ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า

อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC

ตอน: บทที่เก้า อ้อมกอดอันร้อนเร่า 100% NC++

บทที่เก้า


หญิงสาวลืมตาขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้ากับเช้าวันใหม่ เพียงแค่เธอขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกสะท้านทั่วทั้งร่างกาย เธอรู้สึกเหมือนโดนฉีกทึ้งร่างแล้วนำมาประกอบกันใหม่ มันปวดเมื่อยไปทั้งตัว แขนขาก็รู้สึกหนักจนแทบไม่มีแรงขยับ เธอเชื่อว่ามันเป็นผลจากการที่ ‘ใช้แรงเยอะ’ อย่างแน่นอน

ร่างบางเลือกที่จะนอนอยู่ ณ ที่เดิมของตนดีกว่าฝืนร่างกายบอบช้ำของตนเอง เธอเหลือบตามองใบหน้ายามหลับของคนตรงหน้า ความรู้สึกบางอย่างมันชักจูงให้เธอใช้มือเย็นเฉียบแตะริมฝีปากหนานั่น

เธอดันตัวไปข้างหลังพร้อมกับหดมือกลับและกระชับผ้าห่มหนาจนมือสั่นเมื่อเห็นชายหนุ่มเปลี่ยนอิริยาบถ เขาเพียงแต่กวาดมือไปมาด้านหน้า เมื่อไม่เจอสิ่งที่ปรารถนามือหนาจึงชักกลับไปและกลับสู่ห้องนิทราต่อ

เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะมองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าต่อ

พิมพ์นารารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวิ่งเข้ามาในความทรงจำ เธอ…เธอได้กลายเป็นของเขาเสียแล้ว อิสรภาพก็ไม่ได้แถมยังต้องมาถูกจองจำในฐานะที่เขาเรียกว่า ‘เมีย’ อีก ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือเธอก็สมยอมเขา เธอรู้ดีว่ารสสวาทที่เขาปรนเปรอให้มันสุขล้นขนาดไหน สุขจนเธอไม่อาจปฏิเสธ ทั้งๆที่รู้ว่ามันก็เหมือนสิ่งเสพติดที่พร้อมจะดึงชีวิตของเธอสู่ห้วงนรกแห่งความปรารถนา แต่สุดท้ายเธอกลับเลือกที่จะก้าวลงขุมนรกนั่นเองโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แม้เธอไม่อยากยอมรับแต่ก็ไม่อาจะหนีความจริงที่ว่า เขาคือ ‘สามี’ ของเธอ
เธอปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มพร้อมกับหลับตาเก็บเสียงสะอื้น เธอรู้ดีว่าผู้ชายที่พร้อมไปด้วยเงินทอง ลาภยศ และยังใช้ชีวิตโสดอย่างเขานั้น เธอจึงไม่ใช่ผู้หญิงเพียงคนเดียวของเขาแน่ อีกนานเท่าใดที่เธอจะยังสุขสมกับเขา อีกนานเท่าใดที่เขาจะยังทำตามคำพูดที่เคยให้ไว้กับเธอ อีกนานเท่าใดที่เธอจะอยู่ในฐานะที่เขาเรียกว่า ‘เมีย’ อ้อมกอดแข็งแกร่งนั่นไม่ใช่ของเธอคนเดียวซึ่งแตกต่างกับร่างกายของเธอที่เป็นของเขาแต่ผู้เดียว

เขามันช่างเห็นแก่ตัวนัก!

เธอซุกหน้ากับผ้าห่มเมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับตัวอีกครั้ง ผ้าผืนหนาได้กลายเป็นผ้าเช็ดหน้าจำเป็นสำหรับเธอไปเสียแล้ว เธอกลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอก่อนจะแสร้งนอนแน่นิ่งคล้ายยังไม่ตื่นจากห้วงนิทรา

อัลลัยล์ลืมตามองหญิงสาวข้างตัวก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอดอย่างทะนุทนอม เขาจุมพิตแก้มสีแดงระเรื่ออย่างรักใครพร้อมกับโอบร่างบางแนบอก

เขาไม่เคยรู้สึกดีใจที่ตื่นมาเจอผู้หญิงนอนอยู่ข้างตัว หญิงสาวหลายคนที่เคยร่วมเตียงก็เป็นเพียงแค่ที่ระบายทางอารมณ์ ไม่มีข้อผูกมัดหรือเรียกร้องอะไรอีก ต่างจากเธอ…พิมพ์นารา

เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่มีผลต่ออารมณ์ของเขาอย่างหนัก ทุกการกระทำของเธอสามารถกระตุ้นเขาได้ไม่ยาก เขาไม่เคยโมโหหรือบันดาลโทสะกับผู้หญิงคนไหน พวกหล่อนไม่มีค่าพอที่จะให้เขาต้องมานั่งปวดสมองหรอก หากแต่เธอ…เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาคิดทำทุกวิถีทางเพื่อครอบครองโดยไม่สนว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ ยามเธอทำตัวร้ายกาจก็น่าบีบคอให้ตายนัก! แต่ยามเธออิงแอบแนบกายแล้ว เธอเป็นเพียงผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งที่ไร้เดียงสา ไม่รู้จักโลกอย่างแท้จริง

เธอจะรู้หรือไม่ว่าเขาอยากจะทะนุทนอมเธอไว้ข้างกายขนาดไหน หากเธอเอ่ยขออะไรเขาก็พร้อมจะไปสรรหามาให้ทุกอย่างเพื่อไม่ให้เธอขุ่นข้องหมองใจ

เมื่อได้ลืมตาขึ้นมาพบเธอเป็นคนแรกก็สุขล้นจนแทบอธิบายไม่ถูก ในที่สุดเขาก็ได้ร่างบางนี้มาครอบครอง

เขาไม่รู้ตัวหรอกว่า ‘หลง’ เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงตอนนี้ว่าเขาเริ่มมีความรู้สึก

‘แปลกๆ’ กับคนตรงหน้าเข้าแล้ว

“อรุณสวัสดิ์”เสียงทุ้มกล่าวกับร่างบางที่นอนซบข้างกาย

“ไม่ยอมตื่นเหรอเด็กน้อย”เขากระซิบข้างหูเธอ

พิมพ์นาราซุกหน้าเข้ากับที่แผงอกของเขาก่อนจะส่งเสียงตอบอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก

“รู้ดี ฉันตื่นก่อนคุณอีกอัลลัยล์”หญิงสาวตอบอู้อี้

ชายหนุ่มขมวดคิ้วกับน้ำเสียงแปลกประหลาดของหญิงสาว เขาจับไหล่เปลือยเปล่าดึงร่างบางขึ้นเพื่อมองอะไรบางอย่างบนหน้าของเธอ

ดวงตาของเธอมียังหยาดน้ำตาหลงเหลืออยู่ เธอมองสบตาเขาชั่วครู่ เมื่อเห็นใบหน้าไม่พอใจของชายหนุ่มร่างบางถึงกับสั่นและปล่อยโฮออกมา

เธอไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนร้องไห้ง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่การกระทำทุกอย่างของเขามันบีบคั้นหัวใจเธอเหลือเกิน ยิ่งเขาทำดีมากเท่าใดเธอก็ยิ่งกลัวใจตนเอง หากถ้าเขาทำท่าทีไม่พอใจเธอก็เจ็บลึกเขาไปในอก

เธอกล้าพูด กล้าบอกกับทุกคนว่าเกลียดเจ้าของร่างหนานี่มาก เขาทำลายทุกอย่างของเธอแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี แต่เธอก็รู้ตัวว่าลึกลงไปอีกมันมีอะไรที่มากไปกว่านั้น

ความรู้สึกของผู้หญิง…

“เจ้าร้องไห้ทำไม ยังเจ็บอยู่อีกหรือ”มือหนาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของหญิงสาว

“ฮึก!”เธอกลั้นเสียงสะอื้น

เป็นครั้งแรกที่เธอนึกถึงคำว่า ‘หุบปากได้มั้ย!’

“บอกข้ามานารา”

“คุณอย่าทำดีกับฉันเลย”เธอเงยหน้าขึ้นสบตาพร้อมกับปล่อยโฮออกมา

ยิ่งพูดยิ่งช้ำ ยิ่งเห็นหน้าเขายิ่งช้ำเข้าไปอีก!

ชายหนุ่มขมวดคิ้วกับท่าทางของคนตรงหน้า นี่เธอเจ็บแค้นใจอะไรเขาอีกหรือ!

“เป็นอะไรนารา”เขาดึงเธอเข้ามาโอบกอด

“ไม่รู้”เธอตอบปัด

หญิงสาวสะอื้นจนตัวสั่น เธอมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดกับเขาแต่พอเอาเข้าจริงๆก็พูดอะไรไม่ออก เธอกลัวเหลือเกิน!

“บอกมาสิ ใครทำอะไรเมียข้า ข้าจะไปเด็ดหัวมันมาให้เจ้าเดี๋ยวนี้เลย”

เธอผลักร่างหนาออกพร้อมกับมองตาเขาแข็งกร้าว

“ฉันเป็นเมียคุณเหรออัลลัยล์”เธอถามเสียงสั่น

“เจ้าเป็นเมียข้านารา และจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป”เขาตอบด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่จริงจัง

“งั้นเหรอ…”เธอลากเสียงยาวก่อนจะผลักร่างหนาออกไป

“ฉันเป็นเมียคนที่เท่าไหร่ของคุณ!”เสียงหวานตะโกนก้อง

“มักง่าย”เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิว

“ฮือ…”

ความนิ่งเงียบของเขาทำให้เธอร้องไห้มากขึ้นอีก ทั้งๆที่อุตส่าห์บอกกับตัวเองแล้วว่าอย่าหวังอะไรให้มากกว่านี้ แต่เธอก็ทำไม่ได้ อันที่จริงแล้วเธอไม่มีสิทธิถามคำถามแบบนั้นกับเขาด้วยซ้ำ เธอไม่มีสิทธิ!

สถานะของเธอในตอนนี้มันดีกว่า ‘นางบำเรอ’ แค่นิดเดียวเท่านั้น!

อัลลัยล์ไหววูบในอก เขาไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดตอบหญิงสาวอย่างไร จะเอาถ้อยคำไหนมาเอื้อนเอ่ยความรู้สึกของตน เขาพูดหวานไม่เป็น ไม่เคยต้องมาเอาใจ สำหรับเขาแล้วการรับมือกับอาการของคนตรงหน้าจึงเป็นเรื่องยากยิ่งนัก

มือหนาดึงร่างบางเข้ามากอดอีกครั้ง เขากดไหล่ทั้งคู่ของเธอไว้แน่นเพื่อตรึงไว้ไม่ให้เธอดิ้นหลุดไปอีก

“ฟังนะ”เสียงทุ้มเอ่ยแกมคำสั่ง

“เจ้าเป็นหนึ่งในผู้หญิงนับสิบที่ข้าร่วมรักด้วย”เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คำตอบแรกของเขาทำให้เธอแทบปล่อยโฮ หากแต่ประโยคต่อมาเป็นตัวรั้งทุกอย่างเอาไว้ให้กลับมานิ่งสงบ

“แต่เจ้าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เป็นเมียข้า คนแรกและคนเดียวที่ข้ายกให้เป็นเมีย!”
ร่างบากชะงักไปชั่วครู่ คำพูดของเขาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็น…

เธอผละออกจากร่างหนาก่อนจะมองสบตาอย่างเว้าวอน

“ฉันเชื่อคุณได้ใช่ไหม”เธอเอ่ยเสียงสั่น

“เจ้าอยากเป็นคนสุดท้ายของข้าหรือไม่”เขาเกลี่ยไรผมบนหน้าเธอออกไปอย่างเบามือ

“เร็วสิ! ข้ารอฟัง”

“นั่นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้”เธอยิ้มกว้างให้คำตอบกลางๆ

เสียงทุ้มหัวเราะลั่นก่อนจะก้มลงสบตาของหญิงสาว เป็นครั้งแรกจริงๆที่เธอรู้สึกได้ว่าเขามองเธอด้วยสายตาแบบไหน

หวานซึ้งจนแทบสำลัก…

“เจ้ากลายเป็นผู้หญิงขี้หึง ขี้หวง ตั้งแต่เมื่อใดกัน”เสียงทุ้มเอ่ยเย้า

“สัญชาตญาณของผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนี้ค่ะ คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคุณเป็นผู้ชายของฉัน”เธอหัวเราะเบาๆ

ชายหนุ่มทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะผลักร่างบางแนบที่นอน

“เจ้าไม่เห็นจำได้เลย”

“เอ้ะ!”

มือบางถูกรวบไว้เหนือหัว

“สงสัยต้องรื้อฟื้นหน่อยแล้ว!”เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากราวกับว่าคนตรงหน้าคือเหยื่ออันโอชะ

ไม่ต้องรอให้หญิงสาวได้ตัดสินใจ ริมฝีปากหนาก็โน้มตัวลงบดขยี้เธอทันที

เขาดึงผ้าห่มในมือของเธอออกพร้อมกับมองคนใต้ร่างอย่างเต็มตา ตัวของเธอแดงเป็นจุดๆทั่วร่าง ไล่มาตั้งแต่ลำคอ เนินอกอวบอิ่ม หน้าท้องแบนราบ เรียวขาสวยทั้งสองข้าง และความสาวที่เธอหวงแหน

“สวยจริงๆ”เขาลูบไล้หน้าท้องแบนราบของเธอ

พิมพ์นาราหลบตาระยิบระยับของชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เธอไม่คิดว่า ‘จะสั่งเขาได้’ ออกมา

“ออกไปเดี๋ยวนี้เลย เมื่อคืนคุณยังไม่พออีกเหรอคะ นี่ยังสว่างจ้าอยู่เลยนะ!”

เธอทุบแผงอกกำยำ

“ใครบอกให้เมียสวยละ”เขาตอบโดยไม่ต้องคิด

ร่างหนาโน้มตัวลงไปดูดเม้มทรวงอกทั้งคู่จนมันเริ่มแข็งชูชันสู้ลิ้น เขาจับมือบางของหญิงสาวให้เอื้อมลงมาสัมผัสกับความแข็งแกร่งที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เธอตกใจกับความแข็งแรงของมันจึงดึงมือออกอย่างขวยเขิน ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าแดงระเรื่ออย่างชอบใจ

“เดี๋ยวเจ้าก็จะได้คุ้นชินกับมันเอง”

เขาจับเรียวขาสวยแยกออกจากกัน มือหนาลูบต่ำลงไปยังกลีบดอกไม้ทั้งสอง เขาใช้ปลายนิ้วกรีดเบาๆเพื่อกลีบความสาวและสัมผัสเม็ดสวาทอย่างถนัดถนี่ ร่างบางสะดุ้งเฮือกจับลำแขนแข็งแรงเพื่อหาที่ยึดเกาะ

“ความรู้สึกไวจริงนะนารา”

นิ้วเรียวยาวเข้าไปสำรวจโพรงสวาทอีกครั้ง ถึงแม้มันจะยังคับแน่นอยู่มากแต่ก็ดีกว่าเมื่อวานเยอะ ครั้งแรกจะมีความเจ็บปวดรวมอยู่ด้วย แต่ครั้งนี้และครั้งต่อๆไปจะมีแต่ความเสียวซ่านเข้ามาแทน

“อืมมม…”

เล็บยาวจิกเนื้อชายหนุ่มเพื่อลดทอนความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ชายหนุ่มเร่งจังหวะชักเข้าออกเพื่อกระตุ้นแรงสวาทของหญิงสาว อีกมือก็บีบเค้นทรวงอกเต่งตึงไม่ให้ว่าง

“ร้องอีกสิ ข้าชอบเสียงเจ้า”เสียงทุ้มเอ่ย

“อา อา…”

หากเป็นเวลาปกติเธอคงจะเขินอายจนไม่กล้าส่งเสียงออกมาแน่ แต่ตอนนี้ความสยิวมันมีมากกว่าความอาย เธอจึงส่งเสียงครวญครางออกไม่ไม่หยุด

“นั่นแหละดี”เขาเร่งจังหวะขึ้นอีก

พิมพ์นาราสะบัดหน้าไปมาก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง มือบางร่วงหล่นจากที่ยึดเกาะ ร่างบางเกร็งกระตุกหลายครั้งก่อนจะแน่นิ่งไป

“อา…”

“ชอบหรือไม่เด็กน้อย”เขาเอ่ยถามคนใต้ร่าง

ความรู้สึกเธอเหมือนโดนมอมเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ สติของเธอแทบไม่รับรู้อะไรนอกจากสัมผัสของชายตรงหน้า แม้แต่สมองเธอก็ไม่สามารถคิดคำตอบออกมาได้ เธอจึงเพียงแต่มองเขากลับด้วยสายตาหยาดเยิ้มสื่อความหมายแทน

อัลลัยล์ช้อนร่างบางขึ้น เธอซบอกเขาอย่างเหนื่อยอ่อน ระยะทางที่เขาจะพาเธอไปนั้นมันไม่ไกลเลย หากแต่เธอความรู้สึกของเธอที่คิดว่าการรอ ‘อะไรบางสิ่ง’ มันช่างยาวนานเหลือเกิน

เขาว่างเธอลงในอาบน้ำขนาดใหญ่ มือหนาเอื้อมไปเปิดน้ำพร้อมกับหยิบฝักบัวราดบนตัวของหญิงสาว

พิมพ์นาราตัวสั่นจับไหล่ของคนตรงหน้าไว้แน่น เธอรู้สึกร้อนผ่าวทุกสัมผัสที่เข้าลูบไล้บนตัวเธอ

ชายหนุ่มทำความสะอาดร่างกายเธออย่างแผ่วเบา เขารู้จักจุดที่ควร ‘คลึง’ จุดที่ควร ‘เบา’ ดังนั้นจึงไม่ยากเลยที่จะเรียกเสียงหอบสั่นจากคนตรงหน้าได้

ร่างหนาเข้าไปในอ่างน้ำคร่อมทับตัวของหญิงสาวไว้ เขาแยกเรียวขาสวยพาดขอบอ่างทั้งสองด้านโดยมีนิ้วหัวแม่มือคอยวนคลึงเม็ดสวาทอยู่ไม่ขาด

“ข้าอยากจะรักเจ้าไปทั้งวันเลย”

เขาดึงร่างของหญิงสาวขึ้นเพื่อให้รับกับความแข็งแกร่งอย่างถนัดถนี่ ความเป็นชายสอดแทรกเข้าไปในช่องสวาทอย่างรวดเร็ว หญิงสาวกัดฟันร้องครวญครางกับแรงกระแทกหนักเน้นของชายหนุ่ม

เขาเริ่มต้นที่จังหวะเชื่องช้าแล้วค่อยแปรเปลี่ยนเป็นรวดเร็วหนักหน่วง หญิงสาวร้องเสียงหลงกับความเสียวซ่านในช่องท้องที่เพิ่มพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนมีสัญญาณเตือนมาใกล้จะถึงจุดหมายแล้วชายหนุ่มก็หยุดชะงักถอนความเป็นชายออกจากร่างกายของเธอ

พิมพ์นารารู้สึกปรารถนาให้มันกลับเข้ามาแทรกอยู่ในร่างเธอเหลือเกิน ดวงตาคู่สวยมองตามละห้อย

อัลลัยล์ดึงร่างบางขึ้น เธอทำตามอย่างว่าง่าย

“ส่องกระจกหน่อยไหมเด็กดี”

เขาดันร่างบางหันหน้าเข้ากระจกบานใหญ่ พร้อมกับโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง
เธอเห็นภาพทุกอย่างชัดเจน เนื้อตัวที่เปียกปอนของเธอมีรอยแดงจ้ำๆเต็มไปหมด ความเขินอายที่มียังน้อยกว่าแรงสวาทที่ร้อนรุ่มในกาย เธอบอกชายหนุ่มเสียงสั่น

“ได้โปรด…”

อัลลัยล์รู้สึกชอบใจที่ได้แกล้งคนตรงหน้า เขาบีบเค้นทรวงอกเธออย่างมันส์มือโดยมีใบหน้าเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวปรากฏในกระจก

ทุกการกระทำมันชัดเจน เธอเห็นร่างสูงใหญ่กำยำของเขาที่ขนลุกชันไปทั่วทั้งร่างในกระจก เธอเห็นร่างของเธอที่อ่อนระทวยกับสัมผัสจากชายเบื้องหลัง เธอเห็นความปรารถนาที่มันเอ่อล้นปรี่เต็มหว่างขาของตน

“ได้โปรดเถอะ…”เธอพูดเสียงสั่น

“ได้โปรดอะไร…ฮึ”เขายังคงทรมานเธอไม่เลิก

“อย่า…อย่าทรมานฉัน”

หญิงสาวมองชายหนุ่ม สายตาของเธอช่างออดอ้อนโดยที่เธอไม่รู้ตัว อัลลัยล์แลบลิ้นเลียซอกคอหอมกรุ่นอย่างหลงใหล

“ข้าก็ทรมาน”เขากระซิบข้างหูเธอ

เธอมองภาพทุกอย่างผ่านกระจกอย่างชัดเจน มือหนาดันร่างบางให้โค้งตัวลง เขาจับขาเธอขึ้นข้างหนึ่งพาดไว้ที่แขนแข็งแรงของเขาก่อนที่จะแทรกตัวลงมาตรงกลาง
หญิงสาวกัดฟันกับความเสียวซ่าน ท่านี้มันทำให้เธอรับกับเขาได้ทุกสัดส่วน เธอรู้สึกว่าแข้งขาไม่มีแรง มือบางเอื้อมไปจับกระจกใสตรงหน้าเพื่อเป็นที่ยึดเกาะ

“อา”

เธอส่งเสียงครางเมื่อเขาเริ่มต้นจังหวะขึ้น มันกระแทกแรงเสียจนทั้งตัวเธอและกระจกบานหนาตรงหน้าสั่นไปพร้อมกัน เธอเหลือบตาขึ้นมองดูในกระจกเห็นว่าใบหน้าของเขาก็สุขสมไม่แพ้กัน เสียงดังกึกๆทุกครั้งที่เขากระแทกแรงใส่ร่างบางของเธอ ทรวงอกทั้งสองสั่นตามแรงจังหวะที่เขาเป็นผู้นำ

“อา”เขาคำรามเสียงต่ำ

“อา อา อา”เธอสะบัดหน้าไปมาเพราะความเสียวซ่าน เสียงหวานครวญครางไม่หยุด

“อ๊า!”เธอกำมือแน่นพร้อมกับก้มตัวลงรับแรงของเขาที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

“อีกนิดเด็กน้อย”เสียงของสั่นไม่แพ้กัน

“อ๊า!!”

เสียงหวานกรีดร้องสุดเสียง ร่างของเธอกระตุกหลายครั้งแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่หยุดกระทำการกับร่างของเธอ

เธอกระตุกอีกหลายครั้ง เล็บยาวของเธอข่วนกระจกไปมาเพราะความเสียวซ่านที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด

“อีกนิด…”

เขากระแทกเธอไม่ยั้ง ทั้งเร็วและแรงจนเธอได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องหูไปหมด

“อ้า!”

ร่างหนาจะกระตุกแรงพ่นของเหลวบางอย่างใส่ตัวเธอ เขาขยับร่างหนาย้ำกับร่องสวาทของเธอหลายทีก่อนจะหยุดไปใบที่สุด

พิมพ์นารารู้สึกอุ่นวาบในช่องท้อง เขาซบตัวลงบนหลังเธอพร้อมกับส่งเสียงหอบ
เธอทรุดตัวลงกับพื้นถอดถอนความเป็นชายของเขาออกจากร่าง เธอเหลือบตามองกระจกเล็กน้อยพร้อมกับเบือนหน้าแดงระเรื่อหนี

หลักฐานแห่งความรักของเขาเอ่อไหลย้อยออกมาเปรอะเปื้อนเต็มขาเธอไปหมด หญิงสาวหันหน้ารับแรงบดขยี้จากริมฝีปากของเขาอย่างเต็มใจ

“เหนื่อยหรือไม่”เขาผละออกถามร่างบางที่นั่งซบไหล่หมดแรงข้างตัว

เธอสั่นศีรษะพร้อมกับซุกหน้าเข้าที่อกกำยำอย่างขวยเขิน

เสียงทุ้มหัวเราะเล็กน้อยกับท่าทางของคนตรงหน้า เขาช้อนร่างเปลือยเปล่าของเธอขึ้นมาแนบอกก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงนุ่ม

เขารู้ว่าเธอเหนื่อยล้าขนาดไหนที่ต้องรับแรงผู้ชายตัวใหญ่อย่างเขา เขาวางร่างเธออย่างเบามือก่อนจะจุมพิตหน้าผากที่มีเหงื่อซึมอย่างทะนุทนอม

“พักก่อนเถอะ…ค่ำคืนนี้เจ้าต้อง ‘รับ’ อีกเยอะ”เขากระเซ้าข้างหูเธอ

“คนบ้า”

พิมพ์นาราทุบแผงอกของเขาพร้อมกับซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดเพื่อหาความอุ่นจากร่างกายเขา แม้เธอจะหนักบนลำตัวที่มีแขนแข็งแรงของเขารัดแน่น แต่เธอก็ชอบที่เขากอดเธอไว้แบบนี้

ถึงจะรู้ว่ามันผิด แต่เธอก็หลงอ้อมกอดของชายตรงหน้าเสียแล้ว!










เสี้ยวเดือนเเรม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ย. 2555, 05:49:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2555, 05:49:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 39750





<< บทที่แปด ไฟราระที่โหมกระพือ 100% NC++   บทที่สิบ ยั่วยวน 100% NC++ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account