ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า
อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC
ตอน: บทที่สิบสี่ การพบกันที่แสนน่าประทับใจ 50%
บทที่สิบสี่
“โจชัว แอชลีย์ วิคกี้พึ่งเคยมาอียิปต์ครั้งแรกนะเนี่ย”หญิงสาวกล่าวกับผู้ติดตามที่เดินตามหลังมาทั้งสองคน
ร่างสูงโปร่งสมส่วนชี้นู่นนี่เหมือนเด็กเล็กๆที่พึ่งเคยเจอของเล่นใหม่ บอดี้การ์ดทั้งสองต่างโล่งอกที่เห็นคุณหนูอยู่ในสภาวะที่เข้าหน้าผู้คนติด อารมณ์ดีขึ้น
“แบบนี้ให้วิคกี้นอนอยู่ในโรงแรมอย่างเดียวก็ได้นะ วิคกี้ชอบนอน”เธอหันมาพยักหน้าเออออกับผู้ติดตาม
โรงแรมหรูใจกลางเมืองไคโรมันดูดีกว่าที่เธอคิดไว้จริงๆ ต่างจากในตอนแรกที่เธอเห็นฝูงคนจำนวนมากทั้งในและนอกสนามบินก็ทำให้แทบเป็นลมอยู่แล้ว อะไรที่เธอไม่ชอบแต่มันรวมอยู่ที่นี่หมดเลย แออัด เบียดเสียด เสียงดัง และร้อน!
พนักงานโรงแรมต่างวิ่งกรูเข้ามาตอนรับแขกใหม่ เธอนั่งตามคำเชื้อเชิญของเหล่าผู้ต้อนรับ ร่างบางจุมปุกอยู่บนเก้าอี้ไม้อย่างดีพร้อมกับเท้าคางมองภาพรอบตัว
“เสียดายอย่างเดียว”เธอเอ่ย
“อะไรครับ”ชายหนุ่มนามโจชัวเอ่ยถาม
สำหรับเขาแล้วความเสียดายของหญิงสาวตรงหน้ามันต้องเป็นเรื่องท้าทายต่ออันตรายแน่ๆ ดังนั้นจึงควรรู้ไว้ว่าคุณหนูต้องการอะไร จะได้เตรียมป้องกันรับมือถูก
วิคตอเรียเหลือบตามองบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสอง คนแรกคือ ‘โจชัว’ ผู้ชายที่เป็นดั่ง ‘เพื่อน’ ที่เธอวิ่งหยอกล้อด้วยมาตั้งแต่เด็กๆ กับอีกคน ‘แอชลีย์’ บอดี้การ์ดหนุ่มผิวสีร่างบึกบึนสูงร่วมสองเมตรที่เมื่อโจชัวแอบไปรายงานกับเดวิดว่าเธอจะหนีมาที่อียิปต์ เดวิดก็ส่งนายนี่มาให้เธอ
แอชลีย์เคยมาดูแลเธอเวลาที่ต้องไปไหนไกลๆอยู่หลายครั้ง สิ่งที่เธอได้รับรู้เกี่ยวกับบอดี้การดหนุ่มผู้นี้คือ ภายนอกอาจจะดูน่ากลัวแต่จริงๆแล้วแอชลีย์เป็นคนใจดีมากๆคนหนึ่ง หรือใจดีกับเธอคนเดียวก็ไม่รู้
“วิคกี้อยากเล่นน้ำทะเล”เธอตอบคำถามของโจชัวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเบื่อหน่ายเล็กน้อย
“เอ่อ…”
นั่นไง! เขาว่าแล้ว อะไรที่คุณหนูต้องการมักจะไม่ใช่เรื่องปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปแน่!
“วิคกี้จะใส่บิกินนี่สีแดงโต้คลื่น”หญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถมาหัวเราะคิกคักกับตนเอง
แอชลีย์หัวเราะตามผู้เป็นเจ้านายก่อนจะโดนสายตาของเพื่อนร่วมงานอีกคนปรามไว้
“ทำหน้าเครียดไปได้โจชัว คุณหนูแค่อยากเล่นน้ำทะเลกลางทะเลทรายเอง”เขาหัวเราะดังก่อนจะกลับมายืนตัวตรงเช่นเดิม
“เนอะแอชลีย์ โจชัวชอบทำเป็นเข้ม”
วิคตอเรียสั่งให้บอดี้การ์ดทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะกับตนเอง แม้พวกเขาจะมีท่าทีลำบากใจแต่ก็รู้ดีว่าไม่ควรขัดใจเธอ สุดท้ายร่างหนาทั้งสองก็ต้องมานั่งฝั่งตรงข้ามของเธอจนได้
“ดีนะเนี่ยที่เดวิคกลับไปก่อน ไม่งั้นต้องมาห้ามเวลาวิคกี้อยากจะทำอะไรแน่ๆ”เธอบ่นงุบงิบ
บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองต่างพร้อมใจกันให้คำตอบกับตนเอง
ก็ดูสิ่งที่คุณหนูจะทำแต่ละอย่างสิ…ไม่ห้ามจะได้เหรอ!
“เออใช่ วิคกี้จะนอนห้องไหนเนี่ย”เธอกวาดตามองรอบตัวก่อนจะส่งสายตารูปคำถามกลับมายังชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“พ่อบ้านเดวิคจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้วครับ”แอชลีย์ตอบ
“คุณหนูไม่สังเกตเลยเหรอว่าตอนออกจากสนามบินพวกเราเอารถพร้อมคนขับมาจากไหน”
โจชัวดันเมนูอาหารให้หญิงสาว หลังจากเดินทางเหนื่อยๆแบบนี้สิ่งที่จะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นก็คงจะหนี้ไม่พ้น ‘ท้องอิ่ม’
“อันนี้ก็รู้ว่าเป็นคนของเดวิด จะไปแล้วยังอุตส่าห์ทิ้งคนไว้คุมตัววิคกี้เพิ่มอีกสอง”เธอย่นหน้า
“ไม่ใช่คนคุมตัวครับ นั่นคนขับรถ แล้วทำไมคุณหนูถึงรู้ว่าเป็นคนของพ่อบ้านเดวิดละครับ บางทีอาจจะเป็นคนขับแท็กซี่ก็ได้”
“ใครจะบ้ามาใส่สูทดำท่ามกลางแดดจ้า ทะเลทรายร้อนระอุแบบนี้ละค่ะแอชลีย์”เธอทำหน้าตลก
“อย่างน้อยก็พวกผมสองคนครับ”ชายหนุ่มผิวสีตอบพร้อมกับรอยยิ้มเห็นฟันที่ตัดกับสีผิวชัดเจน
“จะถอดสูทแล้วไปใส่ชุดนั้นก็ได้นะค่ะ”เธอชี้ไปไม่ไกลตัวนัก ชายวัยกลางคนที่กำลังยืนสนทนาเสียงดังกับชายอีกคนใส่ชุดพื้นเมืองเป็นผ้าบางๆรุ่มร่ามที่เธอไม่รู้จักชื่อชุดนั้น
บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองสั่นศีรษะพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไม่เอาดีกว่าครับ ผมชอบใส่สูท”ชายหนุ่มผิวสีให้คำตอบ
“แหม…วิคกี้อยากเห็นบอดี้การ์ดเปลี่ยนลุคบ้าง”เธอหัวเราะคิกคัก
“งั้นผมขอตัวไปตรวจดูความเรียบร้อยของที่พักก่อนนะครับ เกิดมีพวกไม่หวังดีซ่อนของแปลกๆไว้ผมจะได้จัดการถูก”โจชัวบอกกับผู้ร่วมโต๊ะ
“ถ้าเห็นพวกหน้าตาท่าทางมีพิรุทธิ โจชัวฉีกอกมันได้เลยนะ ที่เหลือเดี๋ยววิคกี้จัดการเอง”เธอบอกชายหนุ่มด้วยใบหน้าขึงขัง แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มออกมาในที่สุด
“ครับผม รับรองไม่หลุดรอดไปถึงมือคุณหนูวิคตอเรียแน่ๆ”บอดี้การ์ดหนุ่มยิ้มหวานก่อนจะรีบชิ่งออกไปทางรีเซปชั่นสาวสวยที่ยืนยิ้มอยู่หลังเคาท์เตอร์
ถ้าขืนชักช้ากว่านี้สงสัยได้เปลี่ยนเครื่องแบบแน่ๆ!
“โจชัวก็รีบไปนะ ห้องมันไม่หนีไปไหนหรอก”เธอมองตามร่างบอดี้การ์ดหนุ่ม
วิคตอเรียบ่นสัปเพเหระกับชายหนุ่มที่เหลืออีกคน ทั้งเรื่องเมนูอาหารที่ไม่มีหมูเป็นส่วนประกอบ เรื่องที่เธออยากกินอาหารที่ไม่มีอยู่ในเมนู เรื่องข้าวของที่เธอขนมาซึ่งดูท่าอาจจะต้องซื้อเพิ่ม เรื่องสถานที่ช็อปปิ้งที่ไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง จนในที่สุดร่างบางก็หยุดกึกไปดื้อๆเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่าง เป้าหมายที่ทำให้เธอต้องมาตกกระกำลำบากอยู่ที่นี่
“แอชลีย์”เธอขมวดคิ้ว
“เดวิคบอกว่า ‘คู่หมั้น’ ของวิคกี้ก็พักอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
“ครับ พ่อบ้านบอกมาอย่างนั้น อันที่จริงผมว่าคุณหนูน่าจะกังวลเรื่องรอรับโทรศัพท์แล้วตอบคำถามของนายท่านมากกว่านะครับ”ชายหนุ่มตอบติดตลก
“กรี๊ด”เธอวีดร้องในลำคอเบาๆก่อนจะเอามือสองข้างทาบแก้ม ท่าประจำของเธอ…
“ตายล่ะ วิคกี้จะตอบด่าด้าว่าไงดี”เธอหันไปขอความเห็นกับชายหนุ่ม
“ตาเดวิดขี้ฟ้อง”หญิงสาวเบ้ปาก
“คุณหนูก็ตอบไปตามตรงเลยสิครับว่าอยากเจอว่าที่คู่หมั้น นายท่านคงไม่ว่า”เขาให้คำตอบเธอ
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆเป็นการรับรู้ก่อนจะพาวกกลับมาเรื่องเดิม
“ตะกี้วิคกี้จะบอกว่า คนพวกนั้นไม่มีมารยาทเอาซะเลย”เธอชักสีหน้าพร้อมกับปิดเมนูอาหารเสียงดังผลักไปอีกทาง
“พวกไหนครับ”
“พวกว่าที่คู่หมั้นของวิคกี้ไง! รู้ทั้งรู้ว่าวิคกี้จะมาถึงวันนี้ ไม่มีเสนอหน้าออกมาทักทายกันเลย”
แอชลีย์ครุ่นคิดคำตอบดีๆที่จะช่วยให้คุณหนูอารมณ์เย็นลง เพราะหากปล่อยให้เธอร้อนระอุตามสภาพอากาศข้างนอกแล้วมีหวังอาละวาดจนล็อบบี้แตกแน่ๆ
“เอ่อ…บางทีทางนั้นอาจจะติดธุระก็ได้นะครับ”เขาได้คำตอบหลังจากหยุดคิดซักระยะ
หญิงสาวยิ้มเย็นพร้อมกับวางโทรศัพท์เครื่องเล็กในมือลงกับโต๊ะดันไปให้ชายหนุ่ม
“อ่านสิ”เธอจิ้มไปที่หน้าจอ
แอชลีย์ก้มหน้าอ่านตามที่นิ้วเรียวของเธอจิ้มอยู่
“อย่ามัวแต่ทำงานจนทำให้ชีวิตของคุณน่าเบื่อ”เขาทำสีหน้างงงวย
“อันนี้สุภาษิตของฝรั่งเศส แต่พวกนั้นคงไม่มีเวลามานั่งอ่านแล้วเอาไปทำตามหรอกมั้ง”เธอเบ้ปากก่อนจะเลื่อนหน้าจอไปอีกหน้าหนึ่ง
“อันนี้ก็ด้วย อ่านสิ”
“ความเห็นแก่ตัวเป็นรากเหง้าและบ่อเกิดของความชั่วทั้งหลาย”เสียงทุ้มออกเสียงตามตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเล็ก
“เห็นแก่ตัวยังไงครับ คุณหนูยังไม่เคยรู้จักว่าที่คู่หมั้นนี่ครับ”
วิคตอเรียแสยะยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของตนโยนใส่ในกระเป๋าตามเดิม
“ก็เห็นแก่ตัวกับเวลาไง ให้เวลากับตัวเองเต็มร้อยเกินไป จะให้คนอื่นที่มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากันกับตัวเองมารออย่างเดียวรึไง โดยเฉพาะกับวิคกี้ วิคกี้เป็นว่าที่คู่หมั้นนะ อืม…แต่บางทีเขาอาจจะแบ่งเวลาไม่เป็นก็ได้ โง่จริงๆ”เธอบ่นกับบอดี้การ์ดหนุ่ม
“อาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ครับ”เขาเอ่ย
“ไม่รู้ ไม่สนใจ”
หญิงหันหน้าไปยิ้มและโบกมือทักทายให้กับผู้คนที่ดูคล้ายนักท่องเที่ยว พวกเขาหยิบโทรศัพท์หรือกล้องถ่ายรูปขึ้นมารัวชัตเตอร์กับเธอและบอดี้การ์ดหนุ่มผิวสีคนนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนเมื่อเห็นว่าเธอรู้ตัวแล้วถึงกับชะงัก สงสัยอ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาเยอะว่าเธอจะทำยังไงกับพวกที่ละเมิดเวลาส่วนตัว
ไม่เป็นไร…วันนี้เธออารมณ์ดี อยากทำอะไรก็ทำ นี่ถ้าเดินเข้ามาขอถ่ายรูปดีๆนะ เธอจะโพสท่างามๆให้ซักสามท่าเลย
“นี่แอชลีย์!”เธอเขย่าแขนของบอดี้การ์ดหนุ่ม
“อะไรครับ”
“ทำไมเอชลีย์ไม่โทรถามเดวิคละว่าพวกนั้นอยู่ห้องไหน ถ้าเดวิคไม่บอกก็ขู่ไปว่าวิคกี้จะไล่เปิดดูทีละห้องเลย ด่าด้าก็เป็นหุ้นส่วนกับโรงแรมนี้ไม่ใช่เหรอ วิคกี้จะทำอะไรก็ได้”เธอเอ่ยราวกับเป็นเรื่องสนุก
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เหมือนกับที่คุณหนูไม่ชอบให้ใครมายุ่งเวลาส่วนตัว แขกที่นี่ก็ต้องการเวลาส่วนตัวเวลาอยู่ในที่พักเหมือนกัน คุณหนูลองคิดดูนะครับ”เขาเอ่ยเสียงนุ่มราวกับสั่งสอนเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง
“หรือว่าพวกนั้นเอาพวกฮาเร็มผู้หญิงมาไว้ในห้อง โฮ…น่าสะอิดสะเอียน วิคกี้ไม่อยากเห็นแล้ว”เธอส่ายหน้าไปมา
“แอชลีย์ ที่จริงแล้ว…”
“อะไรครับ”
“วิคกี้ไม่อยากหมั้นกับใครทั้งนั้นแหละ แต่ในเมื่อด่าด้าเป็นคนเลือกวิคกี้ก็คิดว่าเขาจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ แต่สิ่งแรกที่วิคกี้ได้รับรู้เกี่ยวกับตัวเขาคือ…ไม่น่าประทับใจ”เธอกล่าว
“ผมรู้คุณหนูชอบผู้ชายโรแมนติก”ชายหนุ่มผิวสีหัวเราะฮ่าออกมา
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ โอ้…แอชลีย์ทำให้วิคกี้นึกถึงประสบการณ์เลวร้ายไม่น่าจำขึ้นมาอีกครั้ง”
เธอทำหน้าเอือมเมื่อนึกถึงชายหนุ่มนายแบบที่เคยมาตามติดเธอเมื่อเดือนที่แล้ว รายนั่นอาจจะเป็นผู้ชายสีชมพูโรแมนติกตามที่เพื่อนในวงการเธอบอกมาก็จริง แต่มันน่าเลี่ยนไปสำหรับเธอ เขาไม่มีความเด็ดขาด ความเป็นผู้นำ หรืออะไรที่สามารถทำให้เธอเชื่อได้ว่าเธอจะพึ่งพาหรือปรึกษาอะไรได้เลย
“วิคกี้ชอบผู้ชายเจ้าเล่ห์หน่อยๆ มันดูตื่นเต้นดีถ้าคิดถึงว่าเขาจะสร้างแผนอะไรมาให้วิคกี้ตกใจ”เธอยิ้มเขินอาย
“บางทีคู่หมั้นของคุณหนูอาจจะเป็นแนวที่คุณหนูชอบก็ได้นะครับ เจ้าเล่ห์วางแผนไม่โผล่หน้ามารับ ให้คุณหนูนึกถึงจนใจสั่น”เสียงทุ้มหัวเราะขึ้นมาอีก
“ใจสั่นจริงๆค่ะแอชลีย์”เธอเอ่ยลากยาว
วิคตอเรียคุยกับบอดี้การ์ดหนุ่มอีกชั่วครู่ก่อนจะจบบทสนทนาอันยาวนานลงเมื่อแอชลีย์ได้กระซิบบอกว่ามีใครบางคนจ้องมาทางเธออยู่นานแล้ว
หญิงสาวเงยหน้ากวาดมองไปรอบตัวจนสุดท้ายก็สะดุดสายตาคมกริบที่ยืน ‘จ้อง’ เธออยู่ก่อนแล้ว
ชายหนุ่มรูปร่างแข็งแรงกำยำยืนมองมาทางเธอด้วยท่าทางนิ่งสงบ เขาโพกศีรษะและแต่งกายตามแบบฉบับของชาวพื้นเมือง ข้างๆมีชายหนุ่มอีกคนที่ส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้เมื่อเธอมองกลับไป ระยะทางที่ห่างกันพอสมควรทำให้เธอเห็นหน้าทั้งคู่ไม่ชัดนัก แต่เห็นฟันขาวที่ยิ้มกว้างให้เธอชัดแจ๋วทีเดียว
เธอลุกขึ้นทันทีโดยมีร่างยักษ์ของบอดี้การ์ดหนุ่มติดตามไม่ห่าง จุดหมายของเธอคือผู้ชายสองคนนั้น!
--------------------------------------------------------
สวัสดีรีดเดอร์ทุกท่านนะคะ (>\\\\\\\\\\\\<)\\
กี้ เเวบมาอัพให้ตอนดึกๆค่ะ สงสัยรีดเดอร์คงจะนอนห่มผ้ากันหมดเเล้ว (TTwTT)\\
ช่วงนี้ใกล้ถึงเทศกาลสอบเเล้วนะคะ
เเต่กี้ก็ยังอ่านอะไรได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ เเถมงานก็เยอะมากกกกกกก
เลยมาไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยนะคะ (TTwTT)\\
รีดเดอร์ที่น่ารักคนไหนถ้ามีสอบก็อย่าลืมอ่านหนังสือบ้างน้าา
ฝนข้อไหนก็ขอให้ถูกทุกข้อเลยค่ะ เกรด A ลอยมาอย่างง่ายดายย 55555\\
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ ระวังอย่าให้โดนฝนนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยน้าา
คืนนี้ฝันหวานนะคะ (>\\\\\\\\\<)\\
จุบบ รีดเดอร์ที่เข้ามาทุกๆท่านเลย (=3=)\\
“โจชัว แอชลีย์ วิคกี้พึ่งเคยมาอียิปต์ครั้งแรกนะเนี่ย”หญิงสาวกล่าวกับผู้ติดตามที่เดินตามหลังมาทั้งสองคน
ร่างสูงโปร่งสมส่วนชี้นู่นนี่เหมือนเด็กเล็กๆที่พึ่งเคยเจอของเล่นใหม่ บอดี้การ์ดทั้งสองต่างโล่งอกที่เห็นคุณหนูอยู่ในสภาวะที่เข้าหน้าผู้คนติด อารมณ์ดีขึ้น
“แบบนี้ให้วิคกี้นอนอยู่ในโรงแรมอย่างเดียวก็ได้นะ วิคกี้ชอบนอน”เธอหันมาพยักหน้าเออออกับผู้ติดตาม
โรงแรมหรูใจกลางเมืองไคโรมันดูดีกว่าที่เธอคิดไว้จริงๆ ต่างจากในตอนแรกที่เธอเห็นฝูงคนจำนวนมากทั้งในและนอกสนามบินก็ทำให้แทบเป็นลมอยู่แล้ว อะไรที่เธอไม่ชอบแต่มันรวมอยู่ที่นี่หมดเลย แออัด เบียดเสียด เสียงดัง และร้อน!
พนักงานโรงแรมต่างวิ่งกรูเข้ามาตอนรับแขกใหม่ เธอนั่งตามคำเชื้อเชิญของเหล่าผู้ต้อนรับ ร่างบางจุมปุกอยู่บนเก้าอี้ไม้อย่างดีพร้อมกับเท้าคางมองภาพรอบตัว
“เสียดายอย่างเดียว”เธอเอ่ย
“อะไรครับ”ชายหนุ่มนามโจชัวเอ่ยถาม
สำหรับเขาแล้วความเสียดายของหญิงสาวตรงหน้ามันต้องเป็นเรื่องท้าทายต่ออันตรายแน่ๆ ดังนั้นจึงควรรู้ไว้ว่าคุณหนูต้องการอะไร จะได้เตรียมป้องกันรับมือถูก
วิคตอเรียเหลือบตามองบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสอง คนแรกคือ ‘โจชัว’ ผู้ชายที่เป็นดั่ง ‘เพื่อน’ ที่เธอวิ่งหยอกล้อด้วยมาตั้งแต่เด็กๆ กับอีกคน ‘แอชลีย์’ บอดี้การ์ดหนุ่มผิวสีร่างบึกบึนสูงร่วมสองเมตรที่เมื่อโจชัวแอบไปรายงานกับเดวิดว่าเธอจะหนีมาที่อียิปต์ เดวิดก็ส่งนายนี่มาให้เธอ
แอชลีย์เคยมาดูแลเธอเวลาที่ต้องไปไหนไกลๆอยู่หลายครั้ง สิ่งที่เธอได้รับรู้เกี่ยวกับบอดี้การดหนุ่มผู้นี้คือ ภายนอกอาจจะดูน่ากลัวแต่จริงๆแล้วแอชลีย์เป็นคนใจดีมากๆคนหนึ่ง หรือใจดีกับเธอคนเดียวก็ไม่รู้
“วิคกี้อยากเล่นน้ำทะเล”เธอตอบคำถามของโจชัวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเบื่อหน่ายเล็กน้อย
“เอ่อ…”
นั่นไง! เขาว่าแล้ว อะไรที่คุณหนูต้องการมักจะไม่ใช่เรื่องปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปแน่!
“วิคกี้จะใส่บิกินนี่สีแดงโต้คลื่น”หญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถมาหัวเราะคิกคักกับตนเอง
แอชลีย์หัวเราะตามผู้เป็นเจ้านายก่อนจะโดนสายตาของเพื่อนร่วมงานอีกคนปรามไว้
“ทำหน้าเครียดไปได้โจชัว คุณหนูแค่อยากเล่นน้ำทะเลกลางทะเลทรายเอง”เขาหัวเราะดังก่อนจะกลับมายืนตัวตรงเช่นเดิม
“เนอะแอชลีย์ โจชัวชอบทำเป็นเข้ม”
วิคตอเรียสั่งให้บอดี้การ์ดทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะกับตนเอง แม้พวกเขาจะมีท่าทีลำบากใจแต่ก็รู้ดีว่าไม่ควรขัดใจเธอ สุดท้ายร่างหนาทั้งสองก็ต้องมานั่งฝั่งตรงข้ามของเธอจนได้
“ดีนะเนี่ยที่เดวิคกลับไปก่อน ไม่งั้นต้องมาห้ามเวลาวิคกี้อยากจะทำอะไรแน่ๆ”เธอบ่นงุบงิบ
บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองต่างพร้อมใจกันให้คำตอบกับตนเอง
ก็ดูสิ่งที่คุณหนูจะทำแต่ละอย่างสิ…ไม่ห้ามจะได้เหรอ!
“เออใช่ วิคกี้จะนอนห้องไหนเนี่ย”เธอกวาดตามองรอบตัวก่อนจะส่งสายตารูปคำถามกลับมายังชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“พ่อบ้านเดวิคจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้วครับ”แอชลีย์ตอบ
“คุณหนูไม่สังเกตเลยเหรอว่าตอนออกจากสนามบินพวกเราเอารถพร้อมคนขับมาจากไหน”
โจชัวดันเมนูอาหารให้หญิงสาว หลังจากเดินทางเหนื่อยๆแบบนี้สิ่งที่จะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นก็คงจะหนี้ไม่พ้น ‘ท้องอิ่ม’
“อันนี้ก็รู้ว่าเป็นคนของเดวิด จะไปแล้วยังอุตส่าห์ทิ้งคนไว้คุมตัววิคกี้เพิ่มอีกสอง”เธอย่นหน้า
“ไม่ใช่คนคุมตัวครับ นั่นคนขับรถ แล้วทำไมคุณหนูถึงรู้ว่าเป็นคนของพ่อบ้านเดวิดละครับ บางทีอาจจะเป็นคนขับแท็กซี่ก็ได้”
“ใครจะบ้ามาใส่สูทดำท่ามกลางแดดจ้า ทะเลทรายร้อนระอุแบบนี้ละค่ะแอชลีย์”เธอทำหน้าตลก
“อย่างน้อยก็พวกผมสองคนครับ”ชายหนุ่มผิวสีตอบพร้อมกับรอยยิ้มเห็นฟันที่ตัดกับสีผิวชัดเจน
“จะถอดสูทแล้วไปใส่ชุดนั้นก็ได้นะค่ะ”เธอชี้ไปไม่ไกลตัวนัก ชายวัยกลางคนที่กำลังยืนสนทนาเสียงดังกับชายอีกคนใส่ชุดพื้นเมืองเป็นผ้าบางๆรุ่มร่ามที่เธอไม่รู้จักชื่อชุดนั้น
บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองสั่นศีรษะพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไม่เอาดีกว่าครับ ผมชอบใส่สูท”ชายหนุ่มผิวสีให้คำตอบ
“แหม…วิคกี้อยากเห็นบอดี้การ์ดเปลี่ยนลุคบ้าง”เธอหัวเราะคิกคัก
“งั้นผมขอตัวไปตรวจดูความเรียบร้อยของที่พักก่อนนะครับ เกิดมีพวกไม่หวังดีซ่อนของแปลกๆไว้ผมจะได้จัดการถูก”โจชัวบอกกับผู้ร่วมโต๊ะ
“ถ้าเห็นพวกหน้าตาท่าทางมีพิรุทธิ โจชัวฉีกอกมันได้เลยนะ ที่เหลือเดี๋ยววิคกี้จัดการเอง”เธอบอกชายหนุ่มด้วยใบหน้าขึงขัง แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มออกมาในที่สุด
“ครับผม รับรองไม่หลุดรอดไปถึงมือคุณหนูวิคตอเรียแน่ๆ”บอดี้การ์ดหนุ่มยิ้มหวานก่อนจะรีบชิ่งออกไปทางรีเซปชั่นสาวสวยที่ยืนยิ้มอยู่หลังเคาท์เตอร์
ถ้าขืนชักช้ากว่านี้สงสัยได้เปลี่ยนเครื่องแบบแน่ๆ!
“โจชัวก็รีบไปนะ ห้องมันไม่หนีไปไหนหรอก”เธอมองตามร่างบอดี้การ์ดหนุ่ม
วิคตอเรียบ่นสัปเพเหระกับชายหนุ่มที่เหลืออีกคน ทั้งเรื่องเมนูอาหารที่ไม่มีหมูเป็นส่วนประกอบ เรื่องที่เธออยากกินอาหารที่ไม่มีอยู่ในเมนู เรื่องข้าวของที่เธอขนมาซึ่งดูท่าอาจจะต้องซื้อเพิ่ม เรื่องสถานที่ช็อปปิ้งที่ไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง จนในที่สุดร่างบางก็หยุดกึกไปดื้อๆเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่าง เป้าหมายที่ทำให้เธอต้องมาตกกระกำลำบากอยู่ที่นี่
“แอชลีย์”เธอขมวดคิ้ว
“เดวิคบอกว่า ‘คู่หมั้น’ ของวิคกี้ก็พักอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
“ครับ พ่อบ้านบอกมาอย่างนั้น อันที่จริงผมว่าคุณหนูน่าจะกังวลเรื่องรอรับโทรศัพท์แล้วตอบคำถามของนายท่านมากกว่านะครับ”ชายหนุ่มตอบติดตลก
“กรี๊ด”เธอวีดร้องในลำคอเบาๆก่อนจะเอามือสองข้างทาบแก้ม ท่าประจำของเธอ…
“ตายล่ะ วิคกี้จะตอบด่าด้าว่าไงดี”เธอหันไปขอความเห็นกับชายหนุ่ม
“ตาเดวิดขี้ฟ้อง”หญิงสาวเบ้ปาก
“คุณหนูก็ตอบไปตามตรงเลยสิครับว่าอยากเจอว่าที่คู่หมั้น นายท่านคงไม่ว่า”เขาให้คำตอบเธอ
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆเป็นการรับรู้ก่อนจะพาวกกลับมาเรื่องเดิม
“ตะกี้วิคกี้จะบอกว่า คนพวกนั้นไม่มีมารยาทเอาซะเลย”เธอชักสีหน้าพร้อมกับปิดเมนูอาหารเสียงดังผลักไปอีกทาง
“พวกไหนครับ”
“พวกว่าที่คู่หมั้นของวิคกี้ไง! รู้ทั้งรู้ว่าวิคกี้จะมาถึงวันนี้ ไม่มีเสนอหน้าออกมาทักทายกันเลย”
แอชลีย์ครุ่นคิดคำตอบดีๆที่จะช่วยให้คุณหนูอารมณ์เย็นลง เพราะหากปล่อยให้เธอร้อนระอุตามสภาพอากาศข้างนอกแล้วมีหวังอาละวาดจนล็อบบี้แตกแน่ๆ
“เอ่อ…บางทีทางนั้นอาจจะติดธุระก็ได้นะครับ”เขาได้คำตอบหลังจากหยุดคิดซักระยะ
หญิงสาวยิ้มเย็นพร้อมกับวางโทรศัพท์เครื่องเล็กในมือลงกับโต๊ะดันไปให้ชายหนุ่ม
“อ่านสิ”เธอจิ้มไปที่หน้าจอ
แอชลีย์ก้มหน้าอ่านตามที่นิ้วเรียวของเธอจิ้มอยู่
“อย่ามัวแต่ทำงานจนทำให้ชีวิตของคุณน่าเบื่อ”เขาทำสีหน้างงงวย
“อันนี้สุภาษิตของฝรั่งเศส แต่พวกนั้นคงไม่มีเวลามานั่งอ่านแล้วเอาไปทำตามหรอกมั้ง”เธอเบ้ปากก่อนจะเลื่อนหน้าจอไปอีกหน้าหนึ่ง
“อันนี้ก็ด้วย อ่านสิ”
“ความเห็นแก่ตัวเป็นรากเหง้าและบ่อเกิดของความชั่วทั้งหลาย”เสียงทุ้มออกเสียงตามตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเล็ก
“เห็นแก่ตัวยังไงครับ คุณหนูยังไม่เคยรู้จักว่าที่คู่หมั้นนี่ครับ”
วิคตอเรียแสยะยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของตนโยนใส่ในกระเป๋าตามเดิม
“ก็เห็นแก่ตัวกับเวลาไง ให้เวลากับตัวเองเต็มร้อยเกินไป จะให้คนอื่นที่มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากันกับตัวเองมารออย่างเดียวรึไง โดยเฉพาะกับวิคกี้ วิคกี้เป็นว่าที่คู่หมั้นนะ อืม…แต่บางทีเขาอาจจะแบ่งเวลาไม่เป็นก็ได้ โง่จริงๆ”เธอบ่นกับบอดี้การ์ดหนุ่ม
“อาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ครับ”เขาเอ่ย
“ไม่รู้ ไม่สนใจ”
หญิงหันหน้าไปยิ้มและโบกมือทักทายให้กับผู้คนที่ดูคล้ายนักท่องเที่ยว พวกเขาหยิบโทรศัพท์หรือกล้องถ่ายรูปขึ้นมารัวชัตเตอร์กับเธอและบอดี้การ์ดหนุ่มผิวสีคนนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนเมื่อเห็นว่าเธอรู้ตัวแล้วถึงกับชะงัก สงสัยอ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาเยอะว่าเธอจะทำยังไงกับพวกที่ละเมิดเวลาส่วนตัว
ไม่เป็นไร…วันนี้เธออารมณ์ดี อยากทำอะไรก็ทำ นี่ถ้าเดินเข้ามาขอถ่ายรูปดีๆนะ เธอจะโพสท่างามๆให้ซักสามท่าเลย
“นี่แอชลีย์!”เธอเขย่าแขนของบอดี้การ์ดหนุ่ม
“อะไรครับ”
“ทำไมเอชลีย์ไม่โทรถามเดวิคละว่าพวกนั้นอยู่ห้องไหน ถ้าเดวิคไม่บอกก็ขู่ไปว่าวิคกี้จะไล่เปิดดูทีละห้องเลย ด่าด้าก็เป็นหุ้นส่วนกับโรงแรมนี้ไม่ใช่เหรอ วิคกี้จะทำอะไรก็ได้”เธอเอ่ยราวกับเป็นเรื่องสนุก
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เหมือนกับที่คุณหนูไม่ชอบให้ใครมายุ่งเวลาส่วนตัว แขกที่นี่ก็ต้องการเวลาส่วนตัวเวลาอยู่ในที่พักเหมือนกัน คุณหนูลองคิดดูนะครับ”เขาเอ่ยเสียงนุ่มราวกับสั่งสอนเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง
“หรือว่าพวกนั้นเอาพวกฮาเร็มผู้หญิงมาไว้ในห้อง โฮ…น่าสะอิดสะเอียน วิคกี้ไม่อยากเห็นแล้ว”เธอส่ายหน้าไปมา
“แอชลีย์ ที่จริงแล้ว…”
“อะไรครับ”
“วิคกี้ไม่อยากหมั้นกับใครทั้งนั้นแหละ แต่ในเมื่อด่าด้าเป็นคนเลือกวิคกี้ก็คิดว่าเขาจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ แต่สิ่งแรกที่วิคกี้ได้รับรู้เกี่ยวกับตัวเขาคือ…ไม่น่าประทับใจ”เธอกล่าว
“ผมรู้คุณหนูชอบผู้ชายโรแมนติก”ชายหนุ่มผิวสีหัวเราะฮ่าออกมา
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ โอ้…แอชลีย์ทำให้วิคกี้นึกถึงประสบการณ์เลวร้ายไม่น่าจำขึ้นมาอีกครั้ง”
เธอทำหน้าเอือมเมื่อนึกถึงชายหนุ่มนายแบบที่เคยมาตามติดเธอเมื่อเดือนที่แล้ว รายนั่นอาจจะเป็นผู้ชายสีชมพูโรแมนติกตามที่เพื่อนในวงการเธอบอกมาก็จริง แต่มันน่าเลี่ยนไปสำหรับเธอ เขาไม่มีความเด็ดขาด ความเป็นผู้นำ หรืออะไรที่สามารถทำให้เธอเชื่อได้ว่าเธอจะพึ่งพาหรือปรึกษาอะไรได้เลย
“วิคกี้ชอบผู้ชายเจ้าเล่ห์หน่อยๆ มันดูตื่นเต้นดีถ้าคิดถึงว่าเขาจะสร้างแผนอะไรมาให้วิคกี้ตกใจ”เธอยิ้มเขินอาย
“บางทีคู่หมั้นของคุณหนูอาจจะเป็นแนวที่คุณหนูชอบก็ได้นะครับ เจ้าเล่ห์วางแผนไม่โผล่หน้ามารับ ให้คุณหนูนึกถึงจนใจสั่น”เสียงทุ้มหัวเราะขึ้นมาอีก
“ใจสั่นจริงๆค่ะแอชลีย์”เธอเอ่ยลากยาว
วิคตอเรียคุยกับบอดี้การ์ดหนุ่มอีกชั่วครู่ก่อนจะจบบทสนทนาอันยาวนานลงเมื่อแอชลีย์ได้กระซิบบอกว่ามีใครบางคนจ้องมาทางเธออยู่นานแล้ว
หญิงสาวเงยหน้ากวาดมองไปรอบตัวจนสุดท้ายก็สะดุดสายตาคมกริบที่ยืน ‘จ้อง’ เธออยู่ก่อนแล้ว
ชายหนุ่มรูปร่างแข็งแรงกำยำยืนมองมาทางเธอด้วยท่าทางนิ่งสงบ เขาโพกศีรษะและแต่งกายตามแบบฉบับของชาวพื้นเมือง ข้างๆมีชายหนุ่มอีกคนที่ส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้เมื่อเธอมองกลับไป ระยะทางที่ห่างกันพอสมควรทำให้เธอเห็นหน้าทั้งคู่ไม่ชัดนัก แต่เห็นฟันขาวที่ยิ้มกว้างให้เธอชัดแจ๋วทีเดียว
เธอลุกขึ้นทันทีโดยมีร่างยักษ์ของบอดี้การ์ดหนุ่มติดตามไม่ห่าง จุดหมายของเธอคือผู้ชายสองคนนั้น!
--------------------------------------------------------
สวัสดีรีดเดอร์ทุกท่านนะคะ (>\\\\\\\\\\\\<)\\
กี้ เเวบมาอัพให้ตอนดึกๆค่ะ สงสัยรีดเดอร์คงจะนอนห่มผ้ากันหมดเเล้ว (TTwTT)\\
ช่วงนี้ใกล้ถึงเทศกาลสอบเเล้วนะคะ
เเต่กี้ก็ยังอ่านอะไรได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ เเถมงานก็เยอะมากกกกกกก
เลยมาไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยนะคะ (TTwTT)\\
รีดเดอร์ที่น่ารักคนไหนถ้ามีสอบก็อย่าลืมอ่านหนังสือบ้างน้าา
ฝนข้อไหนก็ขอให้ถูกทุกข้อเลยค่ะ เกรด A ลอยมาอย่างง่ายดายย 55555\\
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ ระวังอย่าให้โดนฝนนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยน้าา
คืนนี้ฝันหวานนะคะ (>\\\\\\\\\<)\\
จุบบ รีดเดอร์ที่เข้ามาทุกๆท่านเลย (=3=)\\

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2555, 00:13:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2555, 00:13:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 11665
<< บทที่สิบสาม นกสีสวย นายพราน เทวดา 100% | บทที่สิบสี่ การพบกันที่แสนน่าประทับใจ 100% >> |

wii 18 ก.ย. 2555, 10:48:45 น.
ซวยละสิเกิดวิกกี้ติดใจขึ้นมาจะสลัดหลุดเร้อ เเล้วอีหนูที่ทิ้งมาเมื่อรู้ความจริงเเม่มิหนีเตลิดเปิดเปิงพร้มด้วยลูกในท้องเหรอเนี่ย
ซวยละสิเกิดวิกกี้ติดใจขึ้นมาจะสลัดหลุดเร้อ เเล้วอีหนูที่ทิ้งมาเมื่อรู้ความจริงเเม่มิหนีเตลิดเปิดเปิงพร้มด้วยลูกในท้องเหรอเนี่ย