ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 24.2 “แล้วเธอบอกเขาไปหรือเปล่าว่าใครอยู่เบื้องหลัง”

24.2


“สวัสดีค่ะพี่จักรมีอะไรกับหนิงเหรอคะ”

“หนิงรู้จักคนชื่อหน่อยไหม” พอได้ยินคำถามของวิษณุจักรหนิงขมวดคิ้วเข้าหากันทันที่ แต่หนิงก็ยังงง ๆ อยู่ว่าทำไมวิษณุจักรถึงได้ถามถึงหน่อย...หน่อยเพื่อนที่เธอพักอยู่ด้วย แต่ฟังจากคำถามแล้ว พี่วิษณุจักรไม่น่าจะรู้ว่าคนที่เธอพักอยู่ด้วยชื่อหน่อย...

“หน่อย หน่อย มีอะไรเหรอคะ”

“เขาเรียนที่เดียวกับหนิง น่าจะอยู่ปีสุดท้ายแล้ว...”

“เอกอะไรคะ” หนิงยังซักทั้งที่มั่นใจว่า หน่อยคนที่วิษณุจักรถามคือหน่อยเพื่อนของตนแน่ ๆ

“พี่ไม่รู้เหมือนกัน พี่รู้แต่ว่าเขาเรียนที่เดียวกับหนิงแล้วเขาก็จะจบปีนี้แล้ว...คือ เขา เขากับพี่เคยมีอะไรกัน แล้วทีนี้ ตอนนี้เขาป่วนพี่กับพี่นางน่ะ”

“ป่วนอย่างไรคะ”

“เขาถ่ายรูปของพี่ไว้ ตอนพี่หลับอยู่บนเตียงมีตัวเขานั่งอยู่ข้าง ๆ นุ่งกระโจมอก เขาส่งรูปนี้ไปที่บ้านพี่นาง เรื่องมันก็เลยปั่นป่วนไปหมดเลย”

“แล้วพี่ไปนอนกับเขาได้อย่างไร”

“พี่..พี่ขอโทษนะที่พี่ต้องบอกหน่อยว่า พี่ซื้อ เราแลกเปลี่ยนกัน”

“แล้วพี่จะให้หนิงทำอย่างไรกับหน่อย”

“พี่อยากรู้ว่าเพื่อนรุ่น ๆ หนิงมีหน่อยกี่คน และแต่ละคนพักที่ไหนบ้าง พี่อยากเจอเขา พี่โทรหาเขา เขาไม่รับสาย...เบอร์เขานะ...” แล้ววิษณุจักรก็บอกเบอร์ของหน่อย ซึ่งเบอร์นี้หนิงรู้ว่าหน่อยเคยใช้ และหน่อยก็ขยันเปลี่ยนเบอร์จนเธอเองก็จัดเก็บไว้ในบันทึกความจำไม่ทันทีเดียว...

“ก็มีหลายหน่อยค่ะ เป็นสิบ ๆ เลย อย่างไรเดี๋ยวหนิงจะพยายามเช็คกับเพื่อน ๆ ก่อนนะคะว่า หน่อยไหนเคยใช้เบอร์นี้ค่ะ...”

“ขอบใจหนิงมากเลยนะ...มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอก”

“ค่ะ...มีแน่ ๆ ค่ะ กำลังอยู่พอดี”

“เรื่องอะไร”

“เรื่องพี่วุฒิ หนิงอยากให้พี่วุฒิหางานประจำทำค่ะ แต่ว่าพี่วุฒิดูจะไม่มั่นใจกับวุฒิการศึกษาของตนเอง พี่เขาจบมาจากวิทยาลัยสงฆ์นะค่ะ พี่ช่วยหน่อยเอ้ย พี่ช่วยหนิงได้ไหมคะ” หลังจากนั้นหนิงก็อธิบายถึงวุฒิปริญญาตรีของสราวุฒิที่ได้มาตั้งแต่สมัยบวชเรียน

“อืม...เขาจบวุฒิครูมานี่ ไม่แน่นะ เผื่อโรงเรียนบางแห่งจะขาดครูสอนศิลปะ เดี๋ยวพี่ถามคนรู้จักให้อีกที แต่ว่าเขาจะทำจริง ๆ เหรอ ไม่ใช่ฝากไปแล้ว เขาไม่ทำนะ คุยกับเขาให้ดี ๆ ก่อน” ที่วิษณุจักรถามอย่างนั้นเพราะไม่สามารถเดาใจหนุ่มที่ดูนิ่ง ๆ แล้วรักงานศิลปะแบบสราวุฒินั้น แท้ที่จริงในใจของเขากำลัง
ต้องการทำอะไรกันแน่

“โอเคค่ะ หนิงจะคุยกับพี่วุฒิให้ดีก่อน แล้วเรื่องหน่อย พี่ไม่ต้องกลัวนะคะ หนิงจะจัดการให้ค่ะ”

วางสายจากวิษณุจักรแล้วหนิงก็นิ่วหน้า..ก่อนจะเลื่อนเบอร์ของเพื่อนที่ใช้เป็นประจำขึ้นมา...

“หน่อยอยู่ไหน”

“ทำไมเหรอ...ห้องคอมฯ ในวิท’ลัย”

“หนิงรู้เรื่องที่หน่อยมีเงินจับจ่ายใช้สอยไม่ยั้งมือแล้วนะ...”

“รู้ได้อย่างไร”

“เล่ามาให้ละเอียดเดี๋ยวนี้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร”

“หนิงบอกมาก่อนหนิงรู้ได้ไง”

“เอาเหอะ บอกได้คำเดียวว่า มันอันตรายมากเลยนะหน่อย รนหาเรื่องจริง ๆ เล่ามาด่วนจะได้หาทางแก้ไขให้..” หนิงนั้นฉลาดพอตัว แล้วในที่สุดหน่อยก็ต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้หนิงฟัง และพอทราบเรื่องแล้ว หน่อยก็ถามหนิงว่า “ตกลงหนิงรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร”

“ตอนนี้หน่อยเก็บเนื้อเก็บตัวเลยนะ เรียน ทำงาน กลับหอแค่นั้น แล้วที่คิดจะทำอะไรบ้า ๆ ลงไปอีกก็อย่าทำ หนิงจะเคลียร์กับพี่จักรและพี่นางให้เอง..และหนิงก็จะไม่บอกกับเขาหรอกว่า เราพักอยู่ด้วยกัน”

เมื่อวางสายจากหน่อยแล้วหนิงก็มองโทรศัพท์ในมืออีกรอบ...แล้วหนิงก็ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าสะพายเพราะคิดว่า ปล่อยเรื่องนี้ไว้สักวันสองวันให้ผู้ชายเจ้าชู้และมีเงินได้รับบทเรียนเสียบ้าง



หลังจากซื้อของสำหรับใช้ในงานทอดกฐินเสร็จเรียบร้อยเดชาพงษ์ก็ชวนจรินนาไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ระหว่างที่นั่งกินอาหารพลางคุยกันด้วยเรื่องทั่ว ๆ ไปตามประสาคนมีใจให้กัน โทรศัพท์มือถือของ จรินนาก็ดังขึ้นอีกรอบ และรอบนี้ก็ยังเป็นเบอร์ที่ยังไม่ได้เซฟเช่นเดิม จรินนานึกถึงอภินนท์ขึ้นมา เขาจะต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์โทรมาแน่ ๆ เพราะเบอร์ที่เขาโทรมาวันนั้นเธอตั้งค่าเป็นบัญชีดำไปแล้ว
เดชาพงษ์มองหน้าจรินนาพลางใช้สายตาตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ยอมรับสาย...

“ขอตัวเดี๋ยวนะคะ” แล้วจรินนาก็ลุกขึ้นเดินออกไปรับสายซึ่งห่างพอที่เดชาพงษ์จะไม่ได้ยิน

“สวัสดีค่ะ”

“จินนี่ ฟังพี่ก่อนนะ”

“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วค่ะ ไม่ต้องโทรมาหาจินอีก จินมีแฟนใหม่แล้วค่ะ”

“ใคร”

“คนค่ะ...คนดี ๆ”

“คุยกันดี ๆ ก็ได้นะจินนี่”

“จินก็เป็นของจินแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วนี่คะ”

“พี่รู้ว่าพี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษนะครับ พี่อยากเริ่มต้นกับจินนี่อีกสักครั้ง ให้โอกาสพี่นะครับ”

“ไม่ค่ะ จบแล้ว แล้วจินก็บอกพี่นนท์ไปแล้วว่าจินมีแฟนใหม่แล้ว แล้วเราก็กำลังจะแต่งงานกันด้วยค่ะ”

“เหรอ...ถึงขนาดนั้นเลย”

“ค่ะ...ถ้ารับทราบแล้ว เข้าใจแล้ว ก็ไม่ต้องโทรมาหาจินอีกนะคะ จินไม่อยากได้ยินเสียงพี่นนท์อีกและไม่อยากเจอหน้าอีก..แค่นี้นะคะ”

วางสายจากอภินนท์แล้วจรินนาก็ถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะเดินตรงไปห้องน้ำ หญิงสาวหายไปพักใหญ่ก่อนจะกลับมาทรุดตัวลงนั่งมองอาหารที่เอร็ดอร่อยเมื่อครู่เหมือนกับว่ามันเป็นของเหลือที่ไม่น่ากินอีกแล้ว

“เป็นอะไรไปครับ...ใครโทรมาเหรอ” เดชาพงษ์แสดงความใส่ใจและห่วงใยไปให้

“คนเคยรู้สึกดี ๆ ด้วย”

“โทรมาทำไมครับ”

“เพิ่งกลับมาจากอเมริกา โทรมาตื้อ ขอกลับมาคบหากันเหมือนเดิม...”

“ครับ” เดชาพงษ์รู้สึกตื้อขึ้นมาเหมือนกัน

“แต่จินเจ็บแล้วจำค่ะ จินไม่ชอบคนเจ้าชู้ ปากหวานไปทั่วแบบนี้ จินไม่ไหวหรอก”

“ครับ”

“จินเอาเรื่องไม่สบายใจมาให้พี่กล้วยหรือเปล่า”

“ไม่นะ...พี่..เอ่อ” เป็นครั้งแรกที่เขาได้เรียนรู้เรื่องหัวใจในทำนองรักเก่ารักใหม่เช่นกัน...และที่บอกว่าไม่นั้น แท้จริงแล้วใจนั้นกังวล เพราะถ้าเขาคนนั้นกล้าที่จะกลับมา เขาคนนั้น จะต้องเป็นคนมีฐานะทีเดียว และจรินนาก็เคยรักเขามาก่อน และอารมณ์ที่ดูฉุนเฉียวของจรินนานี้เขาก็เดาไม่ออกว่าเกิดจากความรู้สึกอะไรแน่...

“เอ่ออะไรคะ” จรินนามองหน้าเขาที่เกลื่อนความรู้สึกไว้ไม่มิดแล้วยิ้มนิด ๆ

“พี่ไม่ค่อยประสีประสากับเรื่องซับซ้อนแบบนี้หรอก...”

“แล้วถ้าจินจะกลับไปคบกับเขาละคะ” จรินนาลองหยั่งเชิงดู..เดชาพงษ์ทำหน้าครุ่นคิดยิ้มแหย ๆ

ก่อนจะตอบว่า “พี่ก็คงนอนร้องไห้...”

“ขนาดนั้น”

“แต่จินคงไม่ใจร้ายกับพี่หรอกนะ”

“ค่ะจินไม่ใจร้ายกับพี่หรอก...พี่กล้วยน่ารักขนาดนี้ จินจะทำให้นอนร้องไห้ได้อย่างไร”

ใบหน้าของเดชาพงษ์แดงซ่านดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

“พี่ก็ขอสัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้จินร้องไห้เสียใจเพราะเรื่องพวกนี้เหมือนกัน...”

“ดีมากค่ะ...” เมื่ออารมณ์ดีแล้วจรินนาก็เล่นหูเล่นตากับเขาและด้วยเขินกับสายตาของจรินนา เดชาพงษ์จึงตัดบทว่า “งั้นตอนนี้จินก็ช่วยกันลุยไอ้ที่สั่งมาเต็มโต๊ะนี่ก่อนนะ พี่คนเดียวท้องแตกแน่ ๆ”

ฝ่ายอภินนท์เมื่อจรินนาตัดสายทิ้งไปแล้ว เขากลับไม่รู้สึกว่าเรื่องของเขามันควรจะจบอย่างที่ จรินนาต้องการ เขาคิดว่ามันเพิ่งเริ่มต้นมากกว่า และเหตุที่ทำให้เขาต้องกลับมาจากเมืองนอกนั้นก็เพราะธุรกิจของครอบครัวที่กำลังมีปัญหา เงินส่งเสียให้เขาเที่ยวเตร่ไปวัน ๆ จากทางบ้านนั้นหมดลง เขากลับมาแล้ว เขาก็ย่อมหาทางออกให้ตัวเองก่อนที่จะไม่มีอะไรให้เขายึดเหนียว และจรินนาผู้หญิงที่เคยบอกรักเขามากจึงต้องถูกดึงเข้ามา เขาจะต้องมาง้อจรินนาและดึงหัวใจของจรินนาให้กลับมารักเขาเหมือนเดิมให้ได้...



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งแต่หน่อยก็นั่งมองไม่ยอมกดรับสายเพราะไม่รู้จะแก้ตัวกับคุณนายวรนุชว่าอย่างไร

“รับสายเขาซี่” หนิงที่นั่งอ่านเรื่องย่อละครร้องบอกหน่อย แต่หน่อยนั้นสั่นหัวดิกทีเดียว

“หนิงรับให้เอง”

“ไม่ต้อง หน่อยรับเอง” หน่อยคว้าโทรศัพท์มาแล้วพูดเบา ๆ ว่า “สวัสดีค่ะ”

“ทำไมไม่รับสายฉันละแม่คุณ...งานการที่ให้ไปทำน่ะ เป็นอย่างไรบ้างรายงานผลมาหน่อยซิ”

“คุณจักรขู่ว่าจะฆ่าหนูค่ะ” หน่อยเหมือนว่าจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ

“ฮะ อะไรนะ”

“หนูคงทำงานให้คุณนายต่อไปไม่ได้แล้วละคะ คุณจักรเห็นรูป” หน่อยอธิบายเรื่องรูปยืดยาว “แล้วทีนี้ คุณจักรโทรกลับมาบอกว่า ถ้าไม่อยากตายก็ให้หยุดสร้างความร้าวฉาน...หนูกลัวเหลือเกิน...”

“แล้วเธอบอกเขาไปหรือเปล่าว่าใครอยู่เบื้องหลัง”

“เปล่าค่ะเปล่า หนูไม่ได้บอกหรอก หนูบอกแต่ว่าหนูเห็นคุณจักรกับแม่นั่นเดินควงกันในห้างแล้วนึกสนุกน่ะค่ะ แบบพอดีหนูเคยไปทำกรอบรูปที่ร้านนี้ เลยรู้ว่าแม่นั่นอยู่ที่นั่น”

“ดีมาก...แล้วถ้าเธอทำงานนี้ไม่ได้ เธอก็เอาเงินมาคืนฉันด้วย”

“คืนเงิน...เงินหมดไปแล้วค่ะ...ซื้อของหมดไปแล้ว คงคืนไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณนายจะให้หนูทำงานอื่นแลกเงินละพอได้”

“ฉันไม่มีงานอะไรให้เธอทำแล้ว ไร้ความสามารถแบบนี้ ยังมีจะมีหน้ามาเสนอตัวขอทำงาน”

“แต่งานบางอย่างหนูถนัดนะคะ...งานเอาใจผัวคุณนายไงคะ หนูพอไหวนะคะ...”

“เธอ...”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวนะคะ...แล้วอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลยค่ะ กราบลาค่ะ” ไม่แค่วางสายหน่อยกดปิดเครื่องทันที หลังจากนั้นหน่อยก็โยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน

“หัวเร็วดีเหมือนกันนี่” หนิงที่ฟังความอยู่ตลอดเย้าหน่อยยิ้ม ๆ

“ก็พอดีเหลือบไปเห็นหนังสือที่เธออ่านน่ะ...ชีวิตจริงนี่มันน้ำเน่ายิ่งกว่าละครอีกนะ” ว่าแล้วหน่อยก็ถอนหายใจแรง ๆ พลางครุ่นคิดว่า ต่อไปคงจะไม่ประพฤติตัวเหลวไหลให้ต้องมีเรื่องแบบนี้มาพัวพันอีก...



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ส.ค. 2555, 09:01:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ส.ค. 2555, 09:01:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 2382





<< 24.1“แฟนเก่าพี่ คนที่คบหากันก่อนที่พี่จะกลับมาอยู่นครสวรรค์...”   25.“อย่าเสียเวลาเลยค่ะ ไปตามทางของพี่เถอะ” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 25 ส.ค. 2555, 09:03:41 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์หรรษา.... ขอบคุณสำหรับทุก ๆ แรงใจเเรงเชียร์เช่นเดิมครับ จุ๊บ ๆ


invisible 25 ส.ค. 2555, 09:06:58 น.
คุณนายต้องหาแผนใหม่แล้วอ่ะจิ


innam 25 ส.ค. 2555, 09:20:59 น.
มารมาผจญ


imsoul 25 ส.ค. 2555, 09:23:54 น.
งานเข้าๆๆๆๆ


คิมหันตุ์ 25 ส.ค. 2555, 09:29:14 น.
คุณนายนี่ตามผลงานตลอด!!


nateetip 25 ส.ค. 2555, 09:36:40 น.
ขำและน่ารักมากกก..


konhin 25 ส.ค. 2555, 10:31:20 น.
หึๆๆ ถ้าพี่จักรคิดไม่ออกก็คงโดนระรอกสอง


Zephyr 25 ส.ค. 2555, 11:11:27 น.
ขำหน่อยอ่ะ เธอยังดูชิลอยู่นะ คริคริ
คุณนายก็ไม่ต้องหาแล้ว ปลงเถอะนะ ขอร้อง


sai 25 ส.ค. 2555, 12:57:51 น.
แม่พี่จักรไม่ปล่อยเลยยย


anOO 25 ส.ค. 2555, 13:06:02 น.
คนอย่างคุณหนูจินคงไม่ได้โดนง่ายๆ ซ้ำสองหรอกนะ


Niceday 25 ส.ค. 2555, 13:44:14 น.
ยัยคุณแม่พี่จักร ร้ายกาจมาก ยังกะรักคุณเท่าฟ้า


หนอนฮับ 25 ส.ค. 2555, 14:38:43 น.


Orathai 25 ส.ค. 2555, 15:48:50 น.
สะใจดีเหมือนกันนะ ทั้งแม่ทั้งลูก ไม่ค่อยน่าสงสารเท่าไร


nutcha 25 ส.ค. 2555, 21:30:51 น.
งานเข้าทั้งสองคู่เลย


แว่นใส 26 ส.ค. 2555, 08:30:30 น.
มารเยอะนะ


ณจรร 26 ส.ค. 2555, 20:30:36 น.
รอๆๆๆ รวมเล่มนะค๊าาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account