โฮ่งเหมียวเกี่ยวรัก (จบแล้วค่ะ)
ท่ามกลางความต่างและเกลียดชัง...อาจพบความหวานที่เติมเต็มหัวใจ
เมื่อคนรักหมาต้องมาเลี้ยงแมว...และคนรักแมวต้องมาเลี้ยงมา เพื่อ
ชิงแชมป์ตำแหน่งสุดยอดครูฝึกสัตว์เลี้ยง คู่อริตลอดกาลต้องมาเป็นคู่แข่ง
จะน่ารัก อลหม่าน แมวๆโฮ่งๆ ขนาดไหนต้องติดตามค่ะ
Tags: แมว,หมา,รักหวานแหวว,สัตว์เลี้ยง

ตอน: 3 :: เจ้าแมวแสนงอน

“ลีน่ามานี่เร็ว อย่างอนได้ไหม ไม่งั้นจะปีนขึ้นไปจับตัวละนะ” ศรัณย์ถอนใจยาวเมื่อเห็นแมวน้อยขี้งอนเกาะอยู่บนต้นไม้แน่นไม่ยอมลงมา เขารู้ตัวว่าคราวนี้เขาฝึกลีน่าหนักเกินไป มันจึงกระโดดหนีขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ลีน่าได้แต่ร้องเหมียวๆเป็นเชิงปฏิเสธ หนวดของมันแผ่ออกไปข้างแก้มกลมแสดงให้รู้ว่าเวลานี้กำลังเครียด

“ถ้าลงมาจะให้ของเล่นชิ้นนี้ตกลงไหม แล้ววันนี้เราจะไม่ฝึกกันอีก”ศรัณย์ยื่นของเล่นที่มีลักษณะเป็นคันเบ็ดที่ห้อยผ้ายัดนุ่นเย็บเป็นรูปปลา พลางโยกไปมาให้เจ้าแมวที่ยังคงเกาะกิ่งไม้แน่นดู ลีน่าจ้องมองของเล่นอยู่ครู่หนึ่งราวกับชั่งใจว่าควรจะลงมาดีไหม แต่ในที่สุดก็ยอมกระโดดผลุงลงมาแต่โดยดี ศรัณย์ยิ้มน้อยๆแล้วยื่นของเล่นให้กับลีน่าที่ยื่นจมูกเพื่อสำรวจของเล่นชิ้นนั้นจนแน่ใจว่าปลอดภัยดีแล้วค่อยคว้าไปเล่นอย่างอารมณ์ดี

“วันนี้ลีน่างอแงอีกแล้วเหรอคะ” เสียงใสๆดังขึ้นด้านหลัง กานต์สิรีในชุดเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกระเป๋าลากใบย่อม ใบหน้าของกานต์สิรียังคงได้รับการแต่งแต้มไว้อย่างสวยงาม ผมรัดเป็นมวยไว้อย่างเรียบร้อย แม้ว่าจะมีร่องรอยความอิดโรยปรากฏให้เห็นบนใบหน้างามนั้น แต่กานต์สิรีก็ยังคงดูสวยสง่าสมกับเป็นพรีเซนต์เตอร์ประจำสายการบิน ‘Easy Fly’

กานต์สิรีเป็นลูกติดของกนิษฐาผู้แม่เลี้ยงของเขา หญิงสาวย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขาตอนที่มีอายุได้เพียงสองขวบ เวลานั้นเขาอายุหกขวบ กนิษฐาเป็นแม่เลี้ยงใจดีและเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกชายแท้ๆ ศรัณย์จึงยอมเปิดใจยอมรับกานต์สิรีให้เป็นน้องสาวของเขาได้ไม่ยาก กานต์สิรีเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแง เรียบร้อย และรักสวยรักงามตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเมื่อโตขึ้นหญิงสาวจะเลือกอาชีพที่ต้องอาศัยคุณสมบัติความสวยงามอย่างนางฟ้าบนเครื่องบิน

“อ้าว กานต์ วันนี้กลับมาค้างที่บ้านเหรอ แสดงว่าคราวนี้ได้หยุดหลายวันล่ะสิ” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆและกางแขนโอบกอดหญิงสาวที่โถมตัวเข้าหาด้วยความคิดถึง แม้กานต์สิรีจะโตเป็นสาวแล้ว เธอก็ยังออดอ้อนเขาเหมือนครั้งเป็นเด็กไม่มีเปลี่ยน

“กานต์ขอลาพักร้อนอาทิตย์นึงค่ะ ตอนแรกว่าจะไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อน แต่คิดดูอีกทีกลับบ้านดีกว่า ไม่อย่างงั้นพี่รัณคงจะลืมหน้ากานต์แน่ๆ ได้ข่าวว่าตอนนี้พี่เนื้อหอมมีสาวๆมาติด ไม่รู้ล่ะ กานต์ไม่ยอม ยังไงพี่ก็ต้องรักกานต์คนเดียว” หญิงสาวพูดทีเล่นทีจริง แต่ศรัณย์รู้ว่ากานต์สิรีไม่ได้พูดเล่น หญิงสาวเคยสารภาพรักกับเขาตรงๆว่าเธอรักเขามาตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่น และจวบจนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจ แม้จะมีชายหนุ่มที่เพียบพร้อมมากมายมาจีบ กานต์สิรีก็ไม่เคยคบหาใคร เธอยังคงรอวันที่ศรัณย์จะเปิดใจรักเธอในฐานะคนรัก

ศรัณย์มองกานต์สิรีด้วยความรู้สึกหนักใจ เขาปฏิเสธไม่ได้ว่ากานต์สิรีคือผู้หญิงที่เขาควรจะรักและเธอก็ไม่ได้เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกับเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกเกินเลยกับกานต์สิรีมากไปกว่าน้องสาว เพราะเมื่อศรัณย์นึกถึงใครสักคนที่เขาอยากจะรัก ภาพดวงหน้าถือดีของหญิงสาวคนหนึ่งมักจะลอยเด่นขึ้นมา ดวงตาของเธอฉายแววเกลียดชังเขาอย่างไม่ปิดบัง จมูกรั้น ริมฝีปากที่เผยอยิ้มอย่างเยาะๆและมีฟันกระต่ายเป็นจุดเด่นเขาไม่รู้ว่าทำไมภาพดวงหน้านี้รบกวนจิตใจเขานักทั้งที่เธอผู้นี้ก็ไม่ได้เป็นคนสวยผุดผาดถึงขนาดทำให้ผู้ชายถวิลหา แต่อาจเป็นเพราะสายตามุ่งมั่นของหญิงสาวผู้นี้กระมังที่ทำให้เธอวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาตลอดเวลา

บ้าจริง ทำไมเขาถึงคิดถึงคนที่เกลียดชังเขานักก็ไม่รู้ ทั้งที่ในเวลานี้มีผู้หญิงที่เทิดทูนบูชาเขาอยู่ตรงหน้าทั้งคน นึกแล้วศรัณย์ก็นึกขันตัวเอง

“กานต์ทราบจากแม่ว่าพี่รัณกำลังจะมีงานประกวดแมววันพรุ่งนี้ ขอกานต์ไปด้วยนะคะ อยากจะไปเชียร์ลีน่า” กานต์สิรีเกาะแขนเขาทำท่าประจบประแจง

“อุตสาห์ลางานเพื่อมาเชียร์ลีน่าเท่านั้นเองเหรอ แล้วพี่ล่ะ” ศรัณย์กระเซ้า

“พี่รัณถามทำไมคะ พี่ก็รู้นี่นาว่ากานต์ลางานเพื่อใคร ตกลงพี่จะให้กานต์ไปด้วยหรือเปล่าเอ่ย” กานต์พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบเด็กๆ

“ไปสิ พี่กำลังอยากได้คนไปช่วยดูแล แก้มป่อง กับ คัพเค้ก วันที่ประกวดอยู่พอดี” ศรัณย์หมายถึงแมวเปอร์เซียอีกสองตัวที่เขาจะต้องหอบหิ้วไปประกวดด้วย หากได้กานต์สิรีช่วยดูแลแมว เขาก็จะได้ไม่ต้องพะว้าพะวงเวลาที่ลีน่าแข่ง

“จะให้พรีเซ็นเตอร์สายการบินอย่างกานต์ไปดูแลแมวต้องเรียกค่าตัวแพงๆซะหน่อยแล้ว กานต์จะยอม
ดูแลแมวให้พี่ก็ได้ แต่ว่ามีข้อแม้นะคะ” กานต์สิรีหรี่ตามองเขาด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

“ข้อแม้อะไรล่ะ” กานต์สิรีมักมีข้อแม้ต่างๆมาต่อรองเขาอยู่เสมอ

“จะให้พี่ซื้อกระเป๋าหรือนาฬิกาแบรนด์เนมราคาเป็นแสนให้ พี่ไม่มีปัญญาหรอกนะ” ศรัณย์พูดจาดักคอ เขารู้ดีว่ากานต์สิรีชอบใช้ข้าวของที่มีราคาแพงลิบลิ่วตามประสาของคนที่ได้เงินเดือนสูง ถึงเขาจะมีเงินซื้อให้กานต์สิรีได้อย่างไม่เดือดร้อน แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่กับการที่หญิงสาวใช้ของแบรนด์เนมฟุ่มเฟือยตามกระแสนิยม

“แหม พี่รัณก็ดักคอเสียก่อนทุกที” หญิงสาวหัวเราะจนเห็นฟันขาวที่เรียงตัวสวย

“พี่มันแค่เจ้าของฟาร์มแมวจนๆ ไม่มีเงินซื้อของแพงๆให้นางฟ้าอย่างกานต์หรอก ถ้าอยากได้ของแพงๆก็คงต้องไปขอเจ้าของฟาร์มซูพีเรีย” น้ำเสียงของศรัณย์แข็งกร้าวขึ้นเมื่อเอ่ยถึงคงซู

คงซูเคยแวะเวียนมาขายขนมจีบกานต์สิรีพักใหญ่ตามประสาคนเจ้าชู้ แต่เมื่อหญิงสาวไม่มีเยื่อใยตอบ คงซูก็เบื่อและเลิกราไปเองในที่สุด ศรัณย์ไม่ได้เคืองคงซูเรื่องที่เคยจีบกานต์สิรี แต่เป็นเรื่องอื่นที่ใหญ่กว่านั้น...เรื่องบางเรื่องที่เขาไม่อาจให้อภัยคงซูได้ตลอดชีวิต

“พี่รัณเอ่ยถึงเขาอีกทำไมคะ กานต์ว่าเราอย่าพูดถึงเขาอีกดีกว่า พี่รัณไม่อยากรู้จริงๆเหรอคะว่าข้อแลกเปลี่ยนของกานต์คืออะไร ไม่ต้องเสียเงินสักบาทด้วยนะคะ”

“พูดอย่างนี้พี่ชักกลัวแล้วสิ ของฟรีมีในโลกที่ไหน”

“มีซีคะ กานต์ได้รางวัลชิงโชคจากห้างฯเป็นคอร์สเรียนดำน้ำสำหรับสองคนค่ะ กานต์ก็เลยจะชวนพี่ให้เป็นบัดดี้เรียนดำน้ำ สนุกดีนะคะ จะได้ไปปลูกปะการังที่เกาะขามด้วย ตกลงเรียนด้วยกันนะคะ” กานต์สิรีรบเร้าด้วยสายตาเว้าวอนจนเขาใจอ่อนยอมรับปาก

“ก็ได้กานต์ แต่ในเมื่อพี่ยอมตกลงแล้ว คงจะต้องใช้กานต์ให้คุ้มเสียหน่อย เริ่มจากวันนี้เลย ช่วยพี่เก็บลูกบอลและของเล่นของลีน่าใส่ตะกร้าเข้าบ้านมาให้พี่ด้วยนะ เดี๋ยวพี่จะอุ้มเจ้าแมวมอมแมมตัวนี้ไปอาบน้ำแต่งตัวเสียหน่อย”

กานต์สิรียิ้มหวานอย่างประจบ แต่เมื่อชายหนุ่มเดินลับตาไปแล้ว หญิงสาวก็ทำตามขมุบขมิบพลางสบถออกมา
“ เจ้าแมวบ้า ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรักเจ้าของแก ชาตินี้นางฟ้าแสนสวยอย่างฉันก็ไม่มีวันเก็บของเล่นของแกให้ลำบากหรอก!“

+++++++++++++++++++++++++++++

ภาพหญิงสาวตัวเล็กๆที่กำลังตะครุบหมาตัวโตที่วิ่งหนีการอาบน้ำอย่างหัวซุกหัวซุน หากใครมาเห็นเข้าก็คงรู้สึกชวนขันอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับกันธิชา หล่อนไม่ขำเลยสักนิดเพราะต้องใช้พละกำลังมหาศาลกว่าจะปลุกปล้ำให้เจ้าหมาตัวใหญ่ราวกับหมีขาวขั้วโลกยอมสงบอาบน้ำแต่โดยดี เสร็จสิ้นการอาบน้ำเป่าขนให้กับโพล่าทีไร กันธิชาถึงกับนอนแผ่กับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

“ขอร้องล่ะ โพล่า ช่วยให้ความร่วมมือกันหน่อยได้ไหม วันนี้อุตสาห์ซื้อครีมอาบน้ำกลิ่นสตรอเบอร์รี่ที่แกชอบมาให้ใช้ด้วย แพงมากเลยนะ มีแต่หมาไฮโซที่เขาใช้กัน อยากจะเป็นหมาเน่าขายหน้าหมาตัวอื่นก็ตามใจ”
กันธิชาทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง ไม่ใช่ว่าโพล่าเกลียดการอาบน้ำ แต่กันธิชารู้ว่าโพล่ากำลังแกล้งหล่อนเล่น โพล่าเป็นหมาขี้เล่น อารมณ์ดีและเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ มันรู้ว่าหล่อนรักและตามใจก็เลยได้ใจ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หล่อนแกล้งทำเป็นไม่สนใจ โพล่าก็จะยอมง้องอนแต่โดยดี อย่างเวลานี้ที่มันยกขาหน้าสองข้างของมันเกาะที่ไหล่ของหล่อน แล้วเอาจมูกเย็นๆมาประทับที่แก้มของหล่อนแทนการจูจุ๊บเพื่อง้องอนให้คืนดีกัน

“แกไม่ได้เป็นหมาตัวเล็กๆแล้วนะโพล่า มายันไหล่ฉันแบบนี้ เดี๋ยวฉันก็ตัวแบนพอดี...ฮะฮ่า...ได้โอกาสแล้วจัดการเลยดีกว่า”

กันธิชาหัวเราะออกมาอย่างมีชัยแล้วใช้มือหนึ่งล็อคตัวโพล่าไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็รีบคว้าสายยางที่ซ่อนไว้ด้านหลังฉีดใส่ตัวมัน โพล่าสะบัดตัวจนน้ำกระจายชุ่มตัวหล่อน เลยไม่รู้ว่าหมาหรือคนที่กำลังอาบน้ำกันแน่เสียงหัวเราะสดใสของของกันธิชาดังก้องประสานกับเสียงร้องขัดใจของสุนัขที่กำลังถูกถูตัวด้วยครีมอาบน้ำกลิ่นสตอเบอร์รี่หวานฉ่ำ ทำให้ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาอมยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้าด้วยความรู้สึกเอ็นดู ก่อนกระแอมเบาๆเป็นเชิงให้รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนี้

“พี่คงซู หลบไปดีกว่าค่ะ เดี๋ยวชุดหล่อๆจะเลอะเปล่าๆ”

กันธิชารีบปรามให้ชายหนุ่มออกจากบริเวณคอกอาบน้ำ วันนี้คงซูแต่งตัวหล่อเป็นพิเศษ ใส่สูทและกางเกงดำแสล็คเข้าชุดกันราวกับว่าเขากำลังมีนัดสำคัญ ที่จริงคงซูก็แต่งตัวเนี๊ยบและดูดีทุกวัน เขาจัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่ง ดีมากพอขนาดเป็นดาราได้ แมวมองจากค่ายโทรทัศน์ใหญ่ของเกาหลีที่เคยมาเที่ยวพัทยาและพบกับคงซูโดยบังเอิญยังเคยแจกนามบัตรและทาบทามให้เขาแคสเป็นตัวแสดงนำในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งของเกาหลี แต่คงซูก็ปฏิเสธเพราะเขาต้องการใช้ชีวิตที่มีความเป็นส่วนตัว ประกอบกับฐานะทางบ้านของชายหนุ่มก็ค่อนข้างมั่นคงอยู่แล้ว ชายหนุ่มจึงไม่ได้ปรารถนาที่จะโลดแล่นในวงการมายาที่ต้องกลายเป็นคนของประชาชนเพื่อแลกกับชีวิตส่วนตัว

ถึงกระนั้นรูปร่างหน้าตาและฐานะที่ร่ำรวยของเขาก็ดึงดูดให้มีหญิงสาวมาติดพันมากมาย คงซูได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยหนุ่มที่มีทั้งดาราสาวและนางแบบชื่อดังลงทุนขับรถมาหาถึงชลบุรี เขาคบหากับหญิงสาวเหล่านั้นไม่ถึงปีก็มีอันต้องเลิกราไปเสียทุกรายโดยแก้ตัวว่าเขาไม่ได้เป็นคนขี้เบื่อหรือเจ้าชู้ เพียงแต่ว่ายังไม่พบคนที่เขารักจริงและพร้อมจะลงหลักปักฐานด้วยต่างหาก

ระยะหลังๆคงซูชอบพูดกับหล่อนเป็นนัยๆว่าเขาพบผู้หญิงที่รักจริงแล้ว เพียงแต่รอเวลาเพื่อจะเอาชนะใจหญิงสาวคนนั้นอยู่ ใครๆก็ต่างบอกว่าผู้หญิงคนที่คงซูเอ่ยถึงจะต้องเป็นหล่อนอย่างแน่นอนเพราะไม่ว่าแววตาหรือการกระทำของเขา ทำให้กันธิชาไม่สามารถคิดว่าใครอื่นได้เลย

สายตาที่คงซูจ้องมอง ทำให้กันธิชาอายจนต้องเอ่ยคำพูดบางอย่างเพื่อแก้เขิน

“วันนี้พี่คงซูแต่งตัวเสียหล่อ มีนัดกับสาวคนไหนเหรอคะ คราวนี้เป็นนางงาม หรือว่าดาราสาวกันเอ่ย”

“ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ผู้หญิงที่พี่จะไปเดทด้วย เธอสวยกว่านั้นเยอะ” คงซูพูดกับหล่อนด้วยน้ำเสียงนุ่ม นัยน์ตาของแพรวพราว เช่นเดียวกับรอยยิ้มอบอุ่นที่ขับให้ใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลานั้นดูมีเสน่ห์เหลือเกิน

“น้ำชักอยากจะเห็นผู้หญิงคนนั้นแล้วสิคะ” กันธิชาแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ถ้าอยากเห็นสาวสวยคนนั้น น้ำจะตามไปดูด้วยกันไหมล่ะ” คงซูไม่เพียงแต่เอ่ยปากชวน เขายังคว้าข้อมือหล่อนฉุดให้ลุกขึ้น

“น้ำไม่ไปไหนหรอกนะคะ ดูสภาพสิ มอมแมมซะขนาดนี้ ขืนพี่พาไปไหนได้ขายขี้หน้าเขาเปล่าๆ แล้วน้ำก็ยังอาบน้ำเป่าขนให้โพล่าไม่เสร็จด้วย”

“ไปเถอะน่า เรื่องอาบน้ำของโพล่า เดี๋ยวพี่ให้ช่างนนจัดการให้เอง” ช่างนนที่เขาเอ่ยถึงคือช่างอาบน้ำแต่งขนสุนัขฝีมือดีประจำฟาร์ม กันธิชามองคงซูจัดการเรื่องตรงหน้าอย่างงงๆ นี่เขาคิดจะพาหล่อนออกไปข้างนอกจริงๆน่ะเหรอ

“วันนี้น้ำต้องรีบกลับบ้านนะคะ เพราะต้องไปช่วยงานที่ร้านอาหาร แล้วโพล่าก็ควรจะพักเยอะๆเพราะพรุ่งนี้ต้องไปงานประกวดแต่เช้า” กันธิชาแย้งด้วยเสียงอ่อนๆ ขืนหล่อนกลับไปช่วยงานช้าเพียงไม่กี่นาที นัมจาก็จะด่าทอหล่อนราวกับว่าทำความผิดร้ายแรงและพลอยทำให้ทำงานอย่างไม่สงบสุข

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ถ้าออกไปตอนนี้ ไม่เกินสองชั่วโมงก็จะถึงบ้านเวลาสี่โมงครึ่ง ทันก่อนเวลาที่ร้านจะเปิดเสียอีก ส่วนโพล่าพอเป่าขนเสร็จแล้ว พี่จะให้นนพาไปส่งที่บ้านให้เอง”

คงซูพูดพลางขยิบตาให้หล่อนว่าเขาวางแผนทุกอย่างมาดี กันธิชาจำใจตามคงซูไป หล่อนก้มลงมองสภาพของตัวเองในเวลาที่ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ ผมก็แห้งลีบติดหนังศีรษะ ไม่มีเค้าของผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกอย่างคงซูพูดไว้เลยแม้แต่น้อย ในเมื่อเขาไม่อายที่จะควงหล่อนไปไหนต่อไหน หล่อนก็ไม่ควรจะอายเช่นกัน
สถานที่ที่คงซูพากันธิชาไปนั้นคือห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่แถบพัทยากลางซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านทำผมชื่อดังประจำจังหวัดชลบุรี สาวร่างใหญ่ เจ้าของร้านที่แต่งกายด้วยชุดเดรสกรุยกรายเดินมาทักทายและสวัสดีคงซูด้วยท่าทางชดช้อย ปากที่ทาด้วยลิปสติกสีแดงจัดเจรจาอย่างมีจริตตามประสาสาวประเภทสอง
“นี่หรือคะ คือคนที่คุณทัศนัยจะให้แพทตี้ช่วยแปลงโฉมให้”

‘ทัศนัย’ คือชื่อไทยของคงซู เวลาที่เขาติดต่องานต่างๆ คงซูจะใช้ชื่อเกาหลีเฉพาะกับคนเกาหลีหรือเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกันจริงๆ

“ครับ ผมฝากคุณแพทตี้ด้วยนะครับ ผมเชื่อมืออยู่แล้วว่าคุณต้องทำออกมาได้สวย”

สาวร่างใหญ่นามว่าแพ็ตตี้มองสำรวจหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พลางทำเสียงจึ๊กจั๊กในลำคออย่างขัดใจกับรูปโฉมของหล่อน หากตัวกันธิชาเองเป็นช่างทำผมก็คงจะกลุ้มไม่น้อยหากให้ต้องแปลงโฉมหญิงสาวกะโปโลที่มอมแมมและแต่งตัวไม่เข้าท่าให้กลายเป็นสาวงามสะพรั่ง ช่างผมคนดังนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง แล้วก็ทำหน้าเหมือนคิดได้ว่าจะจัดการทรงผมใหม่ให้หล่อนได้อย่างไร

“แหม คุณทัศนัยก็ปากหวานอยู่เรื่อย แพทตี้ดูผมและรูปหน้าของคุณน้องแล้วตัดไม่ยากค่ะ คุณทัศนัยนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือรอสักประมาณชั่วโมงหนึ่งก็น่าจะเสร็จแล้ว งั้นเชิญไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะคะ เดี๋ยวจะให้เด็กมาบริการ ส่วนคุณน้องคนนี้ เดี๋ยวแพตตี้ดูแลเองค่ะ” หญิงสาวร่างบึกยิ้มหวานอย่างเอาอกเอาใจคงซูก่อนที่จะพาหล่อนไปสระผม และตัดแต่งทรงผมให้เข้ารูป ราวสี่สิบนาทีเศษ กันธิชาก็ได้ผมทรงใหม่ที่ดูน่ารักเก๋ไก๋กว่าเดิมมาก

“ชอบไหมคะ พี่ว่าอย่างคุณน้องไว้ผมหน้าม้าจะกิ๊บเก๋ขึ้น ส่วนผมไว้ยาวๆอย่างนี้ดีแล้ว ไว้ว่างๆค่อยมาดัดปลายสักนิดจะหวานขึ้น” แพ็ทตี้พูดอย่างภูมิใจในฝีมือของตัวเอง

“ขอบคุณมากเลยค่ะ ฉันไม่คิดเลยว่าแค่เปลี่ยนทรงผมจะทำให้หน้าของเราดูเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้” กันธิชากล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ ถ้าหากนัมจาและโฮยอนเห็นรูปโฉมใหม่ของหล่อน จะค่อนแคะยังไงบ้างนะ ถ้าให้หล่อนเดาก็คงจะพูดทำนองว่า หล่อนดัดจริต อยากสวยแต่ไม่เจียมสารรูปตัวเอง แทนที่จะเอาเวลาไปทำมาหากินช่วยแบ่งเบาภาระกลับไปนั่งชูคอเป็นคุณนายที่ร้านเสริมสวย

เมื่อคิดถึงเรื่องค่าทำผม กันธิชาก็นิ่งอึ้งไป ร้านตัดผมแห่งนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและราคาค่าบริการก็แพงเสียด้วย หล่อนจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย ถึงคงซูจะเป็นคนพาหล่อนมา แต่หล่อนก็ไม่ต้องการให้เขาจ่ายเงินให้
“เอ่อ...ค่าตัดผมเท่าไหร่เหรอคะ” กันธิชาเลียบๆเคียงๆถามกับแพทตี้

“คุณน้องขา เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล คุณทัศนัยจ่ายให้เรียบร้อยแล้วร้อยแล้วค่ะ” แพ็ทตี้จีบปากจีบคอตอบ

“งั้นคุณแพทตี้คืนเงินให้คุณทัศนัยได้ไหมคะ ฉันขอจ่ายเอง” กันธิชามีสีหน้ากังวลใจ หล่อนไม่ชอบให้ใครมากำนัลข้าวของให้

“ไม่ได้เลยนะคะ คุณน้องขา ขืนคุณทัศนัยรู้ พี่ต้องเสียลูกค้าแน่ๆ” แพ็ตตี้ทำเสียงละล่ำละลัก เอามือทาบอกอย่างกังวลใจ

“โอ้โห ทรงผมใหม่ของน้ำน่ารักมากจริงๆ ทีนี้ก็ขาดอยู่อีกอย่าง...” ทัศนัยเดินเข้ามาพินิจทรงผมใหม่ของหล่อน หน้าตาของเขาแสดงออกถึงความพึงพอใจ แล้วกล่าวขอบคุณแพ็ทตี้พร้อมตบรางวัลเป็นเงินค่าทิปอย่างงาม ก่อนที่จะชวนกันธิชาเดินออกจากร้าน

“พี่คงซูคะ คือว่า...น้ำขอจ่ายค่าทำผมเองได้ไหม น้ำเกรงใจมากๆเลยเพราะรู้ว่ามันแพงมาก ” กันธิชาควักแบงค์พันสองใบยื่นให้กับคงซู แต่ชายหนุ่มปฎิเสธไม่ยอมรับไว้ แล้วลากหล่อนไปยังร้านเสื้อผ้าหรูที่อยู่ใกล้กัน

“ตายจริง วันนี้คุณทัศนัยมาที่นี่ด้วยตัวเองเลยเหรอคะ มีอะไรให้แป๋วรับใช้” คราวนี้เจ้าของร้านไม่ใช่สาวประเภทสอง หากเป็นหญิงสาวร่างเล็กที่แต่งกายด้วยชุดที่ดูทันสมัย บุคลิกของเธอดูคล่องแคล่วพูดจาฉะฉานน่าฟัง

ชุดราตรีหรูเลิศที่ตั้งโชว์บนหุ่นหน้าร้านทำให้กันธิชามองดูอย่างทึ่งๆ ถึงไม่มีความรู้เรื่องแฟชั่นหรือการตัดเย็บก็สามารถบอกได้ว่าร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและสนนราคาก็คงแพงระยับเช่นกัน เสื้อผ้าในร้านที่แขวนอยู่มีหลากสไตล์ไม่ว่าจะเป็นชุดทำงานที่หรูเรียบเป็นทางการ ชุดราตรีสั้นยาวหลากสีสัน รวมไปถึงชุดที่ใส่ในชีวิตประจำวันที่หากมองเผินๆแล้วธรรมดา แต่ด้วยเทคนิคและมีฝีมือการตัดเย็บที่ประณีตทำให้ชุดนั้นดูพิเศษและโดดเด่นยามสวมใส่

“ผมอยากให้คุณแป๋วช่วยเลือกชุดกางเกงที่ใส่แล้วดูทะมัดทะแมงให้คุณน้ำหน่อยนะครับ...พรุ่งนี้เธอจะต้องพาสุนัขในฟาร์มของผมไปประกวด”

“ได้ซีคะ อย่างคุณน้ำรูปร่างผอมบางน่าจะใส่ไซส์เอส เดี๋ยวแป๋วจะมิกซ์แอนด์แมชชุดมาให้เลือก รอสักครู่นะคะ” แล้วหญิงสาวเจ้าของร้านก็หยิบเสื้อจากราวให้หล่อนลองใส่

“พี่คงซูคะ ให้น้ำลองเสื้อพวกนี้ทำไมกันคะ น้ำไม่เอาหรอก ถ้าพี่คงซูซื้อเสื้อให้น้ำอีก น้ำจะโกรธจริงๆด้วย เรื่องค่าตัดผมยังไม่ได้เคลียร์กันเลย” กันธิชาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไปลองหน่อยเถอะ เดี๋ยวคุณแป๋วเสียใจนะ” คงซูไม่สนใจ ซ้ำยังรุนหลังหล่อนให้เข้าไปลองเสื้ออีกด้วย
เสื้อผ้าที่คุณแป๋วเจ้าของร้านเลือกให้หล่อนนั้นสวยทุกตัวจนอดใจที่จะลองไม่ได้ ทุกตัวที่หล่อนลองใส่นั้นพอดีกับรูปร่างราวกับว่าตัดมาสำหรับหล่อนโดยเฉพาะ ทั้งยังขับบุคลิกให้ชวนมองอีกด้วย มิน่าเล่า สาวๆที่รักการแต่งตัวถึงได้ยอมเสียเงินในราคาสูงเพื่อซื้อเสื้อผ้าเหล่านี้ หากหล่อนไม่มีโอกาสได้ลองใส่ก็คงไม่รู้ว่าเสื้อผ้าจากห้องเสื้อดังต่างจากเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ขายทั่วไปอย่างไร

กันธิชามองเงาตัวเองที่บานกระจกใหญ่ ทั้งทรงผมและชุดที่สวมใส่เปลี่ยนหล่อนให้กลายเป็นกันธิชาคนใหม่ที่ดูสวยมั่นใจกว่าเดิม เสื้อชีฟองสีดำแขนกุดที่เย็บระบายเป็นชั้นบริเวณอกกับกางเกงผ้าเอวสูงสีครีมที่มีเข็มขัดเส้นเล็กคาดไว้ ทำให้หล่อนดูสวยสง่างามกว่าชุดเสื้อยืดกางเกงยีนที่หล่อนใส่ประจำมากทีเดียว ทว่าเมื่อเหลือบมองป้ายราคา กันธิชาก็ตัดสินใจว่าหล่อนคงไม่มีวันทำใจซื้อชุดแสนสวยนี้ลงอย่างแน่นอน เพราะแค่เสื้อตัวเดียวก็มีราคาสูงกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของหล่อนเสียอีก

“แหม คุณน้ำนี่ใส่เสื้อผ้าร้านแป๋วได้พอดีทุกชุดเลยนะคะ โดยเฉพาะชุดนี้ ใส่แล้วดูดีมากๆ ชุดนี้คุณลอร่าเพิ่งใส่ถ่ายแบบลงปกนิตยสารเพิร์ล” สาวเจ้าของร้านโฆษณาเชื้อชวนให้ซื้อของเต็มที่

“ผมซื้อทุกตัวเลยครับ นี่บัตรเครดิต” คงซูจ่ายเงินให้โดยไม่ลังเล เจ้าของร้านยิ้มหน้าบานอย่างเก็บกิริยาไม่อยู่
“ขอบคุณมากค่ะ รับรองเลยว่าพรุ่งนี้ถ้าคุณน้ำใส่ชุดของที่ร้านฯแล้วจะต้องชนะการแข่งขันอย่างแน่นอน เพราะใส่แล้วราศีแชมป์จับมากๆ” เจ้าของร้านยื่นถุงเสื้อที่คิดเงินเรียบร้อยแล้วยื่นให้กับคงซู

ทันทีที่ก้าวขาออกมาจากร้าน กันธิชาก็หันมาเอามาเรื่องกับคงซูทันที

“วันนี้พี่คงซูพาน้ำมาทำผม แล้วซื้อเสื้อผ้าให้ทำไมคะ น้ำดูน่าเวทนาเหมือนยาจกมากหรือยังไงถึงได้กลัวว่าพรุ่งนี้จะแต่งตัวมอซอให้พี่ต้องอับอาย”

หากเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะดีใจที่มีคนจ่ายเงินและซื้อข้าวของแพงๆให้ แต่คนอย่างกันธิชามีศักดิ์ศรีถึงจะไม่มีเงิน หล่อนก็ไม่เคยคิดงอนง้อขอเงินใครให้เป็นบุญคุณหรือดูถูกกันได้ภายหลัง

“น้ำ อย่าเข้าใจพี่ผิด ที่พี่พาน้ำมาทำผมและซื้อเสื้อผ้าวันนี้เพราะอยากให้น้ำดูสวยและมั่นใจที่สุดในวันสำคัญ หากจุนซาไม่ป่วย เขาก็คงต้องพาน้ำมาทำผมและซื้อเสื้อผ้าเหมือนกันกับพี่ ถ้าน้ำไม่สบายใจก็ให้ถือจุนซาซื้อให้ก็แล้วกัน” คงซูยืนกรานความตั้งใจ

“แต่มันมากเกินไปจริงๆนะคะ น้ำคงรับไว้ไม่ได้ อีกอย่างเสื้อผ้าแพงขนาดนี้ น้ำคงไม่มีโอกาสได้ใส่ไปไหนอีก เพราะวันๆนึง น้ำก็ทำงานสอนหมากับแมวจนตัวมอมทั้งวัน ให้ใส่เสื้อแบบนี้คงไม่เหมาะ พี่คงซูเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปให้แชวอนดีกว่าค่ะ เค้าทำงานออฟฟิซใส่แล้วน่าจะเหมาะกว่า” กันธิชาเอ่ยถึงแชวอน น้องสาวของคงซูที่เป็นเพื่อนรักของหล่อน มองดูยังไงเสื้อผ้าโก้ๆเหล่านี้ก็ไม่เหมาะกับหล่อนอยู่ดี

“พี่ก็ไม่ได้ซื้อให้น้ำใส่สอนหมานี่จ๊ะ พี่อยากให้ใส่ชุดพวกนี้ไว้ลงประกวดในครั้งต่อๆไปด้วย หรือน้ำคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้แข่งประกวดหมาอีก พี่เชื่อว่าน้ำจะต้องเป็นครูฝึกสุนัขที่มีชื่อเสียงที่สุดในอนาคต และพี่ก็อยากให้วันที่น้ำประสบความสำเร็จเป็นวันที่น้ำดูสวยสง่างามที่สุดด้วย” สายตาของคงซูยามเอ่ยแสดงออกถึงความเชื่อมั่นในตัวหล่อนยิ่งนัก

กันธิชาคร้านจะเถียงจึงกล่าวขอบคุณ พลางรับถุงเสื้อที่ชายหนุ่มยื่นให้แต่โดยดี เพื่อความสบายใจ คงต้องคิดเสียว่าคงซูให้ชุดนี้เป็นรางวัลกับความสำเร็จล่วงหน้าของฟาร์มซูพีเรียก็แล้วกัน



นภาสรร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ย. 2555, 09:53:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2555, 09:04:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1618





<< 2 :: ซินเดอเรลลาก้นครัว   4 :: วันแห่งการแข่งขัน >>
ดารานิล 7 ก.ย. 2555, 14:51:13 น.
อัยย่ะ! จีบกันเห็นๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account