บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑๔

ชาวกองถ่ายได้วิ่งวุ่นชุลมุนหัวหมุนกันอีกครั้ง เมื่อสิมิลันเป็นลมกลางกองถ่าย ทีมงานโทร.ตามผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงสาว แล้วปล่อยให้คนป่วยนอนพักเงียบๆ ในห้องแต่งตัว

เมื่อมาถึงสีหน้างามตามีร่องรอยเป็นห่วงชัดเจน “แซม...ไปหาหมอกันดีกว่า พักนี้เธอดูไม่ค่อยดีเลย”

สิมิลันฝืนลุกขึ้น “เมื่อคืนแซมอ่านหนังสือสอบจนถึงเช้าน่ะพี่งาม ไม่ได้นอนเลย ก็เลยเพลียนิดหน่อย พอสอบเสร็จก็บึ่งมากองถ่ายทั้งที่ยังไม่ได้กินข้าวน่ะค่ะ ก็เลยเป็นลม ไม่ได้ป่วยเป่ยอะไรขนาดนั้นหรอก พี่ๆ กองถ่ายเขาตื่นตูมกันไปอย่างนั้นเอง”

คนพูดนวดขมับนิดๆ พยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ”พี่งาม หนูอยากดื่มน้ำเย็นๆ รบกวนพี่งามหน่อยสิคะ” สิมิลันหลับตานิ่งๆ ท่าทางบอกชัดว่าเพลียจัด

งามตาหันรีหันขวาง เห็นหลอดยาดมวางอยู่ไม่ไกลจากโซฟาที่หญิงสาวพิงอยู่ จึงหยิบมาเปิดฝาส่งให้หญิงสาว “เอ้า...เอาจ่อไว้ที่จมูกหน่อยละกัน จะได้รู้สึกดีขึ้น”

คนพูดยัดหลอดยาดมใส่มือนักแสดงสาวที่นั่งหลับตาอย่างหมดเรี่ยวแรง แล้ววางปลอกไว้บนโต๊ะ แต่กลับทำมันร่วงลงบนพื้นกลิ้งไปข้างๆ โซฟาหล่นหายไปแถวราวเสื้อผ้าซึ่งอยู่ด้านหลังโซฟาแทน

งามตาเท้าเอว ยู่หน้าด้วยความหงุดหงิด จำต้องลุกขึ้นเดินอ้อมไปหลังราวแขวนผ้า แล้วก้มลงไปเอื้อมมือควานหาฝาหลอดยาดมบนพื้น

เสียงขยับตัวรวดเร็ว ตามด้วยอาการโอ้กอ้ากของเด็กสาวรุ่นน้อง ทำให้งามตาผวาจะลุกขึ้นไปดูแล แต่แล้วก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องงับลง พร้อมกับฝีเท้าย่ำตึงๆ มาใกล้ ขณะที่เสียงห้าวดังกังวาน

“เธอเป็นอะไรของเธอกันแน่สิมิลัน”

คนกำลังหายาดมเข่าอ่อน ทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวเมื่อได้จำเสียงนั้นได้ขึ้นใจ...ปัณณ์ รัชนาถ!

“นี่มันห้องแต่งตัวผู้หญิงนะ คุณไม่ควรเข้ามาที่นี่” เสียงผ้าเสียดสีกับหนังเบาๆ ทำให้พอเดาได้ว่าสิมิลันคงลุกขึ้นเผชิญหน้ากับฝ่ายนั้น

งามตาซุกตัวให้เล็กที่สุด ขดอยู่ใต้ราวเสื้อผ้าอย่างแนบเนียน เพราะไม่ต้องการให้ทั้งสองคนนั่นรู้ว่ามีเธออยู่ในห้องด้วยอีกคนหนึ่ง

“บอกฉันมาดีกว่าว่าเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่ คนทั้งกองเขามีตา เห็นเหมือนๆ กันหมด ว่าเธอน่ะอาเจียนบ่อยๆ ว่างเมื่อไหร่ก็แอบไปนอน แล้วนี่ยังจะ...เป็นลมเป็นแล้งอีก”

“ฉันก็จะเป็นอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกนะคะคุณลุง”

“สิมิลัน ฉันถามก็เพราะเป็นห่วง”

“แต่ฉันไม่ต้องการความห่วงใยบ้าบอของคุณ บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ขอบคุณหรอกที่กรุณามาถามไถ่น่ะ เพราะว่าฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมาสนใจเรื่องของฉัน”

“ยายบ้า!” ความดังของน้ำเสียงนั้น งามตาเดาไม่ออกเลยว่ามันเป็นเพราะคนพูดขึ้นเสียง หรือเขาขยับเข้ามาใกล้โซฟามากขึ้นกันแน่ “ทำไมฉันจะไม่เกี่ยว ที่ฉันต้องรู้ก็เพราะ...เผื่อจะมีอะไรที่ฉันต้องรับผิดชอบยังไงล่ะ”

“ไม่มีอะไรที่คุณต้องรับผิดชอบหรอกค่ะ ในเมื่อฉันรับเงินคุณมาแล้ว ถ้ามันจะบังเอิญมี ‘ปัญหา’ อะไรเกิดขึ้น ฉันก็จะจัดการเองทั้งหมด ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันทำให้ฟรี ไม่คิดเงินเพิ่มหรอก”

“พูดจาทุเรศ ฉันไม่ยอมให้เธอไปทำแท้งหรอกนะ เด็กนั่นเป็นรัชนาถคนหนึ่ง”

งามตามือเท้าเย็นเฉียบ หูอื้อจนไม่ได้ยินบทสนทนาอื่นๆ ต่อจากนั้นอีกเลย มารู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่ได้ยินเสียงประตูปิดโครมไล่หลัง สาวใหญ่นั่งหมดแรงอยู่นาน กว่าจะคลานออกจากใต้ราวเสื้อผ้า มานั่งกอดเข่าอยู่ที่ข้างโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง

สีหน้าสิมิลันที่มองเธอเผือดขาว บอกยากว่าเป็นเพราะตกใจที่เห็นเธอหรือเพราะยังไม่หายเสียขวัญจากการเผชิญหน้ากับ ‘ต้นเหตุ’ กันแน่

งามตากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น “เกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะตอง”

คนพูดรู้สึกเหมือนใจจะขาด เธอรักเด็กคนนี้เหมือนน้องสาวแท้ๆ เฝ้าดูแล คอยรับส่งให้สิมิลันทำงานมาตลอด นานครั้งหรอกจึงจะวางใจให้ฝ่ายนั้นขับรถไปทำงานเองตามลำพัง ที่ผ่านมาหญิงสาวไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย แต่แล้วทำไมจู่ๆ กลับมีเรื่องอัปยศเช่นนี้ขึ้นได้

นักแสดงสาวก้มหน้าน้ำตาร่วงพรู ไม่ตอบอะไรสักคำ

คนอายุมากกว่าจับหัวเข่าหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไว้แล้วบีบเบาๆ สิมิลันโผจากโซฟาลงมากอดเธอไว้แน่น เนื้อตัวสั่นเทา “เธอไม่เต็มใจใช่ไหม”

คราวนี้สิมิลันร้องไห้โฮ สะอื้นหนักจนไหล่ไหว

งามตาปะติดปะต่อเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วประมวลหาเหตุผลอย่างครุ่นคิด ทุกเรื่องดูเหมือนจะสมเหตุสมผลกันพอดีอย่างน่าใจหาย

ที่เธอคิดไว้ไม่น่าจะผิดไปจากความจริงนักหรอก ปัณณ์ข่มเหงสิมิลัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แล้วฝ่ายนั้นก็จ่ายค่าเสียหายให้กับเด็กสาวแล้วอย่างที่สิมิลันพูดเมื่อครู่

มิน่า...สองคนนั้นถึงมีท่าทีไม่ถูกกันทั้งที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน

ในขณะเดียวกันสิมิลันเองก็เล่นฉากเลิฟซีนไม่ได้อีกเลย เธออาจจะฝังใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้

ยิ่งเมื่อรวบกับที่หญิงสาวหลบหน้าศิวัชและตัดรอนความสัมพันธ์อย่างไม่ไยดีด้วยอีก ทุกอย่างก็ลงตัวกันพอดี

“โธ่...ยายตอง” งามตากอดคนในอ้อมแขนด้วยความเวทนา “เคราะห์ร้ายอะไรอย่างนี้”

“เขา...เขาจ่ายค่าเสียหายให้ตองมามากพอดูค่ะพี่งาม แต่...” หญิงสาวสะอึกสะอื้น “แต่ตองไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด”

“ตอง แล้วที่เขาพูดน่ะมันยังไง เธอท้องเหรอ”

สิมิลันส่ายหน้า “ไม่ค่ะ ไม่ใช่เด็ดขาด”

งามตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของฝ่ายนั้นแล้วถอนใจ ตัดสินใจไม่เซ้าซี้อะไรอีก แต่หมายมาดไว้แล้วว่าจากนี้จะต้องจับตาดูหญิงสาวไว้ไม่ให้คลาดสายตาเด็ดขาด

ทั้งไม่ให้ปัณณ์ รัชนาถ เข้าใกล้

และคอยเฝ้าสังเกตด้วยว่าสิมิลันตั้งท้องอย่างที่ปัณณ์สงสัยจริงหรือ






ห้องทำงานรกเรื้อด้วยรูปถ่ายมากมายติดเต็มผนังและตามจุดต่างๆ บอกชัดว่าเจ้าของห้องคงไม่พ้นมีอาชีพเป็นช่างภาพ หญิงสาวสองคนมองรอบห้องด้วยสีหน้าชื่นชม โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่านางแบบที่เคยผ่านเลนส์ของปัญญามานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นดารา นักร้อง นักแสดง และนางแบบชื่อดัง บ้างก็ระดับชาติ ระดับทวีป และมีบางรายที่เป็นคนดังระดังโลกเลยก็มี

“ก็...อย่างที่เราคุยกันน่ะนะ พี่เอาไอเดียไปเสนอกับนายทุนแล้ว ส่วนใหญ่จะติงมาว่าค่าตัวแซมสูงไปหน่อย” ปากว่าอย่างนั้นแต่คนพูดยิ้มกว้างมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด “พี่บอกตามตรงว่าหยุดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้เลย เอาเป็นว่าพี่ตกลงก็แล้วกัน”

สิมิลันไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ ที่ได้รับคำตอบเช่นนั้น

งามตาอ้าปากค้าง “พี่ปัญคะ...งามอยากให้...”

ปัญญารีบยกมือห้าม “ไม่ต้องห่วงนะงาม พี่ไม่เคยฆ่านางแบบหรอก ทุกงานที่ออกมาสวย เป็นศิลปะ ไม่มีอนาจารเด็ดขาด เชื่อได้เลย”

“แต่น้องยังเด็กมากนะคะพี่ปัญ แกยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ งามห่วงว่าถ้าถ่ายแบบอย่างนี้อาจจะมีปัญหากับที่มหาวิทยาลัย”

แทนคำตอบ ปัญญากลับหันไปหยิบสมุดเล่มใหญ่ออกมากาง อธิบายอย่างคล่องแคล่ว

“เอาอย่างนี้งามกับแซมดูโครงเรื่องที่พี่วางแผนไว้ก่อนก็แล้วกัน พี่ตั้งใจว่าจะถ่ายทำออกมาในรูปของบันทึกชีวิตประจำวันของเด็กสาวคนหนึ่ง สัญญา...ว่าจะไม่มีภาพน่าเกลียดชนิดไปยืนกางแขนขาอยู่ในสวนสาธารณะหรือทำท่าประเจิดประเจ้อในสถานที่ที่ดูแล้วตลกๆ เด็ดขาด”

ปัญญาเปิดหน้ากระดาษต่อ “พี่จะเลือกแต่สถานที่ที่เหมาะกับการเปลื้องผ้าเท่านั้น อย่างเช่น...ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องซาวน่า ห้องแต่งตัว ส่วนฉากกลางแจ้ง ก็อาจจะมีชายหาด สระว่ายน้ำ อ้อ...พี่กำลังตกลงกับนายทุนอยู่อีกราย ถ้าเจ้านี้ตกลง พี่จะไปญี่ปุ่นด้วย การลงแช่น้ำร้อนออนเซ็น ดูจะเป็นการนู้ดที่สมเหตุผลแล้วก็สวยมากเลย ว่าไหม”

งามตาชี้ภาพวาดบนหน้ากระดาษ ซึ่งปัญญาร่างแบบไว้คร่าวๆ ”แล้วนี่อะไรคะ บนที่นอน”

“เราจะเริ่มถ่ายทำกันที่ฉากนี้แหละ เพื่อให้แซมคุ้นกับทีมงานก่อน เพราะฉากนี้จะไม่โป๊เลย เป็นการถ่ายแบบบนเตียงกว้างๆ ผ้าปูที่นอนยับๆ แล้วยายแซมก็อยู่ในโปงผ้าปูที่นอนสีขาว จัดผ้าให้แนบๆ เห็นรูปร่างชัดๆ เท่านั้นเอง เห็นไหม...ไม่โป๊ แต่คนดูน่ะ จินตนาการกระฉูดไปถึงไหนๆ แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

คนฟังสองคนอ้าปากค้าง “นี่พี่ปัญหมายความว่ายังไงคะ...”

“อ๊าว...เราจะเล่นกับความคิดฝ่ายต่ำของคนนี่นะ เซตนี้แซมต้องร้องไห้ ทำสีหน้าเศร้าๆ หน่อย ใครบ้างจะเดาไม่ออกว่านี่มันสถานการณ์แบบไหน” ปัญญาทำท่าตื่นเต้น “แค่คิดก็ขนลุกแล้ว มันต้องออกมาสวยแน่ๆ พี่จะเอารูปเซตนี้ลงไว้เป็นชุดสุดท้ายของเล่ม รับรองว่าไม่มีใครที่เห็นแล้วจะไม่หลงรักเธอ”

สิมิลันกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น ครั้งก่อนที่มีเหตุการณ์แบบนี้ผ่านเข้ามาในฉากชีวิต เธอได้ค่าเสียหายถึงยี่สิบล้าน น่าขัน...ปัญญาอุตส่าห์สร้างจินตนาการออกมาเหมือนกันได้ราวกับแกล้ง และคราวนี้เธอก็จะได้ค่าตัวในการถ่ายทำไม่ต่ำกว่าแปดหลักเช่นกัน

“โอเคค่ะ ว่าภาพชุดนี้ไม่โป๊ แค่ชวนให้จินตนาการสูง แล้วชุดอื่นๆ ล่ะคะ” งามตากังขา

ปัญญายิ้ม “พี่ช่วยเซฟแซมอยู่แล้ว เวลาถ่ายเนี่ย...เธอต้องนุ่งชิ้นล่างไว้ตลอด พี่จะมาใช้คอมพิวเตอร์ลบรอยชุดว่ายน้ำออกให้เอง ส่วนชิ้นบน...แซมต้องเข้าใจนะ บางรูป บางชุดเธอต้องใช้มือปิด ใช้ข้าวของปิด ซึ่ง...ในห้องถ่ายแบบจะมีแค่งามตา มีพี่ แล้วก็คนที่แซมอนุญาตเท่านั้น ได้ยินแบบนี้แล้วสบายใจขึ้นไหม”

สิมิลันพยักหน้า ฝืนยิ้ม “แล้ว...เราจะเริ่มถ่ายทำกันเมื่อไหร่คะ”

“พี่คงต้องใช้เวลาเตรียมงานสักสามสี่เดือน ระหว่างนี้แซมดูแลหุ่นดีๆ ก็พอ ไม่เอาหุ่นผอมโกรก โทรมๆ เป็นไม้เสียบลูกชิ้นนะ อวบๆ อย่างนี้แหละกำลังดีแล้ว ขอแค่...ดูพวกไขมันส่วนเกิน อย่าให้นั่งแล้วพุงไหลออกมาเป็นลอน พี่ก็โอเคแล้วล่ะ”

ปัญญากำชับแล้วหันมาทางผู้จัดการส่วนตัวของสาวน้อย “ว่าไงจ๊ะ ยายงาม ยังไม่สบายใจขึ้นอีกหรือ”

งามตาเงียบทำเพียงแค่สบตากับนักแสดงสาวในความดูแลโดยไม่เอ่ยอะไร

“เอางี้...เราเซ็นสัญญากันเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะจ่ายมัดจำให้ก่อน ๑๐% วันถ่ายทำจ่ายอีก ๕๐% แล้วส่วนที่เหลือให้ตอนหนังสือพร้อมวางแผง ตกลงไหม” ปัญญารีบรวบรัด

“แซมขอมัดจำ ๕๐% แล้วจ่ายที่เหลือวันถ่ายได้ไหมคะ” สิมิลันยื่นข้อเสนอใหม่

“ใครจะสำรองเงินไว้จ่ายให้เธอทีละหลายๆ ล้านกันจ๊ะแซม” ปัญญาอุทานด้วยความตกใจ

“งั้นแซมก็ไม่ตกลงค่ะ”

“นี่เป็นข้ออ้างหรือเปล่า” ปัญญาข้องใจ

“ไม่ใช่ค่ะ แซมตั้งใจไว้แบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าพี่ปัญรับได้ เราก็เซ็นสัญญากันได้เลย” สิมิลันบีบมือสาวรุ่นพี่ ส่งยิ้มให้บางๆ รู้ดีว่าอีกฝ่ายห่วงใยทั้งความรู้สึกและภาพลักษณ์ของเธอไม่น้อยไปกว่ากันเลย

“พี่งามไม่ต้องห่วงค่ะ แซมไว้ใจพี่ปัญ ถ้าเทียบกันแล้วพี่ปัญมีชื่อเสียงที่ต้องรักษามากกว่าแซมอีก พี่เขาไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อหรอก”

ปัญญาม้วนกระดาษบนโต๊ะเอื้อมตัวไปตีศีรษะคนพูดอย่างล้อเลียน

“ดักคอแบบนี้เลยเหรอยายตัวแสบ เอาเถอะๆ พี่รับรองด้วยเกียรติของพี่เลยนะ” เขาสบตากับสองสาวอย่างมั่นคง “งานนี้พี่จะทำให้เธอจะได้รับคำชมมากกว่าคำด่าแน่นอน”






“พักนี้พี่ปราชญ์ว่างหรือไง ถึงมาที่กองบ่อยๆ น่ะ” ปัณณ์หน้ามุ่ยออกจากฉากมาเท้าเอวถามพี่ชายซึ่งยืนประคองกระเช้าสีขาวใบเล็กอยู่ตรงหน้า

“ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะมากวนเวลาทำงานของนายหรอก เพราะฉันมาหาน้องแซม”

“ยายนั่นมีดีอะไรนักหนา ท่าทางพี่ติดใจเหลือเกิน”

“แซมเขาน่ารักออก”

“หิวเงินล่ะไม่ว่า ระวังเถอะพี่จะโดนปอกลอกโดยไม่รู้ตัว”

ปราชญ์หัวเราะร่วน “ไม่เป็นไร ฉันมีเงินมากพอให้แซมตามที่น้องเขาต้องการ”

“พี่ปราชญ์บ้าไปแล้วหรือไง มันน่าภูมิใจตรงไหนที่ซื้อผู้หญิงให้อยู่กับพี่ด้วยเงินน่ะ”

“ก็ดีกว่าซื้อ...แล้วไม่มีใครยอมอยู่ด้วยนะ” ปราชญ์แหย่ “น้องแซมมาแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะ” เขาถือกระเช้าเล็กๆ นั้นตรงไปหาผู้หญิงที่เพิ่งออกจากห้องแต่งตัวมาพอดี

คนมองตามหน้าบึ้งจัด แต่ด้วยความอยากรู้ทำให้ยังคงนั่งซุ่มคอยที่เดิมแอบมองอยู่ไม่ห่าง เสียงแจ้วแจ่มใสดังมาให้ได้ยินแว่วๆ

“ขอโทษนะคะ ที่ต้องให้พี่ปราชญ์คอยตั้งนาน”

“ไม่เป็นไรครับ คอยน้องแซมนานกว่านี้พี่ก็คอยได้ อ้อ...นี่ช็อกโกแลตร้านโปรด พี่ซื้อมาฝากครับ”

ปัณณ์เผลอเขม้นตามองยี่ห้อที่พิมพ์อยู่บนตะกร้าด้วยความสนใจ แต่เมื่อนึกได้ก็ทำทีเป็นเมินมองไปทางอื่นอย่างไม่แยแส

ชายหนุ่มชะเง้อตามด้วยความหงุดหงิด เมื่อปราชญ์แตะข้อศอกสิมิลันแยกไปสนทนากันไกลเกินกว่ารัศมีการได้ยินของเขา

เด็กสาวยิ้มแย้มพลางแบมือไปตรงหน้าพี่ชายเขาอย่างล้อเลียน ดูเป็นกันเองจนเขา...อิจฉา!

ปัณณ์ไหล่คู้งองุ้มลงอย่างหดหู่ เมื่อระลึกได้ว่าไม่เคยมีสตรีผู้ใดหัวเราะกับเขาอย่างแจ่มใสสดชื่นเหมือนอย่างที่สิมิลันกำลังหัวเราะให้พี่ชายอยู่ตอนนี้เลยสักคน

ร่างสูงผุดลุกขึ้นกะทันหัน ปึงปังกลับไปขึ้นรถ ทว่าเมื่อปรับกระจกมองหลังเพื่อสังเกตการณ์สองหนุ่มสาวที่นั่งคุยกันอยู่เป็นครั้งสุดท้ายมือใหญ่ก็กำแน่นด้วยความโกรธ

ภาพที่ปราชญ์หยิบซองสีขาวหนาปึกออกมาส่งให้หญิงสาว ยังไม่น่าโกรธเท่ากับการที่สิมิลันรับซองนั้นไปกอดไว้ด้วยสีหน้ายินดี

ปัณณ์เผลอเท้ากดคันเร่งพารถสปอร์ตพุ่งปราดออกไปอย่างรวดเร็ว เขาหยิบโทรศัพท์กดหาวนิตาตามความเคยชิน แต่ระบบก็ส่งสายไปเข้าระบบรับฝากข้อความ เมื่อโทร.ถามเพื่อนของวนิตา ทราบว่าฝ่ายนั้นไปถ่ายแบบที่ต่างประเทศ ปัณณ์จึงโยนโทรศัพท์ลงข้างตัวดังเดิม เลี้ยวรถมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างหงอยเหงา

“อ๊าว! วันนี้เธอกลับบ้านอีกแล้วหรือ ประหลาดใจจริง พักนี้พี่เจอเธอที่บ้านทุกวันเลยนะ” ปริมวางนิตยสารในมือหันมาทักทายทันที

“ผมเบื่อๆ น่ะ”

“แล้วสาวๆ คู่ควงเธอไปไหนหมดจ๊ะ ทำไมถึงปล่อยให้เธอเบื่อได้”

ปัณณ์เบ้ปาก “นั่นแหละฮะที่น่าเบื่อ ยายแคเรนตามติดจนผมรำคาญ โชคดีหน่อยที่พักนี้แพทห่างๆ ไปบ้าง พี่รู้ไหมอาทิตย์ก่อนผมเห็นคนแปลกหน้าด้อมๆ มองๆ แอบติดตามผมตลอดเลย”

ปริมถอนใจ ลุกขึ้นมาโอบร่างสูงแข็งแรงไว้หลวมๆ ”เธอก็รู้อยู่แล้วว่ากำลังอยู่ท่ามกลางสิ่งลวงตา ตราบเท่าที่ยังไม่ถอยออกมา สิ่งที่ได้ก็มีแต่ภาพมายาทั้งนั้นแหละ ไม่มีโอกาสได้เจอความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนหรอก”

“ผมไม่เข้าใจว่าพี่ปริมกำลังพูดถึงอะไร”

“ถามตัวเองเถอะปัณณ์ ว่าความสุขของเธออยู่ที่ไหนกันแน่ มันอาจไม่ใช่การมีชื่อเสียง ได้รับความสนใจ และเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างทุกวันนี้ก็ได้นะ เงินทองเธอก็มีมากเกินพอแล้ว บางที...ความสุขของเธออาจเป็นอะไรที่ง่ายและอยู่ใกล้ตัวกว่านั้นก็ได้ อย่างเช่น...การรักใครสักคนจริงๆ รัก...แบบที่ห่วงใย ใส่ใจ อยากทำอะไรๆ ให้เขา ไม่ใช่รักแบบที่แค่ต้องการให้ไปจบลงที่เตียง หรือแค่พอใจที่เขาตามใจเอาใจเธอน่ะ”

คนฟังผละออกห่าง สีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจ “พี่ปริมพูดเรื่องนี้ทำไม”

“เพราะพี่เป็นห่วงเธอ อยากให้เธอรู้ใจตัวเองเสียทีน่ะสิ” ปริมตบบ่าอีกฝ่าย แล้วหยิบนิตยสารจากโซฟาขึ้นชั้นบนไปเงียบๆ

ปัณณ์มองรอบๆ ก่อนตัดสินใจไปทิ้งตัวลงที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มเช่นเคย เบียร์เย็นเฉียบขวดแล้วขวดเล่าถูกรินลงแก้วเปลี่ยนสถานะลงไปนอนอุ่นในกระเพาะแทน

เกือบสี่ทุ่มกว่าปราชญ์จะผ่านประตูบ้านเข้ามา ถึงตอนนั้นคนที่ก๊งมาตั้งแต่หัวค่ำก็กรึ่มได้ที่พอดี

“ผมนึกว่าพี่จะสนุกกับยายเด็กนั่นจนลืมกลับบ้านแล้วเสียอีก”

“คิดไปถึงไหนเนี่ย พี่แค่ไปคุยธุระกับแซม จากนั้นก็ไปส่งเธอที่ฟิตเนส แล้วค่อยไปกินข้าวเย็นกับอร”

“พี่จะคั่วทีละสองคนเลยเหรอ”

“อรน่ะตัวจริง แต่น้องแซม...คบไว้เป็นทางเลือกก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา”

“ผมเห็นนะว่าพี่ให้เงินเขา คราวหน้าคราวหลังไปทำในที่รโหฐานหน่อยก็ดี อย่างนี้มันประเจิดประเจ้อ คนเห็นเข้ายายนั่นจะเสียราคาหมด”

ปัณณ์ตาขวางเมื่อเห็นพี่ชายทำเสียงขลุกขลักในคอ “พี่ขำอะไร”
“ซองที่ฉันส่งให้น้องแซมเป็นหมายกำหนดการโครงการคนไทยรักษ์สุขภาพทั่วประเทศต่างหาก ถามจริงๆ นะนี่นายหวงฉันแทนอร หรือว่าหวงสิมิลันกันแน่”

“พูดบ้าๆ ทำไมผมจะต้องหวงผู้หญิงหิวเงินคนนั้น” ปัณณ์ปล่อยให้ความยินดีวาบขึ้นเพียงเสี้ยววินาที และเมื่อนึกได้ก็รีบกระแทกแก้วลงบนเคาน์เตอร์อย่างแรงใช้ความโกรธกลบเกลื่อนความรู้สึกแท้จริงอย่างทุกครั้ง

เขาเดินหน้าตาบูดบึ้งแยกไปยังห้องนอน เริ่มรู้สึกว่าสิมิลันชักจะตามหลอกหลอนในชีวิตของเขามากเกินไปแล้ว แรกๆ ก็แค่ที่ทำงาน ตอนนี้...ชื่อยายนั่นตามมาปั่นป่วนเขาถึงบ้านเสียด้วย

ไม่ได้การแล้ว เห็นทีเขาจะต้องจัดการยายผู้หญิงจอมยุ่งนั่นอย่างจริงจังเสียที

ปัณณ์ยิ้มเกรียมหมายมาด ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าดวงตาเป็นประกายวับราวกับแววตาของคนที่กำลังจะได้ทำในสิ่งที่หัวใจปรารถนาต่างหาก!



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.ย. 2555, 13:21:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.ย. 2555, 13:21:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2547





<< ตอนที่ ๑๓   ตอนที่ ๑๕ >>
สิริณ 11 ก.ย. 2555, 13:23:30 น.
อย่าลืมนะค้า...

อ่านจบขอแรงกดคนละไล้ค์ พอให้คนเขียนชื่นใจ
และถ้าจะคอมเมนต์เพื่อความสะใจ
คนเขียนก็จะยิ่งปลาบปลื้มมมมมมมมมมม ^^


mhengjhy 11 ก.ย. 2555, 13:32:47 น.
อ้าว แซมไม่ท้องหรอออออ น่าสงสัยจริง


หมูอ้วน 11 ก.ย. 2555, 13:47:16 น.
สงสัยอีกหนึ่งเสียงค่ะ ท้องหรือป่าวค่ะ


หมีสีชมพู 11 ก.ย. 2555, 13:48:48 น.
คนธรรมดา ใช้"กำหนดการ"ค่ะ ไม่ใช่หมายกำหนดการ


sai 11 ก.ย. 2555, 14:00:39 น.
ตองสู้ๆๆๆๆ


Niceday 11 ก.ย. 2555, 14:03:22 น.
น้องแซมสู้ๆ


ปิศาจสัญจร 11 ก.ย. 2555, 16:30:29 น.
ตามอ่านเรื่องนึ้ค่า ชอบนางเอก
ไม่ค่อยเม้นต์นะคะ บอกไว้ก่อน
แต่จะติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ


รอให้เป็นเล่ม 11 ก.ย. 2555, 16:42:49 น.
ขอเดาว่าไม่น่าจะได้ถ่ายแบบนะ


violette 11 ก.ย. 2555, 16:55:09 น.
เอ๋ แซมป่วยหนักหรือเปล่าหว่า ท่าทางแบบนี้ไปทำประกันชีวิตไว้เนี่ย


แล่นแต๊ 11 ก.ย. 2555, 17:57:14 น.
นายปัณณ์คิดจะทำอะไร


supayalak 11 ก.ย. 2555, 17:57:32 น.
ชงมาขนาดนี้ อย่าให้น้องแซมเป็นโรคอะไรเล้ยน้า กัวกัว


nunoi 11 ก.ย. 2555, 18:21:21 น.
ชวนให้สงสัยที่สุด แซม ท้อง หรือเปล่านะ แล้วคุณปัณณ์ จะวางแผนทำอะไรอีกหล่ะเนี๊ยะ


เดิมเดิม 11 ก.ย. 2555, 18:44:58 น.
ุนายปัณณ์ จะยอมให้นางเอกถ่ายแบบหรือเนี่ย


เด็กหญิงม่อน 11 ก.ย. 2555, 20:15:35 น.
ตกลงตองเป็นอะรกันแน่คะเนี่ย
แล้วนายปัณณ์จะจัดการกับตองยังไงล่ะเนี่ย


parinratn 11 ก.ย. 2555, 22:07:24 น.
ไม่อยากให้น้องแซมเป็นโรคอะไรร้ายแรงเลย


minafiba 12 ก.ย. 2555, 07:50:28 น.
^__^


Siang 12 ก.ย. 2555, 08:25:50 น.
สงสัยเหมือนกันว่าตองเป็นอะไร


bloomberg 12 ก.ย. 2555, 10:39:46 น.
เรื่องนี้เรารักพี่ปริมที่สุดเลย เป็นพี่ที่มีน้อง ๆ อยู่ในสายตาตลอด
ไรเตอร์อย่าใจร้ายให้หนูแซมเป็นโรคร้ายนะ ไม่งั้นเราจะ...แง แง


bloomberg 12 ก.ย. 2555, 10:41:50 น.
ถ้านายปัณณ์ว่าหนูแซมเป็นผู้หญิงจอมยุ่ง ตัวเองก็เป็นจอมจุ้น เข้าไปจุ้น ไปหงุดหงิดกับเขาทุกเรื่อง เหอ เหอ...


wane 12 ก.ย. 2555, 15:22:59 น.
นายปัณณ์ไม่เคยรู้เลยว่ามีพี่ๆ ที่น่ารัก


Setia 15 ก.ย. 2555, 20:36:55 น.
กระโดดเข้ามาขอเป็นแฟนนิยายอีกคนนะคะ อ่านแล้วได้อารมณ์มากเลย ^^


agentaja 17 ก.ย. 2555, 13:23:25 น.
ชอบนางเอกค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account