ทัณฑ์สวาทมาเฟีย
โชคชะตากำลังเล่นตลกร้ายกับม่านไหมเมื่อถูก หลี่ไท่หยาง หรือ โจนาธาน ลี เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มสุดหล่อแต่แสนโหด ลากตัวมาชดใช้ความผิดที่ไม่ได้กระทำเพราะความเข้าใจผิด การลงทัณฑ์ที่แสนโหดแต่เร่าร้อนจึงเกิดขึ้น
Tags: ทัณฑ์สวาทมาเฟีย

ตอน: ตอนที่ 3. ชะตากรรมของสองพี่น้อง

ตอนที่ 3. ชะตากรรมของสองพี่น้อง

ม่านไหมให้คนขับรถของหลี่ไท่หยางมาส่งเธอเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเช่า แม้จะกลัวถูกคนของเฮียอู๋พบแต่หญิงสาวไม่มีทางเลือก นายจ้างเร่งรัดให้เดินทางแบบจวนตัวแบบนี้ เธอคงไม่มีเวลาไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ที่สำคัญอยากประหยัดเงินจึงเลือกเสี่ยงมาเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเช่า ม่านไหมบอกให้คนขับรถจอดรถรออยู่ที่ลานจอดรถตัวเธอรีบขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า ก่อนหน้านี้เธอแวะไปบ้านของโอโม่ฝากเช็คให้พี่ชายเรียบร้อยแล้ว

ร่างเล็กบางเดินไหล่เอียงหิ้วกระเป๋าลงมาจากแฟลต จางหลงซึ่งเป็นคนขับรถให้หญิงสาว รีบเข้าไปช่วยยกกระเป๋ามาใส่ท้ายรถ เขายิ้มให้เธอก่อนจะเปิดประตูรถให้ แต่ไม่ทันที่ม่านไหมจะก้าวขึ้นรถ ก็ถูกชายคนหนึ่งกระชากแขนไว้

“เจอตัวซะที นึกเหรอว่าจะหนีพ้น!”

ชายร่างใหญ่หัวเกรียนจับข้อมือม่านไหมลากออกมาจากรถ โดยไม่สนใจว่าหญิงสาวจะเจ็บหรือไม่ หลังจากดักจับตัวสองพี่น้องลูกหนี้ของเฮียอู๋มาหลายวัน แต่ม่านไหมกับลายเมฆหนีรอดไปทุกครั้ง วันนี้จึงเอารถไปจอดซอยข้างแล้วมาซุ่มรออยู่ ไม่นึกว่าน้องสาวของลายเมฆจะมาที่นี่ มันรอจนหญิงสาวลงมาจากแฟลตแล้ว จึงเข้าไปลากตัวเธอมา ไอ้คนที่มาด้วยท่าทางติ๋มๆ คงไม่มีปัญญาช่วยเจ้าหล่อนได้ เจ้าวายร้ายนึกหยันผู้ชายหน้าตี๋ท่าทางสุภาพคนนั้น โดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเจอตอ

“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”

จางหลงดึงแขนของม่านไหมไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายเอาตัวเธอไป เขาสังเกตเห็นชายคนนี้เฝ้ามองม่านไหมตั้งแต่เอารถมาจอดที่หน้าแฟลตแห่งนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะกล้าฉุดลากผู้หญิงกลางวันแสกๆ แบบนี้ จากหน้าตาและท่าทางเถื่อนถ่อยของมัน เดาได้ไม่ยากว่ามันคงเป็นนักเลงชั้นต่ำ ที่เจ้าหนี้ของสองพี่น้องส่งมาทวงหนี้

“อย่าเสือก ถ้ามึงไม่อยากตาย”

ไอ้วายร้ายไม่ยอมปล่อยเหยื่อของมันง่ายๆ ซ้ำยังตะคอกใส่อีกฝ่ายหวังให้หวาดกลัว หากเป็นคนอื่นคงกลัวหัวหดไปแล้ว แต่ไม่ใช่คนอย่างจางหลง เขาเป็นคนสนิทกินตำแหน่งเลขากึ่งบอดี้การ์ดของหลี่ไท่หยางมานับสิบปี มือของชายหนุ่มไม่ได้มีไว้แค่จับปากกาเพียงอย่างเดียวหากยังได้รับการฝึกฝนการต่อสู้และการใช้อาวุธปืนจนชำนาญ ดวงตายาวเรียวตวัดมองร่างใหญ่โตของนักเลงหัวไม้อย่างประเมิน ริมฝีปากกระตุกยิ้มหยัน เมื่อเห็นท่าทางอวดเก่งแต่คงจะเก่งแค่เพียงปาก แววตาเรียบนิ่งวาวจ้าฉายแววตาอำมหิตออกมาแวบหนึ่งก่อนจะ...

พลั่ก ตุ๊บ พลั่ก !!!

ม่านไหมยืนตัวแข็งตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า แค่เพียงเวลาไม่ถึงนาทีร่างใหญ่ราวกับยักษ์วัดแจ้งของลูกน้องเฮียอู๋ ก็ลงไปนอนตาเหลือคลุกฝุ่นบนพื้นเสียแล้ว สามหมัดของจางหลงสามารถจัดการน็อคคนตัวโตกว่าให้สลบได้ เขากระชากแขนดึงร่างของเธอให้หลบไปด้านข้างก่อนจะจับข้อมือของนักเลงคนนั้นบิดจนมันยอมปล่อยแขนเธอ ก่อนจะชกเข้าที่ที่ลิ้นปี่เสียงดังพลั่ก ตามด้วยศอกอีกทีตรงกกหูแล้วน็อคฝ่ายตรงข้ามด้วยการเตะเสยปลายคางลงไปกองกับพื้น แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบลงแค่นั้นเมื่อลูกสมุนอีกคนที่เธอเคยเห็นมาพร้อมกับนักเลงคนนี้ ปราดออกมาจากที่ซ่อน ในมือของมันมีมีดคมวับตรงรี่เข้ามาหวังจะเสียบคนที่ทำร้ายเพื่อนของมัน จางหลงยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะเบี่ยงกายหลบคมมีดได้อย่างหวุดหวิด เขาตวัดเท้าเตะอัดคนร้ายจนมีดกระเด็น ล้มฟุบไปกองกับพื้น

“คุณปลอดภัยดีนะครับ” จางหลงเนเข้ามาหาม่านไหม เขาแตะไหล่เธอพร้อมกับยิ้มปลอบโยน “ไม่มีอะไรแล้วครับ”

“คุณเก่งจัง” ม่านไหมเอ่ยชม

หญิงสาวมองผลงานของสารถีหนุ่มด้วยแววตาชื่นชม ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นคนสู้กันด้วยมือเปล่าแบบชัดๆ นี่เอง ตอนที่เขาต่อสู้และล้มเจ้าวายร้ายสองคนนี้เขาช่างเหมือนเจ็ท ลี ดารานักบู๊ขวัญใจของเธอเหลือเกิน

ดวงตากลมโตจ้องมองเขาด้วยแววตาปลาบปลื้มของหญิงสาว ทำให้จางหลงรู้สึกเขิน ใบหน้าหวานๆของเธอน่ารักน่าเอ็นดูจนไม่อยากเชื่อว่า หญิงสาวคนนี้จะมีนิสัยเลวร้ายถึงกับหลอกลวงคุณหนูเล็กได้ ใจที่เคยด้านชากับผู้หญิงมานานหลายปีของเลขาหนุ่มเริ่มสั่นไหว เพียงแค่ได้รับคำชมจากผู้หญิงคนนี้

“เอ่อ... ผมว่าเรารีบไปที่สนามบินเถอะครับ คุณหลี่รออยู่ที่นั่นแล้ว” จางหลงผายมือให้หญิงสาวเข้าไปในรถอีกครั้ง ก่อนจะประจำที่คนขับ นำรถแล่นออกไป

“ฉันชื่อม่านไหมนะคะ แล้วคุณชื่ออะไรคะ”

ม่านไหมชักอยากรู้จักหนุ่มนักกบู๊ขึ้นมาเสียแล้ว ยามนี้หญิงสาวขอเก็บความเป็นกุลสตรีใส่ลิ้นชักไว้ชั่วคราว เมื่อเจอคนถูกใจจะปล่อยให้ชวดคงเสียดายแย่ นิสัยแบบนี้ของเธอได้รับอิทธิพลมาจากลายเมฆพี่ชายจอมกระล่อน เขาสอนเธอว่าหากได้พบคนที่ถูกใจจงกล้าที่เข้าไปทำความรู้จักกับเขาก่อน ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ชายมาจีบ ถ้าเจอคนที่ชอบเราก็จีบเขาก่อนได้ แต่แค่จีบลองหยั่งเชิงดูนิสัยใจคอก่อน หากไอ้ผู้ชายคนนั้นมันนิสัยเสียก็ให้ชิ่งหนีโดยไว อย่าปล่อยให้มันหลอกกินตับได้

“ผมชื่อจางหลงครับ เรียกว่าอาหลงก็ได้ครับ” จางหลงตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ เขาฝึกภาษาไทยมาพร้อมกับเจ้านายตั้งแต่เด็ก จึงสามารถสื่อสารด้วยภาษานี้ได้ดี แม้สำเนียงจะไม่ชัดเจนแต่ก็ฟังรู้เรื่อง

“ค่ะอาหลง คุณก็เรียกฉันว่าไหมนะคะ” ม่านไหมยิ้มให้เพื่อนใหม่อย่างผูกไมตรี

รอยยิ้มน่ารักนั้น ทำให้คนเห็นใจเต้นแรง จางหลงพิศมองใบหน้าอ่อนใสไร้เครื่องสำอางอย่างพินิจ ม่านไหมเป็ฯผู้หญิงสวยมากขนาดไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวเต็มที่ เธอยังสะดุดตาน่ามอง ยิ่งตอนที่ยิ้มตากลมโตวาวใสแบบนี้ ยิ่งน่ารักน่ามอง เลขาหนุ่มได้แต่ถอนใจ เมื่อมองเห็นว่าเขากับเธอ คงมีอนาคตร่วมกันยาก มันคงไม่ดีแน่หากเขาให้ความสนิทสนมกับศัตรูของเจ้านายเกินควร

“ครับคุณไหม”

จางหลงตอบรับสั้นๆ แล้วหันไปสนใจถนนแทนหน้าหวานๆ ของสาวข้างกาย เธอคงไม่รู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าม่านไหมจะถูกนายของเขาลงทัณฑ์ โทษฐานหลอกลวงคุณหนูเล็กจนทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย นายของเขาขึ้นชื่อเรื่องความอำมหิต เลือดเย็น ไม่อย่างนั้นคงดูแลอาณาจักรของตระกูลหลี่และแก๊งส์หงส์ไฟไม่ได้ แค่คิดถึงความโหดร้ายของหลี่ไท่หยางแล้วอดนึกเวทนาหญิงสาวขึ้นมา ได้แต่ภาวนาให้เจ้านายยั้งมือไว้บ้าง

ม่านไหมรู้สึกหน้าม้านเล็กน้อย เมื่อหนุ่มคนนี้ไม่สนใจเธอ แต่เฮียเมฆเคยบอกว่าผู้ชายที่กระโจนเข้าหาผู้หญิงทันทีที่รู้จักกันจงถอยห่างให้ไกล นึกถึงคำพูดนี้แล้วใบหน้าหล่อเหลาของหลี่ไท่หยางก็ลอยแวบเข้ามาในมโนนึก นายจ้างของเธอเข้าตำราที่พี่ชายเคยเตือน เธอคงต้องระวังและถอยห่างให้ไกลจากเขามากกว่าจางหลง

“อาหลงคะ ผู้ป่วยที่ฉันต้องไปดูแลเป็นใครคะ” เมื่อเห็นว่าเขาเป็นคนพูดน้อย และจริงจัง การชวนคุยเรื่องงานน่าจะง้างปากให้เขาพูดได้

“คุณหลี่คงให้คุณไหม ไปดูแลคุณหนูเล็กครับ เธอพิการเป็นโปลิโอเดินไม่ได้ครับ” จางหลงเลี่ยงการเอ่ยชื่อจริง ของหลี่อี้เจินหรือเจนนิเฟอร์ ลีออกมา ด้วยเกรงเหยื่อของเจ้านายจะรู้ตัว

“น่าสงสารจังค่ะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธออย่างเต็มความสามารถ”

“ผมว่าคุณควรพูดคำนี้ ให้คุณหลี่ฟังจะดีกว่านะครับ ผมไม่ใช่นายจ้างของคุณ” จางหลงไม่อยากรับฟัง เขาทนสมเพชเวทนาเธอไม่ได้ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าอะไรรอเธออยู่ หากทุกสิ่งเปิดเผยเธอคงยิ้มไม่ออกแน่

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“ทำไมมาช้า คราวหลังจำไว้ว่า ผมไม่ชอบรอใคร”

ทันทีที่ไปถึงสนามบินก็ได้รับคำตำหนิจากนายจ้าง ม่านไหมขยับปากจะอธิบายแต่อีกฝ่ายเดินหนีหายไปยังห้องรับรองเสียก่อน ปล่อยให้เธอยืนหน้าเหวออยู่หน้าประตูห้อง เมื่อตามเข้ามาข้างในหญิงสาวจึงเลี่ยงมานั่งข้างจางหลงฮี่โร่นักสู้ของเธอ ยามอยู่ต่อหน้าผู้เป็นนายเลขาหนุ่มของหลี่ไท่หยางนั่งหน้าเคร่งสงบเสงี่ยม เขาไม่หันมามองหน้าคนที่นั่งข้างๆเลย พลอยให้ม่านไหมต้องเก็บปากออมคำไปด้วย

ม่านไหมได้แต่อดทนรอเวลาเครื่องออก หญิงสาวหันมามองคนข้างกาย จางหลงเปิดโน้ตบุ๊คทำงานของเขาอย่างตั้งใจ เขาทำเหมือนกับตรงนั้นมีไม่มีเธออยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เขากับเธอคุยกันหลายเรื่อง น่าจะสนิทสนมกันมากพอจะสนใจกันมั่ง ผู้ชายดีๆ นี่มันท่ามากจีบยากขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เหมือนผู้ชายห่วยๆ ที่ดาหน้าเข้ามาจีบเธอ ไม่ต้องทำอะไรมากก็วิ่งตามมาเป็นฝูง น่าเสียดายที่เฮียเมฆไม่อยู่ด้วย เขาคงมีวิธีช่วยเธอพิชิตใจหนุ่มคนนี้ได้ พี่ชายของเธอเป็นพี่ชายที่แปลกกว่าพี่คนอื่น ลายเมฆไม่หวงน้องสาวไม่มาตามกันท่าผู้ชายที่มาจีบน้องสาว เขาจะดูอยู่ห่างๆ คอยสแกนให้ว่าคนไหนคบได้ คนไหนควรถอยห่างหรือถีบกระเด็นออกจากชีวิต ม่านไหมรู้จักนิสัยผู้ชายจากการสั่งสอนของลายเมฆ เขาไม่ปิดกั้นความอยากรู้อยากเห็นของน้องสาว แต่จะคอยบอกคอยสอนให้รู้ถึงก้นบึ้งของผู้ชาย

“ผู้ชายมีสองประเภท หนึ่งรักก็ฟัน ไม่รักก็ฟันได้ สองฟันคนที่ไม่รัก แต่จะไม่แตะต้องคนที่รัก”

ม่านไหมมองหาผู้ชายประเภทที่สองไม่เจอ แม้แต่พี่ชายตัวเอง ยังเป็นประเภทแรก ลายเมฆกระล่อนเจ้าชู้มันความสัมพันธ์กับผู้หญิงโดยไม่สนว่าจะรักหรือไม่รัก แต่เขาไม่เคยสนับสนุนให้น้องสาวเลียนแบบ

“ถึงกฏหมายจะให้สิทธิผู้หญิงเสมอภาคกับผู้ชาย ใช่ว่าแกจะทำตามอย่างฉันได้ทุกเรื่อง มีอย่างหนึ่งที่แกไม่ควรทำอย่างยิ่งคือ มั่วผู้ชาย แกอย่าเถียงว่าทำไมฉันมั่วกับสาวๆได้ แล้วห้ามแกทำไม เพราะผู้ชายอย่างฉันมันท้องไม่ได้เว้ย รู้หรือยังว่าสิทธิข้อนี้ระหว่างชายหญิงมันไม่เท่ากัน”

คนเป็นน้องจึงไม่คิดสนใจผู้ชายคนไหน จนมาเจอจางหลงแล้วรู้สึกประทับใจเขานี่แหละ จึงทดลองใช้วิชาจีบหนุ่มกับอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลนักเมื่อชายหนุ่มยังทำเฉยชากับเธออยู่ ม่านไหมมองใบหน้าของจางหลงอย่างใช้ความคิด จะงัดมุกไหนมาพิชิตใจหนุ่มตี๋คนนี้ดีหนอ หวังว่าเขาคงไม่ใช่เกย์แอ๊บแมนหรอกนะ เตะต่อยเก่งขนาดนั้น น่าจะแมนทั้งแท่ง...

ม่านไหมนั่งมองจางหลงตาปรอย จนถึงเวลาขึ้นเครื่องจางหลงถึงเงยหน้าจากจอแล้วลุกขึ้นเดินตามเจ้านายไปหน้าตาเฉย

เมื่อขึ้นมาบนเครื่องหลี่ไท่หยางให้เธอนั่งข้างเขา แม้จะเป็นชั้นเฟิร์สคลาสกว้างขวางกว่าชั้นประหยัดที่เธอเคยนั่ง แต่ม่านไหมต้องนั่งตัวเกร็งไปตลอดเส้นทางบิน จนหลี่ไท่หยางเอนตัวลงแล้วหลับตานั่นแหละหญิงสาวถึงจะผ่อนอาการเกร็งลงบ้าง เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอร่างบางก็คลายใจดวงตากลมโตหรี่ปิดลง ไม่กี่นาทีก็หลับสนิทตามประสาคนนอนง่าย

ดวงตายาวเรียวของเจ้าพ่อมาเฟียค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ เขาไม่ได้หลับอย่างที่หญิงสาวเข้าใจ แต่แกล้งหลับเพื่อไม่ให้เธออึดอัดใจ หลี่ไท่หยางมองใบหน้าเรียวรูปไข่สวยของคนที่นอนหลับตาพริ้มอย่างพินิจ เขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้สวยสะดุดตาไม่น้อย หากเธอไม่ใช่ตัวการหลอกลวงน้องสาวของเขา บางทีเขาอาจเปิดโอกาสให้เธอเป็นคู่ควงกับเขาสักวัน ปลายนิ้วเรียวยืนลูบไล้ผิวแก้มนุ่มอย่างเผลอไผล เจ้าของแก้มเบี่ยงหน้าหนีแต่ไม่ยอมตื่นขึ้นมา เมื่อก้มลงไปแตะปลายจมูกบนแก้มนวล เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึกตัว หลี่ไท่หยางกระตุกมุมปากยิ้มเย็น เมื่อกลิ่นของเธอช่างหอมถูกใจ ผิวนุ่มๆ เนียนละเอียดเหมือนผิวเด็กชวนให้สัมผัส อยากรู้นักว่าริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบของเธอ จะหวานเพียงใด เขานึกถึงวิธีการลงโทษหญิงสาวขึ้นมา เขาจะใช้วิธีเดียวกับที่เธอทำร้ายน้องสาวของเขาเล่นงานเธอ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง เจนนี่เจ็บแค่ไหนม่านไหมกับลายเมฆต้องเจ็บกว่าหลายเท่า

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นอะไรลายเมฆก็ลองทดสอบตัวเอง ว่าเขาใช่อย่างที่คิดว่าเป็นหรือเปล่า หลังจากกินขนมเค้กกับน้ำส้มที่ญาดาเอามาป้อนแล้ว เขาก็หยิบเครื่องสำอางมาลองแต่งหน้าดู หากเป็ฯผู้ชายปกติการแต่งหน้าคงไม่ใช่สิ่งที่ถนัดนัก แต่ลายเมฆค้นพบว่าเขาสามารถทำสิ่งนี้ได้คล่องแคล่ว ไม่ว่าจะดัดขนตา ปัดมาสคาร่า ทาอายแชโดว์ ปัดบลัชออน ทาลิปสติก เขาเกิดมาเพื่อเป็นกระเทยหรือเนี่ย... ลายเมฆอยากจะร้องดังๆ อย่างขัดใจ ความรู้สึกมันบอกว่าไม่ใช่ แต่หลักฐานมันยืนยันอยู่ทนโท่ เขาจะหาอะไรมาแก้ตัวได้หนอ จะบอกว่าถูกกรถชนจนความจำเสื่อมแล้วหายเป็นกระเทย หากเข้าฟื้นความทรงจำขึ้นมาแล้วกลับไปเป็นกระเทยอีกจะทำยังไง ความแมนมันคงไม่ถาวร สู้เป็นกระเทยไปให้สิ้นเรื่องจะดีกว่าไหม...

“น้องเมย์คะ ดึกมากแล้วพี่ว่าน้องเมย์นอนได้แล้วนะคะ จะได้หายไวไว”

ญาดาเดินออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวเข้าไปอาบน้ำทำธุรส่วนตัวหลังจากพยาบาลมาเช็ดตัวให้คนเจ็บแล้ว ร่างบางสวมชุดนอนแบบกระโปรงผ้านิ่มลื่นยาวแค่เข่า มองเห็นเรียวขายาวสวยขาวนวลเนียน เธอเดินเข้ามาดึงผ้าห่มคลุมให้คนเจ็บก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้ที่วางอยู่อีกฝั่งเตียง ร่างบางเกยก่ายจนทรวงอกอิ่มแตะโดนเนื้อตัวของคนบนเตียง กลิ่นแป้งเด็กหอมฟุ้งเต็มจมูกของลายเมฆ เขาเผลอสูดดมเต็มปอด รู้สึกวาวหวิวแปลกเมื่อเนื้อนุ่มอวบหยุ่นสัมผัสโดนแผ่นอก แม้แค่แวบเดียวแต่ก็เสียวไปทั้งตัว

“พี่จะเอาไปเก็บให้เองนะ วางไว้บนเตียงเกะกะเปล่าๆ”

ญาดาเอาเป้มาวางไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินไปปิดไฟ ก่อนจะล้มตัวลงนอนที่โซฟายาว หยิบผ้าห่มมาห่มตั้งท่าจะหลับ แต่ได้ยินเสียงคนเจ็บพูดขึ้นก่อน

“พี่แยมคะ คนที่บ้านพี่แยมจะรังเกียจน้องเมย์หรือเปล่า เอ่อ... ที่น้องเมย์เป็นแบบนี้” น้ำเสียงของคนพูดเจือรอยกังวล

“ที่บ้านมีแต่พี่คนเดียวเท่านั้นจ้ะ พ่อแม่พี่ตายไปหลายปีแล้ว พี่อยู่คนเดียวมาตลอด น้องเมย์ไม่ต้องกังวลนะคะ พี่จะให้น้องเมย์อยู่กับพี่สองคน พวกคนงานในสวนเขาก็อยู่ที่บ้านพักคนงาน ไม่มีใครมายุ่งกับน้องเมย์หรอก”

ญาดาอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านลังใหญ่กลางสวนกล้วยไม้ มาตั้งแต่บิดามารดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน คนงานในสวนมีบ้านพักสร้างแยกต่างหากเป็นสัดส่วนไม่มารบกวน มีแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาดและทำอาหารให้ในช่วงกลางวัน พอตกเย็นหญิงสาวจะอยู่คนเดียวที่บ้าน เป็นแบบนี้มาหลายปีดีดักแล้ว การรับน้องเมย์มาอยู่ด้วยจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับญาดา

“อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ น้องเมย์ถึงจะจำอะไรได้ ถ้าน้องเมย์เกิดความจำเสื่อมตลอดไป พี่แยมจะให้น้องเมย์อยู่กับพี่แยมไหมคะ”

ญาดาลืมคิดถึงข้อนี้ แต่มันคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หากเธอจะรับเลี้ยงหนุ่มน้อยหน้าใส ไว้เป็นน้องสาวสักคน

“พี่สัญญาว่า จะดูแลน้องเมย์จ้ะ ถ้าน้องเมย์จำอะไรไม่ได้จริงๆ ก็มาเป็นน้องสาวพี่แยมก็แล้วกันนะ” ญษดาบอกอย่างใจดี

ลายเมฆยิ้มกริ่ม เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของญาดา เขาแค่อยากแน่ใจว่าหญิงสาวจะไม่ลอยแพเขา เมื่อเขาหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว การได้อยู่ใกล้ๆ กับเธอทำให้เขารู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด หากเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ คงคิดว่าตัวเองหลงรักผู้หญิงคนนี้ไปแล้วแน่ๆ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

การเดินทางจากไทยมาถึงฮ่องกงใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงกว่าๆ หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หลี่ไท่หยางก็พาม่านไหมไปยังคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ เขาจัดให้เธอพักที่ตึกใหญ่ สร้างความแปลกใจให้กับจางหลงมาก เลขาหนุ่มคิดว่านายของเขาคงจะจัดการกับศัตรูของตนทันทีที่เดินทางมาถึง ไม่นึกว่าจะใจดียอมให้หญิงสาวพักอยู่ที่บ้านด้วย

หลี่ไท่หยางเดินขึ้นมาบนตึก ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องพักของพยาบาลสาว เขาบิดลูกบิดเปิดล็อคประตูห้องของเธอแล้วแทรกตัวเข้าไปด้านใน ภายในห้องเปิดเพียงโคมไฟหัวเตียงไว้ แสงไฟเหลืองนวลอ่อนแรงเทียนทำให้ห้องดูสลัวราง เสียงร้องเพลงหงุงหงิงดังแว่วออกมาจากห้องน้ำเจ้าของเสียงคงกำลังสำราญกับการแช่ตัวเพราะไม่ได้ยินเสียงน้ำไหล หลี่ไท่หยางเดินเรียดเท้าอย่างใจเย็นเข้าไปในห้องน้ำ กลิ่นหอมของบับเบิ้ลบาทกลิ่นกุหลาบฟุ้งตลบเต็มห้อง เขาหยุดยืนมองคนหลับตาพริ้มนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำที่ตีฟองสบู่ฟูฟ่อง ขายาวเรียวยกพาดขอบอ่างไว้ข้างหนึ่ง มือทั้งสองประสานกันรองท้ายทอยแทนหมอนหนุน ขณะทอดกายนอนสบายในท่ายั่วยวนสายตา ฟองครีมสีขาวพองฟูเต็มอ่างช่วยปกปิดเรือนกายเปลือยเปล่าไว้ในส่วนสงวน มองเห็นเพียงหัวไหล่เนียนโผล่พ้นออกมาเท่านั้น

เสียงเพลงเงียบไป เมื่อคนร้องกำลังอยู่ในภวังค์ความคิด ร่างบางบิดตัวให้หายเมื่อยขบ ขยับกายขึ้นนั่งอิงขอบอ่างทั้งที่ยังไม่ลืมตา โดยไม่รู้ว่ามีบุคคลที่สองกำลังกอดอกยืนจ้องมองเธออยู่ไม่ไกล ทรวงอกขนาดกระทัดรัดพอดีตัวโผล่พ้นน้ำ ฟองครีมสีขาวเกาะอยู่บนโนมเนื้ออวบสล้างนั้นบางเบา มองเห็นยอดทรวงสีกุหลาบสวย หลี่ไท่หยางรู้สึกคอแห้งผากขึ้นมา เขาขยับเข้าใกล้หญิงสาวราวต้องมนต์ เสียงฝีเท้าทำให้ม่านไหมลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะเบิกตากว้างกรีดร้องขึ้นมา

“ว้าย คุณหลี่ คุณเข้ามาได้ยังไง!”

ม่านไหมร้องลั่น รีบหย่อนร่างซ่อนกายใต้ฟองครีมหนา สองมือไขว้กันปิดทรวงอวบงามของตัวเองอย่างตกใจ ดวงตากลมโตจ้องมองผู้บุกรุกด้วยความโกรธปนอับอาย เกิดมาไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนเห็นเนื้อตัวเปล่าเปลือยของตัวเองสักครั้ง เขาเป็นคนแรกที่ได้เห็น เป็นการเห็นแบบไม่ได้ตั้งใจสักนิด เขากล้าดียังไงมาบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเธอ

“สวยกว่าเธอ ฉันก็เคยเห็นมาแล้ว”

หลี่ไท่หยางยิ้มหยัน มองคนหวงตัวด้วยสายตาเหยียดหยาม ทำเป็นเอะอะโวยวายให้ตัวเองมีคุณค่า มารยาแท้ๆ

“คุณก็ไปดูคนที่สวยกว่าฉันสิ กล้าดียังไงถึงได้บุกเข้ามาในห้องฉัน” ม่านไหมอยากจะข่วนลูกตาวาวของคนพูดนัก ปากบอกว่าเธอไม่สวยแต่มองจนตาเยิ้มแบบนั้น จะให้เชื่อลงหรือนั่น

คนถูกว่าไม่โต้ตอบหมุนกายเดินอกไปทันที ม่านไหมรีบวิ่งไปกดล็อคประตู ฌธอไม่น่าประมาทเลินเล่อลืมล็อคประตูห้องเลย ไม่นึกว่าหลี่ไท่หยางจะไร้มารยาทเข้ามาในห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต แบบนี้จะทนทำงานให้เขาได้สักกี่น้ำ เงินก็เบิกมาล่วงหน้าแล้วตั้งครึ่ง หญิงสาวทอดถอนใจรู้สึกหนักอึ้งในอกขึ้นมา เดินไปเปิดฝักบัวราดล้างฟองครีมออกจากตัวแล้วหยิบผ้าขนหนูมาห่อหุ้มกาย ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปจากห้องน้ำ

“อุ๊ย คุณหลี่ ทำไมคุณยังไม่ออกไปอีก”

ม่านไหมถอยกรูดจะกลับเข้าไปในห้องน้ำอีก เมื่อเห็นร่างสูงนั่งเอ้เต้บนขอบเตียงแต่เขาช่างว่องไวนักกระโดดผลุงทีเดียวก็มาถึงตัวเธอ ร่างน้อยถูกดึงรั้งเข้าหากายแกร่ง แรงปะทะทำให้คนตัวเล็กกว่ารู้สึกจุก ก่อนจะชาวูบไปทั้งร่างเมื่อริมฝีปากอุ่นจัดทาบทับลงมาบนเรียวปากนุ่ม ปลายลิ้นฉกเข้ามาในโพลงปากนุ่มเกี่ยวกระหวัดรัดรึงลิ้นเรียวเล็กของเธอไว้ จุมพิตอุกอาจของเขาทำเอาคนอ่อนประสบการณ์ถึงกับสั่นไปทั้งตัว มือหนาลูบไล้เนื้อตัวเปียกชื้นของเธอ เคล้าคลึงทรวงอกนุ่มราวกับเป็นเจ้าของ ผ้าขนหนูร่วงลงไปกองกับพื้นโดยการกระตุกเพียงเบาๆ ม่านไหมสะดุ้งเฮือกบิดตัวหนี มือน้อยทุบถองหน้าอกกว้างของเขา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยให้เหยื่อสาวแสนหวานหลุดออกไปจากอ้อมแขน เขาลากเธอมาบนเตียงแล้วโถมร่างเข้าคร่อมไว้ ดวงตาคมกล้าลุกวาวน่ากลัวจ้องมองเรือนกายขาวผ่องนวลเนียนใต้ร่างนิ่ง

ม่านไหมหอบหายใจแรง ใจเต้นรัวหวาดหวั่นตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สัมผัสของหลี่ไท่หยางเต็มไปด้วยความดุดัน ไร้ความอ่อนโยน แต่กลับทำให้เธอหวิวไหวอย่างประหลาด เขาปลุกเร้าเธอด้วยสายตาร้อนแรง แค่จ้องเธอนิ่งๆ แบบนี้ ม่านไหมก็แทบละลาย เธอควรโกรธควรกลัวเขาสิ ไม่ใช่มาละลาย เนื้อตัวอ่อนระทวยกับสายตาร้อนราวเปลวเพลิงของเขา หญิงสาวนึกตำหนิตวเอง เมื่อสติกลับคืนมาอีกครั้ง

“ปล่อยฉันนะคุณหลี่ ฉันมาเป็นพยาบาลไม่ใช่มาเป็นอีหนูของคุณนะ” เธอตวาดเขาเสียงขุ่น สองมือยกขึ้นดันอกกว้างให้ออกห่าง

“เป็นพยาบาลด้วย เป็นอีหนูด้วยไม่ได้หรือไง” เขาบอกเสียงหมิ่น กวายสายตามองร่างเปลือยของเธอราวกับประเมินสินค้า “ผ่านมาแล้วกี่คนล่ะ ฉันจะได้ให้ราคาถูก”

“มันจะมากไปแล้วนะคุณหลี่ ฉันขอลาออก ฉันจะกลับบ้าน ไม่ทำงานให้คุณแล้ว” ม่านไหมเหลืออดกับนายจ้างหื่นกามคนนี้ ถึงเขาจะหล่อชนิดนายแบบชิดซ้าย รวยจนล้นฟ้า มีบ้านหลังใหญ่ราวกับวัง แต่นิสัยเลวแบบนี้เธอก็รับไม่ไหว

“เธอเซ็นสัญญาเป็นทาสฉันแล้ว คิดหรือว่าจะยกเลิกได้ง่ายๆ”

“สัญญาจ้างงาน ไม่ใช่สัญญาทาส คุณไม่มีสิทธิ์กักขังหน่วงเหนี่ยว หรือว่าคุกคามทางเพศกับฉัน”

นายจ้างของเธอช่างกล้าโมเมได้อย่างหน้าด้านๆ เธอแค่เซ็นสัญญาว่าจ้างทำงาน มาบอกว่าเธอเป็นทาสเขามันจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันไปแล้ว ขอให้เธอออกไปจากที่นี่ก่อนเถิด จะแจ้งตำรวจจับคนเลวนี่ไปเข้าคุกเสียให้เข็ด

“ไม่สวยแล้วยังโง่อีกนะม่านไหม” ใบหน้าคมยื่นเข้ามาหา ยิ้มหยันคนด้อยกว่าอย่างดูแคลน “สัญญาระบุว่า เธอต้องทำงานให้ฉันยี่สิบปี ทดลองงานหกเดือน หากเธอไม่ทำตามสัญญาเธอต้องชดใช้ค่าเสียหาย ให้ฉันฐานละเมิดสัญญาเป็นเงินหนึ่งร้อยล้านบาท ถ้าหามาจ่ายได้ก็เชิญลาออกตามสบาย”

“บ้าเหรอ คุณอย่ามาหลอกฉันเลย สัญญานั่นบอกว่าฉันต้องทำงานให้คุณหกเดือนเท่านั้นนี่” ม่านไหมแย้งเสียงแข็ง

“หกเดือนแค่ทดลองงาน แต่ทำจริงๆ ยี่สิบปี เธออ่านสัญญาครบทุกหน้าหรือเปล่า” เขาย้ำอีกครั้ง

ม่านไหมอึ้งไปชั่วครู่ นึกทบทวนแล้วใจหายวาบ เธอไม่ได้อ่านข้อความในสัญญาจนหมด ตามที่เขาบอกจริงๆ นั่นแหละ มัวแต่ดีใจที่ได้ค่าจ้างแพงจนรีบเซ็นสัญญา เธอพลาดเองที่ไม่รอบคอบ

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาลวนลามฉัน” ม่านไหมไม่ยอมจนมุมง่ายๆ

“อันนี้เป็นความพอใจของฉัน เพราะฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอ ตราบใดที่เธออยู่ในปกครองของฉัน ฉันสามารถทำอะไรเธอก็ได้ ไม่ว่าจะหอมหรือ จูบเธอแบบนี้”

จมูกโด่งกดลงบนแก้มนวล ตามมาด้วยริมฝีปากกดประทับบนริมฝีปากอิ่มอย่างถือสิทธิ์ หลี่ไท่หยางหัวราะเสียงดังลั่นเมื่อร่างน้อยไม่ยอมขัดขืนอีก “ยอมรับซะม่านไหม ว่าเธอเป็นทาสฉัน”

ม่านไหมไม่ทันได้ขัดขืนเพราะมัวแต่ตกใจ จนทำให้เขาเข้าใจว่าเธอสมยอม เวรกรรมอันใดทำให้เธอตกเป็นเหยื่อของคนเลวอย่างหลี่ไท่หยางคนนี้ หญิงสาวเจ็บใจจนน้ำตาคลอ

“อย่าร้องไห้ให้ฉันเห็น ฉันเกลียดผู้หญิงเจ้าน้ำตาที่สุด” หลี่ไท่หยางบีบคางมนไว้ จ้องหน้าเธอด้วยสายตาน่ากลัว “ต่อให้ร้องจนน้ำตาเป็นสายเลือด ก็ไม่ทำให้ฉันใจอ่อนหรอกนะม่านไหม”

“ฉันไม่มีทางร้องไห้ให้คุณเห็นหรอก ถ้าจะร้องฉันจะเก็บน้ำตาไว้ร้องให้ดีใจ ตอนคุณตายดีกว่า”

ไหนๆ ก็หนีเขาไม่พ้น จะให้ยอมถูกเหยียดหยามโดยไม่ตอบโต้ ไม่ใช่วิสัยของหญิงไทยใจกล้าหาญอย่างม่านไหม หญิงสาวถือคติ ฆ่าได้แต่อย่าหยาม หลี่ไท่หยางเกลียดน้ำตาผู้หญิง เธอก็เกลียดผู้ชายแหยแฝ่น เขาแรงมาเธอก็แรงกลับ ไม่มีทางยอมให้เขาข่มเหงโดยไม่สู้เด็ดขาด

“ใจกล้าดีนี่ ฉันจะรอดูว่าเธอจะแน่ไปได้สักกี่น้ำ” หลี่ไท่หยางก้มลงประกบปากกดจูบหญิงสาวอย่างหนักหน่วง ก่อนจะผละห่างแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างไม่ไยดี ทิ้งให้คนบนเตียงมองตามอย่างโล่งใจ

“โอ๊ย นึกว่าไม่รอดแล้ว”

ม่านไหมถอนหายใจแรง เธอถูกหลี่ไท่หยางลวนลามแค่ภายนอก ยังดีกว่าถูกเขาทำลายพรหมจรรย์ที่หวงแหน หญิงสาวรวบรวมสติของตัวเองคิดหาทางรอด สมองน้อยๆกับสติปัญญาที่มี ประมวลผลก่อนจะบอกให้เธอหนี...

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“อาหลง สั่งในคนเตรียมเรือยอร์ชด้วย พรุ่งนี้ฉันจะพาม่านไหมไปล่องเรือ” หลี่ไท่หยางสั่งการ

คำสั่งของเขาสร้างความแปลกใจให้จางหลงเป็นครั้งที่สอง “คุณหลี่จะพาคุณม่านไหมไปเที่ยวหรือครับ เขาเอ่ยถามเพื่ความแน่ใจ

ริมฝีปากหยักโค้งของเจ้าพ่อมาเฟียกระตุกยิ้มหยัน “นายคิดว่า ฉันใจดีขนาดนั้นเชียวหรืออาหลง” หลี่ไท่หยางจ้องหน้าเลขาของเขา ดวงตายาวเรียวเปล่งกายวาววับด้วยเปลวแค้น

“ผู้หญิงคนนั้นจะได้รับโทษของเธออย่างสาสม ฉันจะทำให้เธอเจ็บปวดเหมือนที่พี่ชายเธอทำกับเจนนี่”

จางหลงอดนึกสงสารม่านไหมไม่ได้ งานนนี้เจ้านายเขาเล่นงานเธอหนักแน่

“เจนนี่เป็นยังไงบ้าง” หลี่ไท่หยางเอ่ยถามถึงน้องสาว

“พี่หลินหลิน บอกว่าคุณหนูเล็กรู้สึกตัวแล้วครับ แต่ไม่ยอมพูดอะไรเธอดูเศร้าจนน่าสงสาร”

จางหลินหลินพี่สาวของจางหลงเป็นภรรยารองของหลี่เจิ้ง บิดาของหลี่ไท่หยาง ตามศักดิ์หลี่อี้เจินเป็นหลานสาวของจางหลง แต่ชายหนุ่มไม่คิดตีตัวเสมอ เขาเรียกเธอว่าคุณหนูเล็กเหมือนลูกจ้างคนอื่นในบ้านหลี่

“ไว้ฉันกลับมาจากล่องเรือ แล้วค่อยย้ายเจนนี่กลับมารักษาตัวที่บ้าน ฉันจะให้ม่านไหมดูแลเจนนี่”

ความแปลกใจลำดับที่สามปรากฏขึ้นมาในหัวของจางหลงอีกครั้ง นอกจากพาไปเที่ยวแล้ว ยังให้ดูแลคุณหนูเล็กอีก จางหลงค้นหาร่องรอยพิรุธของผู้เป็นนาย เขาอยากรู้ว่าหลี่ไท่หยางกำลังคิดอะไรกับม่านไหมหรือเปล่า ทำไมถึงใจดีกับหญิงสาวนัก ผิดวิสัยของมาเฟียจอมโหดหัวหน้าพรรคหงส์ไฟ

“ฉันอยากรู้นักว่าม่านไหมจะทำหน้ายังไง เมื่อเจอคนที่เธอกับพี่ชายร่วมกันทำร้าย"

เหตุผลของหลี่ไท่หยาง ทำให้คนฟังรู้สึกว่านายของตน กำลังทดสอบเหยื่อของเขา หลี่ไท่หยางคงต้องการให้ม่านไหมสำนึกผิด จนยอมรับการลงทัณฑ์อย่างไม่มีบิดพลิ้ว แต่ถ้าเธอไม่สำนึกเธอคงได้รับบทเรียนอย่างสาหัส คนอย่างหลี่ไท่หยางยามโกรธยามแค้นใครสักคน เขาไม่มีวันให้คนๆ นั้นลอยนวล ต่อให้หนีไปไกลสุดขอบโลกก็จะตามลากตัวมาลงโทษให้ได้

ม่านไหมกำลังจะได้การลงทัณฑ์ ที่หญิงสาวต้องจดจำไปตลอดชีวิต...

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

มาอัพแล้วจ้า โหดนิดๆ หื่นหน่อยๆ พอเป็นกษัยนะคะ ยังไม่จัดเต็ม รอตอนต่อไปจ้า

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

รวิญาดา / ผการุ้ง



รวิญาดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ย. 2555, 05:19:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ย. 2555, 05:20:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 4981





<< ตอนที่ 2. พรหมลิขิตบันดาลชักพา   ตอนที่ 4. ความผิดที่ต้องชดใช้ >>
หมูอ้วน 14 ก.ย. 2555, 06:08:22 น.
เอาใจช่วยนางเอกค่ะ


nunoi 14 ก.ย. 2555, 10:08:16 น.
ด้านม่านไหม น่าสงสารจัง ส่วนทางลายเฆม น่ารักซะงั้น


wane 14 ก.ย. 2555, 11:37:15 น.
ม่านไหมสู้ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account