เสน่หาในเพลิงแค้น
ความรักของ 'ธนาดล' ผลิบานท่ามกลางความแค้นที่รอวันสะสาง 'ธนาดล' จะทำเช่นไรหากต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้นที่มีตัวแปรชื่อ 'รัตติกาล' เจ้าของหัวใจที่หักห้ามรักร้อนจากเขาคนนั้น เมื่อปฏิเสธความรักอันหอมหวาน หากผลักไสแล้วใจกลับร้าวราน หัวใจดวงนี้ฤาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
Tags: สโนไวท์

ตอน: บทที่ 10

บทที่ 10

รัตติกาลเดินตามกลิ่นหอมเข้ามาในห้องครัว หญิงสาวเกาะประตูมองพ่อครัวหัวป่าก์ยืนหน้ามันหน้าถังแก๊สปิคนิค เห็นเขาหยิบจับเครื่องปรุงต่างๆ ก็เผลอยิ้มกับความคล่องแคล่ว หยิบจับอะไรก็ดูชำนาญ ไม่เคอะเขิน รัตติกาลชื่นชมความสามารถในการทำอาหารของเขา

ในเมื่อธนาดลสะดุดหลุมรักของเธอโครมโตแล้ว ไม่มีทางเสียหรอกที่หญิงสาวจะปล่อยให้ชายหนุ่มหลุดมือไป รัตติกาลสัญญากับตนเองว่าจะไม่มีวันโยนเชือกลงไปให้เขาไต่ขึ้นมาได้...ไว้เจอกันในหลุม(รัก)นะคะ พ่อแฟมิลี่แมน

ธนาดลยังฮัมเพลงขณะทำสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ลงมือเข้าครัวทำแซนด์วิช กับของกินเล่นอีกสองอย่าง ความสุขที่เขาต้องการกำลังถูกรัตติกาลเข้ามาเติมเต็มแม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิด เขาจะแก้ไขสิ่งที่ผิด และทำให้รัตติกาลมอบความรักตอบให้ได้...ผมจะทำให้คุณจะอยากทานอาหารฝีมือผมทุกมื้อ

ชายหนุ่มชิมรสอีกครั้งแล้วปิดแก๊ส ครั้นหันไปหยิบจานก็พบว่ารัตติกาลมองเขาอยู่ก่อนแล้ว แถมยังยิ้มหวานจนเขาลืมหายใจไปชั่วขณะ

“ทำอะไรทานคะ หอมเชียว” รัตติกาลพยายามชะโงกมอง หากธนาดลใช้ไหล่หนาดันหญิงสาวให้เข้าไปในบ้าน

“อ๊ะๆ ไม่บอก”

รัตติกาลไม่ขัดขืนอะไร ปล่อยให้เขาโอบตัวทางด้านหลังแล้วใช้เรี่ยวแรงที่มากกว่าดันให้มานั่งบนเก้าอี้หวาย “ถ้าให้นิกซ์ทายนะ นิกซ์ว่าผัดขี้เมาแน่ๆ เลย” คนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนสามารถจำแนกกลิ่นอาหารได้เกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะเมนูอาหารตามสั่ง

“เกือบถูกครับ” ธนาดลบอกพลางใช้สันจมูกไล้กับแก้มนวล

“ฮื่อ อย่าเอาเปรียบนิกซ์สิคะ” รัตติกาลเบือนหน้าหนี ธนาดลยอมหยุดแค่นั้น มือหนายังกอดเธอไว้หลวมๆ

“ผมไม่ได้เอาเปรียบนิกซ์สักหน่อย บ้านผมเรียกแสดงความรัก”

“คุณดลแสดงความรักแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนเลยหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามทีเล่นทีจริง

“ไม่หรอก เฉพาะกับนิกซ์คนเดียว” ธนาดลตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาให้คิดนาน “เชื่อผมไหม”

“เชื่อค่ะ นิกซ์เชื่อคุณดล”

“ว้า นิกซ์เชื่อคนง่ายอย่างนี้ ผมชักเป็นห่วงแล้วสิ คงปล่อยให้ไปไหนมาไหนเองไม่ได้” ชายหนุ่มแสร้งตีหน้าขรึม

“คุณดลก็ นิกซ์ไม่ได้บื้อขนาดนั้นสักหน่อย”

“ผมไม่ได้ว่าคุณบื้อ ผมแค่หวงคุณมากไปหน่อย” คนขี้หวงยกมือเรียวขึ้นจูบ “ผมชอบเวลาที่นิกซ์แทนตัวเองว่านิกซ์จัง...มันเหมือนคนกันเอง”

“ไม่ใช่แค่คนกันเองแล้วมั้งคะ ก็เมื่อคืน เรา...” รัตติกาลไม่พูดต่อ ก้มหน้างุดด้วยความอาย ชักมือกลับ

“เรา...อะไรหรอครับ ทำไมไม่พูดต่อล่ะคนเก่ง” ธนาดลได้ทีขี่แพะไล่ ต้อนให้หญิงสาวจนมุมด้วยคำพูดตัวเอง ยิ่งเห็นกิริยาเหนียมอายก็อดใจไม่ไหวหอมแก้มแดงอีกฟอด

“หอม”

“แน่ะ พูดไม่ทันขาดคำ” รัตติกาลเอ็ดคนชอบเอาเปรียบ

“โอ๋ๆ ไม่ทำแล้ว” คนมีคดีติดตัวไม่อยากให้ศาลสั่งประหารชีวิต ชายหนุ่มยังต้องการความหวังเพื่อยื่นอุทรณ์บ้าง ไม่ให้หัวใจต้องปวดร้าว

“ให้จริงเถอะ ถ้าคุณดลฉวยโอกาสกับนิกซ์อีกล่ะก็ นิกซ์จะไม่ให้โอกาสคุณดลอีกเลยตลอดชีวิต” ธนาดลสะดุ้งกับประโยคสุดท้ายของรัตติกาล

เห็นทีคราวนี้เอ็งต้องเก็บไม้เก็บมือให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวปลูกไร่แห้วได้เลย

“โหดจัง” ธนาดลแสร้งตีหน้าเศร้า รัตติกาลเกือบจะใจอ่อนถ้าเขาไม่พูดขึ้นมาว่า “แต่ถ้าผมทำให้นิกซ์สมยอมได้ก็อีกเรื่องใช่ป่ะ”

“คุณดล!! ”

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็บ่ายแก่ๆ แล้ว ธนาดลก็พารัตติกาลไปเล่นนำ้ที่นำ้ตก ทั้งคู่นั่งหย่อนขาในนำ้เย็นให้กระแสนำ้เย็นเพิ่มความสดชื่น มือข้างหนึ่งของธนาดลถือกล่องใส่แซนด์วิช ส่วนอีกข้างหนึ่งหยิบแซนด์วิชป้อนรัตติกาลชิ้นแล้วชิ้นเล่า

ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา บดบังแสงอาทิตย์จ้า เสียงนกร้องจิ๊บๆ คลอกับเสียงนำ้ไหลประกอบกันเป็นเสียงดนตรี รัตติกาลสุขใจกับของขวัญจากธรรมชาติอิงแอบกับธนาดล ศีรษะทุยได้รูปซบไหล่หนาของชายหนุ่มไว้

ธนาดลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พอใจกับผลงานของตนเอง เขาสามารถทลายกำแพงในใจเธอลงได้แล้ว ที่สำคัญเธอยังสร้างประตูไว้ให้เขาเปิดเข้าไปอีก เหลือเพียงหากุญแจดอกสำคัญไว้ไขประตูเท่านั้นเอง

“เหมือนมาฮันนีมูนเลยเนอะ”

“ยังไม่ได้แต่งงานเลยจะฮันนีมูนได้ยังไงคะ” รัตติกาลย่นจมูกว่าเขาพูดไม่เข้าเรื่อง

“อ้าวหรอ แต่เมื่อคืนเราเข้าหอกันแล้วนะ” ธนาดลตีพูดหน้าตาเฉย ทำให้รัตติกาลสำลักแซนด์วิช ไอแค็กๆ นำ้หูนำ้ตาไหล ชายหนุ่มรีบส่งนำ้หวานให้หญิงสาวค่อยๆ จิบ

“แค็กๆ คุณดลบ้า หน้าไม่อาย”

“ไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลย เมื่อคืนเราเข้าหอกันแล้ว” ธนาดลลูบหลังรัตติกาลเบาๆ “ส่วนงานแต่ง กลับไปกรุงเทพฯ ผมจะไปยกขันหมากไปสู่ขอนิกซ์ทันทีเลย”

“ไม่เร็วไปหรือคะ เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ที่สำคัญนิกซ์เพิ่งเรียนจบยังไม่ได้ทำงานเลย” รัตติกาลไม่คิดว่าแผนการของตนจะเลยเถิดถึงขั้นต้องแต่งงานกับชายหนุ่มจริงๆ

“ไม่เร็วหรอกจ้ะที่รัก ใครๆ เขาก็จบปุ๊บแต่งปั๊บกันทั้งนั้น ที่สำคัญผมไม่อยากให้คุณต้องทำงานเหนื่อยด้วย”

ธนาดลคิดว่าวิธีนี้ดีที่สุด ชายหนุ่มไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องไปเป็นแอร์โฮสเตสบินไปบินมา โอกาสจะมีเวลาว่างตรงกันดูเลือนลางเต็มที

“แต่นิกซ์อยากทำงานนี่นา” รัตติกาลบอกเสียงอ่อน “นิกซ์เสียดายความรู้ที่เรียนมาน่ะค่ะ”

“ถ้าคุณเป็นแอร์ฯ เราก็มีเวลาเจอกันน้อยลงน่ะสิ” ธนาดลแปลงร่างเป็นเด็กชายธนาดล ส่งสายตาน่าสงสารให้รัตติกาล

“คุณดลทราบ? ” รัตติกาลแปลกใจเล็กน้อย ก่อนนึกขึ้นได้ว่าชีวิตของเธอช่วงหลังๆ มานี้เหมือนรายการเรียลลิตี้ ถูกจ้องมองโดยชายหนุ่มมาโดยตลอด “อย่างกับสารคดีชีวิตสัตว์โลกแน่ะ”

“โธ่...อย่าใจร้ายกับผมนักเลย เรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปนะ ดีเสียอีก ผมจะได้รู้จักนิกซ์ของผมมากขึ้น”

“ฉอเลาะ”

“กับนิกซ์คนเดียว” ธนาดลยอมรับหน้าชื่นตาบานทำให้รัตติกาลหมั่นไส้ท่าทางหนุ่มร้อนรักของเขาไม่ได้ “แล้วทำไมนิกซ์ถึงอยากเป็นแอร์ฯ ล่ะครับ”

“จบเอกอิ้งนี่คะ”

“อย่าตอบแบบกำปั้นทุบดินสิครับ...ผมอยากรู้จริงๆ นะ”

“นิกซ์ชอบทำงานที่พบปะกับคนหลายแบบ หลายอาชีพ อยากฝึกภาษา แล้วนิกซ์ก็เป็นคนขี้เบื่อ ไม่ชอบอยู่กับที่ค่ะ อยากไปนู่นไปนี่ค่ะ”

ธนาดลเห็นความสุขในแววตาของรัตติกาลยามพูดถึงอาชีพในฝัน แต่ชายหนุ่มไม่ชอบใจนักกับเหตุผลที่รัตติกาลพูดมา...จำไว้ว่าเธอขี้เบื่อ อย่าได้ทำตัวงี่เง่าเชียวนะไอ้ดล

“ถ้านิกซ์ไปทำงาน ผมคงคิดถึงนิกซ์แย่” ธนาดลพูดอย่างน่ารักน่าชัง

“ใช่ว่ากลับไปแล้วจะบินเลยสักหน่อย นิกซ์เพิ่งไปสอบสัมภาษณ์มานะคะ รอให้สายการบินประกาศผลก่อนเถอะค่ะ” รัตติกาลยังยืนยันคำตอบเดิม เธอไม่อยากทิ้งความฝันของตนเอง “แล้วอีกอย่าง นิกซ์ต้องเทรนด์งานกับพี่แอร์ก่อนถึงจะบินจริงๆ ”

“โหย ผมไม่อยากให้แฟนของผมไปบริการคนอื่นนี่ ผมหวง”

“ว๊าย ใครแฟนคุณ คนขี้ตู่...เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย”

“นิกซ์อ่ะ” ธนาดลร้องอย่างขัดใจ

“อะไรคะ อยู่ใกล้แค่นี้เรียกซะดังเชียว” รัตติกาลทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับทีท่าร้อนรนของชายหนุ่ม มือบางหยิบแซนด์วิชชิ้นสุดท้ายใส่ปากอย่างมีความสุข

“ว่ายนำ้กัน” ธนาดลเปลี่ยนเรื่อง แล้วกระโดดลงนำ้ไม่รอให้รัตติกาลตอบตกลง

“เอาสิคะ” ถ้าวันนี้เขาไม่ชวนเธอ เธอก็จะว่ายนำ้เล่นคนเดียวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย วันแรกที่มาถึง รัตติกาลแทบจะอดใจไม่ไหวกับธารนำ้ใส

“ยืนดีๆ ล่ะ หินมันลื่น” ธนาดลบอกอย่างเป็นห่วง ชายหนุ่มคุ้นเคยกับนำ้ตกแห่งนี้เป็นอย่างดีจึงไม่มีอะไรต้องระมัดระวังนัก

“ไม่คิดว่าจะลึกขนาดนี้” คนตัวสูงกว่ามาตรฐานหญิงไทยบ่นเมื่อนำ้สูงเลยหน้าอก

“ตรงนู้นลึกกว่านี้อีก” ธนาดลพยักเพยิดไปทางโขดหิน อีกฝั่งของนำ้ตก “ถ้านิกซ์ไปคงจมมิด”

“นิกซ์ว่ายเป็นค่ะ ไม่ต้องห่วง”

“ผมไม่ได้ห่วงนิกซ์ แต่กลัวปลาแถวนั้นจะตกใจ” ธนาดลหัวเราะพรืด “ว๊าย สำคัญตัวผิด ว๊ายๆๆ ”

“แกล้งนิกซ์อีกแล้วนะคุณดล” รัตติกาลกัดฟันกรอดอย่างโมโห กระโดดคว้าคอธนาดล กดชายหนุ่มลงไปในนำ้ทั้งตัว “นี่แน่ะๆๆ ”

เสียงดนตรีจากธรรมชาติไพเราะยิ่งขึ้นเมื่อเสียงหัวเราะจากคู่รักหญิงชายร่วมประสาน ทั้งคู่ยังคงแหวกว่ายอยู่ในนำ้ไม่สนใจพระอาทิตย์อัสดงราวกับโลกนี้มีแค่พวกเขา


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


รัตติกาลหลับสนิทไปด้วยความอ่อนเพลีย หญิงสาวติดใจว่ายนำ้จนถึงเย็น เมื่อขึ้นบ้านก็ไม่ยอมเช็ดผมตามที่ธนาดลสั่ง นั่งสั่นหงึ่กกินข้าว กว่าจะยอมไปอาบนำ้ก็หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ธนาดลจึงให้กินยาลดไข้ดักไว้ ดีที่หญิงสาวทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอนแล้วล้มตัวนอนทันทีที่ผมแห้ง

ธนาดลมองร่างบางที่นอนเคียงข้างด้วยสายตาเปี่ยมรัก รัตติกาลงึมงำคว้าชายหนุ่มไปกอดแล้วใช้ขาเรียวก่ายกอดอีก ธนาดลไม่อยากฉวยโอกาสหญิงสาวเป็นครั้งที่สองจึงจัดแจงหมอนข้างให้เธอกอดพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อหัวคำ่

ชายหนุ่มออกจากห้องน้ำพลางเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก ธนาดลแปลกใจเมื่อหมอนในตู้ใบเขื่องถูกรัตติกาลลำเลียงมาไว้ที่บนเตียง

‘กั้นอาณาเขต คุณอย่าลำเส้นนะ’ หญิงสาวตอบแต่ยังไม่เงยหน้ามองเขา

‘เล่นอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้’

‘หึ ก็นิกซ์ไม่แก่เหมือนคุณนี่’ รัตติกาลบอกอย่างถือดี

‘ผมไม่ยังแก่สักหน่อย นิกซ์อายุเท่าไหร่แล้วนะ’

‘ถามอะไร น่าเกลียด นิกซ์ยี่สิบสามแล้ว’

ธนาดลอดหัวเราะไม่ได้เมื่อน้ำเสียงที่เหมือนจะไม่พอใจกับคำถามของเขา แต่เธอก็ตอบคำถามเขาอยู่ดี

‘ยังเด็กอยู่นี่’

‘นี่คุณ นิกซ์โตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย’ รัตติกาลบอกอย่างไม่พอใจเมื่อสายตาวาววับของเขามองอย่างถือดี

‘ก็ยังเด็กอยู่ดี นี่ผมก็ยี่สิบเก้าแล้ว แก่กว่านิกซ์ตั้งหกปี’

‘เอาเป็นว่านิกซ์โตพอจะเป็นเมียคุณได้แล้วน่า นี่แล้วไอ้การกระทำที่คุณทำเนี่ยถามจริงเถอะ คิดได้ไงเนี่ย เด็กแถวบ้านนิกซ์เขายังไม่คิดอะไรงี่เง่าเหมือนคุณเลย’

ก็เขาจับเธอมาเนี่ย ไม่คิดเลยหรือไงว่าใครจะเดือดร้อน หรือว่าเขาไม่กลัวกฎหมาย บ้านเมืองก็มีกฎ แต่ตานี่ทำตัวไม่ได้เรื่อง

‘ว่าแต่นิกซ์อยากเป็นเมียผมไหม’

‘ครั้งเดียวก็เกินพอ’ พูดมาได้ไงยะ ว่าอยากเป็นเมียผมไหม เดี๋ยวฉันก็ยัดเยียดความเป็นเมียให้จริงๆ หรอก รัตติกาลพยายามข่มตาหลับ สลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกไป

ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขิน ธนาดลได้เห็นแก้มใสที่แดงระเรื่อ

ขณะเดียวกันนั้นยังมีความรักที่เร่าร้อนของสักรินทร์และภานุมาศ

สักรินทร์ไม่มีทางรู้เลยว่าสาเหตที่ภานุมาศฝืนความง่วงแชทกับน่านนำ้ทั้งคืนนั้น เพราะหญิงสาวต้องการทดแทนความผิดที่เผลอใจให้คนอื่น

ตลอดชีวิตของภานุมาศ หญิงสาวไม่เคยมีความรักมาก่อน จึงไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างไร เธอก็เหมือนหญิงสาวหลายคนที่อยากมีใครสักคน ภานุมาศขอให้เขาเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน เข้าใจ และให้เกียรติเธอ ภานุมาศวางแผนไว้ว่าถ้าเจอกับเขาคนนั้นก็จะศึกษาดูใจกันไปสักห้าปีแล้วค่อยแต่งงานกัน จากนั้นก็ใช้ชีวิตร่วมกันจนแก่เฒ่า จนกระทั่งได้พบกับ ‘น่านนำ้’ ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นที่พี่รหัสและน้องรหัสมากว่าสี่ปีแล้ว มีนัดทานข้าว ติวหนังสือกันบ้างตามประสาพี่น้อง นานวันความใกล้ชิดสนิทสนมที่เพิ่มขึ้นทำให้น่านนำ้ขอสานความสัมพันธ์ ด้วยความสุภาพเสมอต้นเสมอปลายทำให้ภานุมาศไม่อาจปฏิเสธน่านนำ้ได้ ทั้งคู่เพิ่งคบหากันก่อนที่น่านนำ้จะไปอเมริกานี้เอง

แต่อีกคนที่เธอปันใจให้นั้น ตรงกันข้ามกับน่านนำ้ทุกอย่าง เขาฉีกกฎสุภาพบุรุษ ดิบ เถื่อน แถมยังสูบบุหรี่อีกด้วย ภานุมาศคล้ายกับตกอยู่ในภวังค์แห่งรักที่เขาร่ายใส่จนโงหัวไม่ขึ้น

ช่วงบ่ายสักรินทร์เอาหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ มหาสนุก สาวดอกไม้กับนายกล้วยไข่ และหนูหิ่นอินเตอร์ มาให้ภานุมาศหลังจากที่ลูกน้องรายงานว่าหญิงสาวไม่ยอมแตะต้องอาหารที่ยกมาให้ หนังสือการ์ตูนสี่เล่มนี้ทำให้ภานุมาศประสาทเสียเป็นอย่างมาก

“นายรินบ้า เห็นฉันเป็นเด็กหรือไง” ไม่ว่าเปล่า หญิงสาวปาหนังสือการ์ตูนกระเด็นกระดอนไปคนละทาง

อารมณ์อย่างนี้ใครจะอยากอ่าน...บ้าที่สุด

ภานุมาศนั่งหน้าตึงมากว่าสามชั่วโมง ยังไร้วี่แววว่าสักรินทร์จะเสร็จงานแล้วมาจัดการตนอย่างที่ว่าไว้ทำให้ภานุมาศเริ่มเมื่อยหน้าแล้วนำ้ย่อยในกระเพาะเธอส่งเสียงเรียกหาอาหาร คนหน้าบึ้งไม่อยากกินอาหารของศัตรู ไม่อยากอ่านหนังสือการ์ตูนต้องกลืนนำ้ลายตนเองเมื่อมันดีกว่าต้องนั่งอยู่เฉยๆ ในกล่องสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าห้อง เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน บวกกับแอร์เย็นฉำ่ ทำให้ภานุมาศผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ภานุมาศหลับได้ไม่นาน สักรินทร์ก็เข้ามาในห้อง ชายหนุ่มยิ้มบางๆ เอ็นดูความแสนงอนของหญิงสาว หากภานุมาศละเมอเรียกชื่อใครสักคนออกมานั้นทำให้สักรินทร์น้อยใจ

“พี่น้ำ...”

เธอมีมันทั้งยามฝัน ยามตื่น...แล้วฉันล่ะ?

ในฝัน ภานุมาศฝันว่าตนกำลังวิ่งตามน่านนำ้ ท่าทางเขาโกรธหล่อนอย่างมากที่บอกเลิกเขา น่านนำ้หันหลังแล้วเดินหนีไป ไม่ว่าภานุมาศจะเริ่งฝีเท้าวิ่งตามก็ไม่ทัน ระหว่างทางที่วิ่งไปนั้นสักรินทร์ก็ให้ลูกน้องมาจับตัวเธอไป

“กรี๊ดดด” ภานุมาศกรีดร้องสุดเสียง ทำให้สักรินทร์ตกใจ

“พลัม ตื่น” สักรินทร์เขย่าตัวเธอจนตัวโยน ขณะที่หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีสัมผัสดังกล่าวเต็มแรง “ตื่น!! ”

“โอ๊ย” ภานุมาศลืมตาอย่างยากเย็น ความรู้สึกของหญิงสาวตอนนี้เหมือนใครเอาหินผามาวางบนเปลือกตาอย่างไรอย่างนั้น แต่พอเห็นว่าคนที่ปลุกเธอให้ตื่นเป็นใครก็กรีดร้องอีกครั้ง “กรี๊ดดด”

“เลิกบ้าได้แล้ว” สักรินทร์ทั้งน้อยใจและเสียใจที่ภานุมาศเห็นเขาเป็นผีห่าซาตาน ชายหนุ่มใช้แรงที่มากกว่าตรึงหญิงสาวไว้บนเตียงจนอาการเธอค่อยสงบลง

“ปล่อยนะ ฉันเจ็บ” ภานุมาศสะบัดเสียงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ฉันไม่เป็นไรแล้ว...ฉันแค่ฝันร้าย”
สักรินทร์คลายมือแข็งแรงที่บีบแขนเธอไว้ลดลงมากอดเธอไว้

“นี่คุณจะมารัดฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ” เสียงหวานแหวอย่างลืมตัว

“ฉันเป็นห่วงเธอนะ”

“เอ่อ...ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ” พอสักรินทร์พูดดีด้วยภานุมาศก็ใจอ่อน ทว่ายังไม่ไว้ใจเขา จับตาดูว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก หญิงสาวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงมองดูมือหนารินนำ้ให้

“ดื่มเสีย...เมื่อกี้กรี๊ดเสียดัง ฉันเจ็บคอแทน”

“ขอบคุณค่ะ”

“ฝันร้ายเรื่องอะไรบอกได้ไหม” สักรินทร์หยั่งเชิง

“ถ้าบอก คุณจะอาละวาดเหมือนเมื่อเช้าอีกไหม” ภานุมาศถามอย่างไม่แน่ใจว่าจะเล่าดีไหม

“โอเค ผมจะระงับอารมณ์” สักรินทร์รับปากทำให้ภานุมาศค่อยเบาใจ

“ฝันร้าย...”

หากภานุมาศไม่ทันเล่า สักรินทร์ก็ขัดขึ้น ท้ายที่สุดสักรินทร์ก็รับไม่ได้ ชายหนุ่มไม่อยากฟังว่าตนทำอะไรเลวร้ายให้หญิงสาวต้องเจ็บปวด

“ช่างเถอะ มันก็แค่ฝัน” สักรินทร์บอกเสียงนุ่มทำให้ภานุมาศมองเขาอย่างค้นคว้า “แต่ตอนนี้ ผมอยู่ตรงนี้ ในโลกความจริง...มองผมบ้างได้ไหม”

“ฉัน...” ภานุมาศอำ้อึ้ง สำนึกด้านดีบอกว่าเธอไม่ควรทำผิดต่อน่านนำ้ แต่ลึกๆ ในใจแล้วภานุมาศทราบดีว่าชอบคนปากร้ายอย่างสักรินทร์เข้าแล้ว

“ผมแค่ขอให้คุณมองผมบ้าง...ก็แค่นั้นเอง” สักรินทร์พูดอย่างข่มขื่น “แต่ผมรู้แล้ว คุณรักเขามากสินะ”
สักรินทร์มองภานุมาศอย่างเจ็บปวด คนอย่างเขาจะหาคนที่สวยกว่านี้สักกี่ร้อยคนก็ได้ แต่กับภานุมาศ ชีวิตของเขามีสีสันเมื่อเธอก้าวเข้ามาในชีวิต

แววตาตัดพ้อ และผิดหวังของสักรินทร์สร้างความเจ็บแปลบที่ก้อนเนื้ออ่อนๆ ของภานุมาศ ความเจ็บปวดของชายหนุ่มเหมือนคีมเหล็กบีบคั้นหัวใจของเธอ ภานุมาศอาจจะหลอก และบังคับหัวใจตนเองได้ แต่เธอไม่อาจทำร้ายหัวใจของสักรินทร์ได้ แค่คิดว่าเขาเจ็บปวดนำ้ใสอุ่นที่ตาก็หลั่งไหล “ฉันชอบคุณนะ แต่ฉันไม่อยากทำผิดกับเขา”

พูดไปแล้วภานุมาศก็เกลียดตัวเองที่เผลอใจไปกับคนที่เพ่ิงรู้จักกันได้ไม่นาน แม้จะบอกตนเองบ่อยๆ ว่าเขาและเธอไม่คู่ควรกันเลยสักนิด

“พลัม...อย่าร้อง”

ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ภานุมาศกอดเอวสักรินทร์ร้องไห้จนตัวโยน ชายหนุ่มกอดเธอไว้โยกตัวไปมาราวกับภานุมาศเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ

“อีกสามเดือน...เขาจะกลับมา” ภานุมาศบอกสักรินทร์ หญิงสาวไม่เคยมั่นใจอะไรอย่างนี้มาก่อน เธอลุกจากเตียงกอดเขาไว้แน่น “ฉันจะอยู่กับคุณจนกว่าเขาจะกลับมา”

“แต่...”

“อย่าห้ามฉันเลย...ฉันตัดสินใจแล้ว” ภานุมาศใช้มือเรียวปิดปากสักรินทร์ผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ
อาการลังเลของสักรินทร์ทำให้ภานุมาศเขย่งตัวแนบริมฝีปากผะผ่าวของเธอกับริมฝีปากของเขา จูบเขาอย่างเงอะงะ พยายามทำอย่างที่ชายหนุ่มเคยทำ หากเขายังนิ่งเฉยทำให้หญิงสาวหน้าชาไปทั้งแถบ ก่อนที่เธอจะถอดใจเขาก็กอดเธอแน่น แต่ช้าไปสำหรับคนที่เสียความรู้สึกไปแล้ว

“ป...ปล่อยฉันนะ”

สักรินทร์รู้สึกว่าร่างบางเกร็งขึ้นทันที ดวงตากลมของภานุมาศนั้นสะท้อนการถูกความทรยศ ชายหนุ่มไม่สนว่าภานุมาศจะดิ้นรนอย่างไร ตอนนี้เขาไม่มีทางปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนไปได้ สักรินทร์จูบภานุมาศอย่างดูดดื่ม

จุมพิตกระชากวิญญาณผสมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ ทำให้ภานุมาศปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้เผลอไผลไปกับเขา คิดแล้วทั้งรักทั้งเกลียดร่างกายตัวเองที่ยอมให้ร่างสูงแนบชิดร่างเธออยู่ขนาดนี้

สักรินทร์หัวเราะในลำคอ เมื่อริมฝีปากสีชมพูของภานุมาศพยายามเม้มริมฝีปากปัดป้องการรุกรานของเขา แต่มีหรือที่เขาจะยอม

“ปล่อย...ฉัน”ภานุมาศบอกอย่างเหนื่อยหอบเมื่อเขาถอนริมฝีปากจากจุมพิตเนิ่นนาน

“แน่ใจหรือพลัมว่าอยากให้ปล่อยจริงๆ” สองมือเรียวยกขึ้นผลักอกแกร่งของชายหนุ่มไว้ และแล้วแผ่นหลังของเธอก็สัมผัสกับที่นอนหนานุ่มโดยมีร่างสูงใหญ่ตามลงมา ร่างบางเกร็งเล็กน้อยเมื่อมือหนาลูบไล้แถวต้นขาก่อนแล้วเลื่อนไปคลึงผิวใต้ร่มผ้า

“อือ...คุณริน” สองมือของภานุมาศเปลี่ยนไปโอบรัดลำคอบสักรินทร์อย่างลืมตัวเรียกรอยยิ้มจากสักรินทร์ได้เป็นอย่างดีเมื่อรู้ว่าเขามีอิทธิพลเหนือตัวหล่อน


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

วันหยุดยาวนี้ไปพักผ่อนที่ไหนกันบ้างคะ? มีความสุขกับวันหยุดนี้นะคะ นุ่นมีโครงการไปปากช่องค่ะ เดี๋ยวจะรีบกลับมาอัพนิยายตอนใหม่ให้นะคะ อดใจรอนิดนึงนะคะ

บทนี้จะออกแนวชุลมุนวุ่นรักไปหน่อยนะคะ ไม่ชอบยังไงก็คอมเม้นท์ได้ค่ะ :]

@ คุณ angle101 มาเสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ รอหน่อยนะคะ นุ่นจะพยายามมาอัพให้ด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าค่ะ

@ คุณ lovemuay ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็ไม่ทันมารยาหญิงค่ะ ๕๕๕ มาเอาใจช่วยนางเอกกันดีกว่า

@ คุณ pattisa โธ่ๆๆ ก็พระเอกเขาไม่ได้ใจร้ายใจดำเป็นยักษ์เป็นมารนี่คะ แค่อารมณ์ชั่ววูบที่ตอนแรกอยากแก้แค้น เริ่มแผนการไม่ทันไรก็หน้าแตกดังเพล้งเพราะว่านางเอกไม่ได้ทำ แหง่ว ไปเลย







เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ค. 2554, 12:27:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ค. 2554, 12:31:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 2452





<< บทที่ 9   บทที่ 11 >>
lovemuay 14 พ.ค. 2554, 19:13:24 น.
กำลังเข้มข้นเลยค่าา มาค่อเร็วนะคะ ^^


angle101 14 พ.ค. 2554, 21:03:27 น.
จะขาดใจแว้ววววววว


pattisa 15 พ.ค. 2554, 08:05:33 น.
555555 :D รอตอนต่อไปค่ะ ;)


teaw 15 พ.ค. 2554, 18:53:48 น.
หวานกันจริง


ปูสีน้ำเงิน 15 พ.ค. 2554, 23:38:43 น.
จะรออ่านนะคะ


angle101 18 พ.ค. 2554, 11:45:33 น.
^_^ รอนะจ๊ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account