ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า
อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC
ตอน: บทที่สาม ฆ่าฉันดีกว่าให้ฉันเป็นเมียแก! 100%
บทที่สาม
อัลลัยล์มองหญิงสาวที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ในช่วงที่เขาพาตัวเธอมาที่เมืองมุบาร็อก เธอตื่นมาแล้วหนึ่งครั้ง ในตอนแรกๆก็ลืมตาหันหน้ามองนู้นนี่ทั่วไป แต่พอตั้งสติได้ว่าตนเองมาทำอะไรบนรถที่กำลังฝ่ากลางทะเลทรายร้อนระอุแบบนี้ คุณเธอก็โวยวายเสียงดังและทำท่าจะกระโดดลงจากรถอีก
เขาคาดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้แน่ ก่อนหน้านี้เลยสั่งให้ยะตีมไปหายานอนหลับแรงๆมาหนึ่งชุด เมื่อหล่อนตื่นขึ้นมาโวยวายก็จับกรอกปากเสียเลย คนดื้อด้านพูดไม่ฟังมันต้องกำราบด้วยวิธีนี้นี่แหละ
เมืองมุบาร็อกเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดชายแดนของอียิปต์ ถึงแม้จะเป็นเพียงเมืองเล็กๆแต่ก็จัดได้ว่าร่ำรวยมหาศาล เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนทางตระกูลของเขาได้เป็นผู้บุกเบิกเมืองนี้เพื่อขุดเจาะหาก๊าซธรรมชาติและบ่อน้ำมัน ช่วงแรกๆมีการร่วมหุ้นกับตระกูลดังหลายตระกูล เหล่าคนงานก็ยังก็ยังฮึมเหิมกันดี พอเวลาผ่านไปก็ยังไม่เห็นบ่อน้ำมันที่ว่า เหล่าผู้ร่วมหุ้นจากตระกูลต่างๆก็ถอนตัวกันไปทีละคนเนื่องจากคิดว่าท่านปู่ของเขาเป็นพวกฝันลมๆแล้งๆกับสิ่งของที่ไม่มีอยู่จริง แต่ว่าไม่กี่ปีหลังจากนั้นท่านปูของเขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่ท่านได้ทุ่มเทเวลามาตลอดเกือบครึ่งชีวิตนั้น มันได้กลายเป็นความจริงเสียแล้ว และเวลานั้นก็มีเพียงท่านปู่ที่ทำงานอยู่คนเดียว เมื่อเจอขุมทรัพย์อย่างนี้ ตระกูลของเขาก็ได้รับสมบัตินี้ไปเต็มๆเพราะไม่มีผู้มาร่วมหุ้น ตระกูลฟาฮัด เลยได้เปิดบริษัททำธุรกิจผูกขาดการส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแต่เพียงรายเดียวในแถบชายแดนของอียิปต์ หรือนั่นก็คือเมืองมุบาร็อกในปัจจุบัน!
ในเหตุการณ์การลอบสังหารเมื่อวันก่อน เดาได้ว่าอาจจะเป็นแผนการของใครสักคนที่ต้องการให้ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันตายๆไปซะ แล้วก็จะสวมรอยเข้ามาดำเนินธุรกิจทำเงินมหาศาลนี้แทน แต่เรื่องนี้ก็อาจจะสืบได้ยากพอสมควร เพราะเขาก็พอรู้มาว่า คนที่ไม่พอใจเรื่องที่ตระกูลฟาฮัดทำธุรกิจผูกขาดการส่งน้ำมันโดยไม่รับผู้ร่วมหุ้นนั้นก็มีอยู่หลายคน จะจับมือใครดมก็คงยาก
น่าเสียดายที่ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันคืออัลลัยล์ ซามาล ฟาฮัด คนนี้ เขาได้สาบานกับเหล่าบรรพบุรุษไว้ ว่าจะไม่ยอมเอาชีวิตมาตายง่ายๆ กับพวกหมาลอบกัดแบบนี้แน่!
เสียงพลิกตัวของหญิงสาวทำให้เขาออกจากภวังค์ ขนตายาวงอนประดับดวงตาคู่สวยนั้นหลับพริ้ม เธอกอดผ้าห่มไว้แนบอก ใบหน้ายามนอนของเธอนั้นคล้ายจะยิ้มมีความสุข เวลานี้เธอช่างน่ารักไร้พิษสงเสียจริง ไม่รู้ว่าตื่นมาจะโวยวายอาละวาดอะไรอีกรึเปล่า
หากไม่โวยวายนะสิคงแปลกพิลึก
ชีคหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆหญิงสาวโดยเว้นระยะห่างไว้พอสมควร ความจริงแล้วเขาก็อยากจะให้เกียรติเธอเหมือนกันแต่ด้วยความที่เจ้าของร่างบางชอบกระตุ้นแรงโทสะเหลือเกิน มันก็สมควรแล้วที่เธอจะโดนกำราบด้วยวิธีแรงๆซะบ้าง จะได้จำ คราวหลังจะได้ไม่ทำอีก
เมื่อวันเช้าที่นอนคับแคบนั่นทำให้เขาปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด เอาเป็นว่าเวลานี้ก็นอนเอาแรงก่อนแล้วกัน เพราะความรู้สึกบางอย่างมันเตือนขึ้นมาว่า เมื่อหญิงสาวข้างๆตื่นมาดูท่าคงต้องสู้รบกันอีกเยอะ
“ยะตีม เจ้าว่าเจ้านายเอาแม่หญิงนั่นมาทำไม”ฮาฟิซถามแฝดหนุ่มผู้เป็นพี่ ในมือของเขากำลังหยอกล้อลูกแมวลายเสือจอมซน
ร่างหนาของทั้งสองหนุ่มหลบออกมาพักที่โอเอซิสส่วนตัวของผู้เป็นนายตามคำสั่ง ทั้งคู่นอนทอดยาวอยู่บนพรมทอหนาอย่างดี ที่นี่มีกระโจมสองหลังใหญ่ หนึ่งหลังไว้สำหรับเจ้านาย อีกหลังท่านอัลลัยล์เป็นคนยกให้สองแฝดคนสนิท และกระโจมขนาดกลางอีกจำนวนมากไว้สำหรับคนงานที่ทำหน้าที่ดูแลที่นี่
ยะตีมเคี้ยวแอปเปิ้ลเขียวในมืออย่างเอื่อยๆ ข้างตัวเขามีตะกร้าผลไม้หลากสีสันจำนวนมากวางเรียงรายอยู่ให้เลือกสรรได้ชิมไม่รู้หมด ท่อนบนเปล่าเปลือยมีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมาเล็กน้อย ซึ่งเจ้าตัวก็ดูท่าไม่ได้สนใจมันซักเท่าไหร่
“ดูท่าเจ้านายจะติดใจละมั้ง เธอก็ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ”เสียงทุ้มตอบพลางเด็ดองุ่นโยนเข้าปาก
เหล่าคนงานที่นี่ต่างรู้ดีว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นคนสนิทของผู้เป็นเจ้านาย ทั้งคู่จึงได้รับบริการราวกับอาคันตุกะผู้มาพักก็มิปาน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษนี้ทำตัวอยู่เหนือผู้อื่น เขาทั้งคู่เป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ยิ้มง่าย ไม่ถือตัว ทั้งสองจึงเป็นที่รักใคร่ของเหล่าคนงาน
“ร้อยวันพันปีเจ้านายก็ไม่เคยเอาผู้หญิงเข้าคฤหาสน์นะ”ฮาฟิซยังคงสงสัยไม่เลิก
“เจ้าจำตอนอยู่บนรถได้ไหม เธอโวยวายด่าเจ้านายไปหลายเลยทีเดียว”แฝดผู้น้องหัวเราะชอบใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เมื่อเช้าพวกเขาก็ตกใจที่เจ้านายอุ้มร่างบางนั่นออกมาแล้วบอกว่าจะเอาตัวกลับไปที่เมืองมุบาร็อกด้วย อีกทั้งยังใช้ให้พี่ชายเขาไปหายานอนหลับแบบพิเศษมาให้อีก
พวกเขาก็นึกสงสัยแล้วเชียวว่าเจ้านายเอามาทำไม แต่เมื่อแม่หญิงนั่นตื่นขึ้นมาบนรถที่แล่นอยู่กลางทะเลทรายเท่านั้นแหละพวกเขาจึงรู้ถึงเหตุผล เจ้าของเสียงแหลมก็โวยวายเสียงดัง ด่าผู้เป็นเจ้านายพวกเขาอย่างไม่ไว้หน้า
เมื่อเห็นว่าจะไม่มีคนพาเธอกลับแน่ ร่างบางนั่นก็เปิดประตูทำท่าจะกระโดดลงจากรถที่แล่นด้วยความเร็วสูงอย่างไม่เกรงกลัว ยังดีที่เจ้านายฉวยตัวเธอเข้ามาไว้ทัน ไม่งั้นคงจะมีผีคอหักเฝ้าทะเลทรายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
เมื่อเธอเข้ามาในรถแล้ว เจ้านายก็นั่งรอให้เธอสงบสติอารมณ์ก่อนจะยื่นกระบอกน้ำให้เธอและสั่งให้ดื่มเข้าไปให้หมด เธอมองอย่างชั่งใจชั่วครู่แล้วคว้ากระบอกน้ำนั่นมาสาดใส่หน้าผู้ยื่นให้อย่างไม่ไยดี
วินาทีนั้นพวกเขาตกใจไม่ใช่น้อย ผู้เป็นเจ้านายได้ชื่อถึงความเจ้าอารมณ์อย่างร้ายกาจและไม่ชอบให้ใครมาขัดใจ ซึ่งแม่หญิงคนนั้นก็กระทำการ ‘ยิ่งกว่าขัดใจ’ เสียอีก
เจ้านายสบถเสียงดังพร้อมกับคว้าตัวเธอมาแล้วบังคับให้อ้าปากกรอกน้ำที่เหลือใส่โดยไม่สนใจว่าเธอจะดิ้นหรือสำลักน้ำหรือไม่ พวกเขาได้แต่มองด้วยความสงสารแต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้เมื่อผู้กระทำการในครั้งนี้มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายของพวกเขา เมื่อเสร็จสิ้นเธอก็ก่นด่าอยู่ชั่วครู่ก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
“พอถึงคฤหาสต์ก็ไล่พวกเราออกมาเชียว”ฮาฟิซบ่น
“เจ้าว่าตอนนี้เจ้านายกับแม่สาวนั่นทำอะไรกันอยู่”เขาเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชาย
ยะตีมหัวเราะเสียงดังก่อนจะหงายตัวนอนแผ่ไปกับพรมทอ
“เอาน่าน้องข้า พนันได้เลย 1000 ปอนด์อียิปต์”
“พนันอะไร”แฝดน้องขมวดคิ้วถาม
“เมื่อแม่สาวนั่นตื่นขึ้นมา คงทำให้เจ้านายคงจะอารมณ์เสียน่าดู!”
ทั้งสองประสานเสียงหัวเราะกันดังลั่นโจม ฮาฟิซคงจะไม่พนันเด็ดขาดถ้ารู้ว่าคำพูดของผู้เป็นพี่ชายนั้นแม่นราวกับตาเห็นขนาดไหน!
พิมพ์นาราพลิกตัวเปลี่ยนท่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกเหมือนมีสิ่งของหนักพาดทับตัวเธออยู่ หญิงสาวค่อยๆปรือตาขึ้นมองภาพตรงหน้า
ห่างไปไม่ถึงคืบ ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มนอนหลับตาพริ้มเช่นเดียวกัน ผมสีน้ำตาลเข้มระต้นคอมีกลิ่นหอมจางๆ เธอรู้สึกว่าไรหนวดของเขามันเพิ่มขึ้นจากวันก่อน เธอเอื้อมมือไปลูบสันจมูกโด่งของเขาอย่างลืมตัว
ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าหนีคล้ายกับรำคาญใจ มือหนักที่กอดเอวเธออยู่ยกขึ้นปัดมือบางของเธอออกก่อนจะพลิกตัวหันหนีไปอีกข้าง
พิมพ์นาราหัวเราะกับท่าทางของชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นนั่งและกวาดตามองไปรอบตัว
ห้องหรูหราใหญ่โตนี่มันอะไรกัน? เธอรำพึงในใจ
หญิงสาวเกาศีรษะแรงๆสองสามทีพร้อมกับขมวดคิ้วนึกอะไรบางอย่าง เมื่อตั้งสติและความทรงจำต่างๆแล่นเข้าสมองอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยก็เบิกโพล่ง!
“กรี๊ดดดดดดดดดดด”
ผลั่ก!
เธอถีบเข้าไปที่กลางลำตัวของชายหนุ่มที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นร่างหนากลิ้งตกเตียงไป ร่างบางก็วิ่งถลาไปที่ประตูทันที!
แกร่ก แกร่ก!
มือบางหมุนลูกบิดไปมาอย่างแรงแต่ประตูหนากลับไม่ขยับเลยซักนิด ใบหน้าสวยเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาเล็กน้อย
ซึ่งเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เม็ดเหงื่อที่มาจากความร้อนระอุแน่!
ปัง ปัง ปัง ปัง!
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!”มือบางทุบรัวไปที่ประตู
“ใครที่อยู่ข้างนอก! ได้ยินฉันมั้ย!”เสียงแหลมกรีดร้องเมื่อสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในห้อง เธอหันหน้ากลับไปทางที่จากมาก่อนจะระดมแรงฟาดที่ประตูไม้หนาไม่ยั้ง
“โธ่เว้ยยย เปิดสิวะคะ!”
ปกติเธอไม่ใช่คนหยาบคาย แต่ในเวลานี้ที่เธอต้องการจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ร่างบางลงแรงทั้งเตะทั้งถีบแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าประตูบานนี้จะเปิดออกซักที หญิงสาวออกแรงจนหัวสั่นหัวคลอนโยกไปทั้งตัว เมื่อจับไอความรู้สึกบางอย่างที่เข้ามาใกล้ได้ ร่างบางจึงชะงักสูดหายใจลึกและหันกลับหลังไปในที่สุด
หญิงสาวยิ้มแห้งให้ชายหนุ่ม เธอก็พอจะรู้ว่าเขายืนมองมาซักระยะแล้ว
“เอ่อ…สวัสดีค่ะ”
“เจ้า…”อัลลัยล์กล่าวเสียงเนิบ
“กรี๊ดดดดดด”
หญิงสาวกรีดร้องเมื่อเขาวิ่งเขามากระชากแขนเธอเหวี่ยงไปที่เตียง ร่างบางมึนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลุกขึ้นหนี แต่นั่นก็ช้าไปสำหรับเขา ข้อเท้าของเธอถูกมือหน้าจับดึงลงมาที่เดิมอีกครั้ง
เธอพยายามทั้งถีบและดิ้นแต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะหลบได้ตลอด ร่างบางสั่นเทิ้มเมื่อเห็นอกกำยำที่เต็มไปด้วยไรขนหนาของอีกฝ่าย เขาเปลือยท่อนบน!
“ไอ้บ้า ปล่อยๆๆ”หญิงสาวปัดป้องเป็นพัลวัน
“มานี่แม่ตัวดี!”
อัลลัยล์รวบข้อมือหญิงสาวตรึงเหนือหัว ร่างหนาคร่อมทับร่างบางที่ดิ้นไปมาไม่หยุด เธอก่นด่าเขาด้วยคำหยาบคายสารพัด ไม่ว่าจะเป็นสิงสาราสัตว์ หรือไม่ก็ขุดโคตรตระกูลขึ้นมาด่า
“ตะกี้เจ้ากล้ามากนะ!”ชายหนุ่มกัดฟันกรอด
“ขาข้างไหนกันที่ถีบข้า!”อัลลัยล์ตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นหญิงสาวยังดิ้นไปมาและก่นด่าเขาไม่ยอมหยุด
“ไม่รู้ ฉันไม่รู้!”
พิมพ์นาราแทบร้องเมื่อรู้สึกถึงมือหนานั้นกำลังปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของเธอออก ชายหนุ่มสบถสองสามคำกับการถอดกางเกงอันทุลักทุเลนี้ แต่ไม่นานเขาก็สามารถดึงกางเกงยีนส์ให้เลื่อนลงมาถึงปลายเท้า มือหนากระชากเหวี่ยงออกไปไกลตัว
เธอยิ่งดิ้นแรงขึ้นและกรี๊ดใส่เขาไม่หยุดเมื่อเห็นว่ากางเกงตัวเก่งลอยละลิ่วไปอีกทาง มือหนาดุจคีมเหล็กนั่นปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระเพื่อมาตรึงสะโพกงามนี้ให้อยู่กับที่แทน
อัลลัยล์รู้สึกว่าเขาจะกลืนน้ำลายลงคอได้ยากขึ้นทุกทีเมื่อเห็นเรียวขายาวนั่น สิ่งที่ทำให้หัวใจเขาเต้นระรัวคือบางสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงในสีแดงตัวจิ๋วนี้ มันโหนกนูนได้รูปสวยเสียจนเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการบังคับตัวเองไม่ให้เอื้อมมือไปกระชากสิ่งขวางกั้นนี้ออกเพื่อนดูความสวยงามอย่างเต็มตา
ยังไม่ใช่ตอนนี้…เขาท่องในใจซ้ำไปซ้ำมา
“ไอ้เลว ไอ้ชั่วปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”หญิงสาวหวีดร้องลั่น
“ขาข้างไหนที่ถีบ!”เสียงทุ้มตะโกนกลับมาด้วยความดังไม่แพ้กัน
“ไม่รู้ ไอ้บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“งั้นก็โดนทั้งสองขาเลยก็แล้วกัน!”
“ไม่!!!”
มือหนาระดมตีต้นขาของเธอไม่ยั้ง ไม่ว่าเธอจะดิ้น จิก ทุบ ข่วน เพียงใดแต่ก็ดูไม่เป็นผลต่อคนตรงหน้าเลย ผิวหนังเขาทำด้วยอะไร ทำไมมันด้านและหนาได้ขนาดนี้!
“ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้บ้าเอ้ย!”เธอก่นด่า
ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยกับคำพูดของหญิงสาว ร่างหน้าคล้ายจะสั่นเทิ่มด้วยแรงโทสะ เขาจ้องหน้าเธอก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้เธอขนลุกเกรียวออกมาอย่างไม่อายปาก
“ลองมาเป็นเมียไอ้ชั่วคนนี้หน่อยไหมละ!”
อัลลัยล์กระตุกยิ้มเยาะพร้อมกับโน้มตัวลงไปบดขยี้ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายที่กำลังจะอ้าปากด่า
ดี! เขาจะได้ไม่ต้องเสียแรงบีบปากเธอแบบเช่นทุกครั้ง!
เธอรู้สึกอยากจะอ้วกเมื่อลิ้นสากของเขาตวัดเกี่ยวกับลิ้นน้อยๆของเธอ เธอพยายามหันหน้าหลบแต่เขาก็ยังตามไปอย่างไม่ลดละ
“เอาสิ หนีเข้าไป ดิ้นเข้าไป ข้าชอบ!”ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นบอกอีกฝ่ายก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากเธอต่อ
เธอทั้งจิกทั้งข่วนแต่อีกฝ่ายก็ไม่สะดุ้งสะเทือน สมองเธอกำลังนึกวิธีหนีให้พ้นจากคนๆนี้ สุดท้ายเหมือนฟ้าเป็นใจ เธอนึกอะไรบางอย่างออก…
วิธีที่เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ที่เมืองไทยที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อหลายปีก่อน!
“โอ้ย!”เขาสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายทำในสิ่งที่เกินคาดหมาย เธอกัดลิ้นเขาเต็มแรงจนเขารู้สึกถึงรสชาติฝาดของเลือด เขาบีบปากเธอเต็มแรงพร้อมกับร่างหนาที่ผงะตัวขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่ทั้งสองมือและขาหลุดออกจากที่ขัง เธอถีบอกเขาเต็มแรงจนหงายหลังไปอีกรอบ
และยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว…
เพี้ย! เพี้ย!
มือบางนั่นตวัดเข้าใบหน้าเข้าเต็มๆทั้งหน้ามือและหลังมือสองทีรวด ก่อนที่ผู้กระทำจะถอยหลังไปชิดหัวเตียง
“ฮึก ฮึก!”หญิงสาวกลั้นเสียงสะอื้น
อัลลัยล์จ้องเขม็งไปที่หญิงสาวตรงหน้า เมื่อสบตาเขาก็เห็นได้ชัดว่าสายตาที่เธอมองนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มือบางที่จับผ้าห่มคลุมท่อนล่างของตัวเองสั่นระริก ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิง และรอยเลือดที่ริมฝีปากนั่นคาดว่าจะเป็นเลือดของเขาแน่นอน
ทุกสิ่งทุกอย่างเรียกให้เลือดในกายชายของเขาตื่นตัวอยากจะปราบคนตรงหน้าให้อยู่หมัด ซึ่งถ้าเป็นปกติเขาคงจะกระโจนเข้าไปอย่างไม่ยอมแพ้ แต่เวลานี้เธอกลับทำเขาหมดอารมณ์ ทั้งเจ็บปลายลิ้นที่เธอกัดจนเลือดท่วมปาก ริมฝีปากก็แตกทั้งสองข้าง อีกทั้งหน้าอกและหลังของเขาก็มีเลือดไหลซิบๆออกมาไม่ต่ำกว่าสิบที่!!
นางแมวตัวนี้เขี้ยวเล็บแหลมคมซะจริง!
พิมพ์นารารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา เธอปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลลงมาเสมือนปลอบใจตนเองก่อนจะกล่าวกับชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเบาหวิว
“คุณมันเลวมาก ผู้หญิงไม่มีอารมณ์ร่วมก็ยังจะบังคับ ท่าทางจะอดอยากมากนักซิ”
“เจ้า!!”เขาชี้หน้าเธอที่บังอาจพูดจาแบบนี้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีท่าทีเกรงกลัวสักเท่าใด เธอเชิดหน้าสบตาเขาอย่างไม่หวั่นเกรง
“จำใส่กะโหลกของคุณไว้ด้วยนะ เอามีดมาฆ่าฉันให้ตายดีกว่าที่จะให้ฉันยอมเป็นเมียของคุณ”พิมพ์นารากล่าวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“ป่าเถื่อนที่สุด!”
อัลลัยล์ชะงักไปกับคำพูดของหญิงสาว โทสะที่ประทุของเขามันมีมากกว่าความสงสาร เขากัดฟันจนเห็นกรามนูนขึ้นมาชัดเจน
เอาสิ! อยากจะคอยดูเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้จะเก่งอย่างปากได้ซักกี่น้ำ!
พุบ!
มือหนาโยนกางเกงยีนส์ใส่หน้าของร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียง เธอกัดฟันมองเขาเล็กน้อยก่อนจะรีบจัดการกับตัวเองอย่างรวดเร็ว
“ใครอยู่ข้างนอก เปิดประตูออกที!!”เสียงทุ้มตะโกนก้อง
ไม่นานร่างอวบของสาวใช้วัยกลางคนก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา เธอมองสภาพของผู้หญิงคนแรกที่ท่าน ‘ชีคอัลลัยล์’ พึ่งเคยนำมาที่นี่อย่างเต็มตา ร่างบางยืนตัวสั่นอยู่มุมห้อง ผมเผ้ายุ่งเหยิง และริมฝีปากที่มีคราบเลือด!
“ไปเอาเชือกมา”ชายหนุ่มสั่ง
“ไปเอาเชือกมา!!”เสียงทุ้มตะโกนย้ำอีกครั้งอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นสาวใช้เอาแต่จ้องหน้าของตน เขายกมือขึ้นแตะมุมปากเบาๆเพื่อซับเลือดออกก่อนจะหันหน้ากลับไปทางหญิงสาว
“เก่งดีนี่”แม้จะเป็นคำชมแต่มันก็ตรงข้ามกับใบหน้าของเขาในตอนนี้ซะเหลือเกิน ดวงตาสีดำนั่นมองขวาง ใบหน้าคมสันกัดฟันจนกรามนูนและมือที่กำจนสั่น เธอรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของชายตรงหน้าเธอในตอนนี้สามารถฆ่าคนตายได้ทีเดียว!
สาวใช้นำของที่สั่งมาให้อย่างรวดเร็ว อัลลัยล์หยิบเชือกผ้าขึ้นมาก่อนจะสาวเท้ายาวเข้าไปดึงร่างบางนั้นออกมาจากมุมห้อง
เธอถลาออกมาล้มเข่ากระแทกลงพื้นทั้งสองข้าง ชายหนุ่มกระชากแขนเธอให้ลุกขึ้นตามออกมายังบริเวณโล่งของห้อง
“มานี่แม่ตัวดี!”
ไม่มีเวลาให้เธอขัดขืน มือหนาดุจคีมนั่นรวบข้อมือเล็กๆของเธอมาไว้ที่ด้านหลังก่อนจะมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา ไม่ว่าเธอจะเจ็บแค่ไหนแต่เธอก็ขอสาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ส่งเสียงร้องขออะไรจากคนใจร้ายตรงหน้าอีก
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองทำผิดอะไรลงไป แล้วทำไมเธอถึงต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย
เมื่อเหลือบมองใบหน้าของชายที่เธอเคยช่วยเหลือแต่ไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยเธอก็ได้แต่กลืนก้อนสะอื้นลงคอ
สงสัยเธอคงจะได้ตายสมใจ เธอคิด
แต่ก็ยังดีกว่าตกเป็นเมียของคนๆนี้ละ!
อัลลัยล์มองหญิงสาวที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ในช่วงที่เขาพาตัวเธอมาที่เมืองมุบาร็อก เธอตื่นมาแล้วหนึ่งครั้ง ในตอนแรกๆก็ลืมตาหันหน้ามองนู้นนี่ทั่วไป แต่พอตั้งสติได้ว่าตนเองมาทำอะไรบนรถที่กำลังฝ่ากลางทะเลทรายร้อนระอุแบบนี้ คุณเธอก็โวยวายเสียงดังและทำท่าจะกระโดดลงจากรถอีก
เขาคาดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้แน่ ก่อนหน้านี้เลยสั่งให้ยะตีมไปหายานอนหลับแรงๆมาหนึ่งชุด เมื่อหล่อนตื่นขึ้นมาโวยวายก็จับกรอกปากเสียเลย คนดื้อด้านพูดไม่ฟังมันต้องกำราบด้วยวิธีนี้นี่แหละ
เมืองมุบาร็อกเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดชายแดนของอียิปต์ ถึงแม้จะเป็นเพียงเมืองเล็กๆแต่ก็จัดได้ว่าร่ำรวยมหาศาล เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนทางตระกูลของเขาได้เป็นผู้บุกเบิกเมืองนี้เพื่อขุดเจาะหาก๊าซธรรมชาติและบ่อน้ำมัน ช่วงแรกๆมีการร่วมหุ้นกับตระกูลดังหลายตระกูล เหล่าคนงานก็ยังก็ยังฮึมเหิมกันดี พอเวลาผ่านไปก็ยังไม่เห็นบ่อน้ำมันที่ว่า เหล่าผู้ร่วมหุ้นจากตระกูลต่างๆก็ถอนตัวกันไปทีละคนเนื่องจากคิดว่าท่านปู่ของเขาเป็นพวกฝันลมๆแล้งๆกับสิ่งของที่ไม่มีอยู่จริง แต่ว่าไม่กี่ปีหลังจากนั้นท่านปูของเขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่ท่านได้ทุ่มเทเวลามาตลอดเกือบครึ่งชีวิตนั้น มันได้กลายเป็นความจริงเสียแล้ว และเวลานั้นก็มีเพียงท่านปู่ที่ทำงานอยู่คนเดียว เมื่อเจอขุมทรัพย์อย่างนี้ ตระกูลของเขาก็ได้รับสมบัตินี้ไปเต็มๆเพราะไม่มีผู้มาร่วมหุ้น ตระกูลฟาฮัด เลยได้เปิดบริษัททำธุรกิจผูกขาดการส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแต่เพียงรายเดียวในแถบชายแดนของอียิปต์ หรือนั่นก็คือเมืองมุบาร็อกในปัจจุบัน!
ในเหตุการณ์การลอบสังหารเมื่อวันก่อน เดาได้ว่าอาจจะเป็นแผนการของใครสักคนที่ต้องการให้ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันตายๆไปซะ แล้วก็จะสวมรอยเข้ามาดำเนินธุรกิจทำเงินมหาศาลนี้แทน แต่เรื่องนี้ก็อาจจะสืบได้ยากพอสมควร เพราะเขาก็พอรู้มาว่า คนที่ไม่พอใจเรื่องที่ตระกูลฟาฮัดทำธุรกิจผูกขาดการส่งน้ำมันโดยไม่รับผู้ร่วมหุ้นนั้นก็มีอยู่หลายคน จะจับมือใครดมก็คงยาก
น่าเสียดายที่ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันคืออัลลัยล์ ซามาล ฟาฮัด คนนี้ เขาได้สาบานกับเหล่าบรรพบุรุษไว้ ว่าจะไม่ยอมเอาชีวิตมาตายง่ายๆ กับพวกหมาลอบกัดแบบนี้แน่!
เสียงพลิกตัวของหญิงสาวทำให้เขาออกจากภวังค์ ขนตายาวงอนประดับดวงตาคู่สวยนั้นหลับพริ้ม เธอกอดผ้าห่มไว้แนบอก ใบหน้ายามนอนของเธอนั้นคล้ายจะยิ้มมีความสุข เวลานี้เธอช่างน่ารักไร้พิษสงเสียจริง ไม่รู้ว่าตื่นมาจะโวยวายอาละวาดอะไรอีกรึเปล่า
หากไม่โวยวายนะสิคงแปลกพิลึก
ชีคหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆหญิงสาวโดยเว้นระยะห่างไว้พอสมควร ความจริงแล้วเขาก็อยากจะให้เกียรติเธอเหมือนกันแต่ด้วยความที่เจ้าของร่างบางชอบกระตุ้นแรงโทสะเหลือเกิน มันก็สมควรแล้วที่เธอจะโดนกำราบด้วยวิธีแรงๆซะบ้าง จะได้จำ คราวหลังจะได้ไม่ทำอีก
เมื่อวันเช้าที่นอนคับแคบนั่นทำให้เขาปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด เอาเป็นว่าเวลานี้ก็นอนเอาแรงก่อนแล้วกัน เพราะความรู้สึกบางอย่างมันเตือนขึ้นมาว่า เมื่อหญิงสาวข้างๆตื่นมาดูท่าคงต้องสู้รบกันอีกเยอะ
“ยะตีม เจ้าว่าเจ้านายเอาแม่หญิงนั่นมาทำไม”ฮาฟิซถามแฝดหนุ่มผู้เป็นพี่ ในมือของเขากำลังหยอกล้อลูกแมวลายเสือจอมซน
ร่างหนาของทั้งสองหนุ่มหลบออกมาพักที่โอเอซิสส่วนตัวของผู้เป็นนายตามคำสั่ง ทั้งคู่นอนทอดยาวอยู่บนพรมทอหนาอย่างดี ที่นี่มีกระโจมสองหลังใหญ่ หนึ่งหลังไว้สำหรับเจ้านาย อีกหลังท่านอัลลัยล์เป็นคนยกให้สองแฝดคนสนิท และกระโจมขนาดกลางอีกจำนวนมากไว้สำหรับคนงานที่ทำหน้าที่ดูแลที่นี่
ยะตีมเคี้ยวแอปเปิ้ลเขียวในมืออย่างเอื่อยๆ ข้างตัวเขามีตะกร้าผลไม้หลากสีสันจำนวนมากวางเรียงรายอยู่ให้เลือกสรรได้ชิมไม่รู้หมด ท่อนบนเปล่าเปลือยมีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมาเล็กน้อย ซึ่งเจ้าตัวก็ดูท่าไม่ได้สนใจมันซักเท่าไหร่
“ดูท่าเจ้านายจะติดใจละมั้ง เธอก็ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ”เสียงทุ้มตอบพลางเด็ดองุ่นโยนเข้าปาก
เหล่าคนงานที่นี่ต่างรู้ดีว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นคนสนิทของผู้เป็นเจ้านาย ทั้งคู่จึงได้รับบริการราวกับอาคันตุกะผู้มาพักก็มิปาน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษนี้ทำตัวอยู่เหนือผู้อื่น เขาทั้งคู่เป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ยิ้มง่าย ไม่ถือตัว ทั้งสองจึงเป็นที่รักใคร่ของเหล่าคนงาน
“ร้อยวันพันปีเจ้านายก็ไม่เคยเอาผู้หญิงเข้าคฤหาสน์นะ”ฮาฟิซยังคงสงสัยไม่เลิก
“เจ้าจำตอนอยู่บนรถได้ไหม เธอโวยวายด่าเจ้านายไปหลายเลยทีเดียว”แฝดผู้น้องหัวเราะชอบใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เมื่อเช้าพวกเขาก็ตกใจที่เจ้านายอุ้มร่างบางนั่นออกมาแล้วบอกว่าจะเอาตัวกลับไปที่เมืองมุบาร็อกด้วย อีกทั้งยังใช้ให้พี่ชายเขาไปหายานอนหลับแบบพิเศษมาให้อีก
พวกเขาก็นึกสงสัยแล้วเชียวว่าเจ้านายเอามาทำไม แต่เมื่อแม่หญิงนั่นตื่นขึ้นมาบนรถที่แล่นอยู่กลางทะเลทรายเท่านั้นแหละพวกเขาจึงรู้ถึงเหตุผล เจ้าของเสียงแหลมก็โวยวายเสียงดัง ด่าผู้เป็นเจ้านายพวกเขาอย่างไม่ไว้หน้า
เมื่อเห็นว่าจะไม่มีคนพาเธอกลับแน่ ร่างบางนั่นก็เปิดประตูทำท่าจะกระโดดลงจากรถที่แล่นด้วยความเร็วสูงอย่างไม่เกรงกลัว ยังดีที่เจ้านายฉวยตัวเธอเข้ามาไว้ทัน ไม่งั้นคงจะมีผีคอหักเฝ้าทะเลทรายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
เมื่อเธอเข้ามาในรถแล้ว เจ้านายก็นั่งรอให้เธอสงบสติอารมณ์ก่อนจะยื่นกระบอกน้ำให้เธอและสั่งให้ดื่มเข้าไปให้หมด เธอมองอย่างชั่งใจชั่วครู่แล้วคว้ากระบอกน้ำนั่นมาสาดใส่หน้าผู้ยื่นให้อย่างไม่ไยดี
วินาทีนั้นพวกเขาตกใจไม่ใช่น้อย ผู้เป็นเจ้านายได้ชื่อถึงความเจ้าอารมณ์อย่างร้ายกาจและไม่ชอบให้ใครมาขัดใจ ซึ่งแม่หญิงคนนั้นก็กระทำการ ‘ยิ่งกว่าขัดใจ’ เสียอีก
เจ้านายสบถเสียงดังพร้อมกับคว้าตัวเธอมาแล้วบังคับให้อ้าปากกรอกน้ำที่เหลือใส่โดยไม่สนใจว่าเธอจะดิ้นหรือสำลักน้ำหรือไม่ พวกเขาได้แต่มองด้วยความสงสารแต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้เมื่อผู้กระทำการในครั้งนี้มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายของพวกเขา เมื่อเสร็จสิ้นเธอก็ก่นด่าอยู่ชั่วครู่ก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
“พอถึงคฤหาสต์ก็ไล่พวกเราออกมาเชียว”ฮาฟิซบ่น
“เจ้าว่าตอนนี้เจ้านายกับแม่สาวนั่นทำอะไรกันอยู่”เขาเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชาย
ยะตีมหัวเราะเสียงดังก่อนจะหงายตัวนอนแผ่ไปกับพรมทอ
“เอาน่าน้องข้า พนันได้เลย 1000 ปอนด์อียิปต์”
“พนันอะไร”แฝดน้องขมวดคิ้วถาม
“เมื่อแม่สาวนั่นตื่นขึ้นมา คงทำให้เจ้านายคงจะอารมณ์เสียน่าดู!”
ทั้งสองประสานเสียงหัวเราะกันดังลั่นโจม ฮาฟิซคงจะไม่พนันเด็ดขาดถ้ารู้ว่าคำพูดของผู้เป็นพี่ชายนั้นแม่นราวกับตาเห็นขนาดไหน!
พิมพ์นาราพลิกตัวเปลี่ยนท่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกเหมือนมีสิ่งของหนักพาดทับตัวเธออยู่ หญิงสาวค่อยๆปรือตาขึ้นมองภาพตรงหน้า
ห่างไปไม่ถึงคืบ ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มนอนหลับตาพริ้มเช่นเดียวกัน ผมสีน้ำตาลเข้มระต้นคอมีกลิ่นหอมจางๆ เธอรู้สึกว่าไรหนวดของเขามันเพิ่มขึ้นจากวันก่อน เธอเอื้อมมือไปลูบสันจมูกโด่งของเขาอย่างลืมตัว
ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าหนีคล้ายกับรำคาญใจ มือหนักที่กอดเอวเธออยู่ยกขึ้นปัดมือบางของเธอออกก่อนจะพลิกตัวหันหนีไปอีกข้าง
พิมพ์นาราหัวเราะกับท่าทางของชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นนั่งและกวาดตามองไปรอบตัว
ห้องหรูหราใหญ่โตนี่มันอะไรกัน? เธอรำพึงในใจ
หญิงสาวเกาศีรษะแรงๆสองสามทีพร้อมกับขมวดคิ้วนึกอะไรบางอย่าง เมื่อตั้งสติและความทรงจำต่างๆแล่นเข้าสมองอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยก็เบิกโพล่ง!
“กรี๊ดดดดดดดดดดด”
ผลั่ก!
เธอถีบเข้าไปที่กลางลำตัวของชายหนุ่มที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นร่างหนากลิ้งตกเตียงไป ร่างบางก็วิ่งถลาไปที่ประตูทันที!
แกร่ก แกร่ก!
มือบางหมุนลูกบิดไปมาอย่างแรงแต่ประตูหนากลับไม่ขยับเลยซักนิด ใบหน้าสวยเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาเล็กน้อย
ซึ่งเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เม็ดเหงื่อที่มาจากความร้อนระอุแน่!
ปัง ปัง ปัง ปัง!
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!”มือบางทุบรัวไปที่ประตู
“ใครที่อยู่ข้างนอก! ได้ยินฉันมั้ย!”เสียงแหลมกรีดร้องเมื่อสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในห้อง เธอหันหน้ากลับไปทางที่จากมาก่อนจะระดมแรงฟาดที่ประตูไม้หนาไม่ยั้ง
“โธ่เว้ยยย เปิดสิวะคะ!”
ปกติเธอไม่ใช่คนหยาบคาย แต่ในเวลานี้ที่เธอต้องการจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ร่างบางลงแรงทั้งเตะทั้งถีบแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าประตูบานนี้จะเปิดออกซักที หญิงสาวออกแรงจนหัวสั่นหัวคลอนโยกไปทั้งตัว เมื่อจับไอความรู้สึกบางอย่างที่เข้ามาใกล้ได้ ร่างบางจึงชะงักสูดหายใจลึกและหันกลับหลังไปในที่สุด
หญิงสาวยิ้มแห้งให้ชายหนุ่ม เธอก็พอจะรู้ว่าเขายืนมองมาซักระยะแล้ว
“เอ่อ…สวัสดีค่ะ”
“เจ้า…”อัลลัยล์กล่าวเสียงเนิบ
“กรี๊ดดดดดด”
หญิงสาวกรีดร้องเมื่อเขาวิ่งเขามากระชากแขนเธอเหวี่ยงไปที่เตียง ร่างบางมึนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลุกขึ้นหนี แต่นั่นก็ช้าไปสำหรับเขา ข้อเท้าของเธอถูกมือหน้าจับดึงลงมาที่เดิมอีกครั้ง
เธอพยายามทั้งถีบและดิ้นแต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะหลบได้ตลอด ร่างบางสั่นเทิ้มเมื่อเห็นอกกำยำที่เต็มไปด้วยไรขนหนาของอีกฝ่าย เขาเปลือยท่อนบน!
“ไอ้บ้า ปล่อยๆๆ”หญิงสาวปัดป้องเป็นพัลวัน
“มานี่แม่ตัวดี!”
อัลลัยล์รวบข้อมือหญิงสาวตรึงเหนือหัว ร่างหนาคร่อมทับร่างบางที่ดิ้นไปมาไม่หยุด เธอก่นด่าเขาด้วยคำหยาบคายสารพัด ไม่ว่าจะเป็นสิงสาราสัตว์ หรือไม่ก็ขุดโคตรตระกูลขึ้นมาด่า
“ตะกี้เจ้ากล้ามากนะ!”ชายหนุ่มกัดฟันกรอด
“ขาข้างไหนกันที่ถีบข้า!”อัลลัยล์ตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นหญิงสาวยังดิ้นไปมาและก่นด่าเขาไม่ยอมหยุด
“ไม่รู้ ฉันไม่รู้!”
พิมพ์นาราแทบร้องเมื่อรู้สึกถึงมือหนานั้นกำลังปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของเธอออก ชายหนุ่มสบถสองสามคำกับการถอดกางเกงอันทุลักทุเลนี้ แต่ไม่นานเขาก็สามารถดึงกางเกงยีนส์ให้เลื่อนลงมาถึงปลายเท้า มือหนากระชากเหวี่ยงออกไปไกลตัว
เธอยิ่งดิ้นแรงขึ้นและกรี๊ดใส่เขาไม่หยุดเมื่อเห็นว่ากางเกงตัวเก่งลอยละลิ่วไปอีกทาง มือหนาดุจคีมเหล็กนั่นปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระเพื่อมาตรึงสะโพกงามนี้ให้อยู่กับที่แทน
อัลลัยล์รู้สึกว่าเขาจะกลืนน้ำลายลงคอได้ยากขึ้นทุกทีเมื่อเห็นเรียวขายาวนั่น สิ่งที่ทำให้หัวใจเขาเต้นระรัวคือบางสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงในสีแดงตัวจิ๋วนี้ มันโหนกนูนได้รูปสวยเสียจนเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการบังคับตัวเองไม่ให้เอื้อมมือไปกระชากสิ่งขวางกั้นนี้ออกเพื่อนดูความสวยงามอย่างเต็มตา
ยังไม่ใช่ตอนนี้…เขาท่องในใจซ้ำไปซ้ำมา
“ไอ้เลว ไอ้ชั่วปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”หญิงสาวหวีดร้องลั่น
“ขาข้างไหนที่ถีบ!”เสียงทุ้มตะโกนกลับมาด้วยความดังไม่แพ้กัน
“ไม่รู้ ไอ้บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“งั้นก็โดนทั้งสองขาเลยก็แล้วกัน!”
“ไม่!!!”
มือหนาระดมตีต้นขาของเธอไม่ยั้ง ไม่ว่าเธอจะดิ้น จิก ทุบ ข่วน เพียงใดแต่ก็ดูไม่เป็นผลต่อคนตรงหน้าเลย ผิวหนังเขาทำด้วยอะไร ทำไมมันด้านและหนาได้ขนาดนี้!
“ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้บ้าเอ้ย!”เธอก่นด่า
ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยกับคำพูดของหญิงสาว ร่างหน้าคล้ายจะสั่นเทิ่มด้วยแรงโทสะ เขาจ้องหน้าเธอก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้เธอขนลุกเกรียวออกมาอย่างไม่อายปาก
“ลองมาเป็นเมียไอ้ชั่วคนนี้หน่อยไหมละ!”
อัลลัยล์กระตุกยิ้มเยาะพร้อมกับโน้มตัวลงไปบดขยี้ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายที่กำลังจะอ้าปากด่า
ดี! เขาจะได้ไม่ต้องเสียแรงบีบปากเธอแบบเช่นทุกครั้ง!
เธอรู้สึกอยากจะอ้วกเมื่อลิ้นสากของเขาตวัดเกี่ยวกับลิ้นน้อยๆของเธอ เธอพยายามหันหน้าหลบแต่เขาก็ยังตามไปอย่างไม่ลดละ
“เอาสิ หนีเข้าไป ดิ้นเข้าไป ข้าชอบ!”ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นบอกอีกฝ่ายก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากเธอต่อ
เธอทั้งจิกทั้งข่วนแต่อีกฝ่ายก็ไม่สะดุ้งสะเทือน สมองเธอกำลังนึกวิธีหนีให้พ้นจากคนๆนี้ สุดท้ายเหมือนฟ้าเป็นใจ เธอนึกอะไรบางอย่างออก…
วิธีที่เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ที่เมืองไทยที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อหลายปีก่อน!
“โอ้ย!”เขาสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายทำในสิ่งที่เกินคาดหมาย เธอกัดลิ้นเขาเต็มแรงจนเขารู้สึกถึงรสชาติฝาดของเลือด เขาบีบปากเธอเต็มแรงพร้อมกับร่างหนาที่ผงะตัวขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่ทั้งสองมือและขาหลุดออกจากที่ขัง เธอถีบอกเขาเต็มแรงจนหงายหลังไปอีกรอบ
และยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว…
เพี้ย! เพี้ย!
มือบางนั่นตวัดเข้าใบหน้าเข้าเต็มๆทั้งหน้ามือและหลังมือสองทีรวด ก่อนที่ผู้กระทำจะถอยหลังไปชิดหัวเตียง
“ฮึก ฮึก!”หญิงสาวกลั้นเสียงสะอื้น
อัลลัยล์จ้องเขม็งไปที่หญิงสาวตรงหน้า เมื่อสบตาเขาก็เห็นได้ชัดว่าสายตาที่เธอมองนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มือบางที่จับผ้าห่มคลุมท่อนล่างของตัวเองสั่นระริก ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิง และรอยเลือดที่ริมฝีปากนั่นคาดว่าจะเป็นเลือดของเขาแน่นอน
ทุกสิ่งทุกอย่างเรียกให้เลือดในกายชายของเขาตื่นตัวอยากจะปราบคนตรงหน้าให้อยู่หมัด ซึ่งถ้าเป็นปกติเขาคงจะกระโจนเข้าไปอย่างไม่ยอมแพ้ แต่เวลานี้เธอกลับทำเขาหมดอารมณ์ ทั้งเจ็บปลายลิ้นที่เธอกัดจนเลือดท่วมปาก ริมฝีปากก็แตกทั้งสองข้าง อีกทั้งหน้าอกและหลังของเขาก็มีเลือดไหลซิบๆออกมาไม่ต่ำกว่าสิบที่!!
นางแมวตัวนี้เขี้ยวเล็บแหลมคมซะจริง!
พิมพ์นารารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา เธอปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลลงมาเสมือนปลอบใจตนเองก่อนจะกล่าวกับชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเบาหวิว
“คุณมันเลวมาก ผู้หญิงไม่มีอารมณ์ร่วมก็ยังจะบังคับ ท่าทางจะอดอยากมากนักซิ”
“เจ้า!!”เขาชี้หน้าเธอที่บังอาจพูดจาแบบนี้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีท่าทีเกรงกลัวสักเท่าใด เธอเชิดหน้าสบตาเขาอย่างไม่หวั่นเกรง
“จำใส่กะโหลกของคุณไว้ด้วยนะ เอามีดมาฆ่าฉันให้ตายดีกว่าที่จะให้ฉันยอมเป็นเมียของคุณ”พิมพ์นารากล่าวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“ป่าเถื่อนที่สุด!”
อัลลัยล์ชะงักไปกับคำพูดของหญิงสาว โทสะที่ประทุของเขามันมีมากกว่าความสงสาร เขากัดฟันจนเห็นกรามนูนขึ้นมาชัดเจน
เอาสิ! อยากจะคอยดูเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้จะเก่งอย่างปากได้ซักกี่น้ำ!
พุบ!
มือหนาโยนกางเกงยีนส์ใส่หน้าของร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียง เธอกัดฟันมองเขาเล็กน้อยก่อนจะรีบจัดการกับตัวเองอย่างรวดเร็ว
“ใครอยู่ข้างนอก เปิดประตูออกที!!”เสียงทุ้มตะโกนก้อง
ไม่นานร่างอวบของสาวใช้วัยกลางคนก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา เธอมองสภาพของผู้หญิงคนแรกที่ท่าน ‘ชีคอัลลัยล์’ พึ่งเคยนำมาที่นี่อย่างเต็มตา ร่างบางยืนตัวสั่นอยู่มุมห้อง ผมเผ้ายุ่งเหยิง และริมฝีปากที่มีคราบเลือด!
“ไปเอาเชือกมา”ชายหนุ่มสั่ง
“ไปเอาเชือกมา!!”เสียงทุ้มตะโกนย้ำอีกครั้งอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นสาวใช้เอาแต่จ้องหน้าของตน เขายกมือขึ้นแตะมุมปากเบาๆเพื่อซับเลือดออกก่อนจะหันหน้ากลับไปทางหญิงสาว
“เก่งดีนี่”แม้จะเป็นคำชมแต่มันก็ตรงข้ามกับใบหน้าของเขาในตอนนี้ซะเหลือเกิน ดวงตาสีดำนั่นมองขวาง ใบหน้าคมสันกัดฟันจนกรามนูนและมือที่กำจนสั่น เธอรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของชายตรงหน้าเธอในตอนนี้สามารถฆ่าคนตายได้ทีเดียว!
สาวใช้นำของที่สั่งมาให้อย่างรวดเร็ว อัลลัยล์หยิบเชือกผ้าขึ้นมาก่อนจะสาวเท้ายาวเข้าไปดึงร่างบางนั้นออกมาจากมุมห้อง
เธอถลาออกมาล้มเข่ากระแทกลงพื้นทั้งสองข้าง ชายหนุ่มกระชากแขนเธอให้ลุกขึ้นตามออกมายังบริเวณโล่งของห้อง
“มานี่แม่ตัวดี!”
ไม่มีเวลาให้เธอขัดขืน มือหนาดุจคีมนั่นรวบข้อมือเล็กๆของเธอมาไว้ที่ด้านหลังก่อนจะมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา ไม่ว่าเธอจะเจ็บแค่ไหนแต่เธอก็ขอสาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ส่งเสียงร้องขออะไรจากคนใจร้ายตรงหน้าอีก
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองทำผิดอะไรลงไป แล้วทำไมเธอถึงต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย
เมื่อเหลือบมองใบหน้าของชายที่เธอเคยช่วยเหลือแต่ไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยเธอก็ได้แต่กลืนก้อนสะอื้นลงคอ
สงสัยเธอคงจะได้ตายสมใจ เธอคิด
แต่ก็ยังดีกว่าตกเป็นเมียของคนๆนี้ละ!

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ส.ค. 2555, 19:47:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ส.ค. 2555, 19:47:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 13242
<< บทที่สอง ไม่มีอะไรที่ข้าอยากได้เเล้วไม่ได้! 100% | บทที่สี่ ข้าขอโทษที่ไม่อาจปล่อยเจ้าไป 100% >> |

pkka 30 ส.ค. 2555, 07:33:08 น.
ดุ จิงอะไรจิง
ดุ จิงอะไรจิง

nunoi 30 ส.ค. 2555, 14:28:03 น.
โหดอ่ะ
โหดอ่ะ