ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 25.2 “แต่ทฤษฏีพี่แน่นอยู่นะ”
และเมื่อเดินออกจากศาลามาแล้วจรินนาก็กดโทรศัพท์หาเดชาพงษ์ เขารีบรับสายในทันทีเช่นกัน
“ตอนนี้พี่กล้วยอยู่ที่ไหนคะ”
“พี่ขับรถออกมาแล้วครับ...”
“ไม่ร่ำไม่ลากันเลยนะเสียมารยาทมาก...ป๊าถามถึงด้วยนะ”
“ก็หมดเรื่องแล้วนี่”
“หมดที่ไหนกัน...ขับรถกลับมารับจินหน่อยซิ จินจะไปด้วย”
“แล้วรถของคุณจินล่ะ”
“ให้ป๊าขับกลับเอง”
“แล้วแขกของคุณจิน”
“ตอนนี้เป็นแขกของแม่พี่เอกไปแล้ว อย่างอน อย่าหึงอย่างไม่มีเหตุผลหน่อยเลย...อย่างไรจินก็ไม่กลับไปคืนดีกับเขาหรอก”
“เขาอุตส่าห์ตามมาถึงที่นี่นะ น่าจะดูแลเขาหน่อย”
“จะมารับจินไหม”
“ไปซิ รอห้านาทีนะครับ...”
และเมื่อขึ้นมานั่งบนรถของเดชาพงษ์ที่สวมเสื้อสีขาวกางเกงยีนส์ตัวใหม่แล้วจรินนาก็บอกว่า “วันนี้ว่างหรือเปล่าคะ”
“ทำไมเหรอ”
“ไปเที่ยวอุทัยธานีกัน พี่เอกอยากพาพี่หนึ่งไปเที่ยววัดท่าซุง...จินเองก็อยากขึ้นเขาสะแกกรังด้วย อยู่แค่นี้เองไม่เคยไปสักที”
“เลยไปเที่ยวบ้านไร่ด้วยไหมละ มีวัดถ้ำเขาวง สวยมาก...จินต้องชอบแน่ ๆ เพราะมีถ้ำอยู่บนเขาด้านหลังวัดให้ปีนด้วยนะ”
“งั้นโทรถามพี่เอกก่อนแล้วกัน...”
และเมื่อตกลงกันได้แล้ว นาทีจึงขับรถตามรถของเดชาพงษ์เพื่อไปเที่ยวไปทำบุญกันต่อ...
หลังจากที่แวะไร่ส้มหวานหวานเพื่อซื้อส้มกลับไปเป็นของฝาก ขากลับเอกรินทร์ต้องเป็นคนขับแทนนาทีที่ปวดขาอันเนื่องมาจากการปีนภูเขาและเดินลุยน้ำตก และพอรถออกตัวตามรถของเดชาพงษ์ที่มีจรินนานั่งอยู่ด้วยนาทีก็ผลอบหลับไป...เขาสะดุ้งตื่นอีกทีเมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาที่วางไว้ข้างตัวดังขึ้น
และนาทีก็รู้สึกว่าเพลงนั้นดังมากขึ้นเรื่อย ๆ และพอลืมตาตื่นเขาก็เห็นว่าเอกรินทร์หยิบโทรศัพท์แตะกับหูของเขา เขายิ้มให้เอกรินทร์ก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงงัวเงียกลับไป... “โหล..”
“โหล สอง โหล ไปเที่ยวไหนมา สวยจังเลย” เป็นเสียงของหิรัญญาที่ทำให้นาทีต้องคลี่ยิ้มกว้าง
“ไปเที่ยวไหนมานะ” นาทีถามคนขับรถเบา ๆ
“วัดถ้ำเขาวง อำเภอบ้านไร่ กับวัดท่าซุง ที่อำเภอเมือง”
ระหว่างที่เที่ยวไปนั้นนาทีก็อัพรูปขึ้นเฟสบุ๊คไปด้วยจึงทำให้หิรัญญาต้องโทรกลับมาถาม และพอได้คำตอบจากเอกรินทร์ นาทีก็ตอบคำถามของหิรัญญาอีกทอดหนึ่ง...
“แหม เดี๋ยวนี้คิดเองอะไรเองไม่ได้แล้วเหรอ” ถ้าคิดจะลับฝีปากกับหิรัญญานั้นสติจะต้องพร้อม นาทีจึงยืดตัวตรงก่อนจะเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้เอกรินทร์ได้รับรู้ด้วยว่าหิรัญญานั้นเป็นคนที่คุยสนุกแค่ไหน
“ประมาณนั้น”
“เขาพาไปเที่ยวเหรอ” หิรัญญานั้นไม่รู้ว่านาทีเปิดเสียงจึงได้ถามเหมือนจะนินทาคนขับ
“จ้า...มาฮันนี่มูนกัน”
“ล้ำหน้านะยะ ฮันนี่มูนกันที่วัดด้วย...แล้วนี่แต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ฮันนี่ก่อน แต่งทีหลัง”
“จะแต่งเมื่อไหร่ก็บอกแต่เนิ่น ๆ เด้อ จะได้เก็บเงินเก็บทองใส่ซองทัน”
“พี่ญาเคยบอกหนึ่งใช่เปล่าว่าถ้าหนึ่งแต่งงานลงหน้าหนังสือพิมพ์ได้ พี่ญาจะให้หนึ่ง หนึ่งแสนบาท”
“เอ๊ะ เคยบอกเหรอ”
“หนึ่งจำได้นะ แพรวเป็นพยานได้”
“อย่าบอกนะว่าจะถึงขนาดแต่งงานลงหน้าหนังสือพิมพ์”
“ก็ตอนนี้ แม่พี่เอกเขาก็รับหนึ่งเข้าบ้านแล้ว ให้เป็นศรีสะใภ้แล้ว...อนาคตมันก็ไม่แน่นะ”
“แม่เจ้า...เกิดอะไรขึ้น เป็นไปได้อย่างไรละเนี่ย...อย่าบอกนะว่าเธอทำของใส่ทั้งแม่ทั้งลูก”
“เอาความดีเข้าสู้เหมือนนางเอกสมัยก่อน”
“แล้วนี่ก็คงไม่หันหัวรถมาสัตหีบแล้วมั้ง”
“ไกล...”
“ไกลที่ไหน ระยะทางเท่า ๆ กันแหละ”
“ไป ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น ที่เคยบอกจะติดต่อให้เราก็ยังฉกไปกินเสียฉิบ...แล้วหนึ่งเห็นพี่ญากับแพรวแฮปปี้กับสามี หนึ่งก็ห่อเหี่ยวนะ...”
“แล้วตอนนี้ว่างหรือเปล่า” หิรัญญาเปลี่ยนเรื่องคุย
“อยู่บนรถจ้า กำลังจะกลับนครสวรรค์”
“ฟังจากน้ำเสียงแล้วแฮปปี้ดีอยู่นะ”
“หนึ่งเคยทุกข์เหรอ”
“แล้วคำว่าห่อเหี่ยวนี่แปลว่าทุกข์หรือเปล่า...แต่ทุกข์ไปก็ไม่มีประโยชน์ เขารักหนึ่งดีอยู่นะ”
“ตอนนี้ยังดีอยู่ครับ อนาคตไม่รู้...” คุยกับหิรัญญาพลางนาทีก็เอี้ยวตัวไปหาคนขับ ก่อนจะดึงปลายจมูกแหลมของเขาเล่น เอกรินทร์ละมือจากพวงมาลัยจับมือนาทีมากุมไว้ พลางฟังนาทีคุยกับหิรัญญาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม...
“สุขแค่วันนี้ก็พอแล้วอนาคตช่างมัน”...หิรัญญาสรุปอย่างคนที่ผ่านโลกมาเยอะ...และเอกรินทร์ก็เสริมความคิดนั้นเข้าไปว่า “ถูกต้องเลยครับพี่ญา”
“แม่ครับตอนนี้อภินนท์อยู่ที่ไหน” ระหว่างที่รถวิ่งอยู่บนถนนสายเอเซียมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ จรินนาอดสงสัยเรื่องของอภินนท์ไม่ได้ ดังนั้นหญิงสาวจึงโทรศัพท์มาหาเอกรินทร์ให้เขาช่วยต่อสายถึงแม่เพื่อสืบข่าวคราว...
“แม่พาไปเปิดโรงแรม...แล้วเย็นนี้ แม่ก็ชวนเขามากินข้าวที่บ้านเราด้วย เอกกับหนึ่งกลับมากินด้วยกันนะ ชวนจินมาด้วย”
“แม่ครับ อย่าไปวุ่นวายกับจินเขาเลยครับ ปล่อยเขาไปเถอะ” เอกรินทร์บอกแม่ไปอย่างคนที่รู้ใจของจรินนาเป็นอย่างดี ถ้าลองได้บอกว่า “ไม่” แล้ว จรินนาก็จะไม่มีทางหวนกลับไปหาอีกอย่างแน่นอน
“รู้ตัวกันบ้างไหมว่าเสียมารยาทมากเลยนะ เพื่อนมาหาแล้วหลบหน้ากันไปเที่ยวตามลำพังแบบนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะ”
“ผมไม่เกี่ยวนะครับ มันแขกที่ไม่ได้รับเชิญของจินเขา”
“ไม่รู้ละอย่างไรลากจินกลับมากินข้าวที่บ้านให้ได้ด้วยแล้วกัน”
“ถ้าผมทำไม่ได้ล่ะ”
“เอกก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้แม่ใจดีกับเอกมากแค่ไหนแล้ว...” แม่ส่งสัญญาณเรื่องนาทีมาแบบนี้ ใจของเอกรินทร์กระตุกวูบ...แม่รู้ แม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรแต่แม่ไม่พูดตรง ๆ
“ช่วยแม่หน่อยแล้วกัน...แม่ถูกชะตากับอภินนท์เหลือเกิน"
“เป็นเพราะว่าเขารวย”
“ก็ใช่ด้วย แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เมืองนอกให้แม่ฟังหมดแล้ว เขาเลิกกับทางนั้นมาหมดแล้ว เพราะเขาเพิ่งรู้ว่าเขารักจินมาก...แม่ว่าจินน่าจะให้โอกาสเขาอีกสักครั้งอย่างไรก็เคยรักกันมาก่อน”
“ผมไม่รับรองนะครับว่าจินจะไปด้วยหรือเปล่า ขอคุยกับเขาก่อน...แค่นี้นะครับ”
วางสายจากแม่ แล้วเอกรินทร์ก็โทรศัพท์หาจรินนาทันที...
“ตกลงค่ะพี่เอก จินจะเข้าไปกินข้าวเย็นด้วย แต่จินจะไปกับพี่กล้วยนะคะ...ถ้าพี่นนท์ยังหน้าทนนั่งดูจินหวานอยู่กับอาจารย์กล้วยได้ก็เอาซิ”....
“เดี๋ยวเลยไปที่บ้านพี่เอกนะคะ กินข้าวเย็นกัน พี่นนท์อยู่ที่นั่นด้วย”
“จินก็รู้ว่าแม่คุณเอกไม่ค่อยชอบพี่”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ชวนจินไปก็ต้องชวนคนพิเศษของจินไปด้วย”
“ถ้าเขากระทบกระเทียบกระแทกกระทั้นถ้วยใส่พี่ล่ะ”
“ปอดจังเลย”
“พี่ไม่เคยจีบใครแบบต้องแย่งชิง ไม่เคยคิดแย่งของรักของใครด้วย”
“จินแค่เคยรักเขาค่ะ แล้วมันก็จบแล้วด้วย”
เดชาพงษ์ถอนหายใจเบา ๆ ฝ่ายจรินนานั้นรู้สึกขัดใจกับนิสัยไม่สู้คนของเขาเสียจริง ๆ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วนึกถึงภาพในอดีตที่ตัวเองเกือบพลาดท่าเสียทีให้กับอภินนท์หลังจากที่กลับมาจากงานปาร์ตี้ ดีแต่ว่าสัมผัสอันร้อนแรงที่หน้าอกของเธอนั้น ทำให้เธอได้สติจนต้องผลักใสเขาออก และขอร้องให้เขากลับบ้าน...ไม่เช่นนั้นวันนี้ เขาก็คงจะเอามาพูดได้ว่า เคยทำให้เธอมีความสุขมาแล้ว เธอเองก็จะลำบากใจยิ่งกว่านี้
“ถามอะไรหน่อยได้ไหม” จรินนาเปรยออกมาเบา ๆ โดยที่ไม่ได้หันหน้ามามองหน้าคนขับ
“เรื่อง” เดชาพงษ์ขับรถไปพลางหันมาถาม
“พี่กล้วยเคยมีอะไรกับใครหรือยัง”
“ยัง” เขาตอบอย่างรวดเร็ว
จรินนาหันมาหาเขาในทันที
“จริง ๆ เหรอคะ”
“หัวโบราณ” ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดของเขานั้นจรินนามองไม่เห็น แต่ว่าใบหน้าที่แดงซ่านขึ้นมาทำให้จรินนาต้องหัวเราะเบา ๆ
“ไม่เชื่ออีกซิ”
“เชื่อค่ะเชื่อ” จรินนายังขำไม่เลิก ขำที่ตัวพลั้งปากถามเขาไปได้อย่างไรก็ไม่รู้...และพอรู้คำตอบแล้วก็ทำให้จรินนาครุ่นคิดไปถึงคืนวันส่งตัวเข้าหอ...และเหมือนเขาจะรู้ทันความคิดนั้น เขาจึงหันมาแล้วบอกว่า
“แต่ทฤษฏีพี่แน่นอยู่นะ”
“ตอนนี้พี่กล้วยอยู่ที่ไหนคะ”
“พี่ขับรถออกมาแล้วครับ...”
“ไม่ร่ำไม่ลากันเลยนะเสียมารยาทมาก...ป๊าถามถึงด้วยนะ”
“ก็หมดเรื่องแล้วนี่”
“หมดที่ไหนกัน...ขับรถกลับมารับจินหน่อยซิ จินจะไปด้วย”
“แล้วรถของคุณจินล่ะ”
“ให้ป๊าขับกลับเอง”
“แล้วแขกของคุณจิน”
“ตอนนี้เป็นแขกของแม่พี่เอกไปแล้ว อย่างอน อย่าหึงอย่างไม่มีเหตุผลหน่อยเลย...อย่างไรจินก็ไม่กลับไปคืนดีกับเขาหรอก”
“เขาอุตส่าห์ตามมาถึงที่นี่นะ น่าจะดูแลเขาหน่อย”
“จะมารับจินไหม”
“ไปซิ รอห้านาทีนะครับ...”
และเมื่อขึ้นมานั่งบนรถของเดชาพงษ์ที่สวมเสื้อสีขาวกางเกงยีนส์ตัวใหม่แล้วจรินนาก็บอกว่า “วันนี้ว่างหรือเปล่าคะ”
“ทำไมเหรอ”
“ไปเที่ยวอุทัยธานีกัน พี่เอกอยากพาพี่หนึ่งไปเที่ยววัดท่าซุง...จินเองก็อยากขึ้นเขาสะแกกรังด้วย อยู่แค่นี้เองไม่เคยไปสักที”
“เลยไปเที่ยวบ้านไร่ด้วยไหมละ มีวัดถ้ำเขาวง สวยมาก...จินต้องชอบแน่ ๆ เพราะมีถ้ำอยู่บนเขาด้านหลังวัดให้ปีนด้วยนะ”
“งั้นโทรถามพี่เอกก่อนแล้วกัน...”
และเมื่อตกลงกันได้แล้ว นาทีจึงขับรถตามรถของเดชาพงษ์เพื่อไปเที่ยวไปทำบุญกันต่อ...
หลังจากที่แวะไร่ส้มหวานหวานเพื่อซื้อส้มกลับไปเป็นของฝาก ขากลับเอกรินทร์ต้องเป็นคนขับแทนนาทีที่ปวดขาอันเนื่องมาจากการปีนภูเขาและเดินลุยน้ำตก และพอรถออกตัวตามรถของเดชาพงษ์ที่มีจรินนานั่งอยู่ด้วยนาทีก็ผลอบหลับไป...เขาสะดุ้งตื่นอีกทีเมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาที่วางไว้ข้างตัวดังขึ้น
และนาทีก็รู้สึกว่าเพลงนั้นดังมากขึ้นเรื่อย ๆ และพอลืมตาตื่นเขาก็เห็นว่าเอกรินทร์หยิบโทรศัพท์แตะกับหูของเขา เขายิ้มให้เอกรินทร์ก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงงัวเงียกลับไป... “โหล..”
“โหล สอง โหล ไปเที่ยวไหนมา สวยจังเลย” เป็นเสียงของหิรัญญาที่ทำให้นาทีต้องคลี่ยิ้มกว้าง
“ไปเที่ยวไหนมานะ” นาทีถามคนขับรถเบา ๆ
“วัดถ้ำเขาวง อำเภอบ้านไร่ กับวัดท่าซุง ที่อำเภอเมือง”
ระหว่างที่เที่ยวไปนั้นนาทีก็อัพรูปขึ้นเฟสบุ๊คไปด้วยจึงทำให้หิรัญญาต้องโทรกลับมาถาม และพอได้คำตอบจากเอกรินทร์ นาทีก็ตอบคำถามของหิรัญญาอีกทอดหนึ่ง...
“แหม เดี๋ยวนี้คิดเองอะไรเองไม่ได้แล้วเหรอ” ถ้าคิดจะลับฝีปากกับหิรัญญานั้นสติจะต้องพร้อม นาทีจึงยืดตัวตรงก่อนจะเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้เอกรินทร์ได้รับรู้ด้วยว่าหิรัญญานั้นเป็นคนที่คุยสนุกแค่ไหน
“ประมาณนั้น”
“เขาพาไปเที่ยวเหรอ” หิรัญญานั้นไม่รู้ว่านาทีเปิดเสียงจึงได้ถามเหมือนจะนินทาคนขับ
“จ้า...มาฮันนี่มูนกัน”
“ล้ำหน้านะยะ ฮันนี่มูนกันที่วัดด้วย...แล้วนี่แต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ฮันนี่ก่อน แต่งทีหลัง”
“จะแต่งเมื่อไหร่ก็บอกแต่เนิ่น ๆ เด้อ จะได้เก็บเงินเก็บทองใส่ซองทัน”
“พี่ญาเคยบอกหนึ่งใช่เปล่าว่าถ้าหนึ่งแต่งงานลงหน้าหนังสือพิมพ์ได้ พี่ญาจะให้หนึ่ง หนึ่งแสนบาท”
“เอ๊ะ เคยบอกเหรอ”
“หนึ่งจำได้นะ แพรวเป็นพยานได้”
“อย่าบอกนะว่าจะถึงขนาดแต่งงานลงหน้าหนังสือพิมพ์”
“ก็ตอนนี้ แม่พี่เอกเขาก็รับหนึ่งเข้าบ้านแล้ว ให้เป็นศรีสะใภ้แล้ว...อนาคตมันก็ไม่แน่นะ”
“แม่เจ้า...เกิดอะไรขึ้น เป็นไปได้อย่างไรละเนี่ย...อย่าบอกนะว่าเธอทำของใส่ทั้งแม่ทั้งลูก”
“เอาความดีเข้าสู้เหมือนนางเอกสมัยก่อน”
“แล้วนี่ก็คงไม่หันหัวรถมาสัตหีบแล้วมั้ง”
“ไกล...”
“ไกลที่ไหน ระยะทางเท่า ๆ กันแหละ”
“ไป ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น ที่เคยบอกจะติดต่อให้เราก็ยังฉกไปกินเสียฉิบ...แล้วหนึ่งเห็นพี่ญากับแพรวแฮปปี้กับสามี หนึ่งก็ห่อเหี่ยวนะ...”
“แล้วตอนนี้ว่างหรือเปล่า” หิรัญญาเปลี่ยนเรื่องคุย
“อยู่บนรถจ้า กำลังจะกลับนครสวรรค์”
“ฟังจากน้ำเสียงแล้วแฮปปี้ดีอยู่นะ”
“หนึ่งเคยทุกข์เหรอ”
“แล้วคำว่าห่อเหี่ยวนี่แปลว่าทุกข์หรือเปล่า...แต่ทุกข์ไปก็ไม่มีประโยชน์ เขารักหนึ่งดีอยู่นะ”
“ตอนนี้ยังดีอยู่ครับ อนาคตไม่รู้...” คุยกับหิรัญญาพลางนาทีก็เอี้ยวตัวไปหาคนขับ ก่อนจะดึงปลายจมูกแหลมของเขาเล่น เอกรินทร์ละมือจากพวงมาลัยจับมือนาทีมากุมไว้ พลางฟังนาทีคุยกับหิรัญญาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม...
“สุขแค่วันนี้ก็พอแล้วอนาคตช่างมัน”...หิรัญญาสรุปอย่างคนที่ผ่านโลกมาเยอะ...และเอกรินทร์ก็เสริมความคิดนั้นเข้าไปว่า “ถูกต้องเลยครับพี่ญา”
“แม่ครับตอนนี้อภินนท์อยู่ที่ไหน” ระหว่างที่รถวิ่งอยู่บนถนนสายเอเซียมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ จรินนาอดสงสัยเรื่องของอภินนท์ไม่ได้ ดังนั้นหญิงสาวจึงโทรศัพท์มาหาเอกรินทร์ให้เขาช่วยต่อสายถึงแม่เพื่อสืบข่าวคราว...
“แม่พาไปเปิดโรงแรม...แล้วเย็นนี้ แม่ก็ชวนเขามากินข้าวที่บ้านเราด้วย เอกกับหนึ่งกลับมากินด้วยกันนะ ชวนจินมาด้วย”
“แม่ครับ อย่าไปวุ่นวายกับจินเขาเลยครับ ปล่อยเขาไปเถอะ” เอกรินทร์บอกแม่ไปอย่างคนที่รู้ใจของจรินนาเป็นอย่างดี ถ้าลองได้บอกว่า “ไม่” แล้ว จรินนาก็จะไม่มีทางหวนกลับไปหาอีกอย่างแน่นอน
“รู้ตัวกันบ้างไหมว่าเสียมารยาทมากเลยนะ เพื่อนมาหาแล้วหลบหน้ากันไปเที่ยวตามลำพังแบบนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะ”
“ผมไม่เกี่ยวนะครับ มันแขกที่ไม่ได้รับเชิญของจินเขา”
“ไม่รู้ละอย่างไรลากจินกลับมากินข้าวที่บ้านให้ได้ด้วยแล้วกัน”
“ถ้าผมทำไม่ได้ล่ะ”
“เอกก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้แม่ใจดีกับเอกมากแค่ไหนแล้ว...” แม่ส่งสัญญาณเรื่องนาทีมาแบบนี้ ใจของเอกรินทร์กระตุกวูบ...แม่รู้ แม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรแต่แม่ไม่พูดตรง ๆ
“ช่วยแม่หน่อยแล้วกัน...แม่ถูกชะตากับอภินนท์เหลือเกิน"
“เป็นเพราะว่าเขารวย”
“ก็ใช่ด้วย แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เมืองนอกให้แม่ฟังหมดแล้ว เขาเลิกกับทางนั้นมาหมดแล้ว เพราะเขาเพิ่งรู้ว่าเขารักจินมาก...แม่ว่าจินน่าจะให้โอกาสเขาอีกสักครั้งอย่างไรก็เคยรักกันมาก่อน”
“ผมไม่รับรองนะครับว่าจินจะไปด้วยหรือเปล่า ขอคุยกับเขาก่อน...แค่นี้นะครับ”
วางสายจากแม่ แล้วเอกรินทร์ก็โทรศัพท์หาจรินนาทันที...
“ตกลงค่ะพี่เอก จินจะเข้าไปกินข้าวเย็นด้วย แต่จินจะไปกับพี่กล้วยนะคะ...ถ้าพี่นนท์ยังหน้าทนนั่งดูจินหวานอยู่กับอาจารย์กล้วยได้ก็เอาซิ”....
“เดี๋ยวเลยไปที่บ้านพี่เอกนะคะ กินข้าวเย็นกัน พี่นนท์อยู่ที่นั่นด้วย”
“จินก็รู้ว่าแม่คุณเอกไม่ค่อยชอบพี่”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ชวนจินไปก็ต้องชวนคนพิเศษของจินไปด้วย”
“ถ้าเขากระทบกระเทียบกระแทกกระทั้นถ้วยใส่พี่ล่ะ”
“ปอดจังเลย”
“พี่ไม่เคยจีบใครแบบต้องแย่งชิง ไม่เคยคิดแย่งของรักของใครด้วย”
“จินแค่เคยรักเขาค่ะ แล้วมันก็จบแล้วด้วย”
เดชาพงษ์ถอนหายใจเบา ๆ ฝ่ายจรินนานั้นรู้สึกขัดใจกับนิสัยไม่สู้คนของเขาเสียจริง ๆ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วนึกถึงภาพในอดีตที่ตัวเองเกือบพลาดท่าเสียทีให้กับอภินนท์หลังจากที่กลับมาจากงานปาร์ตี้ ดีแต่ว่าสัมผัสอันร้อนแรงที่หน้าอกของเธอนั้น ทำให้เธอได้สติจนต้องผลักใสเขาออก และขอร้องให้เขากลับบ้าน...ไม่เช่นนั้นวันนี้ เขาก็คงจะเอามาพูดได้ว่า เคยทำให้เธอมีความสุขมาแล้ว เธอเองก็จะลำบากใจยิ่งกว่านี้
“ถามอะไรหน่อยได้ไหม” จรินนาเปรยออกมาเบา ๆ โดยที่ไม่ได้หันหน้ามามองหน้าคนขับ
“เรื่อง” เดชาพงษ์ขับรถไปพลางหันมาถาม
“พี่กล้วยเคยมีอะไรกับใครหรือยัง”
“ยัง” เขาตอบอย่างรวดเร็ว
จรินนาหันมาหาเขาในทันที
“จริง ๆ เหรอคะ”
“หัวโบราณ” ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดของเขานั้นจรินนามองไม่เห็น แต่ว่าใบหน้าที่แดงซ่านขึ้นมาทำให้จรินนาต้องหัวเราะเบา ๆ
“ไม่เชื่ออีกซิ”
“เชื่อค่ะเชื่อ” จรินนายังขำไม่เลิก ขำที่ตัวพลั้งปากถามเขาไปได้อย่างไรก็ไม่รู้...และพอรู้คำตอบแล้วก็ทำให้จรินนาครุ่นคิดไปถึงคืนวันส่งตัวเข้าหอ...และเหมือนเขาจะรู้ทันความคิดนั้น เขาจึงหันมาแล้วบอกว่า
“แต่ทฤษฏีพี่แน่นอยู่นะ”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2555, 10:23:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2555, 11:57:35 น.
จำนวนการเข้าชม : 2681
<< 25.“อย่าเสียเวลาเลยค่ะ ไปตามทางของพี่เถอะ” | 26.1 "คิดถึงนะครับ ดูแลตัวเองด้วย....รักนะจุ๊บๆ” >> |


nateetip 27 ส.ค. 2555, 10:32:17 น.
พี่กล้วยยยยย...หุหุ
พี่กล้วยยยยย...หุหุ


nunoi 27 ส.ค. 2555, 11:04:20 น.
555 ทฤษฏีแน่น แต่ปฎิบัติ หนูจินต้องให้คะแนนเองนะจ๊ะ
555 ทฤษฏีแน่น แต่ปฎิบัติ หนูจินต้องให้คะแนนเองนะจ๊ะ

คิมหันตุ์ 27 ส.ค. 2555, 11:10:09 น.
ฮ่าฮ่า......
ฮ่าฮ่า......

imsoul 27 ส.ค. 2555, 11:43:55 น.
ชอบจัง ทฤษฎีพี่แน่น ๕๕๕๕
ชอบจัง ทฤษฎีพี่แน่น ๕๕๕๕

konhin 27 ส.ค. 2555, 12:48:19 น.
โอ้ กลับไปอ่านชื่อตอนอีกที เขิลอ่ะ
โอ้ กลับไปอ่านชื่อตอนอีกที เขิลอ่ะ

ปริยฉัตร 27 ส.ค. 2555, 13:04:20 น.
โอ้ว..ชอบคำว่า "แต่ทฤษฎีพี่แน่นอยู่นะ"
โอ้ว..ชอบคำว่า "แต่ทฤษฎีพี่แน่นอยู่นะ"

เด็กหญิงม่อน 27 ส.ค. 2555, 15:31:38 น.
อร๊ายยยยย คุณหนูจินกล้าถามพี่กล้วยได้ไงเนี่ย ><
อร๊ายยยยย คุณหนูจินกล้าถามพี่กล้วยได้ไงเนี่ย ><


goldensun 27 ส.ค. 2555, 17:54:24 น.
ตบท้ายได้ชวนอึ้งมาก พี่กล้วย หนูจินจะพิสูจน์มั้ยเนี่ย
ตบท้ายได้ชวนอึ้งมาก พี่กล้วย หนูจินจะพิสูจน์มั้ยเนี่ย

หนอนฮับ 27 ส.ค. 2555, 17:57:18 น.
5555 พี่กล้วยชนะเลิศศศศศศส 5555
5555 พี่กล้วยชนะเลิศศศศศศส 5555



nutcha 27 ส.ค. 2555, 21:12:02 น.
เฮ้อ เฮ้อ ทฤษฎีแน่นแต่ปฏิบัติต้องให้จินประเมินผลนะ
เฮ้อ เฮ้อ ทฤษฎีแน่นแต่ปฏิบัติต้องให้จินประเมินผลนะ
