เพทายพ่ายตะวัน
เมื่อเธอคือ กุหลาบแดง แห่ง "เรือนกุหลาบ" และเขาคือ ศัลยแพทย์ ผู้มีฝีปากเชือดเฉือนยิ่งกว่ามีดผ่าตัด..ยุทธการปราบพยศครั้งนี้..มีหัวใจเป็นเดิมพัน!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ผู้แพ้ ๒/๓

บรรยากาศรอบกายดูอึมครึม ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาไปในพริบตา เมื่อผลแพ้ชนะประกาศก้องชัดเจน เพทายเดินหน้านิ่งตรงดิ่งเข้ามาหาต้นเหตุที่ริมสนาม แม้ไม่ได้ปริปากสักคำเดียว เปี่ยมรักก็อ่านสายตารุ่นพี่ออก ว่ากำลังตัดพ้อหล่อนว่า..

เธอทำร้ายฉันทำไม?

ไม่ว่าสายตานั้น จะทอแววออกมาแบบทีเล่นทีจริง หรือหมายความตามที่เห็นตรงๆ เปี่ยมรักก็รู้สึกผิดอย่างมหันต์ ชาวาบไปทั้งใบหน้าลามถึงสันหลัง แถมด้วยขนลุกชัน ทั้งหวั่นเกรง ทั้งสงสาร รุ่นพี่สาว นัยน์ตาของเพทายมีหลากหลายอารมณ์ปะปนกันอยู่ หล่อนจึงต้องรีบขอโทษขอโพยยกใหญ่ แทบจะยกมือไหว้ท่วมหัว ทั้งที่หญิงสาวยังไม่ได้ปริปากว่าอะไรสักคำ

“หนูขอโทษจริงๆพี่เพ ไม่ได้ตั้งใจรบกวนสมาธิ แต่ว่า..มะ มันน่ากลัว อยู่ดีๆก็กระโดดมาเกาะมือหนู พี่ก็รู้ใช่ไหมว่าหนูทั้งกลัว ทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยง..หนู”

“พอๆ หยุดพร่ำพรรณนาได้แล้วย่ะ”
เพทายต้องรีบยกมือห้าม ก่อนที่แก้วหูของหล่อนจะแตกด้วยเสียงแหลมปรี๊ดของเปี่ยมรัก หน้าตา ท่าทาง บรรยายความรู้สึกได้อย่างหมดเปลือกเลยทีเดียว ว่า ทั้งเกลียด..ทั้งขยะแขยง แมลงสาบตัวนั้นอย่างไร

“โอ๊ย ผมหิวจะแย่แล้วครับทุกคน..ไอ้ชัด แกก็หิวแล้วใช่มั้ยล่ะ หน้าตาคร่ำเครียด มา..มาทานมื้อเที่ยงกันเถอะ ผมกับฝอยทองจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”

ศิระพยายามเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อช่วยผู้แพ้เต็มที่ หวังว่าเพื่อนสนิทจะทำเป็นลืมคำท้าของสาวเจ้า ไม่ถือสา หาความอะไรกับผู้หญิง ตามแบบฉบับสุภาพบุรุษที่ดี

ทว่า..ศิระคิดผิดถนัด เขาลืมไปว่า..หากจะหาความเป็นสุภาพบุรุษจากชัดเจน คงเรียกได้ว่ายาก ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรแปซิฟิก

“เฮ้อ! ใครแพ้ก็ต้องรู้จักแพ้ล่ะนะ..ใครพูดอะไรไว้..หวังว่าจะไม่กลืนน้ำลายตัวเอง”
ศิระหันมาสบถพร้อมทำหน้าตาไม่สบอารมณ์ทันที
“ผู้ชายอะไรวะ..เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องทำเป็นจริงเป็นจัง ลืมๆมันไปเหอะ คุณเพเขาแค่แซวเล่นเท่านั้นเอง “

ชัดเจนเอื้อมมือมาตบบ่าเพื่อนสนิทด้วยน้ำหนักแรงพอสมควร พลางยักคิ้วข้างเดียว หลิ่วตาเลยไปยังคู่กรณีที่กำลังยืนทำหน้าคิดไม่ตก อยู่เบื้องหลัง

“แกพูดอย่างนี้ก็ลำเอียงน่ะซีวะ ฉันอยู่ของฉันดีๆ ไม่ได้พูดอะไรซักคำ ใครก็ไม่รู้ยื่นข้อเสนอเข้ามาเอง ไอ้เราจะไม่รับก็ออกเกรงใจ เดี๋ยวคนเสนอเขาจะเสียน้ำใจเปล่าๆ”

ศิระทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ มองหน้าเพื่อนซี้เหมือนกำลังมองอะไรที่ขวางหูขวางตาอย่างยิ่งยวด
“ยังมีหน้ามาพูดนะไอ้ชัด..แกน่ะเหรอไม่ได้พูดอะไรซักคำ ฉันจำได้ว่าแกสบประมาทคุณเพ พูดจาไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด”

ชัดเจนยกยิ้มมุมปาก มีเสียงหัวเราะน้อยๆเล็ดลอดไรฟัน เขากอดอกปั้นหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
เปี่ยมรักเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี หล่อนเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างชายหนุ่มเพื่อนรักที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูกันอยู่รอมร่อ

“ใจเย็นๆกันก่อนค่ะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจา พี่ชัดเจนคะ..หนูว่าเรื่องแพ้ชนะนี่ เราน่าจะประนีประนอมกันได้นะคะ พี่เพเขาอาจจะเผลอพูดด้วยอารมณ์ชั่ววูบ..”

ในขณะที่ต่างคนต่างชักสีหน้า คนประนีประนอมก็พยายามทำน้ำเสียงให้อ่อนโยน สงบจิตสงบใจคนฟังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้..เพทายก็ร้องโอดครวญ เอามือกุมท้องงอก่องอขิง ดึงความสนใจทั้งหมดไปไว้ที่หล่อนผู้เดียว

“โอย..โอย ฉันปะ..ปวดท้องมากเลยคุณเต้”
หล่อนทำเสียง ประกอบท่าทางได้สมจริง จนศิระกับเปี่ยมรักต่างก็พรวดพราดเข้าไปช่วยพยุงตัวให้ทรงอยู่ได้ ไม่หล่นลงไปงอหงายบิดท้องกับพื้น

“เป็นอะไรไปครับคุณเพ?”
“นั่นสิคะ..พี่เพเป็นอะไร?”

เปี่ยมรัก กับ ศิระ ถามขึ้นมาติดๆกัน หน้าตาเป็นกังวลยิ่งกว่าคนเจ็บ
มีเพียงชัดเจน ที่ยังยืนกอดอกกลอกตามองหล่อนเงียบๆ อยู่ที่เดิม ไม่ปราดเข้ามาร่วมวงห่วงใย
นัยน์ตาสีเข้มมีประกายบางอย่างปะปนกับรอยยิ้มขันๆ...ซึ่งเพทายรู้สึกว่ามีแวว “รู้เท่าทัน” ซุกซ่อนอยู่ในนั้น ทว่าหญิงสาวก็ยังดำเนินการแสดงต่อไปอย่างสมบทบาท และแนบเนียนที่สุด

“สงสัย ส้มตำเมื่อเช้าจะทำพิษน่ะค่ะคุณเต้..”
หล่อนตอบศิระ พลางหันมาส่งสายตาขอความเห็นใจ และความช่วยเหลือจากเปี่ยมรัก
เมื่อเห็นรุ่นน้องยังทำท่าเหมือนอึ้ง ทึ่ง และงุนงงอยู่ ไม่สามารถรับสารบางอย่างที่หล่อนส่งให้ได้ หญิงสาวเลยจำต้องสานต่อเอาเอง

“โอย..ไม่ไหวแล้วค่ะ..เรื่องอื่นค่อยว่ากันนะคะ เดี๋ยวฉันมาเคลียร์..แต่ตอนนี้ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน ไม่งั้นราดมันตรงนี้แน่ๆ โอย”

“คร้าย..เค้าจะโง่ อุตริไปกินส้มตำตั้งแต่เช้า..”
ชัดเจนส่งเสียงกลั้วหัวเราะตะโกนไล่หลังหญิงสาว

“ท่าทางอวดดี..เอ้ย..ไม่ใช่”
เขาเพิ่มระดับเสียงขึ้นไปอีก เพื่อให้แน่ใจว่าหล่อนจะได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ

“ท่าทางฉลาดออกอย่างนั้น..ไม่น่าคิดอะไรโง่ๆ”

“หยุดได้แล้วไอ้ชัด..แกนี่มันใจร้ายจริงๆ คุณเพเขาเป็นผู้หญิงนะโว้ย!”
ศิระแหวขึ้นมาอย่างเหลืออด ในขณะที่เปี่ยมรักยังงุนงงกับอาการของรุ่นพี่ไม่หาย

“เออ..ฉันรู้แล้วว่าเป็นผู้หญิง แกจะย้ำทำไมนักหนา”
ท่าทางชะเง้อชะแง้ของเปี่ยมรัก ทำให้ชัดเจนมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมากะทันหัน เขายกยิ้มที่มุมปากสองข้าง ก่อนเอ่ย

“ฉันว่าแกน่ะ ชักจะลืมประเด็นสำคัญไปแล้วนะไอ้เต้..รู้สึกจะเป็นห่วงยายซาลาเปา”
แววตาขุ่นเขียวของศิระทำให้ชัดเจนต้องรีบเปลี่ยนคำพูด

“เป็นห่วงคุณเพเขามากเกินไป..อย่าลืมนะว่าเย็นนี้บอกเจ้าของบ้านไว้ว่ายังไง”
ศิระเลิกคิ้วฉงน

“บอกอะไรของแกวะ?”
ชัดเจนตบบ่าเพื่อน กระตุ้นเตือนด้วยเสียงดังฟังชัด เผื่อแผ่ไปถึงหญิงสาวอีกคน

“ดินเนอร์กับน้องสาวเขาไง..ฉันว่า คุณเพทายน่ะ คงอีกนาน กว่าเขาจะออกจากห้องน้ำ หรือไม่งั้นก็ไม่ออกมาเลยยันพรุ่งนี้เช้า...”
เสียงสุดท้ายมีแววหมายมั่นประหลาดเมื่อเอ่ย..

“ทางนี้ฉันดูแลเอง..เผื่อถึงขั้นต้องหามส่งโรงพยาบาล แกกับน้องเปี่ยมรัก ไปดินเนอร์กันให้สบายใจเถอะ...ยังไงฉันก็ต้องอยู่รอทวงค่าตอบแทนจากเขาแน่นอน!”



ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ส.ค. 2555, 07:40:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2556, 07:03:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1818





<< บทที่ ๕ ผู้แพ้ ๑/๓   บทที่ ๕ ผู้แพ้ ๓/๓ >>
หมีสีชมพู 21 ส.ค. 2555, 17:09:52 น.
ทำไมเพทายเดินหนีไปดื้อๆ ซะงั้น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account