พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 23.“พี่ชายนะพี่ชาย ทำกับแขกกุลได้ ขอโทษนะคะ”

23.

เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของกลยุทธลับตาไปแล้ว มาลีก็ชะแง้ไปยังบ้านของพี่ศรีวรรณ ซึ่งเจ้าของบ้านก็เหมือนรอให้มาลีกลับมาเช่นกัน

“ไปไหนกันมา เดี๋ยวนี้ชักกลับกันดึกดื่นนะ”

“คุณยุทธพาไปหาอะไรทาน นั่งคุยกัน ไม่มีอะไรคะ”

“พี่เป็นห่วงนะ” ศรีวรรณบอกตามตรง มาลียกมือขอบคุณ

“แต่ว่าไปคุณยุทธก็คงดีกว่าคุณชัชชัย แต่ว่า อย่าลืมนะมาลี คุณรมณีย์เธอสนใจคุณยุทธอยู่”

เมื่อได้ยินมาลีถอนหายใจออกมา หลายวันแล้วที่เธอติดรถเขาไปทำงาน ซึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นรถยนต์บ้าง รถมอเตอร์ไซค์บ้าง ซึ่งเธอก็ไม่ได้ถามเหตุผล หากเขาตอบก็คงเป็นคำตอบที่ว่า ‘อุ่นเครื่อง’กลัวเครื่องรถตายเพราะไม่ได้ใช้

เมื่อไปถึงสถานีรถไฟฟ้า เขาก็จะพาเธอเปลี่ยนรถ จ่ายค่าโดยสารให้ นั่งคู่กันบ้างยืนคู่กันบ้าง ไปจนถึงที่ทำงาน แต่เมื่อบันไดเลื่อนพาขึ้นมายังฟุตบาท เธอเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเดินเคียงคู่ไปกับเขา

เธอมั่นใจว่า คุณรมณีย์เองก็คงไม่ยอมแพ้ในเกมหัวใจนี้อย่างแน่นอน คุณอรชุมา และคุณจริญญา รวมถึงพี่วรรณาต่างก็พากันเป็นห่วง เมื่อรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างคืบหน้านี้

“หรือมาลีจะเปลี่ยนงานใหม่ดี” พี่ศรีวรรณเองก็พลอยกลัดกลุ้มไปด้วย

พนักงานในบริษัทที่เห็นว่ากลยุทธนั่งรถมากับมาลีพนักงานทำความสะอาด ต่างเริ่มตั้งวงกล่าวถึง เรื่องคงถึงหูคุณรมณีย์แล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่ทุกข์ร้อนอะไร แต่ในเกมหัวใจนี้ ศรีวรรณเชื่อว่า รมณีย์ถอยไม่ได้เช่นกัน ถ้ากลยุทธเป็นฝ่ายเดินออกไป คุณรมณีย์จะเอาใบหน้าไปไว้ที่ไหน

“มาลียังไม่ได้ทำอะไรผิด และอีกอย่าง มาลีอยากลองใจผู้ชายที่ชื่อกลยุทธดูเหมือนกัน” เธอจะมีอายุย่างยี่สิบปี เพื่อนเธอหลายคนที่อุ้มผางมีลูกมีเหย้ามีเรือนรับผิดชอบชีวิตน้อยๆ กันไปแล้ว

เขาพูดเสมอว่า ที่เขาไม่กล้าจีบใคร เพราะปัญหาเรื่องเงินทองที่ต้องเอามาใช้ดูแลกุลกัญญา สำหรับเธอนั้นนอกจากเขาจะพึงใจเมื่อได้พบแล้ว เขามั่นใจว่าเธอเป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่ง เมื่อเขาเห็นว่าเธอเหมาะสมกับเขา เขาเองก็ต้องกล้าสู้กับอีกฝ่าย เธอเองก็อยากได้ชื่อว่า แค่พนักงานทำความสะอาดกับหนุ่มออฟฟิศ ซึ่งน้อยรายนักจะทำสำเร็จ ถ้าเธอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากุลกัญญา กุลกัญญาจะต้องว่าเธอ ‘บ้า’ อย่างแน่นอน แต่เธอจะปรึกษาได้รึ เพราะผู้ชายที่เธอคิดลองใจคือพี่ชายของเจ้าตัว

“ค่อยๆ คิดแล้วกันนะ แต่ถ้าจะลาออกพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าอยู่ พี่ก็ไม่ลำบากใจ อีกอย่างพี่ก็อยากดูละครฉากนี้เหมือนกัน”

มาลีมองหน้าพี่ศรีวรรณแล้วยิ้มๆ

“พี่ศรีวรรณน่าจะไปช่วยกุลเขาคิดพล็อตนิยายนะคะ”

“ตื่นเต้นไหมล่ะมาลี พี่เอง พี่อยู่ตรงนั้นพี่เห็นชีวิตคนเยอะแยะเลย พี่ยังลุ้นคู่ของคุณวรรณากับคุณสมศักดิ์อยู่เลยนะ ไม่รู้ว่าพากันไปได้ถึงไหน”

“คุณวรรณาก็เล่นตัวน่าดู ทำไม คุณสมศักดิ์ไม่ดีตรงไหน”

“เธอชอบคนตัวสูงๆ มั้ง คุณสมศักดิ์เขาม่อต้อ”

“แต่ก็ไม่ได้เตี้ยจนน่าเกลียดนะคะ ล่ำสัน กำลังดีทีเดียว”

“คุณวรรณาเธอชอบคุณยุทธ คงมีหวัง เผื่อรมณีย์พลาด หรือถีบหัวส่งเธอก็จะได้เสียบแทน แต่ใครจะรู้ว่าจะมีมาลีจากอุ้มผางมาเป็นม้ามืด ยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าอีกนะเนี่ย พี่สันนิษฐานว่าคุณวรรณาเธอไม่ชอบลูกคนจีนด้วยกันมากกว่า คงเบื่อประเพณีจุกจิก เพราะคุณศักดิ์ยังอยู่กับเตี่ยกับแม่เขาอยู่เลย เป็นลูกชายคนเล็ก แต่งไปก็ต้องเข้าไปอยู่ในบ้านผู้ชาย คงอยากเป็นอิสระ”

“ก็คุณชินไง เห็นจีบดะไปทั่วหมด”

“โอ๊ย รู้เช่นเห็นชาติกันขนาดนั้น เจ้าชู้จะตายไป แม่บ้านแกยังจีบเลย จีบติดด้วยนะ ฟันแล้วทิ้งมาก็หลายคน”

มาลียกมือทาบอก

“ของอย่างนี้มันไม่เข้าใครออกใครหรอก น้องก็ไม่คิดอะไรมาก พี่ก็ไม่คิดอะไรมาก ให้นิดหน่อย จบลงที่โมเต็ลแล้วก็แยกทางกัน เธอเองก็ถูก ‘สี’ มากี่คนแล้ว ดีหรอกที่มามีข่าวว่าควงกับคุณยุทธ ไม่งั้นยังมีอีกหลายคนที่คิดดอมดมมาลีดอกนี้”
คุยกันได้สักพัก พี่แป๊ะ สามีของศรีวรรณก็ร้องเรียก

“ไปๆ เข้าบ้าน นันทาหมู่นี้กลับบ้านค่ำทุกวัน ได้คุยกันบ้างหรือเปล่า”

“ต่างคนต่างอยู่ อึดอัดเหมือนกัน” มาลีบอกตามตรง

“ทนๆ เอา รึอยากไปอยู่ซอย 12”

“เร็วไปพี่ เร็วไป สักปีสองปีซิ ไม่รีบไม่ร้อนหรอก”

“หากเขาไม่รุกคืบ ระวังตัวนะ พี่เป็นห่วง”


เมื่อเข้าบ้านมาลีก็รีบหยิบไม้กวาดไม้ถูพื้นมาทำความสะอาดรอเจ้าของบ้าน เธอไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าไม่รับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ถึงจะเหนื่อยสายตัวแทบขาดจากงานประจำ แต่ตรงนี้ ถ้าพี่ศรีวรรณเคยทำได้ มาลีก็น่าจะทำได้ และต่อไปเธอจะต้องรับผิดชอบเรื่องการศึกษาอีก จะต้องแบ่งเวลาให้เป็น

คุณกลยุทธแนะนำให้เธอเรียนบัญชีในรามคำแหง โดยที่เขาจะเป็นติวเตอร์ให้ เมื่อจบมาจะได้ทำงานนั่งโต๊ะ แล้วคุยในเรื่องเดียวกัน ‘ตัวเลข แต่งตัวดี นั่งโต๊ะ หัวฟู’
มาลีนึกถึงสภาพใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของบรรดาลูกน้องกลยุทธแล้วถอนหายใจ บางวันคุณอ๋อถึงกับวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ ตอนแรกเธอนึกว่าคุณอ๋อท้อง แต่เจ้าตัวบอกว่าความเครียดลงกระเพาะ

เครียดจากงานหรือจากปัญหาที่บ้าน มาลีครุ่นคิด อยู่กันก่อนแต่ง ทำงานกันคนละที่ คุณเอกชัยเปลี่ยนบริษัทย้ายออกจากตึกไปแล้ว เปลี่ยนที่พัก ลูกผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย เสี่ยงจะตายไป

เมื่อถูพื้นยังไม่ทันเสร็จ ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา มาลีชะแง้ออกไปที่นอกบ้าน แล้วใจก็ประหวัดไปหาคนที่ทำงานอยู่ในชุมพร ใจหนึ่งก็ห่วง แต่อีกใจก็คิดว่าเขาคงได้เจอดอกไม้งามในชุมพรเหมือนที่เคยได้เจอในอุ้มผาง ไม่เห็นโทรมาเลยเป็นอย่างไรบ้างนะ

เมื่อมาลีทำงานบ้านเสร็จ อาบน้ำ กระโดดขึ้นเตียงคลี่ผ้าห่มผืนที่มีกลิ่นของชัชชัยติดอยู่คลุมกาย ความรู้สึกอบอุ่นแล่นเข้าสู่สรรพางค์กาย มือที่หยิบหนังสือคู่มือนักศึกษาระเบียบการของรามคำแหงพลิกไปทีละหน้า มาลีลังเลระหว่าง เอกบัญชี กับ โสตทัศนศึกษาซึ่งมีวิชากล้องถ่ายรูป หรือ การท่องเที่ยวที่ตนเคยสัมผัสมันมา แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถทำให้เธอได้กลับไปอุ้มผางอย่างมีหน้ามีตาได้ นอกจากศึกษาศาสตร์

ด้วยเป็นวันหยุด มาลีจึงถือโอกาสตื่นเมื่อพระอาทิตย์ส่องเข้ามาในห้องนอน มาลีพยายามเปิดเปลือกตาให้สู้กับโลกที่แสนวุ่นวาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกหนักอึ้งที่หัวสมอง วันหยุดของคนเมืองเป็นเช่นนี้เอง อยากหยุดให้สมกับที่เขาให้หยุด แล้วมาลีก็ต้องถลึงตาแล้วลุกขึ้นพรวดพราด เมื่อเห็นว่ามีใครมายืนยิ้มอยู่ที่ประตูห้อง

“เฮ้ย” มาลีร้องเสียงหลง

“เข้ามาได้อย่างไร”

มาลีดันตัวขึ้นแล้วลุกลี้ลุกลนลงจากเตียงตั้งท่าพร้อมป้องกันตัวเองหากว่า คนที่ถือวิสาสะไม่มีมารยาทคนนี้คิดทำอะไรเลยเถิด

“ใจเย็นๆ เที่ยงแล้ว ผมเห็นคุณยังหลับเหมือนตายก็เป็นห่วง”

ทั้งที่ผิดเต็มประตูแต่ก็ยังมีสีหน้าทะเล้นเข้าใส่ มาลีเหลือบตาไปดูนาฬิกา เป็นเช่นนั้นจริงๆ แสดงว่าเขามานานแล้ว

“ถึงอย่างไรคุณก็ไม่ควรเข้ามาในห้องนอนฉัน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างนี้”

“ก็เคาะเรียกหลายรอบแล้ว ไม่ตื่นก็เลยต้องไขกุญแจเข้ามา เป็นห่วงไง บอกว่าเป็นห่วงนึกว่าไหลตายไปแล้ว” เขายังตีวาจาเถียงเพื่อให้ตัวเองดูดี

“ออกไปเลย ฉันตื่นแล้ว ขอบใจ”

ว่าพลางหยิบผ้าห่มขึ้นมาสลัดแบบจงใจคล้ายไล่อีกคนที่อยู่อีกฝั่งเตียง

“ผ้าผืนนี้ห่มแล้วอุ่นไหม” เขายังชวนคุย

“บอกให้ออกไป ชิ้ว” มาลีทำเสียงไล่อย่างไม่เกรงอกเกรงใจ

“คนอุตส่าห์คิดถึงรีบมาหา ดูยังไล่กันได้”

น้ำเสียงนั้นบอกให้รู้ว่าน้อยใจก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินพ้นประตูห้องนอนออกไป มาลีวางผ้าห่มลงแล้วก็ถอนหายใจออกมา

‘อุตส่าห์คิดถึง’



เมื่อรู้ว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ แล้วแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ข้างล่างมาลีจึงถือโอกาสอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นบน เมื่อแต่งตัวในชุดเสื้อยืดคอโปโลสีน้ำตาลเข้ม กับกางเกงขาสามส่วนยาวคลุมเข่าเรียบร้อย มาลีจึงเดินผิวปากลงจากชั้นบนด้วยทีท่ากวนๆ
“เป็นสาวเป็นนางดูทำตัว ผิวปากในบ้านโบราณเขาถือ”

มาลียังคงผิวเป็นเพลง ‘ฉันยังอยู่’ ที่เขาใช้เป็นเพลงเสียงรอรับสาย อย่างจงใจหยอกเย้า

“คนโบราณนั่นคุณ ฉันไม่ถือ ฉันถือแต่ว่า ผิวปากนั่นคือความสุข เข้าใจ”
พูดจบมาลีก็แลเหลือบไปบนโต๊ะอาหาร บนนั้นมีของกินอยู่เต็มไปหมด

“ของฝากจากชุมพร ประจวบ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สาครด้วย”

มาลีรีบปรี่เข้าไปหา แล้วหยิบกล้วยลูกเรียวๆ เล็กๆ ขึ้นมา

“รู้จักไหม นี่กล้วยเล็บมือนาง ของดีจังหวัดชุมพรเค้า มีทั้งสดและแบบตากแห้ง เอาไว้กินแก้กลุ้ม”

“ขอบคุณ แล้วทำไมซื้อมาซะเยอะแยะเลย”

“เอาไปฝากกุลด้วย พี่ศรีวรรณอีก จัดสรรเองแล้วกัน”

ที่เขาทำอย่างนี้เพื่อเป็นการประกาศว่า เขากับมาลีมีความสัมพันธ์ต่อกันและพี่ศรีวรรณกับกุลกัญญาเมื่อรับของเขาไปแล้ว ก็ต้องช่วยเป่าหูมาลีให้เขาด้วย

“เรื่องของกุลไปถึงไหนแล้ว ได้คุยกับคุณแม่ของคุณหรือยัง”

“ผมเอาต้นฉบับมาอ่านเอง เห็นอะไรเยอะแยะไปหมดที่น่าจะทำให้เรื่องไม่ผ่าน”
เมื่อได้ยินมาลีมองหน้าคนพูด เห็นดวงตาเขาอิดโรยกว่าตอนที่ยังไม่ได้ไปทำงาน เขาแลสบมา มาลีรีบเฉไฉไปมองดูอาหารจำพวกปลาหมึกทอดแล้วฉาบพริกน้ำตาล
“ช่วยกุลหน่อยละกัน อยากให้กุลมีความสุข”

“ถ้าช่วยแล้วจะตอบแทนผมอย่างไร ผมก็อยากมีความสุข”

“คุณก็มีความสุขสมหวังอยู่แล้วนี่ อย่าเห็นแก่ตัวหน่อยเลย”

“เห็นแก่ตัวอย่างไร”

“ก็” มาลีไม่มีถ้อยคำต่อปาก

“ก็มาลี ตอนผมไม่อยู่ เออ มาลีคิดถึงผมบ้างไหม” น้ำเสียงเขา
ผะแผ่วลง มาลีเหลือบตามองดูเพดาน แล้วพ่นลมหายใจออกมา

“คุณดูโทรมๆ ไปนะ งานหนักซิ หรือเล่นน้ำทะเลมากไป

“คิดถึงคุณจนกินไม่ได้นอนไม่หลับต่างหาก” เขาวกกลับมาที่เรื่องของตัวเองอีก

“เป็นเพื่อนกันแหละดีแล้ว อย่าเพิ่งอะไรเลยนะ ขอร้อง” มาลีมีน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา

“กับผู้ชายทุกคนหรือเปล่า”

เขายังจำได้ถึงวันที่มาลีรับโทรศัพท์จากใครสักคนหนึ่ง ขณะนั่งรถเขากลับมาจากเยาวราช

“ตอนนี้ทุกคน”

“จริงๆ นะ แล้วเรื่องงานเป็นไงบ้าง ถ้าไม่ไหว อยากหางานอื่นทำก็บอกนะ ทำงานที่โรงพิมพ์ก็ได้นะ หรือจะทำในโรงแรม มีตำแหน่งว่างๆ เยอะ แถมสามารถไปเรียนหนังสือได้สบายๆ เลย”

“ตำแหน่งอะไร”

“ก็แม่บ้านนี่แหละ เข้ากะกลางคืนเอา แล้วกลางวันไปเรียน”

“นึกว่าจะให้ไปเป็นรีเชฟชั่น”

“นั่นต้องเก่งภาษาอังกฤษและต้องมีประสบการณ์อีก”

“ฉันมันความรู้น้อย”

น้ำเสียงคนพูดสั่นเครือ น้ำตาพานจะไหลเสียให้ได้ คนมีความรู้น้อย ฐานะทางบ้านธรรมดา งานต่ำต้อย ผู้ชายที่ไหนจะคิดจริงจังนอกจากหลอกหรือหวังแค่เล่นๆ ทั้งคุณกลยุทธ รวมถึงอีตานี่ด้วยเป็นแน่

“ค่าของคนมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้นะมาลี”

“ไม่ต้องพูดหรอก คุณมาจีบฉัน แต่สุดท้ายคุณก็ต้องเลือกคนที่คู่ควรกับคุณอยู่ดี ฉันรู้จักตัวเองดีและเริ่มรู้จักโลกมากขึ้น คุณชัช นางซินคงมีแต่ในนิทานเท่านั้นแหละ จะบอกอะไรให้ ที่ฉันมาจากอุ้มผางก็เพราะพี่อนันต์พี่ชายของพี่นันทา อยากได้ฉันเป็นเมีย แล้วลุงกับป้าก็ไม่อยากได้ลูกสะใภ้ต่ำต้อยอย่างฉัน พวกเขาหาทางออก โดยกันฉันให้มาอยู่ที่นี่ ฉันบอกตามตรงนะว่า ฉันจะไม่ทะเยอทะยานให้ตัวเองขึ้นไปเจ็บใจหรอก”

ชัชชัยครุ่นคิดตาม

“สำหรับคุณ ถ้าคุยกับฉันแล้วสนุกปาก ฉันก็พร้อมจะสนุกด้วย แต่ขอร้องอย่าพูดทำนองนี้อะไรแบบนี้กับฉันอีก เราเป็นเพื่อนกันได้ ฉันยินดีรับผู้ชายเป็นเพื่อน ฉันไม่ใช่คนโบราณถือเพศและศักดิ์มากนัก มีอะไรก็คุยกันตรงๆ สบายๆ ดีกว่า”

“ตรงนี้ไงที่ผมชอบคุณ”

“คุณชัช” มาลีเสียงดังขึ้น

“โอเค เพื่อนก็เพื่อนของอย่างนี้มันคงต้องใช้เวลาอะนะ แต่อย่าผลักไสผมและกัน ขอให้ผมได้บอกความในใจออกไปบ้างก็เท่านั้น”

“คุณเหมือนเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ นะ แต่ทำไม ถึงได้เข้าใจอะไรยาก”

“มาลีเมื่อความรักเข้าตา มันก็เป็นอย่างนี้ทุกคนแหละ เหตุและผลไม่มีใครสนใจทั้งนั้น สักวันคุณจะรู้เอง”

พูดจบเขาก็ลุกขึ้นไปหยิบรีโมทโทรทัศน์มากดเปิดหน้าจอสร้างบรรยากาศใหม่ระหว่างกัน มาลีจัดแจงหุงข้าว แล้วเปิดเมนูทำอาหารกับเครื่องไมโครเวฟแบบง่ายๆ ซึ่งตรงนี้ทำให้ชัชชัยต้องเดินกลับเข้ามาหาเพื่อสอนศิษย์ ‘โลว์เทค’ คนนี้อีกรอบ


เมื่อจัดการกับอาหารเช้าพร้อมกับมื้อกลางวัน แล้วชัชชัยก็ชวนมาลีออกไปหากุลกัญญาด้วยกัน ทีแรกมาลีอยากปฏิเสธ แต่เมื่อนึกถึงความบริสุทธิ์ใจที่มีต่อชัชชัย มาลีจึงกล้าเดินไปขึ้นรถ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ลอบระบายลมหายใจที่เต็มไปด้วยความว้าวุ่นออกมา

กุลกัญญารีบเปิดประตูบ้านแล้วออกมาเปิดประตูรั้ว เมื่อเห็นรถยนต์ของใครเข้ามาจอด กลยุทธที่นอนหลับอยู่บนโซฟาถึงกับรีบลุกขึ้น เมื่อได้ยินเสียงทักทายของน้องสาวกับมาลี คนที่เขานอนครุ่นคิดถึง

กุลกัญญาพามาลีและผู้ชายคนนั้นเข้ามาในบ้าน ในขณะที่เขาก้าวออกจากห้องน้ำหลังจากที่ล้างหน้าและใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับหยดน้ำ

“พี่ยุทธ นี่คุณชัชชัย เพื่อนมาลี เพื่อนกุลค่ะ”

กลยุทธพยักหน้ารับ ยิ้มให้

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ตามสบายนะครับ”

ปากพูดไปแต่สายตาของเขา ยังจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคนกลาง หมายความว่าอย่างไร มาลีมากับหมอนี่ทำไม

กลยุทธเลี่ยงไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบน้ำหวานสีแดงสีเขียวและน้ำส้มออกมา

“พี่ยุทธทำอะไรคะ”

กุลกัญญาตะโกนถามจากโซฟารับแขก ที่มีมาลีกับชัชชัยนั่งอยู่ตรงกันข้าม

“หาน้ำให้แขก รับน้ำอะไรดีครับ” น้ำเสียงนั้นคล้ายกับว่ามาลีและเขาคนนั้นเป็นคน
อื่นคนไกล

“เอาน้ำอะไรดีคุณชัช มาลี”

“น้ำเปล่าแล้วกันกุล” มาลีบอกตรงๆ ชัชชัยขอกาแฟ เมื่อได้คำตอบ กุลกัญญาตะโกนกลับไป

กลยุทธที่ยืนอยู่ในครัว ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น อยากรู้เหมือนกันว่ามาลีจะเข้ามาหาเขาข้างในนี้ไหม แต่เมื่อเวลาผ่านไปอึดใจใหญ่

กุลกัญญาก็เยี่ยมหน้าเข้ามาหา

“ช้าจังเลย เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

คำพูดของน้องสาวนั้นจงใจถามดึงความรู้สึกของพี่ชาย และกุลกัญญาเองก็พยายามเก็บข้อมูลรักสามเส้านี้ไว้ในคลังความรู้สึก

“ทำไมต้องเป็นอะไร” พี่ชายตอบเสียงเครียดหน้างอๆ

“เขาเพื่อนกันค่ะ ทำใจกว้างๆ ซิ มาเร็วออกไปข้างนอก คุณชัชเขามาบอกข่าวดีกับกุล เร็วๆ นะคะมาฟังด้วยกัน” ว่าแล้วกุลกัญญาก็คว้าถาดแต่กลยุทธรีบดึงมาถือไว้ กุลกัญญาจึงเกาะหลังพี่ชายเดินออกจากห้องครัว มาหาแขกสาวที่ปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับสีหน้าของเขา

“ทานน้ำเย็นๆ ก่อน นี่กาแฟ ฝีมือพี่ชายกุลอร่อยที่สุด”

มาลียกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ชัชชัยหยิบถ้วยกาแฟจ่อปาก แตะๆ ดู รู้ว่ามีรสแปลกๆ เขาก็วางแก้วกาแฟลงด้วยทีท่าธรรมดา แต่ในใจนั้น เขารู้แล้วว่า เขามีคู่แข่งเสียแล้ว และแม่คนกลางก็ยังนั่งทำหน้าตาไร้ซึ่งความรับผิดชอบเหมือนเดิม

“คุณชัชเป็นลูกชาย บก.บห.เลดี้วีค เป็นเพื่อนกับมาลี”

“แฟนครับ” ชัชชัยถือโอกาสบอกตามตรง มาลีสะดุ้งเฮือก กุลกัญญาหัวเราะทันที

“คุณชัชพูดอย่างนี้ก็เท่ากับกันท่าพี่ชายกุลนะซิคะ”

“ใครเป็นแฟนคุณ” มาลีรีบแก้ตัว

ชัชชัยปั้นหน้าไม่รู้ไม่เรื่อง กลยุทธเองก็เมินหน้าไปทางอื่นแล้วยิ้มนิดๆ ก็มาลีเป็นของเขา หมอนี่คงหมดสิทธิ์

“พี่ขอตัวก่อนดีกว่ากุล ตามสบายนะครับ”

พูดจบกลยุทธก็ลุกขึ้นแล้วเปิดประตูออกจากบ้านไปต่อสายยางเปิดน้ำรดต้นไม้


มาลีที่นั่งฟังมุมมองของนักอ่านซึ่งเป็นนักเขียนสารคดี วิจารณ์ชี้แนะงานให้กับกุลกัญญาอยู่หลายนาทีเริ่มรู้สึกอึดอัด เพราะตัวเองไม่ได้มีความสนใจ ไม่อยากเข้าใจในคำอธิบายนั้น หญิงสาวเริ่มกระสับกระส่าย อยากออกไปคุยกับคุณกลยุทธ แต่ก็อีกนั่นแหละ หากเธอลุกออกไป รับรองเลยว่า กุลกัญญาจะต้องเสียงานอย่างแน่นอน

มาลีหาวรอบแล้วรอบเล่า

“กาแฟไหม”

ชัชชัยร้องถามพลางเลื่อนแก้วกาแฟไปให้มาลี มาลีรีบคว้ามาแล้วยกดื่ม พอรสกาแฟแตะลิ้น มาลีก็จ้องหน้าชัชชัยที่ยิ้มกริ่มให้อย่างจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้

“อร่อยใช่ไหมล่ะ ไปล้างปากในห้องน้ำไป เร็ว” ว่าแล้วมาลีก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปยังห้องน้ำทันที

กุลกัญญามองตามไป เห็นรอยยิ้มกลั้วหัวเราะของชัชชัยแล้วจึงหยิบกาแฟที่เหลือมายกขึ้นจิบ

“พี่ชายนะพี่ชาย ทำกับแขกกุลได้ ขอโทษนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณกุล แบบนี้เขาเรียกว่า พิษรักแรงหึงใช่ไหมครับ มา มาฟังผมต่อ มีตรงไหนอีกที่ผมติ๊กไว้ คุณกุลลองอ่านดูก่อน เดี๋ยวผมไปชงกาแฟใหม่ดีกว่า”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ส.ค. 2555, 21:06:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ส.ค. 2555, 21:06:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1681





<< 22. กลับมาโพสต์ให้จบตามคำเรียกร้อง   24.“ไปไหนของเขานะ อยากแนะนำให้กุลรู้จักไว้” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 24 ส.ค. 2555, 21:06:54 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ จุ๊บ ๆ


โซดา 25 ส.ค. 2555, 09:27:19 น.
ถ้าจะสั่งซื้อ นิยายเรื่องนี้มีที่ไหนค่ะ แถวบ้านโซดาไม่เห็นมีว่างขายเลยค่ะ


จุฬามณีเฟื่องนคร 25 ส.ค. 2555, 11:29:02 น.
ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผงครับ ประมาณเดือนหน้าครับ....หนังสือเป็นเล่มแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ


ปอยอะนะ 25 ส.ค. 2555, 15:03:32 น.
ประทับใจนางเอกเรื่องนี้มาก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account