ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า

อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC

ตอน: บทที่แปด ไฟราระที่โหมกระพือ 100% NC++

บทที่แปด


ร่างเปลือยเปล่าของพิมพ์นาราแข็งทื่อ เธอรู้สึกถึงเม็ดเหงื่อที่ไหลเต็มใบหน้าและทั่วแผ่นหลัง ร่างบางสั่นสะท้านไม่มีแรงก้าวขยับออกจากที่ตรงนี้ เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก

“อะ…อัลลัยล์”เธอพึมพำแผ่วเบาแต่ทว่าดวงตาทั้งสองเบิกโพล่ง

ห่างไปไม่กี่ก้าวนั่น ชายหนุ่มที่มีใบหน้าคุ้นตานั่งแช่น้ำอยู่ตรงหน้าเธอ! เขาส่งเสียงคำรามในลำคอคล้ายสัตว์ป่า แผงอกกำยำที่ประดับด้วยขนหนาหายใจหนัก มือหนาวางแก้วลงขอบอ่างหินก่อนจะมองมาที่เรือนร่างของหญิงสาวอย่างตกใจไม่แพ้กัน

“เจ้า!”

“ฉันจะรีบออกไปเดี่ยวนี้!”

หมับ!

หญิงสาวหันหลังวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อขาเรียวสวยของเธอขยับออกไปไม่กี่ก้าวเธอก็รู้สึกถึงแรงกระชากจากด้านหลังพร้อมกับร่างหนาที่เข้ามาโอบประชิดตัว ไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกำยำของชายหนุ่มและหยดน้ำบนเส้นผมของเขาที่ไหลย้อยไปตามเนื้อตัวของเธอทำให้ร่างบางถึงกับสั่นระริก

เธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกหนาวแน่!

“จะรีบไปไหน…นารา”เขาก้มตัวลงกระซิบที่ข้างใบหูของเธอ

ตั้งแต่เกิดมาเธอพึ่งรู้ว่าอาการขนลุกเกรียวมันเป็นยังไงก็ครั้งนี้แหละ ขาทั้งสองไม่ทำตามคำสั่งของสมองเลย มันสั่นพร้อมจะล้มลงกับพื้นได้ทุกเมื่อ!

เธอดิ้นเล็กน้อยเพื่อจะปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการของชายหนุ่ม แต่ความไร้เดียงสาทำให้เธอไม่รู้ว่ายิ่งเธอดิ้นภายในอ้อมกอดของเขามากเท่าไหร่ ทำให้ร่างบางของเธอเสียดสีกับอะไรบนร่างของชายหนุ่มบ้าง เขาส่งเสียงคำรามในลำคอก่อนจะใช้มือทั้งสองรัดเธอให้แนบชิดกับทุกส่วนของเขา

“ไหนๆก็มาแล้ว ไม่ลงไปแช่น้ำด้วยกันก่อนหรือ…”

ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองรึเปล่า เสียงทุ้มของเขามันแปลกกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน
อัลลัยล์มองหญิงสาวที่ส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายในอ้อมอก ชายหนุ่มลอบยิ้มกับตนเองเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ ดูท่าเธอคงจะรู้ตัวเสียแล้วว่าสถานการณ์นี้มันเสี่ยงต่ออะไรบางอย่างแค่ไหน

หมับ!

“อ้ะ!”

พิมพ์นาราจับลำแขนแข็งแรงไว้แน่นเมื่ออยู่ๆเขาก็อุ้มร่างของเธอแนบอก เธอซุกหน้า

เข้ากับแผงอกกำยำของคนตรงหน้าอย่างขวยเขินเมื่อเห็นสายตาที่เขาจ้องมองเรือนร่างของเธอ ไม่นานเธอจึงรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัวเมื่อเขาปล่อยเธอลงสู่ที่ที่เขาจากมา เธอพยายามไม่มองร่างกายที่แตกต่างของชายตรงหน้าเพราะเธอรู้ดีว่ามันอันตรายขนาดไหน ร่างบางถอยห่างเมื่อเห็นเขาเขยิบเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนแผ่นหลังเธอชนกับผนังอ่างหินเย็นเฉียบ

โทษนึกโมโหที่ธรรมชาติสร้างน้ำแร่ออกมาให้ใสสะอาด มันทำให้เธอไม่มีอะไรบดบังร่างกายนอกจากมือน้อยๆสองข้างของนี้

“นารา…”

เขาเชยคางเล็กๆนั่นขึ้นเพื่อให้เธอสบสายตาสื่อความหมายจากเขา เมื่อเห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวแดงปลั่งเป็นลูกตำลึงก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาว

“อืม…”

พิมพ์นาราแทบกรีดร้อง! เธออยากจะตบปากตัวเองยิ่งนักที่ส่งเสียงน่าอายอะไรออกมาไม่รู้ แถมยังเปิดอ้าปากให้ลิ้นสากของเขารุกล้ำเขามาอย่างง่ายดาย ปลายลิ้นของเขายังมีรสขมจากแอลกอฮอล์เจือปนอยู่ เธอคาดว่าคงเป็นจากไวน์ที่เขาดื่มเมื่อครู่
ใช่สิ่งนี้รึเปล่านะ…ที่ทำให้เธอมัวเมาจนแทบไม่รู้สึกถึงเรื่องใดๆนอกจากความต้องการบางอย่างจากร่างหนาตรงหน้า!

เธอดึงสติไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้ มือทั้งสองยกขึ้นดันร่างหนาออกให้ห่างจากตัวแต่เรี่ยวแรงที่เคยมีมันกลับหายไปตามแรงสั่นไหวของน้ำ มือหนาของชายหนุ่มรวมข้อมือทั้งสองของเธอออกเพื่อที่จะเข้าใกล้ร่างบางได้มากยิ่งขึ้น

อัลลัยล์รู้สึกถึงไฟราคะที่โหมกระพือของตน มันร้อนเสียจนทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งกร้าว ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเห็นร่างบางอ่อนระทวยตรงหน้าแบบนี้ สันชาตญาณดิบที่ถูกเก็บไว้ในเบื้องลึกก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง!

และครั้งนี้เขาก็จะไม่ปล่อยให้ตนต้องมาทรมานแบบนี้แน่!

เขาบีบเค้นทรวงอกเต่งตึงของหญิงสาวอย่างมันมือก่อนจะก้มตัวลงไปดูดเม้มอย่างสำราญใจ เมื่อเห็นว่าทรวงอกของเธอชูชันขึ้นมารับกับสัมผัสอันร้อนแรงแล้ว เขาถึงเปลี่ยนเป็นใช้หัวแม่มือเคล้าคลึงที่ยอดปราการสีชมพูนั่นแทน

เขาใช้ความชำนาญที่สั่งสมมาปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้โหมกระพือจนถึงขีดสุด มือบางที่เคยผลักร่างหนาของเขาจิกลงที่แขนกำยำพร้อมกับเสียงครวญครางในลำคอ
เธอกัดริมฝีปากของตนจนห้อเลือดเพื่อไม่ให้ส่งเสียง ‘น่าอาย’ ออกมา แต่ยิ่งเธอต่อต้านมากเท่าใด แต่สำหรับความปรารถนาของเขายิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น

เขาอุ้มร่างบางของหญิงสาวขึ้นไว้บนขอบอ่าง เธอดูมีท่าทีตกใจเมื่อเห็นเขาจ้องมองความสาวของเธออย่างไม่วางตา มือบางปิดของสงวนของตนอย่างเขินอายพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

อัลลัยล์ดึงมือของหญิงสาวออกไปไว้ข้างตัว เขาค่อยๆแยกเรียวขาสวยทั้งสองขาออกจากกันเพื่อดูกลีบความสาวของเธอให้เต็มตา

“เจ้าสวยมากนารา…เด็กน้อยของข้า”

เขาเอ่ยชมพร้อมกับลูบไล้หน้าท้องแบนราบของเธอเบาๆค่อยๆไล่เรื่อยจนมาถึงกลีบดอกไม้หอมหวานทั้งสอง ชายหนุ่มโน้มตัวลงใช้ปลายลิ้นเปิดทางให้ดอกไม้แยกออกจากกันก่อนจะดูดเม้มเม็ดสวาทของเธออย่างหิวกระหาย

หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกถึงปลายลิ้นเย็บเฉียบที่รุกล้ำความสาวของเธอ สมองของเธอสั่งให้ผลักเขาออกไปไกลๆแต่ร่างกายของเธอกลับไม่ทำตามที่สั่งเอาซะเลย เธอรู้สึกถึงความเสียวซ่านในช่องท้อง มันเหมือนพายุแห่งความสุขที่พัดกระหน่ำใส่เธอไม่ยั้ง เธอร้องออกมาสุดเสียงพร้อมกับจิกผมหนาสีน้ำตาลเข้มที่ก้มทำอะไรบางอย่างอยู่ในหว่างขาของเธอ ร่างบางเกร็งทุกส่วนจนเธอต้องส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่านอย่างไม่เคยเป็น

“อา…อา อา”เสียงหวานครางไม่เป็นภาษา

อัลลัยล์ดูดเม้มแรงยิ่งขึ้น เสียงครางสุดสยิวของเธอมันน่าฟังยิ่งกว่าเสียงพูดยามปกติซะอีก

หญิงสาวกรี๊ดออกมาสุดเสียงก่อนจะเกร็งกระตุกหลายที ไม่นานร่างบางจึงอ่อนระทวยแน่นิ่งไป

“ชอบรึเปล่าเด็กดี”เขาเอ่ยยั่วเย้ากับท่าทางของหญิงสาว

แม้เธอจะไม่ตอบคำถามของเขาแต่ดวงตาทั้งสองของเธอที่จ้องมามันช่างหยาดเยิ้มปลุกแรงกระสันในตัวได้ยิ่งนัก ไปหน้าของเธอแดงก่ำเพราะความร้อนแรงจากเมื่อครู่ เขาจ้องร่างบางของหญิงสาวอย่างเต็มตา ทั้งเอวเล็กคอดนี้และทรวงปกอวบอิ่มเกินกว่าที่คิดไว้นัก เรียวขาของเธอยาวตามส่วนสูง ใบหน้าสวยฉายความต้องการบางอย่างออกมาเด่นชัด ผิวสีน้ำผึ้งของเธอมีไรน้ำเกาะอยู่ทั่วไปหมด

เธอจะรู้ตัวไหมว่า ตัวเธอสวยเซ็กซี่ยิ่งกว่านางแบบในนิตยสารเสียอีก…

“อดทนแปปเดียวนะ ที่นี่มันหนาว”

ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นเดินออกไปยังห้องของตน



ร่างของเธอถูกวางไว้บนเตียงนุ่มโดยมีร่างหนาคลานเข้ามาติดๆ เธอหอบหายใจหนักเมื่อนิ้วเรียวยาวของเขาผ่านเข้าไปในช่องสวาทของเธอ

“อืม…”

อัลลัยล์ดูปฏิกิริยาของบุคคลใต้ร่างอย่างชอบใจ มือว่างอีกข้างบีบเค้นทรวงอกตึงจนเป็นรอยนิ้วขึ้นมา เมื่อเห็นว่ามีสายตาเฉียบคมจ้องมาหญิงสาวจึงหันหน้าไปอีกทางเพื่อหลบตาเขาพร้อมกับหยุดส่งเสียงครางอย่างเขินอาย

ช่องสวาทของเธอบีบรัดนิ้วของเขาจนตึงแน่นไปหมด ชายหนุ่มแช่ค้างไว้เพื่อปล่อยให้มันได้ปรับความยืดหยุ่นก่อนจะเอ่ยถามอะไรบางอย่างกับคนตรงหน้า

“เจ้าเป็นสาวพรหมจรรย์หรือ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

หญิงสาวหันกลับมามองอย่างตกใจพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

ตลอด 23 ปีที่ผ่านมาเธอเฝ้ารอถึงความฝันอันสูงสุดของผู้หญิงทุกคน เธออยากแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก ผู้ชายที่เขาทะนุทนอมเธอ เธอจึงพร้อมจะที่มอบความสาวที่เก็บมาให้กับเขาคนนั้น…

แม้อยากจะผลักร่างหนาออกแล้ววิ่งหนีไปให้ไกล แต่ร่างกายของเธอมันกลับไม่ให้ความร่วมมือเสียเลย เธอกระพริบตาปริบไล่หยาดน้ำใสออกจากหางตา

“ข้าจะดูแล ทะนุทนอมเจ้า เพราะเจ้าเป็นเมียข้านะนารา…”

อัลลัยล์เข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวดี ในตอนแรกเธอต่อต้านเขาขนาดไหน แม้เธอจะไม่เต็มใจแต่เขาก็ไม่สามารถฝืนแรงราคะได้อีกต่อไป

ทุกคำพูดที่กล่าวออกไปล้วนแต่เป็นความสัตย์จริง เขาอยากจะทะนุทนอมร่างบางนี้ อยากจะดูและและโอบกอดเธอไม่ให้ไปพบกับใครหน้าไหนทั้งนั้น สิ่งที่เขาปรารถนาอยากจะครอบครองเป็นอันดับสองคือร่างกายของเธอก็เกือบจะเป็นของเขาแล้ว เธอจะได้เป็นเมียของเขาในทางพฤตินัยแล้ว!

เหลือเพียงสิ่งเดียวที่เขาเฝ้าฝันว่าซักวันเธอจะมอบมันให้เขาอย่างไม่มีเงื่อนไข

หัวใจของเธอ…

เขาชักนิ้วเข้าออกเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอ เพราะอีกไม่นานเธอจะได้เจอสิ่งที่มีขนาดแตกต่างกันกว่านี้หลายเท่านัก

พิมพ์นาราหลับตาพริ้ม เธอปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามที่มันควรจะเป็นโดยมี

เขา…อัลลัยล์เป็นผู้นำทางเธอ

อัลลัยล์ดึงนิ้วทั้งสองออกอย่างรวดเร็วโดยมีสายตาเสียดายของหญิงสาวมองตามไม่ห่าง เขายิ้มเจ้าเล่ห์เลียนิ้วมือของตนก่อนจะดันร่างของตนผงาดขึ้นเพื่อเตรียมคร่อมบนตัวหญิงสาว

“ไม่ต้องเสียดายขนาดนั้นหรอก ไว้เจ้าจะได้อะไรที่ดีกว่า”

พิมพ์นาราหน้าแดงกับคำพูดกำกวมและท่าทางของชายหนุ่ม เขาดูชั่วร้ายแต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด

“มองข้าสินารา…”เสียงทุ้มกล่าวขึ้น

หัวใจของเธอเต้นรัวก่อนจะหันกลับไปมองร่างหนาของเขาอย่างเขินอาย เขาแลบลิ้นเลียปากคล้ายกับหมาป่าที่จ้องกะกินเหยื่อ ใบหน้าคมสันมีเหงื่อผุดออกมาเล็กน้อย ดวงตาของเขาจ้องเธอเขม็งทำให้ร่างบางสั่นสะท้าน ร่างหนาของเขากำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง หน้าท้องที่หายใจเข้าออกอยู่นั้นไร้ซึ่งไขมัน เธอไล่สายตามองตามไรขนลงไป สิ่งที่เห็นทำให้ใบหน้าสวยขึ้นสีระเรื่อ ต่ำกว่านั้นคือสิ่งที่บอกความเป็นบุรุษเพศอย่างแจ่มชัด มันแข็งกร้าวผงาดจนเธอต้องรีบเบือนสายตาหนีเพราะความกลัว

เขาจับเรียวขาสวยแยกออกจากกันก่อนจะนำไปพักไว้ที่แขนแข็งแกร่งทั้งสองข้าง ดวงตาสีดำจ้องมองดอกไม้ที่มีน้ำหวานไหลหยาดเยิ้มซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าหญิงสาวตรงหน้าพร้อมแล้ว

เขาจับความเป็นบุรุษเพศของตนเพื่อจ่อเข้าไปในช่องสวาทของหญิงสาวอย่างช้าๆ แม้เธอจะมีน้ำหล่อลื่นมากมายแต่มันก็คับแน่นมากอยู่ดี หญิงสาวกรีดร้องพร้อมกับดันตัวหนี เขาเอื้อมมือไปตรึงสะโพกกลมกลึงไว้ให้อยู่กับที่ก่อนจะดันเข้าไปจนเกือบสุด มันคับแน่นเสียจนเขาต้องดึงออกมาอีกครั้ง

“อา…”

หญิงสาวแอ่นสะโพกไปตามแรงของชายหนุ่มโดยไม่รู้ว่านั้นเป็นการเปิดทางให้เขาทำอะไรบางอย่าง!

อัลลัยล์กระแทกลงไปสุดแรงจนความแกร่งของเขาจมหายไปในร่องสวาทของเธอทั้งหมด หญิงสาวกรีดร้องจิกแขนของเขาจนเลือดไหลซิบออกมา เสียงทุ้มคำรามต่ำเพื่อผ่อนคลายกับความตึงแน่นตรงหน้า

“ฉันเจ็บ”เสียงหวานสั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

“ไม่ต้องเกร็งเด็กน้อย ไว้เจ้าจะสุขล้นอย่างที่ไม่เคยมี”

ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปประกบริมฝีปากบางของเธออย่างหนักหน่วง เมื่อเขารู้สึกว่าเธอเริ่มผ่อนคลายและเปิดรับตัวเขาแล้วร่างหนาจึงเริ่มจังหวะดุดันร้อนแรงในร่างของเธอ
เขากระแทกหญิงสาวอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง หญิงสาวปรือตามองและครวญครางไม่เป็นภาษา มือที่เกาะบนต้นแขนแกร่งจิกปลายเล็บลงไปด้วยความเสียวซ่าน เมื่อชายหนุ่มเร่งจังหวะหนักขึ้นเธอถึงกับส่ายหน้าไปมากรีดร้องด้วยความสยิว

“อา อา อา…”

อัลลัยล์รู้สึกชอบเสียงของคนใต้ร่างยิ่งนัก มันหวานไพเราะเหมือนเสียงระฆังแก้ว

ร่างของหญิงสาวสั่นตามแรงที่ชายหนุ่มต้องการให้เกิด ลำตัวของเธอมีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เธอส่ายหน้าไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงแต่ก็ไม่อาจลดความเสียวซ่านให้น้อยลงไปได้เลย

“อา…นารา นารา”เสียงทุ้มคำราม

เมื่อเพิ่มจังหวะขึ้นเรื่อยๆชายหนุ่มถึงกับไม่สามารถกลั้นเสียงไว้ได้ เขาเงยหน้าขึ้นเรียกชื่อคนใต้ร่างอยู่หลายครั้งจนในที่สุดก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันเสียที

หญิงสาวเกร็งกระตุกหลายครั้ง เล็บยาวของเธอข่วนหลังของชายหนุ่มอย่างไร้ความปราณี ความรู้สึกที่ได้รับจากเขามันเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายอยู่มาก แม้มันจะเจ็บในช่วงแรก แต่พอผ่านพ้นไปได้ เธอก็รู้สึกถึงสายลมหมุนคว้างจนทำให้ตัวล่องลอย มันทั้งสุขและเสียวซ่านปนกันไปหมด เธอไม่แปลกใจเลยเหตุใดคนจึงลุ่มหลงในกามอารมณ์ ความสุขล้นมันเป็นแบบนี้นี่เอง และนี่ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้จักมัน

ครั้งแรกที่เธอจะไม่มีวันลืมได้ลง…

“อีกนิดเดียว”เขากระซิบไม่เป็นภาษา

อัลลัยล์ค้ำร่างหนาของตนเองด้วยแขนข้างเดียวพร้อมกับออกแรงกระแทกหญิงสาวไม่หยุด ความคับแน่นของเธอบีบรัดจนในที่สุดเขาก็ส่งเสียงร้องยาวออกมา ร่างหนากระตุกปล่อยน้ำรักเขาไปในตัวเธอจนหมดก่อนจะถอนออกมาด้วยความเสียดาย

แม้เขาอยากจะรักกับเธอให้นานกว่านี้แต่สภาพร่างกายของเธอตอนนี้คงจะไม่ไหวเป็นแน่ ไม่เป็นไร อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า

เขาก้มมองที่หว่างขาของเธอ น้ำหล่อลื่นที่ไหลเปรอะเปื้อนมีเลือดปนอยู่ด้วย เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาวที่มองดูเขาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

“ข้าเป็นผู้ชายคนแรกของเจ้า เป็นผัวเจ้า”เขาก้มลงประทับความเป็นเจ้าของไว้ทั่วร่างของเธอ

“ต่อไปนี้เจ้าคือเมียข้า เมียทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าจะปรนเปรอเจ้าด้วยรักจนเจ้าไม่อาจจะปฏิเสธข้าได้ต่อไป”

พิมพ์นารารับจูบจากคนตรงหน้า ตอนนี้เธอเป็นของเขาโดยไม่อาจปฏิเสธ เขาทำให้เธอไม่สามารถถอนตัวจากราคะนี้ได้ ราคะที่เขาเป็นคนสอน ราคะที่เขามอบให้เธอ
อัลลัยล์ล้มตัวลงนอนโดยใช้มือดึงร่างบางของหญิงสาวเข้ามาไว้ในอก เขาชอบทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ โดยเฉพาะเวลาที่มีร่างบางนุ่มนิ่มนี่เข้ามาอิงแอบในอ้อมแขน

ไฟราคะนี้ยังไม่มอดลงง่ายๆ เขาจะค่อยๆสอนเธอไปทีละขั้นตอน แทรกซึมเข้าไปในทั่วอณูร่างกาย

ให้เธอไม่อาจขาดร่างกายของเขาได้!







เสี้ยวเดือนเเรม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ย. 2555, 20:23:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ย. 2555, 20:23:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 21654





<< บทที่เจ็ด การตัดสินใจที่ไม่อาจเลี่ยง 100%   บทที่เก้า อ้อมกอดอันร้อนเร่า 100% NC++ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account