ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 26.1 "คิดถึงนะครับ ดูแลตัวเองด้วย....รักนะจุ๊บๆ”

ตอนที่ 26

หลังมื้ออาหารอันแสนอึดอัดเดชาพงษ์ก็ขับรถมาส่งจรินนาที่หน้าบ้าน...และพอหญิงสาวจะลงจากรถ เขาก็คว้ามือขวาของจรินนาไว้.. “เดี๋ยวครับคุณจิน”

“มีอะไรคะ” จรินนาหันกลับไปมองหน้าของเขา และก็พบว่าดวงตาคู่คมกล้าของเขานั้นมีแววกรุ้มกริ่มอย่างผิดที่เคยเห็น...อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้ระหว่างที่ไปเที่ยวด้วยกันนั้น เธอกับเขาเปิดใจให้ใจของกันและกันเชื่อมใจกันมากไป และระหว่างที่เดินขึ้นไปบนภูเขานั้นเขาก็แทบจะอุ้มเธอไปเสียด้วยซ้ำ

“ฝันดีนะครับ”

“เช่นกันค่ะ...”

ตอบเขาไปแล้ว แต่ว่าเดชาพงษ์ก็ยังไม่ปล่อยมือ จรินนาจะดึงมือออก แต่ว่าเขายังจับมือหญิงสาวไว้แน่น “ขอจูบหลังมือได้ไหม”

จรินนาเบ้หน้ายิ้ม ๆ...ก่อนจะบอกว่า “จูบหน้าเลยดีกว่าไหมคะ” บอกเขาแล้วจรินนาก็ขยับตัวเอียงหน้าไปหาเขา ซึ่งเดชาพงษ์กลับส่ายหัวดิกพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์..

“อย่ามายั่วให้ผมตบะแตกเลย ไม่มีทางหรอก”

“ค่า พ่อคนหัวโบราณ”

จรินนาพูดจบเขาก็จูบที่หลังมือหญิงสาวเบา ๆ ก่อนจะเชยตาเสน่หาขึ้นมองหน้าทิ่ยิ้มอย่างเอียงอายมองหน้าเขาอยู่เช่นกัน

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่รักกัน”

เขาปล่อยมือ จรินนาลงจากรถและเขาก็ออกไปรถอย่างอ้อยอิ่ง..

หญิงสาวเดินกลับเข้ามาในบ้าน ก็พบว่าผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่แล้วแต่ว่าสีหน้านั้นของพ่อนั้นบอกให้รู้ว่าร่างกายกำลังมีปัญหา “ป๊าเป็นอะไรคะ”

“ปวดท้องนิดหน่อยนะ...เหมือนอาหารจะไม่ย่อย”

“กินยาหรือยัง”

“กินแล้ว ยาธาตุในตู้ยา”

“ดีขึ้นไหมคะ ไปหาหมอไหม”

ผู้เป็นพ่อส่ายหน้าก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ไปบ้านอึ้มแล้วเป็นไงบ้าง”

“อยากจะเจ้ากี้เจ้าการอะไรก็เชิญเขาเถอะค่ะ จินจบก็คือจบ...ป๊าเองก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่อาจารย์จนกว่าเราไม่ใช่เหรอคะ”

ผู้เป็นพ่อส่ายหน้าเบา ๆ “ทุกอย่างแล้วแต่ลูก ตัดสินใจให้ดีแล้วกัน เพราะหนูจะต้องอยู่กับเขาไม่ใช่ป๊า”

“แล้วทำไมป๊าไม่พูดให้อึ้มเข้าใจ”

“อย่างไรเขาก็เป็นญาติผู้ใหญ่ของเรา เขาปรารถนาดีมา ก็รับไว้ ป๊าดีใจนะที่จินยอมไปกินข้าวเย็นที่บ้านอึ้มวันนี้”

วันนี้ภาคค่ำลุงกับพ่อของเธอติดงานเลี้ยง ที่บ้านของอรุณีจึงมีแขกแปลกหน้าสามคน คือเดชาพงษ์ นาที และ อภินนท์ นาทีนั้นคุยเก่งและระหว่างที่ชวนอภินนท์คุยเขาก็ล้วงแคะแกะเกาถึงธุรกิจของ อภินนท์ไปด้วย โดยอรุณีนั่งฟังด้วยทีท่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเดชาพงษ์นั้นรู้ว่าเจ้าของบ้านไม่ค่อยชอบหน้า เขาจึงกินข้าวไปอย่างเงียบ ๆ โดยมีเธอคอยเอาใจใส่ โดยการตักกับข้าวใส่จานให้บ้าง คุยกัน หงุมหงิม ๆ เหมือนว่านั่งกันอยู่สองคน เพื่อจะแกล้งเจ้าของบ้าน และพอกินอิ่มแล้ว จรินนาก็ขอตัวกลับทันที ซึ่งอรุณีก็ไม่ได้รั้งไว้แต่อย่างใด...

“อาอึ้มน่าจะมีลูกสาวอีกสักคนนะป๊า...พี่นนท์ไม่หลุดมือแน่ ๆ”

“แล้วลูกไม่นึกเสียดายเขาบ้างเหรอ เทียบกับอาจารย์เดชาพงษ์นี่คนละเรื่องเลยนะ”

“ขาวกับดำ รวยกับจน ใช่ไหมคะ...จินว่าจินกับเขาไม่ใช่เนื้อคู่กันค่ะ...และจินก็เชื่อว่าอีกสักพักเนื้อคู่ตัวจริงของเขาก็คงจะมากลากเขากลับไป เมื่อนั้นแหละ อาอึ้มจะได้รู้ว่า คนเราดูแต่เปลือกอย่างเดียวไม่ได้”


ขณะที่จรินนากำลังวุ่นวายเตรียมอาหารให้พ่อใส่บาตรอยู่ในครัว อภินนท์ก็ขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน เขาลงจากรถพร้อมช่อกุหลาบขนาดใหญ่ เขาไม่ได้กดออดแต่ว่าพอสาวใช้เห็นก็เดินมาบอกจรินนา จรินนารีบออกจากครัวไปดู พอเห็นอภินนท์อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอกลมรองเท้าสานพร้อมกับดอกไม้ในมือ ซึ่งสนนราคาเสื้อผ้าชุดนี้ของเขานั้นน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าพันบาท หญิงสาวก็ถอนหายใจเบา ๆ

“มาทำไมแต่เช้าคะ”

“ก็คิดถึงจินนี่ นอนไม่หลับ ก็เลยต้องมา...จินนี่ก็ตื่นแต่เช้านะ” ชีวิตประจำของจรินนานั้นอภินนท์ล่วงรู้เพราะมีอรุณีบอกเล่าให้ฟัง ดังนั้นภายในเจ็ดวันหรือสิบวันนี้เขาจะต้องพิชิตใจจรินนาให้ได้...

“ต้องเตรียมของใส่บาตรให้ป๊าค่ะ”

“น่ารักจังเลย...พี่ก็อยากใส่บาตรบ้าง พี่ใส่ด้วยนะ”

จรินนาพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ แล้วในที่สุดจรินนาก็ต้องเปิดประตูให้เขาเข้ามารอในบ้าน ส่วนดอกไม้นั้นหญิงสาวรับและวางไว้บนโต๊ะวางของอย่างไม่ได้เห็นความสำคัญ คุณบรรจงลงจากชั้นบน เขาไม่แปลกใจที่เห็นอภินนท์เพราะมองเห็นตั้งแต่อยู่ชั้นบนแล้ว และเขาก็อยากจะดูว่า ลูกสาวตนเองนั้นจะจัดการกับปัญหาชีวิตในครั้งนี้อย่างไร?


จัดโต๊ะอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วจรินนาก็เลี่ยงขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำแต่งตัวปล่อยให้พ่อดูแลอภินนท์แทนตัวเอง และเมื่อแต่งตัวเสร็จเดินลงมา จรินนาก็มองอภินนท์ที่ยังคงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายใจ

“ป๊าจินนี่ออกไปข้างนอกแล้ว”

“ค่ะ ...จินได้ยินเสียงรถแล้ว จินก็จะออกไปข้างนอกเหมือนกัน นัดอาจารย์เดชาพงษ์ไว้”

“จะไปเที่ยวไหนกันเหรอ”

“เรื่องส่วนตัวค่ะ...”

อภินนท์หันไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ไม่สนใจว่า เจ้าของบ้านนั้นปั้นหน้าอย่างไร

“พี่นนท์ก็ควรจะไปไหน ๆ ก็ได้ค่ะ เจ้าของบ้านจะออกจากบ้านแล้ว พูดตรง ๆ ก็คือ จินขอไล่แขกค่ะ”

อภินนท์วางหนังสือพิมพ์แล้วลุกขึ้น ก่อนจะพูดหน้าตายว่า

“ให้พี่ไปด้วยซิ จินนี่ไปไหนพี่ไปด้วย”

“จินก็บอกไปแล้วว่าจินจะไปหาแฟนจิน พี่นนท์ก็เห็นนี่คะ ว่าเรารักกันแค่ไหน”

“พี่เห็นแต่ว่าจินนี่เล่นละครตบตาพี่...พาพี่เที่ยวหน่อยนะครับ พี่อยากขึ้นเขาจังเลยมองไปเห็นเจดีย์สวยมาก...”

“เสียใจค่ะ...” ว่าแล้วจรินนาก็เดินไปยังชั้นวางรองเท้าเลือกรองเท้ามาสวมก่อนจะสั่งสาวใช้ว่า

“พอคุณคนนี้ออกจากบ้านเราแล้วก็ล็อคหน้าบ้านเลยนะ...ฉันจะกลับมาค่ำ ๆ”...บอกคนใช้แล้ว จรินนาก็เดินออกไปที่รถโดยไม่สนใจสีหน้าเจ็บใจของอภินนท์เลยสักนิด



ออกจากบ้านมาแล้วจรินนาก็โทรหาเอกรินทร์บอกเล่าฤทธิ์เดชของอภินนท์ให้เอกรินทร์ได้รับรู้... เอกรินทร์ก็เลยแนะนำว่า “งั้นจินก็หายตัวไปจากนครสวรรค์สักสามวันดีไหม ดูซิถ้าเขาไม่เจอจินเขาจะทำอย่างไร”

“หนีปัญหาไม่ใช่การแก้ปัญหานะคะ”

“แต่เขาก็ทู่ซี่ตื้อไม่เลิกโดยได้แรงเชียร์จากแม่พี่นี่ซิ...แม่พี่ชอบเขามากเลยนะ”

“พี่หนึ่งจะกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่”

“วันนี้แหละ กินข้าวอิ่มแล้วก็ขับรถกลับแล้ว”

“ไปเขาค้อกันไหม ชวนพี่หนึ่งไปด้วย วันจันทร์ให้พี่หนึ่งลางานสักวัน นอนพักกันสักคืน จินจะชวนอาจารย์ ชวนนาง ชวนพี่จักรไปเที่ยวกัน”

“วันจันทร์พี่ต้องทำงาน งานเยอะมาก”

“แล้วจินจะทำอย่างไรกับไอ้บ้านี่ดีละเนี่ย”

“ลองปรึกษาอาจารย์กล้วยซิ เผื่อจะมีทางออก”

“เขาก็เร่งทำงานเขาเหมือนกัน เดี๋ยววันนี้จินไปหานางดีกว่า เผื่อจะมีทางออกอะไรบ้าง ดีไม่ดี จินกับนางอาจจะไปเขาค้อกันแค่สองคนก็ได้...”

“ขับรถขึ้นเขาได้เหรอ”

“สบายมากพี่...ใช่ว่าไม่เคยไปเสียเมื่อไหร่...ขอไปปรึกษานางก่อนแล้วกัน..แค่นี้นะ”

วางสายจากเอกรินทร์แล้วจรินนาก็ต่อสายถึงเดชาพงษ์ซึ่งวันนี้เขาบอกว่าจะเข้าไปวาดรูปที่โรงแรมเพราะระยะเวลามันกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว และพอเล่าเรื่องอภินนท์ให้เขาฟัง เขาก็บอกว่า

“การหนีไม่ใช่ทางแก้ปัญหา พี่ว่าจินก็เฉย ๆ อย่าไปอะไรกับเขา ถ้าเราไม่คุยไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขา เดี๋ยวเขาก็ต้องถอยทัพกลับไปเอง พี่คิดว่าอย่างนั้นนะ"

“แต่ว่าไป ดอกไม้ช่อใหญ่ของเขาก็เกือบทำเอาจินใจอ่อนไปเหมือนกันนะ”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปให้ใหญ่กว่านั้นอีก...”

“ลงทุน”

“แต่จินคงไม่ได้สนใจเรื่องดอกไม้จริง ๆ หรอก”

“ก็บอกว่าก็เกือบ...แบบว่าคนเรามันก็นะ ยังมีกิเลสวูบวาบอยู่บ้าง อย่างไรพี่กล้วยก็อย่าเอาตัวออกห่างจากจินแล้วกัน”

“งั้นวันนี้ก็มานั่งเฝ้าพี่ทำงานไหม”

“ไม่ดีกว่า ในโรงแรมอบอ้าว...”

“แล้วจะไปไหน”

“เดี๋ยวแวะไปหานางก่อน ไม่รู้เรื่องชุดใส่งานหมั้นไปถึงไหนแล้ว”

“อย่างไรก็ดูเผื่อของเราไว้เลยนะครับ”

“เอาอย่างนั้นเลยนะ”

“พี่ว่าเราแจกการ์ดปุ๊บ อภินนท์เขาก็ต้องถอยทัพปั๊บเลยแหละ”

“อืม...ดีเหมือนกันนะ...แล้วมีเงินค่าสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่แล้ว”

“ลองเรียกมาก่อนซิ ถ้ามีก็จะให้แม่มาขอเลย ถ้าไม่มีก็จะคิดซะว่ายังไม่ได้ยิน...”
“นางได้จากพี่จักรหลักล้านเลยนะ”

“ถ้าเรียกพี่ขนาดนั้นคงรอไปอีกห้าปี...”

“รักกับคนจนนี่เนอะ”

“ไหนจะสู้ลูกชายเจ้าของโรงงานทอผ้าได้...กลับตัวก็ยังทันนะ...”

“นั่นซิ รวยเว่อร์ขนาดนั้น สบายไปทั้งชาติ”

คุยเล่นกันไปกันมาแล้วเดชาพงษ์ก็เงียบเสียงลง

“อ้าว ทำไมเงียบ”

“น้อยใจความจนของตัวเองอยู่...จนแล้วยังไม่เจียมอีก คิดเด็ดดอกฟ้า”

“หัวก็ไม่ล้าน”

“แค่รู้ว่าจินจะจบกับพี่ ใจพี่ก็จะขาดแล้วเนี่ย”

“ขนาดนั้นเลย”

“จริง ๆ ครับ ใจคอไม่ดีเลย...ไม่เอา ๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวทำงานไม่ได้...ตกลงจินจะไปหานางใช่ไหม”

“ค่ะ”

“อย่างไรก็ดูแลตัวเองด้วย กินข้าวกินปลาซะให้เรียบร้อย ส่วนเขาค้อเดี๋ยวงานเสร็จพี่จะพาไปแน่นอน จะพาไปให้ทั่วประเทศไทยเลย..”

“พาขึ้นสวรรค์ด้วยเปล่า”

“อย่ามายั่ว”

“แปดแสนแหวนเพชรหนึ่งวงพอไหวไหมละ” จรินนาลองเสนอสินสอดทองหมั้นที่อยู่ในใจให้เขารับรู้ไว้

“ให้ทองอีกสิบบาทก็ได้...”

“จริง ๆ นะ”

“หมดตัวเลยแหละ...”

“โอ้ว ทำไมมีเงินเยอะจัง”

“ก็ก่อนหน้านั้นกินข้าวกับน้ำปลาจะไม่มีเงินได้ไง...แล้วอีกอย่างพอรู้ว่า เนื้อคู่เป็นถึงดอกฟ้าพี่ก็เร่งทำงานใหญ่เลย...ไม่อยากแหงนหน้ามองนาน ๆ น่ะ...คิดถึงนะครับ ดูแลตัวเองด้วย....รักนะจุ๊บๆ”




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2555, 12:23:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2555, 12:23:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 2849





<< 25.2 “แต่ทฤษฏีพี่แน่นอยู่นะ”   26.2 ตอนจบ..........แล้วจ้า >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 28 ส.ค. 2555, 12:24:01 น.
"ขอบคุณนะครับ คิดถึงนะครับ ดูแลตัวเองด้วย....รักนะจุ๊บๆ”


KipkeLucifer 28 ส.ค. 2555, 12:50:33 น.
ได้ใจอะ


sai 28 ส.ค. 2555, 13:12:40 น.
อ๊ากกก จาร์ยกล้วยย หวานได้ใจ ปากคอต่อได้ทุกคำ อิอิ


saralun 28 ส.ค. 2555, 13:37:09 น.
กรี๊ด....^^


imsoul 28 ส.ค. 2555, 13:41:46 น.
คุยกันน่ารักมากเลยอาจารย์กล้วยกับจิน


คิมหันตุ์ 28 ส.ค. 2555, 14:28:44 น.
กรี๊ดๆ น่ารักจัง เงยหน้านานๆเมื่อยคอเนอะ


nunoi 28 ส.ค. 2555, 15:21:45 น.
น่ารักจริงๆ


nateetip 28 ส.ค. 2555, 17:33:11 น.
พี่กล้วยน่าร้ากกกก...


anOO 28 ส.ค. 2555, 17:41:15 น.
หวานกันจริงๆ อิจฉาๆๆๆๆ คู่นี้เค้าหยอกกันเก่งเนอะ


หนอนฮับ 28 ส.ค. 2555, 17:59:48 น.
จุ๊บๆ พี่กล้วยด้วยคน


ปริยฉัตร 28 ส.ค. 2555, 18:52:30 น.
พี่กล้วยเริ่มหวานได้ที่ล่ะ


konhin 28 ส.ค. 2555, 19:34:13 น.
พี่กล้วยหวานนนนนนนนนนน น้องจินมดตอมแล้ว


nutcha 28 ส.ค. 2555, 19:46:20 น.
โอ้ววว.....พี่ต้นกล้วยหวานมาก


เด็กหญิงม่อน 28 ส.ค. 2555, 20:30:32 น.
พี่กล้วยปากหวานมากๆ


pseudolife 28 ส.ค. 2555, 23:08:23 น.
อาจารย์กล้วยนี่น่ารักจริงๆ


Zephyr 28 ส.ค. 2555, 23:25:45 น.
น่ารักจังงงงงงง
หมั่นไส้ตานนท์จริงจัง


invisible 29 ส.ค. 2555, 01:18:34 น.
อาจารย์กล้วยน่ารักจริง


Orathai 3 ก.ย. 2555, 22:56:16 น.
ทำไมน่ารักอย่างนี้...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account