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นโสเภณีนั่นแหละ
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉายซ้ำๆ ในความทรงจำ จนต้องหลับตาลงด้วยความร้าวราน อาการปวดตุบๆ ตามร่างกายโดยเฉพาะที่ส่วนบอบบาง และความร้อนผ่าวที่รุมอยู่ตามเนื้อตัวทำให้เธอหลับลงได้ในที่สุด...อย่างแสนทรมาน
ขณะเดียวกัน ภายนอกรั้วบ้าน ศิวัชขับตามแท็กซี่ซึ่งสิมิลันโดยสารมาห่างๆ จอดนิ่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน จนท้ายที่สุดก็ถอนหายใจ และเคลื่อนรถออกไปช้าๆ ด้วยความฉงนที่อัดแน่นเต็มหัวใจ
เสียงโทรศัพท์ประจำห้องที่ดังขึ้นในยามวิกาลปลุกปัณณ์ให้เอื้อมมาหยิบโทรศัพท์กดปุ่มรับสายทั้งที่ยังไม่ลืมตา เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ด้านล่างแนะนำตัว ก่อนรายงาน
“เพื่อนคุณปัณณ์ ‘อีกคน’ มาถึงแล้ว จะให้ส่งขึ้นไปตอนนี้เลยหรือเปล่าครับ”
ปัณณ์ขมวดคิ้วนิดๆ เอื้อมมาเปิดไฟหัวเตียงแล้วจึงออกคำสั่งผ่านโทรศัพท์ว่า “เรียกผู้หญิงคนนั้นมาพูดสายสิ”
คอยครู่เดียว เสียงแจ้วอ่อนหวานก็ดังมา “อินทุอรค่ะ คุณดาลัดส่งอินมาพบคุณที่นี่ ไหนคะคนที่จะพาอินขึ้นไปพบคุณ”
ชายหนุ่มซึ่งยังอยู่ในอารมณ์ชื่นบานถึงกับหัวเราะก้อง นึกชมดาลัดในใจที่ช่างขยันหาเรื่องประหลาดใจมาให้เขาซะจริง วันนี้ถึงกับส่งผู้หญิงสองคนมาให้เขาเลยทีเดียว
“ว่ายังไงล่ะคะคุณ อินรออยู่นะคะ” เสียงแจ้วที่กระบอกโทรศัพท์เรียกสติเขาอีกครั้ง
“กลับไปรับค่าเสียเวลาจากพี่ดานะ โทษทีวันนี้ผม ‘อิ่ม’ แล้ว”
ชายหนุ่มวางสายแล้วโทร.หาดาลัด ทางนั้นรับสายด้วยการ
“หาได้แล้วๆๆ ใจเย็นๆ สิยะคุณชาย พี่ให้อินออกไปพักใหญ่แล้ว อีกไม่เกินสิบนาทีน่าจะไปถึงที่โน่น”
“พี่ดาเข้าใจเล่นนะฮะ ผมจะโทร.มาบอกว่าคนที่พี่ส่งมาให้วันนี้น่าประทับใจมาก ไว้วันหลังผมอาจจะเรียกใช้บริการใหม่ อ้อ...ส่วนยายคนหลังที่เพิ่งมาถึงนั่นน่ะ ผมส่งกลับนะ พี่ดาจ่ายค่าเสียเวลาให้ด้วย”
ดาลัดถอนใจ “ปัณณ์กำลังพูดถึงอะไรกันแน่ คนแรกคนหลังอะไรกัน พี่ส่งอินทุอรไปให้คุณ ยายนั่นออกไปได้สักพักแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงไปถึงนี่ล่ะ”
ปัณณ์ชะงัก เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล “พี่หมายความว่าผู้หญิงที่ส่งมาวันนี้คืออินทุอรหรือฮะ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“แล้ว...อีกคนล่ะ”
“คนไหน ไม่มี” ดาลัดปฏิเสธเสียงสูง
“แน่ใจหรือ”
“ปัณณ์จะคาดคั้นให้ได้อะไรขึ้นมา ไม่มีเหตุผลอะไรที่พี่ต้องโกหกเธอหรอกนะ”
ปัณณ์วางสาย แล้วลูบหน้าแรงๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขามิได้กำลังฝันไป
ชายหนุ่มกุมขมับอย่างมึนงง ถ้าคนที่ดาลัดส่งมาให้เขาคืออินทุอร แล้วสิมิลันล่ะ ผู้หญิงคนนั้น...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
หรือว่า...
ปัณณ์อ้าปากค้าง น่าแปลกทุกบททุกตอนเมื่อครู่กลับมาเต้นเร่าอยู่ในความทรงจำได้ชัดเจนเหลือเชื่อ
‘อย่าค่ะ อย่าทำอย่างนี้กับตองเลยนะคะ’ เสียงห้ามปรามของเธอคล้ายยังดังอยู่ริมหูนี่เอง
โอ...คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วยเถิด!
ปัณณ์พยายามทบทวนความจำอย่างยากเย็น จำได้เลาๆ ว่าเธอห้ามปราม อ้อนวอน ขอร้องให้เขาหยุดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาคิดว่านั่นคือละครฉากใหญ่ที่สิมิลัน มายาวี เตรียมมาเพื่อเขาเสียอีก
มิคาด...เธอกำลังอ้อนวอนเขา มิให้ย่ำยีเธอต่างหาก!
ปัณณ์รู้สึกคล้ายโลกที่พื้นเขายุบลงไปเป็นเหวลึก ทั้งอากาศก็แทบไม่มีเหลือให้หายใจ
นี่เขาขืนใจผู้หญิงที่ไม่เต็มใจไปหรือนี่
ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือเขาเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของผู้หญิงคนนั้นเสียด้วย
จริงอยู่ว่าในช่วงหลังๆ เธอมิได้มีท่าทีแข็งขืน ทั้งยังออกจะเป็นไปในทางที่คล้ายจะให้ความร่วมมือด้วยซ้ำ แต่ลึกๆ แล้วปัณณ์รู้ดีว่านั่นเป็นเพราะชั้นเชิงเยี่ยงชายชาญของเขาต่างหากที่ก่อปฏิกิริยาทางกายของเธอจนพ่ายแพ้แก่ความต้องการตามธรรมชาติ ทว่าใจล่ะ...
ต่อให้ร่างกายตอบสนองเร่าร้อนเพียงใด แต่ถ้าเธอไม่ตกลงปลงใจด้วยตั้งแต่แรก อย่างไรเสีย...มันก็เข้าข่ายขืนใจไม่ต่างกันนั่นแหละ
ชายหนุ่มผ่านเมืองนอกเมืองนามาเยอะ เคยเห็นกฎหมายมามากพอที่จะรู้ดี ว่าการกระทำที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ จัดเข้าขั้นล่วงละเมิดทางเพศได้ทั้งสิ้น
แล้วสมัยนี้ ขนาดสามีบังคับภรรยาให้ร่วมหลับนอนด้วยโดยไม่เต็มใจ กฎหมายยังเอาผิดได้เลย
ประสาอะไรกับที่เขา ‘ร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง’ กับนางร้ายสุดเซ็กซี่ ซึ่งยัง ‘สาวแส้แร่รวยสวยสะอาด’ เสียด้วย
หากเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป ไม่ใช่แค่กฎหมายหรอกที่จะจัดการกับเขา แต่สังคมคงจะไม่เว้นโทษของเขาอย่างแน่นอน
ภาพสุดท้ายที่สิมิลัน มายาวี ซุกตัวกับผนังลิฟต์ทวนย้อนกลับมาให้ระลึกถึงโดยไม่ตั้งใจ ผมยาวรุ่ยรายเปียกแนบล้อมกรอบดวงหน้า ริมฝีปากเผือดซีดจนน่ากลัว ขณะดวงตาจนถึงจมูกแดงช้ำ
ปัณณ์เพิ่งรู้ว่ามันติดตาเขามากเหลือเกิน ไม่ว่าจะหลับตาลงกี่ครั้งก็เหมือนเธอยังอยู่ตรงหน้าเขาในสภาพบอบช้ำอย่างหนัก...
ไม่ใช่ทางกาย แต่เป็นทางใจ!
ทั้งมันยังเป็นภาพเดียวกับที่เปิดปากแผลในใจเขาออกอีกครั้ง เหตุการณ์ที่สตรีอีกผู้หนึ่งเดินหนีเขาไป มิไยที่เขาจะร้องเรียกอ้อนวอนเพียงใดก็ตาม
ปัณณ์สะบัดศีรษะแรงๆ จุดจ้ำเป็นรอยฟันกัดที่ท่อนแขนเริ่มปวดหนึบราวกับจะเรียกร้องความสนใจ รอยแปลบตามเนื้อตัวนั่นอีก และที่ร้ายที่สุดก็คือเสียงสะอื้นยังดังอยู่ริมหูจนปัณณ์ต้องสะบัดศีรษะไล่ทั้งภาพและเสียงนั้นให้จางหายไป ทั้งที่รู้ดีว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เกิดขึ้นจริงหรอก แต่เป็นจิตใต้สำนึกที่ตามหลอกหลอนเขาต่างหาก
ชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่บนที่นอนนิ่งๆ เกิดมาทั้งชีวิตจนอายุป่านนี้แล้ว แต่ปัณณ์ไม่เคยรู้สึกอับจนด้วยหนทางเช่นนี้มาก่อนเลย ความที่มั่นใจว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอมา ทำให้เขาโยนทุกความผิดไปให้สิมิลัน กล่าวโทษ...ที่เธอแต่งตัว ถ่ายภาพวาบหวิวพวกนั้น ใครก็ต้องคิดทั้งนั้นล่ะ ว่าเป็นผู้หญิงรักสนุก ทั้งยัง ‘ง่าย’ ที่ใครจะฉวยคว้ามาแนบกายเมื่อไรก็ได้
ดาลัดยังบอกเลยว่ายายคนนี้ ‘เงินมาผ้าหลุด’ แถมเจ้าหล่อนก็เจรจากับเขาเรื่องการซื้อขายนั่นจริงๆ อีกด้วย อย่างนี้แล้วจะมาโทษเขาได้อย่างไร
ชายหนุ่มชะงัก รีบคว้าฟางเส้นสุดท้ายที่ลอยมาตามสายน้ำเชี่ยวกรากไว้ทันควัน
จริงสินะ...เด็กนั่นรับเงินและเครื่องเพชรไปด้วย เห็นได้ชัดว่าเจ้าหล่อนตั้งใจขาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บเรื่องนี้มาคิดทบทวนอีกเลย
ถึงเขาจะล่วงเกินผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็รับค่าเสียหายไปแล้ว ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ได้นี่
ปัณณ์ยกทุกเหตุผลเท่าที่จะนึกออกมาขึ้นมารองรับกับการกระทำของตน โทษความชักช้าของดาลัด โทษสิมิลัน มายาวี ที่ทำให้เขาเข้าใจผิด โทษพนักงานข้างล่างที่ส่งยายนี่ขึ้นมาให้เขาได้อย่างไรก็ไม่รู้
เขากล่าวหาทุกคนรอบกาย ยกเว้นเพียงคนเดียว...ตัวเอง!
ร่างสูงเอนลงจะนอนอีกครั้ง ทว่าเพียงเห็นรอยยับยู่ของผ้าปูที่นอนข้างกาย ชายหนุ่มก็กลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ภาพของสิมิลันที่ร้องไห้ ห้ามปรามปรากฏขึ้นตรงโน้นตรงนี้ คล้ายตราประทับทั่วห้องไปหมด ปัณณ์พบว่าเขาทนอยู่ในห้องนั้นไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว
พระเอกหนุ่มผลุนผลันออกจากคอนโดมิเนียมทันที
เมื่อไร้ที่ไป แห่งแรกที่เขานึกถึงก็คือ...บ้าน
ค่ำคืนนั้นปัณณ์ไม่มีใครเป็นสาวข้างกายอย่างเคย ที่นอนกว้างใหญ่ในคฤหาสน์รัชนาถ...ว่างเปล่า มีแค่เขาเพียงลำพังกับเงาของความรู้สึกผิดที่เขาไม่ยอมรับว่ามีอยู่ เป็นเพื่อนร่วมเตียง
แต่...ผู้หญิงสมัยนี้ก็เล่นละครเก่งๆ ทั้งนั้น ยิ่งผู้หญิงคนนี้เป็นดาราฝีมือจัดจ้าน ขนาดสั่งน้ำตาให้ไหลได้ตามต้องการ ใครจะรู้เจ้าหล่อนอาจจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี สินค้าก็เลยยังไม่บอบช้ำมากนัก บวกกับการเล่นละครอีกนิดๆ หน่อยๆ ก็เหมือนสาวบริสุทธิ์แล้ว
ชายหนุ่มหยิบแพรเพลาะเนื้อนุ่มคลุมร่างเปลือยเปล่าให้อีกฝ่าย ภาพที่เธอกำผ้าห่มแน่นราวกับมันจะเป็นปราการคุ้มกันอะไรได้ ทั้งยังหันหลังให้เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ทำให้ปัณณ์นึกขัน
เคยคิดว่าสถานการณ์แบบนี้จะมีแต่ในละครเสียอีก ไม่คาดว่าวันหนึ่งจะได้เห็นฉากนี้ในชีวิตจริง มีด้วยเว้ยผู้หญิงที่ร้องไห้หลังมีเซ็กซ์!
นักแสดงหนุ่มซูเปอร์สตาร์แห่งยุคลุกขึ้นสวมเสื้อคลุม ออกจากห้องไปรินบรั่นดีจิบอย่างสบายอารมณ์
กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ที่เบื้องหลัง เขาจึงหันกลับมาแต้มยิ้มเอ็นดู เมื่อเห็นร่างบางที่ยืนอยู่ข้างประตูห้องนอนสะดุ้งโหยง ผวาสุดตัวพลางถอยกรูดโดยอัตโนมัติ ขณะดวงหน้าเล็กๆ นั้นก้มจนคางแทบชิดอก ไม่กล้าสบตาเขาแม้แต่นิดเดียว
“ไม่ต้องสวมบทนางเอกแล้วก็ได้ งานของคุณจบแล้ว”
ชายหนุ่มมองสภาพตัวสั่นงันงกเหมือนนกเปียกน้ำของสตรีตรงหน้าด้วยความพึงใจเป็นพิเศษ เขาเดินมาที่โต๊ะข้างโซฟา ดึงลิ้นชักหยิบกล่องกำมะหยี่ผอมเพรียวคล้ายกล่องปากกาขึ้นมา สีน้ำเงินสดของตัวกล่องตัดกับตัวอักษรย่อ AG สีทองวาววับอันเป็นสัญลักษณ์ของเพชรแอบโซลูตเจมส์ พร้อมกับดึงเงินปึกหนึ่งออกมาโยนไว้บนโต๊ะ
“โบนัส ผมเพิ่มให้เป็นพิเศษ” เขายิ้มแจ่มใส “ผมรับรองว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟังแน่นอน ส่วนเธอ...ถ้าอยากเอาไปเล่าให้ใครฟัง ผมก็ไม่ว่านะ ไม่ใช่ว่าคนอย่างเธอจะมีโอกาสได้นอนกับซูเปอร์สตาร์บ่อยๆ เสียเมื่อไหร่นี่เนอะ”
ดวงตาที่ชอกช้ำด้วยรอยน้ำตาแปรไปเป็นวาวจ้า ร่างเล็กแบบบางกระโจนพรวดเดียวเข้าถึงตัวปัณณ์ รัชนาถ พร้อมกับระดมทุบอีกฝ่ายอย่างแรง
“ไอ้สารเลว ไอ้คนชั่ว แกเอาเรื่องงานมาบังหน้า หลอกฉันมาข่มขืนแล้วยังมีหน้าเอาเงินฟาดหัวฉันอีกเหรอ”
ใช่แค่มือ...สิมิลันใช้เท้าทั้งเตะทั้งต่อยอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง จนปัณณ์ต้องยึดแขนเธอไว้ด้านหลัง รวบร่างนุ่มนิ่มเข้ามาใกล้จนเนินเนื้อนุ่มเบียดชิดแผงอกของเขา
“อย่าบอกนะว่านี่เป็นวิธีขอยกที่สองจากผมน่ะ” ปัณณ์ยิ้มกริ่มสีหน้ามีเลศนัย
และโดยไม่ทันคาดคิด สิมิลันก้มลงกัดท่อนแขนเขาที่ยึดข้อมือเธอไว้อย่างแรง
“โอ๊ย!” อุ้งมือแข็งแรงราวคีบเหล็กคลายออกทันควัน สิมิลันรวบรวมแรงกายและใจทั้งหมดที่มีกระทืบส้นรองเท้าลงบนหน้าเท้าเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม ปัณณ์ตัวงอทรุดลงไปกองกับพื้นทันที
“คอยดู! ฉันจะเอาแกเข้าคุกให้ได้ ไอ้พระเอกบ้ากาม ไอ้คนแก่ตัณหากลับ!”
สิมิลันคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาถือ เหลือบมองเงินปึกใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะและกล่องเครื่องเพชรอย่างชั่งใจ แล้วสุดท้ายตัดสินใจคว้ามันมายัดใส่กระเป๋า เดินไปที่ลิฟต์ เพียงกดปุ่มประตูก็เปิดออก ดวงตาวาวจ้าโกรธแค้นเหลือบมองร่างสูงกำยำที่พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นด้วยสายตาเกลียดชัง
“เดี๋ยว! สิมิลัน!” นั่นเป็นคำสุดท้ายที่เธอได้ยิน ประตูลิฟต์เลื่อนปิดลงช้าๆ ขณะสิมิลันทรุดลงไปกองกับพื้น น้ำตาไหลพราก
ปัณณ์ รัชนาถ ยันตัวกับพื้นเพื่อลุกขึ้นมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟาแทน ยายเด็กนั่นแสบไม่ใช่เล่น หน็อย...นี่คงจะกลัวเสียหน้าที่ทำอาชีพแบบนี้ ถึงต้องมากุเรื่องกล่าวหาว่าเขาขืนใจเจ้าหล่อนอย่างนี้
เจ้าของห้องคลำท่อนแขนที่เป็นจ้ำช้ำเลือดตามรอยฟันของหญิงสาวชัดเจน แล้วสำรวจร่องรอยเล็บที่อีกฝ่ายตะกุยจนเขาได้แผลไปทั้งเนื้อตัวอย่างหงุดหงิด
“บ้าชะมัด! พรุ่งนี้ต้องถ่ายฉากว่ายน้ำด้วย ยายบ้า!”
กระนั้นปัณณ์กลับส่ายหน้า เดินโขยกเขยกกลับไปรินเหล้าดื่มด้วยความครึ้มอกครึ้มใจดังเดิม
นาน...กว่าชายหนุ่มจะกลับเข้าไปในห้องนอน หยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ เสียงร้องเพลงดังหงุงหงิงลอยมาตามลมบอกอารมณ์ผาสุขของเจ้าตัวได้ดีที่สุด
ปัณณ์ออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น เขาเหลือบมองที่นอนว่างเปล่าข้างกาย แล้วล้มตัวลงนอน หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
แวบหนึ่งที่มือหนาไล้ไปตามผ้าปูนอนยับยู่ยี่ข้างกาย กรุ่นกลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่ลอยมากระทบฆานประสาทเย้ายวนชวนให้ทำจมูกฟุดฟิดแล้วก้มลงไปสูดกลิ่นนั้นจากหมอนที่วางอยู่ข้างๆ กันด้วยความพึงใจ
เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย
หอมอยู่ไม่รู้หาย เหมือนกลิ่นผ้าเจ้าตาตรู
ดวงตาคมเป็นประกายแจ่มใส ขณะใบหน้าแต้มยิ้มนิดๆ พึมพำเสียงเบา
“ปกติฉันไม่เคยเรียกใครซ้ำเป็นครั้งที่สองเลย แต่ถ้าเป็นเธอนะสิมิลัน บางที...คราวหน้าฉันอาจจะยอมละเมิดกฎของตัวเองสักครั้งก็ได้”
สิมิลันกระเซอะกระเซิงออกจากคอนโดมิเนียมหรูในสภาพที่แตกต่างจากตอนเข้าไปโดยสิ้นเชิง หญิงสาวออกจากลิฟต์วิ่งปรี่ไปนอกอาคาร แล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที ความรีบร้อนทำให้ไม่ทันเห็นว่าศิวัชยังคงจอดรถคอยอยู่ที่เดิม และเห็นทุกอิริยาบถของเธอรวมถึงท่าทีหวาดผวาและความเร่งร้อนเหล่านั้นเต็มตา
ตลอดเวลาที่อยู่บนแท็กซี่ หญิงสาวฝืนกลั้นรอยน้ำตาไว้ ด้วยไม่อยากให้เป็นพิรุธ หรือสร้างความสนใจแก่คนขับรถ มือที่กุมกันไว้ที่หน้าตักบิดแน่นเพื่อข่มความรู้สึก
สิมิลันไขกุญแจ โหย่งเท้าเข้าบ้านโดยไม่ให้เกิดเสียง ลงกลอนแน่นหนา แล้วคลำหาทางขึ้นห้องพักในความมืด ร่างแบบบางทิ้งตัวลงบนที่นอนขดตัวงอกอดเข่าไว้ซุกหน้าปล่อยน้ำตาให้พร่างลง เธอกัดริมฝีปากแน่นข่มเสียงสะอื้นมิให้เล็ดลอดออกมา ยิ่งนึกถึงคำพูดของปัณณ์ก็ยิ่งอดสูใจ เงินที่เขาโยนให้ยังอยู่ในกระเป๋า
เธอนึกอยากให้ตัวเองเป็นนางเอกละครเหลือเกิน จะได้วางท่ารักศักดิ์ศรีปาเงินปึกนั้นใส่หน้าเขาให้มันกระจายว่อนอยู่ในอากาศ
แต่สิมิลันก็ทำได้แค่คิด เพราะในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่เคยเป็นนางเอกไม่ว่าจะนอกจอหรือว่าในจอ เป็นได้แค่ตัวอิจฉาเท่านั้น และเธอก็ไม่มีศักดิ์ศรีเหลือเลยสักนิด การรับเงินและสายสร้อยของเขามาก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นโสเภณีนั่นแหละ
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉายซ้ำๆ ในความทรงจำ จนต้องหลับตาลงด้วยความร้าวราน อาการปวดตุบๆ ตามร่างกายโดยเฉพาะที่ส่วนบอบบาง และความร้อนผ่าวที่รุมอยู่ตามเนื้อตัวทำให้เธอหลับลงได้ในที่สุด...อย่างแสนทรมาน
ขณะเดียวกัน ภายนอกรั้วบ้าน ศิวัชขับตามแท็กซี่ซึ่งสิมิลันโดยสารมาห่างๆ จอดนิ่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน จนท้ายที่สุดก็ถอนหายใจ และเคลื่อนรถออกไปช้าๆ ด้วยความฉงนที่อัดแน่นเต็มหัวใจ
เสียงโทรศัพท์ประจำห้องที่ดังขึ้นในยามวิกาลปลุกปัณณ์ให้เอื้อมมาหยิบโทรศัพท์กดปุ่มรับสายทั้งที่ยังไม่ลืมตา เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ด้านล่างแนะนำตัว ก่อนรายงาน
“เพื่อนคุณปัณณ์ ‘อีกคน’ มาถึงแล้ว จะให้ส่งขึ้นไปตอนนี้เลยหรือเปล่าครับ”
ปัณณ์ขมวดคิ้วนิดๆ เอื้อมมาเปิดไฟหัวเตียงแล้วจึงออกคำสั่งผ่านโทรศัพท์ว่า “เรียกผู้หญิงคนนั้นมาพูดสายสิ”
คอยครู่เดียว เสียงแจ้วอ่อนหวานก็ดังมา “อินทุอรค่ะ คุณดาลัดส่งอินมาพบคุณที่นี่ ไหนคะคนที่จะพาอินขึ้นไปพบคุณ”
ชายหนุ่มซึ่งยังอยู่ในอารมณ์ชื่นบานถึงกับหัวเราะก้อง นึกชมดาลัดในใจที่ช่างขยันหาเรื่องประหลาดใจมาให้เขาซะจริง วันนี้ถึงกับส่งผู้หญิงสองคนมาให้เขาเลยทีเดียว
“ว่ายังไงล่ะคะคุณ อินรออยู่นะคะ” เสียงแจ้วที่กระบอกโทรศัพท์เรียกสติเขาอีกครั้ง
“กลับไปรับค่าเสียเวลาจากพี่ดานะ โทษทีวันนี้ผม ‘อิ่ม’ แล้ว”
ชายหนุ่มวางสายแล้วโทร.หาดาลัด ทางนั้นรับสายด้วยการ
“หาได้แล้วๆๆ ใจเย็นๆ สิยะคุณชาย พี่ให้อินออกไปพักใหญ่แล้ว อีกไม่เกินสิบนาทีน่าจะไปถึงที่โน่น”
“พี่ดาเข้าใจเล่นนะฮะ ผมจะโทร.มาบอกว่าคนที่พี่ส่งมาให้วันนี้น่าประทับใจมาก ไว้วันหลังผมอาจจะเรียกใช้บริการใหม่ อ้อ...ส่วนยายคนหลังที่เพิ่งมาถึงนั่นน่ะ ผมส่งกลับนะ พี่ดาจ่ายค่าเสียเวลาให้ด้วย”
ดาลัดถอนใจ “ปัณณ์กำลังพูดถึงอะไรกันแน่ คนแรกคนหลังอะไรกัน พี่ส่งอินทุอรไปให้คุณ ยายนั่นออกไปได้สักพักแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงไปถึงนี่ล่ะ”
ปัณณ์ชะงัก เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล “พี่หมายความว่าผู้หญิงที่ส่งมาวันนี้คืออินทุอรหรือฮะ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“แล้ว...อีกคนล่ะ”
“คนไหน ไม่มี” ดาลัดปฏิเสธเสียงสูง
“แน่ใจหรือ”
“ปัณณ์จะคาดคั้นให้ได้อะไรขึ้นมา ไม่มีเหตุผลอะไรที่พี่ต้องโกหกเธอหรอกนะ”
ปัณณ์วางสาย แล้วลูบหน้าแรงๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขามิได้กำลังฝันไป
ชายหนุ่มกุมขมับอย่างมึนงง ถ้าคนที่ดาลัดส่งมาให้เขาคืออินทุอร แล้วสิมิลันล่ะ ผู้หญิงคนนั้น...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
หรือว่า...
ปัณณ์อ้าปากค้าง น่าแปลกทุกบททุกตอนเมื่อครู่กลับมาเต้นเร่าอยู่ในความทรงจำได้ชัดเจนเหลือเชื่อ
‘อย่าค่ะ อย่าทำอย่างนี้กับตองเลยนะคะ’ เสียงห้ามปรามของเธอคล้ายยังดังอยู่ริมหูนี่เอง
โอ...คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วยเถิด!
ปัณณ์พยายามทบทวนความจำอย่างยากเย็น จำได้เลาๆ ว่าเธอห้ามปราม อ้อนวอน ขอร้องให้เขาหยุดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาคิดว่านั่นคือละครฉากใหญ่ที่สิมิลัน มายาวี เตรียมมาเพื่อเขาเสียอีก
มิคาด...เธอกำลังอ้อนวอนเขา มิให้ย่ำยีเธอต่างหาก!
ปัณณ์รู้สึกคล้ายโลกที่พื้นเขายุบลงไปเป็นเหวลึก ทั้งอากาศก็แทบไม่มีเหลือให้หายใจ
นี่เขาขืนใจผู้หญิงที่ไม่เต็มใจไปหรือนี่
ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือเขาเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของผู้หญิงคนนั้นเสียด้วย
จริงอยู่ว่าในช่วงหลังๆ เธอมิได้มีท่าทีแข็งขืน ทั้งยังออกจะเป็นไปในทางที่คล้ายจะให้ความร่วมมือด้วยซ้ำ แต่ลึกๆ แล้วปัณณ์รู้ดีว่านั่นเป็นเพราะชั้นเชิงเยี่ยงชายชาญของเขาต่างหากที่ก่อปฏิกิริยาทางกายของเธอจนพ่ายแพ้แก่ความต้องการตามธรรมชาติ ทว่าใจล่ะ...
ต่อให้ร่างกายตอบสนองเร่าร้อนเพียงใด แต่ถ้าเธอไม่ตกลงปลงใจด้วยตั้งแต่แรก อย่างไรเสีย...มันก็เข้าข่ายขืนใจไม่ต่างกันนั่นแหละ
ชายหนุ่มผ่านเมืองนอกเมืองนามาเยอะ เคยเห็นกฎหมายมามากพอที่จะรู้ดี ว่าการกระทำที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ จัดเข้าขั้นล่วงละเมิดทางเพศได้ทั้งสิ้น
แล้วสมัยนี้ ขนาดสามีบังคับภรรยาให้ร่วมหลับนอนด้วยโดยไม่เต็มใจ กฎหมายยังเอาผิดได้เลย
ประสาอะไรกับที่เขา ‘ร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง’ กับนางร้ายสุดเซ็กซี่ ซึ่งยัง ‘สาวแส้แร่รวยสวยสะอาด’ เสียด้วย
หากเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป ไม่ใช่แค่กฎหมายหรอกที่จะจัดการกับเขา แต่สังคมคงจะไม่เว้นโทษของเขาอย่างแน่นอน
ภาพสุดท้ายที่สิมิลัน มายาวี ซุกตัวกับผนังลิฟต์ทวนย้อนกลับมาให้ระลึกถึงโดยไม่ตั้งใจ ผมยาวรุ่ยรายเปียกแนบล้อมกรอบดวงหน้า ริมฝีปากเผือดซีดจนน่ากลัว ขณะดวงตาจนถึงจมูกแดงช้ำ
ปัณณ์เพิ่งรู้ว่ามันติดตาเขามากเหลือเกิน ไม่ว่าจะหลับตาลงกี่ครั้งก็เหมือนเธอยังอยู่ตรงหน้าเขาในสภาพบอบช้ำอย่างหนัก...
ไม่ใช่ทางกาย แต่เป็นทางใจ!
ทั้งมันยังเป็นภาพเดียวกับที่เปิดปากแผลในใจเขาออกอีกครั้ง เหตุการณ์ที่สตรีอีกผู้หนึ่งเดินหนีเขาไป มิไยที่เขาจะร้องเรียกอ้อนวอนเพียงใดก็ตาม
ปัณณ์สะบัดศีรษะแรงๆ จุดจ้ำเป็นรอยฟันกัดที่ท่อนแขนเริ่มปวดหนึบราวกับจะเรียกร้องความสนใจ รอยแปลบตามเนื้อตัวนั่นอีก และที่ร้ายที่สุดก็คือเสียงสะอื้นยังดังอยู่ริมหูจนปัณณ์ต้องสะบัดศีรษะไล่ทั้งภาพและเสียงนั้นให้จางหายไป ทั้งที่รู้ดีว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เกิดขึ้นจริงหรอก แต่เป็นจิตใต้สำนึกที่ตามหลอกหลอนเขาต่างหาก
ชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่บนที่นอนนิ่งๆ เกิดมาทั้งชีวิตจนอายุป่านนี้แล้ว แต่ปัณณ์ไม่เคยรู้สึกอับจนด้วยหนทางเช่นนี้มาก่อนเลย ความที่มั่นใจว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอมา ทำให้เขาโยนทุกความผิดไปให้สิมิลัน กล่าวโทษ...ที่เธอแต่งตัว ถ่ายภาพวาบหวิวพวกนั้น ใครก็ต้องคิดทั้งนั้นล่ะ ว่าเป็นผู้หญิงรักสนุก ทั้งยัง ‘ง่าย’ ที่ใครจะฉวยคว้ามาแนบกายเมื่อไรก็ได้
ดาลัดยังบอกเลยว่ายายคนนี้ ‘เงินมาผ้าหลุด’ แถมเจ้าหล่อนก็เจรจากับเขาเรื่องการซื้อขายนั่นจริงๆ อีกด้วย อย่างนี้แล้วจะมาโทษเขาได้อย่างไร
ชายหนุ่มชะงัก รีบคว้าฟางเส้นสุดท้ายที่ลอยมาตามสายน้ำเชี่ยวกรากไว้ทันควัน
จริงสินะ...เด็กนั่นรับเงินและเครื่องเพชรไปด้วย เห็นได้ชัดว่าเจ้าหล่อนตั้งใจขาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บเรื่องนี้มาคิดทบทวนอีกเลย
ถึงเขาจะล่วงเกินผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็รับค่าเสียหายไปแล้ว ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ได้นี่
ปัณณ์ยกทุกเหตุผลเท่าที่จะนึกออกมาขึ้นมารองรับกับการกระทำของตน โทษความชักช้าของดาลัด โทษสิมิลัน มายาวี ที่ทำให้เขาเข้าใจผิด โทษพนักงานข้างล่างที่ส่งยายนี่ขึ้นมาให้เขาได้อย่างไรก็ไม่รู้
เขากล่าวหาทุกคนรอบกาย ยกเว้นเพียงคนเดียว...ตัวเอง!
ร่างสูงเอนลงจะนอนอีกครั้ง ทว่าเพียงเห็นรอยยับยู่ของผ้าปูที่นอนข้างกาย ชายหนุ่มก็กลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ภาพของสิมิลันที่ร้องไห้ ห้ามปรามปรากฏขึ้นตรงโน้นตรงนี้ คล้ายตราประทับทั่วห้องไปหมด ปัณณ์พบว่าเขาทนอยู่ในห้องนั้นไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว
พระเอกหนุ่มผลุนผลันออกจากคอนโดมิเนียมทันที
เมื่อไร้ที่ไป แห่งแรกที่เขานึกถึงก็คือ...บ้าน
ค่ำคืนนั้นปัณณ์ไม่มีใครเป็นสาวข้างกายอย่างเคย ที่นอนกว้างใหญ่ในคฤหาสน์รัชนาถ...ว่างเปล่า มีแค่เขาเพียงลำพังกับเงาของความรู้สึกผิดที่เขาไม่ยอมรับว่ามีอยู่ เป็นเพื่อนร่วมเตียง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ส.ค. 2555, 13:40:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ส.ค. 2555, 13:53:24 น.
จำนวนการเข้าชม : 2398
<< ตอนที่ ๔ | ตอนที่ ๖ >> |

สิริณ 17 ส.ค. 2555, 14:04:01 น.
อ่านจบแล้ว หากไม่ถึงกับรบกวนกันเกินไป
ขอแรงกดไล้ค์คนละจึ๊กด้วยได้ไหมค้า
สิริณอยากได้กำลังใจค่ะ ช่วงนี้ต้องการด่วน (อ้อนๆๆๆๆๆ ^____^)
อ่านจบแล้ว หากไม่ถึงกับรบกวนกันเกินไป
ขอแรงกดไล้ค์คนละจึ๊กด้วยได้ไหมค้า
สิริณอยากได้กำลังใจค่ะ ช่วงนี้ต้องการด่วน (อ้อนๆๆๆๆๆ ^____^)

minafiba 17 ส.ค. 2555, 14:26:44 น.
ได้เลย จัดให้
ได้เลย จัดให้

แล่นแต๊ 17 ส.ค. 2555, 17:33:44 น.
ทำไมนิสัยอย่างนี้!!นายปัณณ์
ทำไมนิสัยอย่างนี้!!นายปัณณ์

nunoi 17 ส.ค. 2555, 18:58:11 น.
พระเอกฉัน แย่จัง
พระเอกฉัน แย่จัง

พันธุ์แตงกวา 17 ส.ค. 2555, 20:38:59 น.
แหม น่าจะโดนอีกสักหมัด
แหม น่าจะโดนอีกสักหมัด

wane 17 ส.ค. 2555, 23:45:02 น.
นายปัณณ์นิสัยอย่างแย่
นายปัณณ์นิสัยอย่างแย่