บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๑

“หายไปไหนมายายตอง พี่โทร.หาเป็นสิบๆ ครั้งก็ไม่รับสาย” งามตาหน้าบึ้ง เท้าเอวมองคนที่ถือลูกตุ้มน้ำหนักยกขึ้นลงบริหารกล้ามเนื้อด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว อยากจะหยิกเสียเหลือเกินที่จู่ๆ หญิงสาวก็หายตัวไปจากกองถ่ายละครโดยไม่บอกกล่าว ครั้นพยายามติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ ฝ่ายนั้นก็ไม่รับสายเลยสักครั้ง

“ตองปวดท้องน่ะค่ะ ก็เลย...ไปหาหมอ” คนพูดปั้นยิ้ม บอกความจริงแค่บางส่วน

“แล้วหมอว่ายังไงบ้าง” งามตาเปลี่ยนท่าทีมาเป็นร้อนใจห่วงใยได้ทันควัน

“ปวดประจำเดือนธรรมดาเองค่ะ หมอว่าคราวหน้าให้ซื้อพอนสแตน มากินเองก็ได้”

“แล้วเธอหาหมอทีหนึ่งสี่ห้าชั่วโมงอย่างนี้เลยเหรอ”

“หาหมอเสร็จหิว เลยแวะห้างกินข้าวค่ะ” สิมิลันยิ้มหวานประจบประแจง แอบไขว้นิ้วข้างที่อีกฝ่ายไม่เห็น เพราะรู้ตัวว่ากำลังโกหกคำโต ผลการตรวจร่างกายที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋า...แย่กว่าที่คิดมากนัก!
“แล้วเมื่อวานเป็นยังไง สถานการณ์ในกองถ่ายปกติดีไหม”

พอมาถึงเรื่องที่ไม่อยากพูดถึง สิมิลันก็หน้าเบ้ หลังจาก ‘ลงเท้า’ คนนิสัยไม่ดีไปแล้ว เธอก็เข้าฉากกับคุณแป้วและแคเรนอีกสองฉาก โชคดีที่เมื่อวานไม่มีคิวต้องเข้าฉากกับปัณณ์เลย กระนั้น...ดวงตาที่เขาตวัดมองมาที่เธอปะปนกันทั้งความโกรธและแค้น และนั่นทำให้สิมิลันยิ่งมั่นใจว่าเธอไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้นเลย

“พี่งามคะ ถ้า...ตองอยากจะถอนตัวจากละครเล่ห์รัก จะได้ไหมคะ”

“นึกยังไงขึ้นมาล่ะเนี่ย ละครถ่ายไปตั้งหลายตอนแล้ว”

“ก็...พระเอกเขาไม่ชอบหน้าตองนี่คะ ทำงานด้วยแล้วอึดอัดจะตาย”

“คิดได้ แต่ทำไม่ได้เด็ดขาด เธอก็รู้ว่าซูเปอร์สตาร์อย่างปัณณ์ รัชนาถ ไม่ยอมถ่ายซ่อมฉากที่ถ่ายทำไปแล้วแน่นอน แล้วขืนเรื่องที่เธออยากถอนตัวนี่หลุดไปเข้าหูเขาแอะเดียว รับรองว่าอนาคตในวงการของตองวูบแน่ๆ เธอก็รู้นี่...ว่าเขามีอิทธิพลแค่ไหน ใครๆ ก็อยากได้ปัณณ์ไปร่วมงานด้วย และลองว่าเขาสั่งคว่ำบาตรเธอ ใครหน้าไหนจะกล้าขัดใจเขา พี่ว่าถ้าตองยังอยากทำงานในวงการอย่างมีความสุข อย่าทำอะไรขัดใจเขาไว้จะดีกว่า รายนี้น่ะมาเฟียวงการบันเทิงชัดๆ”

สิมิลันถอนใจ สิ่งที่งามตาเอ่ยมาทำให้จำต้องกล้ำกลืนฝืนยิ้มรับ เพราะเธอไม่อาจเสี่ยงกับการเสียรายได้ หรืองานที่มีอยู่ไปสักงานเดียวจริงๆ

หญิงสาววางลูกตุ้มน้ำหนักและหนีไปใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าแทนเพื่อหลบเลี่ยงการตอบคำถาม ทว่าเมื่อกดเพิ่มความเร็วบนลู่แล้วก็นึกได้ถึงคำเตือนของแพทย์ที่เตือนให้เธอละเว้นการออกกำลังกายหนักๆ ที่อาจทำให้กระทบกระเทือนกับ ‘ความเจ็บป่วย’ ที่เพิ่งตรวจพบ

สิมิลันกำลังจะลงจากลู่วิ่ง แต่เมื่อเหลือบเห็นดวงตาของงามตาที่ยังมองมาด้วยอาการพิจารณา จึงเปลี่ยนใจเหลือแค่เดินก้าวยาวๆ แทน เพราะไม่อยากให้ผิดสังเกต

งามตาเขม้นมองอย่างพิจารณาพอดี เธอจึงรีบยืดตัวส่งยิ้มไปให้ เพิ่มความเร็วลู่ไฟฟ้าเป็นวิ่งเหยาะๆ เพื่อกลบเกลื่อน

“เป็นอะไรหรือเปล่าตอง ทำไมหน้าเซียวปากเขียวอย่างนี้ล่ะ” งามตาเดินมาสมทบ ถามด้วยความห่วงใย พลางทำท่าจะเข้ามาจับมือเธอ

สิมิลันรีบกดปิดลู่ แล้วกระโดดลงไปยืนบนพื้น เลี่ยงการถูกสัมผัส ด้วยรู้ดีว่ามือตัวเองเย็นเฉียบเพียงใด

“เอ้อ...ขอโทษค่ะพี่งาม ตัวตองมีแต่เหงื่อ อี๋ออกเนอะ” เธอออกตัวปนหัวเราะ

“ใครว่าอี๋ ไอ้หนุ่มๆ แถวโน้นยืนน้ำลายหก อยากเข้ามาเช็ดเหงื่อให้เธอกันใจจะขาดล่ะไม่ว่า” งามตาค้อนควักเพราะแม้สิมิลันจะแต่งตัวเรียบร้อย แต่ชุดรัดรูปสำหรับสวมออกกำลังกายนั้นแทบไม่สามารถอำพรางทรวดทรงได้แม้แต่น้อย
“ตองโอเคแน่หรือ หน้าเธอขาวยังกับกระดาษแน่ะ”

“ตองไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ ขี้เกียจออกกำลังกายหลายวันก็เลยเหนื่อยง่ายแค่นั้นเอง” สิมิลันตอบอย่างไร้พิรุธ

“พี่รู้สึกว่าพักนี้ตองทำตัวแปลกๆ นะ บอกความจริงมาดีกว่าว่าแอบไปมีแฟนไว้ที่ไหนหรือเปล่า ถ้าตองมีเรื่องอะไร ตองบอกพี่ได้นะ”

หญิงสาวเงยขึ้นมองสีหน้าห่วงใยของสตรีที่เธอรักประดุจพี่สาว ไล่เรียงมาตามผมยาวสีดำสนิทที่รวบไว้อย่างเรียบร้อยจนมาถึงดวงหน้าสะอาดสะอ้านปราศจากเครื่องสำอาง ดวงตาคู่นั้นทอดมองมาอย่างห่วงใย ท่าทีเป็นกังวลเสียจนสิมิลันรู้สึกผิด

อารมณ์อย่างหนึ่งรื้นขึ้นในใจอย่างรุนแรง นับจากวันที่มารดาล้มลงในห้องน้ำและตื่นมาพร้อมอาการอัมพฤกษ์ร่างกายครึ่งซีกซ้ายขยับใช้การไม่ได้เมื่อสี่ปีก่อน งามตาซึ่งเป็นเพื่อนข้างบ้านให้ความช่วยเหลือจุนเจือสามแม่ลูกเท่าที่ทำได้ แม้จำนวนเงินที่เผื่อแผ่มาจะไม่มากนัก แต่ก็พยุงให้ชีวิตของทุกคนไม่ลำบากจนเกินไป

จนวันหนึ่งแมวมองไปพบสิมิลันซึ่งทำงานพิเศษอยู่ในร้านไอศกรีมและชวนเธอไปถ่ายแบบเสื้อผ้าวัยรุ่น ครั้งนั้นงามตาทำหน้าที่รับส่งช่วยดูแลตรวจตรางานที่เธอรับ โดยเด็กสาวยัดเยียดเปอร์เซ็นต์จากค่าตัวให้อีกฝ่ายเป็นค่าตอบแทน
สามแม่ลูกเริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น ขณะงามตาตัดสินใจปิดกิจการร้านตัดเสื้อ แล้วหันมาทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวขับรถรับส่งเธอทำงานแบบเต็มเวลา ยิ่งชื่อเสียงเธอโด่งดังขึ้นเท่าไร งานก็ไหลมาเทมา ความเป็นอยู่ของสองบ้านก็ดีขึ้นเท่านั้น
สิมิลันรู้...หน้าที่การงานของเธอ มีผลต่อปากท้องของคนถึงสี่คนเลยทีเดียว
วันนี้เธอยังมีเรี่ยวแรงมีโอกาสหาเงิน ก็น่าจะกอบโกยและฉวยทุกโอกาสเอาไว้ อย่างน้อยหากวันหนึ่งเธอต้องทิ้งคนข้างหลังไว้ เงินเก็บที่เธอหาไว้ให้ก็น่าจะทำให้ทุกคนอยู่ต่อไปได้โดยไม่ลำบาก

สิมิลันแตะมือลงที่หัวใจแผ่วๆ รับรู้ถึงแรงสะเทือนน้อยนิด

“ไม่มีจริงๆ ค่ะพี่งาม” สิมิลันปฏิเสธรัวเร็ว “แค่ทำงานอย่างเดียวก็แทบไม่ได้พักแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟนล่ะคะ”

“พักนี้คุณวัชเป็นยังไงบ้าง” งามตานึกได้

“ตองบอกเขาไปว่าช่วงนี้ใกล้สอบ ต้องอ่านหนังสือน่ะค่ะ เขาก็เลยไม่ค่อยมาหา”

“ดีแล้ว ตองน่ะยังเด็ก มีหน้าที่หลักก็คือการเรียนหนังสือ” งามตาชมเชย “เออ! นึกได้ พี่ปัญเขากลับจากเมืองนอกแล้วนะ เมื่อเช้าเขาโทร.หาพี่ ถามว่าตองยังสนใจจะถ่ายแบบอยู่ไหม

“สนใจสิคะ”

“กึ่งนู้ดเลยนะตอง แน่ใจเหรอว่าอยากจะทำอย่างนั้นจริงๆ น่ะ”

“ค่ะ ก็มันได้เงินนี่คะ” คนพูดยกผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อแล้วเสยิ้มกว้าง ทำหน้าตาไร้เดียงสา ทั้งที่หัวใจปวดหนึบอย่างบอกไม่ถูก

งามตาชั่งใจอยู่นานก่อนตอบตกลง แต่ถ้าเธอรู้ว่าสิมิลันคิดอะไรอยู่ในใจ บางทีเธออาจจะเปลี่ยนการตัดสินใจวันนี้ก็ได้!






แค่ศิวัชได้ยินจากงามตาว่าสิมิลันอยู่ที่สถานออกกำลังกายก็รีบแวะมาหาทันที สิมิลันซึ่งอาบน้ำผลัดกลับมาอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมเรียบร้อยแล้วออกมาจากห้องน้ำรวมของฝ่ายหญิง เห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็เอียงคอแปลกใจ

“พี่วัชมาได้ยังไงคะ”

“พี่โทร.คุยกับคุณงามน่ะ พอรู้ว่าแซมอยู่นี่เลยจะชวนไปดูหนังด้วยกันหลังออกกำลังกาย”

สิมิลันนึกถึงบรรยากาศมืดสลัว และเก้าอี้แคบๆ ที่ถูกขนาบด้วยคนจากสองฟากแล้วส่ายหน้าอ้างว่า

“อย่าดีกว่าค่ะ แซมเพิ่งหายป่วย ไม่อยากเข้าโรงหนังหรอก เดี๋ยวเอาหวัดไปติดคนอื่นหมด”

“งั้น...” ศิวัชกลอกตาหาคำชวนอื่น แต่ก็ช้ากว่าอีกฝ่าย

“พี่วัชอย่ามายุ่งกับแซมอีกเลย”

“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ แซมรักใครแล้วหรือ”

“เปล่าค่ะ...แต่แซม...แซม...ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”

ดวงตากลมโตน้ำตารื้นขึ้นจนคนมองตกใจ “แซม! แซมร้องไห้เหรอ”

สิมิลันกะพริบตาปริบ ฝืนยิ้มได้ทันควัน “เปล่าสักหน่อย”

“หลอกใครก็หลอกได้ แต่แซมหลอกพี่ไม่ได้หรอกนะ”

หญิงสาวหลบตาเมินไปทางอื่น แสร้งทำเป็นมองหาผู้จัดการส่วนตัว เสบ่น “ทำไมพี่งามอาบน้ำนานนักก็ไม่รู้”

ศิวัชคว้าข้อมือเธอไว้ไม่ยอมให้เปลี่ยนเรื่องง่ายๆ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อหญิงสาวสะบัดมือออกทันควัน

“แซม!”

สิมิลันเพิ่งรู้ตัวว่าแสดงกิริยาใดออกไป เบิกตากว้างมองเขาด้วยความตระหนก
“แซมขอโทษค่ะ

ศิวัชขมวดคิ้วนิดๆ นับจากวันที่เห็นเธอวิ่งกระเซอะกระเซิงออกจากคอนโดในวันนั้นแล้ว หญิงสาวก็หลบหน้าเขามาตลอด โทร.หางามตากี่หนเจ้าตัวก็อ้างแต่ว่าไม่สบายบ้าง ติดเรียนบ้าง ติดงานบ้าง

นอกจากไปดักพบที่กองถ่ายแล้ว สิมิลันไม่เคยออกไปไหนมาไหนกับเขาตามลำพังอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว เธอหวงเนื้อตัวระวังตัวจนผิดปกติ

แล้วนี่จู่ๆ สตรีที่เขาพึงใจก็มาเอ่ยอะไรแปลกๆ มีท่าทีเหมือนกวางระแวงไพรอีก ประมวลจากหลายเหตุการณ์แล้วดูจะมีบทสรุปเพียงข้อเดียวเท่านั้น...

เหมือนว่าเธอไปเผลอใจพลาดท่าให้ใครมาแล้วอย่างนั้นแหละ

หัวใจเขาวาบลึกด้วยความสงสาร โดยเฉพาะที่หญิงสาวยังฝืนยิ้มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังไม่อยากหลอกลวงให้เขามีความหวังอีกด้วย

ชายหนุ่มถามตัวเองอย่างซื่อสัตย์ว่าสิ่งที่เพิ่งรู้จะทำให้ความรู้สึกที่เขามีต่อสตรีผู้นี้เปลี่ยนไปหรือไม่ คำตอบที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็คือ...ไม่เลย!

อย่าว่าแต่เกิดความผิดพลาดขึ้นแค่นั้นเลย ต่อให้คนทั้งโลกประณามผู้หญิงคนนี้ เขาก็เชื่อมั่นว่าหัวใจภักดีที่มีต่อสิมิลัน ไม่เคยเปลี่ยนแปรไปแม้แต่นิดเดียว เขารักผู้หญิงคนนี้...เธอมีค่าสำหรับเขาเสมอ

ศิวัชโน้มตัวลงจนสบตากับนักแสดงสาวได้แล้วเอ่ยช้าๆ “แซม...กุหลาบน่ะ ต่อให้มันขาดน้ำจนแห้งตาย แต่ยังไงมันก็ยังคงเป็นกุหลาบนะ สำหรับพี่แล้ว คำว่า ‘ไม่เหมือนเดิม’ ของแซม จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อแซมรักใครเข้าแล้วเท่านั้นแหละ แต่ตราบใดที่แซมยังเป็นสิมิลัน มายาวี แซมก็เป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับพี่เสมอ”

“แต่แซมไม่มีค่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” เธอพึมพำเสียงเบาราวกับรังเกียจกระทั่งจะเอ่ยถึง

ศิวัชส่ายหน้า ”แซมเองก็คงไม่คิดว่าพี่จะถนอมตัวไว้ไม่ใช่หรือ ทำไมสังคมไทยต้องแบ่งแยกเลือกปฏิบัติล่ะ ผู้ชายเหลวไหลยังไงก็ได้ แต่ผู้หญิงต้องถนอมตัวไว้ให้ผู้ชายงั้นเหรอ พี่ว่ามันไม่แฟร์เลย และพี่ก็ไม่แคร์จริงๆ ว่าแซมจะเป็นยังไง จำไว้...พี่รักแซม ไม่ใช่เพราะไอ้เรื่องบ้าๆ ที่สังคมตั้งมาตรฐานขึ้นมาพวกนั้น แต่รักเพราะแซมเป็นของแซมแบบนี้นี่แหละ”

สิมิลันสบตาชายหนุ่มนิ่งๆ มือของเขายื่นมาตรงหน้า...รอคอย “แซมไว้ใจพี่ไหม”

คนตัวเล็กก้มหน้าหลบตา ถอนหายใจยาว ก่อนเอ่ย...

“เราอย่าพบกันอีกเลยค่ะพี่วัช อย่าให้แซมเกลียดตัวเองไปมากกว่านี้เลย มีผู้หญิงดีๆ อีกเยอะแยะที่คู่ควรกับพี่มากกว่า” หญิงสาวหมุนกายแยกจากไปทันที ทิ้งให้ศิวัชยืนนิ่งราวกับถูกสาปอยู่ตรงนั้นตามลำพัง

นาน...กว่างามตาจะมายืนอยู่ตรงหน้าเรียกเข้าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“อ้าว! คุณวัชมาเร็วจัง นี่ได้เจอยายแซมหรือยังคะ”

“คุณงาม” ศิวัชกะพริบตาปริบๆ รวบรวมสติกลับคืนมาอย่างยากเย็น

“ค่ะ งามเอง คุณวัชเป็นอะไรหรือเปล่า ท่าทางไม่ค่อยดีเลย”

ศิวัชลูบหน้าแรงๆ เหมือนจะให้แน่ใจว่าเขามิได้ฝันไป เมื่อครู่นี้...สิมิลันบอกให้เขา...

“แซมบอกว่าไม่อยากพบผมอีกแล้ว”

งามตาตะลึง “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นละคะ ยายแซมนี่นึกเพี้ยนอะไรขึ้นมาอีกแล้วล่ะเนี่ย ไม่ได้การละเดี๋ยวงามจะไปถามเขาให้เอง”

“คุณงาม! ไม่ต้องครับ” ศิวัชรั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้ “แซมอาจจะกำลังเครียด เอาไว้ให้เขาอารมณ์ดีกว่านี้อีกหน่อยดีกว่า ช่วงนี้ผมจะทำตามที่เขาขอไปก่อน”

“คุณวัชอย่าเพิ่งคิดมากนะคะ ถ้ายังไงงามจะตะล่อมถามยายแซมให้อีกทีว่าเขาเป็นอะไร เมื่อไหร่เขาหายสติแตก แล้วงามจะส่งซิกบอกให้เองค่ะ”

“ครับ...ขอบคุณคุณงามมาก งั้นวันนี้ผมขอตัวกลับเลยละกันนะครับ คุณงามดูแลตัวเองด้วย”

“ค่ะ คุณวัชก็เหมือนกันนะคะ มีอะไรโทร.หางามได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ” งามตาโบกมือให้อีกฝ่ายแล้วมองตามจนศิวัชลับสายตาไปด้วยรอยยิ้มชื่นชม





“พี่ปัณณ์ขา ตรงโน้นร๊อนร้อน ไม่เหมือนในเต๊นท์ของพี่ปัณณ์ มีแอร์ส่วนตัวด้วย ขอแคเรนนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” นางเอกของเรื่องถือบทและแก้วกาแฟสะอิ้งกายเข้ามาในกระโจมสีขาวที่ปัณณ์สั่งมาเป็นพิเศษสำหรับใช้เป็นที่พักส่วนตัว ซึ่งเขาติดเครื่องปั่นไฟและเครื่องปรับอากาศไว้ใช้เองเพื่อความสะดวกสบาย

“เอาสิ ตามสบายนะ” ปัณณ์พยักพเยิดไปยังเก้าอี้ว่าง แล้วลุกขึ้นยืน

“อ้าว...แล้วนั่นพี่ปัณณ์จะไปไหนหรือคะ”

“พี่ยังไม่ได้กินข้าวเลย ว่าจะไปดูหน่อยว่ามีอะไรกินบ้าง” เขาโยนปึกบทไว้ที่เก้าอี้แล้วผลุนผลันออกจากเต๊นท์ไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนมองตามกัดริมฝีปากแน่น กระทืบเท้าด้วยความไม่ได้ดังใจ

“ฮึ้ย! โง่หรือเปล่าวะเนี่ย คนเขามาเสนอให้ถึงที่แล้วยังเดินหนีอีก บ้าชะมัด!”

แม้ไม่ต้องเห็นหรือได้ยินถ้อยคำของแคเรน แต่ปัณณ์ก็เบ้หน้าอย่างเหยียดหยาม ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้ามาหาเขาก็อย่างนี้ทั้งนั้น พร้อมจะเสนอให้เพียงแค่พยักหน้าเรียกหา

เขารู้ว่าผู้หญิงดีๆ ที่ให้ความสำคัญกับความรัก มากกว่าเงินทองและผลประโยชน์ยังมีอยู่บนโลกข้างนอกนั่น เพียงแต่เขายังไม่เคยเจอเข้าแม้แต่คนเดียวก็เท่านั้นเอง

แวบหนึ่งที่เขาเผลอนึกไปถึงใครบางคน...

น่าแปลก...ความทรงจำบางช่วงตอนในค่ำคืนแสนพิเศษนั้นกลับกระจ่างในใจชัดเจนเหลือเชื่อ โดยเฉพาะช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนที่เขาจะ ‘เด็ดดอกไม้มาดมชมจนช้ำ’ ปัณณ์ยังจำได้ดี ผู้หญิงคนนั้นร้องปรามเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ทั้งที่ร่างกายเธอเรียกร้องเขาแทบคลั่งแล้วด้วยซ้ำ

เขายังก้มลงจูบซับน้ำตาให้เธอ ประทับใจนักกับบทบาทสมจริงของเจ้าหล่อน

บัดนี้หากจะมีเรื่องใดที่เขานับถือหัวจิตหัวใจของสิมิลันนักก็เห็นจะเป็นความเชื่อมั่นลึกซึ้งที่ฝังอยู่ในความคิดของเธอ ผู้หญิงคนนั้นแม้จะถูกอารมณ์ฝ่ายต่ำที่เพริศไปตามแรงกระตุ้นครอบงำเพียงใด แต่ในสัมปชัญญะของเธอพร่ำเตือนไว้เสมอ ว่าสตรีที่ยังมิได้ผ่านการสมรสควรรักษาสิ่งสำคัญเอาไว้ให้ดีที่สุด มิใช่นำมาเป็นเครื่องต่อรองความรักดังสตรีอื่นๆ ที่เขาเคยพบตลอดมา

ปัณณ์เม้มปากแน่น...เกลียดตัวเองเหลือเกินที่ต้องยอมรับว่าเขาข่มเหงสิมิลันทั้งที่เธอไม่เต็มใจ!

ผู้กำกับกำลังถ่ายทำฉากของกลุ่มนักแสดงรุ่นใหญ่อยู่อย่างขะมักเขม้น ชายหนุ่มจึงเลี่ยงไปยังส่วนที่เป็นโรงครัวแทน เขารู้ว่าต่อให้ไม่มีอาหารเหลือแล้ว แต่ถ้าเอ่ยปากสักคำ แม่ครัวคงพร้อมจะหาอะไรให้เขากินได้แน่นอน

แต่แล้ว...ขณะเดินผ่านโรงอาหารเล็กๆ ที่ตอนนี้เงียบสงัดแล้วนั่นเอง เขาก็ได้เห็นใครบางคนนั่งอยู่ตรงม้าหินเท้าแขนลงบนโต๊ะ แนบหน้าหลับอยู่คนเดียวตามลำพัง

ดวงตาเจ้าเล่ห์กะพริบวาวเหมือนหมาป่าเห็นเหยื่อ

“ไง! ยายเสือหิว โกยเงินจนเหนื่อยเลยเหรอ ถึงต้องมานั่งหลับอยู่ตรงนี้น่ะ”

สิมิลันปรือตาขึ้น ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ แล้วขยับตัวหลับต่อ...

“ยายเด็กสิบแปดมงกุฎ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ ฉันคุยกับเธออยู่ไม่ได้ยินเหรอ”

“ไปกวนที่อื่นเถอะลุง คนจะหลับจะนอน” หญิงสาวบอกเสียงงัวเงียทั้งยังหลับตา

“เรียกฉันลุงอีกแล้วนะ” ปัณณ์ก้มลงไปคว้าต้นแขนของอีกฝ่าย ซึ่งสิมิลันก็ลืมตาโพลงทันควัน สีหน้านั้นเผือดซีด

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว จับแขนเธอไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงอุ้งมือเย็นเฉียบด้วยความห่วงใยโดยไม่รู้ตัว

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะสิมิลัน ทำไมมือเย็นขนาดนี้” เขาอังหลังมือกับหน้าผากเธอก็สะดุ้ง “เหงื่อออกเต็มตัวเลย นี่ยายบ้า เธอไม่สบายเหรอ”

ดวงหน้าเซียวฝืนปรือตาขึ้นทั้งที่เห็นชัดว่าอ่อนแรง สิมิลันยันตัวกับโต๊ะพยายามลุกขึ้นยืนอย่างยากเย็น

“ฉันแค่ง่วงนอนเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกค่ะคุณลุง ขอบคุณมาก” เธอกระแทกเสียงตรงสรรพนามแล้วเผ่นหนีไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนมองตามเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความขัดใจอยู่คนเดียว โชคดีที่ไม่มีใครหันมาเห็นว่าเขาถูกนางร้ายปลายแถวเชิดใส่น่ะ เสียหน้าตายเลย!





หลังจากนัดและผิดนัดกันจนเป็นเรื่องราวที่คาดไม่ถึงทั้งยังเปลี่ยนชีวิตที่เหลือของสิมิลันไปจนหมดสิ้นแล้ว ในที่สุดการนัดหมายพูดคุยเรื่องการถ่ายแบบระหว่างสิมิลัน มายาวี กับช่างภาพมือหนึ่งของวงการแฟชั่นเมืองไทยก็ถูกกำหนดขึ้นอีกครั้ง

“คอนเซปต์การถ่ายแบบที่พี่ปัญว่ามา แซมก็สนใจนะคะ แต่...แซมมีไอเดียที่อยากลองเสนอ ไม่ทราบว่าพี่ปัญอยากฟังไหมคะ” สิมิลันหลบตาผู้จัดการส่วนตัว แล้วรีบเอ่ยต่อเมื่อปัญญาอนุญาต

“ถ้าแซมยินดีถอดหมดทุกชิ้นล่ะคะ พี่ปัญคิดว่ายังไง”

“น้องแซม!”

“ยายตอง!”

คนฟังทั้งคู่อุทานขึ้นพร้อมกัน

สิมิลันยิ้มกว้าง ไม่เหลือบไปทางงามตาสักนิด “แซมว่าถ่ายชุดว่ายน้ำทุกปี มันก็เหมือนเดิม ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นเลย ถ้าอยากให้เป็นเรื่องเมาท์กันสนั่นเมือง เราก็ต้องทำอะไรเปรี้ยงๆ สักหน่อยสิคะ คำถามก็คือ...พี่ปัญสู้ค่าตัวแซมไหวหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

ช่างภาพชื่อดังยิ้มกว้าง สายตาเหม่อลอยไปไกล บอกให้รู้ว่าความคิดต่างๆ คงกำลังสวนสนามกันวิ่งผ่านสมองเขาอย่างหนัก
“ถ้าอย่างนั้นเราทำอัลบั้มพิเศษเลยดีกว่าไหมแซม ทำให้มันเป็นรูปแนวศิลปะ พิมพ์จำนวนจำกัดแล้วก็...ห่อพลาสติกขายราคาพิเศษ”

“พี่ปัญลองรวบรวมแนวคิดไว้ก่อนก็ได้ แล้วเราค่อยมาคุยรายละเอียดกับระยะเวลาถ่ายทำกัน แซมขอค่าตัวเท่านี้...” เธอเลื่อนกระดาษแผ่นหนึ่งไปตรงหน้าคู่สนทนา ในนั้นมีตัวเลขเรียงเป็นพรืดเขียนไว้ชัดๆ

ปัญญาหนักใจ มันเป็นจำนวนเงินที่สูงอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนสำหรับการถ่ายแบบเพียงครั้งเดียว ทว่าแนวคิดที่สิมิลันเสนอมา เขารู้ว่ามันขายได้แน่นอน ชื่อเสียงในด้านความเซ็กซี่ของเด็กสาววัยใสคนนี้กำลังมาแรงชนิดที่ดาวยั่วทุกยุครวมกันยังร้อนแรงไม่ได้ครึ่งของเธอผู้นี้เลย

เป็นช่างภาพมาหลายสิบปี เขาเองก็เพิ่งเคยเจอ ภาพยนตร์ที่คนตีตั๋วเข้าไปดูนางร้ายมากกว่านางเอก อย่างนี้แล้วจะให้เขาปล่อยโครงการที่แสนยั่วใจนี้หลุดมือไปได้อย่างไร

“ขอพี่ปรึกษากับนายทุนก่อนได้ไหม แล้วพี่จะตอบเราอีกที”

“อย่าให้นานนักนะคะ แซมไม่อยากให้กระแสตก ช่วงนี้แซมถ่ายละครกับพระเอกเบอร์หนึ่งอยู่ เผื่อเขาจะช่วยดันกระแสของแซมได้ด้วย”

“ตกลงจ้ะ แล้วพี่จะรีบตอบให้เร็วที่สุด”

สิมิลันเตรียมใจไว้แล้วว่าทันทีที่ปัญญาลับกายออกจากห้องไป เธอจะต้องโดนงามตาเฉ่งแหลกแน่นอน แต่ที่คิดไว้...ยังเลวร้ายน้อยกว่าของจริงเยอะ

“ยายเด็กบ้า ยื่นเสนออย่างนั้นไปได้ยังไง ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาพี่ก่อน เห็นพี่เป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไง” งามตาไม่ได้เอ็ด ไม่หยิกหรือตีเธอเปาะแปะดังเคย

ทว่า...ร้องไห้!

“พี่งาม”

สิมิลันทำอะไรไม่ถูก หลายปีที่ทำงานร่วมกันมา บางครั้งเธอล้ำเส้นงอแงกับสาวรุ่นพี่ไปบ้าง อย่างมากรายนั้นก็แค่ตีมือเธอสักเพียะ หยิกนิด ชี้หน้าคาดโทษอีกหน่อย หรือถ้าอย่างแย่ก็เปิดอบรมกันเป็นชั่วโมง แต่นี่...เธอจะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยนี้ได้อย่างไรกัน

หญิงสาวรีบขยับเข้าไปกอดอีกฝ่ายไว้อย่างเอาใจ “ฟังตองก่อนนะคะ”

“เธอยังเรียนหนังสืออยู่นะ จะไปถ่ายรูปบ้าบอแบบนั้นได้ยังไง แล้วแม่กับน้องล่ะคิดบ้างหรือเปล่าว่าเขาจะรู้สึกยังไงถ้าเห็นตองไปเปิดเนื้อตัวให้ไอ้พวกเสือสิงห์กระทิงแรดพวกนั้นดูจนหมด” งามตาน้ำตาพรู ทั้งเสียใจทั้งน้อยใจที่เด็กสาวคราวน้องตัดสินใจโดยไม่ปรึกษากันเลย

“ตองแค่มองว่ามันเป็นประโยชน์กับงานเท่านั้นเอง อีกอย่าง...ค่าตัวขนาดนั้นถ้าทางโน้นยอมจ่าย มันก็คุ้มไม่ใช่หรือคะ”

“ไม่คุ้ม!” งามตาตวาดทันควัน “เนื้อตัวของเธอนะตอง คิดบ้างหรือเปล่า คนเขาเห็นกันทั้งประเทศน่ะ วันหน้าเกิดเธอจะแต่งงานแต่งการ สามีเธอเขาจะคิดยังไง ลูกล่ะ เธอจะอธิบายให้เขาฟังยังไงว่าแม่เคยทำงานที่มันงามหน้าแบบนี้มาก่อนน่ะ”

สิมิลันคอตก “ตองไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น”

“เจริญล่ะ แล้วคิดเอง ตัดสินใจเองอย่างนี้น่ะเหรอ ถ้าเก่งแบบนี้ ตองคงไม่ต้องให้พี่ช่วยแล้วมั้ง”

“พี่งาม พี่อย่าพูดแบบนี้สิคะ ตองขอโทษ ตองจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว พี่งามอย่าทิ้งตองนะ”

“พี่ไม่ได้ทิ้งเธอ” หญิงสาวส่ายหน้า “แต่เธอต่างหาก...ที่ทิ้งพี่”

“ไม่เอาค่ะอย่าพูดแบบนี้สิคะ หนูใจหายนะพี่”

“งั้นก็อย่าทำงานนี้ ตกลงไหม”

“พี่งาม...”

“พี่ทำเพื่อเธอนะ ถ้าแม่กับน้องรู้คงรับไม่ได้แน่นอน พี่ก็จะโดนหางเลขไปด้วยโทษฐานที่ไม่ห้ามปราม”

“หนูว่าเราอย่าเพิ่งรีบกังวลกันไปล่วงหน้าเลย บางทีพี่ปัญอาจจะปฏิเสธ เพราะจ่ายค่าตัวตองไม่ไหวก็ได้เนอะ” สิมิลันเอียงศีรษะแนบบ่าอีกฝ่ายซ่อนสายตาที่เต็มไปด้วยแววไม่สบายใจไว้แทบไม่สำเร็จเอาเสียเลย



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ย. 2555, 13:17:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ย. 2555, 13:17:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 2281





<< ตอนที่ ๑๐   ตอนที่ ๑๒ >>
สิริณ 4 ก.ย. 2555, 13:28:17 น.
อ่านจบแล้ว ขอแรงกดไล้ค์ด้วยนะค้า ^^
หลายท่านที่ให้แล้ว
ขอบคุณมากกกกค่ะ

ท่านที่ยังไม่ให้ เค้าแอบงอนคุณอยู่ในใจนะเออ :)


nateetip 4 ก.ย. 2555, 13:39:23 น.
ว้ายยย...มีแววต้องมีตอนน้ำตาตกแน่เลย..ตามอ่านอยู่นะคะ ชอบมากค่ะ


minafiba 4 ก.ย. 2555, 14:29:08 น.
^__________^


sai 4 ก.ย. 2555, 15:06:04 น.
ตองท้องหรือเนี่ย T^T


bloomberg 4 ก.ย. 2555, 17:42:40 น.
นั่นน่ะซินะ ถ่ายนู๊ดขึ้นมาต้องโดนมหาลัยไล่ออกแน่


รอให้เป็นเล่ม 4 ก.ย. 2555, 20:47:50 น.
หรือว่าหนูตองท้อง!!!???

พี่วัชแมนได้ใจค่าาาาา


violette 4 ก.ย. 2555, 22:46:59 น.
โอยเครียดดด ตองท้องเหรอคะเนี่ย คงกะเอาก้อนสุดท้ายให้แม่กับน้องแล้วหนีไปสินะ


agentaja 5 ก.ย. 2555, 22:46:02 น.
เฮ้อ เครียดไปด้วยอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account