เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 32

หายหน้าหายตาไปนานยังจำกันได้ไหมเอ่ย งานประจำมันรัดตัวค่ะ เลยมีเวลาน้อยนิดในการ
เขียนค่ะ อีกอย่างตอนนี้กำลังลื้อตำราประวัติศาสตร์มาอ่าน เลยไม่ได้มาอัพเลย


ตอนที่ 32


นายหัวเมฆากำลังร้อนใจเรื่องสุชาวี เขารีบร้อนไปหาพีระดาทันทีเมื่อรู้ว่าเธอมาถึงไร่แล้วแต่เมื่อมายืนอยู่ที่หน้าบ้านพักรับรองสีขาวหลังกระทัดรัดซึ่งเขาให้คนงานมาตกแต่งดูแลความเรียบร้อยภายในตัวบ้านและรอบๆบ้านให้บรรยากาศเหมาะสมกับคู่รักมาฮันนีมูนหลังแต่งงานมากที่สุด รอบๆบ้านถูกประดับประดาด้วยกระถางต้นไม้และดอกไม้คงจะดูสดชื่นมากในยามเช้าไม่ว่าจะเป็นเบญจมาศสีขาว กุหลาบสีขาว และสีชมพู ดอกลิลลี หลากสี ตรงหน้าระเบียงบ้านที่ยื่นออกมามีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้าและชมสวนหน้าบ้าน จากมุมนี้จะเห็นภาพโดยรวมของไร่กาแฟ มีจักรยานทำจากเหล็กดัดสีขาวแนววิลเทจวางประดับอยู่ ตรงริมระเบียงบ้านตกแต่งด้วยกระถางดอกไฮเดรนเยีย สายพันธ์เลดบาลอน และสายพันธ์เบร่า ดูน่ารักเข้ากับบรรยากาศเป็นอย่างดี


“คู่รักเขากำลังพักผ่อนกัน มันคงไม่เหมาะแน่ในเวลาแบบนี้” นายหัวเมฆาถอนใจเมื่อนึกขึ้นได้จึงหันหลังกลับคิดว่าพรุ่งนี้ก็ต้องเจอคนทั้งคู่อยู่ดี คงจะเหมาะสมกว่าการมารบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ ดีไม่ดีไอ้หมอนั่นอาจจะลุกขึ้นมาแยกเขี้ยวใส่เขาก็ได้ เขาหมายถึงเจ้าบ่าวหมาดๆของพีระดา


เสียงประตูเปิดออกเหมือนกับรู้ว่ามีใครยืนอยู่หน้าบ้าน หรือบางทีเธออาจจะรอเขาอยู่ “นายหัวคะ เดี๋ยวก่อนสิคะ” เสียงเรียกชื่อเขาจากน้ำเสียงที่ไม่คุ้นหูทำให้เขารีบเหลียวหลังไปมอง เขาส่ายศีรษะและเดินเข้าไปใกล้ๆ แปลกใจเมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากบ้านพักรับรอง เขาพยายามมองหญิงสาวคล้ายมีเชื้อจีนรูปร่างสมส่วนในชุดนอนสีขาวสั้นเหนือเข่าเนื้อผ้าบางเบาให้ถนัดว่าเคยพบผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ที่ไหน


“คุณเป็นใคร แล้วพีระดากับสามีของเธอไปไหนซะล่ะครับ”นายหัวเมฆาคิดว่าเธอคนนี้อาจจะติดตามภาคินัยและพีระดามา


“คุณจำฉันไม่ได้จริงๆเหรอคะ” หญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาใกล้เขามากขึ้นแสงไฟนีออนบริเวณหน้าบ้านช่วยทำให้เขามองหน้าเธอได้ถนัดชัดเจนขึ้น


นายหัวเมฆามองหญิงสาวตรงหน้าเขาพยายามคิดอยู่นานว่าเคยพบเธอที่ไหนกว่าจะนึกออกก็เสียเวลาไปหลายนาที


“คุณนารถนารี ใช่ไหมครับเราเคยพบกันที่งานแฟชั่นโชว์เมื่อเดือนก่อน”


หญิงสาวคงจะยิ้มออกหากชื่อที่นายหัวพูดออกมามันเป็นชื่อของเธอ


“นีรนารถ ต่างหากค่ะนายหัวไม่ใช่นารถนารี”


“ผมนี่แย่จังครับทักผิดๆถูกๆ คุณคงมาพร้อมกับพีระดาและคนรักของเธอ ใช่ไหมครับ”


หญิงสาวทำสีหน้าเหรอหรา “พีระดา ใช่นางแบบสาวที่เพิ่งจะสละโสดไปไม่นานนี่ ที่คุณตั้งใจไปดูเธอเดินแบบรึเปล่าคะ”


“แน่นอนครับ เธอเป็นเพื่อนของผมและก็กำลังพักอยู่ที่เรือนรับรองหลังนี้ คุณพูดเหมือนกับว่าไม่ได้มาด้วยกัน”


“ถ้าอย่างนั้นนายหัวคงเข้าใจผิดแล้วค่ะเพราะคนที่กำลังพักอยู่ในบ้านหลังนี้และมาหานายหัวคือดิฉันกับเพื่อนสองคนเท่านั้นค่ะ” หญิงสาวยิ้มแหย รู้ดีว่านายหัวเมฆาคงแปลกใจ


คำถามมากมายผุดขึ้นในสมองของนายหัวเมฆา นี่เขาเชิญเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


หญิงสาวรู้สึกอายจนหน้าชาแต่เธอไม่มีทางเลือก นีรนารถกำลังเข้าตาจนตระกูลผู้ดีเก่าของเธอกำลังถูกฟ้องล้มละลายด้วยหนี้สินมหาศาล เธอเองก็ไม่มีความรู้ความสามารถอะไรนอกจากการเป็นเซเล็บปรากฏกายตามงานต่างๆซึ่งเธอจะได้รับสินน้ำใจจากผู้จัดงานอยู่แล้วบางครั้งเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่พักหลังๆ มีเซเล็บรุ่นเล็กๆเกิดขึ้นมากมายทำให้บางงานนั้นการปรากฏกายของเธอเป็นการไปฟรีเพียงเพื่อต้องการให้ชื่อของตนเองยังปรากฏอยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูงเท่านั้น แต่ผลพลอยได้จากการเป็นเซเล็บทำให้เธอมีงานพิธีกรเข้ามาบ้างแต่ไม่ถึงกับทำให้เธอดัง แค่พอมีคนรู้จักบ้างเท่านั้น และนี่เองก็เป็นหนทางที่เธอจะเข้ามาตีสนิทกับเขาได้เพื่อหวังผลประโยชน์จากการยุยงของเพื่อนสาวประเภทสอง

“คุณทำให้ผมงง ถ้าอย่างนั้นคุณมาหาผมด้วยเรื่องอะไรกันครับ” เขาจำได้ว่าเธอกับเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกันเลย


“นายหัวคงจะลืมไปใช่ไหมคะว่าเป็นคนชวนนีรนารถให้มาเที่ยวที่ไร่นี้ด้วยตัวเอง ตอนที่คุณให้นามบัตรฉันที่งานแฟชั่นโชว์คืนนั้น”


นายหัวเมฆาอึ้งไปเล็กน้อย นิ้วแข็งแรงของเขาจิ้มมาที่หน้าอกของตนเอง “ผมชวนคุณมาเที่ยวที่ไร่อย่างนั้นเหรอครับ” เขารีบปรับสีหน้าเมื่อคิดว่าประโยคที่หลุดพูดออกไปไม่เหมาะสม บางทีเขาคงพลั้งปากชวนเธอไปก็คืนนั้นเขาเอาแต่มองสุชาวีจนไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรกับผู้หญิงคนนี้ไปบ้าง


“เอ่อ....ผมคงลืมไปครับ ผมนี่แย่จริงๆถ้าอย่างนั้น.....ยินดีต้อนรับสู่ไร่กาแฟแสงตะวันนะครับ”


เมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องทุ่มจนสุดตัวตั้งแต่คืนนั้นที่เธอพบเขานีรนารถสนใจเขามากชนิดที่ว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมากเท่านี้มาก่อนเธอเกือบจะตัดใจเมื่อเห็นว่าคืนนั้นเขาวิ่งตามนางแบบคนหนึ่งที่จับพลัดจับพลูมาสวมชุดฟินาเล่จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นเป็นใคร เธอเล่าเรื่องนี้ให้ลิลลีเพื่อนสาวช่างแต่งหน้าคนดังฟัง และได้รับการยุยงส่งเสริมว่าเธอไม่ควรพลาดโอกาสทองนายหัวเมฆาเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งในภาคใต้ นอกจากนี้เขายังมีความหล่อและฐานะที่มั่นคงไม่เป็นสองรองจากใครที่สำคัญลิลลีมั่นใจว่าเขาโสด เพราะตอนที่นิตยสารชื่อดังมาขอสัมภาษณ์นายหัวที่ไร่นี้ลิลลีเคยมาด้วยและเป็นคนแต่งหน้าเซ็ตผมให้นายหัวเอง เธอยังแอบถามคนงานถึงสถานะของเขาซึ่งคนงานหลายคนยืนยันว่านายหัวยังโสดอยู่


“พอดีว่าเพื่อนของนีเขาต้องการโลเกชั่นสวยๆสำหรับถ่ายละครเรื่องใหม่และจะต้องเป็นไร่กาแฟเสียด้วย นีจำได้ว่านายหัวมีไร่กาแฟที่ใหญ่มากนีเคยอ่านสัมภาษณ์ของคุณจากนิตยสารดังเลยอาสาลงมาดูพื้นที่ให้ก็เท่านั้น” แม้นายหัวเมฆาไม่ได้อยู่ในวงการแต่ก็มั่นใจว่าการสร้างละครสักเรื่องทางผู้จัดาน่าจะมีฝ่ายที่ดูแลเกี่ยวกับโลเกชั่นโดยเฉพาะแต่คงไม่เหมาะหากจะพูดออกมา


“ผมยินดีให้คุณนีรนารถพักที่นี่และเที่ยวชมไร่ของผมได้ตามสบาย แต่ผมไม่มีความคิดจะให้ไร่ของผมเป็นสถานที่ถ่ายทำละครไม่ว่าจะเป็นละครฟอร์มยักษ์ขนาดไหนก็ตาม เพราะมันอาจจะทำให้เกิดผลเสียหายกับผลผลิตในไร่ของเราหวังว่าคุณนีรนารถคงเข้าใจ” น้ำเสียงจริงจัง


หญิงสาวหน้าเสียลงเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าเมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อนสาวประเภทสองที่มาด้วยกัน


“จำไว้นะยัยนี ด้านได้อายอด” ซึ่งตอนนี้ลิลลีกำลังแอบมองคนทั้งคู่ผ่านหน้าต่าง

“ถ้าอย่างนั้นนีต้องขอโทษนายหัวด้วยนะคะที่นีกับเพื่อนมารบกวนคุณโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า เพราะนีคิดว่าที่นายหัวชวนนีมาที่ไร่ในคืนนั้นนายหัวตั้งใจชวนจริงๆ ” หญิงสาวทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ตามคำแนะนำของเพื่อนสาวเพราะจุดอ่อนของพวกผู้ชายแทบทุกคนคือความสงสาร


“อย่าคิดมากสิครับคุณนีรนารถ คุณให้เกียรติมาเที่ยวที่ไร่ผมนับว่าเป็นการให้เกียรติไร่ของเราเป็นอย่างมากในเมื่อมาแล้วผมก็อยากให้คุณพักให้สบาย ถ้ายังไงผมคงต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนคุณเองก็เช่นกัน พรุ่งนี้หากผมมีเวลาว่างจะพาคุณชมไร่ด้วยตนเองละกัน”เขายิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะขอตัวแยกออกมา


นีรนารถถอนหายใจโล่งอก คิดว่าจะถูกนายหัวไล่กลับไปเสียอีก ถ้าเขาทำแบบนั้นไม่รู้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่หน


“อยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ สู้ๆนีรนารถมั่นใจในตัวเองหน่อยสิ เธอเป็นถึงเซเล็บดังเชียวนะจะอายทำไม นายหัวเมฆาจะใจแข็งแค่ไหนก็ต้องชอบผู้หญิงสวย ”หญิงสาวพูดให้กำลังใจตัวเองและมองตามแผ่นหลังของนายหัวเมฆาแววตาเปล่งประกายความหวัง แต่ยังไม่เท่ากับใครคนหนึ่งที่มองตามนายหัวเมฆาไปจนสุดสายตา
+++++++++++++++++++++


หญิงสาวฉีกยิ้มบ้าง หัวเราะออกมาบ้าง บางครั้งขณะกำลังตรวจทานต้นฉบับก็เกิดอาการแก้มแดงจัดไปพร้อมกับจินตนาการของสามีหนุ่มเจ้าของนามปากา เมาคลี แม้ว่าจะเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ก็นิยายของสามีเธฮมันสนุกเกินกว่าที่จะละสายตาได้ นิยายสนุกทำให้การตรวจต้นฉบับกลายเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อ


ฝ่ามือร้อนๆ วางลงบนไหล่ลาดและนวดคลึงบีบเบจากนั้นก็บีบไล่ขยับขึ้นไปถึงต้นคอ หญิงสาวหลับตานิ่งรับสัมผัส เขาถอดแว่นตาที่ใช้กรองแสงจากคอมพิวเตอร์เป็นเลนส์ชนิดพิเศษออกจากใบหน้าหญิสาว


“ดึกดื่นแล้วทำไมยังไม่นอนอีกครับที่รัก”เสียงหล่อทุ้มของสามีหนุ่มกระซิบอยู่ที่ข้างหู


“ก็พิสูจน์อักษรให้คุณยังไงล่ะคะ เรื่องนี้เร่งตีพิมพ์ไม่ใช่เหรอ” หลังจากแต่งงาน พีระดาไม่ได้รับเดินแบบเป็นอาชีพ เธอหันมาเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวและเป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรส่วนตัวให้เขา


“ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยกับมันมากไม่เห็นจะต้องทำจนดึกดื่นขนาดนี้เลย”


“ก็ฉันนั่งรอคุณไปเรื่อยๆ แล้วก็ทำงานไปพลางๆเพลินดีออก” วันนี้ภาคินัยมีนัดกับเจ้าของที่ดินแถวชะอำเพื่อคุยเรื่องที่ดินที่ติดต่อขอซื้อเขาคิดจะสร้างคอนโดหรูที่นั่นเพราะมั่นใจว่าจะต้องขายได้อย่างแน่นอนแต่ตามประสาผู้ชายที่บังเอิญคุยกันถูกคอจนทำให้เขากลับดึกกว่าที่บอกภรรยาคนสวยเอาไว้


“ถ้าอย่างนั้นผมกลับมาแล้ว ก็วางมือจากงานได้แล้วใช่ไหม”


“แน่นอนค่ะที่รักไม่มีอะไรจะน่าสนใจไปกว่าคุณ”


ภาคินัยโอบเอวบางของพีระดาได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวหญิงสาว


“ปากหวานที่หนึ่งเลยนะคุณเนี่ย คืนนี้ไม่คิดจะถามเหรอว่าทำไมผมถึงกลับบ้านดึก ไม่กลัวผมจะแอบพาสาวๆไปเที่ยวบ้างหรือไง” เขาเชยคางสวยของเธอให้มองหน้าเขา


“ฉันเชื่อว่าคุณมีเหตุผลพอค่ะ และเชื่อในความรักของเรา ฉันจะไม่ถามว่าคุณไปไหน ไปกับใคร หรือไปทำอะไรมา” บทเรียนจากเรื่องเขมมิกาทำให้คนทั้งคู่อยู่ด้วยกันด้วยความเชื่อใจไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกันอีก


หญิงสาวส่งยิ้มหวานก่อนจะช่วยเขาถอดเสื้อสูทออก เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว ตรงหน้าอกมีลอยเลอะลิปสติกสีชมพูติดอยู่เป็นรูปคล้ายริมฝีปากของผู้หญิง พีระดามองเห็นแต่ไม่ถามอะไร


“คุณจะไม่ถามเหรอ ว่ารอยลิปสติกมาจากไหน” เขาพร้อมจะมีคำตอบให้กับเธอ


พีระดาระบายยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้า และนำไปแขวนในห้องด้วยท่าทีปกติไม่มีอาการหึงหวง เขามองตามเรือนร่างงามของภรรยาไปอย่างมีความหมายก่อนจะหันกลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เมื่อครู่ที่พีระดานั่งตรวจต้นฉบับอยู่มันกำลังถึงบทนั้นเข้าพอดี ไอเดียบางอย่างเกิดขึ้นเขายิ้มกับตัวหนังสือบนหน้าจอ จากนั้นภาคินัยก็หายเข้าไปในครัวสักพัก ก่อนจะเดินตามภรรยาสาวเข้าไปโดยมีอ่างแก้วขนาดกลางบรรจุน้ำแข็งก้อนขนาดเท่ากำปั้นติดมือไปด้วย


“คุณมีทั้งความรัก ความเชื่อใจในตัวผม และชาตินี้ผมจะสนใจผู้หญิงคนไหนได้อีก”


เขายิ้มกับตัวเอง มองก้อนน้ำแข็งที่ถือมาด้วยนึกถึงฉากวาบหวามจากภาพยนต์เรื่องดัง ผู้ชายที่ชอบอ้างว่าการกินอาหารเดิมๆทุกวันมักจะทำให้เบื่อ ต้องหาอาหารนอกบ้านกินบ้างเพื่อที่จะกลับมากินอาหารถ้วยเดิมได้อร่อยขึ้น เขานี่แหละขอค้านว่าไม่จริงไม่ใช่ว่าเขาอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่อาหารที่บ้านถ้วยเดิมหากว่าเคยชินกับรสเดิมๆ ก็ลองเปลี่ยนสถานที่ในการกินดูบ้าง หรือบางมื้ออาจจะเติมรสชาติให้มันเผ็ดกว่าเดิม หวานกว่าเดิม เขาเชื่อว่าไม่มีอาหารถ้วยไหนจะอร่อยไปกว่าอาหารที่บ้านที่สะอาด ปลอดภัย และเลือกมาด้วยตัวเอง
++++++++++++++++++++



นายหัวเมฆารู้สึกเครียดกับปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างเขากับสุชาวีมันทำให้เขาร้อนใจจนนอนไม่หลับแม้จะเป็นเวลาเกือบจะตีหนึ่งแล้วก็ตาม จึงกลับไปที่ห้องทำงานและนั่งทำงานคนเดียวเงียบไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เขากำลังอ่านรายงานสรุปยอดขายในเดือนที่ผ่านมาซึ่งเลขาสาวนำแฟ้มมาวางไว้ให้ เมื่อตอนเย็น ผ่านไปสักพักเขาวางแฟ้มลงบนโต๊ะทำงานเพราะไม่มีสมาธิในการ มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าจะไม่มีใครผ่านเข้ามาเห็นแล้วจึงเอื้อมมือแข็งแรงเปิดลิ้นชักหยิบสมุดเล่มหนึ่งขนาดครึ่งกระดาษเอสี่ปกสีฟ้าขึ้นมาก่อนจะเขียนอะไรลงไปในนั้นเขาใช้เวลากับมันสักพักใหญ่ๆก่อนจะเก็บสมุดนั้นเข้าไปในลิ้นชักที่เดิมและล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ด้วยสัญชาติญาณบางอย่างทำให้นายหัวเมฆารู้สึกว่าตนเองกำลังถูกลอบมองจากสายตาคู่หนึ่งเขารีบหันไปมองที่หน้าต่างแต่ไม่พบสิ่งใดผิดปกติเขาเลื่อนบานกระจกออกอากาศเย็นจากภายนอกพัดโชยกลิ่นฝนเข้ามาในห้องทำงานคืนนี้ฝนคงจะตกหนัก ไม่รู้ว่าป่านนี้สุชาวีจะหลับหรือยังนายหัวเมฆาเหม่อมองพระจันทร์ในคืนเดือนมืด แต่ในความมืดมิจากมุมหนึ่งของไร่กาแฟใครบางคนกำลังลอบมองนายหัวเมฆาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก


สุชาวีตรวจต้นฉบับนิยายเรื่อง เพลิงรักมนต์สวาท จนมาถึงบทสุดท้ายซึ่งเป็นตอนจบของเรื่องเธอยิ้มดีใจไปกับนางร้ายในเรื่องที่ชื่อเพลงพิณซึ่งตอนหลังเหมือนจะได้รับคะแนนสงสารจนโดดเด่นเกื่อบจะเท่านางเอกและเธอก็ยังได้พบรักแท้กับหมอแสนอีกด้วยเป็นนางร้ายที่น่าอิจฉาจริงๆ ส่วนคู่พระนางก็จบอย่างแฮปปี้ตามฉบับนิยายไทย ก็ถ้าขืนตอนจบพระเอกตายนางเอกบ้าคนอ่านก็คงจะขว้างหนังสือทิ้งกันแน่ๆก็อุตสาห์ตามเชียร์กันมาตั้งแต่ต้นเรื่อง


“ถ้าชีวิตจริงของคนเรามันจบได้สวยงามเหมือนกับในนิยายก็ดีสินะ นายหัวเมฆา คุณรักฉันจริงหรือเปล่าหรือคุณเห็นฉันเป็นเพียงของเล่นค่าเวลา ในเมื่อฉันไม่มีอะไรเลยคุณเองก็สามารถหาคนที่ดีกว่าฉันได้ไม่ยากย”ตั้งแต่เธอรับรักเขาสุชาวีกลับกลัวสายตาของคนอื่นจะมองเธออย่างดูถูกว่าตั้งใจจะจับนายหัเพราะเห็นว่าเขารวย


เมื่อสุชาวีแน่ใจว่าไม่มีคำผิดหลงเหลืออยู่ในต้นฉบับแล้วก็จัดการเซฟไฟล์เป็นครั้งสุดท้ายและส่งไฟล์นิยายต้นฉบับกลับไปให้สำนักพิมพ์ เธอเป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรแบบฟรีแลนซ์รับงานมาทำได้ค่าตอบแทนตามชิ้นงาน เธอพบประกาศรับสมัครงานนี้ในอินเตอร์เน็ตจากเว็บหนึ่งที่เข้าไปอ่านนิยายอยู่บ่อยๆสุชาวีก็เลยลองติดต่อไปดูมีการทดสอบให้ตรวจต้นฉบับถึงเธอจะไม่ได้จบอักษรศาสตร์มาโดยตรงแต่เป็นคนละเอียดและชอบอ่านนิยายเป็นทุนเธอจึงได้งานนี้มาทำ รายได้ของมันก็ไม่น้อยเลยที่สำคัญเป็นงานที่เธอรักอีกด้วย และได้อ่านนิยายฟรีๆก่อนที่จะวางตลาดเสียอีก


เธอปิดคอมพิวเตอร์และหลับตานิ่งสองมือค่อยๆนวดขมับหายเครียดเรื่องงานที่กลัวจะเสร็จไม่ทันกำหนด แต่สิ่งที่ยังทำให้เธอเครียดอยู่ก็ปัญหาทางใจเรื่องระหว่างเธอกับนายหัวเมฆาสุชาวีมองไปนอกหน้าต่างไม่รู้ป่านนี้นายหัวเมฆากำลังทำอะไรอยู่ โกรธก็โกรธที่เขาทำลุ่มล่ามจนมีคนเห็น คิดถึงก็คิดถึงความรู้สึกทั้งรักทั้งโกรธปนกันจนยุ่ง


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


นายหัวเมฆาตื่นมาแต่เช้าและลงไปที่ไร่กาแฟเพื่อทำงานตามปกติ จากนั้นก็เลยเข้าไปที่ โรงเรือนเพาะชำต้นกล้าาเช็คดูต้นอ่อนของแกแฟพันธ์ดีในโรงเรือนและจัดการรดน้ำให้มันด้วยตนเองก่อนที่คนดูแลจะมาทำหน้าทีเสียอีก นายหัวเมฆาไม่ชอบชี้นิ้วสั่งใคร เขาชอบทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่า เขาทำอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ในโรงเพาะชำเพียงคนเดียวเพราะเป็นเวลาเช้ามากคนงานส่วนมากจะทานอาหารเช้ากันอยู่ที่โรงครัวซึ่งนายหัวให้แม่บ้านทำเลี้ยงคนงานทุกวันเป็นอาหารง่ายๆแต่ต้องมีประโยชน์ครบทั้งห้าหมู่นายหัวดูแลต้นกล้าไปพลางๆและก็เกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาในยามเช้าวิธีที่จะขอโทษคนรักและทำให้เธอหายโกรธเขา


“คิดออกแล้ว คราวนี้สุชาวีจะต้องหายงอนเราแน่ๆคราวนี้แหละ” เขานึกภาพรอยยิ้มของสุชาวีตอนที่เธอดีใจสุดๆ


“ที่เขาว่าตื่นตอนเช้าจะทำให้สมองปลอดโปร่งคิดอะไรดีๆออกมันจริงแหะ” นายหัวเมฆายิ้มออกมาได้ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆเอวของเขาถูกลุกลานจากมือประหลาดเหมือนผีจูออนสอดแขนเข้ามาทางด้านหลังและโอบเอวเขาเอาไว้นาทีนั้นหัวเมฆายอมรับว่าตกใจมากก็บรรยากาศเช้ามืดแบบนี้ยิ่งในโรงเพาะชำยิ่งอึมครึม


“เฮ้ย! ผี” เขาสะบัดตัวออกอย่างแรงและหันปลายสายยางฉีดน้ำรดต้นไม้ไปด้านหน้าและแล้วผีจูออนที่นายหัวคิดก็กรีดร้องเสียงดังสนั่นไร่


“นายหัวใจร้ายที่สุดทำไมต้องทำกับฉันรุนแรงแบบนี้ด้วย” นีรนารถล้มไปกองกับพื้นนายหัวเมฆาเมื่อเห็นว่าไม่ใช่ผีแต่คนที่บุกเข้ามาไม่ให้สุ่มให้เสียงคือแขกที่ไม่ได้รับเชิญของเขาต่างหาก


“ผมขอโทษนะครับคุณนารถนารี เจ็บมากไหมครับ” รีบเข้าไปประคอง


“นีรนารถ ต่างหากค่ะ” น้ำเสียงกระฟัดกระเฟียดที่เขาจำชื่อเธอผิดอีกแล้ว


“ผมนี่แย่จริงช่วงนี้ทำงานหนักสงสัยจะขาดโอเมก้า ชอบจำอะไรผิดๆถูกๆ”


เขารีบประคองเธอให้ลุกขึ้นมาจากพื้นก็เมื่อครู่เขาตกใจจนเผลอสะบัดเธอออกห่างอย่างเต็มแรง “ผมนี่แย่จริงๆทำให้คุณเจ็บตัวตั้งแต่เช้าผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับคุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”


เมื่อเห็นว่าเขาให้ความสนใจในตัวเธอนีรนารถก็ยิ่งทำทีเหมือนจะลุกขึ้นไม่ไหวจนนายหัวต้องเข้ามาช่วยพยุง“ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แต่ถ้านายหัวจะขอโทษดิฉันด้วยการพาชมไร่ตามที่สัญญาเอาไว้เมื่อคืนฉันคงจะดีใจมาก”


นายหัวเมฆาปฏิเสธไม่ออกจึงจำเป็นต้องรับหน้าที่เป็นไกด์พานีรนารถชมไร่กาแฟยามเช้า หญิงสาวยิ้มแก้มแทบปริและนึกขอบใจไอเดียของลิลลีเพื่อนสาวคนสนิทที่เชียร์ให้เธอบุกเข้าหาเขาแบบถึงเนื้อถึงตัวไปเลย


“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญครับ ว่าแต่คุณจะเดินไหวเหรอครับ”


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นายหัวคงไม่ปล่อยให้ฉันล้มใช่ไหมคะ” หญิงสาวช้อนตาหวานขึ้นสบตาเขาทำเอานายหัวเมฆาเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆ “ครับ”
++++++++++++++++++++++++++


“ไม่น่าขี้ลืมขนาดนี้เลยนะเรา แล้วจะทันเข้างานไหมเนี่ยจะทำยังไงดีนะ แต่ถ้าไม่ได้รูดบัตรก็ไม่ได้เบี้ยขยัน” เมื่อคิดถึงหนี้บัตรเครดิตตอนสิ้นเดือนที่จะต้องชำระสุชาวีก็รีบพาเจ้ากระป๋องเพื่อนยากมุ่งตรงไปที่ไร่แสงตะวัน และโชคดีที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่แค่เจ็ดโมงตรงเธอจะได้ไม่ต้องเจอใครมากนักเพราะเวลานี้คนงานส่วนใหญ่กำลังกินข้าวเช้ากันอยู่ที่โรงครัว


เมื่อจอดรถเอาไว้ที่มุมหนึ่งของไร่สุชาวีกำลังเดินไปที่ห้องพยาบาลแต่น้ำเสียงคุ้นหูทำให้เธอต้องหยุดฟังเสียงคนคุยกันแว่วมาจากบริเวณใกล้กันๆ หลังแนวต้นกาแฟโรบัสต้าที่กำลังอองผลแดงพร้อมเก็บเกี่ยว


“ผลกาแฟโรบัสต้า บริเวณนี้มีอายุไม่เกินเจ็ดปีจึงให้ผลผลิตเอย่างต็มที่ครับ ผิดกับด้านโน้นที่ผมพาคุณไปดูมาอายุของมันจะอยู่ในราวๆสิบปีซึ่งเริ่มให้ผลผลิตน้อยลง” นายหัวเมฆากำลังอธิบายให้นีรนารถฟัง แต่แล้วกับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเมื่อเป็นที่ลับตาคนแถมอากาศก็ดีแบบนี้นีรนารถที่เดินเกาะแขนนายหัวเมฆาโดยเธออ้างว่ากลัวจะหกล้มเพราะไม่เคยชินกับการเดินเที่ยวชมไร่ ก็เอียงคอซบไหล่นายหัวเมฆาออดอ้อนราวกับคู่รัก


“คุณทำอะไรเนี่ย”นายหัวเมฆาหยุดเดิน


“เหมือนว่าฉันจะเป็นลมค่ะนายหัว มันหน้ามืดยังไงก็ไม่รู้”การมาครั้งนี้นารถนารีได้รับการติวเข้มมาจากลิลลีเรียบร้อยแล้วเธอจะต้องพิชิตใจเขาให้อยู่หมัด ไม่มีผู้ชายคนไหนจะทนการยั่วยวนจากผู้หญิงสวยๆเช่นเธอได้

นายหัวเมฆารู้สึกอึดอัดหากผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อ้างว่าจะเป็นลมเขาคงผลักเธอออกห่างตัวแล้ว


“ถ้าอาการคุณไม่ค่อยดีควรจะนอนพักนะครับ ผมพาไปที่ห้องพยาบาลดีกว่าอยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก”


“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร มันแค่หวิวๆเท่านั้นเองสงสัยว่าเมื่อคืนฉันเหนื่อยจากการเดินทางเลยไม่ได้ทานข้าว” เธอพยายามหาเรื่องให้เขาชวนทานข้าวด้วยกันทำอย่างไรก็ได้ที่เธอจะได้อยู่ใกล้ชิดเขามากที่สุด เมื่อน้ำมันใกล้ไฟอะไรจะเกิดขึ้นนีรนารถลอบยิ้ม


“ถ้าอย่างนั้นไปทานข้าวกันดีกว่าครับ”นายหัวเมฆาจึงจำเป็นต้องดูแลเธอไปตามหน้าที่ของเจ้าบ้านทีดี


สุชาวีที่ยืนมองมาจากอีกมุมหนึ่งทางด้านไร่ของนายหัว “น้ำตาตกในมันเป็นแบบนี้เอง” สุชาวีไม่มีน้ำตาต่ารู้สึกเจ็บปวด เพราะเสือไม่ทิ้งลายนายหัวเมฆาคงเลิกเจ้าชู้ไม่ได้ เธอควรจะทำอย่างไรระหว่างเดินเข้าไปถามเขาตรงๆว่าพาใครมานอนที่ไร่ เช้านี้ถึงได้เดินออดอ้อนออเซาะโชว์ความหวานกันแต่เช้า หรือจะทำตัวหายไปจากชีวิตของเขาดีในเมื่อคบต่อไปก็มีแววแต่จะเจ็บปวด หญิงสาวมองแผ่นหลังของคนรักสองเท้าก้าวไปข้างหน้าก่อนจะหยุดกลับหลังหันและวิ่งออกไปจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว “ไอ้คนบ้า คนใจร้าย” สุชาวีวิ่งไปพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลรื้นขึ้นมาเธอไม่ได้มองทางคิดเพียงแต่ว่าอยากจะไปถึงรถให้เร็วที่สุดจนกระทั้ง


“โครม!”


“อะไรกันเนี่ยคุณ”พยาบาลสาววิ่งไปชนกับอะไรสักอย่างแต่ส่งผลทำให้เธอกระเด็นและล้มไปกระแทกทีพื้นจากนั้นข้าวของที่เขาถือมาอย่างพะลุงพะลังก็ล่วงหล่น พร้อมเสียงฝีเท้าผู้หญิงคนหนึ่งที่วิ่งตามเข้ามาสบทบ

“เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ยภาคินัย อ้าว!...คุณพยาบาลใช่ไหมคะ”


ภาคินัยนั้นรีบเข้าไปดึงหญิงสาวให้ลุกขึ้นจากพื้น วันนี้สุชาวีสวมชุดพยาบาลเต็มเครื่องแบบ
“เป็นยังไงบ้างคุณพยาบาลไม่เจอกันตั้งนานยังโก๊ะ ซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะ”

เมื่อสุชาวีรู้แล้วว่าเธอชนกับอะไร หญิงสาวก็โผเข้าหาเขาราวกับคนกำลังจะจมน้ำและเจอหลักเธอกอดเขาแน่นและปล่อยโฮ ร้องสะอึกสะอื้น “ภาคินัย คุณจริงๆด้วย ฮือๆๆ...”ภาคินัยหันไปสบตาดภรรยาสาวคนสวยด้วยท่าทีไม่เข้าใจอาการของคุณพยาบาลแต่ก็ลูบหลังปลอบใจ


“เกิดอะไรขึ้นกับคุณช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหม คุณร้องไห้ทำไมสุชาวี” เมื่อเห็นว่าพีระดามาด้วยสุชาวีรีบถอยห่างเขารู้ตัวว่าไม่เหมาะสม “ขอโทษทีนะคะคุณพีระดา คือฉัน....”จากนั้นเธอก็ร้องไห้อีก


“ไม่เป็นอะไรค่ะ”พีระดายิ้มจริงใจและเดินเข้ามาหาสุชวี “พอจะบอกพวกเราได้ไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น”


“สุชาวี! ” เสียงเรียกกึ่งตะโกนดังมาจากทางด้านหลังเมื่อสุชาวีหันไปมอง จากนั้นเธอก็รีบวิ่งหนีไปทันทีอย่างรวดเร็ว


“คุณพยาบาล”พีระดาเรียกหญิงสาวชุดขาวที่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว


นายหัวเมฆาหยุดหอบอยู่ตรงหน้าแขกที่เขาเชิญให้มาพักและท้าวเอวหอบเหนื่อยมองรถคันเก่าของคนรักที่ขับออกไปจากไร่ “แย่จริง ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ ไปกันใหญ่แล้ว”


“มันเกิดอะไรขึ้นคะนายหัว ทำไมคุณพยาบาลร้องไห้และวิ่งหนีไปแบบนั้น”


“หรือว่าคุณปล้ำเธอ” ภาคินัยมองหน้านายหัวอย่างเอาเรื่องน้ำเสียงขึงขัง เขายิ่งไม่ชอบหน้าหมอนี่อยู่ด้วย


“อย่ามาหาเรื่องผม ไม่เห็นว่าเป็นสามีของเพื่อนล่ะน่าดู” นายหัวเมฆามองกลับอย่างเอาเรื่อง จนพีระดาต้องห้ามทัพ


“หยุดกันทั้งคู่เลย อะไรกันเนี่ยเจอหน้ากันก็ทำอย่างกับว่าจะกัดกันอย่างนั้นแหละ” หญิงสาวมองชายทั้งสองสลับกัน


“ผมไม่ใช่หมา มันคนเดียว”ภาคนินัยชี้หน้านายหัวเมฆา ส่วนนายหัวก็ถลึงตาใส่ภาคินัย


หยุดกันทั้งคู่นั่นแหละพอๆกันเลยพีระดาเสียงดัง ทั้งคู่จึงหยุดและหันหน้าหนีไปคนละทาง “ตอนนี้ใครจะบอกฉันได้ว่าคุณพยาบาลเธอเป็นอะไรไป” นายหัวเมฆามีท่าทีร้อนใจ แล้วรีบจูงมือพีระดาออกมาห่างๆภาคินัย


“เฮ้ย! จะทำอะไรวะ ปล่อยๆมือจากภรรยาผมเลยนะไม่อย่างนั้น...”เขาฮืมฮำ


“ใจเย็นสินคะภาคินัย”พีระดาค้อนคนรัก



“ขอยืมแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้นแหละ ทำหวงไปได้เดี๋ยวก็คืนให้แล้ว”นายหัวตีสีหน้าไม่พอใจเสือสองตัวมักจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้


“ของแบบนี้ใครเขาให้ยืมกัน” ภาคินัยย่างสามขุมเข้ามาใกล้ๆ พีระดาส่ายหัวระอากับชายหนุ่มเลือดร้อนทั้งคู่


“ไม่มีอะไรหรอกค่ะภาคินัย นายหัวเมฆามีเรื่องจะคุยกับฉันนิดหน่อย” ภาคินัยย่นจมูกและหันหน้าหนีเดินห่างออกไป “อย่านานนะเว้ย หึง” เขามองหน้านายหัวเมฆาไม่วายแยกเขี้ยวใส่ พร้อมส่งสายตาขาดโทษ


นายหัวเมฆาหันหน้ามาทางพีระดาเพื่อลดแรงปะทะถึงอย่างไรไอ้หมอนี่ก็อยู่ในฐานะสามีเพื่อนไปแล้ว


แต่ไม่วายจะแอบบ่น“ไอ้หมาบ้า”


พีราดายิ้ม “หมาบ้าที่คุณว่าสามีฉันนะคะ”


“ขอโทษครับ”เขาเกาศีรษะเบา “มาเข้าเรื่องร้อนใจที่ผมอยากจะปรึกษาคุณดีกว่า”


นายหัวเมฆาเริ่มเล่าปัญหาร้อนใจของเขา ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพฯเขากับสุชาวีได้ตกลงคบหาดูใจกัน แต่สุชาวีทำตัวแปลกมากเธอให้เขาปิดเรื่องที่คบหากันเธอไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ซึ่งเขาไม่เข้าใจเธอเลย จนบางครั้งทำให้เขาคิดว่าเธอไม่ได้รักเขาหรือว่าเธอมีใครที่สนใจอยู่หรือเปล่า นอกจากนี้เขากับเธอยังระหองระแหงกันบ่อยๆส่วนมากจะเป็นเรื่องเวลาเพราะเธอไม่ค่อยมีเวลาให้เขาในขณะที่เขาทำงานอยู่ที่ไร่ตลอดเวลา แถมความรักที่เขาหวังถึงขั้นแต่งงานร่วมหัวจมท้ายยังพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกเมือคืนเขาาทำให้เธอโกรธจัด และเมื่อครู่ขณะที่เขาพาแขกชมไร่อยู่นั้นเธอเกิดหน้ามืดและเวียนศีรษะสุชาวีคงจะเห็นและเข้าใจผิด บังเอิญเขาหันมาเพราะได้ยินฝีเท้าของคนและเห็นผู้หญิงชุดขาวก็เลยวิ่งตามเธอมา นายหัวเมฆาเล่าให้พีระดาฟังด้วยความร้อนใจ โดยลืมว่าเขายังไม่ได้เชิญเธอเข้าบ้านเลยโชคยังดีที่แดดไม่ร้อน ส่วนภาคินัยก็ได้แต่ทำทีมองต้นกาแฟ สำรวจอะไรไปเรื่อยแต่ลอบชำเลืองมาบ่อยๆ แต่สายตาที่นายหัวเมฆามองพีระดาทำให้เขาสบายใจขึ้นมันไม่เหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยเห็น


“ที่นายหัวเล่ามาทั้งหมดฉันพอจะเข้าใจแล้วค่ะ แต่ฉันว่าเราไปคุยกันในบ้านจะดีกว่าไหมคะ” ในเมื่อเจ้าบ้านลืมเชิญพีระดาก็ขอเข้าบ้านเขาเสียเองเลย


“แย่จริง ผมขอโทษครับยังไม่ทันเชิญคุณไปพักที่บ้านให้สบาย ก็เอาเรื่องเครียดมาใส่หัวให้คู่ฮันนีมูล” เขารู้สึกผิด


“นายหัวคิดมากไปได้เราเป็นเพื่อนกันนะคะ ฉันดีใจมากที่คุณเห็นความสำคัญของฉัน”

“ไม่รู้สิคงเป็นเพราะผมถูกชะตากับคุณมั้ง ผมไม่กล้าระบายความในใจเรื่องแบบนี้ให้ใครเขาฟังหรอก ผมอายเขา แต่กลับคุณทำไมผมไม่รู้สึกแบบนั้นก็ไม่รู้สิ”


พีระดากุมมือนายหัวกระชับเอาไว้แน่นและสบตาเขา “ถ้าอย่างนั้นเพื่อนของนายหัวคนนี้จะช่วยทำให้ความรักของนายหัวสมหวังฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ฉันเองพอจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ้างแล้ว”


“จริงเหรอ” นายหัวเมฆากุมมือพีระมองพีระดาด้วยสายตามีความหวัง


“ไอ้ล่ำ! มันจะมากไปแล้วนะจะมองให้ละลายไปเลยหรือไง” นายหัวเมฆาหันไปมองและพบว่านายภาคินัยมายืนจดจ้องๆอยู่ใกล้ๆเขากับพีระดาแล้ว


“เรียกใครว่าไอ้ล่ำไม่ทราบ รู้ไหมแถวนี้ใครใหญ่....” แต่ที่จริงเขาไม่ได้คิดจะทะเลาะกับภาคินัยแล้ว แต่การทำให้อีกฝั่งหึงภรรยาสาวก็สนุกดี

ภาคินัยเดินมาจูงพีระดาให้เดินไปด้วยกันและเดินเฉียดไหล่นายหัวเมฆาไป นายหัวเมฆามองตามหลังภาคินัยไปในทันทีและก้มหน้ามองต่ำลงเพื่ออะไรบางอย่างระหว่างหว่างขาของตน เขาได้ยินภาคินัยกระซิบเบาว่าๆว่าเขาแค่ห้าคูณเจ็ดเอง


“ไอ้ๆๆๆนี่ ....ไม่ใช่สามีของเพื่อนพ่อจะจับฆ่าหมกไร่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ว่าแต่คนอะไรวะมันจะขนาดนั้น”นายหัวเมฆาจินตนาการแล้วก็สั่นศีรษะแรงๆ
++++++++++++++++++++++++++


ริมศาลาข้างสวนหย่อม


“จะทำยังไงกันดีล่ะ ลิลลี ฉันก็ทำทุกวิธีแบบที่เธอแนะนำจนหมดแล้วนะไม่เห็นเขาจะมีท่าทีสนใจเลย แถมยังวิ่งตามแม่นางพยาบาลนั่นไปอีก”นีรนารถกระแทกบั้นท้ายลงบนโซฟาตัวสวย


“ใจเย็นๆสิย๊ะหล่อน คิดจะตกถังทองมันก็ต้องลงทุนกันหน่อย” ลิลลีไปสืบมาแล้วแม่นางพยาบาลนั่น ก็คือแม่นางแบบจำเป็นที่ได้ใส่ชุดฟินเนเล่คืนนั้นไง”ทั้งคู่เมาท์กันเรื่องของสุชาวี


ลิลลีหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าและส่งให้นีรนารถ


“อะไรของเธอ” นีรนารถรับขวดแก้วเล็กมีผงสีขาวอยู่ด้านในมาพลิกดู


“ลองอีแบบนี้จะชักช้าอยู่ไม่ได้ เธอต้องรวบรัดนายหัวจับทำสามีให้เร็วที่สุดนะนีรานารถ ก่อนที่ตระกูลของเธอจะถูกฟ้องล้มละลาย วิกฤตครั้งนี้มีนายหัวเมฆาเท่านั้นที่จะช่วยเธอได้”


“จะบ้าเหรอเธอจะให้ฉันวางยานอนหลับผู้ชาย แล้วก็..........”นีรานารถหัวเราะและจินตนาการสุดสยิว


“อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาเลยย่ะ หล่อนน่ะมันร้ายเดียงสา ฉันรู้นะหล่อนไปแอบฟาดนายแบบหน้าใหม่มาหลายรายแล้ว”


“อย่าพูดไปสิลิลลี เดี๋ยวนายหัวเกิดมาได้ยินเข้า”นีรนารถถตีแขนล่ำดำเป็นมัดๆของเพื่อนสาวคนสนิท นายหัวเมฆาไม่ได้ยินแต่คนที่ได้ยินโดยบังเอิญเพราะออกมาเดินเล่นเพื่อหลีกทางให้นายหัวเมฆาปรึกษาปัญหากับพีระดาได้สะดวกคือภาคินัยซึ่งเรื่องที่เขาได้ยินนั้นถึงกับทำให้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก


++++++++++++++++++++++++


สุชาวีขอบตาร้อนพร่าวเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าที่เห็นในไร่แสงตะวัน ตอนที่สงสัยว่านายหัวเมฆาจะให้ความสนใจเลขาแก้มมากกว่าเลขาคนสนิทนั้นมันก็ยังไม่มีน้ำหนักอะไรมาปรักปรำเขา แต่สิ่งที่เห็นเมื่อเช้าผู้หญิงแปลกหน้าในอ้อมกอดของนายหัวเมฆา “ยังไงซะเสือตัวนี้คงจะไม่ยอมสิ้นลาย”


“พีระดาผมจะทำยังไงดี ให้สุชาวีเขาเชื่อมั่นในตัวผม เหมือนทีคุณมีให้กับ....” นายหัวเมฆาเห็นภาคินัยเดินเข้ามาเขาเหยียดยิ้มเล็กน้อยและทำบุ้ยใบ้ให้พีระดารู้ว่าเขาหมายถึงใคร

พีระดาเห็นแล้วขำ “ความจริงใจไงคะ ไม่มีอะไรจะดีกว่าความจริงใจ ความเชื่อมั่นที่คุณทั้งสองต้องมีความรักถึงจะอยู่รอด”

“นั่นน่ะสิ เธอไม่เคยเชื่อผมเลยว่าผมไม่มีใครอีกแล้ว”พีระดายิ้มและมองหน้านายหัวเมฆา “แน่ใจหรือคะ”


“แน่สิคนอย่างนายเมฆาลองได้รักใครแล้วก็จะรักคนเดียวไปจนวันตาย เรื่องคุณนีรนารถคงทำให้สุชาวีคิดมาก หมู่นี้เรายิ่งทะเลากันบ่อย”


“เชื่อไม่ได้ ” ภาคินัยแทรกขึ้นอย่างหมั่นไส้


นายหัวเมฆามองหน้าภาคินัย “ใครเขาขอความคิดเห็นนายไม่ทราบ” ภาคินัยจึงไหวไหล่ พีระดาหัวเราะเบาๆเห็นเป็นเรื่องตลก


“ผมจะทำยังไงดีให้สุชาวีหายโกรธ คุณช่วยผมคิดหน่อยสิในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน”


“คุณเป็นแฟนกันเธอชอบอะไรคุณก็มอบสิ่งนั้นให้เธอสิคะ เข้าใจกันผิดก็อธิบายได้นี่คะฉันเชื่อว่าคุณพยาบาลมีเหตุผลพอ แต่นายหัวเองนั่นแหละที่ชอบพูดจายั่วโมโหเธอจนเสียเรื่อง”

“ชอบอะไรก็ให้สิ่งนั้น”นายหัวเมฆาดีดนิ้วดังเปรอะ “ผมรู้แล้วที่จริงผมน่าจะคิดออกได้ตั้งนานแล้วนะ”


+++++++++++++++++++++++++


วันนี้สุชาวีอยู่เวรเช้าหลังจากเพื่อนสาวพยาบาลที่ออกเวรพร้อมกันล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เดินออกมานอกโรงพยาบาลทั้งสามสาวรวมถึงสุชาวีต้องประหลาดใจเพราะเห็นคนกลุ่มใหญ่ทั้งคนไข้ ผู้มาติดต่อ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมุงดูอะไรกันอยู่


“เขาดูอะไรกัน ไปดูกันเถอะสุชาวี” เพื่อนสาวคนหนึ่งดึงสุชาวีให้ตามติดไป


“ไม่ดีกว่าฉันอยากลับบ้าน”สุชาวีปฏิเสธแต่เพื่อนสาวก็ดึงแขนเธอให้ตามไป “นิดเดียวเอง”

“ว้าว! รถใครเนี่ยสวยจังผูกโบว์สีชมพูมาซะด้วย” รถสปอร์ตคันกระทัดรัดสีขาวแต่ราคาแพงระยับตามยี่ห้อที่โลโก้เป็นรูปสามเหลี่ยม เพื่อนสาวของสุชาวีตาโต


“กลับบ้านดีกว่าหนิง วันนี้ฉันเหนื่อยจะรถใครก็ช่างไม่ใช่ของเราหรอก” สุชาวีดึงแขนเพื่อนสาวบ้างและหันหลังคิดจะกลับไปที่ลานจอดรถ


“แล้วถ้ามันเป็นของคุณล่ะสุชาวี” นายหัวเมฆารู้สึกเขินอายแต่อยากเซอร์ไพรซแฟนสาว คนอื่นซื้อรถคันหนึ่งต้องใช้เวลาจองกันอย่างน้อยเป็นเดือนแต่สำหรับนายหัวคนดังแค่ยกโทรศัพท์เท่านั้นมันก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว

น้ำเสียงคุ้นหูทำให้สุชาวีหันกลับไปมอง “นายหัว”

เธอมองเขาสลับกับมองรถคันหรู ผู้คนที่กำลังมองรถด้วยความสนใจเริ่มมองมาที่คนทั้งคู่ส่วนคนที่ยืนอยู่นานแล้วทราบดีว่ารถคันนี้มาพร้อมกับนายหัวเมฆา


“คุณหมายความว่ายังไงคะ”ส่วนเพื่อนสาวของสุชาวีมองนายหัวเมฆาด้วยความสนใจ ใครบ้างที่ไม่รู้จักเขา


“ผมให้คุณสุชาวี รับไปสิ”เขายื่นกุญแจรถหรูส่งให้หญิงสาว “ตั้งแต่เราคบกันผมยังไม่เคยให้ของขวัญคุณเลย ของขวัญชิ้นแรกจากผม”


แค่มองโลโก้มันก็พอประเมินได้ว่าราคาหลักล้านแต่กี่ล้านเธอไม่แน่ใจนักของราคาสูงขนาดนี้สุชาวีไม่เคยสนใจเพราะมันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอ


ผู้คนกำลังให้ความสนใจ เพื่อนสาวเจ้าหน้าที่พยาบาลของสุชาวีต่างตกใจไปตามๆกันที่เพิ่งจะรู้ว่า สุชาวี เพื่อนของพวกเธอกำลังคบหาดูใจกับนายหัวคนดังแห่งภาคใต้


“ฉันรับของขวัญของคุณไม่ได้หรอกค่ะ มันแพงเกินไปอีกอย่างฉันก็มีรถใช้แล้ว”


“แต่ตอนนี้คุณไม่มีมันแล้ว ถ้าคุณไม่รับรถที่ผมตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญ คุณจะใช้อะไรขับมาทำงาน”

สุชาวีมีสีหน้าและแววตาสงสัยเมื่อเช้าเธอยังขับเจ้ากระป๋องไปที่ไร่ของเขาและขับมันมาทำงาน”

ณ ไร่แสงตะวัน



คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันกำลังหยอกล้อกันอยู่หน้าบ้านพักรับรองซึ่งนายหัวเมฆาให้คนงานไปจัดให้ใหม่หลังจากแขกไม่ได้รับเชิญได้เข้าพักบ้านหลังที่เขาเตรียมต้อนรับพีระดากับภาคินัย


“จะว่าไปที่นี่ก็สวยนะคุณ น่าจะพัฒนาเป็นรีสอร์ท ผมว่าต้องมีคนสนใจไม่น้อย ธรรมชาติที่นี่สวยมาก”


“ก็เห็นนายหัวเขาพูดๆอยู่เหมือนกันนะคะ ว่าอยากจะทำรีสอร์ทแต่ยังไม่มีใครช่วยแบกภาระเรื่องงานในไร่กลัวจะไม่มีเวลาให้กับงานใหม่อย่างเต็มที่”


“เฮ้อ! ” พีระดาถอนหายใจ


“เป็นอะไรไปที่รักถอนใจทำไม มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” ภาคินัยถามคนรักอย่างห่วงใย

“เป็นห่วงนายหัวน่ะสิคะ รู้สึกกังวลยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกเหมือนกัน” ตาขวาของเธอกระตุกถี่


“คุณจะเป็นห่วงมันทำไม ก็เห็นมันหน้าบานออกไปหาคุณพยาบาลไม่ใช่เหรอ สงสัยมันจะไปง้อแฟน” “ก็นั่นน่ะแหละค่ะที่น่าเป็นห่วง คุณก็รู้นายหัวเมฆาเขาฉลาดเรื่องอื่นแต่ไอ้เรื่องแบบนี้”พีระดาส่ายหน้า




ณ หน้าโรงพยาบาลประจำจังหวัด


“คุณหมายความว่ายังไงคะฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด”


“ผมช่วยคุณเคลีย์พื้นที่จอดรถแล้ว ก็ตอนนี้คุณอยู่หอพักพยาบาลหน้าบ้านมีที่จอดรถจำกัดแค่คันเดียวในเมื่อมีรถที่ผมซื้อให้แล้วคุณจะเอามันไปจอดที่ไหนล่ะ ผมก็เลยส่งมันไปเชียงกงเรียบร้อย” เขายิ้มคงนึกว่าตนเองทำดี ซึ่งแท้ที่จริงเขาตั้งใจทำเพื่อเธอมาก


“คุณเอามันไปขายเป็นเศษเหล็กเหรอคะ” สีหน้าของสุชาวีราวกับคนถูกฟ้าผ่าตอนกลางวัน


นายหัวส่ายหน้า สุชาวีรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาเล็กน้อย “เปล่าผมไม่ได้ขายมัน แต่ให้พวกเชียงกงมาลากมันไปฟรีๆเลย”เขายิ้มหน้าบาน แต่คนที่หน้าคว่ำลงทันทีจากนั้นเลือดก็สูบฉีดจนสุชาวีหน้าแดงจัด

“เพี้ยะ!”


ทุกคนทั่วบริเวณนั้นรวมถึงตัวนายหัวเมฆาซึ่งกำลังยืนเป็นจุดเด่นต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากุมโหนกแก้มเขาไม่ได้เจ็บเพราะกำลังชา ไม่ได้อายเพราะไม่เคยสนใจใคร แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมสุชาวีถึงทำแบบนี้


“ทำไมสุชาวี!” นัยน์ตาคมเข้มมองสุชาวีอย่างเรียบเฉยแต่ภายในหัวใจลึกๆน้อยใจทำดีแล้วยังถูกตบ

“คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลย แต่โทรมาบอกรักฉันได้ทุกวันจะให้เชื่อได้ไง” พยาบาลสาวหันหลังวิ่งหนีไปทันทีปล่อยให้นายหัวเมฆยืนมองอย่างทำอะไรไม่ถูก หลายต่อหลายคนแทบไม่อยากเชื่อคนน่าดุอย่างนายหัวเมฆาโทรบอกรักผู้หญิงทุกวันได้แต่แอบลอบยิ้มกัน


“จะยิ้มอะไรกัน” เขาเครียดยิ่งเห็นหลายคนมองมาที่เขายิ่งไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี “ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆ มองอะไรกันไม่เคยเห็นคนถูกตบหรือไง” แค่นี้ก็ทำให้พวกที่ลอบยิ้มก้มหน้าหลบบเพราะเกรงกลัวนายหัวหนุ่ม
++++++++++++++++++++++


สุชาวีมองลานจอดรถหน้าหอพักที่ไอ้เจ้ากระป๋องเพื่อนรักมันเคยจอดอยู่ทุกวันตรงนี้อย่างอาลัยอาวรณ์หลายครั้งที่เธอเองก็อยากได้รถคันใหม่ที่นั่งสบายและสวยกว่ามัน แต่ไม่เคยคิดขายมันเพราะมันคือตัวแทนของพ่อและแม่สมบัติชิ้นเดียวของเธอ “ตอนนี้แกไปเป็นเศษเล็กอยู่ตรงไหน คนบ้าใจร้าย ไม่เคยรู้อะไรเลย”

นายหัวเมฆาเดินคอตกกลับไปที่ไร่พีระดากับภาคินัยที่กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานตามประสาคู่รักมองอย่างสงสัย


“ตอนมันไปเหมือนไก่จะบิน ดูสิมันกลับมาเหมือ....”ภาคินัยพูดขึ้นจากนั้นก็ถูกตีที่แขนดังเพี้ยะ


ฉันว่าแล้ว”พีระดายกมือลูบที่ใบหน้า “คุณไปเดินเล่นก่อนเดี๋ยวฉันมา ขอไปดูอาการเขาหน่อยท่าจะหนัก”


“ถ้าคุณทำแล้วสบายใจก็ตามใจคุณ”เขาลูบไหล่ภรรยาสุดที่รัก “แต่ห้ามไปดามอกให้มันนะ ผมหวง”


พีระดายิ้มหวานให้สามีสุดหล่อของเธอ “เรื่องนั่นหายห่วงค่ะ ในสายตาฉันคุณคือผู้ชายที่เพอร์เฟคทีสุด”

ไม่มีใครอยู่แถวนี้นี่นา ภาคินัยคว้าร่างภรรยาสาวดึงเข้ามาจุมพิตอย่างอ่อนโยนโดยมีต้นกาแฟเป็นแนวกำแพงป้องกันสายตาชั้นดีเขาอยากจะอุ้มเธอเข้าบ้านพักมากกว่า ถ้าพีระดาไม่ดันตัวออกห่าง

สายตาหวานเยิ้มอย่างรู้ทันสบตาภาคินัย “เรื่องของเราคืนนี้ค่อยไปสานต่อก็ได้ค่ะ ตอนนี้ฉันขอไปเป็นกามเทพสาวช่วยพระรองซะหน่อย”เธอกระซิบเขา ภาคินัยหมั่นเขี้ยวภรรยาสุดที่รักแต่ก็ยอมปล่อยเธอไป


+++++++++++++++++++++


นายหัวเมฆากำลังนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่คนเดียว พีระดาเคาะห้องเขาส่งเสียงตอบรับเธอจึงผลักประตูเข้าไป นายหัวเมฆาปิดสมุดลงและสิ่งยิ้มให้เธอ


“เป็นยังไงบ้างการมาฮันนีมูลของคุณสองคนครั้งนี้ ถ้าคุณต้องการอะไรบอกผมได้ตลอด”

“ฉันไม่ต้องการอะไรหรอกค่ะ แค่ที่พักสวยๆทีคุณจัดการเอาไว้บวกกับบรรยากาศดีๆและธรรมชาติที่สวยงามของที่นี่ฉันกับภาคินัยประทับใจมาก”


“ผมดีใจที่คุณรู้สึกแบบนั้น”เขาส่งยิ้มจริงใจแต่พีระดาเห็นความกลัดกลุ้มของเขาจากสายตา

“เป็นยังไงบ้างคะเห็นว่าคุณออกไปหาคุณพยาบาลมาง้อสำเร็จไหม เข้าใจกันดีหรือยัง”

“นี่ไง”นายหัวเมฆาเอียงแก้มทางซ้ายและชี้ให้พีระดาดู หญิงสาวทำตาโต


“ห้านิ้วเลยเหรอ คุณพยาบาลมือหนักใช่เล่น”

นายหัวเมฆาที่กำลังต้องการระบายความอัดอั้นให้ใครสักคนฟัง จึงเล่าเหตุการณ์ที่จะทำเซอร์ไพรซ์แฟนสาวให้เขาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ “ตกลงผมทำผิดอะไร”


พีระดาเดินเข้ามาใกล้ๆเขาสองมือทุบลงที่โต๊ะทำงานเขาเสียงดัง “นายหัวทำพลาดจนไม่น่าให้อภัยรู้ตัวไหมคะ” สีหน้าท่าทางของพีระดาทำให้เขาตกใจมาก


“อะไรกันคุณ ทำไมต้องซีเรียสมากมายขนาดนี้ด้วย ก็ผมแค่ทำเซอร์ไพรซเธอซื้อรถคันละเกือบสิบล้านให้แต่เธอกลับมาโกรธผมอีก ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมผู้หญิงแบบพวกคุณเข้าใจยากนัก”


พีระดากุมศีรษะ “ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณถึงครองโสดมาได้จนถึงวันนี้ โปรไฟล์ดี ทั้งหล่อ ทั้งรวย เสียดายไม่รู้ว่าฉันควรจะพูดว่าคุณซื่อหรือว่าบื้อไปหน่อยเรื่องความรัก”

ถ้าเป็นคนอื่นนายหัวเมฆคงโกรธแต่เขารู้ว่าพีระดาเป็นคนพูดตรง “ผมไม่เข้าใจอยู่ดี” เขากำลังเก็บสมุดเล่มเล็กๆเล่มนั้นเข้าลิ้นชักด้วยท่าทางหวงแหนเหมือนกลัวใครจะแอบดู พีระดาจึงยื่นมือไปจับมันเอาไว้


“นี่อะไรคะ สมุดเก่าๆ ขอดูหน่อยสิ”
นายหัวเมฆายื้อเอาไว้ “ไม่ได้หรอกคุณของรักของผม”
“สมุดเก่าเล่มนี่นะเหรอ” พีระดาแย่งเอาไปจากมือเขาและขว้างมันไปนอกหน้าต่างอย่างไม่แคร์สายตาคนตรงหน้านายหัวเมฆามีสีหน้าและแววตาตกใจและ ไม่พอใจ
“นี่คุณทำอะไรลงไปรู้ตัวไหมสมุดที่คุณขว้างทิ้งไปมันมีค่ากับผมมากนะ”

“อย่างนั้นเหรอคะ แต่ฉันเห็นมันเป็นแค่สมุดเก่าๆ เน่าๆยับๆเล่มหนึ่งเอง”เธอไหวไหล่

“คุณไม่รู้หรอกมันมีค่าทางจิตใจกับผมมากแค่ไหน” นายหัวเมฆาพูดจบและมองออกไปที่นอกหน้าต่างจากนั้นเขาคิดอะไรได้ขึ้นมาบางอย่างจึงมองกลับมาที่คนตรงหน้าและเห็นว่าพีระดาส่งยิ้มอ่นก่อนจะยักคิ้วให้


“ใช่สินะ ทำไมผมถึงโง่แบบนี้ ขอกอดคุณทีสิพีระดา” ไม่พูดเปล่าแต่คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอดก่อนพีระดาจะโวยวายว่าหายใจไม่ออก

“นายหัวปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะคุณตัวใหญ่ฉันหายใจไม่ออก...เดี๋ยวภาคินัยมาเห็นก็เป็นเรื่อง”
“ตกลง ผมขอโทษทีดีใจมากไปหน่อย”เขารีบปล่อยเธอให้เป็นอิสระ “ผมไปก่อนนะคุณ ขืนช้ากว่านี้จะไม่ทันการ ผมไม่อยากให้สุชาวีเกลียดหน้าผมไปจนตาย”

“นายหัวจะไปไหนคะนั่น” พีระดามองตามคนร่างสูงที่มีท่าทางรีบร้อน “ใจร้อนจริงๆ แต่ก็เป็นคนจริงใจดี” พีระดาหยักไหล่ จากนั้นมองไปยังนอกหน้าต่าง

เลขาสาวของนายหัวเมฆาแปลกใจที่จู่ๆพีระดาก็มาถามถึงที่อยู่ของคุณพยาบาล แต่เลขาแก้มก็ยอมบอกทางไปที่พักของสุชาวี พีระดาจึงขับรถเล็กๆที่ยืมมาจากไร่ของนายหัวไปหาสุชาวีที่บ้านพักเพียงลำพังเรื่องแบบนี้เธอคิดว่าควรจะไปคุยคนเดียวตามประสาผู้หญิง หากภาคินัยไปด้วยสุชาวีอาจจะเขินอาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพีระดามาพบสุชาวีและคุยกันนานเกือบราวๆ สองชั่วโมงจากนั้นพีระดาก็กลับออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้า ในขณะที่สุชาวีนั่งร้องไห้สะอื้นอยู่นานก่อนจะปาดน้ำตาที่นองหน้า และอีกสักพักหญิงสาวก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเก็บเสื้อผ้าใส่ลงในกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะออกจากบ้านพักไปและล็อคมันอย่างแน่นหนา
+++++++++++++++++++

ณ ไร่แสงตะวัน


ภาคินัยหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะตามหาคนรักไม่เจอ ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเขานายหัวเมฆาก็ไม่อยู่เพราะเขาไปหาที่บ้านแม่บ้านของนายหัวบอกว่าเห็นเขาออกไปข้างนอกหลังจากคุยกับคุณพีระดา นายหัวก็รีบร้อนขับรถออกไป


“ไปไหนของเขานะ โทรไปก็ไม่รับ” ภาคินัยเดินไปมาเขาหันหลังและต้องตกใจเมื่อเกือบจะชนใครบางคน เขารู้สึกคุ้นหน้าเธอ


“คุณ...เอ่อ…นี...”
เธอรีบจึงชิงตอบก่อน “นีรนารถค่ะ เราเคยพบกันแล้วฉันเคยคบกับยัยเขมมิกาอยู่พักหนึ่ง แต่ตอนนี้เลิกคบอย่างถาวรคนอะร้าย...เลวสิ้นดี” นีรนารถสาธยายออกมา ภาคินัยรู้สึกไม่พอใจผู้หญิงช่างเม้าท์คนนี้

“คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอครับคุณนีรนารถ”
“คือว่า” นีรนารถคิดจะอ่อยเหยื่อจับปลาสองมือถึงแม้ภาคินัยนักธุรกิจดังคนนี้จะแต่งงานแล้วก็ตามเธอเองก็เคยเล็งเขาเอาไว้เหมือนกันเสียแต่ว่าตอนนั้นเขาอยู่ในฐานะคู่ควงของเพื่อน เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นนักเขียนเพราะไม่ชอบอ่านหนังสืออะไรนอกจากซุบซิบดารา


“นายหัวเมฆาเขาขอให้ฉันมาเที่ยวที่ไร่น่ะค่ะ เขาบอกว่าอยากจะเปิดรีสอร์ทเลยต้องการหาที่ปรึกษา” เรื่องนี้เธอได้ยินพนักงานในไร่คุยกัน “นายหัวเขาไม่มีไอเดียในเรื่องแบบนี้อยากให้คนที่มีรสนิยมดีอย่างดิฉันช่วยเขาหน่อย” ถ้าไม่ได้เป็นคุณนายไร่นี้เป็นภรรยาลับๆของคุณภาคินัย นักธุรกิจคนดังและหล่อขั้นเทพคนนี้ก็ไม่เลวนัก นีรนารถกำลังคิดวางแผนชั่วร้าย

“ว่าแต่คุณล่ะคะมาทำอะไร เห็นจากข่าวคุณเพิ่งแต่งงานกับแม่นางแบบ....เอ้ย..คุณพีระดาที่เป็นนางแบบไปไม่นานนี้ไม่ใช่เหรอคะ อย่าบอกนะคะว่าเลิกกันเสียแล้ว” เธอรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้เพื่อจะอ่อยเหยื่อเขา

คำพูดของผู้หญิงคนนี้ยิ่งคุยกันยิ่งไม่เข้าหูเขาเลยให้ตายเขารำคาญเธอจริงๆ อยากให้มีใครพาเธอไปให้พ้นหน้าเขาเสียที

“ผมมาฮันนีมูนกับคนรักครับ และเธอก็มาด้วยเพราะเธอเป็นเพื่อนกับเจ้าของไร่” นีรนารถยิ้มแหย

“อย่างนั้นเหรอคะ”


“ทำอะไรอยู่คะที่รัก” พีระดาเรียกสามีหนุ่มสีหน้ายิ้มแย้มท่าทางอารมณ์ดี ภาคินัยรีบหันกลับไปมอง “ที่รักคุณไปไหนมาครับผมตามหาจนทั่วไร่ โทรเข้ามือถือคุณก็ไม่ยอมรับสายผมห่วงคุณจะบ้าตายอยู่แล้วทำไมไปไหนไม่บอก” สายตาแสดงความห่างใหญ่และคว้ามือของคนรักมาจับไว้ นีรนารถยิ่งเห็นยิ่งหมั่นไส้ช่วงนี้เธอไม่ชอบเห็นคนรักกันอยู่ด้วย
“ไปดีกว่า” นีรนารถเดินเชิดไปอีกทางอย่างไม่ได้ล่ำลาใคร

“นั่นมันคุณนีรนารถ เพื่อนคุณเขมมิกาไม่ใช่เหรอคะเมื่อก่อนฉันเคยเห็นเขาสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ”

ภาคินัยไหวไหล่ “อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลย ว่าแต่คุณไปไหนมา ไปแอบซุกซนที่ไหนมาทำให้ผมต้องเป็นห่วง มาให้ผมทำโทษซะดีๆ” พูดจบเขาก็มองภรรยาคนสวยตาเยิ้ม เมื่อพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแบบนี้อากาศเย็นของไร่กาแฟที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาไม่มีอะไรจะดีกว่าการเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ

“ว้าย! จะทำอะไรคะที่รักปล่อยนะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” พีระดาทุบที่หน้าอกของเขาเบาๆ แต่เห็นสายตาเจ้าเล่ห์นั้นทอดมองลงมา “ก็คนมาฮันนีมูนกันเขาทำอะไรกันล่ะ”
“นี่ยังไม่ค่ำเลยนะคะ” พีระดาม้วนอายหน้าแดงจัด

“ไม่ยากหรอกถ้าคุณอยากให้ค่ำผมปิดม่านปิดไฟก็ได้ ได้บรรยากาศตอนค่ำ”

“คนบ้า”พีระดาหันหน้าหนีแต่ก็ไม่ได้ดิ้น นีรนารถที่แอบลอบมองมาด้วยความอิจฉาสะบัดสะบิ้งกลับที่พักของตนเองไป “เกลียดนักคนรักกัน ทำไม๊ ทำไมคนสวยอย่างฉันไม่เห็นมีใครรักสักที”

ค่ำคืนนั้นภาคินัยพาภรรยาสาวของเขาไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ด้วยกันสองคนไม่รู้กี่ครั้งกี่หนจนเธอแทบจะสำลักความสุขที่เขาหยิบยื่นให้ ภาคินัยต้องสะดุ้งและรู้สึกแปลกใจเมื่อหญิงสาวส่งมือเรียวมาลูบไล้บริเวณหว่างขาของเขาด้วยท่าทางใจกล้าแต่หน้าแดงจัด


“ที่รักคุณจะทำอะไรกับมัน อย่าบอกนะว่าคุณคิดจะ….” เขามองที่ริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธออย่างเจ้าเล่ห์แต่ผมไม่ว่าอนุญาตคุณตามสบาย


“คนบ้า” เธอทุบหน้าอกเขาเบาๆ “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อยแค่อยากรู้ว่าที่คุณบอกนายหัวเมฆมันจริงหรือเปล่า” พีระดายิ้มเขิน

“คุณได้ยินด้วยเหรอ”เขายิ้ม เธอพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นลองวัดดูไหม” สายตาเจ้าเล่ห์

“คนบ้าทะลึ่ง”พีระดาหหันหน้าหนี


“มานี่เลยจะหนีไปไหน” ภาคินัยเอาผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างเขากับภรรยาคนสวยต่อจากนั้นทั้งคู่ก็หยอกล้อกันตามประสาคู่รักอยู่ใต้ผ้าห่ม ได้ยินเพียงเสียงครางกระเซ่าออกมาเป็นระยะๆแทบจะตลอดทั้งคืนจวบจนรุ่งสางพีระดาจึงได้นอนหลับท่ามกลางความอบอุ่นและกลิ่นไอของความรักที่ลอยวนอยู่รอบกายของคนที่หัวใจตรงกัน


+++++++++++++++++++++++
พีระดาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังโหวกเหวกจึงงัวเงียตื่นขึ้นมาและปลุกสามีให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะออกไปนอกบ้านด้วยกันเสียงนั้นเงียบไปแล้ว

“นายหัวคะจะไปไหนคะเนี่ย” นายหัวเมฆากำลังแบกกระเป๋าใบโตแต่งตัวทะมัดทะแมงเหมือนกำลังเดินทางไปไหน และเห็นเลขาของเขากำลังฉุดกระฉากรั้งกระเป๋าใบนั้นเอาไว้


“ปล่อยสิผมบอกให้ปล่อย คนจะรีบไปจะมาดึงทำไมกันเนี่ย”


“ไม่ได้นะคะนายหัวจะไปไหนไม่ได้ พรุ่งนี้เรามีเรื่องสำคัญนะคะถ้านายหัวไม่อยู่แก้มจะทำยังไง”

“เรื่องของเธอสิ เรื่องแค่นี้หัดช่วยตัวเองบ้างไม่ได้รึไงต้องให้ผมช่วยทุกครั้งไป”
“นายหัวช่วยแก้มอีกครั้งเถอะค่ะเพื่อไร่ของเรานะคะ ได้โปรดๆ”

“อะไรกันคะเนี่ย” พีระดามองคนทั้งคู่ที่อีกคนยื้อเอาไว้ อีกคนก็พยายามจะไปให้ได้แล้วนั่นรถคันก่าสีของสุชาวีทำไมมาจอดที่ไร่

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะทำไมคุณสองคนมายื้อยุดชุดกระชากกัน แล้วนายหัวจะไปไหน รถคุณพยาบาล”พีระดามองด้วยความสงสัยภาคินัยก็เช่นกัน
“นายหัวน่ะสิจะไปกรุงเทพฯ ไปไหนก็ไม่รู้แต่แก้มจะปล่อยนายหัวให้ไปแบบนี้ไม่ได้ ก็นายหัวสัญญากับแก้มเอาไว้แล้ว”


“นี่เธอหัดช่วยตัวเองบ้างสิ ใครจะช่วยเธอได้ตลอดทุกครั้ง ให้คนอื่นช่วยไปก่อนก็แล้วกัน”

พีระดามองคนทั้งคู่และหันไปสบตากับภาคินัย ไม่อยากคิดว่าทั้งคู่จะเกินเลยกันมากกว่าความเป็น ลูกน้องกับเจ้านายเหมือนที่สุชาวีกำลังตั้งข้อสงสัย


“คนอื่นช่วยแก้มมันก็ไม่ทำให้แก้มสำเร็จได้เหมือนที่นายหัวช่วย”

“นี่มันหมายความว่ายังไงกันคะ คุณกับเลขา”พีระดามองนายหัวเมฆาอย่างรอคำตอบ ถ้าเป็นจริงแบบที่สุชาวีตั้งข้อสงสัยสิ่งที่เธอลงทุนทำไปทั้งหมดมันคงสูญเปล่า


“ก็ยัยแก้มนี่สิจะให้ผมอยู่ช่วยออดิต ตั้งหลายครั้งหลายหนเขามาออดิตทีไรผมก็ต้องช่วยทุกทีไปไม่มีเจ้านายที่ไหนเขาไปช่วยลูกน้องออดิตหรอกนะ แต่ครั้งนี้ยังไงก็ไม่มีทางพรุ่งนี้ผมมีธุระด่วน เชิญไปหาตัวช่วยเอาเอง” เลขาสาวหรือญาติผู้น้องท้าวเอวและปล่อยกระเป๋าเดินทางนายหัวทันที


“ตามใจไร่ของนายหัว แก้มออดิตไม่ผ่านไร่ไม่ได้ ไอเอสโอ อย่ามาว่าแก้มนะ” เลขาคนสวยงอนเหมือนเด็ก



“โธ่ เธอช่วยพี่หน่อยไม่ได้เหรอไง นะ นะ” พอจะขอร้องให้ทำงานอะไรนายหัวก็จะเรียกตัวตามศักดิ์ว่าพี่เรียกเลขาสาวว่าน้อง ซึ่งเขาจะเรียกตนเองแบบนี้ตั้งแต่เธอเริ่มทำงานแต่เลขาสาวขอร้องไม่อยากให้คนในไร่ว่าเธอเป็นเด็กเส้น


“ออดิต ไอเอสโอ” พีระดากระพริบตาถี่ๆ ภาคินัยหยักยิ้มและไหวไหล่ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่”

“ก็นายหัวช่วยแก้มออดิตทุกครั้ง ก็แก้มตอบคำถามไม่ค่อยเก่งนี่คะ คราวนี้เป็นการออดิตจากภายนอกมันสำคัญมาก นายหัวยังจะหนีไปกรุงเทพฯอีก แก้มถามว่าไปไหนก็ไม่ยอมบอก” เลขาสาวมีสีหน้าปั้นปึง
พีระดามองกระเป๋าใบโตของนายหัวเมฆาดูท่าทางคงจะไปนานหลายวัน
“แล้วนายหัวจะไปไหนเหรอคะ”


นายหัวเมฆาไม่ตอบคำถาม ใครจะกล้าบอกว่าไปตามหาแฟนนายหัวเมฆารีบไปตามหารถเก๋งคันเก่าของสุชาวีจนพบก็รีบพาไอ้เจ้ากระป๋องลูกรักไปหาสุชาวีที่บ้านพักกะจะขอโทษ และปรับความเข้าใจกับเธอเขารู้แล้วว่าของบางอย่างที่ดูาไม่มีราคามันอาจจะมีคุณค่าทางจิตใจเหมือนสมุดโน๊ตเล่มนั้นที่พีระดาโยนของเขาทิ้งไปซึ่งเมื่อคืนเขาก็ไปหามันแต่หไม่พบ เพราะเขากลัวคนงานจะเจอมันและหยิบไปอ่าน เขาคงได้อายขายขี้หน้าไปทั่วไร่



“จะไปไหนก็ไม่รู้ ถามอะไรก็ไม่ตอบคนไม่มีความรับผิดชอบเชอะ” เลขาสาวสะบัดหน้า “ วันศุกร์ที่ไร่ก็จะมีซ้อมดับเพลิง ทีมพยาบาลประจำไร่ก็เกิดปัญหาเพราะคุณสุชาวีเขาลาพักร้อนยาว แก้มกลุ้มใจพออยู่แล้วนายหัวยังมาหนีออดิตอีก” เลขาแก้มเสริม

“เรื่องบางเรื่องพวกไม่มีประสบการณ์ด้านความรักอย่างเธออธิบายให้ฟังก็ไม่เข้าใจ” นายหัวเมฆาโต้ พีระดาถึงบางอ้อเมื่อจับเรื่องราวมาประติดประต่อกัน “เข้าใจแล้วล่ะ” พีระดารู้แล้วนายหัวคงรู้ว่าคุณพยาบาลหายตัวไปคงจะไปตามแฟนแต่ไม่กล้าบอกคุณแก้มเพราะนายหัวกลัวเสียหน้า

“เอาน่ายัยแก้มคราวนี้พี่ฝากหน่อยละกัน เดี๋ยวปลายปีจะขึ้นเงินเดือนเพิ่มให้อีกสองเปอร์เซ็น ส่วนคุณพีระดาคุณพักให้สบายนะ ถึงผมจะไม่อยู่ที่ไร่ก็ขอให้คิดว่าที่นี่เป็นบ้านคุณผมมีธุระด่วนต้องรีบไปทำก่อนแล้วผมจะโทรมาหาหวังว่าคุณคงอยู่รอผมกลับมานะ”

“โหย...ใช้เยี่ยงทาสขึ้นเงินเดือนให้สองเปอร์เซ็นต์เอง นายหัวเขี้ยว”เลขาสาวยังกระเง้ากระงอด

จากนั้นนายหัวเมฆาก็รีบตั้งหน้าตั้งตาหนีไปขึ้นรถเพราะขี้เกียจเถียงกับเลขาแก้ม

“นายหัวอย่าเพิ่งไปค่ะ” พีระดาเรียกเขาเอาไว้แต่นายหัวเมฆาคงจะคิดถึงแต่หน้าคนรักจนไม่ได้ฟังเสียงของเธอ “นายหัวคะ ไม่ต้องไปตามหรอกค่ะ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไปค่ะ” พีระดาพยายามเรียก

“ตามใครกันคะ นายหัวจะไปตามหาใครแก้มไม่เข้าใจค่ะคุณสุชาวี”

“ตามแฟนน่ะค่ะ นายหัวคงเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว คงคิดว่าคุณพยาบาลหนีไป”
“อ้าว!” เลขาแก้มตาโต “นายหัวกับคุณพยาบาลคนสวยเป็นแฟนกันจริงๆเหรอเนี่ย อย่างนั้นที่แก้มเห็น
นายหัวจูบคุณพยาบาลคืนนั้นแก้มก็ไม่ได้ฝันน่ะสิ” เมื่อพูดจบแล้วก็รีบปิดปาก แต่พีระดากับภาคินัยได้ยินเต็มสองหูได้ยินแล้วว่านายหัวไปจูบคุณพยาบาลที่ท้ายไร่ นี่คงเป็นอีกเรื่องที่ทำให้สุชาวีโกรธนายหัวพีระดาคิด


“มันอะไรกันคุณผมชักงงๆเหมือนกัน แล้วทำไมไอ้ล่ำมันจะต้องไปตามคุณพยาบาลด้วย”ภาคินัยเกาศีรษะ

“เอาเป็นว่าเรื่องความรักของสองคนนี้กว่าจะลงตัวกันได้ คงทำให้คุณเขียนนิยายเรื่องยาวได้สักเรื่องก็นายหัวทั้งใจร้อน ทั้งมาดเยอะ คุณพยาบาลเธอน่ารักแต่คิดมากคิดว่าตนเองต้อยต่ำไม่เหมาะสมกับนายหัว”


เสียงรองเท้าส้นสูงมาหยุดอยู่ด้านหลังของคนทั้งคู่ก่อนจะมีเสียงกรี๊ดด้วยความดีใจ จากนั้นร่างบางนางแบบของสุชาวีก็ถลันไปหาเจ้ากระป๋องรถคู่ใจของเธอทันที


“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันคิดว่าแกกลายเป็นเศษเหล็กไปแล้วซะอีก” สุชาวีลูบคลำมันอย่างเบามือราวกับว่ามันเป็นคน น้ำตาเธอคลอเบ้ารื้นขึ้นมาทันทีเมื่อคิดว่าใครกันพามันกลับมามันคงไม่ง่ายกับการไปตามหารถที่ส่งไปชำแหละในเชียงกงซึ่งเป็นแหล่งขายอะไหล่รถยนต์มือสอง

“เห็นไหมคะภาคินัยคนนั้นไปคนนี้มา มันจะจบง่ายๆได้ยังไงฉันว่าความรักของเขาชักจะเหมือนนิยายอินเดียเข้าไปทุกทีแล้ว” พีระดากระซิบข้างหูภาคินัย


“คุณก็ช่วยให้มันจบเร็วๆๆหน่อยสิพีระดา” ภาคินัยไหวไหล่และเห็นคุณพยาบาลกำลังเดินเข้ามา

“คุณสองคนเห็นนายหัวบ้างไหมคะ” สุชาวีถามพร้อมกับรอยยิ้มปนคราบน้ำตา
++++++++++++++++++++++++++++


สองวันผ่านไป ณไร่แสงตะวัน

“เราจะมานั่งมองคนเขาสวีทกันทำไมเนี่ยลิลลี” สองเพื่อนซี้มองภาคินัยกับพีระดาที่พากันเดินชี้นกชมไม้สองสาวต่างเพศเบ้ปากอย่างหมั่นไส้


“กลับกรุงเทพฯกันเถอะนายหัวเมฆาไปไหนก็ไม่บอก โทรไปก็ไม่รับแล้วเธอจะให้ฉันไปอ่อยเขายังไง แถมข่าวลือเรื่องนายหัวกับแม่พยาบาลนั่นก็หนาหูมันจะต้องมีมูลความจริงอยู่บ้าง”


“ใจเย็นๆสินีรนารถ อย่าลืมสิ ด้านได้อายอด ตราบใดที่เขายังไม่ได้แต่งงานกันทุกคนย่อมมีสิทธิ์ในตัวนายหัวเท่าเทียมกันทั้งนั้น”ลิลลีลอบยิ้มและตบไหล่นีรนารถเป็นเชิงให้กำลังใจ

ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างออกรส นายหัวเมฆาก็ขับรถคู่ใจเข้ามาภายในไร่ผ่านหน้าทั้งสองไป สักพักก็ดับเครื่องยนต์และเดินลงมาจากรถด้วยสภาพใบหน้าเขาดูอิดโรยแถมยังมีท่าทีเหมือนคนเมากลับมาอีก

“นี่ไงโอกาสของเรามาถึงแล้ว”ลิลลีส่งยิ้มให้กับนีรนารถ “โอกาสทอง คราวนี้ห้ามพลาด”

นายหัวเมฆาไปตามหาสุชาวีที่โรงแรมที่เขาเคยพาเธอไปพักก็ไม่มีแม้แต่วี่แวว บ้านญาติห่างๆที่พอหลงเหลืออยู่ในกรุงเทพซึ่งสุชาวีเคยเล่าให้ฟังเขาก็ตามไปแต่ไม่มีซึ่งวี่แวว “คุณคิดจะทิ้งผมไปจริงๆเหรอสุชาวี ถ้าไม่สมหวังกับคุณอีกต่อไปนี้นายหัวแมฆาจะเลิกรักจริงหวังแต่งแล้ว”

เขาเดินโซซัดโซเซกลับไปที่บ้านเมื่อนายหัวเมฆาเสียหลักกำลังจะล้มก็พบว่ามีคนเข้ามาพยุงแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้

“นี่ใครเนี่ย ครายยยยยกันหน้าตาประหลาด” นายหัวกำลังมึนเมาอย่างหนักเขาไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นชายหรือหญิง

“นีรนารถกับเพื่อนเองค่ะไปเถอะค่ะนายหัวเราสองคนจะพานายหัวเข้าบ้านเองนะคะ ไปค่ะไป”


“ใครปล่อยปลาพยูนมาเดินในไร่วะเนี่ย” นายหัวเมฆามองหน้าลิลลีคืนนี้เขาเมาหนัก และมองหน้านีรนารถและก็หัวเราะ นี่มันผีจูออนรึเปล่าเนี่ย” สองสาวหน้างองอนนายหัวที่เปรียบเทียบซะเสียหายแต่ก็ไม่ล้มเลิกแผน


นีรนารถและลิลลีช่วยกันพยุงนายหัวเข้าไปในบ้านอย่างมีแผนการ ลิลลีบอกให้นีรนารถอยู่ดูแลนายหัวส่วนเธอเองเข้าไปในครัวเตรียมอ่างแก้วบรรจะน้ำสะอาดและผ้าเช็ดหน้ามาให้ “นายหัวคะนายหัว”

เขาหลับสนิทบนโซฟา นีรนารถลอบยิ้มเมื่ออ้อยกำลังจะเข้าปากช้าง “สงสัยความฝันจะได้เป็นคุณนายไร่กาแฟคงใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว”เธอฉีกยิ้มกว้าง “คนอะไรเมาเหมือนหมา ยังหน้าตาดีเลย” เธอก้มไปมองหน้าเขา


“นีรนารถเพื่อนเลิฟ ลิลลีมาแล้วจ้า” สาวประเภทสองร่างยักษ์นั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามและวางถาดลง

“อะไรลิลลี จะเช็ดตัวให้นายหัวเหรอ เดี๋ยวเขาก็ตื่นหรอกจะเสียแผนเราหมด”

“ผ้าเช็ดหน้าผสมยาสลบอ่อนๆน่ะนายหัวจะได้หลับสนิทไม่ลุกขึ้นมาโวยวายอีกยังไงล่ะ”

นีรนารถลอบยิ้ม “ฉลาดจริงๆเพื่อนรัก มะถ้าอย่างนั้นรีบเช็ดเลยดีกว่า” นีรนารถเอาผ้าสะอาดที่ลิลลีเตรียมมาให้ชุบน้ำบิดเบาๆผ่านไปสักพักจากที่นายหัวสลึมสลือก็เหมือนว่าจะฟื้นขึ้นมาแบบไม่รู้สึกตัวนายหัวเมฆามีอาการแปลกๆ แต่ไม่เป็นตัวของตัวเอง ส่วนนีรนารถหลับสนิท

“นีรนารถๆ ” ลิลลีฟาดมือลงบนแขนของนีรนารถแรงๆแต่เธอก็ไม่รู้สึก “นังโง่ หลับซะส่วนนายหัวเพื่อนจะช่วยพาไปขึ้นนสวรรค์ให้เอง” ลิลลีใส่ยานอนหลับที่ซึมผ่านผิวหนังและจะหลับสนิททันทีที่สัมผัสน้ำในอ่างแก้ วยังไม่ทันที่นีรนารถจะเช็ดตัวให้นายหัวเธอก็หลับไปก่อน ลิลลีบรรจงป้อนน้ำให้นายหัวเมฆาซึ่งมันผสมยาบางอย่างที่เธอได้มาจากประเทศแทบแอฟริกาเชื่อกันว่าใครได้กินเพียงหยดเดียวไม่ว่าสั่งให้ทำอะไรก็จะทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข


ลิลลีหันไปมองมองนายหัวเมฆาและแลบลิ้นก่อนจะเลียริมฝีปากหนาสายตาหื่นกระหายจากนั้นก็พูดกับนายหัวเมฆา “เดินตามลิลลีมาค่ะนายหัวเราไปเล่นอะไรกันสองคนในห้องนายหัวดีกว่า” เขาเดินตามสาวประเภทสองเข้าไปในห้องนอนของตนเอง


“แล้วในที่สุดความฝันของลิลลีก็เป็นจริงสัเสียที”ลิลลีรูปหน้าคมของนายหัวอย่างหลงไหล

“จำได้ไหมคะนังกระเทยที่ไม่ค่อยสวยแต่รักจริงคนนี้คนที่นายหัวเคยช่วยชีวิตเอาไว้”
ลิลลีนึกภาพตอนที่นิตยสารดังมาขอสัมภาษณ์นายหัวเมฆาที่ไร่แห่งนี้เธอเป็นช่างแต่งหน้ามากับทีมนิตยสารดังเธอเห็นนายหัวครั้งแรกก็หลงรักอย่างคลั่งไคล้แม้จะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขาทำให้เธอประทับใจจนลืมไม่ลงหลังถ่ายทำเสร็จบันดาช่างภาพ ผู้สื่อข่าวรวมถึงพวกช่างแต่งหน้าพากันชมไร่ลิลลีไปชมน้ำตกท้ายไร่และบังเอิญลื่นล้มคนที่ช่วยชีวิตเธอคือนายหัวหนุ่มคนที่กำลังหลับสนิทในเวลานี้ เธอได้พบเขาอีกครั้งเมื่อคืนงานแสดงแฟชั่นโชว์และบังเอิญที่เพื่อนสนิทอย่างนีรนารถมาปรึกษาปัญหาลิลลีจึงวางแผนการโดยใช้นีรนารถเป็นสะพานให้ตัวเองได้ใกล้ชิดนายหัว

“นอนลงค่ะนายหัว และแก้ผ้า ถอดให้หมด” ลิลลีออกคำสั่งซึ่งเขากำลังจะทำตามแต่แล้วจู่ๆกระเทยสาวร่างยักษ์ที่กำลังถอดกางเกงของตนออก็ต้องตกใจเมื่อฝ่าเท้าไม่รู้กี่เท้ารุมเข้าไปหาเธอย่างไม่บันยะบันยัง เสียงลิลลีครางดังไปทั่วห้องก่อนที่ชายหลายคนจะลากเธอออกไปนอกห้องของนายหัวเมฆา

“บุญคุณครั้งนี้ใหญ่หลวงเลยนะไอ้ล่ำ มาช้าอีกนิดพ่อไม่อยากจะคิดจริงๆ” ภาคินัยมองเจ้าของไร่หนุ่มที่ตอนนี้หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว เขากำลังจะออกไปหยิบของในรถบังเอิญเห็นนายหัวเมฆากลับเข้ามาที่ไร่และเห็นนีรนารถกับลิลลีเข้าไปช่วยประคองภาคินัย เจาจำเรื่องที่บังเอิญได้ยินคนทั้งคู่คุยกันเมื่อสามวันก่อนได้เขาจึงตามมาดูที่บ้านพักของนายหัวเมฆาลอบดูทางหน้าต่างเมื่อเห็นท่าไม่มีดีจึงไปตามคนงานให้มาช่วย

+++++++++++++++++++++++

นายหัวเมฆาปวดศีรษะและคอแห้งอย่างหนักเขารู้สึกว่าหนังตาหนักอึ้งราวกับมีอะไรมากดทับแต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องลืมตาขึ้นมาแม้ว่ามันจะทำได้ยากคงเป็นเพราะน้ำเสียงเล็กๆทีกระซิบที่ข้างหู

“เป็นยังไงบ้างคะที่รัก รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม”

“สุชาวี! ผมฝันไปใช่ไหมก็คุณหนีผมไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขารำพันคิดว่าตนเองฝันไป

สุชาวีเฝ้าเพียรปฐมพยาบาลให้เขาตลอดทั้งวันทั้งคืนสองวันเต็มๆกว่านายหัวเมฆาจะเริ่มรู้สึกตัว ยาที่ลิลลีใส่ให้นายหัวเมฆาแรงมาก ทางการแพทย์เองก็ยังไม่มีชื่อของมันวิธีที่ดีที่สุดก็คือรอให้ยาคล่อยๆคลายฤทธิ์ของมันไปเองโดยพยายามให้คนไข้ดื่มน้ำมากๆเพื่อทำให้ฤทธิ์ของยาจือจางลงและถูกขับออกทางปัสสาวะ

“นายหัวไม่ได้ฝันค่ะฉันกลับมาแล้ว และอยู่ข้างๆคุณตอนนี้และจะอยู่ข้างคุณตลอดไป เป็นพยาบาลคู่ใจของนายหัวดูแลนายหัวคนเดียวเท่านั้น” สุชาวีรีบวางสมุดบันทึกเล่มหนาที่ได้มาจากพีระดาและกอดนายหัวเมฆาเอาไว้แน่นเต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย เธอสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดแม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2555, 08:55:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2555, 09:12:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 3968





<< ตอนที่ 31   ตอนที่ 33 (ครึ่งแรก) >>
อัปสรา 5 ก.ย. 2555, 09:49:17 น.
แบบว่าตอนนี้ยาวมากมาย ไม่รู้คนอ่านลืมตอนก่อนๆไปหรือยัง


ยุพากร 5 ก.ย. 2555, 13:40:29 น.
ตอนนี้จุใจจริงๆ ค่ะ ชอบค่ะ ยาวแบบนี้ ยังไม่ลืมตอนเก่าหรอกค่ะ สนุกมากค่ะ


kaero 5 ก.ย. 2555, 13:57:22 น.
อ่านแบบจุใจเลยค่ะ คุณนก ขอบคุงนะคร๊า


อัปสรา 5 ก.ย. 2555, 14:25:03 น.
สวัสดีค่ะคุณยุพากร คุณกบ หายไปนานก็เลยมาแบบยาวๆค่ะวันนี้


tam 5 ก.ย. 2555, 19:34:01 น.
เย้ นายหัวล่ำจะถึงตอนหวานกิ๊วๆแล้ว รอมาตั้งนานแน่ะค่ะ ^^


goldensun 5 ก.ย. 2555, 20:02:38 น.
ยังจำได้อยู่ค่ะ ยาวจุใจดีค่ะ แต่คำผิดหลายจุดเลยนะคะ
เข้าใจกันได้ซะที นายหัวกับคุณพยาบาล ต้องขอบคุณเมฆากับพีระดานะ ไม่งั้นอาจขาดกันไปแล้ว
ตัวแทรกเล่นแรงขนาดนั้น


lovemuay 5 ก.ย. 2555, 20:53:10 น.
ยังไม่ลืมค่ะ ตอนหน้าขอยาวๆ แบบนี้อีกนะคะ ^^


หนอนฮับ 5 ก.ย. 2555, 22:05:48 น.
จุใจเลยจริงๆ อิอิ


อัปสรา 5 ก.ย. 2555, 22:24:10 น.
ขอโทษทีค่ะนั่งปั่นตอนกลางคืนเวลาเขียนน้อยมากเลย คำผิดหลุดเพียบ


อัปสรา 5 ก.ย. 2555, 22:24:45 น.
ที่จริงรีไรต์ไปมากแล้วแต่สงสัยจะไม่ได้เอามาลง


กาซะลองพลัดถิ่น 6 ก.ย. 2555, 00:55:13 น.
ยาวซิคะดี อ่านจุใจไปเลย ภาคินัยกับพีระดาสวีทกันมากมายเกินหน้าเกินตาไปหรือปล่าวเนี่ยะ ขนาดมีรอยลิปสติกยังไม่ว่าอะไรเลย ....แต่ที่ขำมาก ๆ คือนายหัวกับคุณพยาบาล อ่านไปขำไป มาดนายหัวหายไปหมดเลย เฮ้อ ความรักมันดีอย่างนี้นี่เอง แต่ยาที่เอามาให้นายหัวกิน น่ากลัวจัง


อัปสรา 6 ก.ย. 2555, 09:56:22 น.
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะดีใจจริงๆที่ยังไม่ลืมกัน เขาเวลาน้อยมากได้เขียนนิยายแค่ ช่วง 4 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืนเอง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account