ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 24.1“แฟนเก่าพี่ คนที่คบหากันก่อนที่พี่จะกลับมาอยู่นครสวรรค์...”
ตอนที่ 24
อนงค์นางตื่นแต่เช้ามืดเพื่อใส่บาตรพระที่เดินบิณฑบาตผ่านหน้าร้านกับแม่ ช่วงรอพระ หญิงสาวมองไปที่ตู้รับหนังสือพิมพ์และพอเห็นรูปกับข้อความจากหญิงนิรนาม ใจของอนงค์นางเต้นไม่เป็นส่ำ..
จากที่ตั้งใจว่าอาบน้ำแต่งตัวแล้วอนงค์นางจะไปทำงานที่บ้านของวิษณุจักรต่อ หญิงสาวก็โทรหาจรินนาเพื่อต้องการปรึกษาเรื่องรูปใบนี้...
ตอนสายของวัน เมื่อจรินนาเห็นรูปและข้อความที่ด้านหลัง หญิงสาวก็ถอนหายใจเบา ๆ
“ดีนะที่พ่อกับแม่ยังไม่เห็น ไม่เห็นเป็นเรื่องแน่ ๆ”
“คนทำจงใจให้พ่อแม่นางรู้ และต้องการให้นางรู้ เพื่อที่จะได้เลิกคบกับพี่จักร เลิกคบทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้กินพี่จักรหรอก...” จรินนาคาดเดา
“แต่เราไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่น่ะลึกซึ้งแค่ไหน”
“พี่ว่าผู้หญิงขายตัวชัวร์ อาศัยช่วงที่พี่จักรหลับกดโทรศัพท์มือถือไว้...ถ้ามันมีรูปมากกว่านี้ มันก็คงงัดออกมาป่วนมากกว่านี้แหละ”
“คนสกปรก” อนงค์นางหมายถึงวิษณจักรผู้ชายหน้าใส่ที่มากตัณหา
“ผู้ชายแท้ ๆ มันก็อย่างนี้แหละนาง ขาวใสบริสุทธิ์ก็ไม่รู้ว่าจะเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่าอีก”
“แบบนี้ก่อนจะแต่งงานกันนางจะต้องให้ไปตรวจเลือดแล้ว”
“แต่งงานกัน” จรินนาชักสีหน้าครุ่นคิด... “คนที่ไม่อยากให้พี่จักรแต่งงานกับนางก็มีแต่มีของพี่จักรเท่านั้น”
“พี่จินหมายความว่า แม่พี่จักรน่าจะอยู่เบื้องหลังรูปนี้เหรอคะ”
“แต่แม่พี่จักรไปรู้จักผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร ถามพี่จักรเลยดีกว่านาง”
“ดูไปสักพักดีกว่า นางอยากรู้ว่าจะมีอะไรจะตามมาอีก แต่วันนี้นางไม่มีอารมณ์ทำงานแล้ว เซ็งมาก”
“พี่ว่าเอารูปใบนี้ไปให้พี่จักร ให้เขาคิดแก้ไขปัญหาดีกว่า เขาต้องรู้จักผู้หญิงคนนี้ เขาจะได้ไปจัดการซะ...รีบ ๆ ทำเถอะ จะได้ไม่ต้องมาเสียอารมณ์อยู่อย่างนี้”
อนงค์นางนิ่วหน้า...ก่อนจะบอกว่า
“วันนี้นางจะยังไม่ไปที่บ้านพี่จักรจนกว่าเขาจะโทรมาแล้วกันนะ ของอนอยู่ที่บ้านพี่จินก่อน...พี่จินไม่ได้ออกไปไหนนะ”
“ไม่ออกก็ได้..”
“แล้วนางกินข้าวเช้ามาหรือยัง”
“กลืนอะไรไม่ลงเลย”
“งั้นก็เข้าครัวเถอะ”
ระหว่างนั่งชิมฝีมือทำอาหารของจรินนาอยู่ในครัว อนงค์นาก็สอบถามประวัติของจรินนา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคุยกันสาว ๆ ย่อมต้องการลงลึกไปในเรื่องของหัวใจที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาแล้ว
นางสำลีโทรมารายงานวิษณุจักรว่าวันนี้อนงค์นางยังไม่เข้ามาที่บ้าน วิษณุจักรที่กำลังวุ่นกับเรื่องงานภายในของโรงแรมหิมวันต์จึงรีบโทรศัพท์เข้าเบอร์อนงค์นางทันที “น้องนางอยู่ที่ไหนครับ”
“นาง...” ใจของอนงค์นางที่หมดศรัทธาในตัวเขาอยากจะตอบแบบรวนระบายความรู้สึกขยะแขยงคนปลายสาย แต่อีกใจอนงค์นางก็รักเขาเกินกว่าจะทำอย่างนั้น
“เป็นอะไร...ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมไม่เข้าไปทำงานต่อละ นางอยู่ที่ไหน”
“นางมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“มีคนส่งรูปพี่จักรนอนถอดเสื้ออยู่บนเตียงมาให้นาง หลังรูปเขียนว่า ไม่อยากมีปัญหาก็อย่ายุ่งกับผัวฉัน” บอกเขาด้วยน้ำเสียงสะบัด ๆ ไปแล้วอนงค์นางก็ได้ยินเสียงตกใจของเขา
“แล้วทำไมนางไม่โทรหาพี่ตั้งแต่เช้า นางได้รูปมาเมื่อไหร่”
“นางไม่อยากยุ่งกับผัวชาวบ้านค่ะ”
“พี่ยังไม่เคยมีเมียนะนาง”
“ก็นั่งคนที่นั่งหน้าสวยอยู่นี่ละคะใครกัน?”
“นางอยู่บ้านเหรอ พี่จะไปหานะ”
“ทำงานเถอะค่ะ อย่าเอาเรื่องนี้มาทำให้เสียงานเลย”
“พี่ทำงานไม่ได้หรอก มันเรื่องใหญ่สำหรับเราเลยนะนาง...ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน หรือว่านางจะเอารูปใบนั้นมาให้พี่ดู”
“อยู่บ้านพี่จินค่ะ....”
“โอเค งั้นไม่เกินครึ่งชั่วโมงพี่ถึงบ้านคุณจิน แล้วคุณบรรจงอยู่หรือเปล่า ใครรู้เรื่องนี้แล้วมั่ง”
“ตอนนี้มีนางกับพี่จินรู้ แต่ไม่รู้ว่าแม่นี่ไปป่วนอะไรไว้ตรงไหนอีก...”
วิษณุจักรรีบไปที่บ้านของจรินนาและเมื่อเห็นรูปเขาก็ถึงกับนิ่วหน้า...
“คิดออกไหมคะว่าใคร” อนงค์นางยังคงหน้างอง้ำทั้งที่จรินนาได้บอกไว้ก่อนจะขึ้นไปบนห้องพักเพื่อให้ทั้งสองคนอยู่กันตามลำพังว่า “ให้ใจเย็นๆ อย่าเอาแต่ตะบึงตะบอนใจร้อนวู่วาม”
“คงจะมีเยอะมากจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร”
“พี่ขอตัวเดี๋ยวนะ” ว่าแล้ววิษณุจักรก็เดินออกไปนอกบ้านก่อนจะเลื่อนเบอร์โทรศัพท์ของหน่อยขึ้นมา แต่ว่าเมื่อโทรไปแล้วมีเสียงตอบกลับมาว่า “หมายเลขที่ท่านเรียก...” วิษณุจักรก็รู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมาก
เขาเจอหน่อยในเธคแล้วเขาจะไปตามหาหน่อยเพื่อคุยเรื่องนี้ได้อย่างไร...มันเป็นสงครามจิตวิทยาชัด ๆ
วิษณุจักรเดินกลับเข้ามาในบ้านสีหน้านั้นเต็มไปด้วยความกังวล...
“เขาชื่อหน่อย พี่เจอเขาในเธค เป็นเที่ยวเด็กขายน่ะ พี่เคยเจอเขาหนสองหนเท่านั้นนะ แล้วไม่ได้เจอเขานานมากแล้ว เขาพยายามตื้อพี่อยู่เหมือนกัน แต่พี่ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้” วิษณุจักรเล่าให้อนงค์นางเข้าใจแกม ๆ ปรึกษา แต่ว่าความหวาดระแวงในตัวเขาทำให้อนงค์นางพูดว่า
“นอกจากหน่อยแล้วมีใครอีกกี่คนคะ...นางจะได้ระวังตัวไว้”
วิษณุจักรพ่นลมหายใจออกจากปาก
“พี่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะรู้จักนาง”
“เราเพิ่งรู้จักกันค่ะ”
“พี่ก็มีเบี้ยบ้ายรายทางตามประสาหนุ่มโสดบ้าง...แต่พี่ไม่ได้จริงจังอะไรกับใครนะนาง นางต้องเข้าใจพี่นะ”
“เข้าใจค่ะ”
“เข้าใจแล้วทำไมยังหน้าบึ้งตึงอยู่อีก”
“ถ้าพี่จักรเป็นนาง พี่จักรก็คงยิ้มไม่ออกหรอกค่ะ แล้วอีกอย่าง นางก็ไม่รู้ว่าแม่หน่อยนี่จะมาไม้ไหนอีก นางเสียวพิษรักแรงหึงหวงจะทำให้แม่นี่หน้ามืดตามัวเอาน้ำกรดมาสาดหน้านาง ทีนี้นางจะทำอย่างไร”
“หน่อยเขาไม่..” พอจะแก้ตัวให้หน่อย สายตาของอนงค์นางก็วาบวับขึ้นอีก
“แล้วพี่โทรคุยกับเขาหรือยัง”
“เขาปิดเครื่องหนีไปแล้ว”
“รีบเคลียร์กับเขาแล้วกันค่ะ...คนอื่นของพี่ด้วย”
วิษณุจักรพยักหน้าอย่างครุ่นคิด...
“พี่กลับไปทำงานเถอะค่ะ”
“แล้วงานที่บ้านพี่ นางก็กลับไปทำซิ”
“วันนี้คงไม่แล้วค่ะ จะออกไปข้างนอกกับพี่จิน หาอะไรกินกันแก้เซ็ง”
“ฝากบอกคุณจินด้วยนะว่าพี่ขอบใจที่ช่วยดูแลนาง”
“ค่ะ”
“พี่รักนางนะครับ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้นางต้องอารมณ์เสียเพราะเรื่องแบบนี้อีก”
“ค่ะ” อยากจะหลุดยิ้มให้เขาแต่ว่าอนงค์นางก็ยังหน้าปั้นหน้าบึ้งตึงต่อไป
“ยิ้มให้พี่หน่อยซิครับ นางไม่ยิ้มพี่คงไปทำงานอย่างไม่มีความสุขแน่”
พอเขาบอกอย่างนี้อนงค์นางจะแสยะยิ้มให้เขาแล้วก็กลับมาทำหน้าบึ้งตึงอีกแล้วก็แสยะยิ้มอีก ทีนี้วิษณุจักรหัวพรืดออกมา...แล้วก็โปรยยาหอมก่อนจะออกจากบ้านไปว่า
“นางน่ารักอย่างนี้ซิน่าพี่ถึงอยากจะแต่งงานกับนางอยู่กับนางตลอดไปเหลือเกิน”
ขับรถออกมาจากหน้าบ้านของจรินนาแล้ววิษณุจักรก็หยุดรถโทรสั่งงานลูกน้องพลางครุ่นคิดว่าเขาจะไปตามหาหน่อยได้ที่ไหนกัน หน่อยกับเขานั้นเคยเจอกันมากกว่าครั้งสองครั้ง เคยออกไปกินข้าวและดูหนังด้วยกันเพราะหน่อยนั้นสวย ฉลาด พูดจาทำให้เขาหัวเราะมีความสุขได้เช่นเดียวกับอนงค์นาง แต่ว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังกับหน่อยถึงขนาดจะพาเข้าบ้าน แต่งงานยกระดับหน่อยมาเป็นแม่ของลูก และหน่อยก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ทำไมหน่อยถึงได้หักหลังเขาแบบนี้...มันน่าจะมีสาเหตุ
วิษณุจักรครุ่นคิดไม่ตกจริง ๆ ว่าหน่อยทำอย่างนี้ทำไม เขาออกรถไปข้างหน้า กระทั่งผ่านวิทยาลัยที่หน่อยบอกเขาว่าเรียนอยู่ ถ้าเข้าไปถามถึงคนชื่อหน่อยจากอาจารย์มันก็มีเป็นร้อยเป็นพันหน่อย เพราะคนชื่อ น. เยอะแยะไปหมด หน่อย นาง หนิง..
หนิง หนิงแฟนของสราวุฒิก็เรียนที่นี่นี่นา...
วิษณุจักรรีบขับรถกลับไปโรงแรมทันที
“มีอะไรกับผมเหรอครับ..” สราวุฒิแปลกใจที่เห็นวิษณุจักรเดินเข้ามาหาและขอ
เวลาคุยด้วย
“ขอเบอร์หนิงได้ไหมครับ พอดีผมมีเรื่องกับเด็กในวิทยาลัยเผื่อหนิงจะรู้จักเด็กคนนั้น”
สราวุฒิดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะค้นหาเบอร์หนิงและบอกวิษณุจักรไป พอได้เบอร์มาแล้ววิษณุจักรก็โทรหาหนิงทันที...
“สวัสดีค่ะ จรินนาค่ะ” ด้วยเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เซฟไว้จรินนาจึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากแต่ว่าหญิงสาวก็ต้องกดรับเพราะว่ากำลังนั่งกินอาหารเวียดนามอยู่ในร้านกับอนงค์นาง
“สวัสดีครับ...ทำอะไรอยู่ครับ”
“ใครคะ”
“จินนี่ พี่เองครับ” จินนี่ ชื่อนี้ของเธอเพื่อนที่อเมริกาจะเรียกขานกัน และมีเขาคนเดียวเท่านั้นที่ทอดน้ำเสียงแบบนี้...
“พี่นนท์”
“ดีใจจังเลยที่จินนี่จำเสียงพี่นนท์ได้”
“มีอะไรคะ” พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครน้ำเสียงของจรินนาก็บ่งบอกอารมณ์ไม่อยากจะคุยกับเขาทันที
“พี่กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วนะ”
“เอาเบอร์จินมาจากไหน” จรินนาไม่ได้อยากรู้ว่าเขากลับเมื่อไหร่ กลับมาทำไม เธอไม่อยากรู้เรื่องของเขาสักนิด...เพราะเขาทำเธอเจ็บเสียจนเธอไม่คิดจะจำชื่อของเขาเสียด้วยซ้ำ
“คนดังขนาดจินหาเบอร์ไม่ยากหรอกครับ”
“ค่ะ...แค่นี้นะคะ จินไม่สะดวกคุยด้วย” บอกเขาไปแล้วจรินนาก็ตัดสายเขาทิ้งทันที...และสายตามีคำถามของอนงค์นางก็ทำให้จรินนาที่หน้าบึ้งขึ้นมาผิดกับก่อนรับโทรศัพท์ต้องอธิบาย
“แฟนเก่าพี่ คนที่คบหากันก่อนที่พี่จะกลับมาอยู่นครสวรรค์...”
อนงค์นางตื่นแต่เช้ามืดเพื่อใส่บาตรพระที่เดินบิณฑบาตผ่านหน้าร้านกับแม่ ช่วงรอพระ หญิงสาวมองไปที่ตู้รับหนังสือพิมพ์และพอเห็นรูปกับข้อความจากหญิงนิรนาม ใจของอนงค์นางเต้นไม่เป็นส่ำ..
จากที่ตั้งใจว่าอาบน้ำแต่งตัวแล้วอนงค์นางจะไปทำงานที่บ้านของวิษณุจักรต่อ หญิงสาวก็โทรหาจรินนาเพื่อต้องการปรึกษาเรื่องรูปใบนี้...
ตอนสายของวัน เมื่อจรินนาเห็นรูปและข้อความที่ด้านหลัง หญิงสาวก็ถอนหายใจเบา ๆ
“ดีนะที่พ่อกับแม่ยังไม่เห็น ไม่เห็นเป็นเรื่องแน่ ๆ”
“คนทำจงใจให้พ่อแม่นางรู้ และต้องการให้นางรู้ เพื่อที่จะได้เลิกคบกับพี่จักร เลิกคบทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้กินพี่จักรหรอก...” จรินนาคาดเดา
“แต่เราไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่น่ะลึกซึ้งแค่ไหน”
“พี่ว่าผู้หญิงขายตัวชัวร์ อาศัยช่วงที่พี่จักรหลับกดโทรศัพท์มือถือไว้...ถ้ามันมีรูปมากกว่านี้ มันก็คงงัดออกมาป่วนมากกว่านี้แหละ”
“คนสกปรก” อนงค์นางหมายถึงวิษณจักรผู้ชายหน้าใส่ที่มากตัณหา
“ผู้ชายแท้ ๆ มันก็อย่างนี้แหละนาง ขาวใสบริสุทธิ์ก็ไม่รู้ว่าจะเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่าอีก”
“แบบนี้ก่อนจะแต่งงานกันนางจะต้องให้ไปตรวจเลือดแล้ว”
“แต่งงานกัน” จรินนาชักสีหน้าครุ่นคิด... “คนที่ไม่อยากให้พี่จักรแต่งงานกับนางก็มีแต่มีของพี่จักรเท่านั้น”
“พี่จินหมายความว่า แม่พี่จักรน่าจะอยู่เบื้องหลังรูปนี้เหรอคะ”
“แต่แม่พี่จักรไปรู้จักผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร ถามพี่จักรเลยดีกว่านาง”
“ดูไปสักพักดีกว่า นางอยากรู้ว่าจะมีอะไรจะตามมาอีก แต่วันนี้นางไม่มีอารมณ์ทำงานแล้ว เซ็งมาก”
“พี่ว่าเอารูปใบนี้ไปให้พี่จักร ให้เขาคิดแก้ไขปัญหาดีกว่า เขาต้องรู้จักผู้หญิงคนนี้ เขาจะได้ไปจัดการซะ...รีบ ๆ ทำเถอะ จะได้ไม่ต้องมาเสียอารมณ์อยู่อย่างนี้”
อนงค์นางนิ่วหน้า...ก่อนจะบอกว่า
“วันนี้นางจะยังไม่ไปที่บ้านพี่จักรจนกว่าเขาจะโทรมาแล้วกันนะ ของอนอยู่ที่บ้านพี่จินก่อน...พี่จินไม่ได้ออกไปไหนนะ”
“ไม่ออกก็ได้..”
“แล้วนางกินข้าวเช้ามาหรือยัง”
“กลืนอะไรไม่ลงเลย”
“งั้นก็เข้าครัวเถอะ”
ระหว่างนั่งชิมฝีมือทำอาหารของจรินนาอยู่ในครัว อนงค์นาก็สอบถามประวัติของจรินนา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคุยกันสาว ๆ ย่อมต้องการลงลึกไปในเรื่องของหัวใจที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาแล้ว
นางสำลีโทรมารายงานวิษณุจักรว่าวันนี้อนงค์นางยังไม่เข้ามาที่บ้าน วิษณุจักรที่กำลังวุ่นกับเรื่องงานภายในของโรงแรมหิมวันต์จึงรีบโทรศัพท์เข้าเบอร์อนงค์นางทันที “น้องนางอยู่ที่ไหนครับ”
“นาง...” ใจของอนงค์นางที่หมดศรัทธาในตัวเขาอยากจะตอบแบบรวนระบายความรู้สึกขยะแขยงคนปลายสาย แต่อีกใจอนงค์นางก็รักเขาเกินกว่าจะทำอย่างนั้น
“เป็นอะไร...ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมไม่เข้าไปทำงานต่อละ นางอยู่ที่ไหน”
“นางมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“มีคนส่งรูปพี่จักรนอนถอดเสื้ออยู่บนเตียงมาให้นาง หลังรูปเขียนว่า ไม่อยากมีปัญหาก็อย่ายุ่งกับผัวฉัน” บอกเขาด้วยน้ำเสียงสะบัด ๆ ไปแล้วอนงค์นางก็ได้ยินเสียงตกใจของเขา
“แล้วทำไมนางไม่โทรหาพี่ตั้งแต่เช้า นางได้รูปมาเมื่อไหร่”
“นางไม่อยากยุ่งกับผัวชาวบ้านค่ะ”
“พี่ยังไม่เคยมีเมียนะนาง”
“ก็นั่งคนที่นั่งหน้าสวยอยู่นี่ละคะใครกัน?”
“นางอยู่บ้านเหรอ พี่จะไปหานะ”
“ทำงานเถอะค่ะ อย่าเอาเรื่องนี้มาทำให้เสียงานเลย”
“พี่ทำงานไม่ได้หรอก มันเรื่องใหญ่สำหรับเราเลยนะนาง...ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน หรือว่านางจะเอารูปใบนั้นมาให้พี่ดู”
“อยู่บ้านพี่จินค่ะ....”
“โอเค งั้นไม่เกินครึ่งชั่วโมงพี่ถึงบ้านคุณจิน แล้วคุณบรรจงอยู่หรือเปล่า ใครรู้เรื่องนี้แล้วมั่ง”
“ตอนนี้มีนางกับพี่จินรู้ แต่ไม่รู้ว่าแม่นี่ไปป่วนอะไรไว้ตรงไหนอีก...”
วิษณุจักรรีบไปที่บ้านของจรินนาและเมื่อเห็นรูปเขาก็ถึงกับนิ่วหน้า...
“คิดออกไหมคะว่าใคร” อนงค์นางยังคงหน้างอง้ำทั้งที่จรินนาได้บอกไว้ก่อนจะขึ้นไปบนห้องพักเพื่อให้ทั้งสองคนอยู่กันตามลำพังว่า “ให้ใจเย็นๆ อย่าเอาแต่ตะบึงตะบอนใจร้อนวู่วาม”
“คงจะมีเยอะมากจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร”
“พี่ขอตัวเดี๋ยวนะ” ว่าแล้ววิษณุจักรก็เดินออกไปนอกบ้านก่อนจะเลื่อนเบอร์โทรศัพท์ของหน่อยขึ้นมา แต่ว่าเมื่อโทรไปแล้วมีเสียงตอบกลับมาว่า “หมายเลขที่ท่านเรียก...” วิษณุจักรก็รู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมาก
เขาเจอหน่อยในเธคแล้วเขาจะไปตามหาหน่อยเพื่อคุยเรื่องนี้ได้อย่างไร...มันเป็นสงครามจิตวิทยาชัด ๆ
วิษณุจักรเดินกลับเข้ามาในบ้านสีหน้านั้นเต็มไปด้วยความกังวล...
“เขาชื่อหน่อย พี่เจอเขาในเธค เป็นเที่ยวเด็กขายน่ะ พี่เคยเจอเขาหนสองหนเท่านั้นนะ แล้วไม่ได้เจอเขานานมากแล้ว เขาพยายามตื้อพี่อยู่เหมือนกัน แต่พี่ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้” วิษณุจักรเล่าให้อนงค์นางเข้าใจแกม ๆ ปรึกษา แต่ว่าความหวาดระแวงในตัวเขาทำให้อนงค์นางพูดว่า
“นอกจากหน่อยแล้วมีใครอีกกี่คนคะ...นางจะได้ระวังตัวไว้”
วิษณุจักรพ่นลมหายใจออกจากปาก
“พี่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะรู้จักนาง”
“เราเพิ่งรู้จักกันค่ะ”
“พี่ก็มีเบี้ยบ้ายรายทางตามประสาหนุ่มโสดบ้าง...แต่พี่ไม่ได้จริงจังอะไรกับใครนะนาง นางต้องเข้าใจพี่นะ”
“เข้าใจค่ะ”
“เข้าใจแล้วทำไมยังหน้าบึ้งตึงอยู่อีก”
“ถ้าพี่จักรเป็นนาง พี่จักรก็คงยิ้มไม่ออกหรอกค่ะ แล้วอีกอย่าง นางก็ไม่รู้ว่าแม่หน่อยนี่จะมาไม้ไหนอีก นางเสียวพิษรักแรงหึงหวงจะทำให้แม่นี่หน้ามืดตามัวเอาน้ำกรดมาสาดหน้านาง ทีนี้นางจะทำอย่างไร”
“หน่อยเขาไม่..” พอจะแก้ตัวให้หน่อย สายตาของอนงค์นางก็วาบวับขึ้นอีก
“แล้วพี่โทรคุยกับเขาหรือยัง”
“เขาปิดเครื่องหนีไปแล้ว”
“รีบเคลียร์กับเขาแล้วกันค่ะ...คนอื่นของพี่ด้วย”
วิษณุจักรพยักหน้าอย่างครุ่นคิด...
“พี่กลับไปทำงานเถอะค่ะ”
“แล้วงานที่บ้านพี่ นางก็กลับไปทำซิ”
“วันนี้คงไม่แล้วค่ะ จะออกไปข้างนอกกับพี่จิน หาอะไรกินกันแก้เซ็ง”
“ฝากบอกคุณจินด้วยนะว่าพี่ขอบใจที่ช่วยดูแลนาง”
“ค่ะ”
“พี่รักนางนะครับ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้นางต้องอารมณ์เสียเพราะเรื่องแบบนี้อีก”
“ค่ะ” อยากจะหลุดยิ้มให้เขาแต่ว่าอนงค์นางก็ยังหน้าปั้นหน้าบึ้งตึงต่อไป
“ยิ้มให้พี่หน่อยซิครับ นางไม่ยิ้มพี่คงไปทำงานอย่างไม่มีความสุขแน่”
พอเขาบอกอย่างนี้อนงค์นางจะแสยะยิ้มให้เขาแล้วก็กลับมาทำหน้าบึ้งตึงอีกแล้วก็แสยะยิ้มอีก ทีนี้วิษณุจักรหัวพรืดออกมา...แล้วก็โปรยยาหอมก่อนจะออกจากบ้านไปว่า
“นางน่ารักอย่างนี้ซิน่าพี่ถึงอยากจะแต่งงานกับนางอยู่กับนางตลอดไปเหลือเกิน”
ขับรถออกมาจากหน้าบ้านของจรินนาแล้ววิษณุจักรก็หยุดรถโทรสั่งงานลูกน้องพลางครุ่นคิดว่าเขาจะไปตามหาหน่อยได้ที่ไหนกัน หน่อยกับเขานั้นเคยเจอกันมากกว่าครั้งสองครั้ง เคยออกไปกินข้าวและดูหนังด้วยกันเพราะหน่อยนั้นสวย ฉลาด พูดจาทำให้เขาหัวเราะมีความสุขได้เช่นเดียวกับอนงค์นาง แต่ว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังกับหน่อยถึงขนาดจะพาเข้าบ้าน แต่งงานยกระดับหน่อยมาเป็นแม่ของลูก และหน่อยก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ทำไมหน่อยถึงได้หักหลังเขาแบบนี้...มันน่าจะมีสาเหตุ
วิษณุจักรครุ่นคิดไม่ตกจริง ๆ ว่าหน่อยทำอย่างนี้ทำไม เขาออกรถไปข้างหน้า กระทั่งผ่านวิทยาลัยที่หน่อยบอกเขาว่าเรียนอยู่ ถ้าเข้าไปถามถึงคนชื่อหน่อยจากอาจารย์มันก็มีเป็นร้อยเป็นพันหน่อย เพราะคนชื่อ น. เยอะแยะไปหมด หน่อย นาง หนิง..
หนิง หนิงแฟนของสราวุฒิก็เรียนที่นี่นี่นา...
วิษณุจักรรีบขับรถกลับไปโรงแรมทันที
“มีอะไรกับผมเหรอครับ..” สราวุฒิแปลกใจที่เห็นวิษณุจักรเดินเข้ามาหาและขอ
เวลาคุยด้วย
“ขอเบอร์หนิงได้ไหมครับ พอดีผมมีเรื่องกับเด็กในวิทยาลัยเผื่อหนิงจะรู้จักเด็กคนนั้น”
สราวุฒิดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะค้นหาเบอร์หนิงและบอกวิษณุจักรไป พอได้เบอร์มาแล้ววิษณุจักรก็โทรหาหนิงทันที...
“สวัสดีค่ะ จรินนาค่ะ” ด้วยเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เซฟไว้จรินนาจึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากแต่ว่าหญิงสาวก็ต้องกดรับเพราะว่ากำลังนั่งกินอาหารเวียดนามอยู่ในร้านกับอนงค์นาง
“สวัสดีครับ...ทำอะไรอยู่ครับ”
“ใครคะ”
“จินนี่ พี่เองครับ” จินนี่ ชื่อนี้ของเธอเพื่อนที่อเมริกาจะเรียกขานกัน และมีเขาคนเดียวเท่านั้นที่ทอดน้ำเสียงแบบนี้...
“พี่นนท์”
“ดีใจจังเลยที่จินนี่จำเสียงพี่นนท์ได้”
“มีอะไรคะ” พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครน้ำเสียงของจรินนาก็บ่งบอกอารมณ์ไม่อยากจะคุยกับเขาทันที
“พี่กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วนะ”
“เอาเบอร์จินมาจากไหน” จรินนาไม่ได้อยากรู้ว่าเขากลับเมื่อไหร่ กลับมาทำไม เธอไม่อยากรู้เรื่องของเขาสักนิด...เพราะเขาทำเธอเจ็บเสียจนเธอไม่คิดจะจำชื่อของเขาเสียด้วยซ้ำ
“คนดังขนาดจินหาเบอร์ไม่ยากหรอกครับ”
“ค่ะ...แค่นี้นะคะ จินไม่สะดวกคุยด้วย” บอกเขาไปแล้วจรินนาก็ตัดสายเขาทิ้งทันที...และสายตามีคำถามของอนงค์นางก็ทำให้จรินนาที่หน้าบึ้งขึ้นมาผิดกับก่อนรับโทรศัพท์ต้องอธิบาย
“แฟนเก่าพี่ คนที่คบหากันก่อนที่พี่จะกลับมาอยู่นครสวรรค์...”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ส.ค. 2555, 12:27:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ส.ค. 2555, 12:27:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 2449
<< 23.2 “ผมไม่เคยคิดอะไรกับเขาเกินศิษย์กับครูครับ” | 24.2 “แล้วเธอบอกเขาไปหรือเปล่าว่าใครอยู่เบื้องหลัง” >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 24 ส.ค. 2555, 12:28:35 น.
มาหลังอาหารเที่ยง พอดีเมื่อวาน ไม่ได้ทำงานเลยครับ วุ่นวายกับภาระกิจครอบครัว...ตอนแรกบอกว่าโค้งสุดท้ายเขียนไปเขียนมาดันเห็นอีกโค้ง...อว๊ากกกก //ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจเช่นเดิมครับ.....
มาหลังอาหารเที่ยง พอดีเมื่อวาน ไม่ได้ทำงานเลยครับ วุ่นวายกับภาระกิจครอบครัว...ตอนแรกบอกว่าโค้งสุดท้ายเขียนไปเขียนมาดันเห็นอีกโค้ง...อว๊ากกกก //ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจเช่นเดิมครับ.....


คิมหันตุ์ 24 ส.ค. 2555, 13:03:21 น.
ห้าห้าาาาาาา มาวัดอาจารย์ซะงั้น
ห้าห้าาาาาาา มาวัดอาจารย์ซะงั้น

nateetip 24 ส.ค. 2555, 13:06:43 น.
อ้ากกกก..น่ารักค่ะ
อ้ากกกก..น่ารักค่ะ


sai 24 ส.ค. 2555, 14:23:09 น.
ง่ะ ปัญหาดูท่าว่าจะไม่เข้านางกับจักรคู่เดียวซะแล้วววว
ง่ะ ปัญหาดูท่าว่าจะไม่เข้านางกับจักรคู่เดียวซะแล้วววว

imsoul 24 ส.ค. 2555, 14:38:15 น.
สู้อาจารย์ไม่ได้หรอก 5555
สู้อาจารย์ไม่ได้หรอก 5555

nutcha 24 ส.ค. 2555, 14:46:10 น.
เคลียร์ให้ไวเลยพี่จักร พี่ต้นกล้วยแหนเก่าจินกลับมาแล้วรีบจัดการด่วน
เคลียร์ให้ไวเลยพี่จักร พี่ต้นกล้วยแหนเก่าจินกลับมาแล้วรีบจัดการด่วน

หนอนฮับ 24 ส.ค. 2555, 15:04:03 น.
โย่ว....หึๆๆ ยัยหน่อย สงสัยคงจะโดนไม่หน่อยแระ
โย่ว....หึๆๆ ยัยหน่อย สงสัยคงจะโดนไม่หน่อยแระ

konhin 24 ส.ค. 2555, 15:28:46 น.
หึๆๆ ปัญหาระดับช้าง จัดการให้ได้นะคะ
หึๆๆ ปัญหาระดับช้าง จัดการให้ได้นะคะ

nunoi 24 ส.ค. 2555, 17:24:13 น.
อาจารย์กล้วย รีบทำคะแนนด่วนนน
อาจารย์กล้วย รีบทำคะแนนด่วนนน

invisible 24 ส.ค. 2555, 20:08:14 น.
จักรไม่ได้งานเข้าคนเดียวซะแล้ว 55
จักรไม่ได้งานเข้าคนเดียวซะแล้ว 55

Zephyr 24 ส.ค. 2555, 22:16:59 น.
งานงอกหลายคู่นา
แต่แหม พี่จักรไม่ได้คิดอะไร แต่....ทำไมยังเก็บเบอร์หน่อยไว้ละคะ!!!!!
งานงอกหลายคู่นา
แต่แหม พี่จักรไม่ได้คิดอะไร แต่....ทำไมยังเก็บเบอร์หน่อยไว้ละคะ!!!!!

Orathai 25 ส.ค. 2555, 15:34:40 น.
ดูเอาเองนะหนูจิน อย่าให้อาจารย์กล้วยเสียใจนะ
ดูเอาเองนะหนูจิน อย่าให้อาจารย์กล้วยเสียใจนะ