รังรัก (จบแล้วค่ะ)
เมื่อวันนึงต้องตื่นมาพบว่า
ไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้กระทั่งตัวของเราเอง
คุณจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่า
ทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิม อยู่ตรงหน้า
แต่ไม่สามารถเอื้อมคว้าหรือสัมผัสได้...


Tags: ดราม่า อากิโกะ เหยี่ยว ฑยาวีย์ นายรัก

ตอน: บทที่ 36 ผิดด้วยหรือ


บทที่36 ผิดด้วยหรือ

หญิงสาวนั่งมองออกไปนอกหน้าต่่างของห้องนอน
ภาพที่เธอเห็นคือสายน้ำกระเพื่อมต้องสายลม

ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาจากฝันทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด เธอไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงเลย
อยากให้อะไรๆเหมือนเดิม ทุกคนยังคงอยู่กับเธอ น้องสาวยังคงไม่จากไป
เธอคงไม่มีโอกาสได้ร่ำลาน้อง คุยกับน้องอีกแล้วใช่ไหม

ใครช่่างขีดเขียนชีวิตของเธอ ทำไมเขาถึงวาดให้มันเป็นแบบนี้

เมื่อวานซืนเธอถูกพามาอยู่ที่นี่ โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และที่นี่ที่ไหน ใครเป็นคนพาเธอมา
เธอสามารถเดินได้อย่างอิสระในบ้านหลังนี้ โดยมีหญิงสาวหน้าตาน่ารัก
ท่าทางทะมัดทะแมงคอยติดตาม ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่…
แล้วแหวนหมั้นของเธอหายไปไหน…

รอบๆบ้านก็มีแต่พวกผู้ชายที่เธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นชาวญี่ปุ่น
และท่าทางแบบนั้นมันฟ้องได้เลยว่่าพวกเขาคือพวกยากุซ่า ใ
นเมื่อสัญลักษณ์ที่เธอเห็นมันฟ้องเต็มสองตา ทำไมเธอจะไม่รู้จักกลุ่มคนพวกนี้
เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครคือหัวหน้าก็เท่านั้น

แต่คำตอบกำลังเปิดประตูเข้ามาหา หญิงสาวหันไปทางด้านหลัง
ก่อนจะแทบผงะหงายกับภาพที่เห็น มองคนมาใหม่ตาค้าง ไม่แน่ใจว่าใช่ฝันหรือเปล่า
ในเมื่อคนตรงหน้าเธอมันไม่ต่างกับเงาในกระจกเวลาที่เธอส่องดู
ก่อนจะเอ่ยชื่อนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว

“เหยี่ยว…”คนที่โดนเรียกยิ้มออกมาทันทีก่อนจะค่อยๆย่างเข้ามาหา
หญิงสาวที่นั่งอยู่ริมหน้าต่า่ง ก่อนจะเผชิญหน้ากันตรงๆ

“นี่เธอจริงๆเหรอเหยี่ยว…เป็นไปได้ยังไง…แล้วอากิ…
นี่ที่ผ่านมาเธอตบตาทุกคนมาตลอดอย่างนั้นน่ะเหรอ”คนถามเอ่ยออกมาราวกับไม่แน่ใจ
ก่อนจะคิดได้ว่า หน้าของอากิโกะที่เธอเคยเห็นอาจเป็นแค่ภาพลวงตา
ที่คนตรงหน้าสร้างขึ้นมาก็ได้

“ฮึ…ควรเป็นฉันมากกว่าที่ต้องพูดคำนั้นกับเธอนะหงส์”

“เธอกลับมาที่นี่ทำไม เพื่ออะไรกันแน่เหยี่ยว เพื่อจะแฉฉันใช่มั้ย
เธอต้องการอย่างนั้นใช่มั้ย เอาเลยสิ ตอนนี้ฉันมันก็ไม่ต่างกับคนพิการ
ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เธออยากทำอะไรก็เชิญเลยเหยี่ยว”

หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับก้มมองสภาพของตัวเอง ที่ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น
แม้จะขยับเท้าได้บ้างแล้ว แต่มันก็ยังเดินเหินอย่างคนปกติไม่ได้

“ไม่ต้องท้าหรอก เพราะฉันทำแน่ มันถึงเวลาที่เธอต้องยอมรับความจริงสักที
ว่าเธอน่ะเป็นใคร และฉันเป็นใคร เลิกหลอกตัวเองสักทีเถอะหงส์
นอกจากจะทำให้อะไรๆแย่ลงไปแล้ว เธอยังทำให้อะไรๆเลวร้ายลงไปอีก ไม่รู้รึไง”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งดูถูก จนคนฟังเริ่มทนไม่ไหว

“เลวร้าย…เธอลองถามตัวเองดีกว่าเหยี่ยว ว่าตั้งแต่เธอก้าวเข้ามา
มีใครมีความสุขบ้าง ใครต้องเจ็บปวด ใครต้องมารับผลจากการกระทำของเธอบ้าง
ยัยฟ้าต้องมามีอันเป็นไปเพราะใคร ไม่ใช่เพราะเธอหรอกเหรอเหยี่ยว”

เสียงกระชากพร้อมสายตาเจ็บปวดเมื่อนึกถึงน้องสาวที่จากไปทำให้คนฟังหัวใจกระตุก
เหมือนมีใครมาสะกิดแผลในใจ แผลที่ยังไม่ตกสะเก็ด

“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ…เธอจะรู้อะไร
ใช่ ฉันเป็นคนขับรถชนฟ้า ชนน้องสาวตัวเอง...พอใจรึยัง
แต่ขอบอกเอาไว้เลยนะ ว่าคนที่มันอยู่เบื้องหลังทั้งหมดน่ะคือพ่อบังเกิดเกล้าที่เธอเทิดทูนนั่นแหล่ะ”

“ไม่จริง พ่อไม่มีวันทำอย่างที่เธอพูดเด็ดขาด”หญิงสาวค้านเสียงแข็ง

“ฮึ…คนเลวอย่างนั้นน่ะเหรอ ไม่ควรค่าที่จะเป็นพ่อใครทั้งนั้นแหล่ะ
เธอหัดเปิดตาดูซะบ้าง บางทีเธอจะได้เห็นสักทีว่าเขาเลวแค่ไหน
ขนาดเด็กที่เขาเลี้ยงดูมา10กว่าปี เขายังวางแผนฆ่าได้อย่างแนบเนียน
ตัวเธอเองก็เหมือนกัน ถ้าวันนั้นฉันไปไม่ทัน เธอคงกลายเป็นผีเฝ้าโรงพยาบาลแห่งนั้นไปแล้วล่ะ
อย่าให้ฉันต้องประจานความเลวของคนในตระกูลอีกเลย…”

หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เมื่อนึกถึงวันที่เธอไปหาคนตรงหน้าที่โรงพยาบาล
ก่อนที่จะโดนพวกนั้นฉีดยาเข้าเส้นเลือดโดยที่คนป่วยที่ตอนนี้นั่งอยู่บนรถเข็น
กลับไม่ได้สติเลยในตอนนั้น

“ไม่จริง พ่อรักฉัน ไม่มีทางที่พ่อจะทำแบบนั้นกับฉัน เธอโกหก”
หญิงสาวค้านหัวชนฝาเมื่อฟังอีกคนพูดจบ

“เธอนี่ไม่รู้จักเขาเอาซะเลยนะหงส์”

“ทำไมฉันจะไม่รู้จัก ถึงพ่อจะเป็นคนโหดเหี้ยมแค่ไหน พ่อก็ไม่มีวันทำร้ายฉัน
เธอคิดเหรอว่าฉันที่อยู่กับท่านมาตั้งแต่จำความได้ จะไม่รู้ว่าท่านเป็นคนยังไง
และก็เพราะว่าฉันรู้ ฉันถึงได้เฉย และต่อให้สงสัยแค่ไหนว่าเขาคือพ่อฉันจริงๆรึเปล่า
แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าตลอดชีวิตฉันก็มีแต่เขาเท่านั้น

และถ้าเธอจะบอกว่าพ่อของเธอ ที่เธอเคารพรักที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กคือพ่อที่แสนดีของเธอ
มันจะแปลกอะไร ที่ฉันจะเรียกคนที่ฉันลืมตาขึ้นมาทุกครั้งก็เจอ
อยู่กับเขามาตลอดว่าพ่อบังเกิดเกล้าบ้างล่ะ

ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ใช่พ่อที่แสนดีอยางพ่อของเธอ แต่ฉันก็รักท่าน
เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาฉันก็มีแต่ท่่าน และถ้าเธอจะบอกว่าพ่อของเธอคือพ่อของฉัน
เธอจะให้ฉันเชื่อได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่เคยรู้เลยว่่าอ้อมกอดของเขาเป็นยังไง
ถ้าฉันเป็นลูกเขาจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่เคยกอดฉันเลย เธอบอกมาสิ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสะท้อน ก่อนจะน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงมารดา

“แม้แต่อ้อมกอดของคนเป็นแม่ ฉันก็ไม่เคยได้ แล้วเธอจะให้ฉันรู้สึกยังไง
เธอตอบฉันมาสิเหยี่ยว ว่าฉันควรรักใคร เทิดทูนใคร”

สองสาวมองหน้ากัน โต้เถียงกันอยู่บนเรือน โดยไม่รู้เลยว่าข้างล่างกำลังมีแขกมาเยือน



“เข้าไปไม่ได้นะครับคุณ”เสียงดังจากหนุ่มร่างกายบึกบึน แต่คนมาใหม่หาได้กลัวไม่

“ฉันมาดี และก็ไม่ได้พกอาวุธมาด้วย ฉันแค่อยากคุยกับเจ้านายของพวกนาย
คุณอากิโกะอยู่ข้างบนใช่มั้ย”

ฑยาวีย์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ตาจ้องมองขึ้นไปข้างบนอย่างหมายมาด

เขาคิดไว้ไม่มีผิดว่าเธอต้องเอาคนรักของเขามาซ่อนไว้ที่นี่
แถมคราวนี้ยังมีคนคอยคุ้มกันเป็นสิบๆอีกด้วย

“ยังไงก็ไม่ได้ครับ ถ้าคุณอยากพบคุณอากิโกะ เดี๋ยวพวกเราจะเรียนเธอให้”

“ไม่ต้องหรอก เสียเวลาเปล่า ฉันแค่ต้องการมาคุยเฉยๆ
และพวกนายคงไม่คิดว่าฉันจะทำอะไรเจ้านายของพวกนายได้หรอกใช่มั้ย”

ชายหนุ่มพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินปาดหน้าเจ้าหน้ายักษ์นั่นขึ้นไปบนบ้าน
โดยมีสายตาของชายหน้ายักษ์มองตามจนหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่ยืนอยู่ข้างๆตบบ่าด้วยสีหน้าราบเรียบ

“คุณอากิรับมือได้สบายอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก อาชิ”
หญิงสาวหน้าตาน่ารักเอ่ยออกมาด้วยแววตามั่นใจก่อนจะมองไปยังบนเรือน
ที่ตอนนี้คงมีอีกปัญหาให้เจ้านายเธอแก้



“แต่สิ่งที่เธอทำ เธอไม่คิดเหรอว่าเธอทำร้ายคนเป็นแม่แค่ไหน
เธอยอมให้แม่ของตัวเองตกอยู่ในสภาพแบบนั้นได้ยังไง เธอทนดูได้ยังไงหงส์
เธอยังมีหัวใจอยู่มั้ย เรื่องพ่อหินฉันไม่คิดโทษเธอ แต่เรื่องแม่ ฉันรับไม่ได้…”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดไม่แพ้กัน

ไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้คนตรงหน้าเธอยอมเห็นแม่ตัวเอง
ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนั้นมา10กว่าปีได้ยังไง

“แม่เลือกเอง แม่เลือกจะเป็นอย่างนั้นเอง เพราะอะไรรู้มั้ย…”
ทาริกาหยุดนิดนึงก่อนพูดต่อ

“เพราะแม่ทนเห็นหน้าลูกอย่างฉันไม่ได้ไง แม่ทนใช้ชีวิตร่วมบ้านกับลูกอย่างฉันไม่ได้น่ะสิ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น นัยน์ตามีน้ำตาเอ่อออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
ในความรักของมารดา

“แต่ตลอดเวลา10กว่าปีที่ผ่านมา พ่อไม่เคยทำร้ายพวกเราเลยสักคน
จนวันที่เธอก้าวเข้ามา อะไรๆมันก็เปลี่ยนไป…ใครต้องเจ็บปวดกับการมาของเธอบ้าง เธอเห็นมั้ย”

“แล้วเธอคิดว่าฉันไม่เจ็บปวดรึไง 10กว่าปีที่ผ่านมาฉันต้องพบต้องเจออะไรมาบ้าง ใครเคยรู้
ใครเคยสนใจบ้างมั้ย ฉันต้องอยู่อย่างไร้หัวใจ กลายเป็นคนบ้าคนเสียสติ
ใช้ชีวิตท่ามกลางคนแปลกหน้า เธอไม่รู้หรอกว่า10กว่่าปีที่ผ่านมามันเหงาแค่ไหน
มันเหน็บหนาวอ้างว้างแค่ไหน”หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด แต่คนฟังกลับยิ้มหยันออกมา

“รู้สิ ทำไมฉันจะไม่รู้ เธอมันแค่10ปี แต่ฉัน ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรงขัง
อยู่ในโลกแคบๆมา15ปีเต็ม ไม่เคยได้ออกมาสู่โลกภายนอก
ไม่เคยได้รู้ว่ารักที่แท้จริงมันเป็นยังไง พ่อขังฉันไว้ในกรงของท่าน
ให้ฉันทำตามในสิ่งที่ท่านต้องการ ฉันต้องเรียนในสิ่งที่ท่านให้เรียน
บังคับให้ฉันปามีดตั้งแต่7ขวบ บังคับให้ฉันใช้มือซ้ายที่ฉันไม่ถนัดเอาซะเลย
แต่ท่านก็ยังบังคับฉัน

ตอนนั้นฉันยังเด็ก ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันต้องเรียนวิชาบ้าๆนั่นด้วย
แต่ฉันก็ต้องทำและต้องทำให้ดีที่สุดจนกว่าพ่อจะพอใจ
เพราะถ้าฉันไม่ทำ พ่อก็จะขังฉันไว้ในห้องมืด ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน

ตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหนเธอรู้มั้ย ฉันเลยต้องทำ ทำทุกอย่างที่ท่่านสั่ง
ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการป้องกันตัว หรืออะไรก็ตาม

ฉันเรียนในสิ่งที่พ่อจัดเอาไว้ให้ โดยไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองชอบอะไร ต้องการอะไรกันแน่
รู้แค่ว่าสิ่งที่ฉันทำอยู่มันไม่เคยสร้างรอยยิ้มให้ฉันได้เลย

สุดท้ายฉันแทบสับสน ว่าฉันเป็นใครกันแน่ อะไรคือตัวฉัน อะไรที่จะทำให้ฉันยิ้มได้…
ฉันไม่เข้าใจว่าคนที่เขารักกัน เขาแสดงความรักกันยังไง เพราะรอบกายฉันก็มีแต่ผู้ชาย
ฉันไม่เคยได้ออกไปดูผู้คนภายนอก ไม่รู้ว่าเขาอยู่กันยังไง เขาจะเหมือนฉันมั้ย

พ่อไม่เคยกอดฉันให้ความอบอุ่นฉันเลย ดีแต่บอกให้ฉันทำโน่นทำนี่
โดยที่ไม่เคยถามว่าฉันอยากทำมั้ย

พ่อกักฉันเอาไว้ให้อยู่แต่ในโลกแคบๆของท่าน เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเหงาแค่ไหน

จนวันนึงพ่อได้พาฉันออกไปข้างนอก ฉันได้พบเจอผู้คนมากมาย
แล้วกลับมาย้อนถามตัวเอง ว่าทำไมฉันต้องเป็นแบบนี้
ฉันเคยใฝ่ฝันว่าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ มีแม่ มีพี่น้องอย่่างใครๆเขา

แล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง ฉันจะขอมีความสุขบ้าง ขอความอบอุ่นให้หัวใจบ้างมันผิดด้วยหรือ…”

หญิงสาวร้องไห้ออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด ปากก็พร่างพรูคำพูด
ที่เธอไม่เคยได้เอ่ยมันออกมาเลยสักครั้งในชีวิตคำพูดที่อยู่ในใจมาเนิ่นนาน
โดยที่คนฟังได้แต่ยืนนิ่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาไร้แสง

“และเธอรู้มั้ย…ว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหน ที่รู้ว่า15ปีที่ฉันเติบโตมาภายใต้เงาของใครบางคน
ที่พ่ออยากให้เป็น เงาของเธอไงเหยี่ยว

ฉันต้องเป็นในสิ่งที่เธอเป็น ฉันต้องทำในสิ่งที่เธอทำ เธอคิดว่่าฉันอยากเป็นนักรึไง
ในเมื่อฉันก็มีตัวตน มีจิตใจเหมือนกัน เพียงแต่ฉันเลือกทำไม่ได้
เธอไม่เข้าใจหรอก ว่าการต้องเป็นเหมือนใครสักคนมันเหนื่อยแค่ไหน มันเจ็บปวดแค่ไหน
มันเหงา มันเศร้าแค่ไหน ที่แม้แต่ตัวตนของตัวเองฉันก็ไม่เคยได้สัมผัส

ฉันไม่รู้ว่านรกกับสวรรค์มันต่างกันยังไง เพราะตั้งแต่เกิดฉันก็อยู่แต่ในโลกที่พ่อขีดให้ฉันเดินเท่านั้น
ไม่มีความแตกต่าง ไม่มีการเปรียบเทียบ มีแต่สิ่งที่ต้องทำและไม่ทำไม่ได้เท่านั้น…

คำว่าอิสระฉันไม่เคยรู้ แล้ววันนั้นวันที่พ่อพาฉันออกไปเพื่อเจอใครบางคน
เพียงแค่ฉันได้เห็นฉันก็แทบช็อค เพราะสองคนที่ยืนตรงหน้าฉัน
มันไม่ต่างกับเงาสะท้อนของฉันกับพ่่อเวลาที่ยืนตรงหน้ากระจก

แต่มันไม่ใช่ นั่นไม่ใช่เงา เพราะมันมีตัวตน สัมผัสได้

และฉันก็ไม่ได้เจอเงานั่นอีกเลย เพราะฉันได้กลายเป็นเงานั่นไปแล้ว
ไม่มีเงาสะท้อนนั่นอีกต่อไป หลังจากนั้นฉันก็พบกับชีวิตใหม่ ครอบครัวใหม่
ฉันได้เจอกับพวกเขา ได้รับความรักความอบอุ่นจากพวกเขา
แต่เธอก็กำลังจะแย่งพวกเขาไปจากฉัน ฉันไม่มีวันยอม ไม่มีวัน”

หญิงสาวเอ่ยในตอนท้ายด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว แววตาวาวโรจน์
จนคนฟังต้องหันมาจ้องหน้าคนพูดด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม

“ใช่หงส์ เธออาจสูญเสียอะไรมากมายในชีวิต ฉันรู้ฉันเข้าใจ
ฉันถึงปล่อยให้เธอมีความสุขมา10กว่าปี โดยไม่เคยเรียกร้องอะไร

แต่ที่ฉันกลับมา ฉันแค่อยากให้เขาคนนั้นได้ชดใช้ในสิ่งที่เขาทำกับพ่อหิน
ทำกับลุงธนิต อาจารย์ที่แสนดีของฉัน เธอรู้มั้ยว่าพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ
เขาทำอะไรกับพวกฉันไว้บ้าง หลังจากที่เราสองคนมีโอกาสได้เห็นหน้ากัน…”

หญิงสาวเอ่ยมาถึงตอนนี้ก็ทำให้ภาพในอดีตผุดขึ้นมา
ภาพฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเธอมาตลอด ภาพที่ทำเอาเธอเสียสติร่วม3ปี

“เขาเผาพวกฉันทั้งเป็น ฉันรู้เรื่องทุกอย่่างจากปากของพ่อ แต่มันก็สายเกินไป
เราทั้งสามถูกมัดเอาไว้กับเสา แล้วพ่อบังเกิดเกล้าที่เธอเคารพรัก เขาก็เผาบ้านหลังนั้น
พ่อพยายามดิ้นรนเพื่อจะช่วยฉันจนต้องโดนท่อนไม้ทับและโดนไฟแผดเผาไปต่อหน้าต่อตาฉัน
เธอคิดว่าเด็กคนนึงจะรับได้แค่ไหน เธอคิดว่าฉันต้องใช้เวลาบำบัดจิตนานแค่ไหนถึงมีวันนี้ได้
เสียงร้องของพ่อ...แววตาเจ็บปวดทรมานของพ่อก่อนจากโลกนี้ไป มันยังติดตาฉันอยู่เลย

ลุงธนิตต้องมาจากไปอีกคน เพราะช่วยฉันออกมาจากกองไฟนั่น

ฉันต้องตื่นมาเจอใครก็ไม่รู้ที่ฉันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น ถามในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ
แล้วก็ต้องมาเจอกับปีศาจร้ายทุกครั้งเวลาส่องกระจก
เธอคิดว่าเด็กคนนึงจะรับมันได้แค่ไหน

ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลบ้ามา3ปีเต็ม ไม่มีโอกาสได้เล่าเรียนเหมือนใครๆเขา
ไม่มีใครอยากคบอยากพูดจาด้วย ไม่มีใครเข้าใจ…

กว่าจะมีวันนี้ได้ เธอคิดว่ามันง่ายนักรึไงหงส์ เธอคิดว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง
เราสองคนก็ไม่ต่างกันนักหรอก แล้วทำไมเธอถึงไม่คิดจะช่วยฉัน ช่วยครอบครัวบ้าง
เธอยอมให้คนเลวๆแบบนั้น ลอยนวลอยู่ได้ยังไง…”
หญิงสาวจับแขนคนตรงหน้าเขย่าถามด้วยแววตาแข็งกร้าว จนคนฟังหนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

“ฉันทำร้ายพ่อไม่ได้ ยังไงๆฉันก็ทำไม่ได้ ฉันขอร้องล่ะ หยุดทุกอย่างไว่แค่นี้เถอะนะเหยี่ยว
อย่าให้ใครต้องมาจากไปอีกเลย อย่าพรากพวกเขาไปจากชีวิตฉันอีกเลย ฉันขอร้อง
เธออยากได้อะไรบอกมา ฉันยอมให้เธอหมดเลยทุกอย่าง
ขออย่างเดียว อย่าทำลายความรักที่พี่ๆน้องๆมีให้ฉันเลยนะ”

หญิงสาวอ้อนวอนคนตรงหน้าที่จับแขนเธออยู่ด้วยแววตาเว้าวอน
แต่คนฟังกลับกระตุกยิ้มออกมา

“เธอแน่ใจเหรอ ว่าให้ฉันได้จริงๆ”เสียงนั้นฟังดูชอบกลนักในความคิดของคนฟัง
แต่สำหรับเธอแล้ว เธอยอมแลกทุกอย่างในชีวิต เพื่อความรักของคนในครอบครัว

“แน่ใจ ขอแค่เธอบอกมา บอกมาสิเหยี่ยว ฉันยอมทุกอย่าง”

“ฮึ…งั้นเธอคงไม่ว่า ถ้าฉันจะขอคนรักของเธอ”

เสียงนั้นทำเอาหญิงสาวที่ได้ฟังกลับตาค้างพร้อมกับอีกคนที่ยืนฟังสองสาวคุยกันอยู่นาน
กลับนิ่งงันกับประโยคนั้นเช่นกัน

“เธอว่าอะไรนะ”หญิงสาวเอ่ยมันออกมาราวกับเพ้อ

“ทำไม รึเธอให้ฉันไม่ได้ งั้นฉันคงต้องบอกว่าเสียใจ
เพราะฉันคงทำในสิ่งที่เธอขอไม่ได้เหมือนกัน”
แววตาเย้ยหยันกับน้ำเสียงนั่นทำเอาคนที่ได้ยินอึ้งไปไม่น้อย

“เลือกเอา ว่าระหว่างครอบครัวกับคนรักเธอจะเลือกใคร
ฉันยอมให้เธอได้แค่ทางเลือกเดียวเท่านั้น เพราะเธอก็ต้องเข้าใจฉันด้วย”

“ทำไม เพราะอะไรเหยี่ยว”หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมคนตรงหน้าถึงขอคนรักของเธอ

“เพราะอะไรไม่สำคัญหรอก บอกมาว่าเธอจะเลือกอย่างไหน
ชีวิตมันต้องเลือกนะหงส์ อยู่ที่เธอจะเลือกทางไหน”

“ไม่ ฉันไม่เลือก ถึงยังไงๆรักเขาก็ไม่มีทางเลือกเธอหรอกเหยี่ยว
เพราะเขารักฉัน เรารักกัน…”

คำพูดนั้นราวกับสะกิดอีกบาดแผลที่เกินจะเยียวยาของคนฟัง แต่เธอก็ยังกัดฟันพูดมันออกไป

“ฮึ เธอแน่ใจได้ยังไง ว่าเขาไม่เลือกฉัน เธอแน่ใจได้ยังไงหงส์
ในเมื่อเธอเองก็หนีไปนอนซะตั้งนาน เธอคิดว่่าตื่นขึ้นมาแล้วทุกอย่างจะยังเหมือนเดิมน่ะเหรอ”
หญิงสาวเหยี่ยดยิ้มออกมาก่อนจะหันหน้าออกไปยังด้านนอกหน้าต่างอีกครั้ง

“ไม่จริง รักไม่มีวันนอกใจฉัน เขารักฉันคนเดียว
เขาไม่มีวันรักผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างเธอได้หรอกเหยี่ยว…”
หญิงสาวค้านหัวชนฝา เธอไม่มีวันเชื่อในสิ่งที่อีกคนพูดเด็ดขาด
นอกจากจะได้ฟังมันจากปากคนรักเท่านั้น

“ฉันไม่สนว่าเขาจะรักหรือไม่รัก แต่เขาต้องเลือกฉัน และต้องแต่งงานกับฉันเท่านั้นหงส์
ถ้าไม่ เธอก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดี เพราะคนอย่างฉันไม่ใช่นางฟ้า
ที่เธอจะขออะไรแล้วให้เธอได้ทุกอย่างหรอกนะ”

ชายหนุ่มที่ฟังแทบทรุดกับคำพูดกู่ก้องของหญิงสาว ที่เขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมมันถึงหดหู่ใจอย่างนี้

“เธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ยังไงๆฉันก็ไม่เชื่อว่ารักเขาจะเลือกเธอ
ในเมื่อเขารักฉัน และเราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกัน”
หญิงสาวยังคงยืยยันคำเดิม ก่อนจะนิ่งงันกับคำพูดประโยคถัดมา

“ใช่ ฉันไม่เถียง แต่เธอคิดว่า ระหว่างคู่หมั้นกับเมีย เขาจะเลือกใครล่ะหงส์”

คำพูดนั้นตอกหน้าคนที่แอบฟังเข้าอย่างจัง

…เมียเหรอ...เธอบอกว่าเธอเป็นเมียเขาใช่มั้ย เขาลืมคำนี้ไปได้ยังไง…

แล้วก็นึกถึงเหตุผลที่เขาบุกมาหาเธอที่นี่ ประโยคที่เธอบอกเขาเมื่อวาน
ยังกู่ก้องในหัวของเขาตลอดเวลา…ว่าเธอกำลังจะท้อง...ท้องลูกของเขา

…แต่เขาจะรักผู้หญิงใจร้ายคนนี้ได้ยังไง…

“ไม่จริง เธอโกหก ฉันไม่เชื่อ ไม่จริง ออกไปนะ ออกไปให้พ้น”

หญิงสาวตวาดไล่หญิงสาวอีกคนด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว

ทำไมผู้หญิงตรงหน้าถึงใจร้ายแย่งคนรักของเธอไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่ละอายใจอย่างนี้

นี่หรือสายเลือด นี่หรือพี่น้องเขาทำกันอย่่างนี้น่ะเหรอ

เธอเกลียดผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน เกลียดเข้ากระดูกดำ

“ออกไปนะนังแม่มด ฉันเกลียดเธอ”

“ฉันไปแน่หงส์ แล้วอย่าลืมเก็บเอาไปคิดให้ดีล่ะ ทางเลือกมันอยู่ที่เธอแล้วนะ
คราวนี้เธอคงเข้าใจหัวอกของคนที่ถูกแย่งของรักแล้วใช่มั้ย
เข้าใจหัวอกของคนที่โดนสวมรอยแล้วใช่มั้ย ว่ามันเป็นยังไง มันเจ็บปวดแค่ไหน”

หญิงสาวเหยียดยิ้มออกมาพร้อมด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
ชายหนุ่มที่ฟังยืนนิ่งราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหินอีกครั้งด้วยคำพูด

อยู่ๆก็รู้สึกปวดหนึบไปทั้งใจ ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว

“แต่ก่อนไป ฉันยังมีอีกเรื่องนึงที่ยังค้างคาใจ
ว่าทำไมวันนั้น ก่อนที่เธอจะพลาดตกลงมาจากบันได
เธอถึงบอกฉันว่า เขาเป็นพ่อของฉันกับเธอ ทำไมหงส์”

คำพูดนั้นทำให้ชายหนุ่มที่ยืนฟังอยู่เข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่เขาคิดมาตลอดมันผิด
เธอไม่ใช่คนที่ผลักคนรักของเขาให้ตกลงมา สิ่งที่เขาเห็นมันเป็นอุบัติเหตุอย่างนั้นน่ะเหรอ…

…เธอไม่ใช่คนผิดอย่างนั้นน่ะเหรอ…

“ฉันก็แค่อยากให้เธอยอมแล้วเลิกรากลับไปญี่ปุ่นน่ะสิ ฉันไม่อยากให้เรื่องบานปลาย
เพราะฉันรู้จักพ่อดี ฉันรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอย่างเข้ามา
และฉันก็ทนไม่ได้ ถ้าพี่ๆน้องๆจะรุมกันเกลียดฉัน ประณามการกระทำของฉันอย่างที่แม่ทำ

ฉันแค่ต้องการให้เธอเห็นใจฉัน แล้วถ้าเธอคิดว่าพ่อเป็นพ่อของเธอจริงๆ
เธอจะได้เลิกราไป แต่เธอกลับดื้อดึง เห็นรึยังว่าเราต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง
เพราะเธอคนเดียวเลยเหยี่ยว เพราะเธอ…”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังมั่นคง แต่สิ่งนั้นกลับทำให้คนฟังฉุนจัด

“นี่เธอรู้ทุกอย่างใช่มั้ยว่าเขาไม่ใช่พ่อ เธอสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกฉันให้เขวอย่างนั้นน่ะเหรอ”

“ใช่ แล้วไงล่ะ…เธอเคยคิดมั้ย ว่า10ปีที่ไม่มีเธอ ทุกคนเขาอยู่ดีมีสุขแค่ไหน
ฉันยอมรับว่าฉันเห็นแก่ตัว และก็รู้สึกผิดทุกครั้งเวลาที่เจอแม่
แต่ถ้าต้องแลกกับความสุขของคนส่วนใหญ่ มันไม่ดีเหรอเหยี่ยว

เธอคิดว่าฉันสุขนักรึไง ที่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากคนเป็นแม่
ทุกครั้งแม่ก็ดีแต่ขับใสไล่ส่งฉัน ไม่เคยจะรับฟังเหตุผลของฉันเลย
ไม่เคยสักครั้งที่จะกอดฉันด้วยความรัก ถ้าเธอคิดว่ามันง่ายนักที่จะกำจัดพ่อของฉันล่ะก็
เธอคิดผิดแล้วล่ะเหยี่ยว เธอคงรู้จักพ่อของฉันน้อยไป”

“ทำไมฉันจะไม่รู้ ตลอดเวลาที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น
ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าพ่อที่เธอเทิดทูนเขาเคยทำอะไรไว้ที่โน่นไว้บ้าง ฉันถึงต้องฝึกฝนฝีมือ
เพื่อกลับมาเอาคืนในสิ่งที่เขาทำกับพ่อหินกับอาจารย์ของฉันในอดีต

และวันนี้ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลกฉันก็ยอม เพราะฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วล่ะหงส์
ฉันขอแค่ก่อนตาย ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องสักครั้งในชีวิตก็เป็นพอ”

หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยคำพูดดุดันแววตาวาวโรจน์ ดวงดาคมดุราวกับเหยี่ยว
ส่องประกายกล้าดั่งเพชรฆาตที่พร้อมจะล่าเหยื่อ

“เธอมันดื้อ สักวันเธอจะต้องเสียใจที่คิดอย่างนี้
ต่อให้เธอฆ่าพ่อได้ อะไรๆก็คงไม่เป็นอย่างที่ใจเธอคิดหรอกเหยี่ยว
มันไม่ง่ายอย่างนั้น ฉันขอเตือน”

“ไม่…ฉันจะไม่เสียใจเลย ขอแค่ได้ลากเขาลงนรกไปขอขมาพ่อฉันได้ ฉันยอม”
สายตานั้นทำเอาคนฟังรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา

ใช่ว่าเธอจะไม่เคยคิด แต่พ่อของเธอเป็นคนมีอิทธิพลไม่น้อย
การจะล้มไม่ใช่เรื่องง่าย เธอกลัวการสูญเสีย

“เหยี่ยว…ฉันขอร้องล่ะ หยุดทุกอย่างแล้วจากไปซะ ฉันจะคุยกับพ่อให้เข้าใจ
ถึงพ่อจะเลวแค่ไหน แต่พ่อก็ไม่มีวันฆ่าใครถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ได้โปรด…หยุดเถอะนะ…
ถ้าเธอยอม ฉันจะขอจากไปเอง…”
เสียงนั้นราวกับยอมแล้วทุกอย่าง ณ วินาทีนี้เธอไม่อยากเห็น
คนในตระกูลต้องมาฟาดฟันกันอีกอย่างในอดีต อดีตที่แสนเจ็บปวด

“อย่าขอร้องฉันเลยหงส์ ถึงตอนนี้ฉันหยุดมันไม่ได้อีกแล้ว
เพราะเขาก็ไม่ยอมหยุดมันเช่นกัน ไม่มีคนตายก็ไม่มีวันจบ...ไม่เขาก็ฉัน…”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตาอ่อนแสงลงตั้งแต่ได้ฟังประโยคอ้อนวอนนั้น

เธอเองก็ไม่อยากเข่นฆ่าใครเช่นกัน มันเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา
ในเมื่อหน้านั้นมันราวกับเงาสะท้อนของผู้เป็นบิดา
เธอถึงกับลังเลทุกครั้ง สับสนทุกทีที่อยากจะทำร้ายคนๆนั้น

แล้วเขาล่ะ เขาเคยคิดเหมือนกันบ้างมั้ย ในเมื่อเธอก็หลานแท้ๆของเขา
เธอถึงเฉย ได้แค่มองการกระทำของเขาอยู่ห่างๆมาตลอด

แต่บัดนี้มันเกินจะทน เมื่อเขาสั่งคนให้มาทำลายหญิงสาวตรงหน้าเธอ
ทำร้ายน้องสาวคนเล็กของเธอไม่พอ
เขายังคิดจะฆ่าปิดปากเด็กสาวที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะได้ยังไง มันไม่ใช่คนแล้ว

“แล้วอย่าลืมทางเลือกสองทางนั้นล่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาเอาคำตอบ”

“เธอจะต้องเจ็บปวดที่ทำอย่างนี้เหยี่ยว…”ทาริกาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนล้า

“ไม่มีอะไรจะเจ็บไปมากกว่าที่เป็นอยู่แล้วล่ะหงส์…”หญิงสาวพูดเสร็จก็หันหลังจากไป
แต่ต้องชงักเท้ากับคำพูดต่อมาของน้องสาวฝาแฝด

“ถ้าเธอรักเขาจริง ฉันยินดีจะหลีกทางให้”

คำพูดราวกับเป็นการตัดสินใจเลือกของอีกคน ทำให้คนฟังนิ่งงัน

…สุดท้ายเธอกลับเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลยใช่มั้ย…แม้แต่ตัวเลือกที่อีกคนทิ้งเอาไว้ให้…

หญิงสาวเดินจากมาโดยไม่เอื้อนเอ่ยอะไรอีกเลย


แต่พอพ้นประตูห้องมาได้กลับสะดุดตากับใครบางคนที่วันนี้ใส่ชุดเสื้อยืดสีดำ
กับแว่นตาสีดำยืนหลบอยู่ตรงซอกมุมใกล้ๆกันกับทางเดินเข้าห้อง

หญิงสาวหยุดนิ่ง เมื่อเห็นใบหน้าคมที่วันนี้ดูนิ่งกว่าทุกครั้งที่เจอ
แต่ก็เดาไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน เพราะแววตาที่ถูกบดบังด้วยแว่นตาสีดำนั่น

แต่ท่าทางที่เธอเห็นก็พอจะรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคงรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว…

...ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง…

หลังจากที่จ้องกันอยู่นาน ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน

“ฉันถามอะไรเธออย่างสิ…ว่าที่ผ่านมา มันคืออะไร…”

“เธอรักฉันอย่างที่เธอเคยบอกฉันรึเปล่า…”

เสียงทุ้มเบาแต่กลับกังวานก้องไปมาในหัวของคนฟัง

“ไม่…ทุกอย่่างมันเป็นแค่เรื่องที่ฉันพยายามสร้างขึ้นมา
ฉันขอโทษ ถ้ามันจะทำให้คุณรู้สึกเสียหน้า”

เสียหน้าเหรอ นี่เธอพูดว่าเขาเสียหน้าเหรอ
มันไม่ใช่แค่หน้าหรอกที่เสีย แต่ตอนนี้เขาแทบเสียศูนย์…

…ทำไมเธอถึงทำกับเขาได้อย่างเลือดเย็นแบบนี้…

“ขอโทษ ง่ายดีนี่”ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน

“ฉันก็เป็นคนง่ายๆอย่างนี้อยู่แล้ว รึคุณยังไม่ชิน”

หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอาการใดๆหรืออารมณ์ใดๆ
ออกมาให้เห็นเลย ชายหนุ่มกำมือแน่น สามครั้งสามคราที่คนตรงหน้าทำเขาได้แสบสัน

“คุณไม่ต้องห่วงนะ เมื่อเสร็จงานแล้ว ฉันจะคืนคนรักให้กับคุณแน่นอน
คุณแค่รอเท่านั้น อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบ
และฉันก็จะกลายเป็นแค่ฝนที่พัดผ่านชีวิตรักของคุณเท่านั้น
แค่คุณอดทนอีกสักนิด เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองตามฤดูกาลของมัน

แล้วสักวันคุณจะขอบใจฝนอย่างฉัน ที่ทำให้คุณได้พิสูจน์หัวใจรักของคุณสองคน
คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะทำร้ายคนรักของคุณหรอก เพราะยังไงๆเขาก็เป็นน้องสาวของฉัน”

หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มบาง วันนี้เธอยอมแล้วจริงๆ…

“คนรักของคุณโชคดีกว่าฉัน ตรงที่มีสองตัวเลือกที่รักเขา”

หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แต่คนฟังกลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ

หญิงสาวพูดเสร็จก็ค่อยๆดึงหน้ากากออกเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของปัจจุบัน
จากหน้าใหม่ของหน้าเดิม เป็นหน้าที่ใครๆก็เรียกกันว่าอากิโกะนั่นเอง

ชายหนุ่มตะลึงงันกับสิ่งที่เห็น ตกลงว่าจริงๆแล้วหน้าเธอคือหน้านี้หรอกเหรอ หรือว่าไม่ใช่

เขาชักจะสับสนว่าหน้าไหนคือหน้าเธอกันแน่ แล้วหน้านี้คือหน้าไหน
แต่คำพูดถัดมาของหญิงสาวทำให้เขารู้คำตอบในทันที

“ตอนนี้ไม่ว่าจะหน้าไหนก็ไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะหน้าไหน ก็ไม่มีใครต้องการอยู่ดี”

พูดเสร็จหญิงสาวก็หันหลังจากไป
แต่ชายหนุ่มกลับสอดมือเข้าไปยังเอวบางทางด้านหลังของหญิงสาว เป็นการรั้งเธอเอาไว้
ก่อนจะกอดเอาไว้แน่นพร้อมกับเอ่ยถามออกมาข้างๆหูของเธอด้วยเสียงทุ้มเบา

“เธอท้องจริงๆรึเปล่า”ชายหนุ่มใช้มือลูบตรงหน้าท้องของหญิงสาวแผ่วเบาราวกับย้ำในคำถาม
หญิงสาวยืนนิ่งเช่นเดิมก่อนจะระบายยิ้มออกมา แล้วตอบเขาไป

“เปล่าค่ะ ฉันก็แค่ต้องการจะปั่นหัวคุณก็เท่านั้นเอง
จริงๆแล้ว ฉันไม่ได้ท้องหรอกค่ะ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันคงต้องขอโทษคุณด้วย ฉันก็แค่…”

“แค่อะไร…”ชายหนุ่มถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

“แค่…อยากเอาชนะคุณก็เท่านั้น…อยากจะรู้ว่าคุณจะทำยังไงต่อไป
ก็แค่อยากเอาคืนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น หวังว่าคุณคงจะไม่ถือสา”
ชายหนุ่มอึ้งกับคำตอบนั้น…เอาคืนอย่างนั้นน่ะเหรอ…

“นี่ที่ผ่านมา เธอหลอกฉันมาตลอดเลยเหรออากิ”

เสียงนั้นเบาหวิวเหลือเกินจนคนฟังเริ่มรู้สึกผิด แต่กลับกัดฟันพูดออกไป

“ค่ะ…คุณจะหาเรื่องจริงจากแม่มดได้ยังไง คุณอาจจะรู้สึกผิดกับฉันบ้างเล็กๆน้อยๆ
แต่ฉันเองก็ทำกับคุณเอาไว้ไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นถือซะว่าเสมอกัน ไม่มีอะไรติดค้างกันนะคะ…”

หญิงสาวแค่นยิ้มออกมาเมื่อชายหนุ่มกอดเธอแน่นขึ้นพร้อมกับซบหน้าคมนั่นลงบนบ่าของเธอ
กลิ่นกายที่แสนคุ้นเคยทำให้ชายหนุ่มเผลอสูดดมเข้าเต็มปอด

...ทำไมเขาถึงอยากกอดเธออย่างนี้นานๆก็ไม่รู้…

รู้แต่ว่าอยากกอด แม้จะรู้ว่าทำไม่ถูก แต่มันก็ห้ามใจไม่ได้….

“นี่ถ้าฉันไม่รู้จักคุณมาก่อน ฉันคงคิดว่าคุณกำลังรักฉัน…
ขอบคุณนะคะที่ทำเหมือนรักกัน…เกลียดฉันน่ะดีแล้ว…อย่าสงสารฉันเลย…”

หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้ปกติที่สุด
ก่อนจะจับมือหนานั้นกางออกแล้วหงายมันก่อนจะวางอะไรบางอย่างลงบนมือนั่น
แล้วเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย

โดยมีสายตาอีกสองคู่ที่มองตามไปจนสุดสายตา

ชายหนุ่มก้มมองแหวนเพชรน้ำงามในมือกับหยดน้ำหนึ่งหยดที่เกาะอยู่บนฝ่ามือของตัวเองนิ่งนาน…

…นี่คือฝนหยดสุดท้ายจากเธอใช่มั้ย…


รักเขาเราเจ็บ…
ทิ้งเขาเราเศร้า…
ไม่มีเขาเราก็เหงา…
อยู่กับเขาเราก็ตายทั้งเป็น…

เดินหน้าก็เจ็บ…
ถอยหลังก็ช้ำ…
จุดเดิมที่ยืนยังคอยย้ำคอยซ้ำ…
หรือไม่มีที่พอให้ฉันได้ยืนอยู่เลย…



....โปรดติดตามตอนต่อไป.......

สองตอนหน้า ออกแนวแอคชั่นดร่าม่าหนักและเข้มข้นค่ะ...

อย่าลืมพกทิชชูก่อนอ่านด้วยนะคะ...อิอิอิ...









yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ย. 2555, 21:41:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.ย. 2555, 21:41:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 2417





<< บทนำ   บทที่ 37 น้ำใจแม่ >>
sai 16 ก.ย. 2555, 06:02:49 น.
อดทนต่อคืนนี้อย่างใจจดใจจ่อเลยอ่ะ


blackcoffee 16 ก.ย. 2555, 06:16:10 น.
ลุ้นค้า..สงสารอากิจัง


mallow 16 ก.ย. 2555, 06:47:04 น.
กำลังเข้มข้น รอตอนต่อไปค่ะ


บัวขาว 16 ก.ย. 2555, 08:07:50 น.
ปวดใจ .. แต่ก็รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อค่ะ


ตามหาฝัน 16 ก.ย. 2555, 14:02:39 น.
สงสารเหยี่ยวจัง


หนอนฮับ 16 ก.ย. 2555, 17:33:28 น.
เอาเลยๆๆๆ หนอนเชียร์ อากิเอาคืนให้หมดเลย ชริ อย่ายอมพวกนั้นอีก (อุ๊ยตาย! ออกนอนกหน้าไป ลืมตัวว่าหนอนเป็นนางเอกแสนดี )


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account