พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 20. กลับมาโพสต์ให้จบตามคำเรียกร้อง

20.


วิจักษ์พลิกตัวกลับไปกลับมาเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว บ้านสังกะสีรอบด้านบนอาคารโครงเหล็กสองชั้นนั้นไม่มีหน้าต่าง ครั้นจะเปิดประตูออกไป ก็รู้สึกระแวงคนงานที่เดินกันขวักไขว่เพื่อออกไปใช้ห้องน้ำที่อยู่ด้านนอก ซึ่งมีกลิ่นเหม็นเกินทน
เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ การตัดสินใจในครั้งนี้คิดผิดหรือถูกหนอ บ้านพักกลางป่าท่ามกลางเสียงหรีดหริ่งเรไร กับเสียงเพลงจากเครื่องเล่นซีดีแบบพกพาทำให้เขามีความสุข แต่ที่นี่ แม้จะเป็นเครื่องเล่นตัวเดิม แต่เขาก็เปิดเพลงเข้าลำโพงให้ดังกว่านี้ไม่ได้ ห้องข้างๆ มีลูกอ่อน ถ้าตื่นขึ้นมาในเวลากลางดึก จะยิ่งทำให้พลอยรำคาญหนักเข้าไปอีก

วิจักษ์พลิกตัวอีกรอบ ญาติของเขาทำไมอดทนอยู่กันสภาพอย่างนี้ได้ ทำไมไม่มีใครคิดขยับขยายหรือหาหนทางให้ตัวเองได้ดีกว่านี้ ทำไมยอมจำนนกับสภาพที่เหมือนคนในชุมชนแออัด

วิจักษ์นิ่งมองโทรศัพท์ อยากกดโทรหามาลี แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นยังไม่พร้อมที่จะพบหน้ามาลีคนสวย เขาจะต้องมีงานที่ดีกว่าแรงงานรายวันในโครงการก่อสร้างขนาดเล็ก เขาจะต้องเปลี่ยนงานที่ดูมั่นคงกว่าและใช้แรงไม่มากเท่านี้ งานอะไรดี
วิจักษ์นึกถึงวินมอเตอร์ไซค์ แต่เขาก็ไม่รู้จักถนนหนทาง ส่วนพนักงานในร้านสะดวกซื้อที่ติดป้ายประกาศไว้นั่นก็ต้องหาคนค้ำประกัน ชีวิตทำไมมันมืดมนไปหมดหนอ ทำอย่างไร ปรึกษาใครดี

วิจักษ์กดไล่ดูรายชื่อในโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเบอร์ที่บันทึกรายชื่อของคนชื่อ ‘พี่ตรีทศ’

เมื่อกดโทรศัพท์ออกไปพร้อมกับใจที่สั่นหวิว เพราะแววตาแบบนั้นหรอกทำให้เขารู้สึกกลัว กลัวว่าการช่วยเหลือจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง แฝงไปด้วยฤทธิ์เสน่หาระหว่างชายกับชาย ในหน่วยของกรมอุทยานฯ เขาถูกกระทำการ ‘ชำเลือง’ จากนักท่องเที่ยวเพศเดียวกัน จนเขากลายเป็นประเด็นร้อน เรื่องมีเสน่ห์มัดใจชาวเกย์
วิจักษ์ถอนหายใจออกมา วันนี้เขาอยู่อย่างนี้ไม่ได้แล้วเช่นกัน ค่าเช่าห้องเดือนละพันรวมค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารวันละเกือบร้อยบาท แต่ค่าแรงแทบไม่คุ้มกับงานหนักแถมดูต่ำต้อย แล้วมันจะทนไปทำไม

“ฮัลโหลใครครับ”

ปลายสายมีน้ำเสียงที่นุ่มทุ้มแต่แฝงไปด้วยความเร่งรีบ คล้ายกับว่าเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง

“ผมวิจักษ์ พี่จำผมได้ไหม”

“วิจักษ์ไหน”

“อุ้มผาง ป่าไม้ น้ำตกทีลอซู คนบ้านสวนหลวง รุ่นน้องของพี่ที่เจอกันที่หน่วยตรวจบัตรเมื่อราวเดือนตุลาคม”

“อ๋อจำได้” น้ำเสียงปลายสายเปลี่ยนทันทีเช่นกัน

“ผมมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วครับ ออกจากงาน มาหางานทำที่นี่”

แล้ววิจักษ์ก็เล่าถึงความมุ่งหวังของตนเองโดยที่ไม่มีคำว่ามาลีเข้ามาเกี่ยวข้อง เขามาที่นี่ปรารถนาทำงานและเรียนต่อไปด้วย

“ผมมาพักอยู่กับญาติครับ สภาพไม่ต่างจากสลัมเท่าไหร่ ห้องน้ำรวมมีห้องเดียว อาบน้ำจากโอ่งกลางแจ้ง”

“แล้วไง”

“ผมอยากย้ายที่อยู่ อยากหางานใหม่ทำครับ”

“จะให้พี่ช่วยอะไร”

“พี่พักอยู่กับใคร ผมอยากไปจากที่นี่ ไปตั้งหลักก่อนครับ พี่ช่วยผมได้ไหม” วิจักษ์แสดงความจำนงของตนโดยไม่สนว่าปลายสายจะรู้สึกอย่างไร

“วันนี้พี่มีบิน เครื่องจะออกแล้ว พรุ่งนี้วันหยุดพี่ เย็นๆ พี่จะเข้าไปหาแล้วกัน มีอะไรค่อยคุยกันนะ แค่นี้นะ”

ตรีทศว่างโทรศัพท์ไปแล้ว วิจักษ์ยิ้มร่า หากร่างกายนี้มันจะเปลืองตัวไปกับคนประเภทนี้บ้าง มันก็น่าลงทุนไม่ใช่หรือ


ด้วยรูปลักษณ์ของวิจักษ์ หนุ่มน้อยหน้าตาอินเทรนด์แบบหนุ่มเกาหลีจากอุ้มผางคนบ้านเดียวกัน ทำให้ตรีทศ พนักงานบริการอาหารบนเครื่องบินถึงกับเร่งเวลาอยู่ในใจ เพื่อไปหาหนุ่มคนที่เห็นหน้าก็รู้สึกถูกชะตา เมื่อเครื่องบินลงจอดและหมดหน้าที่การงานในวันนั้น เขาก็รีบยัดสัมภาระใส่ท้ายรถแล้วโทรหาวิจักษ์ในทันที
“อยู่อ่อนนุช 44 เหรอ พี่จะขับรถไปหานะ”

เมื่อรถหยุดที่ลานจอดของบ้านพักคนงานก่อสร้าง วิจักษ์ก็รีบเดินมาหาพร้อมกับยกมือไหว้ ตรีทศมองสภาพหนุ่มหน้าใสด้วยหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรง เขารู้ว่าถ้ารับวิจักษ์เข้าไปอยู่ด้วยนั้น จิตใจของเขาจะเป็นอย่างไร แต่ แต่เมื่อโชคชะตามันพัดพาหนุ่มน้อยจากป่าดิ่งตรงมาหาเขาถึงที่นี่แล้ว เขาจะปฏิเสธอย่างนั้นหรือ

เมื่อวิจักษ์เล่าถึงความทุกข์ยากของตนกับสภาพบ้านพักโกโรโกโส ซึ่งมีผู้คนหลากหลายนิสัยใจคอและส่อไปในทางอบายมุขอีกรอบ เขาจึงเอ่ยปากชวนให้ไปพักอยู่ด้วยกันก่อนแล้วค่อยหาหนทางดีๆ ให้กับตัวเองทีหลัง เขารอเพียงสิบนาทีเท่านั้น วิจักษ์ก็ถือกล่องสัมภาระของตนออกมาจากบ้านพักด้วยรอยยิ้มพิมพ์เข้าไปในหัวใจ
ความเจ็บปวดอยู่คู่กับคนเช่นเขา หากมันจะต้องเจ็บอีกสักครั้ง
แล้วทำไมเขาจะทนไม่ได้

‘...แล้ววันหนึ่งเธอนั้นก็มา ฉันรู้สึกเธอนั้นคุ้นตา...
แล้วบางสิ่งฉุดฉันดึงเธอเข้าหา ให้มารักและรู้ใจกัน...’

เสียงเพลงคู่แท้ของพี่เบิร์ด ธงชัย จากเครื่องเล่นซีดีในวันนี้ ทำให้หัวใจที่อ่อนล้าของตรีทศสดชื่นฉ่ำเหมือนต้นกล้าที่ขาดน้ำแล้วฝนห่าใหญ่ก็เทซัดลงมา


เมื่อเห็นสภาพบ้านทาวเฮ้าส์หลังกะทัดรัดสองชั้นสองห้อง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนลาดกระบัง ซอย 38 ซึ่งเลยมาซอยอ่อนนุชที่ตนอยู่ไม่ไกลนัก ทำให้วิจักษ์ถึงกับยิ้มกว้าง ให้กับสารถีซึ่งมีรูปหล่อไม่แพ้ตัวเอง

“พี่อยู่คนเดียว แต่ก็ไม่ค่อยได้อยู่หรอก มีบินตลอด นอนกลางวันบ้าง กลางคืนบ้าง เราอยู่ที่นี่ก็อยู่ให้เหมือนบ้านของตัวเองแล้วกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน พี่ขี้บ่นนะ ชอบคนรักความสะอาด ดูๆ แล้วกัน”

เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน วิจักษ์ก็เห็นถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงความสะอาด รูปเจ้าของบ้านที่ฝาผนังในชุดเครื่องแบบพนักงานดูเป็นที่ภาคภูมิใจของเจ้าบ้าน สายตาของวิจักษ์ไล่ไปที่ภาพสองสามีภรรยาอยู่ในชุดภาพของเว็ดดิ้งสตูดิโอแล้วมีคำถาม

“พี่ผู้ชาย ชื่อพี่แดง เขาเคยช่วยพี่เหมือนกับที่พี่ช่วยจักษ์นี่แหละ” ตรีทศมายืน
ใกล้ๆ แล้วอธิบาย

“เขาช่วยพี่โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ พี่ถือว่าเขามีบุญคุณกับพี่มากๆ ไม่ได้เป็นพี่เป็นน้องไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน แค่รักและหวังดีต่อกันแบบพี่น้อง ไม่ใช่คู่ขาด้วยนะ เมียเขาสวยนะ อายุห่างกันตั้ง 20 ปี หัวใจสองดวงจะยอมมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน บางคู่ก็ต้องถูกทดสอบด้วยอายุ บางคู่ก็เรื่องฐานะ บ้างก็การศึกษา ชาติตระกูล และบางคู่ก็ต้องถูกทดสอบด้วยเรื่องของเพศ”

พูดจบตรีทศก็หันมามองหน้าในผิวใสของหนุ่มที่สูงราวร้อยแปดสิบ ตาของเขาเปิดเผยเพราะประสบการณ์ทางโลกที่เจนจัดขึ้น วิจักษ์รีบหลบสายตานั้น

“ขึ้นไปชั้นบนไปดูห้องตัวเอง” เมื่อเห็นสีหน้าตระหนกของวิจักษ์ ตรีทศจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

วิจักษ์เดินตามตรีทศขึ้นไปยังชั้นสอง พอผลักประตูเข้าไป เขาเห็นเพียง ห้องโล่งๆ กับตู้ซื้อผ้าของเจ้าของบ้าน

“พี่ใช้เก็บของน่ะ เดี๋ยวค่อยดัดแปลงให้เป็นห้องของจักษ์แล้วกัน เดี๋ยวขอพี่อาบน้ำก่อนนะ แล้วไปหาอะไรกินกัน หลังจากนั้นก็ไปหาหนังสืองาน หรือไม่ก็เข้าเน็ต เล่นเน็ตเป็นไหม”

“ไม่ครับ เล่นไม่เป็น” วิจักษ์บอกตามตรง

“เข้ากรุงเทพฯ ครั้งแรกใช่ไหม”

“ครับ”

“ตื่นเต้นไหม ไปไหนมาบ้างแล้ว”

“ยังเลยครับ มาถึงหมอชิตลุงก็ให้ก็นั่งรถ 145 มาลงสี่แยกตลาดเอี่ยม แต่ผมนั่งรถเลยไปถึงไหนก็ไม่รู้ พอถามกระเป๋าก็บอกว่าเลยไปแล้ว ผมต้องนั่งรถแท็กซี่กลับมา แล้วให้ลุงคุยกับแท็กซี่ โคตรตื่นเต้นเลยครับ พอไปทำงานก็นั่งรถเถ้าแก่ออกไป เย็นก็กลับ”

“ตัวดำขึ้นเยอะเลยนะ เสียดายผิวสวยๆ” ตรีทศใช้ปากและสายตาชมโฉม
“มาแบบนี้ไม่คิดถึงแฟนแย่หรือ”

“เพราะคิดถึงจึงต้องมาครับ”

“มีแฟนแล้วซิ ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

ตรีทศพูดแล้วก็ขำกับคำพูดเกี้ยวเขาเพื่อเปิดทางของตัวเอง วิจักษ์เองก็พอรู้ว่า พี่ตรีทศกำลัง ‘สี’ ตนเอง แต่เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน แต่จะหักหาญน้ำใจพี่ตรีทศในเวลานี้ก็เห็นทีจะไม่ดีนัก

ให้ความหวังพี่เขาบ้าง หรือจะตัดความหวังเขาไปเลย ก็เขาบอกเองว่า มีคนเคยช่วยเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แล้วเขาช่วยตนเองนั้นต้องการ ‘ผล’ด้วยหรือ แต่โบราณท่านว่าไว้ ‘ปลูกพืชย่อมหวังผล’

“พี่อาบน้ำก่อนแล้ว แฟนผู้หญิงหรือผู้ชายไม่สำคัญหรอกจักษ์ สำคัญแต่ว่าเรารักและเข้าใจกันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

ตรีทศออกจากห้องไปแล้ว วิจักษ์ยังครุ่นคิด



พลบค่ำวันนั้น ตรีทศเปิดประตูห้องนอนออกมาด้วยตาปรือผมยุ่ง ด้วยทำงานหนัก เมื่อเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาอาบน้ำแล้วความอ่อนล้าก็แล่นเข้ามา จนกระทั่งเขารีบตะกายขึ้นเตียงแล้วม่อยหลับไป มารู้สึกตัวอีกที เขานึกได้ว่า ตอนนี้ในบ้านมีวิจักษ์มาอยู่ด้วย

“จักษ์” ตรีทศร้องเรียก

วิจักษ์ซึ่งอยู่ในกางเกงขาสั้นไม่ได้สวมเสื้อ เปิดประตูห้องตัวเองออกมาด้วยสีหน้ามีคำถาม

“โทษทีพี่ เผลอหลับไป อาบน้ำหรือยัง เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน”

“ครับ”

เมื่อวิจักษ์รับคำ ตรีทศก็กลับเข้าห้องเตรียมแต่งตัวพาวิจักษ์ไปทานอาหารค่ำ
เมื่อนั่งอยู่ในร้านข้าวต้มริมถนน ตรีทศก็บอกให้วิจักษ์สามารถสั่งอาหารได้หนึ่งอย่าง วิจักษ์มองหน้าแล้วก้มลงอ่านเมนูอาหารที่มีรายการเป็นร้อย

“เมื่อก่อนพี่ก็ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านแบบนี้”

ตรีทศเริ่มเล่าความเป็นมาของตนให้วิจักษ์ได้รับรู้ วิจักษ์มองดูเด็กหนุ่มที่เดินเขียนบิลตามโต๊ะต่างๆ วัยสิบเจ็ดสิบแปด แต่เขาล่ะ ยี่สิบสี่เหมาะไหมที่จะมาเริ่มต้นแบบนี้

“ตอนนั้นพี่สิบแปดปี อาศัยว่าได้เรียนในสถาบันราชภัฏเพื่อคิดหวังปริญญาตรีก็ทนเอา พี่เรียนเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาพี่ก็ไปเรียนภาษา กลางคืนทำงานร้านธรรมดาลักษณะนี้”

“แล้วพี่ไปเป็นสจ๊วตได้ไง”

“คนเขาจะถามพี่แค่ปัจจุบัน วิจักษ์ ชีวิตคนอื่นเขาเราต้องมองไปให้ถึงที่มาของเขา ทำไมพี่ให้จักษ์สั่งอาหารแค่อย่างเดียว แล้วพี่เองก็จะสั่งแค่อย่างเดียว เป็นสองอย่าง ทำไมพี่ไม่สั่งข้าวราดไปเลยซะคนละจาน ต่างคนต่างกินไป หรือเข้าร้านที่ธรรมดากว่านี้”

วิจักษ์ครุ่นคิดตาม ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเคยมีใครมาจาระไนเหตุและผลของชีวิตบ้างนะ

“เพราะถ้าสั่งมามากกว่านี้เราก็จะทานกันไม่หมด อาหารที่นี่จานใหญ่ แล้วพี่เองก็ต้องระวังเรื่องอาหารเพราะต้องระวังเรื่องบุคลิกภาพ ใช่ว่าขี้ตระหนี่ แต่พี่อยากบอกให้เธอรู้ว่า พี่โตมาด้วยเศษอาหารที่เหลือจากร้านอาหารแบบนี้ด้วย พี่อดทน พี่มีความหวังว่าชีวิตพี่จะดีกว่าตอนที่พี่อยู่อุ้มผาง”

“ครับ”

วิจักษ์พยายามไม่สบสายตาของคู่สนทนา ซึ่งในเวลานี้เขาไม่เห็นแววเสน่หาแล้ว มันมีเพียงแววตาของผู้ใหญ่คนหนึ่งที่หวังดีต่อเด็กคนหนึ่งมากกว่า

“พี่สั่งสองอย่างเพื่อให้เราแบ่งปันกัน ถ้ามีอาหารเท่านี้ เราก็จะทานข้าวเยอะๆ ข้าวคำผักชิ้น ใส่ใจและห่วงใยกัน ถ้าจักษ์กินเยอะพี่ก็ไม่อิ่ม แต่ถ้าพี่กินเข้าไปเยอะจักษ์ก็ไม่อิ่ม กินแค่อิ่มนะจักษ์ อย่าให้เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต อย่าเป็นขี้ข้าปากหรือวัตถุใดๆ ทั้งนั้น

ถ้าจักษ์ต้องอยู่กับพี่ไปนานๆ พี่ก็อยากให้รู้ว่าจักษ์ต้องเจอกับอะไรบ้าง พี่เป็นคนชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำมาแต่ไหนแต่ไรนะ เราอยู่ด้วยกันต่อไปจะกี่วันก็ตาม พี่อยากให้จักษ์รู้ไว้ว่า ถ้าพี่คิดอะไรพิเศษกับจักษ์ก็เป็นเรื่องของพี่ แต่จักษ์จะสนองพี่อย่างไรนั่นก็เป็นเรื่องของจักษ์”

วิจักษ์ยิ้มนิดๆ เมื่อได้ยินความชัดเจนของตรีทศ ซึ่งเขาไม่คิดว่าตรีทศจะพูดถึงเรื่องรสนิยมของตัวเองออกมา โดยที่เขาไม่ต้องคิดอะไรไปเอง

“ผมผู้ชายทั้งแท่งนะพี่”

“อ้าว พี่ก็ไม่ได้ว่าพี่ชอบผู้ชายไม่ทั้งแท่ง”

หลังพูดเรื่องซีเรียสแล้วตรีทศก็พูดตลกตามนิสัยของตน

เมื่อเด็กเสิร์ฟนำคะน้าหมูกรอบกับต้มยำปลาช่อนมาถึง วิจักษ์ตักข้าวจากหม้อแบ่งให้ตรีทศ แล้วตักใส่จานตัวเอง ตรีทศตักคะน้าหมูกรอบใส่จานวิจักษ์ ส่วนตัวเองตักพริกแกวที่อยู่ในจานวางบนคำข้าวแล้วส่งเข้าปาก

“ทำไมพี่กินพริก”

“เผ็ดแล้วจะได้กินน้ำเยอะๆ น้ำแน่นท้องก็ไม่อยากกินข้าว”

“ใช้ได้ผลเหรอครับ”

“เปล่า อำจักษ์เล่น พี่ชอบทานเผ็ดๆ มากกว่า”

วิจักษ์หัวเราะกับมุกตลกของตรีทศ ซึ่งหน้าตาของคู่สนทนาของเขานั้น ถ้าไม่เห็นสายตาหรือจริตนิดหนึ่งที่ออกมา ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าตรีทศนั้นมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนจากเพศชาย

เมื่อหมดอาหารคาวตรีทศก็สั่งผลไม้รวม ในระหว่างนั้นตรีทศก็ถามถึงงานที่วิจักษ์อยากทำ

วิจักษ์ส่ายหน้า ในหัวของเขาในเวลานี้แทบไม่มีภาพอะไรของกรุงเทพฯ เลย

“เดี๋ยวเราค่อยไปซื้อหนังสืองานมาดูกัน วุฒิมอหกกับอายุยี่สิบสี่ จะทำอะไรได้บ้าง แล้วโครงการจักษ์เองคืออยากมาเรียนต่อด้วยใช่ไหม”

“ครับ มาลีเค้าก็มาเรียนต่อ”

“ใคร” ตรีทศมีคำถาม

วิจักษ์บอกเล่าประวัติของมาลีคร่าวๆ ตรีทศได้แต่รับฟัง คนละ
หมู่บ้านเขาคงไม่เคยเห็นหน้า แต่ถ้าทำให้วิจักษ์ออกจากป่า ตามมาอยู่ใน
เมืองได้ ก็คงสวยเอาการทีเดียว

“เขาไม่ได้รักผมหรอกครับ ผมรักเขาข้างเดียว” วิจักษ์บอกเล่าอย่างไม่อาย

“อ้าว” ตรีทศอุทานด้วยความตกใจ

“ผมก็แค่มีหวังว่าเขาจะมองผมบ้าง” น้ำเสียงของวิจักษ์สลดลง

“ความรักก็ดี ทำให้ทะยานไปให้สูงเพื่อให้เขามองเห็นเรา ค่อยๆ ตั้งสตินะจักษ์อย่าวู่วาม การที่จักษ์ตัดสินใจมาตายเอาดาบหน้าอย่างนี้ถือว่าวู่วาม หากจักษ์ไม่เจอพี่ ไม่ได้มีเบอร์โทรพี่ หากพี่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ชีวิตจักษ์จะเป็นอย่างไร ค่อยๆ คิด วันนี้เอาชีวิตให้รอด พึ่งพี่ให้น้อยที่สุด พี่ไม่คิดค่าบ้านค่าที่พักใดๆ ส่วนเรื่องกินเบื้องต้นพี่จะหาเสบียงติดครัวไว้ให้ เราเองก็จัดการตัวเอง แต่พี่บอกไว้ก่อน พี่ชอบคนสะอาด”

“ครับ ข้อนั้นผมยืนยันได้ว่าผมทำได้” สีหน้าของวิจักษ์ดีขึ้นทันที เมื่อได้ยินความชัดเจนของตรีทศ

“แล้วพี่มีแฟนหรือยัง”

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย” ตรีทศถามคืน

“ฮะ แล้วแต่พี่” วิจักษ์รู้สึกเขินเมื่อถูกต้อนให้เข้ามุม

“เคยแต่รักเขาข้างเดียว แล้วก็กินแห้ว”

“ครับ”

วิจักษ์พูดได้แค่นั้น ถ้าพี่ตรีทศชอบเขาก็คงต้องกินแห้วเหมือนเดิม เขาเป็นผู้ชาย เป็นผู้ชาย วิจักษ์พยายามท่องไว้ทั้งที่ใจสั่นหวิวๆ เมื่อเห็นสายตาของตรีทศที่มองมายังตนเอง

“พี่ก็อยากให้วิจักษ์เป็นผู้ชายเต็มตัวเหมือนกัน”

พูดจบตรีทศก็มองสบตาเขาแล้วยิ้มนิดๆ วิจักษ์สบตาตอบแล้วรีบเมินหน้าไปทางอื่น



เมื่อตรีทศขับรถกลับมาถึงบ้าน วิจักษ์ก็ลงจากรถมาเปิดประตูรั้ว คนขับที่นั่งมองสรีระของชายหนุ่มจากบ้านป่าซึ่งกำลังเลื่อนประตูอยู่ข้างหน้า ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก

ตรีทศถอนหายใจออกมา ในเวลานี้ถ้าเขาจะมีอะไรกับวิจักษ์มันคงเป็นแค่ความใคร่
แล้วอีกอย่าง เขาก็ไม่อยากให้วิจักษ์ต้องจากชีวิตเขาไปเร็วกว่ากำหนด
รู้ว่าไม่มีทางหวัง แต่ขอหวังสักนิดได้ไหม ที่จะมีใครอยู่ข้างๆ คอยห่วงใย ใส่ใจกันและกัน

ตรีทศเข้าห้องนอนของตนไปแล้ว วิจักษ์ยังนั่งอยู่ที่โซฟาชั้นล่าง ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือประกาศหาแรงงาน วุฒิแค่ม.6 กับจุดมุ่งหมายที่จะต้องเรียนต่อในรามคำแหงเหมือนกันกับมาลี เรียนต่อคณะอะไรดีนะ พรุ่งนี้คงต้องปรึกษาพี่ตรีทศ แต่เรื่องงานนี่ซิ วิจักษ์พลิกหน้ากระดาษไปเรื่อย เริ่มใช้ปากกาเขียนงานที่น่าสนใจ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ตรีทศก็เดินตาปรือลงจากห้องนอน

“ยังไม่นอนอีกหรือ”

ตรีทศเข้าครัวพลางร้องถาม วิจักษ์มองตามไปว่าเจ้าของบ้านทำอะไร ตรีทศแกะซองอะลูมิเนียมเทผงแป้งลงแก้ว แล้วใช้แก้วอีกใบกดน้ำจากเครื่องกรองลงไปก่อนวางในเตาไมโครเวฟ

“ทานด้วยกันไหม”

“อะไรหรือครับ”

ด้วยอยากรู้ว่าอุปกรณ์ในครัวทันสมัยนี้ใช้อย่างไร วิจักษ์ละหนังสือในมือแล้วเดินเข้าไปหาในครัว

“อาหารเสริม กินแล้วผิวจะได้ดี”

วิจักษ์สังเกตผิวของตรีทศที่พ้นเสื้อกล้ามออกมา กล้ามเนื้อต้นแขนหน้าอกของพี่ตรีทศสมส่วนงดงามและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ

“งานพี่มันมีเรื่องของบุคลิกภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง พี่ระวังเรื่องอาหาร เรื่องพักผ่อน เรื่องดูแลผิวพรรณสุขภาพ พี่เข้าฟิตเนสสัปดาห์ละประมาณสามวันสี่วัน เหล้าบุหรี่ไม่แตะ นอนให้มากที่สุด”

“พี่ดูดีมากเลยนะครับ”

“แต่จักษ์ดูดีกว่าพี่นะ”

“ถ้าผมอยากเป็นอย่างพี่”

“เกย์เหรอ” ตรีทศพูดเอาประโยชน์ตัวเอง

“พี่ก็” วิจักษ์กล้าต่อปากต่อคำมากขึ้น อันที่จริง เขากับตรีทศน่าจะแก่กว่ากันเพียงปีสองปีเท่านั้นเอง แต่พอเรียกพี่แล้วดูเหมือนว่า เขาจะกลายเป็นเด็กแล้วตรีทศเป็นผู้ปกครองไปในทันที

“ถ้าจักษ์อยากเป็นแอร์สจ๊วต วุฒิป.ตรี ภาษาอังกฤษต้องสื่อสารได้ในระดับที่ดี ว่ายน้ำเป็น บุคลิกภาพดี ตอนนี้อายุ 24 6 ปีจักษ์เตรียมตัวทันไหม”

“ภาษาอังกฤษผมไม่กระดิกเลยครับ” คนพูดใช้มือเท้าที่เคาน์เตอร์แล้วมองไปยังตู้แขวนและอุปกรณ์ต่างๆ ในครัว

ตรีทศส่งแก้วเครื่องดื่ม ที่มีน้ำราคาแพงมาให้เขา วิจักษ์มีสีหน้างุนงง

“ลองดู พี่ไม่ได้ใส่อะไรลงไปหรอก”

วิจักษ์ยิ้มๆ เมื่อรับแก้วมาแล้ว

“ไม่แน่นะพี่ วันหนึ่งพี่อาจไม่ต้องใส่อะไรลงเลยก็ได้”

ตรีทศยิ้มที่มุมปากแก้เขิน ก่อนจะยกแก้วเข้าปาก

ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง แต่ถ้าชวนกันใช้มือคนละข้างประสานกัน ของอย่างนี้มันก็ไม่แน่ คารมเซาะใจ น้ำเซาะทราย น้ำหยดลงหิน หินยังกร่อน แล้วใจของเด็กบ้านป่าที่เปราะบางนี่ล่ะ

คืนนั้นตรีทศยอมนอนไม่ครบแปดชั่วโมง ด้วยต้องคอยอธิบายให้วิจักษ์ได้รู้ว่า งานแต่ละงานที่เขาลงสมัครมานั้นแล้วเราสนใจ ลักษณะงานนั้นจะเป็นอย่างไร เราจะไปสมัครที่ไหน ทำงานนั้นแล้วสามารถเรียนไปด้วยได้ไหม


นันทาโยนกระเป๋าลงที่เก้าอี้ทำงานตนเอง แล้วตามลงไปนั่งด้วยอาการกระแทกกระทั้น คล้ายต้องการระบายอารมณ์หงุดหงิด

“เป็นอะไรอีกยะ”

พี่จุ๋มชายใจหญิงดีไซเนอร์คนสำคัญร้องถาม เมื่อเห็นอาการอันเป็นปกติของเจ้าหล่อน

“เซ็ง”

“เรื่องอีตาชัชชัยลูกมหาเศรษฐีอีกซิ ใส่ยานอนหลับแล้วจัดการเองเลย”

“บ้าแล้ว ถึงทำได้จริงๆ เขาก็ไม่ยอมรับหรอก แค่ได้เห็นหน้าก็ดีกว่าเขาหนีหายไป”
นันทาบอกเรื่องเหล่านี้มาไม่รู้จักกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพราะเมื่อได้ระบายความในใจออกไปเมื่อไหร่ เธอจะรู้สึกสบายใจทันที

“ตัดใจไปสักทีซิ ผู้ชายเยอะแยะ เวลาไปเที่ยวเข้ามาเหล่เธอเต็มไปหมด”

นันทาครุ่นคิดตาม แล้วเธอก็ต้องสลัดความคิดแบบนั้น เธอไม่อยากกลายเป็นผู้หญิงที่เที่ยวได้นับแต้มว่าคืนนี้กี่คน สองคืนแล้วได้กี่คน สามสิบคืนแล้วอีกกี่คน มีคนเก่า มีซ้ำบ้างหรือไม่ เธอกร้านโลก เธอเข้าใจสังคม แต่จะให้เธอกระโจนลงไป เธอทำไม่ได้

ชัชชัยก็รู้ว่าที่เธอเก็บถนอมตนเองนั้นเพื่ออะไร แต่เขาก็ให้เธอเป็นได้แค่เพื่อน แต่นังมาลีน้องสาว เขาเอาใจเทกแคร์พาเที่ยว ห่วงใย ถามไถ่อยู่ตลอดเวลาว่ามาลีเป็นอย่างไร มีใครมาจีบบ้างไหม

นันทายิ้มเยาะ สะใจเหลือเกิน เธอไม่มีสิทธิ์ มาลีก็ต้องยิ่งไม่มีสิทธิ์เหมือนกัน ชัชชัยเองก็จะต้องทุกข์ทรมานเยี่ยงเธอบ้าง พี่ศรีวรรณรายงานมาแล้วว่า อีตากลยุทธพี่ชายของเด็กบ้านอยู่ซอยสิบสองสนใจมาลี อีกหน่อยคงได้ย้ายจากบ้านเธอไปอยู่ที่นั่น ภาวนาให้มาลีกลายเป็นเด็กใจแตก เพื่อที่แม่จะได้มีข้ออ้างไม่ส่งเสียให้เรียนหนังสือต่อไป

“นันทา เห็นยามคนใหม่ไหม” เสียงพี่จุ๋มผู้เจนจัดในการสรรหาผู้ชายมาร่วมเตียงเรียกสติ

“เห็น เปลี่ยนหน้ากันมาเรื่อย เปลี่ยนกะอีก จำยังไงหวาดไหว”

“คนนี้เด้งเลยนะเธอ พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อยู่ๆ จะมีดอกไม้มีรูปและกลิ่นเย้ายวนใจมาเบ่งบานอยู่หน้าสำนักงานเรา”

“เชิญพี่ตามสบายเถอะ ภาวนาให้พี่ได้เคี้ยวสะดวกแล้วกัน”



นันทาตัดบทแล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แต่ถึงกระนั้นเมื่อเดินผ่านหน้าฝ่ายต้อนรับ เมื่อเห็นสายตาหวานฉ่ำของแดงต้อยรีเซฟชั่นโอเปอเรเตอร์ ที่มองผ่านกระจกไปยังยามหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเคาน์เตอร์หน้าอาคารนั้น นันทาก็อดปรายตามองดูบ้างไม่ได้

“หล่อมากๆ” แดงต้อยมีอาการเพ้อพก

นันทาใช้ฝ่ามือตีเคาน์เตอร์เสียงดัง “บ้ากันทั้งบริษัทแล้ว”

“พี่ก็ แหมล้อหล่อ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมาเป็นยาม น่าไปเป็นอย่างอื่นมากกว่า”
แล้วนันทาก็เพ่งผ่านกระจกสีชาออกไปอีกรอบ คราวนี้หัวคิ้วของนันทาเริ่มขมวดหากัน จมูกโด่งเป็นสัน ปากได้รูป ดวงตายาวรี คิ้วเข้ม บนใบหน้ารูปไข่ ใจของนันทาสั่นหวิว จะผ่านไปกี่ปีเธอก็ไม่เคยลืมหน้าตาผู้ชายคนนี้ไปได้

วันนั้นในงานแข่งขันกีฬากลุ่มโรงเรียน เธออยู่ป.4 เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เธอเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วเดินพลัดตกหลุมที่มีโคลนจนรองเท้าเธอจม เด็กชายจากโรงเรียนอื่นๆ พากันรุมล้อเธอว่าซุ่มซ่าม เธอเองจะก้มลงไปดึงรองเท้าขึ้นก็กลัวว่าถุงมือจะเปื้อน เด็กชายพวกนั้นต่างก็พากันโห่จนกระทั่งเธอคิดจะทิ้งรองเท้า ดีแต่ว่า เขาเดินผ่านมา แล้วตัดสินใจใช้มือล้วงลงไปในบ่อโคลนแล้วดึงรองเท้าของเธอขึ้นมา
เขาเดินนำเธอไปที่ห้องน้ำ เขาล้างรองเท้าให้เธอก่อนจะสลัด
จนน้ำแห้ง เขาวางรองเท้าให้เธอแล้วรีบวิ่งออกไป เธอจำสันจมูกของเขาได้ เธอจำเสื้อสีขาวอมเหลืองกับกางเกงเก่าคร่ำคร่า เด็กหนุ่มจากโรงเรียนบ้านสวนหลวง นั่นเป็นความรู้สึกดีๆ ครั้งแรกที่มีต่อผู้ชาย



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2555, 08:00:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2555, 08:00:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1622





<< 19. กลับมาโพสต์ให้จบตามคำเรียกร้อง   21. กลับมาโพสต์ให้จบตามคำเรียกร้อง >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 19 ส.ค. 2555, 08:01:19 น.
คุณอ้อยครับ...รู้สึกผิดมากที่ให้รอ...ขอโทษจริง ๆ สัญญาว่าโพสต์จนจบแน่นอนครับ...ขอบคุณจากทุก ๆ คอมเม้นท์นะครับ...


อ้อย 19 ส.ค. 2555, 10:08:15 น.
ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้อ้อยอยู่ต่างประเทศ กะว่ากลับไปแล้วจะสั่งซื้อเป็นเล่มค่ะ
เป็นแฟน ไอ้ม่า กับ สายบัว ด้วยค่ะ


saralun 20 ส.ค. 2555, 10:28:51 น.
^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account