พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 24.“ไปไหนของเขานะ อยากแนะนำให้กุลรู้จักไว้”

24.

เมื่อออกจากห้องน้ำ มาลีก็รีบเดินดิ่งไปหาเจ้าบ้านที่ยืนรดน้ำต้นไม้ อย่างอารมณ์ดี

“กาแฟเค็มปี๋เลย”

“อ้าว สงสัยหยิบกระป๋องน้ำตาลผิดแน่ๆ เลย ขอโทษแล้วกัน”

“กวนนะคุณ” มาลีจ้องหน้าแล้วยิ้มๆ

“พามาทำไม ผมหึงนะ” กลยุทธบอกตามตรง

“มารยาท สะกดเป็นไหม”

“ไม่เป็น” เขาบอกมาลีเสียงผะแผ่ว แบบจงใจคุยกันแค่สองคน

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนกันดี”

กลยุทธรีบเปลี่ยนเรื่องคุย มาลีครุ่นคิด ในกรุงเทพฯ มีที่ไหนอีกนะที่เธออยากไปแล้วอีกตาชัชชัยยังไม่ได้พาไป

“ไปดูหนังกันไหม” เขาถามความเห็น

“สองคนเหรอ”

มาลีถามคืน เขาพยักหน้ารับพร้อมทำตาเชื่อม มาลีจ้องตาเขาตอบแล้วรีบเสไปมองดูต้นไม้ที่เขากำลังให้น้ำ

“ชอบต้นอะไรที่สุด” มาลีถามขึ้น

“ต้นโมก ดูเข้มแข็งและอ่อนโยน ถามทำไม”

“ก็เห็นปลูกหลายๆ อย่าง”

“กุลหามาเป็นส่วนใหญ่ ผมเองแค่อยู่บ้านเสาร์อาทิตย์เท่านั้นเอง อยากคลายเครียดบ้าง นี่เย็นๆ จะออกวิ่ง วิ่งด้วยกันไหม”

“ไม่หรอกค่ะ”

“จะไปไหนกันต่อหรือเปล่า”

“คงไม่”

“รู้จักกันนานหรือยัง” เขาถามแบบเปิดใจ

“ก็ก่อนรู้จักคุณสักหกเดือน”

“เขามาก่อนผมซินะ” กลยุทธยิ้มขื่นๆ

“แค่เพื่อนเท่านั้นนะคะ ฉันมีเพื่อนผู้ชายไม่ได้หรืออย่างไร” มาลีถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น

“ถามเขาซิว่า อนุญาตให้คุณมีเพื่อนผู้ชายได้ไหม ถ้าเขาบอกว่า ได้ ผมก็ได้” กลยุทธต้องการบอกให้มาลีรู้ว่า ส่วนใหญ่ผู้ชายจะคิดกันอย่างไร

“ยังไม่ตอบเลยว่าพรุ่งนี้จะไปดูหนังกันไหม”

มาลีครุ่นคิด แต่ยังไม่ได้เผยอปากจะตกลง พลันรถเก๋งคันที่หรูกว่าของชัชชัยก็เขามาจอดต่อท้าย เมื่อเพ่งมองแล้วมาลีจึงรู้ว่าเป็นใคร กลยุทธเองก็มีสีหน้าตกใจอยู่ไม่น้อย มาลีเลี่ยงเข้าบ้านโดยไม่พูดไม่จา เขาเองรีบปิดก๊อกน้ำแล้วเช็ดมือกับกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ ยิ้มแห้งๆ รับหน้าแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

“ขยันจังเลย”

สายตาของรมณีย์จับอยู่ที่ใบหน้าเจ้าของบ้าน พลางแลเหลือบไปยังประตูที่เจ้าหล่อนเห็นแวบๆ ว่ามีใครสักคนเดินเข้าไป

“มีแขกหรือคะ”

“เพื่อนกุลนะครับ”

“ไม่สะดวกชวนรมมี่เข้าบ้านหรือคะ” รมณีย์ถามตามตรง

“สะดวกครับ คุณก็รู้จักเขา เข้ามาก่อนซิฮะ”

ว่าแล้วกลยุทธก็เปิดประตูให้แล้วเบี่ยงตัวจนห่างประตู แต่รมณีย์จงใจที่จะเดินผ่านจนเฉียด แล้วหยุด หันหน้ามองเขา แล้วยิ้มอย่างเย้ายวน

“กลัวรมมี่มากขนาดนี้เลยหรือคะ”

“ปะปะเปล่าครับ”

น้ำเสียงนั้นตะกุกตะกัก แล้วรมณีย์ก็หันหน้าเข้าหาเขาสบตามองดูไรหนวดเคราที่ยังไม่ได้โกนทิ้ง

“ถ้ารมมี่ต้องแพ้เด็กเมื่อวานซืน คุณจะให้รมมี่เอาหน้าไปไว้ที่ไหน ในเกมหัวใจ รมมี่แพ้ไม่ได้เช่นกัน”

เมื่อรมณีย์ผละออกไปแล้วกลยุทธถอนหายใจออกมา



รมณีย์ผลักประตูบ้าน กุลกัญญารีบลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาหาทันที “สวัสดีค่ะ” รมณีย์รีบสวมกอดกุลกัญญาด้วยทีท่าสนิทสนม

“ดูแจ่มใสขึ้น มีข่าวดีอะไรจะบอกพี่หรือเปล่า”

คนถามปรายตาไปยัง ผู้หญิงคนนั้น คนที่คนในตึกพูดถึงกันยกใหญ่ว่า มีความสัมพันธ์กับว่าที่ ‘หนู’ ผู้รอตกถังข้าวสารของเธอ เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม บ้านยากจนมาจากอุ้มผาง พบกันเพราะการท่องเที่ยวเมื่อเดือนมกราคม แล้วบังเอิญกลับมาพบกันอีกรอบ

เธอถอยไม่ได้เช่นกัน หน้าของเธอก็ต้องรักษาไว้ด้วย ถ้าเธอเป็นฝ่ายไปก่อน เขานั่นแหละจะอับอาย แต่นี่ เขาเลือกเด็กที่ต่ำสถานะกว่า เหมือนจงใจประกาศให้เธอรู้ว่าเขาพร้อมรับชะตาตัวเอง พร้อมที่จะออกจากบริษัทนี้ไปด้วยซ้ำ

จากที่แค่ตั้งใจจะควงเล่นๆ แต่วันนี้ รมณีย์คนนี้รู้สึก ‘หวง’ ต้องการเอาชนะเสียแล้ว

“รมมี่” ชัชชัยลุกขึ้นทักทายเพื่อนเก่าบ้าง

“ชัชมาได้อย่างไร”

“คุณชัชรู้จักกับพี่รมณีย์ด้วยหรือคะ” คนเป็นเจ้าของบ้านร่วม

ทำให้บรรยากาศดีขึ้น

“เพื่อนนักเรียนพี่ตั้งแต่อยู่อังกฤษค่ะน้องกุล”

ว่าพลางรมณีย์ก็ตั้งใจเดินไปนั่งเคียงคู่กับมาลี มาลียกมือทำความเคารพอย่างเจียมตัวเอง ด้วยอยู่ในที่ทำงานนั้น เธอรู้ตัวเองว่าแตกต่างจากผู้หญิงคนนี้ขนาดไหน

“น้องก็มาด้วย”

“เพื่อนกุลค่ะ ชื่อมาลี”

“พี่รู้จักดีทีเดียว คนรักของชัชเหรอ”

รมณีย์เลี่ยงคำว่า เด็กทำความสะอาด แต่โยนเด็กคนนี้ไปให้ชัชชัยเสีย ถ้ามาด้วยกันแบบนี้จะเป็นอะไรได้ ถึงไม่ได้ถาม เธอก็พออ่านเกมออก คนอย่างชัชชัยไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหน หรือไปคลุกคลีกับใครได้ง่ายๆ

“ครับ”

ชัชชัยรับสมอ้าง โดยที่ไม่ได้นึกถึงใบหน้าของมาลี และจังหวะนั้นกลยุทธที่เดินตามมาก็ได้ยินเต็มสองรูหู

ควันออกหูเขาทีเดียว รมณีย์พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร เธอมาที่นี่ทำไม เขาเสียมาลีไปไม่ได้ เขารักมาลี เขาไม่ได้รักเจ้าหล่อน

“น้ำ หาน้ำรับแขก มาลี” กุลกัญญารีบเปรยขึ้น

มาลีรีบลุกขึ้นทันทีเช่นกัน หญิงสาวเดินเลี่ยงเข้าไปในครัว ขณะที่กุลกัญญารีบวิ่งตามเข้าไป กลยุทธนั่งลงในเบาะตรงกันข้ามกับชัชชัย ตาสองคู่ประสานกัน ชัชชัยเสยกแก้วกาแฟใบเดิมขึ้นแตะริมฝีปาก

“ชัชมาทำอะไรที่นี่เหรอ”

พูดพลางมือก็พลิกต้นฉบับของกุลกัญญาที่มีรอยปากกาสีแดงเขียนช็อตโน้ตไว้

“มาคอมเม้นต์งานเขียนของน้องกุล อยากให้น้องเค้าสมความปรารถนา”

“ใจบุญจริงๆ เลย ทำเพื่อน้องกุลหรือมาลีล่ะ” รมณีย์ช่วยกระทุ้งต่อ

“ทำตามอำเภอใจ คุณล่ะ ลมอะไรพัดมาถึงที่นี่”

เมื่อได้ลูกคู่รมณีย์หันมาหากลยุทธที่ใบหน้าเริ่มตึง นิ่ง ครุ่นคิด แต่เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร

“จะมาชวนน้องกุลกับคุณยุทธออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานข้างนอก วันนี้วันหยุด บังเอิญจังเลย ชัชก็มา คนรักตัวเองก็มาด้วย งั้นเราไปกันทั้งห้าคนเลยดีไหม”

กุลกัญญาที่ถือแก้วน้ำมาสามใบ สำหรับพี่ชายและชัชชัยรวมถึงรมณีย์ รีบถามแทรกขึ้นทันที

“ไปไหนกันหรือคะ”

รมณีย์เอ่ยถึงร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งกุลกัญญาถึงกับอุทานเสียงดังอย่างดีอกดีใจ

“ไปๆ ค่ะ อยากทานมานานแล้ว”

“กุล” กลยุทธร้องปรามด้วยเสียงไม่ดังนัก กุลกัญญาสงบลงทันที

“นานๆ ทีนะคะคุณยุทธ ความสุขของน้องกุล อนุญาตเถอะนะคะ” รมณีย์รีบทำคะแนน

“ผมไม่ไปด้วยนะ พอดีมีงานยังค้างอยู่ครับ” กลยุทธเสียงแข็งอย่างอยากเอาชนะบ้าง

มาลีที่ยืนนิ่งอยู่ในครัว ได้ยินทุกถ้อยคำ เธอต้องเป็นหมากบนกระดานของพวกเขาด้วยเหรอ หญิงสาวเดินกลับออกมา

“กุล เรากลับบ้านก่อนนะ เดี๋ยวพี่นันทาจะกลับมาแล้ว เบื่อคนบ่น”

“อ้าว จะรีบไปไหน อยู่ก่อนซิ พี่รมณีย์จะพาไปข้างนอก กุลอยากให้มาลีไปด้วย” กุลกัญญาหันไปหาชัชชัย ที่ยกน้ำขึ้นจิบ


“คุณชัชชวนมาลีไปด้วยกันนะคะ กุลอยากให้มาลีไปด้วย”

“ไปด้วยกันซิ มาลี ไม่ต้องเกรงใจอะไรหรอก ฉันคนสบายๆ ที่ทำงานก็เรื่องที่ทำงาน อยู่ที่นี่ตรงนี้เธอเป็นคนของชัชชัย เธอคือคนสำคัญนะ”

รมณีย์เน้นย้ำ มาลีมองหน้าหนุ่มผมยาวแล้วสะบัดหน้าพรืด เดินออกไปทางประตูบ้านผลักแล้วพาตัวเองออกไป ชัชชัยมองตามไปแล้วถอนหายใจออกมา

“ถ้ามาลีไม่ไป กุลก็คงไม่ไปเหมือนกัน”

“กลัวพี่หรือ พี่น่ากลัวขนาดนั้นเลย” รมณีย์ยังไม่ลดความพยายาม

“ไปกันสามคนก็ได้นะ ผมเองก็หิวแล้วเหมือนกัน” ว่าแล้วชัชชัยก็ลุกขึ้น

กลยุทธยังนั่งหน้าตึง ใจจริงเขาอยากจะตามไปปรับความเข้าใจกับมาลี แต่ถ้าเขาเดินออกไป ก็จะกลายเป็นว่า เขาประกาศตัดความสัมพันธ์กับคุณรมณีย์อย่างไม่ไว้หน้าอีก

“คุณยุทธ ไปด้วยกันนะครับ” ชัชชัยมีน้ำเสียงเป็นมิตร จนกลยุทธต้องปรายตามามองสีหน้านิ่งๆ นั่น

“ไปด้วยกันนะคะพี่ยุทธ อย่าเล่นตัวเลยนะคะ” กุลกัญญายังคงอ้อนวอน



เมื่อเดินเร็วๆ จนกระทั่งถึงบ้านที่ซอย 4 มาลีก็เปิดประตูแล้ว รีบเข้าไปนั่งบนโซฟา หยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดโทรศัพท์เลื่อนช่องไปมาอย่างหงุดหงิด

สายตาของคุณรมณีย์ที่มองมานั้นดูถูกและเหยียดหยาม นายชัชชัยนั่นก็อีกคน สบตากับเจ้าหล่อนอย่างคนที่กุมชะตาคน พวกเขาเป็นคนรวยมีเงินนี่จะทำอะไรตามใจก็ไม่น่ารังเกียจ นึกๆ แล้วก็สงสารกลยุทธขึ้นมา แต่ทำไมเขาไม่เด็ดขาด หรือตัดสินใจพูดอะไรให้ฝ่ายนั้นถอยออกไปเอง ก็เขาบอกว่าเขารักเธอ เป็นเพราะกุล เขารักน้องสาวเขามาก เขาต้องมีเงิน จึงจะมีกุลกัญญาต่อไป มาลีถอนหายใจออกมา

อุปสรรคในเรื่องหัวใจในครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แต่เธอก็แพ้ไม่ได้เช่นกัน สู้เพื่ออะไรนะ รักเขาเต็มหัวใจอย่างนั้นหรือ มาลีหลับตาพยายามค้นลงไปในหัวใจตัวเอง แล้วเธอก็ต้องสลัดภาพของชัชชัยออกจากความรู้สึก

เธอรักเขาไม่ได้เด็ดขาด เขาสูงยิ่งกว่าสูงสุดสอย ไม่ใช่ซิ เธอไม่ชอบผู้ชายแบบนั้น สเปคเธอต้องขาวสะอาดแต่งตัวดีสไตล์บูติค

“มาลี” เป็นเสียงเรียกของกุลกัญญา

มาลีเปิดม่านแอบดูเห็นว่าคนเรียกอยู่ในชุดกระโปรงเดรสสั้นเผยให้เห็นเรียวขายาวได้รูป กุลกัญญายังคงตะโกนอีกหลายรอบ จนกระทั่งมาลีต้องขานรับออกไปอย่างเกรงใจ

“มาลี พี่ยุทธก็ไป คุณชัชก็ไป ไปด้วยกันนะ นะ” ว่าแล้วกุลกัญญาก็เปิดประตูรั้วและประตูบ้านเข้ามาหาถึงในบ้าน

“เรายังไม่ได้แต่งตัวจะรอนาน ไปกันเถอะ”

“กลัวอะไรมาลี เหตุการณ์แบบนี้มันดีอย่างนะ เราจะได้รู้ไงว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา กุลจะบอกอะไรให้นะ พี่ยุทธนะชอบมาลี คุณรมณีย์นั้นชอบพี่ยุทธ ถ้ากุลอยากรู้ กุลก็อยากรู้ว่าพี่ยุทธจะตัดสินใจกับปัญหานี้อย่างไร”

“แล้วมาลีเกี่ยวอะไรด้วย”

“มาลีชอบพี่ชายกุลหรือเปล่า”

“ก็น่ารักดี”

“ชอบไหม” กุลกัญญาเค้น มาลีพยักหน้า

“งั้นไปแต่งตัว ไปเถอะ เงินก็ไม่ได้เสีย แถมได้นั่งดูตัวละครของกุลอีกตัวด้วย ไปนะ”


เมื่อรถเป็นของรมณีย์คนขับจึงต้องเป็นกลยุทธ และผู้ที่นั่งด้านหน้าคือเจ้าของ สำหรับที่นั่งด้านหลังนั้น มีชัชชัยนั่งรออยู่จนชิดริมประตู เมื่อกุลกัญญาเปิดประตูแล้วดันมาลีเข้ามา แม้จะอยากนั่งริมประตูด้านหลังคนขับแล้วให้กุลกัญญานั่งกลาง แต่มาลีก็ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากไม่ได้ เมื่อเข้าไปนั่งแล้วจึงได้รู้ว่า รถคันนี้แพงแต่ไม่ได้กว้างขวาง จนผู้โดยสารสามคนในเบาะท้ายจะนั่งได้อย่างสบายๆ

เมื่อรถแล่นออกจากหมู่บ้าน ช่วงไหล่ที่เกยทับอยู่กับไหล่ของชายหนุ่มก็สัมผัสกัน มาลีพยายามขยับตัวมาข้างหน้า แต่เมื่อรถเลี้ยวหรือช่วงที่รถออกตัวเธอก็ไม่วายเสียการทรงตัวไปถูกต้องกับเนื้อที่กำยำนั่น

จนกระทั่งรถถึงห้างเซ็นทรัลพลาซ่า ชัชชัยก็ออกจากรถไปยืนบิดขี้เกียจเหมือนเคย มาลีเบื่อท่านี้เขาเหลือเกิน มันดูคล้ายกับคนขี้เกียจ กุลกัญญาเมื่อเห็นสายตาของมาลีแล้วนึกถึงวันนั้น หากมาลีทำท่ายัดนิ้วเข้าปากที่หาวอีก พี่ชายของเธอจะรู้สึกอย่างไร

ตกลงมาลีมีใจให้ใครกันแน่ กุลกัญญาพยายามจับตามอง คนทั้งสี่คนรวมถึงพี่ชายของตัวเอง เป็นไปได้หรือที่พี่รมณีย์จะไม่ทำให้พี่ชายรู้สึกหวั่นไหว รวยก็เท่านั้น หน้าตาถึงแม้จะด้อยกว่ามาลี แต่ด้วยเครื่องสำอาง ด้วยการบำรุงรักษา และเสื้อผ้าอาภรณ์พี่รมณีย์ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย

“น้องกุลดูมีความสุข” รมณีย์เอ่ยขึ้น เมื่อกลยุทธเดินนำไปแล้วเปิดประตูห้างรอ

“ค่ะ กุลรู้สึกสนุกอย่างไรก็ไม่รู้”

“ได้พล็อตเรื่องใหม่แน่ๆ เลยใช่ไหม” ชัชชัยชวนคุย

“ค่ะ รักสามเส้าสี่เส้า ตลกดี”

“มีพี่อยู่ในเรื่องด้วยเปล่า” รมณีย์ถาม

“พี่รมณีย์อยากให้กุลเขียนถึงหรือเปล่าคะ”

“แล้วแต่กุลแล้วกัน อะไรที่คิดว่าหยิบไปใช้ได้ก็หยิบไปเลย ชัชอย่างไรฝากงานกุลกับคุณป้าด้วยนะ ถ้าดีไม่ดีอย่างไร ช่วยๆ กัน”

“ครับ เต็มใจ”

กุลกัญญายกมือไหว้อีกครั้ง กลยุทธหันกลับมามองก็พลอยตื้นตันไปกับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับน้องสาวของตัวเอง


ด้วยเดินไปถึงที่โต๊ะอาหารก่อน กลยุทธจึงเลื่อนเก้าอี้ให้คุณรมณีย์ และถัดมานั้นเขาจงใจเลื่อนให้กุลกัญญา แต่ว่ากุลกัญญาไปเป็นฝ่ายดันเขาให้นั่งลงแล้วตัวเองรีบไปนั่งตรงกันข้ามกับรมณีย์ เมื่อเป็นดังนั้นถัดจากกุลกัญญาจึงเป็นมาลี ส่วนชัชชัยนั้นระหว่างนั่งข้างกลยุทธกับมาลี เขาต้องเลือกไปนั่งข้างๆ มาลีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

มาลีมองภาพคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าของตนเอง คุณรมณีย์ปรายตาขึ้นมามองเธอ

“สั่งได้ตามสบายเลยนะมาลี มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง”

รมณีย์เลี่ยงใช้คำให้ดูสนิทสนมขึ้นจนทุกคนรู้สึกแปลกใจเมื่อได้เห็นสีหน้าคนอื่นๆ รมณีย์จึงพูดขึ้นว่า

“ก็เธอเป็นเพื่อนกุลกัญญา เป็นคนรักของชัชเขา เรื่องที่ทำงานก็เรื่องที่ทำงาน มาตรงนี้ ฉันขอเป็นพี่สาวเธอทั้งสองคนแล้วกัน ดีไหมชัช” รมณีย์หาลูกคู่

“ถูกต้องเลย”


ขณะที่รออาหาร กุลกัญญาจึงขอตัวออกไปห้องน้ำกับมาลี เมื่อเสร็จธุระในห้องน้ำก่อน มาลีจึงเดินออกมายืนรอข้างนอก ด้วยความรู้สึกที่บอกกับตัวเองไม่ได้ เธอดีใจหากว่าชีวิตเธอจะเป็นไปอย่างที่คุณรมณีย์เข้าใจใช่ไหม เป็นแฟนกับชัชชัย และคุณกลยุทธก็รักกับคุณรมณีย์

ขณะที่ยังสับสน มาลีก็แทบเปล่งอุทานออกไป เมื่อในสายตาของเธอนั้นเห็นว่านิวัฒน์ผู้มีร่างกำยำสูงใหญ่เดินมุ่งหน้ามายังห้องน้ำกับใคร?

“นิว” มาลีจงเรียกไว้

นิวัฒน์เองก็มีสีหน้าตกใจไม่น้อย เมื่อเด็กสาวคนนั้นเข้าห้องน้ำไปแล้ว มาลีรีบดึงนิวัฒน์เดินออกมาจากบริเวณนั้นทันที

“หมายความว่าไง กุลอยู่ในห้องน้ำเหมือนกันนะ”

“อ้าว” นิวัฒน์มองไปยังบริเวณหน้าห้องน้ำสตรี

“กุลรักแกมากนะ หายใจเข้าออกเป็นแกเลยทีเดียว”

“ก็”

นิวัฒน์อยากจะบอกว่า เขายังไม่ได้คิดอะไรกับกุลกัญญาแบบชู้สาวเลย แต่เพราะกุลกัญญาเองต่างหากที่ส่งข้อความบ้างโทรหาเขาบ้าง และไปหาเขาที่หน้ารามในวันธรรมดาเป็นประจำ เขารู้ว่าหญิงสาวชอบเขา แต่เขาจะผลักไสเธอออกไปได้อย่างไร เพราะกุลกัญญาเองเป็นเพื่อนของมาลีด้วย

“แล้วนี่ใคร” มาลีคาดคั้น “เมียแกเหรอ”

“เปล่า ลูกเจ๊เจ้าของร้านขายเครื่องเงิน เจ๊แกให้พามาเที่ยว”
จริงๆ แล้ว เจ๊ก็หวังให้นิวัฒน์ลงเอยกับลูกสาวของตัวเอง เพราะลูกสาวเจ๊นั้นชอบนิวัฒน์เป็นอย่างมาก

“หลบไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวกุลออกมาจะเห็น”

ว่าแล้วมาลีก็ผลักนิวัฒน์ไปอีกทาง ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องน้ำ แล้วมาลีต้องตกใจอีกรอบ เมื่อเห็นว่ากุลกัญญานั้นเดินคุยออกมากับหญิงสาวที่มากับนิวัฒน์
“มาลี นี่หลินเพื่อนกุล เคยเรียนประถมด้วยกันมา หลิน นี่มาลีบ้านอยู่หมู่บ้านเดียวกัน”

มาลียิ้มให้ หลินยิ้มตอบ แล้วสายตาของหลินก็เหมือนจะมองหาใครสักคน

“ไปไหนของเขานะ อยากแนะนำให้กุลรู้จักไว้”

“เอาไว้วันหลังก็ได้หลิน” กุลกัญญาบอกตามตรง

“วันหลังก็ได้ ไปๆ ขอตัวก่อนนะหลิน” มาลีรีบดึงกุลกัญญาออกจากบริเวณหน้าห้องน้ำทันที

“รีบเดินไปไหนมาลี ไหนบอกว่าอึดอัดไง”

“หิว อยากกินถล่มคุณรมมี่นั่นให้หมดตัวไปเลย” มาลีพูดให้ตลก

“รวยๆ อย่างนั้น เลี้ยงคนทั้งห้างยังไม่จนเลย” กุลกัญญาตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม


เมื่อไปนั่งที่โต๊ะอาหาร พอมองเห็นว่ามีคู่หนุ่มสาวพากันเดินเข้ามาในร้านนี้ มาลีก็อดเป็นกังวลไม่ได้ว่า ถ้านิวัฒน์พาหลินมาที่นี่เหมือนกัน แล้วกุลกัญญาจะเป็นอย่างไร ยังไม่ทันที่ความกังวลจะคลายลงเพราะอาหารตรงหน้า ในสายตาของมาลีก็พบว่า ทั้งคู่กำลังมุ่งเดินกันมาในร้านเช่นกัน มาลีครุ่นคิดหาทางแก้ไขสถาการณ์

“อุ๊ย กุล กุลดูซิ” มาลีรีบสะกิดกุลกัญญาให้หันหน้ามามองหน้าตัวเอง “มีอะไรมาลี”

“เคืองตาคล้ายอะไรติดอยู่ตรงหัวตา”

“เป็นอะไร” ชัชชัยมีความเป็นห่วงไม่แตกต่างจากกุลยุทธ กุลกัญญาเองก็รีบหันหน้าใช้สายตามาเพ่งมองดูที่บริเวณหัวตาของมาลี

เมื่อเห็นว่าคู่นิวัฒน์กับหลินเข้าไปนั่งในที่มีต้นไม้เทียมบังตาไว้แล้ว มาลีก็ถอนหายใจออกมา ในวันนี้กุลกัญญาจะเห็นนิวัฒน์กับหลินไม่ได้เด็ดขาด มาลีมองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด ต้องรีบกินแล้วรีบพากันออกไป มาลีใช้ตะเกียบคีบอาหารแล้วส่งให้ชัชชัยหนึ่งชิ้น กลยุทธหนึ่งชิ้น แล้วรีบคีบให้คุณรมณีย์

“ช่วยๆ กันของอร่อยทั้งนั้น ขอบคุณมากนะคะคุณรมณีย์ ถ้าไม่ได้พี่ มาลีก็คงไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารแพงๆ แบบนี้” มาลีรีบยกยอ

“คุณชัชทานเยอะๆ นะคะ เอ้านี่อีกชิ้น ซูชิเหรอ เรียกซูชิ ว่าไป อยากทานอาหารเวียดนามเหมือนกัน กุลอยากทานไม่ใช่เหรอ คุณรมณีย์ขออีกร้านได้ไหม วันนี้ขอสองร้านเลย”

“ได้ซิ ได้ สามร้านเลยก็ได้”

รมณีย์อารมณ์ดีขึ้นมา เมื่อเห็นว่าสีหน้าของมาลีนั้นไม่ได้บึ้งตึงแสดงความเป็นศัตรูกับเธออย่างที่คิดไว้ในตอนแรก ชัชชัยเองก็แปลกใจที่เห็นมาลีมีทีท่าแปลกตา แถมตักอาหารเข้าปากอย่างว่องไว พอใครจะสั่งเพิ่มมาลีก็รีบบอกว่าอยากไปอีกร้านเร็วๆ






จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2555, 00:01:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2555, 00:01:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 1670





<< 23.“พี่ชายนะพี่ชาย ทำกับแขกกุลได้ ขอโทษนะคะ”   25. >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account