บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๒

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาคนในคฤหาสน์รัชนาถล้วนมีงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรัชนาถคนสุดท้องซึ่งย้ายนิวาสถานออกไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมส่วนตัวตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงใหม่ๆ นานครั้งจึงจะมาหาพี่สาวพี่ชายที่บ้านบ้าง บัดนี้กลับหวนคืนมาอาศัยอยู่ที่บ้านแทบจะเรียกว่าเป็นการถาวรเลยก็ว่าได้

ปริมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นด้วยความยินดี...

“เวลามีเธอสองคนมากินข้าวเช้าด้วยกันนี่ดีนะ ไม่เหงา”

“น้อยใจนะเนี่ย ทีผมเข้าโต๊ะอาหารเช้าด้วยกันทุกวัน ไม่เห็นพี่ปริมพูดแบบนี้บ้างเลย” ปราชญ์พ้อ

“พี่หมายถึงเธอทั้งสองคนนั่นแหละ ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษสักหน่อย พูดจาฟังแล้วเหมือนคนขี้น้อยใจเลย”

ปัณณ์เบ้หน้า “พี่ปราชญ์เขาคงอยู่กับคนที่คอยตามง้อ ตามใจมากเกินไปมังฮะ เลยพานคิดว่าพวกเราจะเอาใจเขาไปด้วยเหมือนกัน”

“นายมาประชดฉันทำไมวะปัณณ์” เลขาฯท่านรัฐมนตรีแอบยิ้ม

“ผมไม่ได้ประชด แค่พูดให้พี่ปริมฟังเท่านั้นเอง”

“ตกลงว่ามันยังไงกันจ๊ะ สองพี่น้องคุยกันท่าทางมีลับลมคมในพิกล”

“ไม่มีอะไรหรอกฮะพี่ปริม อย่าไปฟังนายปัณณ์ให้มากนักเลย”

“อ้าว แล้วที่พี่เทียวไปเทียวมาที่กองถ่ายผม เอาดอกไม้บ้าง เอาขนมบ้างไปเยี่ยมตัวอิจฉาในกองนั่น ยังจะว่าไม่มีอะไรอีกเหรอ” ปัณณ์สาธยายด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

คนเป็นพี่ทั้งสองหันไปสบตากัน ปริมเลิกคิ้วนิดๆ ขณะปราชญ์พยักหน้าบุ้ยปากเป็นสัญลักษณ์แบบรู้กันว่า นี่คือผลของการที่เขาทำตามคำแนะนำของปริมนั่นแหละ

“นี่ถ้านายไม่ใช่น้องชายฉัน ฉันคงจะคิดว่านายกำลังหึงอยู่นะปัณณ์” ปราชญ์ชงอีกระลอก

“บ้าเหรอ หึง! ผมเนี่ยนะจะหึง มีใครต้องหึงไม่ทราบ”

“อ้าว จะไปรู้เหรอ ก็นายพูดจาเหมือนหวงๆ ไม่ชอบใจที่ฉันไปหาน้องแซมอย่างนั้นล่ะ”

“ผมไม่อยากได้ผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นเครือญาติ พวกนักข่าวถามย้ำอยู่นั่นแหละว่าผมรู้สึกยังไงถ้ายายสิมิลันจะมาเป็นพี่สะใภ้ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมไม่ยอมรับเด็ดขาด ยายนั่นสู้หมออรอุมาแฟนพี่ไม่ได้เลยสักนิด”
บรรยากาศในโต๊ะเงียบสนิท ปริมกับปราชญ์สบตากันขันๆ แต่แล้วเสียงแหลมก็ดังมาจากหน้าบ้าน

“ปัณณ์ขา...เซอร์ไพรส์! คิดถึงแพทไหมค้า...” เสียงแจ้วดังมาพร้อมกับที่เจ้าของเสียงโผล่เข้ามาในห้องอาหารอย่างถือวิสาสะ
คนเอาแต่ใจที่เพิ่งโวยเสียงแข็งเมื่อครู่เหลือบมองภัทรีมาที่ก้าวเข้ามาประชิดตัว แล้วสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเธอ ปาผ้าเช็ดปากผลุงลงที่ข้างๆ จาน ลุกขึ้นยืนทันควัน “ผมอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวสิคะปัณณ์ รอแพทด้วยสิคะ” ภัทรีมาวิ่งจี๋ตามไป แต่ก็ช้ากว่าชายหนุ่มที่ขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวหน้ามุ่ย ปึงปังกลับไปที่รถ แล้วยอมล่าถอยไปแต่โดยดี

สองพี่มองตามพายุที่หมุนออกจากห้องไปแล้วหันมาสบตากันขันๆ เห็นกันอยู่ว่าอาหารในจานปัณณ์ยังแทบไม่พร่องไปเลยสักนิด ดูท่าที่อิ่มน่ะคงไม่ใช่ท้อง แต่เป็นความริษยาที่เปี่ยมเต็มหัวใจนั่นต่างหาก!





การต้องยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟที่สาดเข้ามาจากเบื้องหน้าอยู่นาน ทั้งร้องเพลงและเต้นรำตามที่เจ้าของงานจ้าง ทำให้ทันทีที่กลับเข้ามาที่หลังเวที สิมิลันต้องนั่งหลับตานิ่งๆ เพื่อปรับสายตาให้ชินกับสภาพโดยรอบ

อากาศเย็นฉ่ำในห้องแต่งตัวมิได้ช่วยลดความร้อนที่เพิ่งผจญมาลงได้เลย หญิงสาวดูนาฬิกาแล้วรีบผุดลุกขึ้น แต่แล้วอาการหน้ามืดก็เข้าจู่โจม มือบางรีบคว้าพนักเก้าอี้ไว้เป็นหลักทันควัน สิมิลันเงยหน้ามองเงาสะท้อนจากกระจกด้วยความตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าตนเองเผือดขาว ขณะปากซีดจนเกือบเขียว

หญิงสาวรีบหยิบเครื่องสำอางขึ้นมาเติมสีสันบนใบหน้าด้วยมืออันสั่นเทา เธอเกลื่อนร่องรอยทรุดโทรมของตนแล้วกลืนอาการผะอืดผะอมลงในอกอย่างยากเย็น สิมิลันรับเงินค่าแรงจากการโชว์ตัวแล้วรีบกลับมาขึ้นรถ อาการอ่อนเพลียที่อธิบายไม่ถูกทำให้นักแสดงสาวตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าคลินิกเอกชนขนาดเล็กในตัวจังหวัด แทนที่จะตีรถกลับกรุงเทพฯ

แพทย์ตรวจร่างกายเบื้องต้นแล้วมีสีหน้าหนักใจ “คุณเคยไปตรวจสุขภาพประจำปีบ้างไหมคะ”

“ดิฉันก็ตรวจประจำนะคะ” สิมิลันทำหน้าซื่อ “มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“หมอยังไม่แน่ใจนะ เพราะที่นี่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือตรวจละเอียด แต่เท่าที่ดูอาการแล้ว หมอว่าอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ แบบนี้มันผิดปกติ เอาอย่างนี้เดี๋ยวหมอสั่งน้ำเกลือให้คุณขวดหนึ่ง คุณคงต้องนอนให้น้ำเกลือที่นี่สักคืนแล้วล่ะ สภาพแบบนี้ไม่แนะนำให้ขับรถเลย อันตรายมาก ร่างกายคุณจะช็อกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

“ค่ะ” สิมิลันรับคำด้วยท่าทางเป็นปกติ แต่ถ้าใครจับมือเธอจะรู้เลยว่ามันเย็นเฉียบเลยทีเดียว

หญิงสาวรู้ตัวดีว่าอาการทั้งหมดนั้นเกิดจากอะไร...ทว่าเธอยังไม่พร้อมจะให้ใครรับรู้ไปด้วย

นักแสดงสาวโทร.หางามตา อ้างว่าเหนื่อยขับรถกลับกรุงเทพฯไม่ไหว จะขอค้างที่หัวหินสักคืน แล้ววันรุ่งขึ้นจะขับรถเข้ากรุงเทพฯไปทำงานแต่เช้าทีเดียว ผู้จัดการส่วนตัวรับคำทั้งยังอาสาจะเดินข้ามรั้วไปเรียนให้มารดาของสิมิลันรับรู้อีกด้วย

สิมิลันวางสายแล้วนอนมองเข็มน้ำเกลือที่เจาะอยู่ตรงข้อพับแขนนิ่งๆ หยดน้ำร้อนๆ หยาดลงมาช้าๆ ขณะเธอหลับตาลงอย่างอ่อนแรง

เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนที่หญิงสาวแอบหวังไว้ลึกๆ ว่าเธอจะไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย!






บรรยากาศในกองถ่ายตึงเครียด เมื่อผู้กำกับยืนเท้าเอวสีหน้าไม่พอใจ ขณะนักแสดงในฉากก้มหน้างุดเมื่อถูกเอ็ดเสียงดังอย่างไม่เคยเจอมาก่อน

“เธอเทกฉากนี้มากี่รอบแล้วแซม รู้ตัวบ้างหรือเปล่า”

“หนูขอโทษค่ะ” สิมิลันเอ่ยคำเดิมซ้ำ ซึ่งไม่ทำให้คนฟังอารมณ์ดีขึ้นเลย

“พี่ไม่อยากได้คำขอโทษ แต่อยากได้เทกที่ใช้ได้สักที ๒๓ เทกเข้าไปแล้วนะแซม เสียเวลาทุกคนไปหมดทั้งกอง เพียงเพราะเธอทำไม่ได้อยู่คนเดียวเนี่ย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ไหนมาบอกมาสิ”

“ไม่มีค่ะ”

“นี่ล่ะน้า...พวกไม่เป็นมืออาชีพ” เสียงดังลอยตามลมมาจากคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉากนี้แม้แต่น้อย สิมิลันขว้างค้อนใส่คนสอดไม่เข้าท่าทันควัน

ปัณณ์ รัชนาถ ซึ่งนั่งอ่านบทอยู่นอกฉาก รอคิวเตรียมเข้าฉากต่อไปยิ้มลอยหน้า

“ฉันพูดผิดเหรอ เธอคิดดูนะ กับอีแค่ฉากเลิฟซีนง่ายๆ เธอแค่นอนเฉยๆ ให้พี่ยุทธเขาเป็นฝ่ายเล่น เธอยังทำไม่ได้ ล่อเข้าไปตั้ง ๒๓ เทก บ้าหรือเปล่า เล่นละครแค่นี้ไม่รอด แค่นจะมาบอกว่าอยากเป็นนักแสดง น่าสมเพช”

“นี่คุณพระเอกมาเฟีย ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ คุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกฉันอย่างนี้” สิมิลันเผ่นจี๋มายืนจังก้าหน้าชายหนุ่มแล้วแผดเสียงลั่น

ผู้กำกับเกาหัว รีบเดินตามมาขวางกลาง ยกมือห้ามก่อนศึกน้ำลายจะเลยเถิดบานปลายไปกว่านี้

“พอทั้งคู่นั่นล่ะ ปัณณ์อ่านบทของเธอไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับตรงนี้ นี่มันหน้าที่ของพี่ ตกลงไหม” หนุ่มปรามพระเอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วคว้าข้อมือลากสิมิลันกลับเข้าไปในฉากดังเดิม

“แซม...พี่เข้าใจนะว่านี่มันเป็นฉากที่ยาก แซมตั้งสมาธิดีๆ หลับตาแล้วนึกภาพว่าเธอคือหวันยิหวา ลืมเรื่องอื่นไปให้หมด จำไว้แค่ว่าเธอคือหวันยิหวา...ผู้หญิงที่รักพระเอกหมดหัวใจ ยอมให้เขาทุกอย่าง แต่แล้ววันหนึ่งพระเอกก็ไปมีผู้หญิงคนใหม่ เธอจึงแค้นมาก และตัดสินใจจะใช้ยงยุทธเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น

“ฉากนี้เป็นจุดเปลี่ยนทั้งหมดของเรื่อง ถ้าแซมเล่นไม่ถึง คนดูจะไม่เชื่อเลยว่าความรักของคนๆ หนึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นเกลียดชังได้จริงหรือ เลิฟซีนฉากนี้มันยากตรงที่เธอต้องทำท่าเต็มใจขณะที่พี่ยุทธเขากอดจูบ แต่กล้องด้านหลังจะรับหน้าเธออีกที ซึ่งเทกเมื่อกี้พี่โอเคกับสีหน้าของแซมแล้วนะ ขอแค่ท่าทางเวลาเล่นเลิฟซีนให้มันดูน่าเชื่อหน่อย ว่าหวันยิหวาเคยปรนเปรอให้พระเอกมาแล้วจนเชี่ยวชาญ ตกลงไหม”

ผู้กำกับนอนลงบนโซฟาแล้วคว้าไหล่นักแสดงชายมาทำท่าประกอบให้ดูเป็นตัวอย่างซ้ำเป็นครั้งที่ ๒๔

สิมิลันสูดหายใจเข้าลึกๆ ”โอเคค่ะ แซมพร้อมแล้ว”

ช่างแต่งหน้าทำผมเข้ามาเติมแป้งจัดทรงผมให้นักแสดงแล้วรีบหลบออกไป เหลือเพียงนักแสดงหนุ่มสาวที่ต้องเข้าฉากเท่านั้น

สิมิลันขยับไปเอนตัวลงนอนบนโซฟา โดยมีนักแสดงรุ่นพี่นั่งอยู่ข้างๆ สองมือคร่อมอยู่บนพนักขังหญิงสาวไว้ตรงกลางระหว่างอ้อมแขนทั้งสองข้างหลวมๆ ตามที่ผู้กำกับทำให้ดูเมื่อครู่

“ตอน ๙ ฉาก ๑ เทก ๒๔” เสียงขานดังขึ้นพร้อมกับสับสเลท

“แอ็คชั่น”

มือบอบบางเริ่มไล้ไปตามดวงหน้าของคู่แสดงช้าๆ ”พี่ยุทธรักหวาจริงหรือคะ”

“พี่ตายแทนหวาได้ อย่างนี้เรียกว่ารักหรือเปล่าล่ะจ๊ะ” คนพูดก้มศีรษะมาหาสตรีที่นอนระทดระทวยอยู่ตรงหน้า เขาเบี่ยงหน้าหลบเล็กน้อย ซึ่งหากมองจากมุมหนึ่งจะเห็นเหมือนกำลังจูบสิมิลันอยู่พอดี

แทนที่จะเล่นไปตามบทดังที่ผู้กำกับกำชับไว้ สิมิลันกลับผลักอกยงยุทธออก ทะลึ่งตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากฉากไปยังห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดทันที

“คัต!” หนุ่มตะโกน กำลังจะโวยต่อ

แต่แล้วเสียงอาเจียนที่ดังมาจากทิศทางที่สิมิลันหายตัวไปก็ทำให้บรรยากาศในกองถ่ายที่กำลังมีเสียงงึมงำบ่นกันกลับแปรไปเป็นเงียบกริบ

พี่แป้วนักแสดงอาวุโสเป็นคนแรกที่ได้สติ เดินตามสิมิลันไปด้วยความเป็นห่วง ครู่ใหญ่สองสาวสองวัยก็กลับออกจากห้องน้ำ เห็นชัดว่าสีหน้าของคนอายุน้อยกว่าเผือดซีดจนแทบจะกลายเป็นขาวจัดเลยทีเดียว

“เลื่อนฉากต่อไปขึ้นมาถ่ายก่อนละกัน ฉากนี้พักไว้เดี๋ยวค่อยมาเก็บซ่อมตอนท้าย” หนุ่มหันไปสั่งการผู้ช่วยผู้กำกับ เสียงตะโกนโหวกเหวกเรียกนักแสดงเข้าฉาก เจ้าหน้าที่ประจำฉากเริ่มส่งเสียงพูดคุยกันอีกครั้ง บรรยากาศในกองถ่ายกลับสู่สภาวะปกติ ราวกับไม่มีเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ

ดาลัดเป็นคนเดียวที่ไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ เธอเอนไปหานักแสดงลูกรักในสังกัดแล้วพึมพำเสียงเบา “พนันกันไหมปัณณ์ พี่ว่ายายนี่ถ่ายละครไม่จบหรอก สงสัยคงจะป่องออกมาเสียก่อน”

“พูดอะไรเหลวไหลใหญ่แล้วพี่” ปัณณ์ปราม

“ไม่เหลวไหลหรอก เธอไม่สังเกตเหรอ ว่าพักหลังมานี้ยายแซมเขาโอ้กอ้ากแบบนี้บ่อยๆ แถมเวลาว่างยังไม่มาสุงสิงกับใคร แอบไปหลบมุมนอนตลอด พี่น่ะฟันธงได้เลยว่าอาการแบบนี้น่ะท้องชัวร์”

ดาลัดมั่นใจว่าการนินทาสิมิลันให้ผู้ชายที่ตั้งป้อมรังเกียจกันอยู่ตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ ย่อมจะต้องได้รับการตอบสนองแบบที่สะใจคนมองแน่นอน

แต่...เธอคิดผิด

เพราะไม่เพียงปัณณ์จะไม่ผสมโรงประณามนักแสดงสาวสุดเซ็กซี่แล้ว เขายังอ้าปากค้างทำท่าประหลาดใจเต็มประดาอีกด้วย “พี่ว่าอะไรนะ พี่ว่ายายเด็กนั่น...ท้องงั้นเหรอ”

“ฉันแค่สันนิษฐานเองย่ะ แต่ดูจากอาการแล้วนะ ฉันคอนเฟิร์มได้เลยว่าไม่ผิดแน่”

ปัณณ์รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกไปชั่วครู่ เขาเหลือบไปมองผู้หญิงต้นเรื่องด้วยความสับสน สิมิลันนั่งเอนๆ พิงพนักแล้วหลับตานิ่งๆ ขณะใบหน้าขาวจัดจนเกือบจะเป็นเขียวดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด

จริงหรือ...ที่ยายเด็กนั่นจะท้อง เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อวันนั้นเขามั่นใจว่าป้องกันแล้วเป็นอย่างดี

ความที่เปลี่ยนผู้หญิงบ่อย ปัณณ์จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก เขาไม่ได้กลัวใครคิดจะปล่อยท้องเพื่อจ้องจับ แต่เขากลัวโรคติดต่อที่อาจจะได้มาเป็นของแถมจากการรักสนุกของตนเองต่างหาก

แต่แพทย์ก็เคยบอกแล้วว่าถึงจะใช้เครื่องป้องกันก่อนการมีความสัมพันธ์ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ๑๐๐% โอกาสที่มันจะชำรุดระหว่างใช้งานมีถึง ๒% ทีเดียว

อย่าบอกนะว่าเขากำลังจะเป็นคนเคราะห์ร้ายที่พบเจอเหตุการณ์หนึ่งในห้าสิบที่ว่านั่นน่ะ!

หลายปีที่โลดแล่นใช้ชีวิตหนุ่มเสเพล เปลี่ยนคู่นอนแทบไม่ซ้ำหน้า ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดจะสั่นสะเทือนความรู้สึกเขามากเท่าเรื่องราวในสองสามเดือนที่ผ่านมานี่เลย

แรกเลยก็...เข้าใจผิดไปล่วงเกินผู้หญิงที่ไม่เต็มใจ

แล้วนี่...เขายังอาจจะทำยายนั่นท้องอีกด้วยเหรอ

นี่เขากำลังจะมีลูกกับเด็กผู้หญิงที่ยังเรียนไม่จบ แถมยังอายุน้อยกว่าเขาเป็นรอบนั่นน่ะนะ...

บ้าชะมัด!

รัชนาถคนเล็กสบถในใจ ผุดลุกขึ้นทันที เขาโยนปึกบทที่ถือไว้ลงบนโต๊ะ ตะโกนถามผู้กำกับ ด้วยหวังจะใช้เสียงกลบความตกใจและฟุ้งซ่านของตนเอง

บ้าไปแล้ว บ้าที่สุด นี่ต้องเป็นฝันร้ายแน่ๆ

ปัณณ์จำไม่ได้สักนิดว่าเขาผ่านวันนั้นมาได้อย่างไร สมองเขามีอยู่เพียงเรื่องเดียวที่ดังวนเวียนซ้ำกันไปมาตอกย้ำให้เขาทั้งกังวลและสับสนจนนอนแทบไม่หลับ

นอกจากจะแบล็คเมล์ได้เงินเขาไปมหาศาลแล้ว สิมิลันยังปล่อยให้ตัวเองท้อง เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขาอีกด้วย

ยายแม่มด!

เขาเกลียดผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน

ย้ำในใจเช่นนั้นซ้ำๆ แต่ตลอดทั้งค่ำคืนนั้นปัณณ์กลับปล่อยให้ตัวเองนึกถึงคนที่แสนเกลียด จำ...ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกันได้แทบจะครบถ้วนช่วงเวลา ไม่ตกหล่นไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว!






โครม!

เสียงนั้นดังขึ้นพร้อมกับแรงกระแทกหนักๆ ที่ท้ายรถจนเก๋งญี่ปุ่นเก่าคร่ำพุ่งไปข้างหน้าอย่างแรง สิมิลันและงามตาถอนหายใจออกมาพร้อมกัน คนอายุมากกว่ามองนาฬิกาแล้วบ่น

“ให้มันได้อย่างนี้สิ คนยิ่งรีบๆ อยู่ด้วย พี่จะรีบจัดการให้เรียบร้อย เราจะได้ไปงานวันเกิดคุณแป้วทัน งานเริ่มหนึ่งทุ่มนี่เนอะ” งามตาเอื้อมเปิดลิ้นชักหน้ารถหยิบสมุดคู่มือประกันภัยถือติดมือไว้ แล้วลงจากรถไปหมายจะเจรจากับคู่กรณี ความมืดเบื้องนอกทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นว่าชายชุดดำนายหนึ่งมายืนคอยอยู่แล้ว เพียงเธอเปิดประตูรถ หมอนั่นก็ปราดเข้ามาคว้าต้นแขนลากเธอไปทางหลังรถอย่างรวดเร็ว อะไรบางอย่างที่เย็นเยียบทิ่มอยู่ตรงบั้นเอว พร้อมกับเสียงกร้าวกระซิบเบาๆ

“อย่าร้องแม้แต่คำเดียว ไม่งั้นฉันยิงแน่”

สาวใหญ่เหลือบมองรอบตัวด้วยความตระหนก นอกจากรอบด้านจะมืดและเปลี่ยวแล้ว ซอยทางลัดที่จะเลี่ยงรถติดเส้นนี้ยังอยู่กลางเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านอีกด้วย

งามตาใจเสียหนักเมื่อเห็นผู้ชายอีกคนท่าทางไม่น่าไว้ใจพอกันเดินไปกระชากประตูรถฝั่งสิมิลันเปิดออก ลากนักแสดงสาวลงจากรถ ดวงตาคู่ที่หันมาสบสานกับสาวรุ่นพี่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

ผู้ชายคนนั้นพาสิมิลันไปยังรถคันที่ก่อเหตุ มันเป็นรถยุโรปคันใหญ่สีดำสนิทปิดฟิล์มมืดทั่วทั้งคัน

ขณะกำลังกังวลใจว่าเด็กสาวอาจเกิดอันตราย หรือถูกลักพาตัว ประตูรถด้านหลังก็เปิดออก แล้วสตรีนางหนึ่งก็ก้าวลงมาด้วยสีหน้าบอกชัดถึงความไม่พอใจ

“สิมิลัน มายาวี” คนพูดปรายตามองเจ้าของชื่อด้วยสายตาดูหมิ่น “เนี่ยเหรอ...ผู้หญิงคนใหม่ของปัณณ์”

“เข้าใจผิดแล้ว ฉันกับนายพระเอกมาเฟียนั่นแค่ทำงานด้วยกัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของใครทั้งนั้น” สิมิลันเชิดหน้าตอบ

“แต่คนของฉันบอกว่าปัณณ์กับเธอแอบไปคุยกันสองต่อสองทั้งที่อยู่กลางกองถ่าย” ปลายเล็บเจียนไว้อย่างประณีตจิ้มหน้าผากนวลของสิมิลันซ้ำๆ ”จำไว้ว่าปัณณ์เป็นของฉัน อย่ายุ่งกับเขาอีก ไม่อย่างนั้นคราวหน้า...เธอได้มีสามีพร้อมๆ กันทีละหลายคนแน่”

“ฉันไม่เคยอยากยุ่งกับผู้ชายของคุณเลยสักนิด มีแต่เขานั่นแหละ...” สิมิลันกัดริมฝีปากอย่างแรง เมื่อระลึกได้ว่าคำพูดต่อไปอาจจะส่งผลเสียมากกว่าดี “คุณปัณณ์เองก็รังเกียจฉัน ไม่ชอบขี้หน้าฉันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่คุณต้องห่วงเลย”

“ให้มันจริงเถอะ อย่าให้ฉันได้ยินว่าเธออยู่กับเขาตามลำพังอีกนะ รับรองว่าคนอย่างฉันเอาจริง ไม่ทำแค่ขู่หรอก“

ชายชุดดำปล่อยแขนสองสาว แล้วกลับไปขึ้นรถยุโรปขับออกไปอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย! รถมันไม่ติดทะเบียนด้วย บ้าชะมัด” งามตาเพ่งมองฝ่าความมืดไปตามจุดไฟสีแดงท้ายรถคันนั้น

ทว่าสิมิลันกลับส่ายหน้า “ไม่ต้องดูหรอกค่ะ ตองรู้ว่าเขาเป็นใคร”

งามตาหันขวับมามองด้วยความฉงน

นักแสดงสาวรับคำ “คุณแพท ภัทรีมา ไฮโซคนที่เป็นแฟนพ่อพระเอกมาเฟียนั่นไงคะ”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ย. 2555, 13:27:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ย. 2555, 13:27:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 2468





<< ตอนที่ ๑๑   ตอนที่ ๑๓ >>
สิริณ 4 ก.ย. 2555, 13:29:06 น.
อ๊ะ อ๊ะ! วันนี้คุณกดไล้ค์แล้วหรือยังเอ่ย :D
ขอไล้ค์คนละทีนะค้า จะได้รู้ว่าคนอ่านชอบหรือไม่ชอบยังไง ^^


bloomberg 4 ก.ย. 2555, 14:09:12 น.
ถ้ากดไลค์หนึ่งจึ้กคือร้อยคะแนนเต็มล่ะก็ นั่นเลยคือความชอบของเรื่องนี้

สงสารแซมจัง แฟนคลับปัณณ์รุมประนาม อนาคตวืดแน่


Siang 4 ก.ย. 2555, 14:30:37 น.
สงสารแซมจัง ขอให้เข้มแข็งนะคะ


minafiba 4 ก.ย. 2555, 14:36:28 น.
^__________________^


nunoi 4 ก.ย. 2555, 15:06:37 น.
ขอบอกว่าชอบมากกกก
สงสารหนูแซม จังเลย


sai 4 ก.ย. 2555, 15:16:45 น.
หนูตองสู้ๆนะค่ะ


supayalak 4 ก.ย. 2555, 15:17:29 น.
ไม่เป็นไรค่ะหนูแซม เก็บสะสมไว้เหมือนแสตมป์ 7-11 เอาไว้แลกรางวัลใหญ่ทีเดียวเล้ยยยย เอาให้ตู้มมมมมซะ


Okuriumi 4 ก.ย. 2555, 16:48:33 น.
มาให้แล้วนะค่ะ


chocoholic 4 ก.ย. 2555, 22:05:26 น.
โถ่สงสารนางเอกจังค่ะ


violette 4 ก.ย. 2555, 22:53:39 น.
เอาอตาปัณ แกปล้ำเค้ามาหาว่าเค้าปล่อยให้ท้องเพื่อจับแกเนี่ยนะ นิสัยไม่ดีเล้ยยยยยยยย
พระเอกเมื่อไหร่จะมาดูแลนางเอกซักทีเน้อ


หมูอ้วน 4 ก.ย. 2555, 23:23:40 น.
สงสารหนูแซมจังเลยค่ะ ฮือ..


wane 8 ก.ย. 2555, 01:30:19 น.
ทำไมแซมถึงท้องได้ ในเมื่อแซมไปหาหมอมาแล้วนินาหลังจากเกิดเรื่อง


เด็กหญิงม่อน 9 ก.ย. 2555, 21:51:40 น.
เมื่อไหร่นายปัณณ์จะกลับตัวกลับใจได้ล่ะคะเนี่ย


parinratn 10 ก.ย. 2555, 17:54:19 น.
รออ่านตอนต่อไปค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account