บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๙

“คัต!”

ทั้งที่สิ้นเสียงของผู้กำกับไปตั้งนานแล้ว แต่ร่างอวบอิ่มที่ทรุดอยู่บนพื้นท่ามกลางแสงไฟก็ยังคงสะอื้นไห้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ

ไหล่ที่ไหวแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ร่วมฉากทุกคนยืนอึ้งไปตามๆ กัน นักแสดงอาวุโสเป็นคนแรกที่ได้สติก่อน จึงขยับเข้าไปแตะบ่าหญิงสาว

“เป็นอะไรไปหนูแซม”

สิมิลันกัดฟันปั้นยิ้ม เงยขึ้นบอกคนรอบข้าง “สงสัยแซมจะอินกับฉากนี้ เพราะพี่แป้วเล่นแบบจัดเต็มทั้งเสียงทั้งสายตาจิกสะใภ้นอกทำเนียบจนแซมรู้สึกต่ำต้อยสุดๆ ไปเลย”

หญิงสาวแก้ตัวทั้งที่ความจริงแล้วเธอมิได้อินอย่างที่อ้างสักนิด แต่ร้องไห้เพื่อระบายความกดดันในใจต่างหาก หลายวันที่ผ่านมาเธอพยายามฝืนทำเป็นเข้มแข็ง แสร้งยิ้มเพื่อไม่ให้คนรอบข้างผิดสังเกต กดดันตัวเองมิให้แสดงความผิดปกติออกมายามต้องปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยหรือเพื่อนร่วมงานในกองถ่าย

กระนั้นลึกที่สุดในใจ เธอยังคงหวาดผวาและเกร็งเสมอ ยามต้องใกล้ชิดกับปัณณ์ รัชนาถ

จะว่าไปมันก็มีข้อดีของตัวเองเหมือนกัน เพราะทุกวันเมื่อกลับถึงบ้านสิมิลันจะอาบน้ำแล้วหลับเป็นตาย พลังงานทุกหยาดหยดถูกเค้นออกมาใช้ทั้งเพื่อสร้างกำแพงป้องกันตัวเองจากคนภายนอก และบังคับตัวเองไว้มิให้รานสลายลงก่อนจากแรงกดดันภายใน

‘พี่แป้ว’ เชิดหน้านิดๆ ด้วยความภาคภูมิ ไม่วายถ่อมตัว “พี่ก็แค่เล่นไปตามบทเอง ถ้าทำให้แซมตกใจก็ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ”

สิมิลันหายใจเข้าลึกๆ ฝืนกลั้นรอยสะอื้นไว้ “แซมไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ ตั้งแต่ตอนซ้อมหนูยังว่าฉากนี้ยาก กลัวร้องไห้ไม่ออกจะแย่ แต่พอเข้าฉากจริงพี่แป้วส่งอารมณ์มาแรงจนหนูอินไปด้วย น้ำตาร่วงมาเองเลย ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ตกใจ” เธอพนมมือไหว้รอบตัว

“ขอโทษทำไม ภาพที่ตองร้องไห้นั่นสวยมากเลยนะ โอ้โห...ทั้งสีหน้าทั้งแววตามันทุกข์ระทมไปหมดจนแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นการแสดงน่ะ” นักแสดงสาวรุ่นแม่ชม

ชะรอยคำกล่าวนั้นจะขัดหูคนฟังบางคน เพราะพอผู้ช่วยผู้กำกับตะโกนบอกนักแสดงในฉาก

“เลิกกองครับ วันนี้พอแค่นี้ก่อน เอ้าพระเอกนางเอกคร้าบ มีนักข่าวมารอสัมภาษณ์ เดี๋ยวเชิญเลยนะ”

แคเรน...นางเอกของเรื่องก็รีบลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินไปหาพระเอกแล้วเอ่ยชวนเสียงอ่อนหวาน

“ไปให้สัมภาษณ์กันดีกว่าค่ะพี่ปัณณ์”

สองหนุ่มสาวเกาะแขนกันไปหานักข่าว ขณะนักแสดงอาวุโสพยักพเยิดกับสิมิลัน “ตั้งแต่เริ่มถ่ายละครมา พี่ว่าแคเรนดูจะมีความสุขที่สุดเลยนะว่าไหม เขาเกาะคุณปัณณ์แจเชียว”

“ไม่ทราบสิคะ แซมไม่ทันสังเกต” สิมิลันฝืนยิ้ม

แป้วยู่หน้า “คุยกับเธอนี่ไม่สนุกเลยนะแซม นินทาไม่เป็นหรือยังไงเนี่ย”

คราวนี้สิมิลันหัวเราะออกมาได้ทั้งที่ดวงหน้ายังเปื้อนคราบน้ำตา “นินทาเป็นค่ะ แต่ไม่กล้านินทา แซมกลัวบารมีนางเอก”

“หมั่นไส้! ถึงจะเล่นบทนางอิจฉา แต่พี่มั่นใจว่าเธอน่ะดังกว่ายายนางเอกใหม่นั่นเสียอีก เล่นละครก็เก่งกว่า ยายนั่นแค่มีดีตรงที่เป็นเด็กของคุณดาเท่านั้นเอง แต่ถ้าเรื่องอื่นน่ะนะ สู้เธอไม่ได้เด็ดขาด”

สิมิลันกระพุ่มมือไหว้ “โอ้โห...พี่แป้วชมแซมอย่างนี้ หนูเขินแย่ คราวหน้าเล่นไม่ออกกันพอดี”

ช่างไฟดับไฟและเริ่มต้นพันสายไฟเก็บ ฝ่ายฉากทยอยเก็บของกันแล้ว แป้วจึงโบกมือ

“พี่กลับก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันจ้ะ”

“สวัสดีค่ะพี่แป้ว เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะคะ” สิมิลันทำความเคารพอีกฝ่ายตามเคย แล้วนั่งอยู่เงียบๆ กลางฉากที่ปิดไฟมืด ดวงตาที่เพิ่งหมาดน้ำตาหลับลงนิ่งๆ หญิงสาวรู้สึกถึงความสงบ ฟังเสียงหัวใจเต้นของตนชัดๆ แต่แล้วเสียงอื่นก็แทรกเข้ามาให้ได้ยิน

“คุณปัณณ์แสดงละครกับน้องแคเรนเรื่องแรกเป็นยังไงบ้างคะ น้องน่ารักไหม” นี่ล่ะ...ที่เขาว่านักข่าวเอาคำพูดใส่ปากนักแสดง หากเกิดเผลอตอบตามเกม ก็จะถูกนำไปพาดหัวได้ง่ายๆ เลยว่า ‘ปัณณ์ชมแคเรนน่ารัก’

“แคเรนเป็นคนที่ตั้งใจทำงานครับ ร่วมงานด้วยกันแล้วรู้สึกได้เลยว่าเขาทุ่มเทจริงๆ” ปัณณ์อยู่ในวงการมานาน จึงเลี่ยงการเอ่ยคำที่นักข่าวจะเอาไปตัดต่อเรียกกระแสได้อย่างแนบเนียน

“แล้วแคเรนล่ะคะ รู้สึกยังไงที่ได้ร่วมงานกับพระเอกซูเปอร์สตาร์อย่างนี้”

“ก็ปลื้มค่ะ พี่ปัณณ์เป็นขวัญใจแคเรนมาตั้งแต่สมัยยังไม่เข้าวงการแล้ว ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถ้ายังไงแคเรนฝากผลงานกับพี่ๆ ด้วยนะคะ”

“สองคนนี้ทำงานด้วยกันใกล้ชิดแบบนี้มีโอกาสจะสานสัมพันธ์กันเป็นพิเศษไหมครับ” นักข่าวถามขึ้น

สิมิลันสาบานได้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจฟังคำตอบนี้เลยจริงๆ ที่หันไปมองก็เพียงเพราะอยากเห็นสีหน้าของอีตาพระเอกมาเฟียนั่นเท่านั้นเอง แล้วเธอก็ไม่ผิดหวัง เพราะปัณณ์เหลียวมามองเธอสบสายตากันด้วยความท้าทาย ขณะเขาเอ่ยหนักแน่นราวจะประทับถ้อยคำนั้นลงในหัวใจเธอเป็นพิเศษ

“ตอนนี้ผมเห็นแคเรนเป็นน้องเท่านั้น แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันไหนที่คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับใครก็ตาม ผมจะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้แน่นอน เพราะผมต้อง ‘ให้เกียรติ’ ผู้หญิงของผมอยู่แล้ว”

“คุณปัณณ์พูดแบบนี้ สาวๆ คงรีบเข้าคิวมาให้คุณเลือก เพราะอยากเป็นผู้หญิงของคุณกันแน่ๆ เลย”

“ผมไม่ได้พูดเพราะอยากให้สาวๆ ปลื้ม แต่ผมพูดเพราะคิดแบบนั้นจริงๆ ครับ ผู้หญิงดีๆ ที่มีค่าคู่ควรให้เชิดชู เราก็ต้องให้เกียรติเขาอย่างเต็มที่สิครับ จริงไหม”

สิมิลันสะบัดหน้าหนีทันควัน รู้โดยไม่ต้องตีความว่าเขาจงใจกระทบกระเทียบหาว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทที่อยู่ตรงข้ามกับที่เขาจะให้เกียรติ!

หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น มองแสงแฟลชที่สาดต้องสองนักแสดงนำของเรื่อง แล้วถอนหายใจด้วยความสะท้อนใจ เมื่อระลึกถึงความเป็นจริงที่ว่าทุกสายตามีไว้เพื่อจับจ้องและมองตามพระเอกกับนางเอก ขณะที่ตัวอิจฉาอย่างเธอ...มีประโยชน์ก็แค่เป็นส่วนประกอบที่ทำให้สองคนนั่นเด่นขึ้นเท่านั้นเอง

เมื่องามตามารับ หญิงสาวรีบไปทำความเคารพผู้จัดการส่วนตัวแล้วก้าวขึ้นรถทันที แน่ล่ะ...เธอไม่อยากรับรู้ ไม่อยากอยู่ในรัศมีที่ต้องเห็นหน้าปัณณ์ให้นานเกินกว่าจำเป็นเลยสักวินาที นับจากวันแรกที่ต้องเผชิญหน้ากัน พยายามเอาคืนอีกฝ่ายเพื่อความสะใจของตนเอง และต้องพบกับความพ่ายแพ้หมดรูปในฐานะคนที่ถือไพ่แต้มต่ำกว่า สิมิลันก็เลิกทำเรื่องโง่ๆ เช่นนั้นโดยเด็ดขาด

สถานการณ์ระหว่างพระเอกกับนางอิจฉาในกองถ่ายไม่ดีขึ้น แต่ก็น่าดีใจตรงที่อย่างน้อยมันไม่เลวร้ายไปกว่าที่เป็นอยู่

ปัณณ์เลิกแกล้งไขว่คว้าเนื้อตัวเธอ เพราะระยะหลังมานี้สิมิลันไม่แสดงอาการโกรธเกรี้ยวให้เขาสมใจอีกต่อไปแล้ว

เขาทำท่าราวกับเธอเป็นเพียงอากาศธาตุ ทุกครั้งที่ต้องเข้าฉากกัน เขาก็แสดงออกให้ทุกคนเห็นว่ารังเกียจและไม่ได้เต็มใจจะให้เธอเข้าใกล้แตะต้องเนื้อตัวเขาตามบทเลยสักนิด

งามตาติดเครื่องรถ กำลังจะถอยออกจากที่จอด แต่แล้วบีเอ็มสีดำสนิทคันหนึ่งก็ปราดเข้ามาจอดขวางไว้ก่อน ศิวัชลงจากรถด้วยสีหน้าไม่สู้ดีมาเคาะหน้าต่างฝั่งข้างคนขับ

“แซม! พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”

เสียงโครมครามนั้นทำให้สิมิลันสะดุ้งโหยง เบือนหน้าหลบเสียงดังนั้นทันควัน งามตารีบลงจากรถมาลากข้อมือศิวัชออกไปเจรจาด้วย “บ้าไปแล้วหรือไงคะคุณวัช ถึงได้มาทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนี้ นี่มันกองถ่ายละครนะ นักข่าวเยอะแยะ”

“แซมหลบหน้าผมนะคุณงาม โทร.หาก็ไม่เคยรับสาย ไปดักรอที่มหาวิทยาลัยก็ไม่เคยเจอ ผมถึงต้องมาถามแซมนี่ไงฮะ ว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า”

“ช่วงนี้แซมเขางานเยอะค่ะ คิวถ่ายละคร งานเดินแบบ ถ่ายแบบชุกมาก คุณก็รู้ว่าช่วงนี้เป็นฤดูถ่ายแฟชั่น งามเลยขอให้เขาปิดโทรศัพท์แล้วพักให้มากที่สุด จะได้หน้าไม่โทรม ส่วนเรื่องที่คุณวัชไม่เจอเขาที่มหาวิทยาลัย ก็เพราะแซมขาดเรียน ไม่แปลกหรอกค่ะที่คุณวัชจะไม่เจอเขาน่ะ”

ศิวัชมีท่าทีอ่อนลง “แล้วไป ผมนึกว่าแซมโกรธอะไรผมเสียอีก”

“คุณวัชทำไมคิดมากจัง เอาเป็นว่าคุณคอยอยู่นี่นะคะ เดี๋ยวงามไปเรียกยายแซมมาคุยด้วย”

หญิงสาวหายไปครู่ใหญ่ ก็กลับมาพร้อมกับสิมิลัน

“พี่วัช” เสียงอ่อนๆ ดวงตาแดงก่ำ และรูปร่างที่ซูบไปเล็กน้อยในระยะเวลาที่ไม่ได้พบแค่ไม่กี่วันทำให้ชายหนุ่มแทบจะปราดเข้าไปหาสิมิลันด้วยความเป็นห่วง

ทว่าหญิงสาวขยับหลบไปยืนอยู่ด้านหลังงามตาทันควัน

ศิวัชชะงักเล็กน้อย “แซมเป็นอะไร นี่ร้องไห้หรือ”

“ฉากสุดท้ายตองเล่นดราม่าน่ะค่ะ ร้องไห้กันน้ำตาท่วมจอเลย” สิมิลันรีบอธิบาย คนฟังพยักหน้ารับรู้

“แล้วทำไมแซมถึงผอมจังล่ะ ไม่สบายหรือทำงานหนักเกินไป บอกพี่ได้ไหม”

“อาหารไม่ค่อยอร่อยน่ะค่ะ ก็เลยกินน้อย แต่แซมกินตรงเวลาครบทุกมื้อนะคะ” สิมิลันฝืนอธิบายพยายามทำตัวให้ร่าเริงเหมือนเก่าให้ได้มากที่สุด

งามตาสบโอกาสจึงรีบชวน “วันนี้แซมไม่มีคิวแล้ว งามกำลังจะกลับ ไหนๆ ก็ไหนๆ เราไปหาอะไรอร่อยๆ กินด้วยกันเลยละกันดีไหม ตกลงไหมคะคุณวัช”

นางร้ายสาวสวยเห็นสีหน้ากระตือรือร้นของศิวัชที่ลุ้นรอคำตอบอยู่ แล้วก็ทำใจแข็งไม่ไหว จึงพยักหน้า “ค่ะ พี่งามว่ายังไง แซมก็ว่าอย่างนั้น”






ปัณณ์ให้สัมภาษณ์อยู่กับนักข่าว แต่ดวงตาเขากลับเหลือบมองไปทางนักแสดงอีกคนในกองแทบไม่คลาด เพียงเห็นสตรีผู้นั้นมีหนุ่มหล่อขับรถมาหา ความหงุดหงิดก็พลุ่งพล่านในใจ

ชายหนุ่มรีบบอกลาและขอตัวจากกลุ่มนักข่าว เดินปึงปังกลับไปที่กระโจมสีขาวที่แยกออกมาอยู่ต่างหาก ติดเครื่องปรับอากาศและเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ถึงตอนนี้อะไรก็ขวางตาเขาไปหมด เพียงเห็นดาลัดนั่งจิบชาสบายอารมณ์อยู่ตามลำพัง เขาก็กระแทกเท้าโครมๆ

“พี่ดา” ปัณณ์โวยวาย “ผมบอกกี่หนแล้วว่าไม่ชอบกระแสรักโปรโมตบ้าๆ บอๆ นี่ พี่ไปบอกอะไรนักข่าว ทำไมพวกนั้นมาซักเรื่องผมกับแคเรนแบบนั้น”

ดาลัดวางแก้วชาลงช้าๆ ถามอย่างที่รู้อารมณ์อีกฝ่ายดี “โทโสอะไรอีกล่ะจ๊ะ ถึงได้มาลงกับพี่อย่างนี้น่ะ”

“ยายตัวอิจฉานั่น มีผู้ชายมารับมาส่งถึงกองถ่าย พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบทำงานกับพวกผู้หญิงแบบนี้”

“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขานะปัณณ์ เธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่เจ้าชีวิตของทุกคนในกองถ่าย”

“พี่ดา”

ดาลัดถอนใจ “เกลียดอะไรเด็กนั่นนักหนาน่ะปัณณ์ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยสนใจความเป็นไปของใครอย่างนี้ แต่นี่...พี่เห็นเธอจับผิดสิมิลันเขาเหลือเกิน”

“พี่ปกป้องยายนั่นเหรอ ผมคิดว่าพี่เกลียดแม่นั่นเสียอีก”

“ไม่ได้เกลียดย่ะ แค่หมั่นไส้!” ผู้จัดการสาวใหญ่สะบัดค้อน “บอกแล้วไงว่าขัดใจแค่เรื่องที่เจ้าหล่อนเชิดใส่พี่เท่านั้น แต่...ถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องยอมรับแหละว่าเด็กนั่นเขานิสัยดี มีวินัย ขยัน ตั้งใจทำงาน ดีกว่าเด็กของฉันเองแท้ๆ เสียอีก”

“นี่พี่ว่าผม”

“เธอทำตัวอย่างที่พี่พูดหรือ จะร้อนตัวไปทำไม ฉันหมายถึงยายแคเรนต่างหาก นี่แลกกันได้นะ ฉันยินดียกยายแคเรนให้แม่งามตานั่นกับเด็กในสังกัดอีกสักสามสี่คน ขอแลกเอายายสิมิลันมาดูแลก็ยังได้เลย”

“พี่ดา ผมไม่สนุกด้วยหรอกนะ แค่ทำงานร่วมกันก็รังเกียจจะแย่แล้ว ขืนต้องมาเจอกันหน้ากันบ่อยๆ เพราะอยู่สังกัดเดียวกัน ผมไปดีกว่า”

ปัณณ์ผลัดมาสวมเสื้อผ้าของตน แล้วผลุนผลันออกจากกระโจมกลับไปที่รถอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจแม้กระทั่งแคเรนที่ยืนคอยอยู่หน้าห้องและพยายามเซ้าซี้ขอตามเขาไปด้วย

ชายหนุ่มขับออกไปราวธนูพุ่งจากแล่ง อารมณ์ฮึดฮัดไม่ได้ดังใจที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรทำให้ปัณณ์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์เรียกไปยังเลขหมายของพี่สาว กรอกเสียงลงไปอย่างคนเอาแต่ใจเช่นเคย

“พี่ปริม ผมอยากได้นักสืบสักคน พี่พอจะแนะนำใครได้บ้างไหม”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2555, 15:36:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2555, 15:36:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 2319





<< ตอนที่ ๘   ตอนที่ ๑๐ >>
สิริณ 28 ส.ค. 2555, 15:40:45 น.
น้อยใจจัง เวลาโพสต์สองตอนคู่กัน
ตอนแรกที่โพสต์
ไม่ค่อยมีคนกดไล้ค์ให้เลย

ขอกำลังใจเป็นคนละหนึ่งไล้ค์ด้วยสิคะ
คนเขียนจะได้กระชุ่มกระชวยบ้างงงงงง พลีสสสสสสส


Siang 28 ส.ค. 2555, 15:52:53 น.
กดให้ตามคำขอค่ะ ว่าแต่เมื่อไหร่พระเอกของคุณสิริณจะนิสัยดีขึ้นมาบ้างคะ


sai 28 ส.ค. 2555, 15:53:10 น.
กดไลค์ตอนนี้คอมเม้นตอนถัดไปโอเคม่ะ อิอิ


minafiba 28 ส.ค. 2555, 15:56:40 น.
ก็ให้ตอนละไลค์ทุกทีค่า


nunoi 28 ส.ค. 2555, 16:31:26 น.
เอ๋ เค้ากดให้ทั้งสองตอนนะคะ ถ้ามาได้สาม กดให้ทั้งสามเหมือนกันค่ะ อิอิ


ปอรินทร์ 28 ส.ค. 2555, 16:49:19 น.
ขอใช่มุขเดียวกัยคุณ sai นะคะ ^^


nateetip 28 ส.ค. 2555, 17:42:13 น.
สนุกมากค่ะ ตามอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ..:)


เดิมเดิม 28 ส.ค. 2555, 19:12:00 น.
กดให้แล้วค่ะ


violette 28 ส.ค. 2555, 20:35:03 น.
ขอมุกเดียวกันกับคุณsaiด้วยค่ะ 555


พันธุ์แตงกวา 28 ส.ค. 2555, 22:17:30 น.
มาแร้วค่า


sugar 28 ส.ค. 2555, 23:59:30 น.
โอ๋ๆ อย่าน้อยใจนะคะ กดให้แล้ว ดีใจนะคะเวลาเห็น 2 ตอนติดกัน จะได้อ่านยาวๆ


Niceday 29 ส.ค. 2555, 06:10:31 น.
ติดตามค่ะ


agentaja 29 ส.ค. 2555, 11:23:30 น.
ตามค่ะตาม กดด้วย


NB 29 ส.ค. 2555, 14:38:00 น.
แบบว่า ไลค์ให้ทีเดียว แต่ต่อไปนี้จะไลค์ให้ทุกตอนค่าา


แล่นแต๊ 29 ส.ค. 2555, 17:55:59 น.
หึงเค้าแล้วล่ะซี่นายปัณณ์


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account