พรางนิมิต
ความลับของเธออยู่ภายใต้ถุงมือที่ไม่เคยถอดออก แต่ทว่าในเช้าวันหนึ่งที่เผลอดึงมันออกมา เธอจึงรู้ว่าหลังจากวินาทีนี้ต่อไปเธอจะไม่ได้ชีวิตปกติกลับคืนมาอีก เมื่อมีปีศาจหนุ่มรูปงามยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า...

Tags: พรางนิมิต ปีศาจ

ตอน: 2. เพื่อนใหม่ฉันเป็นปีศาจ


ความลำบากใจเริ่มก่อตัวขึ้นมาเมื่อเธอพ่วงเอาใครบางคนมาด้วย แม้จะไม่มีใครเห็นก็ตาม แต่ทว่าเธอเห็น แถมเขายังตัวใหญ่ยังกับนักกีฬาว่ายน้ำผสมนักบาสเก็ตบอลที่ฟิตจัด สรุปว่าตัวใหญ่มากเลยทีเดียว

“ทำไมเพิ่งกลับเอาป่านนี้ออกไปตั้งแต่เช้า มัวแต่ไปแวะที่ไหนอยู่ฮะ รู้ทั้งรู้ว่าแม่ต้องรีบไปทำงานไม่อยากทิ้งบ้านเอาไว้ เห็นมั้ยวันนี้ไปทำงานสายจนได้ แน่ะ...พูดแล้วยังจะมายิ้มหน้าระรื่นอีก ที่แม่พูดเนี่ยไม่ใช่บ่นแต่พูดให้ฟัง พูดให้คิด วันหน้าวันหลังจะได้ไม่เถลไถลที่ไหนอีก เข้าใจรึเปล่า” อรุณฉายบ่นเป็นหมีกินผึ้งเมื่อเห็นหน้าสวยๆ ของลูกสาวโผล่พ้นประตูหน้าบ้านเข้ามายังห้องรับแขก

“เข้าใจค่า...” ลูกสาวคนเดียวของบ้านลากเสียงยาว ขณะเดินเข้าไปกอดเอวคุณแม่ที่อยู่ในชุดนางพยาบาลไว้อย่างออดอ้อน

“แม่” แล้วมายาก็ต้องร้องเสียงหลง ใบหน้าเหยเก เมื่อได้เห็นอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในหัว

“อะไร?” อรุณฉายขมวดคิ้วมุ่น

“เมื่อวานแม่ไปช่วยหมอผ่าตัดใหญ่มาเหรอ แหวะ...เลือดเต็มเลยอ่ะ” สิ้นเสียงแหยงๆ ของลูกสาว ผู้เป็นแม่ก็หัวเราะร่วน เมื่อสังเกตเห็นมือของมายาที่กำลังผละออกจากแขนของเธอ

“ก็มันงานของแม่นี่ ว่าแต่วันนี้ไม่ใส่ถุงมือเหรอ เดี๋ยวก็เห็นอะไรแปลกๆ อีกหรอก”
“ทำหาย” พูดพลางยักไหล่ “สงสัยว่าวันนี้มายาคงเห็นอะไรแปลกๆ ทั้งวันแหละค่ะแม่”

“เห็นอะไร?”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มายาก็แค่พูดเรื่อยเปื่อย แม่รีบไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสายกว่านี้นะ” เมื่อเริ่มถูกต้อน หญิงสาวก็จะรีบตีวงให้ออกห่าง ดังนั้นการผลักไสไล่ส่งแม่โดยเอาเรื่องงานมาอ้างจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

อรุณฉายมองลูกสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความรักสุดหัวใจ มายาก็คือมายา คือลูกสาวคนเดียวของบ้านที่พ่อแม่เป็นห่วงหนักหนา ไม่ใช่เพราะเธอดูแลตัวเองไม่ได้ แต่เพราะเธอมีความสามารถพิเศษที่ไม่สามารถกรอกในใบสมัครงานได้ต่างหากที่ทุกคนเป็นห่วง ดังนั้นการที่เธอทำงานอยู่ที่บ้านจึงทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆ คน

“แล้วก็เฝ้าบ้านดีๆ เดี๋ยวเย็นนี้แม่อยู่เวร หาอะไรกินไปเลยนะ ส่วนพ่อก็กลับดึกเหมือนกัน รายนั้นมีนัดกับลูกค้า”

“รับแซ่บค่ะแม่” มายารีบทำท่าวันทยหัตถ์ พร้อมกับเดินไปส่งคุณแม่ขี้บนจนถึงรถเก๋งคันเก่งที่แม่เธอใช้อยู่ประจำ ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้เมื่อเห็นรถเก๋งสีฟ้าคันนั้นเคลื่อนตัวออกไปจนลับตา

“แม่เจ้าทักทายเจ้าแบบนี้ทุกวันหรือ” คิ้วหนาของชาเลิกขึ้นสูง ดวงตาคมกริบจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยความสงสัย

“แม่ก็เป็นแบบนี้ทุกวันแหละ อย่าสนใจเลย” มายาบอกปัด ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องของตัวเองที่อยู่บนชั้นสองขณะมีร่างมหึมาของปีศาจหนุ่มตามไปติดๆ




ห้องนอนที่เคยพอดีกับเธอ บัดนี้มันกลายเป็นแคบไปถนัดตา เมื่อมีร่างสูงใหญ่ของชาเข้ามายืนอยู่ข้างประตูห้อง หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้ว่าจะให้เขาไปอยู่อย่างไรในห้องเล็กๆ ของเธอห้องนี้ได้

“คุณหายตัวไม่ได้เหรอ” มายาบ่นอุบขณะเดินไปนั่งลงยังเตียงกว้างของตัวเองที่จัดอยู่ติดผนังห้องอีกฝั่งหนึ่ง

“ข้า...ไม่รู้สิ”

“แล้วคุณรู้อะไรเกี่ยวกับตัวคุณบ้างมั้ย” สิ้นเสียงหวานที่ฟังดูห้วน ชาก็นิ่งไปพักใหญ่ ดวงตาสีแดงสดหลุบต่ำลงเบื้องล่าง ปล่อยให้เส้นผมดำขลับยาวสลวยเคลียอยู่บนไหล่หนา ดวงหน้าคมสันดูเครียดเคร่งก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา หากแต่เต็มไปด้วยพลังออกมา

“ข้าจำได้ว่าเคยมีคนเห็นข้าเมื่อนานมาแล้ว แต่ทว่าข้าไม่สามารถสื่อสารกับคนผู้นั้นได้”

“แสดงว่าคุณอยู่ที่เดิมมาเป็นหลายปีแล้วเหรอ ถึงพันรึเปล่า” หญิงสาวถามด้วยความอยากรู้

“ข้าตอบไม่ได้จริงๆ” ปีศาจหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย

“คุณเป็นปีศาจนี่ ไม่ใช่ผี พลังของฉันมันน่าจะใช้การได้นะ”

ได้ยินดังนั้นสีหน้าเคร่งขรึมของชาก็ดูดีขึ้นมา ขณะยื่นมือใหญ่ออกมาให้หญิงสาวร่างเล็กได้ลองสัมผัสดู มายาลุกขึ้นเดินไปหาร่างสูงที่ยืนอยู่ ปลายผมของเขามันยาวลงมาเคลียใบหน้าคมคายและแผ่นอกกว้าง อันที่จริงถ้าเขาเกิดมาอยู่ในยุคนี้รับรอง...ดังยิ่งกว่าดาราที่ว่าดังอยู่ตอนนี้เป็นไหนๆ แน่

ทันทีที่ได้สัมผัสมือใหญ่หยาบกร้านของปีศาจหนุ่ม หญิงสาวก็กลั้นหายใจรอภาพนิมิตที่กำลังจะปรากฏขึ้นมาในหัว แต่ทว่ามันกลับว่างเปล่า ราวกับว่าพลังพิเศษของเธอมันใช้การไม่ได้กับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์

“ฉันช่วยคุณไม่ได้จริงๆ” สีหน้าของมายาหม่นลงขณะถอนมือออกมา แม้ว่าเธอจะไม่เคยชอบพลังพิเศษของเธอ แต่ทว่ามันก็น่าโมโหเมื่อไม่สามารถจะใช้ได้ในเวลาที่ต้องการจะใช้

ชานิ่งขึงไปพักหนึ่ง ใบหน้าคมคายก้มลงมองมือใหญ่ของตนเองเส้นผมยาวสลวยทิ้งตัวลงมาบดบังใบหน้าสิ้นหวังเอาไว้ ก่อนจะตวัดสายตามามองสาวร่างเล็กที่ยืนมองอยู่

“เพราะเหตุใดพลังของเจ้าจึงใช้ได้ไม่ได้กับข้า” น้ำเสียงที่เคยกังวานกลับแผ่วลง จนคนที่มองอยู่อดใจอ่อนไม่ได้

“แล้วฉันจะช่วยคุณยังไงดีล่ะเนี่ย” หญิงสาวเปรยขึ้นมา

“ข้าเป็นใคร แล้วเหตุใดข้าถึงต้องมาอยู่บนโลกนี้ ข้าจำไม่ได้...”

“ไม่เป็นไร ค่อยๆ ช่วยกันหาทางออกก็ได้ ฉันรับปากแล้วนี่ว่าจะช่วย” เป็นครั้งแรกที่สาวผมสั้นส่งยิ้มเปิดเผยไปให้ปีศาจหนุ่มด้วยใจจริง

“ว่าแต่ว่า...” แต่แล้วความคิดแผลงๆ ของสาวพลังจิตก็ผุดขึ้นมาในหัว “ถ้าคุณเป็นปีศาจจริงๆ ก็ต้องเป็นแบดบอยใช่รึเปล่า”

“อะไรคือแบดบอย” อีกฝ่ายถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ

“แบดบอยก็คือ ผู้ชายที่นิสัยไม่ดี ปีศาจก็ต้องเป็นคนเลวสิมันถึงจะถูก ต้องกร่าง ต้องชั่ว ต้องดูยิ่งใหญ่ มีพลังเหลือล้นและโคตรมีเสน่ห์”

“ข้าดู...เป็นเช่นนั้นหรือ” คิ้วหนาของชาเลิกขึ้นเล็กน้อย

“มันก็...ไม่ใช่ซะทีเดียวอ่ะนะ” มายาเบ้ปาก “คุณดูปวกเปียกไปหน่อย ดูไม่ค่อยมีพลัง แต่เสน่ห์ฉันให้ผ่านนะ นอกนั้นสอบตก”

“แล้วข้าต้องทำเช่นไร” ได้ยินคำถามนี้ รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัยของสาวพลังจิตก็แย้มขึ้นมา ราวกับว่าเธอรอเวลานี้มานานแล้ว...

“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉันจัดการเอง ถือว่าเป็นค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างที่ฉันกำลังจะช่วยคุณในวันข้างก็แล้วกัน” แล้วเธอก็หัวเราะออกมาเบาๆ สาบานได้ว่าตอนนี้หญิงสาวไม่ได้คิดถึงโจทก์เก่าเลยแม้แต่คนเดียว...



หากจะบอกว่าเธอเป็นสาวตัวเล็กที่เรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก นั่นก็ไม่ใช่เสียทีเดียว แต่หากจะบอกว่าเธอน่ะแก่นเซี้ยว เปรี้ยวซ่า ก๋ากั่น นั่นก็ไม่ใช่ มายาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดของสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เธอจะเงียบเมื่อถึงเวลาที่ต้องเงียบ และเซี้ยวในเวลาที่ต้องเซี้ยว และมันคงถึงเวลาที่เธอจะเซี้ยวบ้างเมื่อมีโอกาสเหมาะลอยมาอยู่ในมือ

ภาพของชายหนุ่มรูปร่างเตี้ยล่ำที่กำลังขนกระสอบข้าวสารขึ้นรถด้วยกำลังอันเหลือเชื่อ ปรากฏสู่สายตาของมายาหลังจากที่เธอย่องมาแอบมองอยู่แถวตลาดในหมู่บ้าน เขาชื่อ สิน เคยเป็นเพื่อนเล่นกับเธอสมัยที่ยังเด็กๆ ที่ต้องใช้คำว่าเคยก็เพราะว่าตอนนี้เธอเกลียดนายสินเข้ากระดูกดำ หลังจากที่นายสินว่าเธอเป็นคนบ้าเพราะเธอดันเผลอพูดเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมปริศนาที่เกิดขึ้นไม่ห่างไปจากตลาดสักเท่าไหร่ ไม่มีใครสักคนที่เชื่อเธอ จนกระทั่งตำรวจสามารถสืบหาความจริงได้ จึงรู้ว่าทั้งหมดที่มายาพูดมานั้นตรงกับหลักฐานที่ได้ทุกอย่าง และด้วยเหตุนี้เองที่นายสินไม่ยอมเล่นกับเธอ แถมยังหาเรื่องแกล้งเธอต่างๆ นานา ตั้งแต่เล็กจนโต
คงถึงเวลาที่จะปิดบัญชีกันแล้วนะไอ้นายสิน...

“คุณเห็นผู้ชายคนนั้นใช่มั้ย” มายาพูดพลางบุ้ยปากไปยังนายสินที่ยังคงขนกระสอบข้าวสารซึ่งเป็นกิจการของทางบ้านอยู่อย่างขะมักเขม้น

“เจ้าจะให้ข้าทำสิ่งใด” ชาที่ยืนกอดอกสยายปีกอยู่ด้านข้างเอ่ยถามขึ้นมา
“ก็ทำตัวให้เหมือนปีศาจซักทีไงล่ะ เริ่มจากนายสินนี่เลยก็แล้วกัน” หญิงสาวที่ยืนหลบมุมอยู่ข้างร้านขายของชำพูดแผ่วเบา “คุณท่องเอาไว้ ปีศาจต้องเลว เข้าใจรึเปล่า”

หากแต่ชาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เขายังคงจ้องไปยังนายสินไม่ละสายตาไปไหน ราวกับเสือรอจ้องจะตะครุบเหยื่ออันโอชะอยู่

“ฉันไม่รู้ว่าปีศาจมีพลังพิเศษอะไรบ้าง จะพูดให้ถูกคือปีศาจที่แท้จริงอย่างคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่อย่างน้อยคุณก็น่าจะทำให้กระสอบข้าวนั่นมันหนักขึ้นซักร้อยโลได้นะ” มายาเปรยขึ้นมา

“อะไรคือร้อยโล” ชาถามเสียงขรึม ใบหน้าคร้ามฉายแววสงสัย ขณะยังยืนกอดอกอยู่เช่นเดิม

“ร้อยโลก็คือหนักสุดๆ ไปเลย คุณพอจะทำได้มั้ยล่ะ เอาแบบว่าหนักจนคนธรรมดายกไม่ขึ้นน่ะ”

“ข้าจะพยายาม” ว่าแล้วปีศาจหนุ่มก็โผบินขึ้นด้านบน ก่อนจะทิ้งตัวลงใส่กระสอบข้าวของนายสินที่หอบอยู่บนบ่าล่ำ ทันทีที่ปลายเท้าของชาวางลงบนกระสอบร่างของนายสินก็ทรุดฮวบลงกับพื้นท่ามกลางความตกใจของทุกคน

“โอ๊ย! ช่วยด้วย!!” สินร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เพราะจู่ๆ กระสอบข้าวที่เคยแบกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็หนักขึ้นราวกับแบกรถยนต์อยู่ เขาไม่สามารถแบกรับน้ำหนักขนาดนั้นได้ จึงล้มลงโดยมีกระสอบทรายกระสอบนั้นทับอยู่บนหลัง ขณะคนงานคนอื่นๆ รีบกรูกันมาช่วยด้วยความตกใจ

มายามองภาพเบื้องหน้าด้วยความทึ่ง ไม่คิดว่าชาจะสามารถทำในสิ่งที่ขอได้โดยไม่อิดออด แล้วปีศาจร่างใหญ่ก็ผละตัวบินกลับมายังสาวน้อยที่ยังคงหัวเราะพอใจอยู่

“สุดยอด ขอบคุณมากนะชา” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างให้ปีศาจร่างใหญ่ที่ยังคงตีหน้าขรึมอยู่

“ข้าช่วยเจ้าเพื่อแลกกับการที่เจ้าต้องช่วยข้า” แล้วเรียวปากบางก็แสยะยิ้มขึ้นมา ขณะหรี่ตามามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างกัน

“โหย โคตรจะเจ้าเล่ห์” มายาบ่นอุบ แต่ถึงจะอย่างไรก็ถือว่าเป็นการแลกที่เธอไม่มีอะไรจะต้องเสีย

แล้วปีศาจหนุ่มก็สังเกตเห็นจี้ห้อยคออันใหม่ของแม่สาวตัวเล็กที่ห้อยติดคออยู่ ขณะที่เธอขยับกายจนมันโผล่พ้นคอเสื้อยืดออกมา

“เจ้าเอามันมาใส่หรือ”

“ใส่ไม่ได้เหรอ” มายาหน้าเสีย ก้มลงมองจี้รูปใบไม้ด้วยความเสียดาย

“อยากใส่ก็ใส่ เพราะข้าจำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้สักนิด”

“ถ้างั้นฉันขอยืมก่อนนะ ถ้าคุณจำได้แล้วฉันจะคืนให้” สิ้นเสียงหวานๆ ของมายา เสียงก่นด่าของใครบางคนก็ดังขึ้นมากลบเสียงอื่นทั้งบริเวณ

“ลื้อมาอย่ามาทำสำออย หนักที่ไหนวะ ก็เท่าเดิมทุกวัน” ชายวัยไม่เกินหกสิบเอ็ดตะโรลูกชายที่ลุกขึ้นมายืนพร้อมกับเอื้อมมือไปนวดไหล่ตัวเองด้วยอาการหน้าเสีย

“ก็มันหนักจริงนี่ป๊า ไม่มาลองยกเองล่ะ” สินเถียงกลับ ก็ไอ้ตอนที่เขายก อยู่ๆ มันก็หนักขึ้นมาจริงๆ ไม่ได้โกหกสักนิด

“เอ้...ลื้อนี่มันยังไง ก็อั๊วลองยกดูแล้วไม่เห็นจะหนักกว่าเดิมตรงไหน ไปเลยอาสิน ลื้อจะไปไหนก็ไป อั๊วไม่ชอบใครมาแกล้งทำสำออย”

“อั๊วก็บอกแล้วว่าอั๊วไม่ได้สำออย” สินตะเบ็งเสียง แล้วสองพ่อลูกเจ้าของร้านขายข้าวในตลาดก็เถียงกันสนั่นหวั่นไหว จนคนที่แอบมองดูอยู่ห่างๆ เผลอหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ

เสร็จไปหนึ่ง

“เฮ้อ...เห็นแล้วอารมณ์ดี”

“แล้วข้าจะต้องตามคิดบัญชีกับสหายเจ้าอีกสักกี่คนถึงจะพอให้เจ้าช่วยเหลือข้า” ชาพูดพลางเหลือบไปมองสองพ่อลูกที่ยังยืนทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยท่าทีเฉยชาไร้ความรู้สึก

“อีกไม่กี่คนหรอก” พูดแล้วมายาก็แสยะยิ้ม คราวนี้แหละ...จะเอาคืนไอ้พวกที่ชอบแกล้งเธอให้หน้าหงายเลยคอยดู!



แล้วเหยื่อรายที่สองก็โผล่ตัวหลังจากที่มายาเดินลัดเลาะมายังท้ายหมู่บ้าน หญิงสาวรูปร่างดีในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นกุดที่พาหมาน้อยออกมาฉี่หน้าบ้านคนอื่นกำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนเห็น ก่อนจะปล่อยหมาน้อยที่อุ้มเอาไว้ลงสู่พื้นเพื่อปลดทุกข์

มายาที่แอบยืนอยู่หลังรถกระบะจอดอยู่อีกฟากหนึ่งของบ้านเบ้ปากทันทีเมื่อเห็นนิสัยแย่ๆ ของวลินทร์ที่ไม่เคยเปลี่ยน สมัยเด็กแย่ยังไงโตขึ้นมาก็แย่อย่างนั้น เผลอๆ อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำ เพราะได้ข่าวมาว่าเธอลงทุนไปแย่งสามีของชาวบ้านมาเป็นของตัวเองโดยไม่กลัวบาปและเสียงก่นด่าของคนรอบข้าง เพียงเพื่อยกฐานะทางสังคมให้สูงกว่าคนอื่น

อันที่จริงวลินทร์ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เธอนักหรอก แต่คนที่ถูกพิษของแม่นี่เข้าไปเต็มๆ น่ะเป็นกันติศาเพื่อนรักของเธอต่างหาก เพราะวลินทร์เคยแย่งแฟนของกันติศาไปหน้าตาเฉยสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ได้โอกาสคราวนี้ก็เลยขอสั่งสอนยัยผู้หญิงไร้สำนึกให้สาแก่ใจบ้าง

“คนนี้แหละชา คุณจัดการได้รึเปล่า” มายาหันไปพูดกับปีศาจหน้าคมที่ยืนจ้องมองเหยื่อหมายเลขสองอยู่ด้วยเสียงอันแผ่วเบา

ปีศาจหนุ่มไม่ตอบรับ ปีกใหญ่ของเขากางออกกระพือขึ้น แล้วร่างสูงใหญ่ก็ลอยขึ้นเคลื่อนตัวไปด้านหน้า ขณะเอื้อมมือไปคว้าหมับเข้าที่ลำคอระหงของอีกฝ่ายทันควัน

แล้วร่างของวลินทร์ก็ลอยขึ้นจากพื้นท่ามกลางสีหน้าตกใจของเจ้าตัว จะร้องก็ร้องไม่ออกเพราะถูกบีบกล่องเสียงอยู่ ความกลัวมันท่วมท้นจิตใจจนน้ำตาใสๆ มันพรั่งพรูออกมาขณะดิ้นสุดแรงเกิด ก่อนเธอจะถูกปล่อยให้ร่วงลงสู่พื้นอย่างไร้ซึ่งความปราณี

แล้วเสียงกรีดร้องของหญิงสาวโชคร้ายก็ดังขึ้น ขณะวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนตรงกลับไปในบ้านโดยมีเจ้าหมาน้อยที่วิ่งตามเจ้าของด้วยความตกใจ กระทั่งเธอไม่ทันระวังตัววิ่งชนรั้วบ้านจนคิ้วแตกเลือดไหลอาบใบหน้า

“อูย...” มายาอุทานออกมาเบาๆ คิ้วเรียวขมวดติดกันเป็นปม เพราะดูท่าวลินทร์คงเจ็บไม่น้อย

“เมื่อกี้คุณทำเกินไปรึเปล่า” สามผมสั้นเอ่ยถามเสียงสั่น หลังจากที่เห็นร่างของชาลอยเข้ามาใกล้

“ข้าก็แค่ทำให้ในสิ่งที่เจ้าสั่ง” ชาตอบเสียงขรึม แต่ทว่าคนฟังกลับหน้าเสีย เถียงไม่ออก ได้แต่รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ คนเดียว



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีวันอังคารค่ะ

สำหรับตอนที่แล้วที่คุณgoldensun ทักเอาไว้ว่าทำไมคนมายาเห็นแต่คนอื่นมองไม่เห็น เพราะเขามีพลังที่อยากจะให้ใครเห็นก็ได้ค่ะ สงสัยว่าคงเขียนไม่เคลียร์เอง ยังไงก็จะรีบกลับไปแก้ให้นะคะ แหะๆๆ ขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ ^^"

ขอบคุณ
คุณBarby : ใช่แล้วค่ะ เอาคืนโจกท์เก่านิดหน่อย 555

คุณคิมหันตุ์ : แต่อย่างอื่นไม่น้อยนะคะ ...หมายถึงขนาดตัว 5555

คุณsai : มายาจะเด็กๆ หน่อยค่ะ แต่พอได้ทำอะไรจริงจังจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

คุณgoldensun : ขอบคุณนะคะที่ทักท้วง เดี๋ยวจะรีบกลับไปตรวจทานและแก้ดูอีกทีค่ะ :)

คุณGingfara : เรื่องนี้ลุ้นทั้งเรื่องค่ะ 555

คุณlookAme : ก็ปีศาจทำตัวไม่เหมือนปีศาจเลยนี่คะ เอิ๊กๆๆ

คุณPat : แน่นอนค่ะ โอกาสมาต้องรีบคว้าไว้ ฮี่ๆๆๆ


( ดารานิล )
www.facebook.com/daranilday

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ดารานิล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ย. 2555, 12:03:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2555, 22:23:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1737





<< 1. ชาปีศาจ   3. การกลับมาของพี่ชายที่แสนดี >>
Barby 3 ก.ย. 2555, 12:59:14 น.
เอาแล้ว นางเอกคิดจะทำอะไรแผลงๆแล้วสิ


คิมหันตุ์ 3 ก.ย. 2555, 13:45:27 น.
พ่อปิศาจน้อย ห้าห้า





sai 3 ก.ย. 2555, 13:58:24 น.
นางเอกเราก็นะ ช่างคิดจริงๆ


goldensun 3 ก.ย. 2555, 16:29:52 น.
ปีศาจนี่แปลกๆ นะคะ มายาจับต้องได้ แบบมีตัวตน แต่คนอื่นมองไม่เห็น
มายาจะเล่นอะไรแผลงๆ แน่เลย ชักเสียวไส้แทนชาแล้ว เล่นความจำเสื่อม ลืมหมดอย่างนี้
จะเหมือนมายาเล่นแต่งตัวตุ๊กตารึเปล่า แต่จะปรับนิสัยปิศาจชาได้ยังไง


Gingfara 3 ก.ย. 2555, 18:35:25 น.
แง่ะ จะทำไรน่ะมายา แววเจ้าเล่ห์ลอยมารำไร ฮ๋าๆๆ น่าลุ้นค่ะๆๆ


lookAme 3 ก.ย. 2555, 23:04:04 น.
555 จะฝึกปิศาจให้เป็นปิศาจ ความคิดแหวกดีจริงๆ


Pat 4 ก.ย. 2555, 00:15:08 น.
อิอิ คิดจะอาศัย ชา ไปกลั่นแกล้งใครเค้าล่ะสาวน้อย


Zephyr 4 ก.ย. 2555, 22:48:47 น.
แบดเกิร์ลจริงๆอ่ะ แหม
ฝึกปิศาจ เหม่ คนฝึกนี่ปิศาจกว่า ป่าวนะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account