ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 21.1 “ถ้าหนึ่งพี่มีเอกคนเดียว พี่เอกก็จะมีหนึ่งคนเดียว...”

บทที่ 21

“เป็นคนนครสวรรค์ เกิดที่นครสวรรค์ เป็นคนไทยเชื้อสายจีน กำลังจะกลับมาจากต่างประเทศ”

คำทำนายสามสี่ข้อจากปากเมขลาทำให้จรินนาที่เดินกลับมานั่งอยู่ในรถของตัวเองแล้วนึกถึงดวงตาของเดชาพงษ์ยามที่มองเธอในวันที่พบกันครั้งแรก...เธอยอมรับว่าพอสบกับตาคู่นั้นของเขา...ความรู้สึกหวั่นไหวมันเกิดขึ้นอย่างรุนแรง...แต่ทีท่านิ่ง ๆ ดูไม่หลงใหลในความงามของเธออย่างที่มันควรจะเป็นกับความขัดแย้งกันทำความคิดทำให้เธอไม่นึกสนใจเขาเช่นกัน แต่ว่าพรหมก็ได้ลิขิตให้เขากับเธอมีเรื่องต้องสานความสัมพันธ์กันจนตอนนี้ใจของเธอเผลอรับเขาเข้ามาเสียเต็มเปี่ยม...

น้ำเสียงนั้นช่างคุ้นเคยกันเหลือเกิน...ฟังครั้งใดเธอจะเพลิดเพลินแล้วรู้สึกว่าความร้อนรุ่มซึ่งเป็นเจ้าเรือนอยู่ในใจนั้นหายไป..มองย้อนกลับไป เขานั้นไม่มีใช่ผู้ชายตามสเป็คของเธออย่างพี่วิษณุจักรเสียด้วยซ้ำ แต่ตัวของเขาก็มีเหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลซึ่งบัดนี้เธอเพิ่งรู้ว่ามันคือ สายใยรักข้ามภพข้ามชาติมา...ที่เรียกว่า ‘เนื้อคู่’ ที่แม้ว่าจะอยู่แสนไกลแค่ไหนก็ต้องกลับมาเจอกัน ต้องมาพบกันและครองรักกันอยู่กินด้วยกันที่สุด...

“อีตาบ้า รู้เรื่องทุกอย่างนี่เอง ถึงได้ทำตัวเหมือนไม่สนใจเรา”...ขับรถไปพลางทุบพวงมาลัยครุ่นคิดหาทางแก้ลำเขาไปพลาง แล้วโทรศัพท์ของจรินนาก็ดึงขึ้น...หญิงสาวเหลือบไปมองโทรศัพท์ที่วางไว้ที่เบาะด้านข้าง พอเห็นชื่อของเขา จรินนาก็ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นกระทั่งสายเงียบไป...

จรินนาครุ่นคิดว่าป่านนี้ยายหนูนาคงจะโทรรายงานพี่ชายเรื่องนี้แล้วแน่ ๆ...เขาถึงได้โทรมา แล้วจะโทรมาทำไมละ...จรินนาที่ยังไม่อยากกลับบ้านอย่างที่ปากว่าไว้ก็จอดรถชิดข้างทางก่อนจะโทรกลับไปหาเขา

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับคุณจิน”

“ทางการจังเลย”

“แล้วจะให้ผมบอกว่าอย่างไรละ...ดีคร้าบคุณจิน แบบนั้นเหรอ”

“บอกว่า คิดถึงจังเลย ไปเลยดีกว่าไหม”

“เอาอย่างนั้นเลยนะ”

“มีอะไรคะ กำลังขับรถอยู่” ทั้งที่จอดรถชิดริมฟุตบาทแต่จรินนาก็ปดไปเสียอย่างนั้น

“คิดถึงจังเลยครับ”

พอเขาพูดมาแบบนี้ใบหน้าของจรินนาก็มีเลือดฝาดขึ้นมาทันที

“เอาอย่างนั้นเลยนะ” จรินนายืมคำพูดของเขามาใช้บ้าง

“คิดถึงคุณจินจริง ๆ ครับ...”

“ขอบคุณค่ะ” เมื่อตั้งสติได้จรินนาทำเสียงเป็นงานเป็นการมากขึ้น เรื่องที่จะให้เธอเผยความรู้สึกออกไปก่อนเห็นทีจะไม่มีทางอีกแล้ว ถ้าชีวิตเธอกับเขาจะต้องลงเอยด้วยการแต่งงานกันตามคำทำนายหรือตามที่ป๊าไปดูดวงมาว่า ‘ไม่ชง’ เขาจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นเท่านั้น

“เงียบไปเลย หรือว่าไม่อยากได้ยินครับ”

อยากได้ยิน ได้ยินแล้วขนลุก เลือดลมสูบฉีด ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ..แต่ว่าจรินนานั้นปฏิภาณไหวพริบไม่เป็นสองลองใคร เรื่องที่จะคล้อยตามในทันทีเห็นจะไม่ใช่คุณหนูอย่างเธอแน่ ๆ จรินนาจึงตั้งคำถามกลับไปเสีย

“ทำอะไรอยู่คะ”

“ก็บอกว่ากำลังคิดถึงคุณจิน” เขายังรุกเร้าไม่เลิก...

“ทำไมต้องคิดถึง”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ...อยู่ ๆ ก็คิดถึง จนทำงานทำการอะไรไม่ได้เลย...”

จรินนาเงียบฟังไม่ต่อปากต่อคำ อยากจะดูว่าเขาจะพูดอะไรต่อ... และเขาก็พูดได้ยืดยาวกว่าที่หญิงสาวคิดไว้...ซึ่งยิ่งพูดก็ทำให้จรินนายิ่งเขิน ดีแต่ว่าไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา “ผมก็เลยตัดสินใจไม่เก็บความคิดถึงไว้กับตัวเองดีกว่า โทรหาคุณจินซะเลย อีกอย่าง คุณจินเคยบอกว่าเหงา ๆ อยู่ ๆ เหมือนกัน...เงียบไปเลย...หลับหรือเปล่า”

“ไม่ได้หลับค่ะ ฟังอยู่...”

“ว่างทานข้าวเย็นกับผมสักมื้อไหมครับ”

“จินเพิ่งอิ่ม..”

“นี่เพิ่งบ่ายสี่โมง... ค่ำ ๆ ก็ได้ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณจิน”

“ชวนป๊าไปด้วยได้ไหมคะ”

“ผมอยากคุยกับคุณจินสองคน”

“วันนี้รับนัดพี่เอกไว้แล้วค่ะ เอาไว้วันหลังดีกว่า” ใจจริงจรินนาก็อยากจะพบกับเขาใจจะขาด แต่ คนอย่างจรินนาจะไม่ยอมจนมุมเขาง่าย ๆ ดังนั้นจึงต้องหาข้ออ้าง..และอยากจะดูว่าเขาตื้อเธอต่อไปอย่างไร

“พรุ่งนี้ละครับ วันอาทิตย์ผมไม่ได้ไปไหน”

“ไม่ทำงานเหรอคะ เห็นว่ายุ่ง ๆ”

“ก็ผมก็บอกแล้วว่า สมาธิมันเสียจนทำงานทำการไม่ได้”

“จินนี่ไม่ดีเลยนะ เป็นต้นเหตุให้พี่กล้วยเสียเวลาทำงานทำการ”

“นั่นนะซิ...ตกลงพรุ่งนี้ผมไปรับที่หน้าบ้านนะ ตอนสิบโมงเช้า ไปกินกุ้งเผากัน ร้านกุ้งเผาข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงไปตรงซ้ายมือนะครับ...ไปนะครับ เคยเห็นร้านนี้ไหม”

“แพงนะ โลละตั้งเกือบพัน”

“นาน ๆ กินที ไม่เป็นไรหรอก”

“จินแกะกุ้งไม่เป็น”

“ผมแกะให้ครับ”

“ไม่กลัวบาปเหรอคะ ว่ายน้ำไปมา ๆ แล้วก็ชี้นิ้วให้เขาเอามาฆ่า”

“นั่นซิเนอะ หรือจะเอาแบบที่มันมรณภาพไปแล้วดี มีร้านไหนบ้างนะที่กุ้งมันมรณภาพไปแล้ว”

“บ้า มรณภาพใช้กับพระ”...

“อ้าว...ก็คุณจินพูดมาก่อนว่ากลัวบาป ผมก็เลยใช้ภาษาไทยตามหลักของพระพุทธศาสนาไป”

จรินนายิ้มจนหน้าตึง..แต่ด้วยอยากจะป่วนจิตใจเขาต่อ หญิงสาวจึงต้องบอกว่า “งั้นพรุ่งนี้เช้าจินให้คำตอบแล้วกันนะคะ ต้องถามป๊าก่อนว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า...ส่วนวันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ...”

“คิดถึงนะครับ...”

จรินนาตัดสัญญาณโทรศัพท์ทันทีแต่ถึงกระนั้นก็ได้ยินประโยคสุดท้ายของเขา และหญิงสาวก็พึมพำเบา ๆ ว่า “อีตาบ้านี่คารมสุดยอดเหมือนกัน ไปฝึกวิชาจีบสาวมาจากไหนละเนี่ย”

---------------------

“ถึงนครสวรรค์หรือยัง”

“ถึงนานนมแล้ว”

“ไม่ใช่ พี่ถามว่าขึ้นสวรรค์ไปหรือยัง”

“บ้า..จะรีบขึ้นไปไหนล่ะ ยังหัววันอยู่เลย”

“จะทุ่มหนึ่งแล้วนะ ชักช้าจริงวุ้ย”

“ใจเย็น ๆ เห็นสวรรค์รำไร ๆ อยู่...”

“กินยาคุมด้วยนะ ท้องไส้ขึ้นมาจะลำบาก”

“ลืมพกมาด้วยทำไงดี”

“ถามเขาซิ ให้เขาไปซื้อยังทัน แต่มันก็มีวิธีคุมกำเนิดแบบอื่นนะ”

นาทีที่นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสารบนรถของเอกรินทร์พิมพ์ข้อความโต้ตอบกับหิรัญญาทางโทรศัพท์มือถือด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จนกระทั่งคนขับรถที่เพิ่งพาเขากลับจากเที่ยวชมเมืองนครสวรรค์จากมุมสูง คือบนยอดเขาดาวดึงส์ที่มีพระจุฬามณีเจดีย์ตั้งคู่กับหอชมเมือง ต้องเอ่ยปากเตือน

“ถ้าจะมาหาพี่เอกเพื่อคุยกับคนอื่น พี่เอกส่งกลับ กทม.ก็ได้นะ”

นาทีหันไปมองหน้าเขา ยิมบาง ๆ แบบสำนึกผิดก่อนจะพิมพ์ตอบหิรัญญาไปว่า

“แค่นี้ก่อนนะ ได้เวลาแล้ว” ขณะที่พิมพ์ข้อความนาทีก็อธิบายให้เอกรินทร์เข้าใจไปด้วยว่า “คุยกับพี่ญาน่ะ เขาแหย่หนึ่งตามประสาคนคุยสนุก”

“แหย่ว่าอะไร”

“แกถามหนึ่งว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ แกจะได้เตรียมเงินใส่ซองช่วยงานใช้หนี้คืนให้”

“เอาอย่างนั้นเลยนะ”

“เล่นกันขำ ๆ”

“แต่งแบบง่าย ๆ ได้ไหม”

นาทีที่มองข้างทางหันไปมองหน้าคนขับรถทันที...และยิ่งอยู่ด้วยกันตามลำพังนานเท่าไหร่นาทีก็รู้สึกว่าไฟในดวงตาของเขาก็โชนแสงให้เห็นมากขึ้นเท่านั้น

“ใต้แสงจันทร์สองคนอะไรแบบนี้”

“เอาท์ดอร์เหรอ”

เอกรินทร์หัวเราะเบา ๆ ทั้งสองยังคุยหยอกเอินกันกระทั่งรถถึงโรงแรมที่ดีที่สุดของเมืองนี้ที่เอกรินทร์จองไว้ เขาเดินนำนาทีที่มีกระเป๋าเป้ติดมาด้วยเข้าไปยังล็อบบี้ หลังจากได้กุญแจห้องมาแล้วเขาก็พาไปที่ลิฟท์ ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์เพียงสองคนนาทีก็เอ่ยถามเขาว่า

“คืนนี้พี่เอกจะนอนค้างกับหนึ่งหรือเปล่า”

“หนึ่งอยากให้ค้างหรือเปล่าละ”

“ถ้าพี่เอกจะไม่กลับไปนอนที่บ้าน แม่พี่จะไม่ว่าเอาเหรอ”

“ก็คงมีปัญหาบ้าง”

“แล้วพี่จะอ้างกับแม่พี่ว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าปกติก็ออกมานอนนอกบ้านบ่อย ๆ”

“ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอก ครั้งนี้ครั้งแรกเลย”

“ปกติก็เปิดห้องชั่วคราว”

พอถูกหยอกแบบคนขี้หึงขี้ระแวงเอกรินทร์จึงขึงตาคาดโทษให้ ซึ่งนาทีก็รู้ตัวดีว่า นี่เป็นข้อเสียของตนที่ได้เคยบอกเล่าให้เขารับรู้ไปแล้วว่า ทำไมคนที่เคยคบกันมาถึงต้องมีอันจากกันไป...และพอเห็นว่า เอกรินทร์มีปฏิกิริยากับคำถามงี้เง่านั้น นาทีก็เปลี่ยนคำถามเสียใหม่

“แล้วเสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามา”

“ก็ตอนนอนมันไม่ต้องใส่เสื้อผ้านี่...พรุ่งนี้ใส่ซ้ำก็ได้”

และเมื่อพากันเดินเข้าห้องพักมาแล้ว นาทีวางกระเป๋าที่โต๊ะกลมหน้าเตียงก่อนจะเดินไปยืนมองวิวของเมืองผ่านหน้าต่างกระจก...เอกรินทร์เข้าห้องน้ำอึดใจใหญ่ๆ เขาก็เดินออกมาหยุดอยู่ข้างหลังชนิดที่หน้าอกของเขาประชิดกับแผ่นหลังกว้างของนาที...

นาทียืนนิ่งใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ...และพอเขาใช้ลมหายใจร้อน ๆ รินรดไปที่บริเวณต้นคอนาทีก็ขนลุกเกรียวขึ้นมา... “หนึ่งตัวหอมจังเลย”

“เหม็นเหงื่อจะแย่แล้ว ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” นาทีโยกตัวหลบปลายจมูกของเขาแต่ว่าเขาใช้แขนกำยำรวบร่างสูงเสมอกันของนาทีไว้จนแนบแน่น...

“ขอพี่ชื่นใจหน่อย” ปลายจมูกแหลมของเขาฉกฉวยชอนไชดูดซับความหอมหวานจากเรือนกายของนาที แต่นาทีก็ต้องดิ้นรนห้ามปรามไปตามบทบาทที่ตั้งใจไว้...นั่นก็คือจะต้องเล่นตัวพอเป็นพิธี..แต่เมื่อเขารุกหนักขึ้น ๆ ไฟราคะที่ถูกขี้เถาถมไว้ก็เหมือนมีลมแรง ๆ พัดพาขี้เถ้าไปและลมแรง ๆ อีกลูกก็หอบเชื้อไฟกองใหญ่เข้ามา...



“เปิดโทรศัพท์แล้วแม่ต้องโทรเข้ามาแน่ ๆ ดีไม่ดีคืนนี้พี่อาจจะต้องกลับไปนอนที่บ้านนะ”

“ไหนเมื่อกี้บอกว่าจะอยู่กับหนึ่งทั้งคืน..พูดแล้วห้ามคืนคำด้วย”

“พี่ค้างด้วยได้ แต่ปัญหาตามมายาวแน่ ๆ เลย”

“พอได้หนึ่งแล้ว ปัญหานั่นนี่ ก็เริ่มมาเชียว” ใบหน้าของนาทีเริ่มงอง้ำ เขาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เอกรินทร์ก็เลยต้องยกศีรษะใช้ปากบางสัมผัสริมฝีปากของนาทีเพื่อปลอบใจ...ปลายลิ้นสีชมพูของทั้งคู่แตะกันเบา ๆ แล้วนาทีก็ผละหน้าหนี

“ค้างกับหนึ่งนะ ห้ามกลับบ้าน สัญญากับหนึ่งแล้วนะ”

“ใช่ว่าพี่ไม่อยากอยู่ แต่ถ้าไม่กลับเป็นเรื่องแน่ ๆ...หนึ่งต้องเข้าใจพี่ซิ”

พูดยังไม่ทันขาดคำโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งเปิดเครื่องหลังจากที่ออกจากห้องน้ำแล้ววางไว้ที่เคาน์เตอร์หน้ากระจกก็ดังขึ้น นาทีที่นุ่งผ้าเช็ดตัวนอนเกยทับร่างของเอกรินทร์ที่เปลือยเปล่าอยู่พลิกตัวนอนหงายเพื่อให้เขาลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์....

“อยู่ไหนละเอก แม่โทรหาตั้งแต่ตอนหัวค่ำ ทำไมไม่รับสาย”

“อยู่...อยู่ เอ่อ แม่มีอะไรเหรอครับ” เอกรินทร์ยืนหันหลังโชว์หุ่นที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อให้นาทีนอนมองด้วยใจ ตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ นาทีกลัวเหลือเกินว่าพอตกเป็นของเขาไปแล้ว วิมานสีชมพูที่กำลังเป็นอยู่จะกลายเป็นวิมานสีดำอย่างที่เคยประสบมา...และคำพูดคำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนจะพาตนเองท่องสรวงสวรรค์ก็เป็นเพียงลมปากของผู้ชายที่หวังเพียงปลดเปลื้องกามารมณ์

“ทำไมไม่กลับบ้านสักที นี่มันห้าทุ่มหกทุ่มแล้วนะ”

“แล้วแม่จะรอทำไมละครับ ผมว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ”

“เหลวไหลใหญ่แล้วนะ”

“พรุ่งนี้วันหยุดผมนะครับ ขอเวลาเป็นส่วนตัวให้ผมบ้าง”

“เมื่อเย็นนี้มีคนเห็นเอกบนยอดเขากับเพื่อนผู้ชาย... ใครที่ไหนเหรอ” ผู้เป็นมารดาตัดบทถามเรื่องที่อยากรู้ทันที...

“เพื่อนผมมาจากกรุงเทพฯครับ”

“ใคร?”

“เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยครับแม่ เขาเพิ่งรู้ว่าเอกกลับมาจากเมืองนอก ก็เลยมาหา...”

“แล้วทำไมไม่พาเข้าบ้าน ทำไมไม่พามานอนที่บ้าน”

“พักโรงแรมสะดวกกว่าครับ...”

“พามาบ้านซิ แม่จะได้รู้จักไว้”

“ครับ...” ลูกชายรับปากไปอย่างนั้นเอง

“แล้วนี่จะกลับมาค้างที่บ้านหรือเปล่า”

“ไม่กลับดีกว่าครับ..”

“เอ๊ะ อย่างไร บ้านช่องมี ทำไมไม่กลับมานอน จะไปนอนโรงแรมทำไม คนอื่นรู้เห็นเอาไปนินทาตายเลย” ผู้เป็นมารดาใช้อำนาจของตน และลูกชายก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะบอกว่า

“ผมเป็นผู้ชายนะครับจะเสียหายอะไร”

“ถามได้...” เหมือนว่าแมจะรู้แต่ก็ไม่ยอมพูดออกมาตรง ๆ

“สรุปว่าคืนนี้ผมไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านนะครับแม่ พรุ่งนี้หลังเที่ยงถึงกลับ แม่ไม่ต้องห่วงผมนะครับ”

วางสายจากมารดาแล้วเอกรินทร์เดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเตียง นาทีที่มุดตัวไปนอนอยู่ใต้ผ้าห่มในช่วงที่เขาโทรศัพท์สบตารียาวของเขา...

“หนึ่งคิดว่าจะต้องนอนคนเดียวซะแล้ว”

“แล้วถ้าพี่กลับไปนอนที่บ้านหนึ่งจะโกรธพี่ไหม”

“หนึ่งก็คงจะไม่มานครสวรรค์อีก” นาทีบอกเขาไปพร้อมกับน้ำตาที่คลอหน่วยตาขึ้นมา...และ เอกรินทร์ต้องหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะบอกว่า “ก็พี่เอกสัญญาไว้แล้วว่าจะนอนด้วยก็ต้องรักษาสัญญา”

“แล้วสัญญาว่าจะมีหนึ่งคนเดียวหรือเปล่า”

“ถ้าหนึ่งพี่มีเอกคนเดียว พี่เอกก็จะมีหนึ่งคนเดียว...”

พอเอกรินทร์บอกอย่างนั้นนาทีก็ดึงแขนออกมาจากผ้าห่มแล้วชูนิ้วก้อยเอาสัญญาจากเขา เอกรินทร์ส่ายหน้าช้าดวงตาหยอกเย้าแต่พอนาทีนิ่วหน้าเขาก็ส่งนิ้วก้อยมาเกี่ยว...สัญญาว่าจะมีนาทีตลอดไปเช่นกัน...



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ส.ค. 2555, 19:32:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2555, 07:54:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 2223





<< 20.2 “รักค่ะ พี่จักรน่ารักมากกกกก ...แต่ให้ทนแม่ผัวแบบนี้ นางไม่เอาหรอก”   21.2 “กับเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน..ถ้าเป็นเนื้อคู่กันมันก็เข้ามา..." >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 18 ส.ค. 2555, 19:35:17 น.
จบเรื่องคู่วายแล้วนะ...เดี๋ยวเข้าตัวเกล้ากระผมอีก... /// สรุปว่า คุณ will กับ คุณ ณจรร ได้หนังสือ เรื่องนี้ ที่น่าจะคลอดเป็นเล่มประมาณงานหนังสือปีหน้าเดือนมีนาคมโน่นะครับ (จับสลากไปเมื่อตอนบ่าย ๆ แล้วแจ้งไว้ในตอนที่แล้วคอมเม้นท์ที่สิบกว่านะครับ )สำหรับบทที่ 21 ถึงจนจบผมจะจับสลากแจกอีกหนึ่งเล่ม ทิ้งคอมเม้นร่วมสนุกและให้กำลังใจผมไว้ได้เลยครับ...


nateetip 18 ส.ค. 2555, 20:15:34 น.
เสร็จแลัวขอคู่น้องนางด้วยนะคะ ชอบทุกคู่ค่ะ


sai 18 ส.ค. 2555, 20:40:33 น.
คู่วายน่ารักอ่ะ


แว่นใส 18 ส.ค. 2555, 21:41:14 น.
ต้องผ่านด่านแม่ให้ได้ก่อนนะ


หนอนฮับ 18 ส.ค. 2555, 21:55:32 น.
ชริ..คุณหนูจินเล่นตัว...พี่กล้วย ไปกินข้าวกับหนอนก็ได้คะ หนอนชอบกินกุ้งเผา อิอิ


nunoi 18 ส.ค. 2555, 22:24:56 น.
น่ารักทั้งสามคู่เลย


Orathai 18 ส.ค. 2555, 22:35:33 น.
หนึ่งกับเอกน่ารักมากค่ะ


wii 18 ส.ค. 2555, 23:01:51 น.
คุณเฟื่องขา คนที่ใด้หนังสือชื่อwiiหรือwillกันเเน่คะเพราะตัวi(อาย)กับตัวl(เเอล)มันคล้ายกัน


wii 18 ส.ค. 2555, 23:12:18 น.
คู่วายก็สมหวังกันเเล้ว ส่วนอาม่าจะมิลมจับจนล้มตึงเหรอเมื่อรู้ว่าลูกเป็นเกย์น่ะ ส่วนยัยคุณหนูจินก็เล่นตัวเข้าไป เเล้วจะมีใครมาเเทรกกลางกับยัยคุณหนูจินกับอาจารย์กล้วยหรือเปล่าน้อ เพราะกลัวยัยคุณหนูอยากใด้อาจารย์กล้วยเพราะอยากเอาชนะคู่เเข่ง พอใด้เเล้วมาอย่างงายดายก็จะเล่นตัวกับอาจารยืกลัวยผู้น่าสงสาร


จุฬามณีเฟื่องนคร 18 ส.ค. 2555, 23:12:21 น.
wii นั่นแหละครับ แต่อยู่ usa นี่ผมไม่สามารถนะครับ....ส่งไปที่ไทยแล้วคุณwii หาวิธีการรับหนังสือต่อพอว่าครับ


nutcha 18 ส.ค. 2555, 23:59:50 น.
สมหวังเรียบร้อยไปหนึ่งคู่แล้ว พอจินรู้คำทำนายก็เริ่มเล่นตัวมั้งล่ะ คุณเฟื่องคะมีเขียนชื่อจรินนาเป็นเมขลาหนึ่งที่ค่ะ


konhin 19 ส.ค. 2555, 04:55:55 น.
น่ะ เล่นตัวด้วย


goldensun 19 ส.ค. 2555, 06:24:57 น.
คู่วายนี่เริ่มจริงจังมากกว่านะ เรียกว่าจบไม่น่าได้ ปัญหาอีกเยอะ
จินรู้ความจริงแล้ว พี่กล้วยต้องออกแรงหนักแน่ เริ่มเกี่ยงแล้ว
พึมพำนะคะ พรำไม่น่าใช่ค่ะ


คิมหันตุ์ 19 ส.ค. 2555, 11:15:15 น.
คู่วายก็น่าร้ากกกก


invisible 19 ส.ค. 2555, 11:39:48 น.
รอคู่ของนาง อิอิ


Zephyr 22 ส.ค. 2555, 22:57:52 น.
คู่วายเข้าใจกันละ แต่ว่าปัญหาอยู่ที่แม่ยังไม่รู้ว่าลูกชาย.....


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account