ต้องชะตารัก By ณพรชล
ความรักของมนุษย์เราจะมั่นคงสักแค่ไหนกันนะ

หากว่าคนที่เรารักที่สุดกลับจำเรื่องราวระหว่างกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เราควรจะทำอย่างไรดี

ทำทุกวิถีทางให้เธอจำได้

ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป

หรือ สร้างความทรงจำใหม่ให้กับเธอ

ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอะไร

"ผมไม่รู้ว่าสำหรับพี่ต้นแล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่าดี หรือ แค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากพอ แต่ในความรู้สึกของผมปลายข้าวไม่ใช่แค่ความหลง ไม่ใช่แค่ความผูกพันธ์ หรือแม้แต่ความสงสารใดๆ แต่ปลายข้าวคือความรัก ชีวิต และจิตใจของผม เพียงครั้งแรกที่ผมเห็นเธอ ผมรู้ในทันทีว่าเธอคือ ‘คนที่ใช่’ สำหรับผม ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่มีใครเชื่อเพราะคิดว่าผมยังเด็กเกินไป แต่ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันความรู้สึกเดิมว่าปลายข้าวยังเป็น ‘คนที่ใช่’ สำหรับผม คือคนที่ผมอยากมีอนาคตร่วมกับเธอและไม่มีใครสามารถแทนที่เธอได้ ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ปลายข้าวอยู่ใกล้ๆ เคียงข้างผมได้โดยไม่ให้เธอเสียหายหรือมีใครมาครหา"
Tags: พี่สกาย ปลายข้าว

ตอน: ชะตาต้องรัก ตอนที่ 14.2

คุณยุพเรศดูจะสนุกกับการแต่งตัวตุ๊กตาที่มีชีวิตเสียเหลือเกิน ส่วนคนที่อุทิศตัวเป็นตุ๊กตาโดยไม่ได้ตั้งใจอย่างธัญพัชรก็เข้าๆ ออกๆ ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุดให้คุณยุพเรศดู ก็เล่นเอาหญิงสาวเกือบมึนไปเหมือนกัน เพราะกว่าจะได้ชุดที่ถูกใจคุณยุพเรศก็กินเวลาไปกว่าสองชั่วโมง

“หนูปลายสวยมากๆ เลยลูก แม่ว่าตอนแม่สาวๆ ยังสวยสู้หนูไม่ได้เลยนะเนี่ย เอาชุดนี้แหละ ใส่ไปวัดพรุ่งนี้นะลูก” คุณยุพเรศเอ่ยชมจนหญิงสาวหน้าแดงด้วยความเขิน

“ปลายว่าคุณแม่สวยกว่าปลายเยอะเลยค่ะ นี่ขนาดคุณแม่อายุเยอะแล้ว ก็ยังสวยไม่สร่างเลยนะคะ ปลายว่าตอนคุณแม่อายุเท่าปลายคงสวยขนาดนางงามยังอายแน่ๆ เลยค่ะ” ธัญพัชรเอ่ยชมจากใจจริง เพราะถึงแม้อายุของคุณยุพเรศจะเลยเลขห้าไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงความสวยงามได้เห็นคนอายุไม่ถึงสี่สิบ โดยไม่ต้องเพิ่งมีดหมอเลยแม้แต่น้อย เธอกำลังคิดว่ากายนภัสนิ์เหมือนคุณยุพเรศเกือบทุกอย่างยกเว้น ดวงตาคมเข้มสีควันบุหรี่นั้น กลับเหมือนคุณจักรินทร์ไม่ผิดเพี้ยน

“ปากหวานเหมือนหน้าเลยนะจ๊ะหนูปลาย โอ๊ย! ชมกันไปชมกันมา เดี๋ยวได้ลอยไปถึงดวงจันทร์กันพอดี แม่ว่าหนูไปเปลี่ยนชุดแล้วเข้านอนเถอะลูก นี่ก็ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า” คุณยุพเรศบอกก่อนจะเก็บชุดต่างๆ เข้าตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนธัญพัชรก็กลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นครั้งสุดท้าย แล้วนำชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้กลับห้องไปด้วย




ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ขณะที่หญิงสาวเจ้าของห้องกำลังจะล้มตัวลงนอน เธอจึงดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน รีบเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ด้วยเกรงว่าผู้ใหญ่ในบ้านจะตื่น

“มาเคาะทำไมดึกๆ ดื่นๆ คะเนี่ย เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ก็ตื่นหรอกค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูออกมาก็พบชายหนุ่มในชุดนอนสีเข้มพร้อมนมหนึ่งแก้ว เหมือนทุกๆ คืนที่ผ่านมา

“พี่ก็แค่เอานมอุ่นๆ มาให้ ‘เด็กน้อยของพี่’ ดื่มก่อนเข้านอนไงคะ” ชายหนุ่มยื่นแก้วนมให้หญิงสาวที่ยืนหน้าแดงเพราะคำพูดของเขา หญิงสาวดื่มนมจนหมดก่อนคืนแก้วให้ชายหนุ่ม ก่อนจะรีบยกหลังมือขึ้นมาปาดคราบนมที่ติดริมฝีปากราวกับเด็กน้อย เพราะกลัวเหตุการณ์ชวนใจสั่นเหมือนคืนนั้นจะเกิดขึ้นอีก สร้างความขบขันให้กับคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก

“ฝันดีนะคะ ‘เด็กน้อยของพี่’” ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า แต่กลับรั้งใบหน้าหวานมาจรดริมฝีปากที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยน

“พะ...พี่สกายบ้า!” หญิงสาวต่อว่าอย่างเขินอาย ก่อนจะรีบปิดประตู เธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดปิดประตูที่อยู่ตรงกันข้าม เธอยืนหันหลังพิงประตูอย่างหมดแรง มือเรียวยกขึ้นมาเกาะกุมหน้าอกเอาไว้ เพราะกลัวว่าหัวใจที่กำลังเต้นอย่าบ้าคลั่งจะหลุดออกมาจากอก คืนนี้คงเป็นอีกหนึ่งคืนที่เธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะหลับลงหรือไม่




“เจ้าสกาย! พระท่านกำลังสวดอยู่ สำรวมหน่อยสิ” คุณจักรินทร์เอ็ดลูกเสียงเบา เมื่อเห็นว่าเจ้าลูกชายตัวดีเอาแต่จ้องหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างภรรยา จนคนถูกจ้องนั่งตัวเกรง

“ก็ว่าที่ลูกสะใภ้พ่อสวยซะขนาดนี้จะให้ผมละสายตาไปไหนได้ล่ะครับ” กายนภัสนิ์กระซิบบอกบิดา แต่สายตาไม่ได้ละไปจากหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย จะไม่ให้เขามองได้ยังไงล่ะ ก็วันนี้ ‘เด็กน้อยของเขา’ แต่งตัวอย่างกับหลุดมาจากอีกยุคหนึ่ง เสื้อลูกไม้สีขาวแขนตุ๊กตาเข้ากับผ้าไหมทอมือ ใบหน้าหวานปราศจากเครื่องสำอาง มีเพียงแป้งรองพื้นกับลิปมันเปลี่ยนสีเท่านั้น แต่แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบ ชวนให้เขานึกถึงงานบางงานที่ผู้หญิงต้องใส่ชุดไทย...

“นี่! สำรวมกันหน่อยได้ไหม ทั้งพ่อทั้งลูกเลย อายุตั้งเท่าไหร่กันแล้ว ยังต้องให้ปรามกันเหมือนเด็กๆ อยู่เรื่อยเชียว” คราวนี้คุณยุพเรศหันมาว่าสองพ่อลูกเสียงเขียว ทำให้ทั้งคู่นั่งหงอไปตามๆ กัน

หลังจากเสร็จสิ้นการทำบุญในตอนเช้าแล้ว คุณจักรินทร์ก็พาภรรยาไปหาเจ้าอาวาสเพื่อคุยเรื่องที่ทั้งคู่จะเป็นเจ้าภาพในการสร้างพระพุทธรูปถวายวัด ส่วนกายนภัสนิ์ก็ขอแยกกับบิดามารดา พาหญิงสาวไปหาคนสำคัญของตน แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งห่างจากประตูทางออกจากวัดมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่ากายนภัสนิ์จะพาเธอไปยัง...

“ไหนพี่สกายบอกว่าจะพาปลายไปหาคนสำคัญของพี่ไงคะ แล้วทำไมถึงพาปลายมา...” ธัญพัชรหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะมองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ

บริเวณที่ชายหนุ่มพาเธอมานั้นเต็มไปด้วยเจดีย์ที่เก็บอัฐิของเหล่าผู้ล่วงลับ ถึงเธอจะไม่เคยเจอผีหรือวิญญาณมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เชื่อว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนั้นมีอยู่จริง หลายๆประสบการณ์จากคนรอบข้างที่มักจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น จนทำให้เธอกลัวจนไม่กล้าดูหนังหรือละครที่เกี่ยวกับผีหรือวิญญาณ

“ก็ที่นี่แหละค่ะ ที่พี่จะพาน้องปลายมาเจอคนสำคัญของพี่” ชายหนุ่มบอก ขณะหยุดอยู่ที่หน้าเจดีย์ที่เก็บอัฐิ หญิงสาวมองรูปชายหญิงที่อยู่หน้าเจดีย์ด้วยความงุนงงปนตกใจ แต่เมื่ออ่านชื่อของบุคคลทั้งสองก็ยิ่งทำให้เธอถึงกับตาโตความตะลึง

“นายจักรกฤษณ์ นางยุพลักษณ์ อัครจินดานุวัฒน์ ซารีเนส
ชาตะ 18 สิงหาคม 25XX, 30 กันยายน 25XX
มรณะ 15 เมษายน 25XX”

“นี่แหละค่ะ คนสำคัญของพี่ ที่พี่อยากให้น้องปลายมาเจอ” กายนภัสนิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากรูปที่ติดอยู่ที่หน้าเจดีย์ ทำให้เธอรับรู้ถึงอีกความรู้สึกหนึ่งที่เขาพยายามซ่อนมันเอาไว้จากเธอ...และทุกคน

“เอ่อ...พี่สกายคะ ท่านทั้งสองเป็นใครหรือคะ” เธอกลั้นใจถาม ภาวนาขออย่าให้สิ่งที่เธอคิดเป็นความจริงเลย แต่...

กายนภัสนิ์หันหน้ากลับมามองเธอด้วยสายตาที่ทำให้เธอใจหาย สายตาที่ไม่เคยมีใครเห็น ประโยคสั้นๆ เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน แม้แต่บิดามารดาของเขาเอง มือที่กอบกุมมือของเธอเริ่มสั่น คงมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น ที่จะให้ได้เห็นเขาในสภาพแบบนี้

“ท่านทั้งสองที่อยู่ในรูปคือ ‘พ่อกับแม่แท้ๆ’ ของพี่เองค่ะ”



จากใจปอรินทร์1 : ปอรินทร์ขอยอมรับผิดทั้งปวง ที่พาพี่สกายกับน้องปลายมาช้าไปหลายชั่วโมงมาก เหตุเกิดเพราะท่านพระพิรุณมาทักทายในขณะที่ปอรินทร์กำลังไปเรียนพิเศษ กว่าจะหลุดออกมาได้ก็เกือบสองทุ่ม ปอรินทร์ขอโทษจากใจค่ะ ที่มาช้า T^T

จากใจปอรินทร์2 : อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ

จากใจปอรินทร์3 : ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้น และขอบคุณสำหรับทุก like นะคะ >3<

จากใจปอรินทร์4 : ขอกำลังใจจากทุกคนๆ ด้วยนะคะ จะเม้นติ-ชม หรือจะกด like ก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ >"<

เจอกันใหม่ตอนต่อไปค่ะ



ปอรินทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ย. 2555, 01:56:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ย. 2555, 16:02:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1729





<< ชะตาต้องรัก ตอนที่ 14.1   ตอนที่ 15 >>
sai 3 ก.ย. 2555, 10:14:39 น.
โว้วววว มาช้าดีกว่าไม่มาค่ะ


anOO 3 ก.ย. 2555, 14:28:09 น.
ที่แท้พ่อแม่พี่สกายก็เสียไปหมดแล้วนี่เอง


Amata 3 ก.ย. 2555, 16:01:22 น.
เป็นกำลังใจให้พี่สกายที่แสนอบอุ่นของน้องปลายนะคะ :)


Pat 3 ก.ย. 2555, 19:25:19 น.
จากใจคนอ่าน. ไม่ว่ากันค่ะ แต่สั้นไปหน่อยนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account