บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๐

ปริมหยิบแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมากางอ่านด้วยความสนใจ

“นี่น่ะเหรอข้อมูลทั้งหมดที่ปัณณ์สั่งให้เธอสืบหาน่ะ”

“ครับ หลักๆ เป็นการสั่งให้ติดตามสิมิลัน มายาวี แล้วก็รายงานความเคลื่อนไหวทั้งหมดครับ”

“ประวัติส่วนตัวล่ะ ปัณณ์สั่งให้เธอสืบประวัติของสิมิลันหรือเปล่า”

“ไม่มีเลยครับ สั่งแค่ให้ผมติดตามและคอยรายงานว่าสิมิลันทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แล้วก็กับใครเท่านั้นเอง”

ปริมดึงสมุดเช็คออกมาเขียนแล้วส่งให้ “ขอบใจสำหรับสำเนาข้อมูลนี่ ฉันช่วยค่ารถเธอเล็กๆ น้อยๆ รับไว้ละกัน อ้อ...จากนี้ไปส่งข้อมูลมาให้ฉันเซ็นเซอร์ก่อนค่อยส่งให้ปัณณ์นะ ฉันจะเพิ่มค่าจ้างให้เป็นพิเศษ”

ฝ่ายนั้นรับเช็คแล้วโค้งคำนับอย่างนอบน้อม ออกจากห้องทำงานส่วนตัวของหญิงสาวไปเงียบๆ

ปริมเปิดลิ้นชักดึงแฟ้มอีกฉบับขึ้นมาวางคู่กันด้วยอาการไตร่ตรอง มันคือแฟ้มบรรจุประวัติส่วนตัวของสิมิลันซึ่งเธอส่งคนไปสืบหาตั้งแต่ครั้งแรกที่ผู้หญิงคนนั้นมาเคาะประตูบ้านเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว

ดูจากปฏิกิริยาของปัณณ์ที่ให้ความสนใจหญิงสาวเป็นพิเศษ ทำให้พอจะเดาได้ว่าสิมิลัน...ไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนหนึ่งในชีวิตของซูเปอร์สตาร์คาสโนว่าอย่างสตรีอื่นแน่นอน

และนั่น...น่าจะช่วยให้สิ่งที่เธอปรารถนาสัมฤทธิ์ผลเร็วขึ้น

นี่น่าจะถึงเวลาแล้ว ที่ปัณณ์จะได้รู้จักกับความรักเสียที!






ภาพการแถลงข่าวโครงการฟื้นฟูสภาพร่างกายผู้ป่วยอัมพฤกษ์ที่หน่วยงานราชการจัดขึ้นกลายเป็นข่าวฮือฮาขึ้นมา เมื่อสาวสวยสุดเซ็กซี่แห่งยุคอาสามาร่วมรณรงค์ให้คนไทยดูแลสุขภาพก่อนจะสายเกินไปด้วย

เลขานุการของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมอบช่อดอกไม้แทนคำขอบคุณให้กับสิมิลัน มายาวี สีหน้ายิ้มแย้มของหนุ่มหล่อสาวสวยที่อยู่บนเวทีทำให้นักข่าวทั้งสายการเมืองและสายบันเทิงรัวชัตเตอร์กันเป็นระวิง

“ขอบคุณน้องแซมมากนะครับ ที่มาร่วมรณรงค์กับโครงการของกระทรวงแบบนี้” ปราชญ์ย้ำซ้ำอีกครั้ง เพราะเขาเป็นผู้สั่งการให้เลขาฯติดต่อสิมิลันมาร่วมงานด้วยกัน และเธอก็ตอบรับโดยไม่คิดค่าตัวเสียด้วย

“แซมยินดีค่ะ คุณแม่แซมก็เป็นอัมพฤกษ์ ทั้งที่ท่านแข็งแรงแทบไม่มีโรคภัยอะไรเลย แต่วันหนึ่งจู่ๆ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแบบคาดไม่ถึง คุณแม่ล้มแล้วก็เจ็บยาวโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แซมเลยอยากให้คนไทยหันมารักสุขภาพตัวเอง ดูแลตัวเองกันก่อนที่จะสายเกินไปค่ะ”

“ครับ นอกจากโครงการในกรุงเทพฯแล้ว เราจะเดินสายประชาสัมพันธ์ไปตามจังหวัดใหญ่ๆ ด้วย ถ้าน้องแซมสะดวก ผมขอเชิญไปร่วมรณรงค์ด้วยกันอีกนะครับ”

“คุณปราชญ์ให้คนนัดวันกับผู้จัดการของแซมได้เลยค่ะ งานนี้แซมยินดีช่วยสุดกำลังเท่าที่ทำได้” สิมิลันสำทับแล้วเอียงคอด้วยความฉงน “ทำไมคุณปราชญ์ยิ้มแบบนี้คะ”

“ผมแปลกใจน่ะครับ เห็นภาพลักษณ์น้องแซมจากภายนอก นึกว่าจะเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดเสียอีก ที่ไหนได้เป็นคนใจดี แล้วก็เรียบร้อยจนน่าทึ่งเลยนะครับ”

“ที่เขาบอกไม่ให้ตัดสินหนังสือจากหน้าปกกัน ก็คงจะเป็นเพราะโลกนี้มีคนอย่างแซมล่ะมั้งคะ” สิมิลันหัวเราะร่วน

“จริงครับ หนังสือบางเล่ม...หน้าปกหวือหวา แต่อ่านแล้ววางไม่ลงเลย” ดวงตาวิบวาวเกี้ยวพาของคนตรงหน้าทำให้สิมิลันขัน พอเดาได้ว่าเขาคงปากหวานตามประสาผู้ชาย กระนั้นความคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูกก็ชวนให้หงุดหงิด นึกไม่ออกว่าเคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อนหรือเปล่า

“ค่ะ...หนังสือบางเล่มยังเขียนไม่จบ ก็เลยยังไม่พร้อมจะให้ใครอ่านเหมือนกันค่ะ” สิมิลันบอกเป็นนัยอย่างสุภาพเช่นกันว่าเธอ ‘มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ ฤๅแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม ’

กว่าสิมิลันจะนึกออกว่าเคยเห็นนัยน์ตาแบบนั้นที่ไหนก็เป็นตอนที่...

“เก่งนะ! คิดจะจับพี่ชายฉันหรือไง” ขาวีนเจ้าประจำมายืนค้ำศีรษะอยู่ตรงหน้า ขณะเธอกำลังท่องบทเตรียมเข้าฉากอยู่ในห้องแต่งตัวตามลำพัง สิมิลันเหลือบมองรูปจากงานการกุศลนั่นแล้วหันกลับมาอ่านบทต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปัณณ์ดึงปึกกระดาษในมือเธอไปถือไว้ด้วยความขัดตา

“เอ๊ะ! คืนบทฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”

“บอกฉันมา ว่าเธอไปถ่ายรูปคู่กับพี่ชายฉันได้ยังไง”

“เราทำงานด้วยกัน”

“งานอะไร”

“แล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบคะคุณลุง!”

สรรพนามท้ายประโยคส่งผลให้ปัณณ์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คำราม “สิมิลัน”

ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าเขาดำเนินนโยบายผิดพลาด เพราะเปิดเผยให้เธอรู้เสียแล้วว่าจุดอ่อนของเขาอยู่ที่ใด

“ขา...คุณลุง” ยายเด็กบ้าเรียกเขาด้วยสรรพนามที่คนฟังอยากจะอาละวาดนัก

“พี่ชายฉันมีแฟนแล้ว เป็นคุณหมอสาว สวย เก่ง แสนดี เขาคงเลี้ยงเธอไว้เป็นของเล่นได้เท่านั้นแหละ”

“คุณลุงนี่จินตนาการดี๊ดีนะคะ คนถ่ายรูปคู่กันหนเดียว คิดไปไกลถึงขั้นว่าเขาส่งเสียเลี้ยงดูกันแล้ว ฉันว่าคุณอย่าเอาตัวเองเป็นมาตรฐานดีกว่า เพราะพี่ชายคุณน่ะเขาแสนดี มีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าคุณเป็นร้อยพันเท่าเลยล่ะมั้ง”

“เธอรู้จักผู้ชายสักกี่คนกันเชียว ถึงได้รู้ว่าพี่ปราชญ์แสนดีเป็นสุภาพบุรุษน่ะ”

“แค่มีตัวเปรียบเทียบเป็นคุณคนเดียวก็ทำให้ผู้ชายอีกครึ่งประเทศที่เหลือเป็นสุภาพบุรุษกันหมดแล้ว เรื่องง่ายๆ แค่นี้ คุณไม่รู้เหรอคะ อ้อ...อย่างว่าคุณลุงมาจากโลกยุคล้านปีที่แล้วนี่เนอะ คงไม่เข้าใจหรอก”

“ว่าฉันเลวนักใช่ไหม” ปัณณ์คว้าต้นแขนหญิงสาวดึงเธอมาปะทะแผงอกแกร่ง

“ปล่อยฉันนะ” ดวงตาเธอเบิกกว้างอย่างตกใจ

ชายหนุ่มมองสภาพคนตรงหน้าด้วยอาการพิจารณา รู้โดยไม่ต้องให้ใครบอก ว่าอาการทั้งหมดของเธอเกิดจากความรู้สึกแท้จริง มากกว่าจะเป็นการเสแสร้งสร้างภาพเพื่อให้เขารู้สึกรู้สาอะไรไปด้วย

นอกจากนี้เขายังเพิ่งสังเกตเห็นว่าสิมิลันมิได้แต่งเนื้อตัวหรูหราผิดปกติเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เธอได้เงินจากพี่สาวเขาไปตั้งยี่สิบล้าน

ตรงข้าม...หญิงสาวยังคงใช้ชีวิต ทำงาน และทำตัวไม่แผกไปจากเดิมเลยสักนิด

น่าแปลก...

ทว่าเขารีบปัดความคิดเหล่านั้นออก

“เธอได้เงินฉันไปตั้งยี่สิบล้าน คิดว่าฉันจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ น่ะ ฉันไม่ปล่อยให้เด็กหิวเงินอย่างเธออยู่อย่างมีความสุขได้สบายๆ หรอกนะ”

สิมิลันแหงนขึ้นสบตาเขานิ่งๆ ”การเรียกร้องเพื่อสิ่งที่ฉันเสียไป มันเลวร้ายมากเลยเหรอคะ ฉันไม่มีสิทธิ์ได้รับอะไรชดเชยจากการถูกข่มเหงเลย คุณคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”

ปัณณ์อึ้ง ไม่ใช่แค่เพราะคำถามจี้ใจดำเท่านั้น ทว่าเป็นเพราะมันย้ำให้เขารับรู้ถึงความเห็นแก่ตัวของตนเอง “ถูกละ เธอมีสิทธิ์เรียกร้อง แต่เธอไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น” เขาตอบตามความรู้สึกแท้จริง “ถ้าเป็นเงินแค่หนึ่งล้านบาท ฉันจ่ายได้ ไม่เสียดายเลย แต่ไม่ใช่ยี่สิบล้านกับเครื่องเพชรอีกห้าชุดอย่างนี้”

ดวงตาที่สบสานกับเขามีน้ำใสๆ มาคลอ รู้ตัวอยู่แล้วว่าด้วยฐานะทั้งทางสังคม ทั้งชื่อเสียงในวงการ หรือไม่ว่าจะด้านใด เธอก็ต่ำต้อยเทียบผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยสักนิด แต่การที่เขาเฝ้าตอกย้ำซ้ำๆ ว่าเธอไม่ได้ ‘มีค่า’ ขนาดนั้น ทั้งที่เขาเองนั่นแหละที่เป็นผู้พรากคุณค่าของเธอไป ก็ทำให้สิมิลันทั้งเกลียดตัวเองและเกลียดผู้ชายตรงหน้ายิ่งขึ้น

“คุณเก่งเนอะ เล่นบทพระเอกผู้แสนดีได้จนสาวๆ กรี๊ดกันทั่วเมือง ทั้งที่ตัวตนจริงๆ ของคุณตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง” สิมิลันกระทืบขาใส่หน้าเท้าอีกฝ่ายอย่างแรง เอื้อมมือคว้าบทในมือเขาทั้งปึก แล้วจ้ำหนีออกจากห้อง

ปัณณ์กระโดดเหยงสะบัดเท้าเร่าๆ กระแทกกระทั้นหน้าบึ้งออกจากห้อง ขณะบ่นกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด

“ยายเด็กบ้า เตือนก็ไม่ฟัง น้ำตาเช็ดหัวเข่าแล้วจะสมน้ำหน้าให้”






ปราชญ์ถอดเสื้อนอกพาดแขนขณะคลายปมเนกไทก้าวเข้าบ้าน เขาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นพี่สาวยังไม่ขึ้นไปนอน

“กลับมาแล้วหรือจ๊ะ พ่อหนุ่มเนื้อทอง”

น้ำเสียงและสีหน้าสัพยอกของพี่สาวทำให้ปราชญ์ยิ้มเขิน เดาได้รางๆ ว่าภาพข่าวของเขากับสิมิลันคงผ่านตาให้ฝ่ายนั้นเห็นแล้ว เพราะปริมไม่ใช่คนแรกที่แซวเขาจนไม่รู้แล้วเช่นนี้ นับตั้งแต่หนังสือพิมพ์วางแผงเมื่อเช้า คนที่กระทรวงก็รวมหัวกันแหย่เขาแทบไม่ขาดปาก ขนาดท่านรัฐมนตรีหนุ่มใหญ่ยังอดเย้ามิได้เลยว่าเขาคงเป็นผู้ชายที่หนุ่มเกินครึ่งประเทศอิจฉาแน่นอนกับการได้ถ่ายรูปใกล้ชิดสาวสวยสุดเซ็กซี่เช่นนั้น

“ผมเพิ่งรู้ว่าพี่ปริมติดตามข่าวบันเทิงด้วย” ไม่เช่นนั้นคงไม่รู้จักความร้อนแรงของนักแสดงสาว

“เพิ่งจะมาติดตามระยะหลังนี่แหละ” ปราชญ์เลิกคิ้วเมื่อเห็นสีหน้ามีเลศนัยนั้น เขาวางเสื้อนอกพาดไว้บนโซฟาแล้วขยับมานั่งข้างๆ พี่สาว ยกมือนิ่มขึ้นมาจับด้วยอาการประจบประแจง

“นี่ผมพลาดอะไรดีๆ ไปหรือเปล่าครับเนี่ย”

“ก็...ไม่มีอะไรมากหรอก” ปริมยิ้มเมื่อนึกถึงแฟ้มรายละเอียดของสิมิลันที่ถูกส่งมาวางบนโต๊ะเธอทุกเช้า รายงาน...สำเนาของเอกสารที่ถูกส่งให้แก่ปัณณ์ตามที่เขาเรียกร้องอยากได้นักสืบคราวนั้น

“พี่แค่...รู้สึกว่านายปัณณ์กำลังติดใจใครบางคนอยู่น่ะสิ ก็เลยต้องตามข่าวบันเทิงมากหน่อย”

“ใครครับ ผู้หญิงคนที่พี่ปริมว่า”

ปริมพยักพเยิดไปยังหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ “ทายไม่ถูกจริงเหรอ”

คนฟังอ้าปากค้าง “พี่ปริมหมายถึง...สิมิลันน่ะเหรอครับ”

“นั่นล่ะ”

“แต่เด็กนั่นอ่อนกว่านายปัณณ์เป็นสิบปี แน่ใจเหรอฮะว่าหมอนั่นมีรสนิยมชอบเคี้ยวหญ้าอ่อนน่ะ”

“น้องชายเธอน่ะ...ร้ายกว่าที่คิดนะจ๊ะ” ปริมยิ้มแปลกๆ

ชายหนุ่มส่ายหน้า “ผมไม่เชื่อเด็ดขาด ข่าวพี่ปริมผิดแน่ๆ”

“อ้าว...ถ้าไม่เชื่องั้นเธอก็คอยดูต่อไปสิ หรือถ้าอยากจะช่วยให้ปัณณ์รู้ใจตัวเองเร็วขึ้น เธอก็ต้องเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา จุ๊กจิ๊กกับยายหนูนั่นไม่นาน รับรอง...เราได้เห็นอะไรดีๆ แน่นอน”

เลขาฯรัฐมนตรีหรี่ตาอย่างใช้ความคิด เริ่มลังเลเมื่อเห็นพี่สาวยืนยันแข็งขัน

“แล้วแฟนผมล่ะ ไม่เอาด้วยหรอก เดี๋ยวอรรู้เข้าผมจะหูยานเปล่าๆ”

ปริมยักไหล่ “เธอก็บอกแฟนไว้ก่อนสิ อรเขาเป็นผู้ใหญ่พอที่จะเข้าใจหรอก คิดเสียว่าทำเพื่อน้อง คนปากแข็งอย่างปัณณ์น่ะ เธอก็รู้ว่าเขาไม่ยอมรับง่ายๆ หรอกว่าชอบสิมิลันอยู่”

ปราชญ์คงจะไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ถ้าไม่ใช่เพราะกลางดึกคืนนั้น เมื่อลงมาหยิบเอกสารที่ห้องทำงาน แทนที่บ้านจะเงียบและปิดไฟมืด ตรงเคาน์เตอร์เครื่องดื่มกลับมีไฟเปิดจ้า และใครคนหนึ่งก็นั่งดื่มอยู่ตรงนั้นตามลำพังเสียด้วย

“ปัณณ์! นึกยังไงถึงมาอยู่ตรงนี้คนเดียวน่ะ”

“เบื่อ!” เขาตอบสั้นๆ

“นายน่าจะบินไปเยี่ยมแม่กับน้องที่อังกฤษนะ ยายปรายบ่นอยากเจอนายจนฉันหูชาแล้ว นายจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ แล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนแก้เบื่อด้วย ตั้งแต่เข้าวงการมา พี่เห็นนายบ้าทำแต่งานอยู่นั่นแหละ”

“ผมไม่มีแม่!” ปัณณ์บอกเสียงเขียว “อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นให้ผมได้ยินอีกนะ”

“ปัณณ์...อายุก็ตั้งขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่โตสักที” ปราชญ์ระอา

“เรื่องของผม” น้ำเสียงนั้นพาลพาโลเหมือนเด็กสิบขวบอาละวาดฟาดงวงฟาดงาเวลาไม่ได้ดังใจ “ว่าแต่พี่เถอะ มัวแต่ทำอะไรอยู่ ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน”

ฟังจากสีหน้าและน้ำเสียงของน้องชายแล้ว ปราชญ์ได้แต่ถอนใจ รู้ดีว่าไร้ประโยชน์จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นของอีกฝ่าย จึงยอมเปลี่ยนเรื่องตามแต่โดยดี “ทำงานอยู่น่ะ”

“ทำงาน? ดึกป่านนี้เนี่ยนะ อ้อ...กลางวันคงไม่มีเวลาทำ เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องต้องไปเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์กับยายเด็กนั่นน่ะสิ”

“เด็กนั่น นายหมายถึงสิมิลัน มายาวี น่ะเหรอ”

“ก็พี่เป็นข่าวกับใครบ้างล่ะ”

ปราชญ์ยักไหล่ “นั่นสิเนอะ ก็มีอยู่แค่คนเดียว”

“ระวังตัวไว้ก็แล้วกัน ยายนั่นน่ะร้ายจะตาย ทั้งเขี้ยว หิวเงิน แล้วก็...แม่มดชัดๆ”

“ทำไมนายพูดอย่างนั้น พี่ก็ว่าน้องแซมเขาน่ารักดีออก คุยสนุกอยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อเลย”

“มารยาน่ะสิ แต่งตัวยังโป๊ขนาดนั้น ไม่รู้นิสัยจะยิ่งเละเทะแค่ไหน ผมว่าพี่อย่าไปยุ่งกับยายนั่นเลยดีกว่า เสียชื่อเสียงหมด”

นั่นละ...คนเป็นพี่จึงนึกไปถึงสิ่งที่พี่สาวตั้งข้อสังเกตไว้ ปราชญ์แสร้งแหย่...

“นายกำลังจะบอกว่าสิมิลันเขา...เป็นพวกรักสนุกงั้นเหรอ”

คำนั้นแทงเข้าถึงขั้วหัวใจคนฟังเลยทีเดียว

รักสนุกงั้นเหรอ ไม่หรอก! ผู้หญิงที่ ‘สาวแส้แร่รวยสวยสะอาด’ มาจนถึงมือเขาอย่างนั้น ไม่น่าจะเป็นคนรักสนุกไปได้เด็ดขาด ทว่าถ้าไม่อ้างอย่างนี้ แล้วเขาจะบอกเหตุผลอะไรให้พี่ชายอยู่ห่างๆ จากสิมิลันเล่า!

“ก็ใช่น่ะสิ ผมทำงานกับเขา ผมรู้ ยายนี่มีผู้ชายมาหาที่กองถ่ายบ่อยๆ” นายศิวัชนั่น เขาเห็นมันมาแทบทุกอาทิตย์ จัดว่าบ่อยแล้วล่ะน่า

“ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนสวยๆ นี่นา” ปราชญ์แย้ง “พี่ไม่ถือสาเรื่องพวกนี้หรอก ทีผู้ชายยังสนุกได้เลย แล้วทำไมจะต้องคาดคั้นให้ผู้หญิงเก็บเนื้อตัวไว้ให้เราด้วยล่ะ ก่อนเจอกันพี่ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเป็นยังไง ขอแค่จากนี้ไปให้เขาหยุดอยู่กับพี่ได้ก็พอแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นหรอก เราเพิ่งเริ่มต้นทำความรู้จักกัน ขอศึกษากันไปก่อนดีกว่า ถ้าไปกันได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ค่อยจบกัน แค่นั้นเอง”

คนเป็นน้องหงุดหงิด “พี่พูดแบบนี้ได้ยังไง แล้วหมออรอุมาล่ะ พี่มีแฟนแล้วนะ”

“พี่กับอรก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไรกัน เราทั้งคู่ต่างก็มีอิสระที่จะพบเจอและศึกษาใครคนใหม่อยู่เรื่อยๆ” ปราชญ์มองสีหน้าของน้องชายแล้วอมยิ้ม เติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอีกคำรบด้วยการ...

“จริงๆ ถ้าสิมิลันเป็นพวกรักสนุกก็ยิ่งดี พี่จะได้ไม่ต้องผูกมัดอะไรด้วยมากมายนัก สนุกด้วยกันแล้วก็จบ ดีออก” ในเมื่อหมอนั่นหวงดีนัก เขาก็จะแงะปากให้ยอมรับออกมาให้ได้ ดูสิว่าถ้าเขาแหย่ด้วยการทำทีจีบสิมิลันเล่นแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เจ้าน้องชายตัวดีจะทนอยู่ได้นานแค่ไหน รับรองเลยว่าแค่ไม่เกินสัปดาห์ต่อให้นักแสดงขั้นเทพก็คงร้อนอาสน์จนเก็บอาการไม่อยู่แน่นอน

“ผมเตือนพี่แล้ว ไม่เชื่อก็ตามใจ” คนพูดหน้าบึ้ง กระดกเหล้าในแก้วก้นหนารวดเดียวหมดแล้วกระแทกวางบนเคาน์เตอร์รุนแรง จากนั้นก็ย่ำเท้าปึงปังขึ้นบันไดไปดื้อๆ

ปล่อยให้พี่ชายหัวเราะร่วนด้วยความขบขัน พึมพำกับตัวเองคนเดียว “เออเว้ย! พี่ปริมพูดถูก นายปัณณ์นี่ชักจะยังไงๆ กับเด็กนั่นเสียแล้ว”

ดวงตาที่ถอดกันมากับน้องชายมีรอยสนุกฉายชัด ปราชญ์มองตามหลังนักแสดงหนุ่มจนลับหายไปยังชั้นสองแล้วส่ายหน้าเอ็นดู เขาถือแฟ้มติดมือกลับขึ้นไปที่ห้อง ขณะวางแผนการบางอย่างอยู่ในใจเงียบๆ



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2555, 15:39:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2555, 15:39:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2435





<< ตอนที่ ๙   ตอนที่ ๑๑ >>
สิริณ 28 ส.ค. 2555, 15:41:08 น.
อ่านจบแล้ว ขอแรงกดไล้ค์คนละที ให้คนเขียนยิ้มหน้าบานด้วยนะค้า


Siang 28 ส.ค. 2555, 15:58:23 น.
น่าลุ้นจริงๆว่าพี่ปราชญ์จะทำยังไง


sai 28 ส.ค. 2555, 16:00:48 น.
นายปัณณ์เอ๊ยย นายตายแน่ทั้งพี่สาวพี่ชาย จับไต๋ได้ขนาดนี้ อิอิ


minafiba 28 ส.ค. 2555, 16:13:53 น.
จัดให้ตามต้องการค่า


ฟิน 28 ส.ค. 2555, 16:49:07 น.
กว่าจะว่างเข้ามาตามอ่าน เหนื่อยจริงๆค่ะ ทำไมงานถึงได้ยุ่งแบบไม่ลืมหูลืมตานะ ขอบ่นค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปนะคะหนูตอง


ปอรินทร์ 28 ส.ค. 2555, 16:59:36 น.
ลุงปัณณ์เสร็จแน่ >"<


nunoi 28 ส.ค. 2555, 17:11:17 น.
สนุกแน่งานนี้ ทั้งพี่สาวพี่ชาย ร่วมมือกันขนาดนี้ ฮ่าๆ สมน้ำหน้านายปัณณ์


nateetip 28 ส.ค. 2555, 17:55:13 น.
ชอบค่ะชอบ รอลุ้นเมื่อไหรพระเอกจะดีขึ้น..:)


Okuriumi 28 ส.ค. 2555, 18:10:28 น.
อ่านให้ทุกตอนนะค่ะ แต่เข้าระบบไม่ได้ ตอนนี้เข้าได้แล้วจะมาลงให้นะค่ะ


violette 28 ส.ค. 2555, 20:36:11 น.
อิตาลุงปัณณ์ปากแข็ง เชอะ
สงสารหนูตอง งานนี้พี่ปริมกับพี่ปราชญ์จะเป็นกามเทพตัวป่วนหรือเปล่าหว่า
ว่าแต่ลุงปัณณ์มีปมอะไรกับแม่นี่


parinratn 28 ส.ค. 2555, 20:43:40 น.
เมื่อไหร่นะจะรู้ใจตนเองสักทีคุณลุงปัณณ์


ปิศาจสัญจร 28 ส.ค. 2555, 21:11:13 น.
เพิ่งมาติดตามค่า เป็นกำลังใจให้นะค้า


หมูอ้วน 28 ส.ค. 2555, 23:20:05 น.
ชอบมากมายเลยค่ะ คุณบลุงรู้ใจตัวเองเร็ว ๆ นะค่ะ


Pat 28 ส.ค. 2555, 23:31:38 น.
รอดูนายปัณณ์เต้น ปากร้ายดีนัก


supayalak 29 ส.ค. 2555, 09:21:04 น.
เพิ่งเข้ามาอ่าน รอลุ้นๆ ตอนต่อไปค่ะ ว่านางเอกจะแก้ลำพระเอกยังไง ขอไม่มากค่ะแค่กระอักเล็กน้อยจนถึงปานกลางก็พอ


NB 29 ส.ค. 2555, 14:48:00 น.
กดไลค์แล้วนะค๊าา


แล่นแต๊ 29 ส.ค. 2555, 18:08:43 น.
นายปัณณ์นี่มีปมอะไรกับแม่กัน ชักสงสัย


winbkin 20 ก.ย. 2555, 11:55:30 น.
ขออมยิ้ม ร่วมสะใจลุงปัณณ์ ด้วยคน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account