รังรัก (จบแล้วค่ะ)
เมื่อวันนึงต้องตื่นมาพบว่า
ไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้กระทั่งตัวของเราเอง
คุณจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่า
ทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิม อยู่ตรงหน้า
แต่ไม่สามารถเอื้อมคว้าหรือสัมผัสได้...


Tags: ดราม่า อากิโกะ เหยี่ยว ฑยาวีย์ นายรัก

ตอน: บทที่ 37 น้ำใจแม่

ตอบคุณบัวขาว...ขอบคุณค่ะสำหรับรอยยิ้มและกำลังใจ...
โยเอามาฝากให้กันอย่างเคยอีกสองบทค่ะ...เหลืออีกแค่ไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วค่ะ

ตอบคุณตามหาฝัน...ค่าน้ำเชื้อของนายรักจะแพงแค่ไหน
ต้องมาติดตามดูกันต่อค่ะ...อิอิอิ...ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจที่มีให้โย..

ตอบคุณ sai...โยรีบเอาสองตอนล่าสุดมาฝากให้กันอย่างเร็วแล้วนะคะ...
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจดีๆที่มีให้เต่าโย...

ตอบคุณ Blackcoffee...เห็นชื่อแล้วนึกถึงโอเลี้ยงขึ้นมาเลยค่ะ...
เพราะโยดื่มกาแฟไม่ได้(โดยเฉพาะกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล)...แต่ชอบโอเลี้ยงค่ะ...
สงสัยอาจเป็นเพราะว่ามันดำเหมิือนกัน แต่รสชาติไม่เหมือนกัน...
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม...งั้นคงต้องมาลุ้นกันต่อแล้วล่ะค่ะ...

ตอบคุณmallow...ตอนนี้กำลังเข้มข้นค่ะ...ใกล้ถึงบทสรุปแล้วด้วย...
ซึ่งหมายความว่า...เป็ดวานาโนกำลังจะกลับมาทวงหมอรัง เย้ย ทวงสังเวียนคืนแล้วค่ะ...
อิอิอิ...ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม...

ตอบน้องหนอน...สงสัยนายรักจะทำให้น้อนหนอนหลุดมาร์ท
จากนางฟ้ากลายร่างเป็นนางมารร้ายไปเสียแล้ว ฮี่...ฮี่...
เค้าว่าผู้หญิงทำให้เจ็บได้ ทำให้โกรธได้ แต่อย่าทำให้แค้น...
เพราะเวลาคุณเธอแค้นนั้นน่ากลัว อย่าเอาหน้าเข้าไปแหย่เชียวนะพวกผู้ชาย...
เพราะอาจจะหน้าหันได้...อิอิอิ...
เพราะจากนางฟ้าอาจจะลอกคราบกลายเป็นนางมารร้ายได้ในพริบตา
รับรองได้ว่าฝันร้ายไปหลายคืน...เนอะน้องหนอนเนอะ...
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจน่ารักๆและการติดตาม...

และ...ขอขอบคุณทุกไลค์ ทุกกำลังใจ ทุกๆท่านที่คลิกกันเข้ามาอ่านนะคะ...

มาติดตามกันต่อได้เลยค่ะ...





บทที่37 น้ำใจแม่

หญิงสาวก้าวลงจากรถด้วยชุดสายเดี่ยวสีขาวโปร่งบางพริ้วไหวทุกย่างก้าวที่เดิน
โดยมีกำไลสีเงินเป็นแถบยาวตรงข้อมือขวา ก่อนจะเดินไปยังตึกสีขาว

นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ย่างเข้ามาที่นี่
ก่อนจะเหลือบมองไปทางด้านหน้าอาคารซึ่งมีชายร่างกายกำยำสองคน
กำลังมองมาทางเธอนิ่งนาน หญิงสาวกระตุกยิ้ม
ก่อนจะก้าวเดินไปยังด้านในของตึกสีขาวนั่น

“คุณเหยี่ยวเดินได้ปกติแล้วเหรอลูกพี่”เสียงนั้นดังมาจากชายร่างบึกบึน
โดยที่อีกคนที่ยืนฟังอยู่ก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกัน

“แกก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอวะ ยังจะถามอีก…เดี๋ยวนี้หมอเขาเก่งๆกันทั้งนั้น
แค่มีเงินก็บันดาลได้ทุกอย่างแหล่ะไอ้เม่น แค่เดินได้มันยังน้อยไป
เดี๋ยวนี้แทบจะเหาะเหินไปไหนต่อไหนได้แล้ว”คนเป็นลูกพี่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหยันๆ
ก่อนจะตบบ่าลูกน้องเพราะเขาสองคนได้รับคำสั่งจากนายใหญ่ให้มาเฝ้าสังเกต
คนเข้าออกของที่นี่ โดยเฉพาะบุคคลต้องห้ามอย่่างศัตรูหมายเลขหนึ่งของเจ้านายยิ่งไม่ได้

หญิงสาวค่อยๆเปิดประตูห้องคนป่วยออก แล้วเธอก็ได้เห็นหญิงสูงวัยที่ตอนนี้ดูซูบผอมลงไปมาก
ใบหน้าดูอิดโรย เห็นแล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้

ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหาคนที่กำลังนั่งมองอะไรบางอย่างอยู่ในมือ
ทำให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมามองคนมาใหม่ด้วยแววตาหม่นเศร้าก่อนจะยิ้มออกมา
ด้วยความดีใจพร้อมกับผวาลุกขึ้นแล้วเดินมากอดหญิงสาวที่มาใหม่ทันที

“หงส์ แม่ขอโทษ แม่ผิดเองลูก อย่าทิ้งแม่ไปนะ”

หลายเดือนที่เธอได้รับรู้ว่าลูกสาวคนนี้ได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
ทำให้เธอละวางฐิติทั้งหมดที่เคยมี และก็รอคอยมาตลอดว่าเมื่อไหร่ลูกสาวคนนี้จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
จนได้รับข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าลูกสาวฟื้นจากปากของหมอรังสิมันต์ ศิษย์เอกของเธอเอง
เธอจึงกอดกระชับร่างระหงนั่นด้วยความคิดถึง โดยที่คนในอ้อมกอดยังคงนิ่งเฉย

“แม่รักหนูนะลูก แม่อภัยให้หนูทุกอย่างแล้ว”คนในอ้อมกอดเริ่มขยับ
ก่อนจะผละออกมาแล้วจ้องมองหญิงสูงวัยตรงหน้านิ่งนาน

“มองดูดีๆสิคะ ว่าคนตรงหน้าคือใคร”คนฟังชงักกึกกับคำพูดนั้น
ก่อนจะจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา
แล้วก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาก่อนจะโผเข้ากอดหญิงสาวอีกครั้ง

“เหยี่ยว เหยี่ยวใช่มั้ย แม่ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย หนูยังไม่ตายใช่มั้ยลูก
หนูกลับมาหาแม่แล้วใช่มั้ย”เสียงสั่นๆพร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตาของมารดานั้น
ทำให้คนในอ้อมกอดยิ้มออกมาด้วยความตื้นตันใจ แม่จำเธอได้ แม่แยกได้
แม่เชื่อว่านี่คือเธอ

หญิงสาวกอดตอบมารดาแน่นก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ขอบคุณนะคะ ที่จำเหยี่ยวได้”ผู้เป็นมารดาผละออกมาก่อนจะมองหน้าลูกสาวนิ่งนาน

ทำไมเธอจะจำดวงตาคู่นี้ไม่ได้
ต่อให้นานแค่ไหน ตาคู่นี้ก็ยังอยู่ในความทรงจำและความคิดถึงของเธอเสมอมา

“แม่จะลืมแววตาคู่นี้ของลูกตัวเองได้ยังไง”อากิโกะยิ้มออกมา
ก่อนจะดึงหน้ากากที่สวมอยู่ออกมาเผยให้เห็นหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ทำเอาผู้เป็นมารดานิ่งงัน แม้จะเคยสงสัยมานานแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวคนนี้ของเธอกันแน่

“แล้วถ้าเป็นหน้านี้ล่ะคะ แม่ยังจะคิดว่านี่คือเหยี่ยวลูกสาวของแม่รึเปล่า
แม่จะเชื่อมั้ย ถ้าหนูบอกว่าหนูคือเหยี่ยว คือลูกสาวของแม่”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยเสียงสะอื้น หญิงสูงวัยพยักหน้าเบาๆ
ก่อนจะสวมกอดคนตรงหน้าอีกครั้งด้วยความคิดถึง

“คนอื่นอาจจะไม่เชื่อ แต่แม่เชื่อ แม่รู้ แม่สัมผัสได้”
หญิงสาวยิ้มออกมา เมื่อก่อนเธอเคยกลัว กลัวว่่าแม่จะไม่เชื่อ กลัวว่าแม่จะปฏิเสธ
กลัวมากจนไม่กล้าบอก แต่วันนี้เธอได้รู้แล้วว่า แม่รู้จักเธอ แม่เชื่อ แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ
แค่แม่เข้าใจ แม่คนเดียวก็เกินพอแล้ว คนอื่นไม่รู้เธอจะไม่สนอีกต่อไป เพราะมันไม่สำคัญอีกแล้ว

แล้วทั้งสองก็เดินตระกองกอดมานั่งด้วยกันบนเตียง

“เกิดอะไรขึ้นลูก เล่าให้แม่ฟังได้มั้ย ว่าทำไมลูกถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้”
อากิโกะยิ้มบางๆก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆให้มารดาฟัง
ซึ่งเรื่องราวที่เธอเล่าทำเอาคนฟังอดสะเทือนใจไม่ได้
จนต้องกลั่นความเจ็บออกมาเป็นน้ำตาพร้อมกับเอ่ยออกมา

“แม่รู้แค่ว่าพ่อของลูกจากแม่ไปแล้ว แต่แม่ไม่คิดว่าพ่อของลูกจะถูกคนเป็นพี่ชายเผาทั้งเป็น
เขาทำได้ยังไง”

“เพราะเขาไม่มีหัวใจ ลุงธนิตเองก็ต้องมาตายเพราะช่วยเหยี่ยว
ทั้งที่คุณลุงสามารถวิ่งหนีออกไปได้ แต่คุณลุงก็ไม่ทำ แถมคุณลุงยัง
ฝากฝังเหยี่ยวเอาไว้กับพ่อเรียวที่ได้เข้าไปกู้กองเพลิงในครั้งนั้นด้วย
พ่อเรียวเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่คุณลุงอุ้มเหยี่ยวในสภาพทุลักทุเล
เพราะคุณลุงธนิตโดนพวกของเขาซ้อมอย่างหนักออกมาจากกองไฟนั่นแล้ว
ท่านก็ได้สั่งเสียก่อนตายว่าให้พ่อเรียวช่วยเหยี่ยว ทำให้เหยี่ยวเป็นคนใหม่
มีหน้าใหม่และช่วยลบประวัติทุกอย่างให้หมด เพื่อความปลอดภัยของเหยี่ยว
ซึ่งมันเป็นคำขอร้องก่อนตายของคุณลุง

พ่อเรียวบอกว่าตอนนั้นพ่อเรียวก็ไม่รู้ที่มาที่ไป เลยรับเหยี่ยวเป็นลูกบุญธรรมตามที่รับปากเอาไว้
แล้วศัลยกรรมให้ใหม่ทุกอย่าง ซึ่งจริงๆก็แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมแล้วด้วยซ้ำ
เนื่องจากโดนไฟคลอกไปทั้งหน้า เหยี่ยวต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหน้าถึงสามครั้ง
ทุกครั้งมันเหมือนมีดคอยกรีดหัวใจจนรับไม่ได้ กลายเป็นคนบ้าคนเสียสติอยู่ร่วมสามปี”

“แล้วพ่อเรียวที่ลูกว่าเขาไม่มีครอบครัวเหรอลูก”

“มีสิคะ พ่อเรียวเกิดในตระกูลซามุไร ทำธุรกิจบริษัทประกันอัคคีภัย
ซึ่งค่อนข้างเป็นผู้มีอิทธิพลของที่นั่นค่ะ และสถานที่เกิดเหตุก็เป็นเขตของท่าน
ท่านเลยเข้าไปร่วมด้วยน่ะค่ะ ซึ่งครอบครัวของท่านมีกันอยู่สามคน คือโอบ้าซังมารดาของท่าน
คุณแม่ยูกิ ซึ่งเป็นภรรยาของท่าน ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานก็จริง
แต่กลับไม่มีทายาทสืบสกุลจนมีเหยี่ยวเป็นลูกบุญธรรม
ท่านเลยทุ่มเทให้ทุกอย่าง แต่ท่านทั้งสองบุญน้อยมาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกัน

เหยี่ยวมีโอกาสได้อยู่กับท่านแค่ช่วงเวลาหนึ่งปีเท่านั้นเอง
อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากคนบ้าแต่ก็จำทุกอย่างได้ดี
จนโอบ้าซังอยากลองให้เหยี่ยวได้ออกไปเจอเพื่อนๆบ้างเผื่ออะไรๆจะดีขึ้น
แต่สุดท้ายเหยี่ยวก็ขาดสติอาละวาดขว้างปาสิ่งของ
เดือดร้อนโอบ้าซังต้องช่วยพาไปบำบัดจิตอย่างจริงจังอีกสองปีแล้วกลับมาอยู่กับบ้าน
ไม่มีโอกาสได้เข้าสังคมกับใครเพราะความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เคยเจอ
มันเป็นภาพฝังใจเหยี่ยวมาตลอด ทำยังไงก็ไม่เคยลืมได้เลย

แต่ก็ยังโชคดีที่มีเพื่อนอย่างพะพายที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอด
และก็ครอบครัวของเพื่อนคนนี้แหล่ะค่ะที่ทำให้เหยี่ยวมีวันนี้ได้มีโอกาสได้ศึกษางาน
ร่วมงานกับคนอื่นๆได้ พะพายทำให้เหยี่ยวมีความมั่นใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป
แม้หลายๆครั้งเหยี่ยวจะคิดอะไรโง่ๆ แต่ก็มีเพื่อนอย่างพะพายคอยตักเตือนคอยปลอบใจ

มีโอบ้าซังที่คอยสอนโน่นสอนนี่และคอยประคบประหงมมาร่วมสิบกว่าปี
ถึงท่านจะไม่ใช่ญาติโดยสายเลือด”

หญิงสาวหยุดไปนิดนึง เพราะสะท้อนถึงคำว่าสายเลือด ก่อนจะเอ่นต่อ

“แต่มันยิ่งใหญ่กว่านั้น เหยี่ยวเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้อีกครั้งก็ด้วยมือของท่าน
แต่เหยี่ยวต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้รับรู้ข่าวคราวของครอบครัว
ซึ่งตอนนั้นเหยี่ยวทำได้แค่มอง อยากเป็นส่วนหนึ่งในรอยยิ้มเหล่านั้นบ้าง
แต่มันก็เกินเอื้อมคว้าหรือแม้แต่ตอนนี้มันก็ยังไกล ไกลเท่าเดิมหรืออาจจะไกลกว่านั้น

เหยี่ยวขอโทษนะคะแม่ เหยี่ยวขอโทษที่ทำร้ายฟ้า ทำให้ฟ้าต้องจากไป
ทำให้แม่ต้องเป็นอย่างนี้ เพราะเหยี่ยว เหยี่ยวไม่น่ามาที่นี่เลยทั้งที่จริงๆ

แล้วเหยี่ยวก็โชคดีเหลือเกิน ที่มีคนดีๆ คนที่รักอย่างโอบ้าซัง แต่เหยี่ยวก็ยังคงโลภ
อยากได้และก็เห็นแก่ตัว แม่จะด่าว่าเหยี่ยวก็ได้นะคะ”หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด
วันนี้เธอกำลังรับผลจากการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนั้น การตัดสินใจกลับมาที่นี่ แผ่นดินที่รักนี่

“ไม่เลยลูก แม่เชื่อว่าหนูไม่ได้ตั้งใจทำ แม่รูุ้จักหนูดี สิบปีที่หนูจากไป
มันคงซื้อเวลาสิบห้าปีที่เราเคยอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก แม่รู้ว่าลูกสาวแม่คนนี้เป็นคนยังไง
รักครอบครัวแค่ไหน ดังนั้น หนูไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่นอน และแม่ก็เชื่อว่า
ถ้าพี่ๆน้องๆรู้ว่าหนูเป็นใคร เขาก็จะเชื่ออย่างที่แม่เชื่อ
แม่เลี้ยงมาเองกํับมือทุกคน ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าใครเป็นยังไง”

ผู้เป็นมารดาลูบผมของลูกสาวในอ้อมกอดแผ่วเบา

“ขอบคุณค่ะแม่ ที่เข้าใจเหยี่ยว สำหรับเหยี่ยว แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”

“แต่เหยี่ยวยังสงสัยว่าอะไรที่ทำให้หงส์ต้องไปอยู่ในความดูแลของลุงเมฆา
แม่เล่าให้เหยี่ยวฟังได้มั้ยคะ”ผู้เป็นมารดาถอนใจยาวออกมา
ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยของตัวเองกับสามีในอดีต

“เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะการตัดสินใจผิดพลาดของพ่อและแม่ที่ยกลูกสาวอีกคนให้กับเขาไป
ตอนนั้นแม่ท้องหนูกับน้องได้ 33สัปดาห์ และพ่อหินของลูกต้องเดินทางไปดูงานที่ญี่ปุ่นพอดี
แต่ไปได้ไม่กี่วันแม่ก็ได้ข่าวว่าพ่อของลูกเกิดอุบัติเหตุอาการน่าเป็นห่วง
แม่กับคุณปู่ของลูกจึงรีบบินไปหาโดยมีคุณย่าของลูกคอยดูแลพี่ๆของลูกให้ที่เมืองไทย

พอไปถึงที่โน่นแม่กับคุณปู่ของลูกกำลังนั่งรถไปหาคุณพ่อที่โรงพยาบาล
แต่รถที่นั่งมาเกิดเสียหลักพลิกคว่ำ เราเสียคุณปู่ไปในค่ำคืนนั้นพร้อมๆกับข่่าวดี
ว่่าแม่ได้ลูกสาวฝาแฝด ส่วนพ่อหินของลูกก็ปลอดภัย จะมีก็แต่คุณปู่ที่ต้องมาจากไป
โดยที่ก่อนจากท่านยังฝากบอกแม่มาตลอดทางที่นั่งเครื่องบินไปที่นั่นด้วยกันว่่า

ท่านอยากขอโทษลูกชายของท่าน อยากให้ลุงเมฆาของลูกยกโทษให้สักครั้ง
แม่รู้ว่าท่านรู้สึกผิดแค่ไหนกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น
แต่แม่ก็เข้าใจว่าท่านเองก็เจ็บปวดเหมือนกันที่ต้องขับไสไล่ส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไป

จะว่าท่านผิดซะทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะสมัยนั้นไม่มีใครยอมรับเรื่องรสนิยมรักร่วมเพศได้หรอกลูก
ซึ่งคุณปู่ของลูกท่านเป็นคนหัวโบราณและยึดมั่นถือมั่นในเรื่องนี้มาก
หลายครั้งที่ท่านเห็นลูกชายของท่านพาเพื่อนๆมานอนค้างที่บ้าน
ท่านก็ไม่ได้สงสัยหรือเอะใจอะไร จนคืนนั้นท่านแอบได้ยินเสียงครวญคราง
ดังมาจากห้องของลุงเมฆาของลูก ท่านเลยแอบย่องเข้าไปดู ก็พอดีกับประตูไม่ได้ล็อคเอาไว้
ภาพที่ท่านเห็นเลยทำให้สติที่มีอยู่ขาดสบั้น ถึงกับต่อว่าลุงเมฆาของลูกต่างๆนาๆ
จนทุกคนในบ้านแตกตื่นแห่กันมาดู คุณลุงของลูกคงอับอาย

แล้วทั้งสองก็มีปากเสียงกันอย่างหนัก
ไม่มีใครยอมฟังใครและด้วยความโมโหที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทำอย่างนั้น
ทำให้คุณปู่ของลูกพลั้งปากถึงขนาดตัดพ่อตัดลูกกัน
และขับคุณลุงเมฆาของลูกออกจากตระกูลไม่ขอพบขอเจออีก

ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมาก็ไม่มีใครเคยรู้เลยว่าคุณลุงของลูกเขาหายไปไหน
และคุณปู่ของลูกยังสั่งให้ทุกคนห้ามพูดถึงห้ามเอ่ยหรือบอกใครๆว่าท่านยังมีลูกชายอีกคน

ทุกคนเลยปิดปากเงียบมาตลอด แต่คนเฒ่าคนแก่ที่เคยอยู่รับใช้ท่านมา
หลังๆก็ทยอยกันออกไปทีละคนๆ จนทุกวันนี้ไม่มีใครที่พอจะรู้เรื่องนั้นได้อีกแล้วล่ะลูก”

ผู้เป็นมารดาเล่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตให้ลูกสาวฟังด้วยความเห็นใจอีกฝ่่าย
แต่เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะฝังใจเจ็บกับเรื่องนั้นจนคิดจะเอาคืนทุกคน
แม้กระทั่งคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่่างลูกๆของเธอ

“แล้วคุณลุงเอาหงส์ไปเลี้ยงได้ยังไงคะ”ผู้เป็นมารดาถอนใจออกมาอีกครั้งก่อนจะเล่าต่อ

“มันคงเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดมาแล้ว เพราะวันที่แม่คลอดลูกทั้งสอง
นั่นเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่แม่ได้มีโอกาสได้เจอคุณลุงของลูก
แม่ก็เพิ่งรู้ว่าคุณลุงของลูกเขาอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทำให้แม่ตกใจยิ่งกว่า
ในการปรากฏตัวของคุณลุงตอนนั้นก็คือ เขาขอลูกสาวแม่ไปเลี้ยง
เขาบอกว่าเขาเหงาอยากมีลูก และแม่เองก็มีลูกหลายคนแล้ว ท่านอยากขอไปเลี้ยงสักคน
แต่ตอนนั้นแม่เองก็งงและทำอะไรไม่ถูกเพราะเพิ่งฟื้นตัวแถมทางเมืองไทยก็ยังไม่ทราบข่าวคราว
เพราะลุงธนิตที่คอยติดตามก็ประสบอุบัติเหตุไปพร้อมๆกันกับพ่อหินของลูก

ส่วนเรื่องศพคุณปู่ ลุงของลูกเขาขอจัดการเอง โดยจะส่งกลับในวันรุ่งขึ้น
ตอนที่แม่รู้แทบช็อค และคุณลุงของลูกยังขอให้แม่ปิดเรื่องที่มีลูกแฝดด้วย
เขาให้เหตุผลว่าไม่อยากให้อีกคนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจว่าถูกพรากจากพ่อจากแม่
เขาบอกว่าเขาจะเลี้ยงลูกสาวอีกคนของแม่อย่างดีราวกับลูก และจะไม่พาไปเจอใครที่เมืองไทยด้วย

ตอนนั้นแม่คิดอะไรไม่ออก เพราะแม่ไม่อยากเสียลูกไป เลยขอให้คุณลุงของลูก
รอให้พ่อหินเขาหายเป็นปกติก่อน ตอนที่พ่อหินของหนูรู้เรื่อง เขาไม่ยอมท่าเดียว
แต่ด้วยความรักและความเห็นใจที่มีต่อพี่ชายเขาจึงยกลูกสาวฝาแฝดอีกคนให้กับคุณลุงของลูก
โดยที่คุณลุงของลูกขอยัยหงส์ไปเลี้ยง โดยให้เหตุผลว่าเขาชอบดวงตาของยัยหงส์

แต่แม่รู้ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ชอบดวงตาของหนูต่างหาก
เพราะดวงตาของหนูถอดแบบมาจากคุณปู่ของหนูที่จากไปในเวลาเดียวกัน
ตอนที่คุณหมอผ่่าตัดหนูออกมาได้ และที่พ่อกับแม่ให้หนูเป็นพี่ เพราะหนูออกมาทีหลัง

ตอนผ่าตัดมีปัญหานิดหน่อยตรงที่หนู เพราะตอนที่หนูออกมากลับไม่มีเสียงร้องไห้อย่างหงส์
จนใครๆต่างคิดว่าหนูตายไปแล้ว

แต่ผ่านไปแค่สามสิบนาทีหนูก็ร้องไห้ออกมา
แม่มารู้ทีหลังว่ามันเป็นเวลาเดียวกับตอนที่คุณปู่ของหนูสิ้นลม แม่เลยให้หนูเป็นพี่
เพราะพี่ย่อมเสียสละให้น้องได้ออกมาก่อน

และก็เพราะดวงตาที่ถอดแบบมาจากคุณปู่ของหนูนี่แหล่ะที่เป็นที่มาของชื่อหนู
เพราะปู่ของหนูชื่ออินทรีย์ หนูก็เลยชื่อว่าเหยี่ยว เจ้าแห่งท้องฟ้าเหมือนๆกัน
โดยมีชื่อเต็มว่า ทสิกา ซึ่งแปลว่า หญิงผู้เป็นนักปราชญ์

และให้น้องสาวฝาแฝดของหนูชื่อว่าหงส์ เพราะพ่อของหนูรู้ว่าหงส์ต้องจากอ้อมอกของพ่อแม่ไป
เลยอยากให้ชื่อนั้นเป็นการอวยพรให้ลูกได้เป็นนางหงส์อยู่บนวิมานอันแสนสุข

หงส์ ทาริกา ที่แปลว่า สาววัยแรกอรุณ ที่มีแต่ความสดใส บอบบาง น่าทนุถนอม

แล้วหนูดูนี่สิ”ผู้เป็นมารดาพูดเสร็จก็ชี้ให้ลูกสาวดูภาพถ่ายในมือ

“หนูรู้มั้ยว่าเด็กแฝดสองคนในรูปนั้น คนไหนคือหนู คนไหนคือหงส์ น้องสาวของหนู”
หญิงสาวหยิบภาพถ่ายในมือของมารดา
ก่อนจะจ้องภาพถ่ายซึ่งเป็นภาพของหญิงสาวกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียง
ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเตียงของโรงพยาบาล
เพราะสังเกตจากชุดที่ทั้งสองใส่ในขณะที่กำลังอุ้มเด็กในวัยแบเบาะสองคน
เอาไว้ในอ้อมกอดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มีความสุข

“คนที่พ่อหินของลูกอุ้มอยู่น่ะคือน้องสาวของหนู ส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของแมก็คือหนู”

ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เห็นลูกสาวนิ่งมองภาพนั้นอยู่นานโดยไม่เอ่ยออะไรออกมา
และเมื่อหญิงสาวได้ยินก็ยิ้มบางออกมาทันที

“แม่เองต้องพักรักษาตัวอยู่ที่นั่นเป็นเดือนกว่าจะได้กลับเมืองไทย
และลูกสาวทั้งสองของแม่เองก็ยังไม่แข็งแรงพอเพราะคลอดก่อนกำหนด
ทำให้ต้องอยู่ในตู้อบอยู่นาน แม่กับพ่อเลยไม่ได้ร่วมงานฝังศพของคุณปู่ของลูก

และการกลับเมืองไทยครั้งนั้นก็ทำให้ลูกกับน้องต้องแยกจากกันมาตลอด
คุณย่าของหนูท่านสิ้นใจหลังจากที่คุณปู่ของหนูจากไปได้แค่หนึ่งปี
หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอลูกสาวอีกคนอีกเลย
ไม่มีข่าวคราว ทั้งที่ลุงของลูกเขาก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะส่งข่าวคราวมา

แต่เปล่าเลย เขาเอาลูกสาวอีกคนของแม่หายไปในกลีบเมฆ จนพ่อของลูกทนไม่ไหว
ออกติดตามค้นหา แต่ก็ไม่เจอหรือได้ข่าวใดๆ

จนเวลาล่วงเลยมาสิบปี ลุงของลูกติดต่อกลับมา และครั้งนั้นพ่อของลูกก็ขอลูกสาวคืน
แต่ลุงของลูกเขาไม่ยอม เลยทะเลาะกัน สุดท้ายเขาก็หายไปไม่ติดต่อมาอีกเลย

ห้าปีต่อมาพ่อของลูกออกตามหาจนเจอและขอวอนให้พี่ชายของเขาส่งลูกสาวคืนให้
แต่ลุงของลูกยังคงดื้อดึง ไม่ยอม และให้ข้อเสนอว่าให้เอาลูกสาวอีกคนมาแลก
มันเป็นความคิดที่แย่ที่สุดเท่าที่แม่ได้ยินมา

แต่พ่อของหนูแค่อยากเจอหน้าลูกสาวอีกคนสักครั้ง จึงยอมพาหนูเดินทางไปที่โน่น
โดยบอกกับแม่ว่ายังไงๆท่านก็จะพาลูกสาวทั้งสองกลับมาอยู่ด้วยกันให้ได้
ท่านไม่อยากเห็นลูกๆต้องแยกจากกันอีก

โดยไม่เคยคาดคิดว่านั่นจะเป็นกำดักหลุมพรางที่ลุงของลูกเขาตั้งใจขุดเอาไว้ตั้งนานแล้ว
และแม่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอพ่อของหนูอีกเลย ไม่คิดว่าครั้งนั้นจะเป็นการจากลากันชั่วชีวิต”

หญิงสาวซับน้ำตาของมารดาที่ไหลอาบแก้มทั้งสอง
เธอรู้ดีว่าท่านเจ็บปวดแค่ไหนกับการสูญเสียคนรัก และลูกสาวไปในครั้งนั้น

“แม่รู้ได้ทันทีว่าคนที่กลับมาไม่ใช่พ่อหินของลูก ไม่ใช่เหยี่ยว แต่แม่ก็พูดอะไรไม่ได้
มันเหมือนน้ำท่วมปาก เพราะนั่นหมายถึง ชีวิตของลูกๆของแม่ทั้งหมด
แม่ได้แต่เก็บมันเอาไว้ ทำอะไรไม่ได้ เพราะคำๆเดียวที่ทำให้แม่ต้องทนใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่นี่
เพราะ คำว่าสูญเสีย แม่ไม่อยากเห็นใครต้องจากไปอีก โดยเฉพาะลูกๆของแม่
แม้มันจะไม่อบอุ่นเหมือนเดิม แต่แม่ก็อยากเห็นพวกเขายังอยู่ ยังยิ้มได้ต่อไป
และแม่ก็ไม่อยากทำร้ายลูกสาวอีกคน
เพราะแม่คิดว่ายังไงๆหนูกับพ่อก็จากไปแล้ว มันเรียกคืนไม่ได้

และแม่เองก็ไม่สามารถทนอยู่ร่วมบ้านเพื่อแสดงบทบาทเป็นเมียของคนที่ฆ่าสามีตัวเองได้
แม่ถึงเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่ อยู่อย่างสิ้นหวังมาตลอด ไม่ว่่าจะทำยังไง มันก็เจ็บกันทั้งนั้น
แม่ถึงต้องเฉยมาตลอดสิบกว่าปี ได้แต่หวังว่าพ่อกับหนูจะยังอยู่ จะยังไม่จากไป
ทั้งที่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

จนวันแรกที่หนูย่างเข้ามาที่นี่ แม่สงสัยมาตลอดว่าหนูเป็นใคร ทำไมถึงเอาแต่จ้องแม่
และคอยเข้ามาใกล้ชิดทุกคน แม่ดีใจเหลือเกินที่หนูกลับมา แม้จะไม่มีพ่อหินกลับมาด้วย
แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว”

เธอกอดลูกสาวเอาไว้แน่นอีกครั้งด้วยความรัก หญิงสาวเองก็กอดมารดาแน่น

มารดาคงเจ็บปวดมาตลอดสิบกว่าปี เธอเองไม่รู้จะช่วยท่านยังไง
นอกจากหนทางเดียว ทางเดียวเท่านั้นที่จะปิดฉากนี้ลงได้

นั่นคือต้องกำจัดตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด แม้จะเสี่ยงแต่เธอก็ยอมเสี่ยง
ในเมื่อมันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ถึงไม่มีเธอพวกเขาก็อยู่กันมาได้

ดังนั้น ถ้าชีวิตนี้มันจะซื้อความสุขให้ใครๆอีกหลายคนได้ เธอก็พร้อมจะแลก

“แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ เหยี่ยวจะตอบแทนทุกการกระทำของเขาเอง
เขาจะต้องชดใช้ให้กับทุกสิ่งทุกอย่างและกับทุกคนที่เขาเคยทำเอาไว้ มันถึงเวลาแล้วล่ะค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยดวงตาวาวโรจน์ จนผู้เป็นมารดารู้สึกใจหายไม่ได้
เมื่อคิดว่าลูกสาวคนนี้กำลังคิดจะทำอะไร

“ไม่นะลูก อย่าทำอย่างนั้น มันเสี่ยงหนูน่าจะรู้”

“ค่ะ แต่เขาทำร้ายใครๆไว้เยอะ ถ้าเราปล่อยเขาไป อาจจะต้องมีใครๆอีกหลายคน
ที่ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับความแค้นของเขานะคะ

เหยี่ยวรู้ว่านอกจากเขาจะแค้นพวกเราแล้ว เขายังแค้นใจในความรักจอมปลอมของตัวเองด้วย
เขาน่าจะรู้ว่าความรักของพวกเขามันไม่จีรังยั่งยืนนัก”คนฟังพยักหน้าด้วยความหนักใจ

“แม่เองก็อดเห็นใจเขาไม่ได้เหมือนกันในบางครั้ง แต่สิ่งที่เขาทำมันก็เกินจะให้อภัย
แม่เองก็ไม่เคยคิดว่าพี่ชายที่แสนดีอย่างเขาจะกลายเป็นซาตานไปได้

เมื่อก่อนลุงของลูกเขาเป็นคนดี รักครอบครัว และเป็นคนฉลาดเข้าขั้นอัจฉริยะ
ทำให้เป็นที่รักของใครๆ ทั้งหน้าตาและฐานะ มันเลยส่งให้เขากลายเป็นขวัญใจของสาวๆ
แต่เขากลับไม่สน เรื่องแบบนี้มันเลือกไม่ได้หรอกลูก
ตอนนั้นคุณปู่ท่านเลยรักลูกชายคนนี้มาก ต่างกับพ่อของลูก ที่เป็นแค่คนธรรมดา
ไม่ได้ฉลาดเท่าพี่ชายอีกคน ทั้งๆที่ก็เป็นฝาแฝดกัน หน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง
แต่กลับต่างกันคนละขั้ว พ่อหินของหนูเขาเป็นคนสบายๆ แม้จะไม่ฉลาดเท่าพี่ชาย
แต่เขาเป็นคนขยัน มุมานะ และที่สำคัญพ่อหินของลูกเขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นเวลาอยู่ใกล้
แม่ถึงได้รักและร่วมชีวิตด้วย แม้พ่อของลูกจะไม่สมบูรณแบบอย่างที่ใครๆคาดหวัง
แต่แม่ก็รักเขา รักที่เขาเป็นเขา เราเลยสร้างครอบครัวเล็กๆมาด้วยกัน

ตอนเกิดเรื่องราวครั้งนั้น พี่เพลิงพี่ชายของลูกเขาแค่สองขวบเห็นจะได้ เลยยังไม่รู้เรื่องอะไร
และนั่นก็เป็นอีกชนวนหนึ่งที่ทำให้ลุงเมฆาของลูกเขาคิดว่าที่คุณปู่ขับเขาออกจากตระกูล
เพราะเขาไม่สามารถมีทายาทให้กับตระกูลได้อย่างพ่อหินของลูก
เรื่องมันเลยบานปลายอย่างที่เห็น

บางครั้งบางเรื่องอาจจะดูไร้เหตุผล แต่แม่เข้าใจว่าถ้าคนที่ไม่ได้มาประสบพบเจอ
ก็จะไม่มีวันเข้าใจในเหตุผลของการกระทำเหล่านั้นได้
แม่รู้ว่าการสูญเสียมันเจ็บปวดแค่ไหน แต่ถึงจะเข้าใจ แม่ก็รับไม่ได้อยู่ดี”

ผู้เป็นมารดาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด อดีตมันมีผลกับปัจจุบันของเธอมาตลอด
แม้จะพยายามลืมเพื่อความสุขของวันนี้ แต่เธอก็ลืมไม่ลง

ในเมื่ออดีตได้พรากหัวใจรักของเธอจากไปตลอดกาล
เธอแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ที่ต้องทนเพราะลูก อยากอยู่ให้รู้ว่าลูกๆยังปลอดภัยดี
แม้การอยู่จะสร้างความทรมานแค่ไหนก็ตาม

หญิงสาวได้แต่กอดปลอบมารดา เธออยากปลดปล่อยมารดา
อยากให้มารดายิ้มได้ มีความสุขได้อีกครั้ง



อากิโกะเดินเข้ามาเยี่ยมเพื่อนชายหลังจากที่ได้ไปหามารดาเมื่อเย็นวาน
ก่อนจะบีบมือเพื่อนแน่น เพื่อนของเธอนอนนิ่งไปนานเกือบเดือนแล้ว
อาการโดยรวมยังถือว่าดี แต่ทำไมมันยังไม่ตื่นขึ้นมาด่าเธออย่างที่เคยทำล่ะ

“แกนี่มันเป็นเพื่อนที่แย่จริงๆเลยพะพาย ปล่อยให้เพื่อนอย่างฉันพูดคนเดียวอยู่ได้เกือบเดือน
รู้สึกว่าครั้งนี้แกจะมีความอดทนสูงเหลือเกินนะ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดกึ่งต่อว่า
แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์กรีดร้อง
ก่อนจะรีบออกจากห้องนั้นเพื่อออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอก

“ว่าไง อายะ”

“เกิดเรื่องแล้วค่ะคุณอากิ ตอนนี้คุณหงส์ถูกจับตัวไปแล้วค่ะ
พวกเราทำงานพลาดเองค่ะ โดนพวกมันยกพวกมาถล่มแล้วจับตัวเธอไปค่ะ”

“เธอว่าอะไรนะอายะ”หญิงสาวตะโกนออกมาด้วยความตกใจในสิ่งที่ได้ยิน
นี่เธอประมาทเขาคนนั้นเกินไปรึเปล่า
...ก็ไหนว่าเขาไปดูงานที่ญี่ปุ่นไง แล้วทำไม…นี่เธอโดนหลอกเข้าให้อีกแล้วใช่มั้ย…

“พวกเราขอโทษค่ะคุณอากิ”

“ช่างเถอะ ฉันประมาทเขาเอง ว่าแต่เธอพอรู้มั้ย ว่าเขาเอาน้องสาวของฉันไปไว้ที่ไหน”

“พอจะรู้ค่ะ”

“งั้นก็ดี เดี๋ยวเธอบอกมาว่าอยู่ที่ไหน”
คนเป็นลูกน้องบอกสถานที่ดังกล่่าวก่อนจะบอกอีกเรื่องที่เธอเพิ่งได้รับข่าวมา

“แต่คุณอากิคะ นอกจากคุณหงส์แล้ว คุณนารายังถูกจับตัวไปด้วยค่ะ”

“อะไรนะ”หญิงสาวอุทานเสียงสูงขึ้นมาอีกครั้ง

“ทางสายของพวกเรารายงานมาอย่างนั้นค่ะ งานนี้พวกเราโดนถล่มเพราะกำลังคนน้อยกว่าค่ะ”

“ช่างเถอะ พวกเธอทำดีที่สุดแล้ว ฉันรู้ ขอบใจมาก ส่วนเรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง”

“ไม่ได้นะคะ มันอันตรายเกินไป”เสียงนั้นขัดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ฉันรู้ แต่ฉันไม่อยากสูญเสียอะไรอีกแล้ว โดยเฉพาะพวกเธอที่จงรักภักดีกับโอบ้าซัง
และฉันมาตลอด”หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

“แต่พวกเราเต็มใจ”

“อย่าเลยอายะ ไม่งั้นก็ต้องรบราฆ่าฟันกันไม่เลิกสักที
อย่าให้ใครต้องมาจากไปเพราะเรื่องของฉันอีกเลย
ชีวิตทุกชีวิตมีค่า พวกเธออยู่กับฉันมานานน่าจะรู้ดีว่าฉันเป็นคนยังไง
ฉันควรจะสะสางเรื่องนี้ด้วยมือของฉันเอง”

“ไม่ได้นะคะ คุณอากิจะไปที่นั่นคนเดียวไม่ได้นะคะ”

“ถ้าเธอยังเคารพฉัน ยังเห็นว่าฉันเป็นนาย ก็จงเชื่อฉัน อย่าตามฉันไป
และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันฝากดูแลโอบ้าซังด้วย ฝากความรักของฉันไปให้ท่านด้วย”

“ไม่ได้นะคะ”ลูกน้องสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเว้าวอน

“เธอทำได้ อายะ เธอก็รู้ว่าไม่ว่าฉันจะอยู่หรือไปมันก็ไม่ต่างกันนัก
ถ้าจะต้องไป ฉันก็ขอไปอย่างมีประโยชน์”หญิงสาววางสายไป
ก่อนจะเดินมาหาเพื่อนรักคนเดียวในโลกอีกครั้ง กุมมือนั้่นราวกับจะขอกำลังใจ
ก่อนจะจ้องมองหน้าของเพื่อชายนิ่งนานพร้อมกับเอ่ยออกมา

“ถ้าแกตื่นมาไม่เจอฉันอีก แกอย่าด่าว่า อย่าโกรธฉันนะพะพาย”

“ฉันรักแกนะ รักแกที่สุดเลย…” พูดเสร็จก็รีบเดินออกไปทันที

หลายครั้งที่เธอไม่อยากใช้กำลังทำร้ายใครๆ แม้คนเป็นย่่าจะพยายามส่งคนมาคอยดูแล
แต่เธอก็ไม่ต้องการ เพราะไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้กับย่า
เพราะที่ผ่านมาเธอนำความเดือดร้อนมาให้ท่่านตลอด
และเธอก็รู้ดีว่าคนเป็นลุงเองก็มีเส้นสายทางโน้นไม่น้อย
และพวกของคนลุงก็คนละสายกับย่าของเธอ
ถ้าเธอเอาคนของย่ามาใช้ ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มศัตรูให้กับคนเป็นย่า

เมื่อก่อนคนของย่าอาจจะแข็งแกร่งแต่ปัจจุบันมันเหลือน้อยเต็มที
เพราะไม่มีใครสืบสานต่อ มีแต่คนที่จงรักภักดีจริงๆเท่านั้นที่ยังคอยเป็นกำลังให้
และคนดีๆที่จงรักภักดีใช่หากันได้ง่ายๆ เธอไม่อยากให้คนเหล่านั้นเอาชีวิตมาเสี่ยง
แม้จะรู้ดีว่าพวกเขาเต็มใจก็ตาม แต่มันไม่คุ้มเลย…

แม้ว่าเธอจะฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกอะไร แต่นั่นต้องเป็นคนชั่วไม่ใช่คนดีๆ
คนที่จงรักและภักดีต่อเธอ…เธอทำไม่ได้หรอกที่จะส่งพวกเขาไปตาย…
ในเมื่อทุกคนต่างก็มีครอบครัวที่รออยู่ข้างหลังทั้งนั้น…




วายุเองที่กำลังขับรถกลับบ้านอยู่ในตอนนี้หลังจากที่ได้ลงไปจัดการเรื่องงานที่ใต้
แต่กลับมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย
ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัยกับคำพูดของคนที่เขาจ้างให้ไปทำความสะอาดบ้านของน้องสาวของเขา

“เมื่อเดือนที่แล้วป้าเห็นใครก็ไม่รู้ค่ะคุณลม มาพักอยู่ที่บ้านรังรักอยู่คืนนึง
สงสัยจะเป็นคุณเหยี่ยว แต่พอมาคิดดูอีกที ตอนนั้นคุณเหยี่ยวยังไม่ฟื้น
ป้าเองว่าจะบอกคุณลมตั้งหลายครั้งแล้วค่ะแต่ลืมทุกที เพราะป้าเห็นดวงไปเปิดสว่างทั้งคืนน่ะค่ะ
ตอนเช้ากะว่าจะไปดู แต่ก็ไม่เห็นมีใครแล้ว และสัปดาห์ที่แล้วป้าได้เจอคุณเหยี่ยวด้วยค่ะ
เธอมาพักอยู่ที่บ้านรังรักตั้งหลายวัน ป้าเองยังได้คุยกับเธอเลยค่ะ
เธอดูแข็งแรงดีจนป้าแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะเพิ่งฟื้นจากอาการป่วยน่ะค่ะ”

นั่นคือคำพูดทั้งหมดของคนที่รับหน้าที่ช่วยดูแลบ้านหลังนั้นของน้องสาวของเขาให้

และนั่นคือปัญหาที่ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าน้องสาวของเขาไปที่นั่นได้ยังไง
ในเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น้องของเขาก็ยังทำกายภาพบำบัดอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย
จะว่าแยกร่างมาก็ไม่น่าจะใช่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เขานั่งคิดมาตลอดทางที่ขับรถกลับมาที่บ้านอาทิตยะ
แต่ยังไม่ทันได้เลี้ยวเข้าบ้านก็มีโทรศัพท์เข้ามาเสียก่อน
และก็อดแปลกใจไม่ได้กับเบอร์แปลกๆแต่ก็กดรับก่อนจะแปลกใจพร้อมกับอุทานออกมา

“เห้ย ไอ้รัง นี่แกเองเหรอวะ ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนอย่างแกจะคิดโทรหาเพื่อนรักอย่างฉัน
มีอะไรวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะโทรมา”

ชายหนุ่มอดล้ออีกคนไม่ได้ เพราะเขากับเพื่อนคนนี้แม้จะซี้กันแค่ไหน
แต่ตั้งแต่จบปริญญาตรีก็ห่างหายไปนาน จะว่าเพื่อนซี้ดูจะไม่เหมาะนัก
ถ้าจะให้เหมาะต้องเรีบกว่าเพื่อนรักเพื่อนแค้นมากกว่า
เพราะเขากับเพื่อนคนนี้แข่งขันกันมาตลอด ฟาดฟันกันมาก็หลายเวทีแล้ว
เสมอกันทุกครั้งจนต้องขับเคี่ยวกันมาตลอด

และนั่นเลยทำให้คุ้นหน้า แถมยังส่งน้องชายมาเป็นสปายอีก

“แกอย่าเพิ่งพูดมากไอ้ลม ฉันมีเรื่องสำคัญ แกฟังให้ดีนะ
ตอนนี้แม่แกกับน้องสาวทั้งสองของแกกำลังตกอยู่ในอันตราย
เพราะตอนนี้แม่แกไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลและฉันเพิ่งได้ข่าวจากน้องชายของฉันเมื่อกี้
ว่าน้องสาวของแกก็หายตัวไปเหมือนกัน และอีกคนก็คงกำลังจะไปตามทั้งสองอยู่”

คนฟังงงกับคำพูดของเพื่อน เพราะไอ้คำว่าน้องสาวทั้งสองของเขานั่นแหล่ะ

ใช่เขามีน้องสาวสองคน แต่ยัยฟ้าก็จากไปแล้วนี่

“แกพูดอะไรให้มันเข้าใจง่ายๆได้มั้ยไอ้หมอ น้องสาวฉันน่ะมันสองคนก็จริง
แต่ยัยฟ้าเขาจากไปแล้วนะโว่ย”

“แกฟังฉันให้ดีนะ เพราะฉันไม่มีเวลามาอธิบายแกตอนนี้นัก
อากิโกะคือเหยี่ยวตัวจริง น้องสาวของแก ส่วนอีกคนที่ป่วยน่ะคือหงส์ น้องสาวฝาแฝดของเหยี่ยว
ทีนี้แกก็เลิกสงสัยและก็เลิกถามฉัน แล้วมาช่วยฉันกับนายรักตามหาสามคนนั่นดีกว่า
ว่าพ่อตัวปลอมแกเขาเอาแม่แกกับหงส์ไปซ่อนไว้ที่ไหน
และดูท่าทางน้องสาวอีกคนของแกคงกำลังจะบุกไปที่นั่นซะด้วย ซึ่งฉันไม่ไว้ใจ”

คนฟังนิ่งอึ้งกับคำพูดของเพื่อน แต่เขาจะยอมเชื่อมันสักครั้ง

“แล้วแกจะให้ทำไง”

“ฉันเคยสะกดรอยตามเขาไปในหลายๆที่ และคิดว่าหนึ่งในสี่ที่นั้น
ต้องเป็นสักที่หนึ่งที่เขาเอาพวกเธอไปซ่อน ดังนั้น ฉัน แกและไอ้รักต้องแยกย้ายกันไป
แล้วพี่ชายแกล่ะเขาไปไหน จะได้ช่วยออกตามหาอีกที่นึง”

“พี่เพลิงเขาไปดูงานที่สิงคโปร์ พรุ่งนี้ถึงจะกลับ ส่วนนายดินไปดูโรงงาน
กับพี่น้ำที่เชียงใหม่ยังไม่กลับมาเลยหว่ะ”

“งั้นพวกเราสามคนคงต้องแยกย้ายกันไป ถ้าไม่เจอในสามที่นั้น
ก็แสดงว่าเหลืออีกที่หนึ่ง เราค่อยไปเจอกันที่นั่นแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะไปที่…”

รังสิมันต์บอกถึงสถานที่จะแยกย้ายกันไปให้พื่อนฟังโดยที่อีกฝ่่ายก็รีบขับรถออกไปทันที

“ได้ งั้นเราแยกกันตามนี้แล้วกัน”

“ตอนนี้ไอ้น้องชายฉันมันล่วงหน้าไปแล้ว หวังว่าเราคงโชคดีเจอตัวทั้งสามนะ”

“ขอบใจมากเพื่อนที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ แล้วฉันจะตอบแทนแกทีหลัง”

“เออ ถ้ารอดออกมาได้น่ะนะ”รังสิมันต์พูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก

“มันต้องรอดสิวะให้เสือใต้”

“แกว่าระหว่างแกกับฉัน ใครจะโชคดีได้เจอเขาวะ”

“นั่นน่ะสิ…”


...โปรดติดตามตอนต่อไป.......



มาดูกันค่ะว่า...ในสามหนุ่ม คนใดจะเป็นคนได้เจอทั้งสามสาว...
เย้ย ไม่ใช่สิ...เพราะแม่ของเหยี่ยวนั้นไม่สาวแล้ว อิอิอิ...





yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2555, 18:57:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ย. 2555, 18:57:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 2387





<< บทที่ 36 ผิดด้วยหรือ   บทที่ 38 เห่กล่อม >>
pookza 17 ก.ย. 2555, 16:11:24 น.
หมั่นไส้ นายรัก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account