ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 21.2 “กับเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน..ถ้าเป็นเนื้อคู่กันมันก็เข้ามา..."

หลังจากถูกเขาบอกรัก หลังจากใช้สายตาคุยกันรู้เรื่องในบางเรื่องและเปิดใจที่จะยอมรับในข้อดีข้อเสียของกันและกันแล้ว อนงค์นางก็ยังต้องกลับมาวางแผนพิชิตใจว่าที่แม่ของสามีในอนาคตด้วย...

“เป็นอย่างไรบ้างละนาง” หลังจากที่รู้ว่าอนงค์นางเข้าไปทำงานที่บ้านของวิษณุจักรแล้วสุนันทาโทรมาหาอนงค์นางในค่ำวันหนึ่ง ฟังจากน้ำเสียงของสุนันทาแล้ว อนงค์นางรู้สึกว่า สุนันทานั้นอ่อนแรงอ่อนใจกับเรื่องบางเรื่องของตัวเองแน่ ๆ
และเมื่อเล่าเรื่องว่าที่แม่สามีมาแผลงฤทธิ์จบแล้ว อนงค์นางก็ถามสุนันทากลับไปว่า

“พี่สุเป็นอย่างไรบ้าง...พี่เกียรติของนางพอไหวไหม”

“นาง” สุนันทาไม่คิดว่าอนงค์นางจะรู้เรื่องที่ขจรเกียรติเข้ามาจีบตนอย่างเปิดเผย วิธีการจีบของขจรเกียรติ หลังจากคืนที่มือของเขาเหมือนหนวดปลาหมึกทำยุ่มย่ามกับร่างกายของเธอที่เหมือนจะครั่นเนื้อครั่นตัวมานาน ก็คือ เขาจะมาหาเธอที่ร้านเกือบทุกวัน อ้างว่ามาดูของสวย ๆ งาม ๆ ให้สบายตา..บางทีก็มาขอแบ่งกุหลาบเพียงดอกสองดอกไปตั้งหน้ากระจกในร้านตัดผมเพิ่มความกระชุ่มกระชวย เขาคุยกับแม่ของเธอได้อย่างสนิทสนม คุยเหตุบ้านการเมือง เข้ามาขอกินกาแฟบ้าง และบ่อยครั้งเขาก็ขอเรียนรู้การจัดดอกไม้จากเธอ นอกจากนั้นกรณีที่เด็กในร้านส่งดอกไม้ไม่ทัน เขาก็ขันอาสาออกไปส่งให้ นอกจากนั้น บางวันเขายังขอไปรับน้องกอล์ฟที่โรงเรียนแทนเธอเสียอีก

...สุนันทายอมรับว่าเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้นมา แต่ปัญหาก็คือว่า ฐานะทางการเงินของเขายอบแย่บเต็มที และเรื่องที่มีพ่อหม้ายเมียหนีตามชู้ไปมาติดพันเธอนั้น ก็ล่วงรู้ไปถึงหูปู่กับย่าของน้องกอล์ฟเหมือนกับว่าทั้งท่านทั้งสองวางสายสืบไว้...

ทางนั้นโทรเข้ามาเตือน ทำนองว่า ถ้าคิดจะมีใครใหม่ก็ดูให้ดี ๆ ดูใจกันให้ถึงที่สุดอย่าผลีผาม อย่าเอาแต่อารมณ์เปล่าเปลี่ยวของตัวเอง ให้นึกถึงลูกให้มากที่สุด และที่สำคัญ เขาคนนั้นจะต้องไม่เข้ามาเพราะหวังปอกลอก

เรื่องปอกลอกนั้นสุนันทามั่นใจว่าขจรเกียรติไม่ทำแน่ ๆ แต่ว่าถ้าแต่งงานใหม่ เธอก็หวังจะพึ่งพิงสามีจนเต็มตัวเหมือนที่พ่อของน้องกอล์ฟเคยยกสถานะของเธอมาแล้ว แต่นี่ หากลงเอยกัน ก็จะกลายเป็นว่าเขาเข้ามาแสวงหาความสุขจากกิจการทรัพย์สินที่เธอมีอยู่แล้วเสียมากกว่า

...คนอื่น ๆ อาจจะครหาว่าเธอนั้นโง่เง่าเอาได้..

บอกเล่าความรู้สึกในใจให้อนงค์นางรับรู้ไปแล้ว อนงค์นางก็บอกว่า

“ทำไมพี่สุคิดเยอะจังเลยละคะ”

“นางไม่มาเป็นพี่นางไม่รู้หรอก...”

“แล้วพี่สุชอบพี่เกียรติบ้างไหม”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ชอบเขาหรือเปล่า เพียงแต่เขาทำให้พี่รู้สึกว่าพี่มีค่าขึ้นมา นางก็รู้นี่ว่าอาจารย์กล้วยเขาไม่เคยสนใจความรู้สึกที่พี่เสนอไปให้สักนิด”

“อาจารย์เขาก็ต้องมีเหตุผลของเขา พี่สุยังคิดซับซ้อนได้ อาจารย์เองก็คงจะคิดซับซ้อนคิดเยอะเหมือนกัน เขาเป็นหนุ่มโสดนะคะ เขามีโอกาสเลือกเขาก็ต้องเลือก แต่ปัญหา ของคนสองคน นางว่า มันไม่ใช่ที่ใครเหมาะสมกันหรือเปล่าหรอกค่ะ นางว่ามันเป็นเรื่องของหัวใจมากกว่า อาจารย์ไม่ได้รักพี่สุอย่างเสน่หา อาจารย์ก็ต้องเย็นชากับพี่สุ เพราะถ้าให้ความหวังกับพี่สุ พี่สุก็อาการหนักกว่านี้นะคะ”

“มันก็ใช่”

“พี่สุจะมาโทษพี่จินว่าทำให้อาจารย์นั้นเปลี่ยนไปก็ไม่ได้ เพราะพี่สุรู้จักกับอาจารย์มาก่อนที่พี่ จินจะกลับมาตั้งนาน แต่พี่สุก็ไม่สามารถพิชิตใจอาจารย์ได้....บอกตรง ๆ ว่า ขนาดนางเอง นางก็ชอบอาจารย์ อาจารย์ยังไม่สนใจนางเลยทั้งที่นางด้อยกว่าสาวอื่นหมื่นพันเสียที่ไหน...เหตุผลหนึ่งที่นางคิดไว้ก็คือ เราทั้งสองคนเป็นลูกศิษย์...”

“แม่พี่ก็บอกอย่างนั้น”

“กับเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน..ถ้าเป็นเนื้อคู่กันมันก็เข้ามา...พี่สุลองคิดซิคะ นางเอง ก็ยังไม่คิดเลยว่า พี่จักรเขาจะถึงขนาดคิดจะแต่งงานกับนาง เขาระดับไหนแล้วนางมีแค่ไหนเอง”

“นางยังเป็นสาว แล้วนางก็ใช่ว่าสิ้นไร้ไม้ตอกเสียที่ไหน”

“แต่อย่าลืมว่าพี่จักรมีโอกาสเจอคนที่ดีพร้อมมากกว่านางนะคะ แม่เขาพร้อมจะหาให้ด้วยเขามีสิทธิ์เลือกมากกว่า”

ถอนหายใจเบา ๆ แล้วอนงค์นางก็ต่ออีกประโยคเพื่อเป็นกำลังใจกับสุนันทาว่า
“อย่างไรเสียนางก็เชื่อ ว่า การที่เราสองคนจะมาลงเอยกันได้นั้น มันก็เรื่องบุญทำกรรมแต่งเรื่องของบุพเพสันนิวาสแหละค่ะ พี่สุก็เป็นหม้ายมานานนม แล้วทำไมไม่มีใครมาคิดจริงจังกับพี่ พี่เกียรติเองก็มีเมียอยู่แล้วด้วยแล้วทำไม เมียเขาจะต้องมีอันเป็นไปอย่างนั้นด้วย และที่สำคัญ พี่สุอย่าลืมนะคะว่าพี่สุเรียนคนละรุ่นกับพี่เกียติ แต่ทำไมพี่สุถึงยังต้องวนมาเจอกับพี่เกียรติจนได้...ลืมเรื่องกังวลทุกอย่างให้สิ้นแล้วก็เลือกเฉพาะเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขดีไหมคะ”


วางสายจากสุนันทาแล้วอนงค์นางก็โทรหาขจรเกียรติทันที หญิงสาวบอกเล่าเรื่องที่สุนันทาพูดให้เขาฟัง แล้วก็สรุปที่ว่า“พี่เกียรติสัญญากับนางนะคะว่าจะเป็นสามีที่ดีของพี่สุ..”

“ก่อนหน้านั้นพี่ก็เป็นสามีที่ดีของอ้อยนะนาง พี่ไม่เคยนอกใจเขา เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พี่หามาได้พี่ก็ให้เขาดูแล จัดสรรปั่นส่วน ถึงแม้มันจะไม่ใช่เงินมากมายจนเหลือกินเหลือใช้ คิดว่าพี่ทำหน้าที่ของสามีอย่างเต็มที่แล้วเหมือนกัน และที่พี่ตัดสินใจไปเรียนกับอาจารย์เดชาพงษ์นั้น เพราะพี่มีใจรักด้านงานศิลป์นี้เช่นกัน แต่ว่าที่ผ่านมาพี่ขาดโอกาส เมื่อโอกาสมาถึง พี่ก็ต้องไปทำ เพราะพี่หวังว่ามันจะทำเงินให้พี่และครอบครัวได้สืบต่อไป...พี่ว่าพี่ก็เป็นคนดีคนหนึ่งนะ”

“นางก็คิดว่าพี่เป็นคนดีคนหนึ่ง นางถึงได้เชียร์พี่เกียรติให้พี่สุไงคะ อย่างไรพี่ก็เดินหน้าจีบพี่สุต่อไป อย่าได้คิดย่อท้อ....ตอนนี้พี่สุใจอ่อนไปเยอะแล้วนะ”

“แต่ช่วงนี้พี่ยังคงจนไปอีกนาน เพราะไหนจะต้องทำงานใช้หนี้อาจารย์เดชาพงษ์อีก ไหนจะต้องส่งให้ทางพ่อตาแม่ยายเพื่อดูแลลูกพี่อีก...พี่ต้องกระเบียดกระเสียร จะว่าไปพี่ก็เทียบกับสุเขาไม่ได้จริง ๆ ไม่มีเงินที่จะไปปรนเปรอความสุขของเขา เข้าไปก็เหมือนคนชุบมือเปิบ”

จริง ๆ อนงค์นางอยากจะบอกว่าตอนที่เริ่มต้นกับพี่อ้อยพี่เกียรติก็เข้าไปอยู่บ้านพี่อ้อยนี่นา...แต่ว่าอนงค์นางก็ฉุกคิดได้ว่าบางทีคนเราโต ๆ กันแล้ว สำนึกความรู้สึกอาจจะมากขึ้นก็ได้ ดังนั้นอนงค์นางจึงยุยงเสริมส่งให้กำลังใจไปว่า

“เอาน่า เอาความดี เอาความเสมอต้นเสมอปลายเข้าไปแทนก็ได้ แม่พี่สุก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรนี่...แล้วที่สำคัญนางว่า ความรักนะ มันไม่ได้สำคัญต้องที่พอใจกันแล้วก็นอนด้วยกันหรอก หรือมีเงินทองบำรุงบำเรอความสุขของกันและกันหรอก มันน่าจะอยู่ที่เราสุขใจที่มีกันและกัน ให้กำลังใจกัน และทำให้วันที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกกว้างใบนี้ไม่เปลี่ยวเหงาจนเกินไป...สู้ ๆ ค่ะ”





จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2555, 13:35:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ส.ค. 2555, 11:00:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2187





<< 21.1 “ถ้าหนึ่งพี่มีเอกคนเดียว พี่เอกก็จะมีหนึ่งคนเดียว...”   22.1 ...“ไม่ดีกว่าค่ะ พอดีวันนี้จินมากับแฟน ขอตัวก่อนนะคะ...” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 19 ส.ค. 2555, 13:38:19 น.
ขอบคุณที่ช่วยดูคำหกตกหล่นผิดพลาดให้นะครับ พอดี รีบโพสต์ ปกติก่อนโพสต์ต้องส่งให้เพื่อนช่วยตรวจคำผิด แต่ว่า เรื่องนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนไปโพสต์ไป...เป็นการทำงานเรื่องแรกที่เดียวที่เหมือนจะแน่มาก..เพราะปกติต้องแก้ไขแล้วแ้ก้ไขอีกอ่านทวนแล้วอ่านทวนอีกถึงเอามาลงครับ...จบเรื่องนี้ อีกนานทีเดียวกว่าจะได้โพสต์นิยายให้ได้อ่านกันอีก...เพราะว่า เรื่องที่จะทำต่อจากเรื่องนี้ ยังคิดไม่ออกเลย...กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก


Ariesboo 19 ส.ค. 2555, 14:11:36 น.
คำผิดคะ. ''บอกตรง ๆ ว่า ขนาดนางเอก''. ---> นางเอง.


หนอนฮับ 19 ส.ค. 2555, 15:53:44 น.


anOO 19 ส.ค. 2555, 19:42:44 น.


แว่นใส 19 ส.ค. 2555, 21:07:38 น.


sai 19 ส.ค. 2555, 21:32:01 น.
นางเป็นกองเชียร์ของจินที่ดีมากๆอ่ะ อิอิ


konhin 19 ส.ค. 2555, 22:44:29 น.
แบบนี้เรียก "นาง"อุ้มสมแล้ว


คิมหันตุ์ 20 ส.ค. 2555, 01:40:50 น.


invisible 20 ส.ค. 2555, 10:15:17 น.
คำผิดค่ะ "พ่อตายแม่ยาย"--> "พ่อตาแม่ยาย"
นางเป็นแม่สื่อเก่งจรงๆ อิอิ


Zephyr 22 ส.ค. 2555, 23:46:58 น.
เชียร์รุ่นใหญ่ด้วย หึหึ สุเอ้ย ตกลงไปเถอะจะได้ไม่เหงาไง


Orathai 23 ส.ค. 2555, 10:36:52 น.
สุนันนทาใจอ่อนขึ้นเยอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account